ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] Alone | MarkBam [จบ]

    ลำดับตอนที่ #7 : EP5 – เราสองคนสนิทกันแล้วนะ

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 61


    ไม่มีครั้งไหนที่มาร์คอยากจะฆ่ายูคยอมทิ้งได้เท่ากับตอนนี้! เขากำลังโกรธรุ่นน้องคนนี้มาก จนถึงขั้นกำมือแน่น จิกเล็บตัวเองเข้าไปในเนื้อ แล้วนับหนึ่งถึงสิบในใจ  ควบคุมตัวเองไม่ให้ตบหัวน้อง ทั้งที่อีกใจอยากจะตบกะโหลกสั่งสอนใจจะขาด!


    คำพูดในโทรศัพท์มันสื่อความหมายในเชิงลบ จนเขารีบมาสุดชีวิต เกือบจะชกกับคนขับแท็กซี่ที่ขับรถไม่ทันใจไปแล้วด้วย!


    แต่พอมาถึงนี่มันอะไรกัน!


    ไอ้ที่ยูคยอมยืนซับเหงื่อให้ยองแจกันอย่างกระหนุงกระหนิงนี่มันอะไรกัน!


    โกรธ! โกรธมาก!


    อธิบายมา” เสียงทุ้มเย็นหลุดออกมาจากปาก ทำเอาสองน้องเล็กสะดุ้งหันมามองตาเลิกลั่ก


    เอ่อ...ก็กันต์พิมุกต์น่ะสิ ทำกับเราสองคนแย่มากเลยอ่ะ”


    อืม กันต์พิมุกต์อ่ะพอเห็นเลือด ได้กลิ่นเลือดก็อ้วกแตกเลยอ่ะ อ้วกไม่หยุดเลย เนี่ยดูสิอ้วกใส่หลังแจด้วยอ่ะ” ยองแจฟ้องต่อจากยูคยอม พลางหันหลังให้ดูหลักฐาน


    ที่บอกให้ยองแจระวังหลัง เพราะกันต์พิมุกต์จะอ้วกใส่หลังงั้นสิ”


    คะ...ครับ...” สองน้องเล็กพยักหน้ารับคำเสียงสั่น ในขณะที่มาร์คเริ่มโกรธจัด สองคนนี้ไม่ควรพูดให้เขาเข้าใจผิดแบบนั้น เพราะนี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ!


    ลองคิดดูถ้าเขาไม่เชื่อใจกันต์พิมุกต์ แล้วเรียกตำรวจมาที่นี่ แทนที่จะตามมาดูด้วยตนเองเรื่องมันจะจบยังไง!?      


    แหลกสลายไง...


    ความรู้สึกและหัวใจของกันต์พิมุกต์คงจะแหลกสลาย เด็กคนนั้นคงจะไม่เชื่อใครอีกแล้ว ...


    เพราะถ้ามีตำรวจมายืนอยู่ตรงนี้แทนที่เขา ก็เท่ากับว่ายิ่งตอกย้ำว่าไม่มีใครเชื่อใจเด็กคนนั้น ทั้งหมดที่เขาทำให้ไปจะกลายเป็นมีดเล่มหนึ่งที่กรีดใจของเด็กคนนั้น


    กันต์พิมุกต์จะต้องคิดว่าทั้งหมดคือการหลอกลวง!


    หลอกให้เปิดใจ แล้วเอาใจที่บอบช้ำไปเหยียบทิ้งให้จมดิน!


    เอ่อ...พี่มาร์ค แจกับยูคขอโทษ เราสองคนตกใจจริงๆที่เขาอ้วกออกมาขนาดนั้น” ยองแจมีสีหน้าสำนึกผิด ยูคยอมก็เช่นกัน แต่นั่นกลับไม่ได้ทำให้มาร์คอารมณ์เย็นลง


    ขอโทษแล้วมันพอไหม? รู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่นายสองคนทำมันร้ายแรงแค่ไหน  อย่าคิดว่านี่เป็นเรื่องสนุกเพราะพี่ไม่สนุกด้วย”


    พี่...มะ...เฮ้ย! กันต์พิมุกต์อ้วกอีกแล้ว!” ยูคยอมจะเอ่ยปากขอโทษอีกครั้ง แต่ดันเหลือบไปเห็นคนตัวผอมแห้งที่นั่งหมดแรงอยู่ตรงต้นไม้โก่งคออาเจียนอีกรอบ!


