คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : EP4 - อย่าทำลายความเชื่อใจ
ตอนพักกลางวัน สายตามากมายหลายร้อยคู่จับจ้องมาที่มาร์ค
อันที่จริงเขามักถูกมองอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันแตกต่างจากวันอื่นๆ มันมากกว่าเดิม หนำซ้ำยังมีสีหน้าตกอกตกใจกันอย่างชัดเจน
สาเหตุคงเป็นเพราะเขากำลังเดินจูงมือกันต์พิมุกต์ไปร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆ
“เอ้า! ดังค่ะ!ดังเว่อร์เลยตอนนี้
มึงรู้เปล่า เมื่อกี้ยัยเจ๊ซูจีแอบถ่ายรูปมึงกับหมอนี่ตรงต้นไม้ด้วย” แจ็คสันพูดขึ้นทันทีที่มาร์คกับกันต์พิมุกต์นั่งลง
“แล้วไง? ถ่ายก็ถ่ายไปสิ”
“ค่ะ! พ่อคนหล่อไม่แคร์โลก
แต่อย่าลืมนะว่าเจ๊ซูจีนิสัยเป็นไงอ่ะ” มาร์คนิ่งคิดตาม
มันจริงอย่างที่แจ็คสันพูด
รุ่นพี่ซูจีผู้มีหน้าตาสะสวย แต่ผู้ชายขยาดที่จะจีบ
เพราะเจ้าหล่อนเป็นประธานชมรมหนังสือพิมพ์โรงเรียน
นิสัยจุ้นจ้านพร้อมแทรกตัวเข้าไปมีส่วนร่วมแบบเนียนๆทุกเรื่อง และที่หนักกว่านั้นคือเจ้าหล่อนมีสโลแกนว่า
“แฉทุกเรื่องไม่เน้นจรรยาบรรณ”
จะว่าไปยัยเจ๊ซูจีตีพิมพ์วีรกรรมของกันต์พิมุกต์ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา
เป็นคนเริ่มใช้คำว่าไอ้โรคจิต
หนำซ้ำยังชอบลงรูปน่ากลัวมุมถ่ายแอบจิตในหนังสือพิมพ์
แล้วมีการลงท้ายด้วยข้อความเด็ดๆว่า
“เรียนกับไอ้โรคจิตวันนี้
คุณสั่งเสียกับที่บ้านมาแล้วหรือยัง?”
ทำเอายอดคนกลัวกันต์พิมุกต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสิบเป็นร้อย
และจากร้อยจนกลัวกันทั้งโรงเรียน
“ช่างเถอะ สักวันคนอื่นต้องรู้ว่ากันต์พิมุกต์ไม่ได้น่ากลัว” คำพูดหลังจากที่นั่งนิ่งไปชั่วครู่ ถึงกับทำให้คนที่มีรูปลักษณ์แตกต่างจากคนอื่นๆหันมามองมาร์ค
เจ้าตัวมองชนิดไม่กระดุกกระดิก จนยองแจหวั่นแทนรุ่นพี่ของตน
แบบนี้มันเรียกจ้องเขม็ง ไม่ใช่การมองแบบธรรมดา
“นั่นสิเนอะ...กะ..กันต์พิมุกต์
ไม่ได้น่ากลัวสักหน่อย”
“หยุดเสียงสั่นก่อนเถอะยองแจ
มันไร้มารยาทกับกันต์พิมุกต์นะ” จินยองอดไม่ได้ที่จะตำหนิน้อง
เพราะนอกจากยองแจจะเสียงสั่นแล้ว ยังกอดแขนยูคยอมเอาไว้แน่นด้วย!
“แจไม่ได้จะเสียมารยาทนะ
แค่แจยังไม่ชินเท่านั้นเอง ไม่เป็นไรนะแจยูคเข้าใจ”
“อย่าเลี่ยน
ถามจริงพวกนายสองคนนี่กินกันเองใช่ไหม?”
“ก็อร่อยดี...เฮ้ย! ไม่ใช่นะพี่แจบอม เราสองคนแค่เพื่อนรักกัน ไม่ผิดสักหน่อยที่จะสกินชิพ” ยูคยอมตาโตลนลานปฏิเสธ ทั้งที่มือยังลูกหัวปลอบยองแจอยู่
ประจำแล้วแจบอมไม่แซวน้องทำนองนี้ แต่เพราะอยากให้บรรยากาศมันดีขึ้นเลยพูดขึ้นมาและก็เหมือนมันจะได้ผล
ถึงกันต์พิมุกต์จะยังนั่งนิ่งจ้องมาร์ค
แต่คนอื่นๆก็ยิ้มขำเลิกพูดเน้นประเด็นอึมครึม
“เอ้า! หิวแล้วยูคยอมไปซื้อมาดิ”
“พี่แจ็คสันอย่ามาใช้อำนาจในทางที่ผิดนะ
มีสิทธิ์อะไรมาใช้ยูค แจเอาแบบเมื่อวานนะยูค” ยองแจหันไปโวยวายกับรุ่นพี่
ก่อนจะยิ้มหวานขอเมนูเดิมเหมือนเมื่อวาน
“แล้วแกอ่ะยองแจ
มีสิทธิ์อะไรไปใช้มัน?”
