War and Sacrifice : Route to the War

โดย Z Y C / L O N

เรื่องราวของเหล่าทหารผู้รับใช้สงคราม กับบางสิ่งที่พวกเขาจะต้องเสียสละ

อ่านนิยาย

รีวิวจากนักอ่าน

รีวิว

เรียบง่ายแต่มากด้วยรายละเอียด

รีวิวถึงลำดับตอนที่ 35

เยี่ยมมาก
ติดตามมาพอสมควรแต่ไม่เคยวิจารณ์จริงจังซะที ตอนนี้ก็ จัดการโลดค่ะ ^^
(เราวิจารณ์ในฐานะผู้ติดตามดูเท่านั้น ไม่ใช่นักวิจารณ์ แล้วก็เป็นมือใหม่ ผิดพลาดหรือขัดใจก็ขออภัย)

เรื่องย่อ เนื้อเรื่องนำเสนอมุมมองของ หญิงสาวที่ชื่อแอดเลอร์ กับ ชายหนุ่มที่ชื่อ คาร์ล และเหตุการณ์ต่างๆรวมทั้งตัวละคร โดยมีธีมหลักคือ WW2 (จุดนี้ขอกล่าวไม่มาก)

โครงเรื่อง ถือว่าดีพอสมควรในส่วนของโครงเรื่อง วางปมเรื่องได้ดี ค่อยๆคลายปมทีละนิดทำให้ไม่ปวดหัวเวลาอ่าน แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนไรเตอร์จะเปลี่ยนโครงเรื่องนิดหน่อยตอนแต่ง(สังเกตจากอุดมการณ์นางเอก อย่างตอนแรกจะเน้นเรื่องครอบครัว พักหลังๆ จะเน้นเรื่องสงคราม) แต่ถือว่าจัดลำดับได้ดีพอสมควร

ตัวละคร ตัวละครทุกตัวดูมีความซับซ้อนในตัวเอง เหมือนจะมีที่มาที่ไปที่ไม่ค่อยธรรมดากันซักคน แต่ไรเตอร์หมือนเน้นเขียนให้ผู้อ่านคาดเดามากกว่าเพราะตัวเจาะจงที่เน้นคือ แอดเลอร์ ไม่ใช่ตัวอื่นๆ(บางทีอาจแถมคาร์ลมาด้วย) ตัวละครแต่ละตัวดูมีเอกลักษณ์

การใช้ภาษา การใช้ภาษาของไรเตอร์เรียบง่ายแต่สื่อความหมายได้ดี แต่ในบางครั้งความเรียบง่ายนั้นก็ดูเรียบง่ายจนสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน จุดนี้ชื่นชมไรเตอร์เพราะอ่านบทๆแรกๆกับบทหลังๆ ถือว่าพัฒนาระหว่างดำเนินเรื่องไปพอสมควรที่เดียว

แก่นเรื่อง คิดว่าตรงนี้เขียนยากที่สุด มันเหมือนมีหลายอย่างให้เก็บ แตเก็บจนไม่รู้จะเอาอันไหนลง 555 ดูเหมือนว่าเท่าที่เราเข้าใจ ไรเตอร์พยายามสื่อจุดละอียดของสงคราม อย่าง มิตรแท้ หักหลัง อุดมการณ์ ขอชื่นชมว่าความคิดล้ำหน้าคนวัยเดียวกันไปเยอะ(ไรต์อายุ 13-14 ใช่มั้ย?)
แต่เราก็ยังสัมผัสความเป็นเด็กได้ในเนื้อเรื่อง

ภาพรวม
ขอชื่นชมจากใจจริงในฐานะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่ให้ 8/10 เพราะเห็นว่ายังเป็นงานเขียนระดับธรรมดา อ่านแล้วไม่ได้ตรึงใจมากมายระดับมาสเตอร์พีชแต่ก็ยังอยากอ่านต่อ สำนวนภาษาเรียบง่ายไม่เวิ่นเว้อ แต่อย่างที่ว่า บางครั้งก็เรียบง่ายเกินไป การวางเรื่องเหมือนเน้นฉากตัดฉาก บางทีอาจทำให้คนอ่านไม่เข้าใจได้ ต้องรอจบเรื่องทีเดียว ส่วนอื่นๆ ขอพูดเรื่องความรู้สึกในการอ่าน อย่างที่บอกไป บางครั้งเรายังรู้สึกได้ว่า นี่คือความคิดและเข้าใจของวัยรุ่นตอนต้น ย้ำว่าบางครั้งเท่านั้น แต่ถือว่าไรเตอร์ทำได้ดีพอสมควร

ส่งท้าย
เขียนต่อไปนะคะ เราคิดว่าไรเตอร์จะได้อะไรหลายอย่างจากนิยายเรื่องนี้ แม้จะเป็นคนเขียนขึ้นเองก็ตามลองเก็บรายละเอียดส่วนนี้ไปคิด แล้วไรเตอร์จะพบอะไรบางอย่างค่ะ
reviewer author
@Saku Chan
28 ต.ค. 58 / 14:13 น.

