[SF Forbidden Dragon ♡M Preg♡] Paring:Krislay - [SF Forbidden Dragon ♡M Preg♡] Paring:Krislay นิยาย [SF Forbidden Dragon ♡M Preg♡] Paring:Krislay : Dek-D.com - Writer

    [SF Forbidden Dragon ♡M Preg♡] Paring:Krislay

    โดย krism

    เลย์จะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่าคนรักเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของเผ่าพันธุ์ตัวเอง!

    ผู้เข้าชมรวม

    1,374

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    1.37K

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    21
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 เม.ย. 56 / 18:58 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้







    ฝ่ายนึงจ้องจะทำร้าย แต่อีกฝ่ายกลับให้ด้วยหัวใจบริสุทธิ์
    ที่มาของโศกนาฏกรรมความรักที่ไม่มีใครอยากให้เกิด...

    ใน
    Forbidden Dragon



    เรื่องนี้เรายืมยูสเซอร์ของคุณเจ้าของตัวจริงมาใช้จ้า 5555555555555555
    ถ้าจะติชมให้ถึงตัวเชิญที่ Twitter:Guitar_BBty นะคะ


    เป็นชอทฟิคค่ะอ่านง่ายๆไม่มีอะไรมาก Enjoy Reading นะคะ <3

    ปล.ติชมบ่นด่าจิกหัวแบบถึงตัวเชิญทวิตเตอร์เลยค่ะ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


       

      [SF Forbidden Dragon Mpreg ] Pairing : Fanxing Part I


       



                "
      ท่านลอร์ดขอรับ!" เสียงหอบเหนื่อยของผู้ใต้บังคับบัญชาดังขึ้น พร้อมกับร่างที่วิ่งกระเสือกกระสนเข้ามา

                "มีอะไรหรือ แพรททิค" ในวันที่แสนสงบไร้ซึ่งศึกสงครามแบบนี้ก็ไม่น่ามีอะไรให้ตื่นตกใจถึงขนาดต้องใช้ม้าเร็วจากต่างหัวเมืองเข้ามาถึงฐานทัพหลวงเช่นนี้

                "ม..มังกร ขอรับ พวกมันปรากฎตัวอยู่ที่ชายป่านอทติ้งแฮมทางตะออก"

                "ให้ตายสิ! เจ้าอสูรกายพวกนั้นไม่ได้สาปสูญไปตั้งแต่ครั้งพ่อข้าออกกวาดล้างแล้วหรอกหรือ!!"

                "แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เพียงแต่ชาวบ้านบริเวณนั้นต่างตื่นกลัวอพยพหลบหนีกันอลหม่าน"

                "ดี...ครั้งนี้พวกสัตว์ชั้นต่ำพวกนี้ต้องสูญพันธไปจากโลก ข้ารับรองด้วยเกียรติของทหารจัดทัพ! วันพรุ่งนี้พวกเราจะออกเดินทางไปล่าเลือดหัวของพวกมันกัน!"

                "ขอรับท่าน!" พลทหารหนุ่มคำนับให้ผู้นำของตน แล้วรีบวิ่งออกไปเพื่อกระจายข่าวทันที

       
      .

       .

       .
       

                 แม่ทัพวัยกลางคนถอดหมวกและสูทตัวนอกออกเมื่อเดินเข้ามาใต้ชายคาบ้านทรงยุโรปยังไม่ทันจะได้ถอดรองเท้า ลูกชายตัวดีก็วิ่งร้องห่มร้องไห้ตัวเข้ามากอดเค้าแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

                "ท่านพ่อ ท่านต้องไปรบกับมังกรจริงหรือ?"

                "ใช่...ปู่ของลูกเคยเล่าให้ฟังว่าพวกมันนิสัยดุร้าย...สกปรก น่ารังเกียจ ปล่อยไว้มีแต่จะทำให้มนุษย์ขวัญเสีย พ่อคงปล่อยพวกสัตว์ชั้นเลวแบบนี้ไว้ไม่ได้"  ยิ่งได้ฟังตำนานของสัตว์ร้าย เด็กหนุ่มก็ยิ่งร้องไห้และกอดผู้เป็นพ่อแน่นขึ้นไปอีก

                "ฮ..ฮึก แล้วท่านพ่อจะเป็นอัตรายมั้ย" ผู้เป็นพ่อดันตัวลูกชายออก เพื่อจะได้สบดวงตาคู่สวยที่เค้านึกแสนเอ็นดูนั่น จ้องลึกเข้าไปเหมือนพูดให้มั่นใจ

                "ไม่หรอก พ่อเป็นแม่ทัพของบ้านเมืองนี้เชียวนะ! เจ้าไม่ต้องกลัวไปนะเลย์"
       

                  เช้ามืดของวันรุ่งขึ้นท่านแม่ทัพรีบตื่นขึ้นมาเตรียมตัว แต่พอก้าวลงบันไดมาจากชั้นบนของบ้านก็พบว่าลูกชายของตนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ข้างตัวรายล้อมไปด้วยบรรดาชุดเกราะเหล็กกล้าของเก่าแก่ที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นของผู้อาวุโสกว่า อย่างน้อยนั่นก็ทำให้ผู้เป็นพ่อโล่งใจว่าลูกชายจะไม่มาตอแยขอตามไปรบกับเค้าด้วย

                "ข้าจะช่วยท่านพ่อใส่เกราะนะ" มือหยาบที่เป็นผลมาจากการตรากตรำรับใช้ชาติมานับสิบปียกขึ้นลูบผมนุ่มของลูกชาย แล้วพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตกลง...

