คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : EP8 – ตกตะลึง
กันต์พิมุกต์ร้องไห้อยู่นาน จนในที่สุดก็ค่อยๆผละออกจากอ้อมกอด
ก้มหน้าก้มตาเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม
มาร์คเห็นว่าอีกฝ่ายใช้มือจึงเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชู่มาช่วยซับให้
กันต์พิมุกต์ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีนี้
เจ้าตัวยอมหลับตาพริ้มเหมือนเด็กตัวเล็กๆ
แต่มาร์คกลับชะงักมือ(?)
ดวงตาคมที่ได้เห็นใบหน้าของกันต์พิมุกต์แบบชัดเจนเบิกกว้างขึ้น!
การใกล้ชิดกันที่ผ่านมา แม้ไม่ได้เห็นชัดเจน เขาก็พอจะรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ได้หน้าตาเลวร้าย
หากแต่สิ่งที่ปรากฏอยู่ตอนนี้มันเกินคาดหมาย
ทำเอาโลกของมาร์คต้วนมันหยุดหมุนไปเสียดื้อๆ
ขนตาสีดำสนิทเป็นแพงอนยาว จมูกโด่งรั้นน่ามอง
พวงแก้มดูเนียนนุ่มนิ่มน่าจับ ริมฝีปากอิ่มเอิบแม้จะดูซีดแต่ก็ชวนน่าหลงใหล
ทุกอย่างที่เป็นกันต์พิมุกต์ในตอนนี้ ทำให้มาร์คหายใจได้ไม่ทั่วท้อง
หนำซ้ำใจมันยังเต้นหนึบถี่แรงขึ้นเรื่อยๆจนดูน่ากลัว
ยามกันต์พิมุกต์ค่อยๆลืมตาขึ้นมาสบมอง เขารู้สึกเหมือนใบหน้ามันร้อนผ่าววูบวาบขึ้นมา
หัวสมองอื้ออึงความคิดว่างเปล่า เหมือนทุกอย่างกระจัดกระจายหายไป
ดวงตาสีนิลฉายแววเศร้าของกันต์พิมุกต์ช่างเย้ายวนจนเขาไม่สามารถหลบหนีได้
เหมือนกำลังถูกตราตรึงด้วยมนต์สะกด ที่ตัวเขาเองไม่เคยพบพานมาก่อน
“ขอบคุณ...” แม้น้ำเสียงจะแผ่วเบาและแหบพร่า แต่มันกลับฟังไพเราะฝังลึกในโสตประสาท
มาร์คบอกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าทั้งหมดแล้วสรุปว่าเขากำลังเป็นอะไร? ป่วยแบบไหน? เขารู้เพียงอย่างเดียวว่าตอนนี้แม้เสี้ยววินาทีก็ไม่สามารถละสายตาจากคนตรงหน้าไปได้
“เฮ้ย! ไอ้มาร์คมึงเป็นไรวะ
ให้มาปลอบน้องไม่ใช่มานั่งแข็งเป็นหิน...เอ่อ..นะค่ะ...ค่ะ...ครับ” แจ็คสันที่แอบมองตรงกระจกหน้าห้อง ทนเห็นเพื่อนนั่งทื่อต่อไปไม่ไหว เลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา
หากแต่คนที่ตกใจหันมามองเขาไม่ใช่มาร์ค!?
กันต์พิมุกต์ต่างหากที่หันมา...
ยามนี้ไม่ใช่เพียงแจ็คสัน แต่ทุกคนที่เดินเข้ามาก็ถึงกับตกตะลึง!
ว่าจินยองเป็นคนหน้าสวยแล้ว
กันต์พิมุกต์ยิ่งกว่า!
ทั้งดวงหน้าและสีผิวน้ำผึ้ง
ส่งผลให้เจ้าตัวดูสวยคม สวยแบบเย้ายวนชวนพิฆาต อาจดูเสียมารยาทต่อกันต์พิมุกต์ แต่สามารถพูดได้เลยว่าให้ไปยืนเทียบกับดาวโรงเรียนเจ้าตัวก็ดูโดดเด่น
แบบฆ่าไม่ตายเลยทีเดียว!