0

ไม่มี 'มิตร' หรือ 'ศัตรู' ที่แท้จริงในยามสงคราม

รีวิวถึงลำดับตอนที่ 35

เยี่ยมมาก
ช่วงนี้ว่างจัด เราตามอ่านนิยายม้อดมาหลายตอนละ ไม่ดิ ต้องเรียกว่านานมาแล้วนะ 555 ดังนั้นก็เลยกะจะสับ(?)ซะหน่อย เริ่มนะ

เรื่องย่อ-โครงเรื่อง
War and Sacrifice เป็นนิยายสงคราม-พีเรียด-โรแมนซ์ บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของแต่ละตัวละครที่ต่างเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์อันซับซ้อนนี้ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เรื่องราวส่วนใหญ่ถูกเล่าผ่านมุมมองของครีนัส แอดเลอร์...หญิงสาวผู้ผันตัวเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยนาซี มีแรงจูงใจเดียวคือต้องการสืบสาวหาตัวคนร้ายที่สังหารพ่อของเธอ และคู่หูของเธอ --เบิร์ต คาร์ล พลซุ่มยิงหนุ่มฝีมือระดับพระกาฬแห่งกองทัพนาซีที่ต้องการยุติสงครามครั้งนี้ให้เร็วที่สุดไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ทว่าในสงครามนั้นไม่มีมิตรหรือศัตรูที่แท้จริง...แล้วจะรู้ได้อย่างไร...ว่ามิตรชิดใกล้จะไม่เงื้อมีดขึ้นมาแทงข้างหลังพวกเขาเข้าในวันใดวันหนึ่ง!

ตัวละคร
ตัวละครของผู้เขียนปั้นออกมาได้ดี ติอย่างนึงตรงที่ผู้เขียนไม่ค่อยเพิ่มมิติและแบ็คกราวนด์ของตัวละครอื่นมากนักนอกจากตัวนางเอกกับพระเอก จริงอยู่ว่าตัวที่ไม่สำคัญก็ไม่ต้องเพิ่ม แต่ตัวประกอบที่จะมาเป็นกุญแจในตอนต่อๆ ไป ก็ควรจะลงลึกกับตัวตนของมันให้มากกว่านี้เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในเรื่องกับผู้อ่านนะแจร้ เอาล่ะ เรามาเริ่มกันที่ตัวเอกดีกว่า

ครีนัส แอดเลอร์ -->
เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก เท่าที่อ่านมา นางมีคาแรคเตอร์แบบสาวซึน นิ่งๆ ขรึมๆ ด้วยความที่ตอนยังเด็กไม่มีเพื่อนคบ ก็เลยกลายเป็นคนเย็นชา พูดน้อย ต่อยหนัก(หรือเปล่า? ยังไม่เคยเห็นแอดเลอร์บู๊เลย 555) รักศักดิ์ศรียิ่งชีพ ตรงไปตรงมา หัวแข็ง ยอมหักไม่ยอมงอ และฉลาดพอตัว แต่ผู้เขียนจะฟังคำติหรือคำชมของตัวละครตัวนี้ก่อนดีล่ะ?
ชมก่อนละกันเนอะ 555 ต้องขอบอกว่าตัวละครนี้ค่อนข้างชัดเจนมากและเด่นมาก เป็นตัวดำเนินเรื่องที่ดีตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ผู้เขียนทำให้คนอ่านรู้สึกได้จริงว่าแอดเลอร์เคยมีตัวตนอยู่จริง ทำให้คนอ่าน 'อิน' ไปกับสิ่งที่นางคิดและสิ่งที่นางทำได้ มีความเป็นเหตุเป็นผลของตัวละครอยู่ในระดับน่าพอใจ และเป็นตัวละครที่เราคิดว่าน่าจดจำมากที่สุดตัวหนึ่ง
แต่ข้อเสียก็มี แอดเลอร์เนี่ย ตามที่ผู้เขียนบรรยายไว้คือ ฉลาดระดับอัจฉริยะ แต่ในหลายๆ บริบท ความอัจฉริยะที่ผู้เขียนวางไว้นั้นไม่ได้แสดงออกมาเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร ในหลายๆ สถานการณ์ แอดเลอร์ยังไม่มีความสามารถพอที่จะแก้ต่างให้กับตัวเองหรือแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองคนเดียวได้ คำพูดบางประโยคในบางสถานการณ์ก็ยังดูไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่ ดังนั้นในทัศนคติของเราแล้ว แอดเลอร์นั้น 'ฉลาด' ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น 'อัจฉริยะ' (ยกเว้นว่าอัจฉริยะในห้องเรียน อันนี้ไม่เถียง 555) ที่จริงคาแรคเตอร์แบบนี้ก็โอเคแล้วนะ ถ้าปรับแก้อีกนิดจะดีมากๆ เลย