       
      .

       .

       .
       

                  มือเล็กตบลงกับเกราะหนาเมื่อสิ่งที่ทำเสร็จเรียบร้อย

                "ขอบใจเจ้ามากนะเลย์ พ่อต้องไปแล้ว อยู่คนเดียวดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วพ่อจะรีบกลับมา พร้อมกับชัยชนะเหนือเจ้าอสูรพวกนั้น" ท่านแม่ทัพใหญ่ยกมือขึ้นตบบ่าแคบของลูกชาย แล้วเดินไปขึ้นรถลากที่พลขับมาจอดรออยู่ซักพักแล้ว โดยไม่รู้เลยว่ามีเท้าเล็กของใครบางคนวิ่งตามไปด้วย!

       
       .

       .

       .
       

                ทัพหลวงขนาดใหญ่ยาตราผ่านทั้งลำห้วยหรือแม้กระทั่งภูเขาใจจริงเลย์อยากจะชะโงกหน้าออกไปตะโกนบอกคนบังคับเกวียนจริงๆว่าให้ขับให้นุ่มนวลกว่านี้ซักนิด คนที่แอบแฝงตัวเข้ามาในตู้เสบียงอย่างเค้าระบมก้นไปหมด  แต่อย่างว่าแล่ะขืนแสดงตัวออกไปท่านพ่อคงสั่งให้ม้าเร็วพาเค้าไปส่งถึงหน้าบ้านมิหนำซ้ำจบศึกแล้วเค้าอาจโดนกักบริเวณไปอีกเป็นปี !!


                มือขาวล้วงผ่านกระเป๋าเสื้อแล้วหยิบแผนที่ขึ้นมาดู อาศัยแสงที่ลอดผ่านช่องว่างระหว่างไม้กระดานเป็นที่ให้ความสว่างในการอ่าน ถ้าเลย์คะเนไม่ผิดอีกเพียงแค่หนึ่งชั่วยามพวกเค้าก็จะถึงชายป่านอทติ้งแฮมกันแล้ว คิดได้ดังนั้นเปลือกตาบางก็ปิดลง นอนเอาแรงเพื่อเตรียมต้อนรับกับเหตุการณ์พรุ่งนี้คงจะดีกว่า
       

       .

       .

       .

                   เลย์ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเพลงปลุกใจ
       เค้ารีบวิ่งลงมาแอบที่หลังเกวียนและพบว่าทหารเริ่มจัดแถวกันแล้ว บนท้องฟ้าเองก็เริ่มมีแสงสีทองทอพาดผ่านขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

                 "จัดการพวกมันให้สิ้นซาก!!!" เลย์จำได้ดีว่านี่คือเสียงของผู้เป็นพ่อ เสียงแหบห้าวจะโกนขึ้นมาประกาศเริ่มศึก ตามมาติดๆด้วยเสียงโฮลั่นของทหารที่พากันวิ่งกรูเข้าไปในป่า เลย์รีบเดินให้ทันทหารแถวสุดท้าย ร่างเล็กเว้นระยะห่างให้พอไม่มีคนสงสัย แต่ก็ไม่ห่างเกินไปจนพลัดหลง


       .

       .

       .
       

                 ไม่มีวี่แววว่าฝูงมังกรจะออกมาทำร้ายทหาร  ชายชาตรีทุกคนเพียงแค่ถืออาวุธและโล่ยืนระวังหน้าหลังเท่านั้น เวลาผ่านไปนับชั่วโมง จนในที่สุด ร่างมหึมาที่ปกคลุมไปด้วยสีนิลดำขลับก็ปรากฎตัวขึ้น เลย์อาศัยจังหวะที่ทหารทุกนายนิ่งอึ้งวิ่งเข้าไปประชิดตัวเจ้ามังกร เพียงอึดใจเดียวหลังจากที่ทหารนึกขึ้นได้ ศัตราวุธเรือนหมื่นเรือนแสนก็พุ่งเข้าหมายเอาชีวิตสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ทันที มันไม่โต้ตอบแต่เพียงแค่กระพือปีกไปมาเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ด้วยปีกขนาดใหญ่มวลลมที่มันสร้างขึ้นมานั้นก็ทรงพลังไม่น้อยศรธนูบางดอกถึงกับปลิวกลับไปปักคอทหารเอง เมื่อเห็นเพื่อนที่เคยร่วมรบด้วยกันมาตายความแค้นในสมรภูมินี้ก็ทวีความรุนแรงขึ้น เหล่าทหารพร้อมใจกันโรมรันไม่มียั้ง จนในที่สุดมังกรตัวนั้นตัดสินใจวิ่งไปที่หน้าผา เลย์วิ่งตามไปด้วย ปีกของมันกางออกเพื่อจะบินพาร่างของตัวเองหนีไป เลย์ก็ไม่รู้ว่าควรทำอะไร ใจนึงก็อยากจะตามไปสังหารเจ้าตัวประหลาดนี้ให้สมใจท่านพ่อ อีกใจนึงก็กลัว แต่จนแล้วจนรอดเลย์ก็ตัดสินใจกระโดดเกาะปีกของมันไป เลย์แอบคิด (เอาเอง) ว่านี่อาจจะเป็นเพราะเลือดนักรบในตัวเองก็ได้ ทหารมากมายที่วิ่งตามมาหมายจะฆ่า เห็นเลย์กำลังเกาะอยู่ที่ปีกของมังกรเข้าก็ไม่กล้าขว้างอาวุธไปเกรงว่าจะไปโดนร่างกายของลูกชายผู้เป็นนายเข้า
       

       .