“สิทธิ์ที่พิเศษกว่าพี่ไงพี่
รออยู่นี่นะแจเดี๋ยวยูคจัดให้” เป็นยูคยอมที่พูดโต้ขึ้นมา
แล้วลุกไปซื้ออาหารกลางวันเป็นคนแรก
“ไปเองเถอะแจ็คสัน
ยูคยอมมันมีมือแค่สองมือ จะถือมาให้นายอีกคนคงไม่ไหวหรอก”
“นั่นสิ
ส่วนมาร์คกับกันต์พิมุกต์เดี๋ยวพี่กับพี่แจบอมซื้อมาให้นะ นั่งรออยู่นี่แหละ” จินยองเห็นด้วยกับแจบอม ให้ขณะที่แจ็คสันเบ้หน้าใส่นึกหมั่นไส้นิดๆที่สองคนแสดงท่าทางเอาใจไอ้เด็กไม่น่าคบอย่างชัดเจน
“ไปเองก็ได้วะ
ยองแจอย่านั่งเป็นคุณนายไปซื้อน้ำมาซิ”
“เหอะ! ต้องใช้ให้ได้ใช่ไหม?” ที่จริงยองแจเป็นพวกดื้อด้าน ออกปากใช้งานใช่ว่าจะยอมทำ
แต่นี่ที่ยอมลุกไปง่ายๆ เพราะถ้าไม่ไป คนที่ต้องไปก็อาจจะเป็นมาร์ค
แล้วเขาก็ต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะกับกันต์พิมุกต์เพียงสองคน!
ไม่ได้กลัว!
ไม่ได้รังเกียจ!
เข้าใจทุกอย่างที่พี่ๆในกลุ่มอธิบายมา...แต่!
ยองแจยังไม่ชิน!
“วุ่นวายหน่อยนะ
เพื่อนๆในกลุ่มของฉันก็เป็นแบบนี้ แต่ทุกคนเป็นคนดี ยังไม่ต้องเปิดใจก็ได้ แค่ลองฟังๆพวกมันกัดกันดู
สนุกดีนะ” ร่างสูงพูดขึ้นพลางหันมาไปสบตา
เขาไม่ใช่คนที่อ่อนโยนเมตตาล้นหลามอย่างพระเจ้า แต่เขาก็ปรารถนาดี และหวังว่ากันต์พิมุกต์จะรับรู้เปิดใจตัวเองมากขึ้น
“จะเดือดร้อน” คำพูดประโยคแรกของวันหลุดออกมา พลางชี้ไปที่ต้นไม้ มาร์คมองตามเห็นกล้องถูกยื่นออกมาบ่อยๆ
เดาว่ารุ่นพี่ซูจียังไม่เลิกแอบถ่าย
“เป็นห่วงเหรอ?” อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวของอีกฝ่ายอย่างนึกเอ็นดู ตลอดเวลามานี่ถึงกันต์พิมุกต์จะทำตัวไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่
แต่มาร์ครู้ว่ามันเป็นเพียงกำแพงที่สร้างขึ้นมา
หลายครั้งที่เจ้าตัวแสดงออกว่ากำลังห่วงภาพลักษณ์ของเขา
ตั้งแต่เมื่อเช้าที่เดินเข้าโรงเรียนก็พยายามหยุดเดินไม่อยากมาพร้อมกัน
และอิดออดที่จะออกมากินข้าวเที่ยงด้วย จนเขาต้องตื้อจูงมือลากมา
ทั้งหมดนี่หมายความว่ากันต์พิมุกต์ไม่อยากให้เขาถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ
แท้จริงแล้วกันต์พิมุกต์ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง
แท้จริงแล้วกันต์พิมุกต์เป็นคนอ่อนโยนอย่างแน่นอน
ช่วงเย็นมาร์คปล่อยให้กันต์พิมุกต์ไปเก็บข้อมูลทำรายงานกับยูคยอมและยองแจที่โรงฆ่าสัตว์
ส่วนตัวเขาเองเข้าชมรม ซ้อมบาสเตรียมเข้าแข่งในเดือนหน้าที่จะถึง
“มาร์ค พวกเราห่วงนายนะ” สมาชิกของชมรมที่เรียนอยู่ปีเดียวกันเอ่ยขึ้นทันทีที่มาร์คเข้าไปเหยียบในโรงยิม
“ทำไมต้องห่วงฉัน?”