“อึ้งไปเลยสิแจ็คสัน
มี๊ได้ข่าวว่าเปรียบน้องเป็นผีนี่” คุณผู้หญิงต้วนเอ่ยพูดแขวะเพื่อนลูกชายที่อ้าปากค้าง
พร้อมกับเดินเข้ามาสวมกอดกันต์พิมุกต์
“น้องสลบไปตั้งเกือบสามชั่วโมง
มี๊เป็นห่วงน้องมากเลยนะคะ พี่มาร์คก็ด้วยเนอะพี่มาร์คเนอะ”
“เอ่อ...ครับ” พอถูกดึงร่วมเข้าบทสนทนา สติของมาร์คก็กลับมาอีกครั้ง
เขากวาดตามองไปที่เพื่อนๆ ทุกคนดูเหมือนเริ่มปรับตัวได้ จะเว้นก็แต่แจ็คสันที่ยืนทื่อแข็งเหมือนสัตว์ถูกสตาฟไม่มีผิด
“หาสติเจอยังห๊ะพี่แจ็คสัน?” ยองแจไม่ถามเปล่า กระทืบเท้าใส่คนข้างๆอย่างแรง!
“โอ้ย! เจ็บนะโว้ยไอ้เด็กบ้า!”
“พี่นั่นแหละบ้า อย่ามาว่าแจนะ” เป็นยูคยอมที่ดึงยองแจไปกอดหลีกเลี่ยงมือไม้ของรุ่นพี่จอมโวยวาย
ส่วนแจบอมกับจินยองเดินเข้ามาถึงตัวคนเจ็บแล้ว
“ไม่เป็นไรแล้วนะแบมแบม”
“อย่างที่พี่แจบอมพูดนั้นแหละ
ไม่เป็นไรแล้วนะ งื้อ~...แก้มน่าหยิกจัง” ปากว่ามือถึง จินยองหยิกแก้มของกันต์พิมุกต์หน้าตาเฉย
“อย่ามือไวกับน้องสิ”
“แจบอมนายไม่เห็นเหรอว่าแก้มน้องน่าจับอ่ะ
ดูสิยืดได้ด้วย” นอกจะไม่ฟังคำปรามแล้วจินยองยังดึงแก้มด้วย
ทำให้แจบอมต้องดึงมือซนๆนั่นให้ออกห่างคนเจ็บ
“ฟังแจบอมบ้างก็ดีนะจินยอง
ไม่เห็นเหรอว่าน้องเจ็บอยู่?”
“เหอะ!” คนถูกว่าสะบัดหน้าใส่มาร์คกับแจบอม แล้วยิ้มกว้างจนตาหยีให้กันต์พิมุกต์
หากแต่คนที่ได้รับรอยยิ้มทำตัวไม่ถูกก้มหน้างุดหลบตา
ทุกคนเข้าใจว่ามันอาจจะยังยากที่จะปรับตัว ในเมื่อกันต์พิมุกต์เคยอยู่คนเดียวมาตลอด
จึงไม่ถือสาที่ถูกเงียบหลบหน้าหลบตาใส่
“แล้วตกลงน้องต้องดูอาการสองวันใช่ไหมมาร์ค?”
“อืมใช่” เป็นแจ็คสันที่ทำตัวเนียนตอบแทนมาร์ค เพราะอยากมีส่วนร่วมด้วย
“ได้ข่าวว่าพี่แจบอมถามพี่มาร์ค เนอะยูคเนอะ” ยองแจแขวะรุ่นพี่จอมโวยวายอีกครั้ง
ส่วนยูคยอมก็เป็นแนวร่วมที่ดีตามเดิมพยักหน้าเออออไม่ขัดเพื่อนสักนิด
“แกสองคนนี่ขัดตลอด
ถามจริงตอนเด็กแม่ให้กินสก๊อตช์ไบรต์รึไง?”
“พี่แจ็คสันปากร้ายอ่ะ
พูดแค่นี้ต้องลามปาม แบมแบมอย่าเอาเป็นตัวอย่างนะ” ยูคยอมทำหน้าเสียใจที่ถูกพาดพิงถึงแม่
มีการสะกิดสอนกันต์พิมุกต์ด้วย
“ไอ้ยูค...มึงนี่” แจ็คสันทำหน้าตาเหรอหรา
เมื่อกันต์พิมุกต์เงยหน้ามองตนกับยูคยอมสลับไปมา เหมือนกำลังชั่งใจว่าจะเชื่อดีไหม?