       .

       .
       

                "ว่าไงนะ!? เจ้าสัตว์นั่นเอาตัวลูกข้าไป!?ส่งคนออกตามหาให้ทั่ว! ไม่ว่าจะยังไง ถ้ายังไม่เจอตัวเลย์ภารกิจนี้จะยังไม่ยกเลิกเด็ดขาด!" ทันทีที่ลูกน้องรับคำสั่งของเค้าออกไป แม่ทัพร่างใหญ่ก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง มือหนาบีบเข้าหากันเพื่อระบายความแค้น เจ้าสัตว์ร้ายเหล่านี้สมควรตายอย่างทรมานที่สุด!

       
       .

       .

       .
       

                มังกรตัวใหญ่ส่งเสียงครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ตามตัวของมันมีแต่รอยแผลจากการถูกโจมตี อีกทั้งที่ปีกก็ยังมีศรธนูปักอยู่อีกด้วย มันเริ่มบินต่ำลงๆๆจนในที่สุดก็ตกลงไปในแม่น้ำ เลย์เกาะปีกของมันแน่นแต่ด้วยสายน้ำเชี่ยวกราก ร่างของเค้าก็ลอยไปกระแทกกับโขดหิน จนหมดสติ เลย์ค่อยๆจมลงสู่ใต้น้ำเรื่อยๆๆ



      แต่แล้ว...



                "แค่กๆๆ" คนตัวขาวสำลักน้ำที่กลืนเข้าไปออกมาทั้งหมด

                "เฮือกกกก" ลุกขึ้นมาโกยอากาศเข้าปอดไปหลายลิตร แต่เดี๋ยวนะ! ภาพสุดท้ายที่เลย์จำได้คือ เค้าเกาะปีกเจ้ามังกรแล้วก็ตกลงไปในน้ำ...ก็ดีใจนะที่ยังรอด แต่อย่าบอกนะว่า เลย์หันหน้าไปตามสมมุติฐานที่ตัวเองตั้ง ขอร้องล่ะอย่าให้เป็นแบบที่คิดเลย!!

                'โป๊ะเชะ' คือคำเดียวที่เลย์นึกออก เจ้าตัวประหลาดสีดำขลับกำลังใช้ตาคมๆของมันจ้องมาที่เค้า เลย์ถอยกรูด แต่เจ้ายักษ์ตัวนี้ก็เดินตามมา จนในที่สุดแผ่นหลังบางก็สัมผัสเข้ากับแผ่นหินแข็ง ทำไงดีเนี่ยสุดผนังถ้ำแล้ว!!

                "ข้าของร้องล่ะอย่าทำอะไรข้าเลยนะ" ตาคู่สวยหลับปี๋ เลย์เบี่ยงหน้าหนีจนแก้มแนบไปกับผนังแล้วกลั้นใจ เปลือกตาค่อยๆคลายเมื่อเสียงฝีเท้าใหญ่หยุดลง เลย์ค่อนข้างคลายความตกใจได้บ้างแล้ว แต่กลับต้องมากใจยิ่งกว่าเดิม เพราะเจ้ามังกรเมื่อตะกี้กลายเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีคนนึงน่ะสิ!!

                "ข้าล่ะเบื่อพวกมนุษย์ขี้ตื่น ยังไม่ได้พูดซักหน่อยว่าจะทำอะไร" พ่อหนุ่มคนนั้นนั่งลงข้างๆเค้า

                "เลิกทำหน้าตาเหมือนเห็นผีได้แล้วข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก"

                "ต..ตะแต่เมื่อกี้เจ้าเป็นมังกร!"

                "แล้วไง?"

                "เจ้าช่วยข้าขึ้นมาหรอ?" เสียงของเลย์อ่อนลง นี่เป็นสิ่งผิดคาดจริงๆนะ ไม่อยากจะเชื่อเลย

                "อือ ทำไม? ตกใจล่ะสิ เจ้าคงเคยได้ยินแต่เรื่องความน่าเกลียดน่ากลัวของพวกข้าสินะ" ชายหนุ่มพูดเหมือนกับว่าเรื่องที่มนุษย์ดูถูกเผ่าพันธ์ของตนเป็นเรื่องธรรมดา เลย์เม้มปากเป็นเส้นตรง ก้มหน้าคางชิดอกไม่รู้จะพูดยังไง ความรู้สึกตอนนี้เรียกว่าอะไรนะ.. รู้สึกผิดใช่มั้ย?

