คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : บทที่ 8 พลทหารยาปา [7]
“นั่นสิ!
ข้าว่าแล้ว” องครักษ์หนุ่มตบฝ่ามือลงบนหน้าขา “ข้าก็คิดอยู่ว่าเจ้าเหมือนใครสักคน
ที่แท้ก็เหมือนยาบารีนี่เอง
มิน่าเจ้าถึงได้มีหน้าตาเหมือนยาบารีราวกับเป็นฝาแฝดกันเช่นนี้”
“กะ...ก็ ชะ...ใช่!”
หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว “ขะ...ข้าเป็นแฝดน้องของยาบารีน่ะสิ
หน้าตาถึงได้เหมือนกัน แต่ข้าไม่ชอบหรอกนะ ข้าเกลียดหน้าตาและหุ่นแบบนี้
มันทำให้ข้ากลายเป็นตัวตลก” หญิงสาวไหลลื่น ไหนๆ คิดจะโกหกก็ต้องแนบเนียน
ประสมโรงเออออไปเสียเลย หากผ่านวาคัคไปได้ก็คงผ่านด่านเจ้าชายไปได้เช่นกัน
วาคัคพยักหน้าน้อยๆ
อย่างเห็นใจยาปา
หากเขาเป็นชายแล้วรูปร่างอ้อนแอ้นกระเดียดไปทางหญิงเช่นนี้ก็คงกลุ้มใจน่าดู
“แล้วยาบารีเป็นอย่างไรบ้าง
ข้าไม่ได้เจอนางอีกเลยตั้งแต่นางมาบอกข้าเรื่องเชรีในวันนั้น”
“นางสบายดี ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าพอจะทราบเรื่องท่านกับ
เชรีอยู่บ้าง นางฝากมาบอกว่านางจะหาทางให้ท่านได้พบกับเชรีแน่นอน
เมื่อได้พบกับเชรีแล้ว ท่านก็ไปขอให้เจ้าชายทูปัก วีรา ทูลขอต่อองค์จักรพรรดิ
หากท่านมีพระเมตตาประทานอนุญาตก็คงดี”
“ยาบารีบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ”
หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ เธออยากช่วยให้วาคัคและเชรีสมหวังในความรัก
และที่สำคัญที่สุดเธออยากพบเชรีอีกครั้ง ดังนั้นเธอต้องคิดวางแผนให้รัดกุม
ว่าเธอจะเข้าไปพบเชรีได้อย่างไร
“หากเป็นเช่นนั้นได้ก็จะดีมาก
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพบเชรีได้ มันเสี่ยงเกินไป ข้าเคยไปป้วนเปี้ยนที่เขตแอคลาฮัวซี[1]
ของนางห้ามหลายครั้ง แต่ก็โดนขับไล่ออกมาทุกครั้ง ทหารดูแลคุ้มกันแน่นหนามาก
ไม่มีใครกล้าก้าวล้ำเข้าไปลองดี” วาคัคถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขอให้ท่านเชื่อใจยาบารี”
“ขอบใจมาก
ฝากเจ้าไปขอบใจยาบารีแทนข้าด้วย”
“ได้ขอรับ”
“ข้าไปละ วันนี้เจ้าพักผ่อนไปเถอะ
พรุ่งนี้ถึงจะเริ่มเรียนรู้งานต่างๆ”
“ข้าขอขอบคุณท่านมาก”
ยาบารีเอ่ยขอบคุณ มองร่างสูงขององครักษ์หนุ่มเดินจากไปแล้วคิดหนัก
เธอเดินไปเปิดห่อผ้าที่พกมาด้วย ด้านในคือผมเปียยาวของเธอ
“บางทีเจ้านี่อาจมีประโยชน์ก็คราวนี้แหละ...”