“พอเลยทั้งคู่แหละ
น้องเจ็บอยู่ต้องการพักผ่อน พวกนายมาเสียงดังรบกวนใช้ได้ที่ไหน”
“จริงอย่างมาร์คว่า ออกไปกันเลยไป” จินยองดันหลังแจ็คสันหมายจะให้ออกไปจากห้อง แต่ดูเหมือนจะล้มเหลว
คนที่มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาฟันดาบพลิกตัวหลบ แล้วไปนั่งเอกเขนกไม่สนสายตาใคร
“ไม่เอาหรอก
จะให้น้องแบมแบมอยู่โรงพยาบาลคนเดียวได้ไง ฉันจะอยู่เฝ้าน้อง” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแจ็คสันจะพูดแบบนี้ออกมา
มันทำให้แจบอมถึงกับส่ายหัว
“พอเห็นหน้าตาน้องก็ออกลายเลยนะ”
“ออกลายอะไรคะพี่แจบอม? นี่แจ็คห่วงน้องค่ะ ห่วงน้องมากเข้าใจไหมคะ?” เจ้าตัวทำหน้าทำตาไม่ยอมรับด้วยท่าทางดัดจริต
จนแจบอมอยากมือเท้าลั่นขึ้นมาทันที
ส่วนคนที่ถูกห่วงอย่างกันต์พิมุกต์ แม้จะเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา
แต่มีหรือที่คนใกล้ชิดมากที่สุดอย่างมาร์คจะไม่ดูออก?
เขารู้ว่าเด็กคนนี้ลำบากใจ เพราะยังไม่สนิทใจกับคนในกลุ่มสักคน...
และมาร์คก็รู้ด้วยว่า คนอย่างแจ็คสันมันเป็นพวกความดันทุรังสูงต้องตื้อเอาแต่ใจจนต้องได้
เขาจึงส่งสายตาเชิงขอร้องให้ผู้เป็นแม่ออกตัวช่วย
“แต่มี๊ว่าแจ็คไม่เหมาะนะคะ
น้องจะอึดอัดเปล่าๆนะคะ ให้คนสนิทอย่างพี่มาร์คเฝ้าดีกว่าค่ะ” คำพูดของคุณผู้หญิงต้วนที่พูดไปยิ้มไปนั้นตรง และคมจนแจ็คสันทำหน้าเหวอ
รู้สึกเหมือนโดนปามีดใส่กลางหน้าผาก!
ไม่ผิดแน่!
แม่ของมาร์คสกัดดาวรุ่งเห็นๆ!
“หยุดค้างได้แล้วพี่สั้น
กลับบ้านเถอะพ่อแม่พี่ให้อภัยแล้วล่ะ” สองแสบจัดการล็อกหิ้วปีกรุ่นพี่ตัวสั้นออกจากห้อง
โดยที่ไม่ลืมโบกมือลาเพื่อนร่วมชั้นด้วย
“มีแจ็คสันคนหนึ่งรู้สึกเหมือนว่าชีวิตมันวุ่นวายมาก”
“แต่ถ้าไม่มีมันก็เงียบนะ
เหมือนชีวิตขาดสีสัน” แม้แจบอมจะรู้สึกเห็นด้วยกับจินยอง
แต่เขาก็ยังไม่ลืมข้อดีของเพื่อนจอมจุ้นจ้าน
“เหอะๆ นั่นสิ
งั้นเราสองคนก็กลับกันบ้างดีกว่าเนอะแจบอม”
“อืม พี่กับพี่จินยองกลับก่อนนะแบมแบม
พักผ่อนเยอะๆนะจะได้หายไวๆ”
“ขอบคุณครับ”
“!!??” อยู่ๆคนที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยขอบคุณขึ้น
ทำเอาทุกคนในห้องตกใจก่อนจะยิ้มกว้าง
เด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กที่ไม่รับรู้อะไร...
ไม่ใช่เด็กที่ไร้มารยาท...