               "เอาเถอะ ข้าไม่โกรธหรอก ข้าชินแล้วแล่ะเจ้าหนาวมั้ย ตัวยังไม่แห้งเลย" เลย์พยักหน้าน้อยๆ พร้อมตัวที่สั่นระริก เหมือนมีก้อนมาจุกที่คอ เค้าสับสนไปหมดจนไม่มีแรงออกเสียง

                "คืนนี้น้ำค้างแรงมากเลย ข้าคงไปหาฟืนมาก่อไฟให้ไม่ได้ เอางี้นะเดี๋ยวข้าจะแปลงเป็นมังกร เจ้ามานอนในวงปีกข้าเอาแล้วกัน น่าจะคลายหนาวได้บ้าง"พอได้ยินคำว่ามังกรเลย์ก็ตาโต จนคริสอดนึกขำไม่ได้

                "ไม่ต้องกลัวข้าจะไม่ทำอะไรเจ้าข้าสัญญา" ชายหนุ่มยิ้มให้บางๆ เลย์พยักหน้าช้าๆ ก่อนที่ผู้ชายตรงหน้าเค้าจะกลายร่างเป็นเจ้าสัตว์ในตำนานตัวใหญ่ เลย์ค่อยๆคลานเข้าไปในวงปีกของมัน ทั้งๆที่เค้าควรจะกลัว แต่เหมือนมีเสียงอะไรมาพูดข้างๆหูเค้าว่าที่นี่ปลอดภัย เลย์ไม่มีแรงจะสงสัยอะไรอีกแล้ว พิษความง่วงอันร้ายกาจเล่นงานเค้าจนได้ คนตัวเล็กหลุดเข้าไปอยู่ในห้วงนิทราอีกครั้ง
       

       .

       .

       .
       

                "งื้อออออ" เสียงครางแสดงความไม่พอใจดังขึ้นเมื่อโดนสะกิด นี่เค้ากำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆหลังโปรดนะ!...หือ? เมื่อกี้เค้าพูดว่าเตียงหรอ?

                "เห้ย!" เลย์เด้งตัวขึ้นมาเมื่อคืนนอนหลับสบายจนลืมไปเลยว่าไอ้ที่นอนอยู่เนี่ยในวงปีกของมังกร!!"ขอโทษที่ปลุกนะ แต่ว่านี่เช้าแล้ว อาหารก็พร้อมแล้วด้วย ตื่นขึ้นมาทานก่อนเถอะ" ได้ยินมังกรพูดถึงอาหารก็อดระแวงไม่ได้ ไม่ใช่ว่าจะให้เค้ามานั่งแทะเนื้อมนุษย์ด้วยกันหรอกนะ!

                "เช้านี้มีซุปปลานะ แม่น้ำสายนี้ปลาเยอะมากเลย" คนที่ลงมือเข้าครัวพูดพลางยิ้มกว้าง เลย์ถึงกับอึ้งเคเานึกว่ามังกรจะยิ้มไม่เป็นเสียอีก

                "น..นี่ มังกรเค้ากินข้าวแบบธรรมดาๆได้หรอ?" เลย์ถามไปตามที่คิด ชายหนุ่มตรงหน้าวางถ้วยลง แล้วพยักหน้า

                "ในตำนานของพวกนายคิกว่าฉันกินคนสินะ ป่าวหรอกฉันก็กิรอะไรแบบมยุษย์นี่แล่ะ" ให้ตายเถอะ!! ทำไมคนตรงหน้าเค้าถึงพูดเหมือนรู้ความคิดมนุษย์ทุกอย่างทั้งที่ยังยิ้มแฉ่งแบบนี้นะ!? เค้าไม่รู้จะทำหน้ายังไงแล้วจริงๆ เกิดมาไม่เคยรู้สึกผิดขนาดนี้มาก่อน ศัตรูอันดับหนึ่งของพ่อเค้าพึ่งจะทำข้าวเช้าให้เค้ากินเนี่ยนะ

                   "ข้า..ขอโทษนะ..
      ?" ใช้ชีวิตมาร่วมยี่สิบปีไม่เคยคิดว่าจะได้คุยกับมังกรเลยบอกตรงๆ!

                "คริส ข้าชื่อคริส อีกอย่างเจ้าไม่ต้องขอโทษเลย ข้ารู้ว่ามนุษย์แค่กำลังเข้าใจข้าผิดฉะนั้นข้าไม่โกรธหรอก" บอกว่าอย่ายิ้มไง!! เข้าใจมั้ย!! ข้ายังไม่อยากให้พ่อมีลูกเขยเป็นมังกรหรอกนะ!!

                "เจ้าต่างจากที่ตำนานบอกไว้มากจริงๆ"

                "ตำนานที่บอกว่าพวกเจ้าน่ารังเกียจน่ะหรือ? บรรพบุรุษพวกเจ้าสอนว่าให้ทำลายพวกข้า แต่เจ้ารู้มั้ยว่าบรรพบุรุษของพวกข้าบอกว่าอย่าทำร้ายพวกเจ้า...อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคำพูดของข้าทำให้เจ้าคิดมากหรอ..อ่าข้าขอโทษ"

                "ม..ไม่หรอก เจ้าเล่าเรื่องของพวกเจ้าให้ข้าฟังหน่อยจะได้มั้ย?"