    กันต์พิมุกต์... พวกนายไปซื้อน้ำมาสิ เดี๋ยวพี่ดูเอง แล้วก็รีบไปรีบมาอย่าให้โมโห” พอมาร์คหันไปเห็นก็สั่งให้น้องๆไปซื้อน้ำ ส่วนตัวเขาก็รีบเข้าไปดูอาการ


    เมื่อกี้เขาโกรธสองคนนั้น จนไม่ทันได้มองว่าเด็กคนนี้กำลังนั่งเอาหัวตัวเองชนค้ำยันไว้กับต้นไม้ หมดเรี่ยวหมดแรงกระทั่งจะยกหัวตัวเอง และพอมาถึงตอนนี้ก็กำลังโก่งคออาเจียน จนตัวสั่นเทาไปหมด


    ไหวไหม?” เขาถามพลางลูบหลังให้อย่างไม่นึกรังเกียจ จะว่าไปที่มันออกมาจากปากของอีกฝ่ายมันมีแต่น้ำ คงออกมาหมดจนไม่มีอะไรจะออกแล้วล่ะ...


    หึ...คนเก่งที่จะตัดนิ้วแจ็คสันหายไปไหนเสียล่ะ? นี่แค่เลือดสัตว์ยังทำให้แทบสลบได้ขนาดนี้” อยู่ๆมาร์คก็นึกขำขึ้นมา คนเก่งที่ทำให้แจ็คสันผวา หมดสภาพเพียงเพราะเข้าไปในโรงฆ่าสัตว์ ทั้งหมดนี่สร้างภาพให้ตัวเองดูน่ากลัวชัดๆ


    เลือด...มันเยอะ เหม็น...แหวะ!” ดูเหมือนว่ายิ่งพูดจะยิ่งนึกถึงสถานที่ที่ไม่น่าพิสมัย กันต์พิมุกต์เลยโก่งคออาเจียนอีกรอบ


    พอเถอะ เลิกคิดถึงซะ เดี๋ยวให้ไอ้สองแสบนั่นมันจัดการเก็บข้อมูลไป”


    อ้าว! ทำไมแค่เราอ่ะ งานนี้ต้องมีสามนะ” สองคนที่ไปซื้อน้ำร้านใกล้ๆกลับมาได้ยินพอดี ยองแจถึงกับโวยวายลืมความหวาดหวั่นที่มีต่อเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ไปเลยทีเดียว


    อย่าให้พี่พูดว่าทำไมแค่สอง”


    แหะๆ...สองก็สองครับ กันต์พิมุกต์สมควรพักเนอะแจเนอะ” ยูคยอมรีบใส่หน้ากากยิ้มหวาน พูดจาเห็นด้วยทันทีที่เจอสายตาดุดันของมาร์ค เพราะมันสื่อออกมาเต็มที่ว่ารุ่นพี่คนนี้ยังไม่หายโกรธ


    มาร์คเป็นคนไม่ค่อยสนใจใคร...


    ไม่ค่อยโกรธใคร...


    แต่อย่าให้โกรธ เพราะผลมันค่อนข้างเลวร้าย!


    ตามนั้นแล้วกัน อ่ะนี่น้ำล้างคอเสียหน่อยจะได้ดีขึ้น” มาร์ครับขวดน้ำมาจากยูคยอม และส่งมันให้กันต์พิมุกต์ล้างคอบ้วนปาก


    แล้วพี่จะพาเขากลับเลย หรือว่าจะรอพวกเรา?” ยองแจถามก่อนที่จะเข้าไปในโรงฆ่าสัตว์อีกครั้ง หากรอเขาจะได้รีบเก็บข้อมูลแล้วรีบออกมา


    ไม่ดีกว่า กันต์พิมุกต์ควรได้กลับไปพัก”


    อืม เข้าใจแล้วครับ งั้นพวกเราแยกกันตรงนี้เลยนะ บายครับพี่มาร์ค บายนะกันต์พิมุกต์” ยูคยอมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะลารุ่นพี่และเพื่อนร่วมชั้น โดยมียองแจทำตัวเป็นบีสองโบกมือลาเหมือนกัน


    เมื่อสองรุ่นน้องคนสนิทหายเข้าไปในโรงฆ่าสัตว์แล้ว มาร์คก็หันมามองคนที่กำลังนั่งหมดแรง แล้วอยู่ๆก็มีรอยยิ้มเผยออกมา พอหยุดโกรธสองคนนั่นได้ความดีใจมันก็เกิดขึ้น...