“โธ่! ถามมาได้
มึงไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ยัยเจ๊ซูจีกระจายรูปมึงกับไอ้เด็กนั่นออกไปแล้ว
ยัยเจ๊บอกว่ามันทำตัวน่าสงสารล่อมึงให้ติดกับ
แล้วมึงก็กำลังจะเป็นเหยื่อระบายความโรคจิต ไอ้พวกลูกกะจ๊อกในทีมก็เลยห่วงไง” แจ็คสันที่เดินเนียนเข้ามาเล่นบาสด้วย เป็นผู้อธิบายความออกมา
“ใช่พวกเราเป็นห่วงประธานนะ
ประธานอาจจะสงสารจนลืมไปแล้วว่ามันทำอะไรเอาไว้บ้าง ออกห่างมันเถอะนะครับ” สมาชิกคนอื่นๆเริ่มทยอยเข้ามากล่อม ให้ถอยห่างจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพวกแอบจิต
“พวกนายหยุดพูดเถอะ”
“แต่ประธานครับ”
“พอได้แล้ว! ฉันบอกให้หยุดพูดไง ไปซ้อมกันได้แล้ว หยุดเอาเวลามากลัวเรื่องไร้สาระกันสักที” งานนี้มาร์คขึ้นเสียงแข็ง ทำเอาทุกคนสะดุ้งโหยง
รีบกระจายตัวไปออกไปจับลูกบาสซ้อม
“โหย...ดุจังเลยนะมีลูกขอตัวสิ”
“ใช่เวลาเล่นไหมแจ็คสัน?” มาร์คต่อว่าเพื่อนที่เล่นไม่ดูอารมณ์ของเขา
แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทางสำนึกผิด ยักไหล่เดาะลูกบาสไปเรื่อยเปื่อย
“เอาน่าไม่เห็นต้องอารมณ์เสีย
ตอนกูเตือนว่ายัยเจ๊แอบถ่ายอยู่ มึงไม่แคร์นี่น่า”
“ก็กูไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้นี่” พูดไปก็ถอนหายใจเฮือกยาว
เขาไม่คิดว่าเจ๊ซูจีจะเล่นเน้นให้คนกลัวกันต์พิมุกต์มากขึ้น
“เหอะ!
มึงคิดว่าแค่กระจายข่าวว่ามึงไปเป็นเพื่อนกับเด็กนั่นแล้วมันจะสนุกเหรอ? มันต้องเน้นความโรคจิตด้วยเว้ย ข่าวมันถึงจะมีสีสัน”
“แย่ชะมัด”
“ก็บอกแล้วว่ายัยเจ๊มันไม่เน้นจรรยาบรรณ...โหย!....แม่ง! ไม่ลงอ่ะ ไอ้มาร์คแป้นบาสมันต้องเบี้ยวแน่ๆเลย” แจ็คสันพูดไปชู้ตบาสไป พอไม่ลงก็โวยวายว่าแป้นบาสเบี้ยว
แต่ดูเหมือนมาร์คจะไม่ได้สนใจ เอาแต่ยืนนิ่งในหัวกำลังคิดถึงอีกคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่
“เหอะ! ไม่สนใจกูเลย”
“โวยวายเสร็จก็กลับไปได้แล้ว หนวกหู” ถ้อยคำประชดประชันทำให้มาร์คเริ่มหงุดหงิด บางทีแจ็คสันมันก็ทำตัวน่ารำคาญ
ตอนนี้ก็เหมือนกัน แทนที่จะไปทำหน้าที่ประธานชมรมฟันดาบ มันกลับมาเกาะแกะอยู่กับเขา
“ไม่กลับวันนี้กูจะชวนมึงไปดื่ม
พี่แทคยอนโทรมาบอกว่าผับนี้สาวเด็ด ไปด้วยกันนะมาร์ค” นอกจากจะตื้อไม่กลับแล้ว
ยังพูดส่อเจตนาที่แอบแฝงไว้อย่างชัดเจนทำให้คนฟังส่ายหน้าเอือม
“อายุไม่ถึงไม่เข้า”
“อย่ามาตอแหลเป็นเด็กดีเลยมาร์ค
อย่าให้แฉอายุของมึงตอนเข้าผับครั้งแรกนะ แม่ง...โคตรใจแตกอ่ะ”
“พอเถอะแจ็คสัน
ยังไงวันนี้กูก็ไปไม่ได้” มาร์คยังคงดึงดันคำตอบเดิม ทำให้เพื่อนเริ่มชักสีหน้าไม่พอใจ
และพาลไปถึงกันต์พิมุกต์ด้วย
“มึงจะสนใจเด็กนั่นเกินไปแล้วนะ”
“อย่ามาพาล
วันนี้ป๊ากับมี๊มากูเลยจะกลับบ้านไม่เกี่ยวกับกันต์พิมุกต์”
“ห๊ะ! ป๊ากับมี๊มา?