                "อื้อได้สิ...พวกข้าน่ะอยู่บนโลกมาก่อนพวกเจ้าจะเกิดซะอีก พอพวกเจ้าเกิดขึ้นมังกรอย่างพวกข้าก็เฝ้ามองเจ้าอยู่ห่างๆ คอยช่วยเหลือไม่ให้เจ้ารู้ตัวเรียกง่ายๆว่ามังกรน่ะเห็นมนุษย์เป็นเหมือนพี่น้อง แต่มันคงผิดที่พวกข้าน่ะหน้าตาน่ากลัว" ไม่ครับน้องเลย์ขอเถียง น่ากลัวจนอยากกระโจนใส่สิครับไม่ว่า

                "ตำนานของพวกเจ้าน่ะเติมสีตีไข่พวกข้าไว้มากนะ บอกว่าข้าชอบทำร้ายคนมั่งแล่ะ กินคนมั่งแล่ะ ข้าไม่รู้จะอธิบายยังไงนะ เจ้าลองคิดตามเอาแล้วกัน" คริสหันมายิ้มให้เนือยๆ เลย์นิ่งไป...นั่นสิ เค้าเคยได้ยินแต่ข่าวว่ามีมังกรปรากฎตัวขึ้นมา ยังไม่ทันจะได้ยินข่าวเรื่องมีคนได้รับบาดเจ็บท่านพ่อเค้าก็ต้องนำทัพไปจัดการซะแล้ว
       

       มีแค่มนุษย์...ที่เห็นมังกรเป็นศัตรู
       

                "ที่ข้าปรากฎตัวก็เพื่อจะไปผูกมิตรกับชาวบ้าน แต่ยังไม่ได้พูดอะไรพวกเค้าก็วิ่งหนีกันไปหมด" นับเป็นครั้งแรกที่เลย์สัมผัสได้ถึงแววน้อยใจที่เจือมากับน้ำเสียงของคริส


                'หมับ'
       

                เลย์จับเข้าไปที่มือหนาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆพูดประโยคที่ทำให้ทั้งคนฟังและคนพูดเองต้องยิ้มจนตาแทบปิด

                "ข้าจะเป็นมนุษย์คนแรกที่เป็นเพื่อนกับมังกรเอง"

       
       .

       .

       .
       

                เลย์ใช้ชีวิตอยู่กับคริสในทุกๆวัน ตื่นมาคนที่นอนอยู่ข้างๆก็คือคริส คนที่ทำอาหารเช้าให้ก็คือคริส คนที่พาเค้าไปเที่ยวเล่นก็คือคริส

               คนที่เค้ากอดเวลาตกใจเสียงฟ้าร้องก็คือคริส

               และคนที่เค้านอนจับมือจนหลับไปก็คือคริส...

       
                "
      เลย์คืนนี้ไปดูดาวกันเถอะ"

                "หือ?"

                "ดูดาวอ่ะดูดาว เจ้าอยู่แต่ในเมืองเคยดูมั้ย?"

                "หึไม่อ่ะ" เลย์ส่ายหน้าพรืด จนคริสเดินมาล็อคหน้าให้จ้องตากับตัวเอง

                "งั้นคืนนี้ข้าจะพาเจ้าไปดูดาวนะ :)"
       

       .

       .

       .
       

                 "โอ้โห ไม่น่าเชื่อว่าบนโลกจะมีที่แบบนี้อยู่ พวกเราเหมือนอยู่ใกล้ดาวมากเลยเนอะ"

                 "เจ้าชอบมั้ย?"

                 "
      ชอบสิขอบคุณเจ้ามากนะคริส เอ้ะว่าแต่ดาวดวงนั้นชื่อว่าอะไรน่ะ" นิ้วเรียวชี้ไปบนฟ้า ดวงตากลมลุกวาวและเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าดาวดวงนั้นกระพริบได้ คริสแอบสงสัยไม่ได่ว่าถ้าคนตัวขาวข้างๆเค้าโดนขโมยจูบดวงตาคู่นั้นจะเบิกกว้างขึ้นไปแค่ไหน ใบหน้าคมค่อยๆเคลื่อนเข้าไปจนปลายจมูกเฉียดกับแก้มใสแต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึก

                "สรุปมันชื่อ..อ๊ะ!" เลย์หันหน้ามาเพื่อจะขอคำตอบจากคริส แต่ปากของเค้าสองคนดันแตะกันพอดิบพอดี! ไม่น่าเกิดมาขี้สงสัยเลย!!

                 "ฮะๆๆ เจ้าดาวดวงนั้นน่ะเค้าเรียกว่าดาวเหนือ นี่~ ไม่อยากเรียนรู้ชื่อดาวต่อแล้วหรอ~?" คริสพูดล้อๆ เลย์ที่ทำหน้าปั้นปึงอยู่ผุดลุกขึ้น

                 "ข้าจะกลับถ้ำแล้ว!!" เลย์สะบัดก้นหนไปอีกทางคริสคว้าเอวบางแล้วดึงคนตัวเล็กมานั่งตัก

                 "เจ้าอยากลอยขึ้นไปอยู่ท่ามกลางดาวพวกนั้นมั้ยล่ะ?" จมูกโด่งไล้ตั้งแต่กกหูขาวลงไปถึงซอกคอ สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆที่เค้าแอบขโมยชิดชมบ่อยๆตอนที่ร่างบางหลับ

                 "อ๊ะ! คริส อื้ออออ" คริสพูดถูก ยามเมื่อถึงจุดสูงสุดของรักที่เค้าและคริสมอบให้กันเลย์รู้สึกเหมือนหมู่ดาวต่างๆลอยลงมาหาเค้าอย่างที่คนตัวสูงบอก เลย์แอบคิดมากนิดหน่อยตอนที่นึกถึงหน้าพ่อ แต่แล้วทุกความช่ำชองของคริสก็ทำให้เค้าที่อยู่ใต้ร่างหนาจำเป็นต้องนึกถึงแต่คริส และเรียกชื่อคริสตลอดคืน

       

      .