    เขาดีใจที่เลือกเชื่อกันต์พิมุกต์


    ดีใจที่กันต์พิมุกต์ไม่ได้ทำให้เขาเสียใจ...


    ดีใจที่เขาไม่ได้ทำร้ายกันต์พิมุกต์ลงไป...


    ขอบใจนะ”


    “...!?” อีกฝ่ายหันมามองเขา ท่าทางคงจะงง ที่อยู่ๆเขาพูดขอบคุณออกไป


    แต่เขาไม่ได้อธิบายไปหรอกว่า เขารู้สึกขอบคุณ ที่กันต์พิมุกต์ทำให้เขาได้เห็นบางอย่างภายใต้ภาพลักษณ์น่ากลัว ได้เห็นความอ่อนโยนและใส่ใจคนอื่น ถึงแม้ว่าทั้งหมดนั่นอีกฝ่ายจะไม่ได้ตั้งใจแสดงมันออกมา แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณที่ทำให้เขาเลือกได้ว่าควรเชื่อใจ


    กลับกันเถอะ มาฉันช่วยพยุง” มาร์คพยุงร่างผอมแห้งให้ลุกขึ้นยืน เขาตั้งใจว่าจะไปส่งที่คอนโดก่อนกลับบ้านไปหาพ่อแม่


    แต่...


    ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่เป็นไปอย่างที่มาร์คหวัง พ่อของเขาโทรมาก่อนที่จะโบกรถแท็กซี่เสียอีก ทำให้เขาต้องถึงขั้นคิดหนักกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่


    อะไรกันครับป๊า พี่มาร์คแค่บอกว่าเลทมี๊ถึงขั้นร้องไห้เลยเหรอ? พี่มาร์คไม่เบี้ยวหรอกน่า พี่มาร์คแค่กำลังติดธุระ อีกแป๊บก็จะกลับบ้านแล้วครับ” ถึงขั้นต้องหนักใจแม่ของเขาร้องไห้ เพราะคิดว่าเขาจะเบี้ยวไม่ไปทานอาหารเย็นฝีมือท่าน แต่ยังไงเขาก็ทิ้งคนที่ยืนอยู่ข้างๆไปตอนนี้ไม่ได้จริงๆ


    กลับเอง” อยู่ๆคนที่ยืนเงียบก็เอ่ยขึ้น ทำให้ร่างสูงที่กำลังคุยโทรศัพท์กับพ่อแม่ชะงัก


    กลับเอง?...อย่าตลกแค่ยืนยังเซแบบนี้ จะกลับเองได้ยังไง?”


    “....” อีกฝ่ายไม่โต้ตอบหากแต่ชี้มาที่มือถือของเขา เป็นเชิงบอกว่าสถานการณ์นี้ควรเลือกคนในครอบครัว


    ฉันไม่ทิ้งนายหรอก เอาเป็นว่าไปบ้านของฉันด้วยกันเลยก็แล้วกัน ...ป๊าครับบอกให้แม่ครัวทำข้าวต้มร้อนๆให้ถ้วยหนึ่งด้วยนะครับ แล้วเจอกันครับ” มาร์คถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินเลือกแบบไม่เสียทั้งสองทาง โดยไม่ลืมเอ่ยขอให้ปลายสายเตรียมข้าวต้มไว้ให้กันต์พิมุกต์ด้วย เขาไม่ยอมให้เด็กคนนี้ต้องตกเป็นเหยื่ออาหารพิสดารของแม่เด็ดขาด!                


     

    แรกพบพ่อกับแม่ของมาร์คถึงกับผงะ เด็กคนนี้ช่างแตกต่างกับเพื่อนทุกคนของลูกชาย ดูไม่น่าคบมืดมนจนไม่น่าเข้าใกล้ แต่ถึงอย่างนั้นเพียงชั่วอึดใจเดียวทั้งคู่ก็คลี่ยิ้มต้อนรับอย่างอบอุ่นพลางนึกภูมิใจในตัวลูกชาย


    ภูมิใจที่ลูกซึมซับในสิ่งที่สอนมาตลอด...