เพียงแต่ที่แล้วมา เจ้าตัวแค่ยังไม่ชิน ยังปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ที่เปลี่ยนไปไม่ได้
มาถึงตอนนี้ แม้จะยังไม่เต็มที่
แต่เจ้าตัวก็เริ่มค่อยๆเปิดใจตอบรับความหวังดีของผู้คนรอบด้าน
“’งื้อ~ น่ารักจริงๆเลยเด็กคนนี้” จินยองไม่วายเอื้อมมือไปจับแก้มของกันต์พิมุกต์อีกครั้ง
ทำเอามาร์คและแจบอมส่ายหัว
เลขาประธานนักเรียนคนนี้ แม้จะดูอ่อนโยนและมีระเบียบวินัยสูง
ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แต่แท้จริงก็แอบมีข้อเสียที่แก้ไม่หาย(?)
นั่นคือชอบสิ่งมีชีวิตสวยงามและน่ารัก!
เวลาเจอทีไร จินยองมักทนเฉยไม่ได้! สติหลุดจนห้ามไม่อยู่จับฟัดจับหอมเสมอ! ทำให้มาร์คทั้งแจบอมชักเริ่มหวั่นๆแล้วว่ากันต์พิมุกต์จะช้ำมือของเพื่อนคนนี้เข้าสักวัน!
“พอได้แล้วน่า”
“โอเคงั้นพี่กลับก่อนนะแบมแบม” จินยองเอ่ยลา โดยไม่วายดึงแก้มนุ่มเป็นการทิ้งท้าย ก่อนจะหันไปโค้งลาพ่อแม่ของมาร์คแล้วพากันเดินออกจากห้องไปพร้อมแจบอม
“งั้นป๊ากับมี๊ก็ต้องกลับแล้วเหมือนกัน
ดูแลน้องดีๆนะไอ้ลูกชาย”
“ใช่ค่ะ พี่มาร์คต้องดูน้องดีๆ
มีอะไรก็โทรตามนะคะ”
“ครับ เดินทางดีๆนะครับ” มาร์คมองตามหลังทุกคนจนประตูปิดลง ก็หันกลับมาเห็นว่ากันต์พิมุกต์กำลังขมวดคิ้วคลำแก้มตัวเองปอยๆ
จึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปไล้สำรวจ
“พี่จินยองดึงแรงล่ะสิ
แย่จริงๆเลย...เจ็บมากรึเปล่า?” ถามไปคำตอบที่ได้กลับมาคือการส่ายหัวปฏิเสธ
เจ็บไม่มากแต่ใช่ว่าจะไม่เจ็บเลย...
บางทีจินยองก็มือซนมือไวจนน่าตี!
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองสามที จากนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยหมอ
คงเป็นเพราะรู้ว่าคนเจ็บฟื้นแล้ว จึงเข้ามาสอบถามอาการ
“ตอนนี้หมอก็ยังสรุปเหมือนเดิมนะครับ
คนเจ็บกะโหลกร้าวไม่รุนแรง สมองไม่ถึงขั้นช้ำบวม ตอนนี้ทานอาหารอ่อนๆนะ งดออกกำลัง
เดี๋ยวก็หายแล้วล่ะครับ” หมอพูดสรุปด้วยรอยยิ้มอบอุ่นตามแบบฉบับคนเป็นหมอ
“ขอบคุณมากครับ”
“ตามหน้าที่ครับ ... อ่อ! เกือบลืม เดี๋ยวจะต้องมีพยาบาลคอยมาเช็คอาการทุกสี่ชั่วโมงนะครับ
คืนนี้อาจต้องตื่นบ่อยหน่อยนะ” ประโยคหลังสุดหมอหันไปพูดกับกันต์พิมุกต์ว่าบางทีคืนนี้อาจจะต้องโดนปลุกอยู่บ่อยๆ
ให้ทำใจแต่เนิ่นๆ หากแต่มาร์คขมวดคิ้วเข้าหากัน รู้สึกไม่มั่นใจว่าอาการจะไม่น่าเป็นห่วงจริงๆ
“นี่ตกลงไม่เป็นไรแน่นะครับหมอ?”