       .

       .

       

                สองปีผ่านไป....


                คริสและเลย์ยังคงอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม จะมีสิ่งที่แปลกไปอย่างนึงคือสมาชิกของบ้านที่เพิ่มขึ้นมาใหม่

                "ไหนเรียกแม่ก่อนเร็วครับคนเก่ง แม่" เลย์เน้นคำว่าแม่และอ้าปากชัดๆ ก่อนที่เสียงเล็กๆจะเปล่งตามบ้าง ถึงแม้จะไม่ชัดก็ตามที

                "ม..แม่ ฮิฮิ" เลย์ยิ้มกว้างเมื่อเจ้าตัวเล็กทำตามได้ และเริ่มเปลี่ยนคำใหม่

                "งั้นลองพ่อบ้างนะครับ พ่อ"เลย์ค่อยๆพูดเหมือนเดิม เจ้าตัวเล็กก็เริ่มเลียนแบบ

                "พ.พะ..พ่อ!"

                "เก่งงงง เก่งที่สุดเลยยย" เลย์ปรบมือให้ลูกชายที่กำลังหังเราะเอิ๊กอ๊ากเสียงดัง

                "กลับมาแล้วครับ" เสียงของคริสดังขึ้น สองแม่ลูกหันไปมองคุณพ่อที่พึ่งกลับมาจากตลาดในเมือง อย่าสงสัยว่าทำไมถึงออกไปซื้อของได้ เพราะแปลงตัวไปน่ะสิ! คริสเดินไปหอมแก้มลูกชายเบาๆเหมือนปกติแต่เลย์ก็จับได้ถึงความหม่นหมองในเสียงของคริส

                "เป็นอะไร?" เลย์เอื้อมมือไปแตะไหล่ของคริสไว้ถามเสียงเจือความเป็นห่วง

                "คนในตลาดเค้าพูดกันว่าพ่อเจ้ายังสั่งให้คนตามหาเจ้าอยู่" ร่างบางลดมือลง เค้าลืมไปซะสนิทว่ามีแค่เค้าเพียงคนเดียวที่เข้าใจหัวอกของมังกร เลย์มองผ่านไหล่คริสไปก็เห็นพุ่มไม้ที่กำลังสั่นไหวเมือนมีคนพึ่งวิ่งเข้าไปกระแทกในเข้า

                "ข้าว่าคนของพ่อมาถึงแล้วล่ะ..พรุ่งนี้ข้อต้องรีบกลับไปหาท่านเพื่ออธิบายทุกอย่าง"

                "แต่เลย์...แล้วถ้าพ่อเจ้าไม่ยอมให้เจ้ากลับมาล่ะ? พอแล้วเลย์ แค่มีเจ้าที่รักข้า คนพวกนั้นก็ไม่จำเป็นสำหรับข้าอีก มีเจ้าคนเดียวที่ยอมรับข้านั่นก็เกินพอ"

                "คริสเชื่อข้าเถอะ ถ้าทุกคนยอมรับเจ้ามันย่อมดีกว่านะ" คริสหลบตาเลย์ เค้าไม่มั่นใจเลยที่จริงอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูกก็เพียงพอแล้วสำหรับเค้า

                "พรุ่งนี้ข้าจะไปเล่าให้ทุกคนฟังเองว่ามังกรไม่ใช่สัตว์ร้ายแบบที่ทุกคนคิด นอนเถอะ...ดึกแล้ว ฝันดีนะ" เลย์ลูบแก้มของคริสเบาๆก่อนจะอุ้มลูกชายตัวเล็กขึ้นมาแนบอกแล้วจมดิ่งสู่ห้วงนิทราไป

                "ถึงข้าจะไม่เคยทำร้ายมนุษย์แต่ถ้าใครจะมาพรากเจ้าไปจากข้า...ข้าไม่ยอม"
       

      .

       .

       .
       

                "นายท่านขอรับ! พวกเราทราบแล้วว่าคุณหนูเลย์อยู่ที่ไหน"

               "ห๊ะลูกข้าอยู่ที่ไหน!?"

               "อยู่ที่ถ้ำกลางป่าติดกับนอทติ้งแฮมขอรับ แต่..."

               "แต่อะไร?" ทหารหนุ่มเล่าเรื่องของเลย์และคริสให้ท่านแม่ทัพฟัง จบเรื่องที่เล่าท่านแม่ทัพก็แทบจะยืนไม่อยู่

                "ขอบใจเจ้ามาก ตอนที่เลย์กลับมาถึงแล้ว พวกเจ้าจงไปจับไอ้สัตว์ร้ายอีกสองตัวนั้นมา ข้าจะฆ่ามันซะ!"
       

       .

       .

       .
       

                 "ข้าไปแล้วนะคริส อีกไม่กี่วันก็กลับ ดูแลลูกแทนข้าด้วยนะ" เลย์วางมือบนแก้มกร้าน คริสจับมือของเลย์ที่อยู่บนแก้มของตนไว้แล้วเอ่ยขอร้องเสียงอ่อน

                "ให้ข้ากับลูกไปด้วยได้มั้ย..?"

                "เดี๋ยวคนจะตกใจเสียเปล่าๆนะ อย่ากลัวไปเลยน่า" เลย์เขย่งตัวขึ้นไปจูบคริสเบาๆก่อนจะผละออกมาไปหอมแก้มนุ่มของลูกชายทั้งซ้ายขวา
       

       .