    นั่นคือ...


    อย่ามองคนที่ภายนอก...


    ตระกูลต้วนเป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีธุรกิจหลายอย่างครอบคลุมไปทั่วเอเชีย มีคนเข้าหาทั้งมิตรและศัตรูที่หวังจะฉกฉวยผลประโยชน์ ในฐานะที่มาร์คเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ต้องเรียนรู้วิธีมองวิธีรับมือกับคนเหล่านั้น พวกเขาจึงปลูกฝังให้มาตั้งแต่เด็ก


    ในกรณีแบบเด็กคนนี้แม้จะไม่เคยสอนว่าต้องมองหรือทำอย่างไร แต่พวกเขาก็ภูมิใจที่ลูกชายตัดสินใจยื่นมือเข้าไปหาเด็กคนนี้ด้วยตัวเอง


    พี่มาร์คเคยพูดถึงหนูให้มี๊กับป๊าฟังมาบ้างแล้ว ดีใจที่ได้เจอตัวจริงนะ ทำตัวตามสบายคิดว่าที่นี่คือบ้านแล้วกันนะลูก” แม่ของมาร์ค ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งคุณผู้หญิงต้วนเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มใจดี ในขณะที่คุณผู้ชายต้วนก็พยักหน้ายิ้มทักทายเช่นกัน


    สวัสดีครับ” ร่างผอมบางโค้งทักทายผู้ใหญ่ทั้งสอง ก่อนจะยืนเยื้องเหมือนหลบหลังมาร์ค ผู้ใหญ่ทั้งสองมองออกว่าเด็กคนนี้กำลังเกร็ง และพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้


    ไม่ต้องเกร็ง มากับมี๊เลยมา วันนี้มี๊เข้าครัวเองเลยนะ ข้าวต้มสูตรพิเศษสำหรับหนูคนเดียวเลย” แม่ของมาร์คเดินมาคล้องแขนกันต์พิมุกต์เข้าไปในห้องรับประทานอาหาร ในขณะที่ลูกชายนั้นเบิกตากว้างหันไปกระซิบกระซาบกับพ่อด้วยความตกใจ!


    ป๊า...พี่มาร์คบอกให้แม่ครัวทำนะ ทำไมเป็นมี๊ล่ะ?”


    ก็ตอนคุยกันมี๊อยู่ด้วยนี่น่า พอได้ยินว่าขอข้าวต้มก็รีบวิ่งแจ้นเข้าครัวไปเลย ป๊าเองก็ไม่กล้าห้าม โทษทีนะลูกชาย”


    โธ่...ทำไงดีเนี่ย อาการยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่” ร่างสูงถึงขั้นหนักใจ ก่อนหน้านี้เด็กนั่นก็อาเจียนมาอย่างหนัก มาเจออาหารพิสดาร เขากลัวเหลือเกินว่าเด็กนั่นจะรับไม่ไหว


    ทานสิจ๊ะ” เสียงหวานๆของแม่เชื้อเชิญให้กันต์พิมุกต์ทานข้าวต้ม ทำเอามาร์คต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดหวั่นแทน


    กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกินนะ”


    พี่มาร์ค! ทำไมพูดแบบนี้ มี๊ทำเองเลยนะ” คุณผู้หญิงต้วนหันไปตวาดลูกชาย ก่อนจะหันกลับมาคลี่ยิ้มหวาน เชื้อเชิญให้แขกของบ้านทานอาหารฝีมือตนต่อ


    คนที่ผมเผ้าปิดหน้าปิดตาตักข้าวต้มสีสันประหลาดค้างอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจเอาเข้าปาก ท่ามกลางความรู้สึกผิดของพ่อลูกตระกูลต้วน!