หญิงสาวยิ้มที่มุมปาก
ชีวิตของการเป็นแอคลาหรือนางห้ามนั้นมิได้ลำบากอะไรเลย
อันที่จริงแล้วพวกนางมีศักดิ์เหนือกว่านางกำนัลด้วยซ้ำ
เพราะถือว่าเป็นข้ารับใช้องค์สุริยเทพ
ทว่าเชรีเป็นคนเดียวที่ไม่มีความสุขและไม่ยินดีกับสิ่งที่ได้รับเอาเสียเลย
เสื้อผ้าสวยๆ เสื่อนอนอย่างดี เพื่อนใหม่มากมาย งานทอผ้าไม่หนักหากเทียบกับการทำไร่ทำสวน
ทว่านางกลับรู้สึกอ้างว้างหดหู่จนต้องแอบมานั่งร้องไห้เพียงลำพัง
นับจากนี้นางต้องครองพรหมจรรย์
ห้ามแต่งงาน ห้ามมีคนรัก
นางเจ็บปวดเมื่อต้องพลัดพรากจากคนรักไปตลอดกาล
ชาตินี้คงไม่อาจได้พบกันอีก “ท่านวาคัค ป่านนี้ท่านคงลืมข้าไปแล้ว หญิงสาวในเมืองหลวงล้วนหน้าตางดงามนัก
ข้าเป็นเพียงหญิงชาวบ้าน เข้ามาในชีวิตท่านไม่นานก็จำต้องพลัดพรากจากกัน”
หญิงสาวรำพันราวกับตัดพ้อต่อดวงจันทร์
แหงนหน้าขึ้นมองพระจันทร์ดวงโต สุกสกาวอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวบนท้องฟ้ากว้าง
ลมเย็นพัดมากระทบไหล่บางจนต้องห่อไหล่เข้าหากันด้วยความเหน็บหนาว
หยาดน้ำใสจากดวงตาไหลอาบแก้มอิ่มไม่ขาดสาย
“จันทร์เจ้าขา ข้าคิดถึงบ้าน
คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงเพื่อน คิดถึงคนรัก เหตุใดโชคชะตาของข้าจึงได้อาภัพนัก”
หญิงสาวยกมือขึ้นปิดหน้าสะอื้นไห้จนตัวโยน ความเหงาเกาะกินหัวใจราวกับโรคร้าย
นางทรมานคล้ายจะขาดหายใจ แต่กลับไม่ตาย นางยังมีชีวิตอยู่
อยู่เพื่อต่อสู้กับความคิดถึงที่แสนทรมาน
“เชรีมายืนอยู่ตรงนี้นี่เอง
ข้าตามหาจนทั่ว กลับเข้าไปข้างในเถอะ เจ้าต้องไปฝึกทอผ้าให้คล่อง เมื่อเก่งแล้วจะได้ทอพระภูษาถวายแด่องค์จักรพรรดิและพระนางโคยา”
นางห้ามหญิงวัยกลางคน แม้จะอายุมากแล้ว แต่กลับมีหน้าตาสะสวย
ผิวพรรณนวลผ่องเพราะอยู่แต่ในร่มแทบไม่เคยโดนแดด เธอรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงสอนงานให้แก่เชรี
“ข้าไม่ชอบทอผ้า ข้าชอบทำไร่
ชอบปลูกมันสำปะหลัง ชอบเก็บฝักข้าวโพดมาทำสตู ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่
ปล่อยข้ากลับไปเถอะนะ” เชรีร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย
นางมักมายืนข้างกำแพงเขตหวงห้าม
มองทหารร่างยักษ์ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูอย่างสิ้นหวัง
“อะไรกันเชรี เจ้าไม่ใช่เด็กๆ แล้ว
เจ้าควรจะปรับตัวให้ชินกับการเป็นแอคลา ชีวิตไม่ได้เป็นของเจ้าอีกต่อไป
ต่อไปนี้เจ้าต้องอุทิศทั้งตัวและจิตวิญญาณเพื่อถวายการรับใช้องค์สุริยเทพ
และพระบุตรของพระองค์ นั่นก็คือองค์จักรพรรดิและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกท่าน”
ชาวอินคานั้นถือว่าดวงอาทิตย์บนฟากฟ้าคือเทพผู้ดลบันดาลทุกสิ่ง
และดวงอาทิตย์หรือองค์สุริยเทพก็ได้ประทานพระบุตรของพระองค์ลงมาปกครองอาณาจักรแห่งนี้
และสืบทอดต่อๆ กันมาทางเชื้อสาย ซึ่งมักจะอภิเษกสมรสกันเองภายในขัตติยตระกูลเท่านั้น
“ท่านมีความสุขหรือคะที่ต้องรับใช้องค์สุริยเทพโดยไม่มีสิทธิ์เลือกชีวิตเป็นของตนเอง”
เชรีย้อนถามพี่เลี้ยงวัยกลางคนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
อีกฝ่ายเมื่อได้ยินดังนั้นก็นิ่งเงียบราวกับมีอะไรบางอย่างซุกซ่อนอยู่ในหัวใจ
“ข้าไม่มีสิทธิ์เลือกว่าต้องการหรือไม่ต้องการอะไร
เจ้าก็เช่นกันเชรี ตามข้ากลับเข้าไปข้างในเดี๋ยวนี้”
แม้จะตะคอกห้วนราวกับต้องการจะตำหนิหญิงสาวผู้อ่อนวัยกว่า
ทว่าหากจับน้ำเสียงดูจะพบว่าในน้ำเสียงนั้นสั่นเครือ
และเศร้าเสียใจไปไม่น้อยกว่าเชรีเลย...
“ข้าขอโทษค่ะ” เชรีเอ่ยเสียงแผ่วอย่างสำนึกผิด
นางไม่ใช่คนเดียวที่โศกเศร้า คนอื่นๆ ก็คงรู้สึกเช่นนาง
เพียงแต่พวกเขาเลือกที่จะไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นเท่านั้นเอง
นางก็ต้องเข้มแข็งเช่นกัน ไม่ควรอ่อนแอให้เป็นภาระของใครอีก
[1] เขตแอคลาฮัวซี
คือ บริเวณที่พักของนางห้าม ซึ่งเป็นเขตลับตาคน
(ข้อมูลจากหนังสือ
อาณาจักรลับอินคา แผ่นดินแห่งเลือดและทองคำ โดย บรรยง บุญฤทธิ์ เรียบเรียง)
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น