       .

       .
       

                    เลย์ก้าวขาลงจากรถม้าที่จ้างมาเมืองนี้เป็นบ้านเกิดของเค้า เค้าย่อมจำทางได้ดี ขาเรียวรีบก้าวไปยังบ้ายของตัวเองทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา

                 'แอ๊ด...' เลย์เปิดประตูเข้าไปก็พบว่าพ่อของตนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

                "สวัส..." ยังไม่ทันจะกล่าวทักทายคนเป็นพ่อก็กล่าวขัดขึ้นมาเสียก่อน

                "กลับมาแล้วหรอไอ้ลูกกบฎ!"

                "ท่านพ่อ..." เลย์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แค่กลับมาพ่อเค้าก็โจมตีเค้าถึงขนาดนี้

                "อย่ามาเรียกข้าว่าพ่อ ถ้าแกยังรักอยู่กลับไอ้สัตว์เดรัจฉานพวกนั้น!"

                "ท่านพ่อไม่มีสิทธิ์ว่าคริสแบบนั้น!!"

                "อ๋อเห็นมันดีกว่าพ่อจนได้สินะ แกรู้มั้ยว่ามนุษย์ตกอยู่ในอันตรายเพราะแก!"







       

       

      [SF Forbidden Dragon ♡M Preg♡] Pairing : Fanxing Part II




       





                "คริสเค้าไม่เคยทำร้ายใครนะท่านพ่อ มีแต่มนุษย์ที่จ้องจะฆ่าพวกเค้า!"

                "เหนื่อยจะเถียงกับแก อย่าหวังเลยว่าแกจะได้กลับไปอยู่กับพวกมันอีก เตรียมตัวให้ดี ยังไงแกก็ต้องแต่งงาน กับคนที่ข้าหาให้ไม่ใช่ไอ้สัตว์ประหลาดพวกนั้น!" คนเป็นพ่อตะคอกใส่ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนอย่างไม่แยแสลูกชายที่ยืนร้องไห้อยู่ เลย์นอนไม่หลับทั้งคืน เค้าสังหรณ์ใจว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น เค้าอยากจะวิ่งออกไปจ้างรถม้ากลับไปหาคริสกับจือเทา แต่ดึกขนาดนี้รถคงหมดเที่ยวลงแล้ว


                      เช้าวันรุ่งขึ้นเลย์รีบเก็บของจะกลับไปหาคริสและจือเทา แต่พอเดินลงมาก็เห็นพ่อยืนใส่ชุดทหารเต็มยศยืนรออยู่

                "ไปแต่งตัวดีๆแล้วลงมาหาข้า พวกเราต้องไปลานกลางเมืองด้วยกัน"

      .
      .
      .


                      คนเป็นบิดาพาเลย์มายังลานกลางเมือง วันนี้คนต่างมาจับจองที่นั่งกันเต็มไปหมด เลย์ทั้งสงสัยทั้งกลัว เพราะลานนี้ใช้งานอยู่ไม่กี่แบบ หนึ่งกิจกรรมรื่นเริง กับสองประหารชีวิตคน! 

                     จู่ๆเสียงพิธีกรของงานก็ดังขึ้นผู้คนที่มารอยิ่งตื่นเต้นเพราะการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งใกล้เข้ามาทุกที เลย์กับพ่อนั่งอยู่ในโซนขุนนาง ซักพักพิธีกรก็กล่าวเชิญให้พ่อของเค้าไปกล่าวเปิดงาน


               "สวัสดีทุกคน ผมแม่ทัพจาง วันนี้ได้รับเกียรติมาเป็นประธานการประหารชีวิตเจ้าสัตว์ร้าย ต่อไปนี้พวกเราก็ไม่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวกันอีกต่อไป ฉะนั้นอย่ารอช้า รีบนำตัวมันมาตัดหัวให้สิ้น!!" สติของเลย์หลุดไปแต่ได้ยินคำว่าสัตว์ร้าย ไม่นะ ขอให้ไม่ใช่คนรักกับลูกของเค้านะ!

                      ชาวบ้านเฮกันลั่นเมื่อนักโทษประหารเดินมาหยุดที่กลางลาน คริสปรายตามามองเลย์เล็กน้อยโดยที่สีหน้าไม่สื่ออารมณ์ใดๆ ไม่ต้องให้เดาเลย์ก็รู้ว่าคริสคงจะเห็นเค้าเป็นคนทรยศเต็มที

               "คร...คระ...คริส" เลย์ร้องขึ้นเสียงดัง จนทุกคนในงานหันมามองแบบอึ้งๆ บนใบหน้าแสดงความสงสัยอย่างปิดไม่มิด

               "เลย์...ข้าไม่ว่าหรอกถ้าเจ้าจะฆ่าข้า แต่ทำไมเจ้าไม่ทำตั้งแต่สองปีที่แล้ว!! เจ้ายอมรับข้าในฐานะเพื่อนทำไม!? จือเทาเค้าก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้! เจ้าจะทำให้เค้าต้องมาโดนฆ่าด้วยทำไม!!!!?" เลย์นิ่งพูดอะไรไม่ออก...เป็นอย่างที่คิด เค้ากลายเป็นคนเลวในสายตาคริสไปแล้ว แต่นั่นคงเทียบไม่ได้กับเสียงร้องไห้ของจือเทา ที่เหมือนกับเข็มนับพันเล่มกำลังปักลงมาที่หัวใจของเค้า

               "เอาล่ะๆไม่ต้องพูดมาก แก..ไอ้สัตว์ชั้นต่ำมีอะไรจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายมั้ย?"