    แค่ก! แค่ก...แค่ก...” ไม่ถึงวินาทีที่ข้าวต้มเข้าปากไป กันต์พิมุกต์ก็ถึงขั้นสำลักออกมาอย่างน่าสงสาร


    ไหวไหม?... บอกแล้วว่ากินไม่ได้ไม่ต้องกิน” มาร์คต้องรีบส่งน้ำและลูบหลังให้ ในขณะที่คุณผู้หญิงต้วนสลดลงจนหน้าเหลือสองนิ้ว


    มี๊ขอโทษ...มี๊แค่อยากเข้าครัวให้ทุกคนทาน แต่ผลมันกลับเป็นแบบนี้”


    โธ่ ที่รักอะไรที่ไม่ถนัดก็ไม่ต้องทำหรอก”


    พอเถอะค่ะ ฉันไม่อยากฟังคุณพูด ป้านัมช่วยเก็บทุกจานเข้าครัวที” แม้ผู้เป็นสามีจะพยายามพูดปลอบ แต่เธอก็ไม่รู้สึกดีขึ้น สั่งให้แม่บ้านเก็บทุกจานตามเธอเข้าไปในครัว


    เอาไงดีพี่มาร์ค มี๊น้อยใจไปแล้วเราจะง้อกันยังไงดี?” คำถามของพ่อทำให้ร่างสูงมองตามหลังแม่อย่างจนปัญญา เรื่องนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อนเพราะเป็นปมด้อยของท่าน เขาเองก็ไม่รู้จะแก้สถานการณ์ตรงนี้ยังไงดี


    ผมไม่รู้ครับ คงรอให้หายเองมั้ง”


    พี่มาร์ค...แกอย่าพูดเหมือนไม่รู้จักมี๊แก เป็นเดือนนะกว่ามี๊แกจะเป็นปกติน่ะ สงสารป๊าบ้าง มานี่เลยมาช่วยกันคิด” สองพ่อลูกลุกออกไปจากโต๊ะแล้วปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด ทิ้งให้กันต์พิมุกต์นั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว


    ส่วนคนที่ตกเป็นประเด็นนั้น กำลังมองอาหารที่ลงมือทำตั้งแต่บ่ายด้วยน้ำตาคลอ รู้ว่าตนเองไร้พรสวรรค์แต่ที่ยังพยายามทำก็เพราะอยากเป็นภรรยาและแม่ที่ดี ทำอาหารให้คนในครอบครัวทานเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆบ้าง


    คุณผู้หญิงคะ ทำยังไงกับอาหารพวกนี้ดีคะ?”


    เททิ้งไปเลยค่ะป้านัม ยังไงมันก็กินไม่ได้อยู่แล้วนี่” สั่งให้แม่บ้านเททิ้งแล้ว ตนเองก็เบือนหน้าไปทางอื่น ไม่อยากมองความพยายามที่ล้มเหลว


    อ๊ะ!?  .... คุณคะ คุณผู้หญิงสั่งให้ทิ้งแล้วคะ” เสียงแม่บ้านดังขึ้น ทำให้คุณผู้หญิงต้วนหันกลับมาอีกครั้ง จึงเห็นว่าเพื่อนรุ่นน้องของมาร์คยื้อจานอาหารไว้ไม่ให้ถูกเททิ้งลงถังขยะ


    ให้แม่บ้านทิ้งไปเถอะ ยังไงก็ทานกันไม่ได้อยู่แล้ว มี๊ผิดเองที่ทำมันออกมา”


    ให้ผมช่วยเถอะครับ” คำพูดสั้นๆนั้นทำให้ทุกคนในครัวมองหน้ากัน อาหารรสชาติแย่ๆแบบนั้น จะช่วยได้ยังไงกัน?      


    เหมือนเด็กคนนี้จะไม่ได้สนใจรอคำอนุญาต เจ้าตัวใช้ช้อนตักชิมอาหารทุกจาน จากนั้นก็มัดรวบผมไม่ให้มันร่วงหล่นไปในอาหารที่ปรุง หยิบกระทะตะหลิวขึ้นมาแก้รสชาติอาหารของคุณผู้หญิงต้วนอย่างคล่องแคล่ว!


    หากแต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนอึ้งไม่ใช่ฝีมือในการทำอาหาร!


    หน้าตาของเด็กคนนี้ที่ถูกเปิดเผยออกมาต่างหาก ทีทำให้ทุกคนอึ้ง! โดยเฉพาะคุณผู้หญิงต้วน!


    ดูเหมือนว่าพี่มาร์คจะเก็บเพชรได้” เธอพึมพำออกมา ใบหน้าที่เคยแสดงความน้อยใจก่อหน้า ปรากฏรอยยิ้มออกมา


    ภาพเด็กคนนี้กำลังแก้ไขรสชาติอาหาร ช่างดูเพลินตาจนทุกคนในครัวไม่สามารถละสายตา จะเรียกว่าเป็นสิ่งสวยงามจนชวนหลงใหลก็ว่าได้


    ทุกการเคลื่อนไหว...