เบิร์ต คาร์ล --> ยินดีด้วยครัช ตัวละครตัวนี้ไม่มีข้อให้ติสักเท่าไหร่เลย สิ่งที่เขาแสดงออกนั้นตรงกับสิ่งที่ผู้เขียนวางไว้ ตรงกับสิ่งที่ผู้เขียนพยายามจะสื่อให้คนอ่านรับรู้ได้ดีมาก
ชอบในการที่ผู้เขียนทำให้คนอ่านทั้งสงสัย ทั้งหลงรัก ทั้งไม่ไว้ใจอีตาคาร์ลคนนี้ได้ในเวลาเดียวกัน คาร์ลเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากที่สุดตัวหนึ่งในโลกวรรณกรรมเท่าที่เราเคยรู้จัก (แม้ว่าหลังๆ เฮียจะหลุดคาแรกเตอร์ ทำตัวกวนสร้นนางเอกนิดๆ ก็เถอะ) จะว่าอะไรไหมถ้าเราชอบตัวละครคาร์ลมากกว่าตัวดำเนินเรื่องหลักอย่างแอดเลอร์ 555 เอาใจเราไปเลยค่ะเฮียคาร์ล ขอย้อนกลับไปเกิดในช่วงสงครามโลกแปบ รักมากจริงๆ เฮียคนนี้ ผู้เขียนประสบความสำเร็จในการสร้างคาร์ลให้เป็นที่ประทับใจคนอ่านแล้ว ณ จุดๆนี้


การใช้ภาษา
การใช้ภาษา บอกได้เลยว่ามีการพัฒนาการไปมากกว่าตอนแรกๆ มาก สังเกตได้ว่าตอนแรกๆ นั้น ภาษาที่แต่ละตัวละครใช้จะติดวัยรุ่นๆ อยู่นิดๆ ทำให้บรรยากาศของเรื่องยังไม่คลาสสิค ยังไม่เป็นแนวพีเรียดมากเท่าที่ควร อีกทั้งการบรรยายบรรยากาศรอบข้างตัวละครก็ยังดูห้วนสั้นไป เหตุการณ์ต่างๆ ยังเรียงลำดับและปะติดปะแต่ละจิ๊กซอว์ในเรื่องต่อได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่นานๆ ไป เออ...นิยายเรื่องนี้พัฒนาขึ้นมากแฮะ มีการสร้างปมซับซ้อนขึ้น การบรรยายสวยงามและอินขึ้นเยอะ อ่านแล้วลื่นไหล แม้จะอ่านแล้วติดๆขัดๆบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ตัวละครดูมีมิติล้ำลึกขึ้นและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ภาษาที่ใช้เก่าลง มีเหตุมีผลมากขึ้น และดูมีความเป็น 'พีเรียด' ตามธีมของนิยายได้อย่างเป็นธรรมชาติ

พิเศษ: มุมกล้อง แสง สี (?)
ถ้าเปรียบเสมือนมุมกล้อง นิยายเรื่อง War and Sacrifice มีมุมกล้องแบบกล้องแทนสายตาของแต่ละครนั้นๆ ไปเลย สังเกตได้จากการที่ผู้เขียนมักจะโฟกัสอยู่ที่ตัวละครแค่ตัวเดียวในฉากหนึ่งฉาก เช่นฉากโฟกัสที่ความคิดของแอดเลอร์คนเดียวในขณะที่มีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น นั่นมีข้อดีคือเราจะสามารถ 'อิน' ไปกับตัวละครแอดเลอร์ได้ง่ายกว่ามุมกล้องแบบที่ฉายความคิดและท่าทางของคนอื่นในฉากไปด้วยพร้อมๆกัน แต่ข้อเสียคือความเป็นไปต่างๆ อารมณ์ในสถานการณ์นั้นๆ คนอ่านจะรับรู้ได้ค่อนข้างแคบเพราะมองจากสายตาของแอดเลอร์คนเดียว
แสง สี - นิยายเรื่องนี้ให้ฟีลลิ่งเหมือนดูภาพยนตร์สงครามโลกแบบคลาสสิคแต่ฉายในฟิล์มสมัยใหม่ เทคนิคการใช้แสงเงาต่างๆ จะคล้ายๆ กับหนังเรื่อง Inglourious Basterds ของเควนติน ทารันติโน แต่บรรยากาศเรื่องจะดูหรูกว่านิดๆ และยังไม่แสบ เผ็ด กวนทรีนเท่า
Inglourious (เอ่อ ไม่ต้องงงนะ เราเอามาจากภาพในหัวเวลาอ่านนิยายเรื่องนี้อ่ะ =.= ) ให้ความรู้สึกแบบหนังเก่าๆ แต่ใช้ฟิล์มสีสด แตกต่างกันตรงที่มุมกล้องใน War and Sacrifice จะโฟกัสที่ตัวละครตัวเดียว ในขณะที่ในหนังโฟกัสไปที่หลายตัวพร้อมกัน

ปล. ก็ฝากไว้ด้วยนะครัชสำหรับคำวิจารณ์ พิมพ์มาชั่วโมงนึงละ ขอให้ไรต์เตอร์เจริญๆ เขียนนิยายไปอย่าหยุดนะะะ ด้วยรักจาก Crimson Rose บายแจร้