“คนเจ็บโอเคดีครับ
แค่ต้องเช็คประสาทรับรู้ตามขั้นตอนน่ะครับ”
“ครับ” คำพูดของหมอทำให้มาร์คพยักหน้าเข้าใจ
สุดท้ายแล้วในห้องก็เหลือเพียงแค่สองคนจริงๆ
มาร์ครู้สึกว่ากำลังถูกอีกคนลอบมองอยู่บ่อยๆ
“อยากจะพูดอะไรกับพี่รึเปล่า?” ร่างสูงถามขึ้น ทั้งๆที่ยังรู้สึกหายใจได้ไม่ทั่วท้องทุกครั้ง ยามมองหน้าหรือสบตากับอีกฝ่าย
รู้ตัวว่ามีความรู้สึกแปลกๆ
ซึ่งบางทีมันอาจเกิดขึ้นเพราะยังไม่ชินกับการได้เห็นดวงหน้ากันแบบชัดๆ
แต่อย่างไรก็ตามความรู้สึกห่วงใย หวังดี
ที่ให้ไปไม่ได้ลดน้อยลง มันยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง...
“อยู่เองได้” น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้น
แววตาของกันต์พิมุกต์ดูเป็นกังวลที่ต้องรบกวนเขาให้อยู่เฝ้า ทำให้มาร์คอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเอ็นดู
“พี่เคยพูดแล้วใช่ไหมว่าเราสนิทกันแล้ว
ในเมื่อน้องเจ็บพี่ก็ต้องดูแล มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่จำเป็นต้องเกรงใจพี่
ไม่ต้องคิดมากเข้าใจไหม?”
“...” อีกฝ่ายเงียบเหมือนยอมรับในสิ่งที่เขาพูดไป
“ฉะนั้นตอนนี้พักผ่อนซะ แล้วถ้ารู้สึกไม่ดีเจ็บตรงไหนก็รีบบอกพี่เข้าใจไหม?” งานนี้การตอบสนองต่อคำพูดของเขา คือการพยักหน้าเข้าใจ
มาร์คจึงอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา...
เขายอมรับว่ามีความสุขทุกครั้ง ที่เด็กคนนี้ยอมเปิดโลกให้เขาเข้าไปยืนเคียงข้าง...
หากแต่!
ความสุขของมาร์คต้วนต้องสะดุดลงทันทีที่มือถือมีข้อความไลน์แจ้งเตือน
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เมื่อพบว่าผู้ส่งคือแจ็คสัน
ถึงแม้แจ็คสันจะเป็นตัวป่วนประจำกลุ่ม
แต่เมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน แจ็คสันจะปล่อยให้เพื่อนๆผ่อนคลายสบายประสาทได้เต็มที่ จะไม่มีการโทรกวนหรือส่งข้อความหาใดๆทั้งสิ้น
นอกซะจากมันจะมีเรื่องอัดอั้นจนเก็บไม่อยู่!
[‘มึง...
น้องแบมแบมอ่ะ...
สวยอ่ะ...
กูจองนะ...’]
ส่งมาทั้งหมดสี่ข้อความ
และข้อความที่สี่นี้แหละ!
ทำเอารู้สึกหน้าชาไม่ชอบใจเอาเสียเลย!
“แบมแบม ...
พี่แจ็คสันน่ะคบเป็นรุ่นพี่ได้ แต่ถ้ามันจีบอย่าไปใจอ่อน มันน่ะเจ้าชู้ประตูดิน” ไม่ได้ใส่ร้ายเพื่อน ทั้งหมดที่พูดไปมันคือความจริง
กันต์พิมุกต์ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ และเขาก็มีหน้าที่คอยดูแลมันก็เท่านั้นแหละ
ภายใน E-BOOK ประกอบไปด้วย
EP 1-25
Jackson parts - อดีตของแจ็คสันกับจื่อเทา
Yugyeom&Youngjae parts - เพื่อนสนิท
Jaebum&Jinyoung parts - หักห้ามใจ
Not Alone EP1 – สู่อ้อมอก
Not Alone EP2 - ชดเชยช่วงเวลาที่ห่างกัน
Not Alone EP3 – ไม่มีใครดีไปกว่าพี่มาร์ค
Not Alone EP4 - ช่วยจินยอง
Not Alone END – กุมมือกันไว้
|
ความคิดเห็น