    ไม่ต่างจากภาพวาด..


    กลับไปที่โต๊ะกันเถอะครับ” อาหารจานสุดท้ายถูกยื่นให้คุณผู้หญิงต้วนที่ยังดูเหม่อลอย จากนั้นเด็กตรงหน้าก็ปล่อยผมให้ปิดหน้าปิดตาจนดูยุ่งเหยิงอีกครั้ง


    ทำไมล่ะลูก? ตอนหนูไม่ปิดหน้าปิดตาอย่างนี้ดีกว่าตั้งเยอะนะ” เธอส่งจานอาหารให้แม่บ้าน แล้วเดินเข้าหาหมายจะเปิดหน้าเปิดตาของกันต์พิมุกต์อีกครั้งหากแต่อีกฝ่ายถอยหนีแล้วส่ายหัวไปมา


    เชื่อมี๊สิ เอางี้ไปตัดผมดีไหม เดี๋ยวมี๊พาไปรับรองทุกคนต้องอยากเป็นเพื่อนกับหนูแน่ๆ”


    ไม่ครับ” กันต์พิมุกต์ถอยหนีจนหลังไปชนกับตู้เย็น ในขณะที่อีกคนก็ยังไม่เลิกตื้อ อยากจะจับไปตัดผมเสียให้ได้


    ไม่เอาน่าอย่าดื้อสิ ให้มี๊ทายนะหน้าตาของหนูต้องเหมือนแม่แน่ๆ ใช่ไหมมี๊ทายถูกใช่ไหม?” แม้จะถูกปฏิเสธก็ยังไม่ละความพยายาม เธอจับอีกฝ่ายมาเกลี่ยเส้นผมแล้วเพ่งพิศชื่นชมใบหน้า


    ครับ เหมือนแม่...เกิดมาแทนแม่”


    หนู...”  คำพูดที่หลุดออกมาทำให้คุณผู้หญิงต้วนชะงัก!


    น้ำเสียงที่เบาหวิว...


    ดวงตาที่ว่างเปล่าเหมือนคนไร้ที่พึ่ง...


    ไร้คนต้องการ...


    เหมือนไร้ค่าในการมีชีวิต...


    ทุกสิ่งที่กันต์พิมุกต์เป็นอยู่ตอนนี้ช่างบีบหัวใจของเธอเสียจริง ไม่อยากจะเดาว่าเด็กคนนี้ผ่านอะไรมา แต่ที่รู้ๆมันคงหนักหนามาตลอด


    หนัก...จนบางทีมันอาจจะมากไปสำหรับเด็กที่อายุเพียงเท่านี้


     

    รสชาติอาหารที่กันต์พิมุกต์แก้ให้ มันออกมายอดเยี่ยมจนสองพ่อลูกตระกูลต้วนตักเข้าปากกันจนแทบไม่มีเหลือ จะมีก็แต่คุณผู้หญิงต้วนที่กลืนไม่ลงเหมือนคนอื่นๆ


    คำพูดประโยคนั้นมันยังก้องอยู่ในหัว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็เยอะ ประโยคแบบนั้นไม่ใช่ไม่เคยได้ยิน แต่เธอกลับไม่เคยรู้สึกหดหู่ใจเท่ากับได้ยินจากปากของเด็กคนนี้


    ยิ่งเห็นสภาพที่เด็กคนนี้กำลังเป็นอยู่ ยิ่งทำให้รู้สึกสะเทือนใจ คนในครอบครัวนั้นจะรู้หรือไม่ว่า ความเชื่อเชิงลบแบบนั้นกำลังทำร้ายเด็กคนนี้อย่างเลือดเย็น


    พี่มาร์คอย่าลืมพาน้องมาอีกนะ มี๊จะได้เรียนทำอาหารจากน้องอีก” คุณผู้หญิงต้วนพูดขึ้น เมื่อลูกชายกำลังจะพากันต์พิมุกต์กลับคอนโด