               "
      ปล่อยลูกข้าไป...ปล่อยเค้าไป แล้วจะทำอะไรข้าก็ได้ ข้ายอม...แล้วอีกอย่าง...จำไว้นะถึงใครจะทรยศข้าแต่หัวใจของข้าหากได้ให้ใครไปแล้วข้าจะไม่ขอเอามันคืน ไม่ว่าสองปีที่ผ่านมามันจะคืออะไรในสายตาของเจ้า รู้ไว้นะว่าข้ารักเจ้า" ประโยคสุดท้ายคริสไม่ได้ระบุว่าถึงใคร แต่คนๆนั้นย่อมรู้ตัวเอง เลย์ทำอะไรไม่ได้ นอกจากปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา


               'ข้าก็รักเจ้านะคริส'

               "
      พูดได้ดีนี่ ถ้าอย่างนั้น ทหาร! ไปเอาลูกมันมา" ทหารวิ่งไปปลดเครื่องพันธะนาการที่แขนและขาของเด็กชายตัวน้อยออกแล้วพาไปส่งให้ท่านแม่ทัพ


               "ปล่อยลูกเจ้าไป...แบบนี้ใช่มั้ย?" คริสและเลย์เบิกตาโพลง เพราะที่มือของแม่ทัพมีเจ้าอาวุธสีเงาสะท้อนแสง เค้ากดมันลงที่คอของเด็กชายตัวน้อยที่ยังไม่ทันจะร้องเลือดสีแดงมากมายก็ไหลออกมา

               "แกมันไอ้สารเลว!!! เอาลูกข้าคืนมา!!" จากคริสในร่างคนกลายเป็นสัตว์ดุร้ายสีดำขนาดยักษ์ คริสไล่ทำร้ายทหารและพุ่งเป้ามาที่แม่ทัพชรา ชาวบ้านวิ่งหนีกันแตกตื่น ทหารทุกนายยกอาวุธปืนขึ้นมาแล้วระดมยิงไปที่เจ้ามังกรตัวใหญ่ แต่คริสยังคงไม่ยอมแพ้เค้าใช้ปีกปัดทหารทุกนายจนลอยขึ้นฟ้าแล้วตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง

               "พอได้แล้ว!!! หยุดทำร้ายคริสได้แล้ว!!! เค้าไม่เคยทำร้ายพวกเราเลย!!!"

               "แกยังจะกล้าพูดอีกหรอเลย์แล้วที่มันอยู่นี่ล่ะ!!"

               "ท่านพ่อเป็นคนทำร้ายเค้าก่อน ท่านพ่อไม่รักษาสัญญา!"

               "สัญญาน่ะมีไว้ใช้กับมนุษย์ไม่ใช่กับไอ้ตัวประหลาดพวกนี้ ทหารระดมยิงมันอีก!!"
      ตอนนี้คริสไม่ได้สนใจจะตอบโต้กับทหารอีกต่อไปแล้ว เค้าเดินมาทรุดลงตรงหน้าร่างของลูกชายที่ล่วงลับ น้ำตาแห่งความสูญเสียไหลลงมาจากดวงตาคม ลมหายใจรวยรินที่บ่งบอกว่าเวลาของเค้าเหลือน้อยลงทุกที เลย์วิ่งร้องไห้มาหาสองพ่อลูกที่เค้ารักมากที่สุด


               "คริส...ข้ารักเจ้านะ ขอโทษที่ปกป้องเจ้ากับลูกไม่ได้ ข้าจะไม่ทิ้งพวกเจ้าไปไหน ขอให้ข้าได้ตามไปดูแลพวกเจ้าเถอะนะ" สิ้นประโยคนั้นเลย์วิ่งไปหาทหารที่ยังดาหน้ายกปืนขึ้นมาจ่อไปที่คริส เลย์แย่งปืนจากทหารมาหนึ่งกระบอก มือสวยเหนี่ยวไกเจ้ามัจจุราชสีดำใส่ขมับตัวเองโดยแทบจะไม่นึกเสียดายอะไร สิ่งที่เค้าคิด ณ ตอนนี้ มีอย่างเดียวคือ การได้ตามไปอยู่เป็นสามคนพ่อแม่ลูกกับคริสและจือเทาเท่านั้น เลย์ไม่แน่ใจว่าวันที่อยู่โดยไม่มีสองคนตรงหน้าจะเรียกว่าชีวิตได้รึป่าว
      ความรักไม่เคยทำร้ายใคร...มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ทำร้ายทุกชีวิตที่อยู่ร่วมโลกด้วยกันเอง...

       

       







      The end #ไม่รับทรีนส์









      จบแล้ว จบแค่นี้แล่ะค่ะ อย่าถามถึงสเปค่ะ ตายกันไปหมดแล้วจะสเปยังไงไหว 555

      อ่านแล้วอย่าลืมนะคะว่าอย่าตัดสินคนอื่น "จากสิ่งที่คนพูดต่อๆกันมา"

      ไปแล้วค่ะทุกคนทำท่าจะประเคนรองเท้าให้กีต้าร์ 555555 


       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       
       


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×