...เฮ้ย! กูไปด้วยดิอยากเจอสุดๆ ไม่ได้เจอตั้งนาน” แจ็คสันตาโตเมื่อมาร์คบอกเหตุผลจริงๆ เขาเองก็สนิทกับพ่อแม่ของทุกคนในกลุ่ม
พอได้รู้ว่าพ่อแม่มาร์คมาเกาหลีก็อดไม่ได้ที่จะอยากเจอ
“ไปสิ วันนี้มี๊เข้าครัวด้วย
คงดีถ้ามึงไปช่วยชิม”
“มี๊เข้าครัว...เหอๆ...” พอแจ็คสันได้ยินว่าแม่ของมาร์คจะเข้าครัว ก็ถึงขั้นทิ้งลูกบาสแล้วเดินถอยหลัง
“อ้าว...จะไปไหนล่ะแจ็คสัน?”
“มึงก็รู้นะมาร์ค
มันหายนะเกิดเวลามี๊เข้าครัว กูไม่เอาด้วยหรอก ลากันตรงนี้เลยแล้วกัน” งานนี้แจ็คสันถึงกับโกยแนบ ทิ้งให้มาร์คยืนอ้าปากค้าง ที่เพื่อนวิ่งหนีเพียงเพราะรู้ว่าแม่ของเขาเป็นคนทำอาหาร
“เห้ย!? ไหนบอกว่าอยากเจอไง ไอ้สั้นไอ้เพื่อนเวรทิ้งกูเฉยเลย” ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะหนีเหมือนกัน แต่หน้าที่ลูกมันค้ำคอ
แม่ของเขาอยากทำให้กินเขากับพ่อก็ต้องกิน แม้รสชาติมันจะกล้ำกลืนฝืนทนก็เถอะ
“ประธานครับ
มือถือของประธานดังอ่ะ” สมาชิกในทีมบอก พลางชี้ไปทางกระเป๋าของเขาที่วางอยู่ข้างสนามบาส
“ขอบใจมาก เดี๋ยวซ้อมดังค์กันต่อได้เลย” เขาสั่งแล้วเดินไปหยิบมือถือ ชื่อที่เด่นหราอยู่หน้าจอ ทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาทันที
“ว่าไงยูคยอม? เกิดอะไรขึ้น?”
[“พี่มาร์คมาช่วยผมที ผมแย่แล้ว! เห้ย! แจระวังข้างหลัง! อย่านะกันต์พิมุกต์! อย่า!!!!!...”]
“ยูคยอม! ยูคยอม! เห้ย!” สายหลุดไปเสียดื้อๆ
ทำให้มาร์ครีบคว้ากระเป๋าเพื่อจะตามออกไปดูพวกรุ่นน้องที่โรงฆ่าสัตว์
“ประธานเกิดอะไรขึ้นครับ?”
“ฉันมีธุระซ้อมกันเองไปก่อน
แทฮยอนดูสมาชิกด้วยนะ” มาร์คหันไปสั่งรองประธานที่เดินเข้ามาถาม
จากนั้นก็วิ่งออกมาจากโรงยิม
“โธ่เว้ย! จอดสักคันสิไอ้แท็กซี่เวร!” ร่างสูงอารมณ์เสียที่สุดเมื่อเรียกแท็กซี่หน้าโรงเรียนแล้วไม่มีคันไหนจอด
มันเหมือนยิ่งรีบยิ่งช้า ใจคอไม่ดีไม่รู้ว่าฝั่งนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
ยูคยอมโทรมาเหมือนว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดี!
เอาจริงๆเขาก็กำลังกลัว ...
กลัวว่ากันต์พิมุกต์จะทำลายความเชื่อใจของเขา!
“อย่านะกันต์พิมุกต์...อย่าทำให้ฉันเสียใจ” มาร์คพึมพำออกมา เขาเชื่อใจกันต์พิมุกต์ไปเต็มร้อย
เขาเชื่อว่าเด็กคนนั้นอ่อนโยนและมาถึงตอนนี้ก็ยังเชื่อ!
เขากำลังหวังให้ทั้งหมดนี่เป็นเพียงเรื่องไม่จริง!
มันต้องมีบางอย่างกำลังผิดพลาด!
ไม่มีทางที่เด็กคนนั้นจะทำร้ายใครได้....
ความคิดเห็น