    ต้องถามน้องก่อนนะครับ ว่าอยากมาไหม?”  ร่างสูงชำเลืองมองร่างผอมบางผมเผ้ายุ่งเหยิงที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วตอบแม่ เขาโล่งใจที่ครอบครัวไม่รังเกียจหนำซ้ำยังดูเหมือนเอ็นดูจนถึงขั้นเรียกว่า “น้อง” ด้วย


    ว่าไงจ๊ะ? มี๊อยากให้น้องมาอีกนะ น้องมาหามี๊อีกได้ไหม?” คุณผู้หญิงต้วนเริ่มตื้อ


    ถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมจะมาครับ” หลังจากที่เงียบไปกันต์พิมุกต์ก็ตอบออกมา แน่นอนว่าเป็นคำตอบที่ถูกใจผู้ใหญ่ทั้งสอง ในขณะที่มาร์คเองก็ยิ้มกว้าง รู้สึกดีที่ได้ยินคำตอบยาวๆ แม้ว่ามันจะเป็นการพูดตอบเพื่อไม่ให้เสียมารยาทก็ตาม      


    ดีมากเลยค่ะ มี๊ยังอยู่เกาหลีอีกเกือบเดือน น้องต้องมาหามี๊บ่อยๆนะ มาทุกวันเลยยิ่งดี”


    ทุกวันคงไม่ไหวหรอกครับ พี่มาร์คมีซ้อมบาสเลิกมืดค่ำตลอดเลย”


    ก็ได้ค่ะ ไม่ทุกวันก็ได้แต่พี่มาร์คต้องพาน้องมานะ ไม่งั้นมี๊จะงอน”


    ครับมี๊...พี่มาร์คกับน้องกลับก่อนนะครับ” มาร์ครับคำ ก่อนจะเปิดประตูรถให้ร่างผอมบางขึ้นไป แล้วเอ่ยลาพ่อแม่ของตน


    ขับรถดีๆนะพี่มาร์ค ถึงแล้วโทรหาป๊ากับมี๊ด้วย”


    ครับป๊า” เขารับคำ ก่อนจะบังคับรถให้เคลื่อนตัวออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลต้วน ปกติแล้วเขาไม่ใช้รถเพราะโรงเรียนอยู่ใกล้คอนโด แต่วันนี้เจอเหตุการณ์รีบเร่งแล้วเรียกแท็กซี่ไม่ได้ ทำให้เขาคิดใหม่ บางทีการดูแลกันต์พิมุกต์สมควรที่จะต้องมีรถเอาไว้ใช้งาน...


    ขอบใจนะ” ร่างสูงที่ขับรถไปยิ้มไปพูดขึ้น ทำให้กันต์พิมุกต์หันมามอง ไม่มีคำถามใดๆ แต่เขาก็รู้ว่าอีกคนกำลังสงสัยว่าเขาขอบคุณออกมาทำไม?


    ฉันขอบใจที่นายทำให้มี๊อารมณ์ดี และที่สำคัญขอบใจที่ทำให้ฉันกับป๊าได้กินของอร่อยขนาดนั้น” ทุกคำพูดออกมาจากใจจริง ทุกครั้งที่แม่ของเขาทำอาหาร มันมักจบลงโดยที่เจ้าตัวงอนน้อยใจที่ทุกคนทานกันไม่ได้ แต่วันนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น แม่ของเขาอารมณ์ดี หนำซ้ำทุกคนยังเจริญอาหารกินได้หมดแทบไม่เหลือ


    จากนั้นในรถเงียบอยู่นาน มันอาจจะต้องเงียบไปตลอดทาง ถ้าไม่ติดว่าน้ำเสียงติดแหบแห้งเอ่ยบางอย่างออกมา


    แบมแบม...”


    หือ?”


    ชื่อ...แบมแบม” คำพูดที่ชัดเจนขึ้นทำให้ร่างสูงยิ้มกว้าง


    กันต์พิมุกต์กำลังจะเปิดใจ...


    เขากำลังเข้าใกล้กันต์พิมุกต์ได้มากขึ้น...


    โอเคแบมแบม... เราสองคนสนิทกันแล้วนะ จากนี้ไปเราสองคนจะเป็นพี่มาร์คกับน้องแบมแบมเนอะ” ในเมื่ออีกคนยอมให้เข้าใกล้ได้มากขึ้น เขาก็ต้องขจัดความห่างเหินออกไป


    พี่กับน้อง” ย่อมดีกว่า “ฉันกับนาย”







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×