ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #36 : บทที่ 7 ผู้ถูกเลือก [5]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 598
      7
      9 ม.ค. 61








     

     

    “หรือว่าเชรีถูกคัดเลือกไป ไม่จริงใช่มั้ยคะโรปา”

     

    โรปาพยักหน้าช้าๆ เพียงเท่านั้นเองยาบารีก็ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น เธอมั่นใจว่าเชรีต้องไม่ยินยอมแน่ๆ ก็ในเมื่อเชรีคบหาอยู่กับองครักษ์วาคัค แล้วมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะทำอย่างไร ทั้งสองจำต้องตัดขาดกันไปทั้งที่รักกันอย่างนั้นเหรอ

     

    “ข้าจะไปตามเชรีกลับมาค่ะ”

     

    “ไม่มีประโยชน์หรอก ป่านนี้เชรีคงเข้าวังไปแล้ว เจ้าทำใจเสียเถอะ” โรปาตบลงบนไหล่ของหญิงสาวอย่างให้กำลังใจ แม้จะรู้ดีว่ายากที่จะทำใจเพราะเด็กสาวทั้งสองสนิทสนมกันมากก็ตาม

     

     

     

     

    ผ่านไปอาทิตย์กว่าทุกอย่างดูช่างเชื่องช้าจนน่าใจหาย หญิงสาวเฝ้ารอการมาขององครักษ์วาคัคเพื่อจะได้บอกเรื่องเชรีแก่เขา และในที่สุดเจ้าชายทูปัก วีรา ก็เสด็จมาที่หมู่บ้านแห่งนี้อีกครั้ง ยาบารีรีบไปที่ศาลาของหมู่บ้านทันที เธอยืนอยู่ด้านนอก จดๆ จ้องๆ มองหาวาคัค เมื่อเขาหันมาเห็นเธอก็รีบกวักมือเรียกทันที

     

    ทว่าดูเหมือนชายหนุ่มกำลังวุ่นอยู่กับการจัดระเบียบชาวบ้านที่มารอรับการรักษาให้เข้าแถวเป็นระเบียบ ดูเหมือนวันนี้ทหารและผู้ช่วยที่ติดตามเจ้าชายทูปัก วีรา จะน้อยกว่าทุกครั้ง องครักษ์หนุ่มจึงไม่มีเวลาลอบหนีออกมาได้อย่างเคย ชายหนุ่มหันมาส่งสัญญาณบอกเธอให้รอก่อน

     

    หญิงสาวจึงเดินกระสับกระส่ายไปมาอยู่ข้างศาลา โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าสายพระเนตรคมปลาบทอดพระเนตรมายังเธอด้วยความสนพระทัย

     

    กระต่ายน้อยมาทำอะไรแถวนี้ มีธุระอะไรกับวาคัคงั้นหรือเจ้าชายหนุ่มทรงครุ่นคิด ทรงเห็นสายตาของหญิงสาวจับจ้องอยู่ที่วาคัคไม่วางตาก็พานคิดไปว่าหรือทั้งสองคนจะมีใจชอบพอกัน แล้วผู้หญิงอีกคนที่วาคัคพูดถึงล่ะ หรือพระองค์เข้าพระทัยผิดไปเองว่าเป็นคนอื่น หาใช่เจ้ากระต่ายน้อย...

     

    “เจ้ามีอะไรหรือ” ในที่สุดวาคัคก็ปลีกตัวออกมาได้

     

    “ไปคุยกันที่อื่นเถอะ” ยาบารีคว้าแขนของชายหนุ่มแล้วลากให้เดินตามเธอไปอย่างลืมตัว ว่า ณ เวลานี้เธออยู่ในปี ค.ศ. 1532 หาใช่ ค.ศ. 2013 ที่หญิงชายมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ดังนั้นการที่เธอจับมือถือแขนวาคัคเช่นนั้น ทำให้คนสูงศักดิ์ที่ลอบมองอยู่ห่างๆ ไม่ค่อยพอใจนัก

     

    “มีอะไรหรือยาบารี” เมื่อยาบารีลากเขามาไกลจนลับตาคนแล้ว เขาจึงเอ่ยถาม เพราะปกติยาบารีไม่เคยมีท่าทีอยากพูดคุยกับเขามากขนาดนี้มาก่อน

     

    “เชรีถูกคัดเลือกไปเป็นนางห้ามตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ข้าติดต่อท่านไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าป่านนี้เชรีจะเป็นอย่างไรบ้าง”

     

    “หา! เจ้าว่าอะไรนะ” องครักษ์หนุ่มรู้สึกราวกับภูเขาจะถล่มลงมาตรงหน้า หูอื้อจนได้ยินเสียงรอบกายไม่ถนัด เป็นไปได้อย่างไรกัน เชรีถูกส่งเข้าวังไปแล้วงั้นหรือ

     

    “ท่านฟังไม่ผิดหรอกท่านวาคัค เชรีถูกส่งไปเป็นนางห้ามแล้ว”

     

    “โธ่! เชรี”

     

    วาคัคเซถอยหลังราวกับยืนไม่อยู่ นี่เขาช้าไปงั้นหรือ เขาหมายใจว่าคบหากันไปอีกสักพักจะให้เจ้าชายทูปัก วีรา มาสู่ขอเชรีกับพ่อแม่ของนางให้เขา เพื่อที่จะได้แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณี จะรับนางเข้าไปอยู่กับเขาในตัวเมืองกุสโก และคงได้เห็นใบหน้าหวานเมื่อยามตื่นนอนทุกเช้า

     

    ทว่า...ทุกอย่างที่วาดหวังไว้กลับพังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี

     

    นางห้าม! คือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนในอาณาจักรนี้มิอาจเอื้อม หากผู้ใดกระทำฝ่าฝืนหรือแม้แต่พยายามเข้าไปยังสถานที่ที่นางห้ามอาศัยอยู่ จะต้องถูกลงโทษเสียบร่างประจานหรือถูกแขวนคอจนถึงแก่ชีวิต

     

    โอ้...ความรักที่ถูกพลัดพรากมันช่างเจ็บปวดจนเจียนบ้าเช่นนี้เอง

     

    “ท่านวาคัค ข้าเสียใจด้วย ไม่ใช่แต่ท่านที่เสียคนรักไป ข้าเองก็เสียเพื่อนที่แสนดีไปเช่นกัน” ยาบารีปลอบโยนชายหนุ่ม ทว่านาทีนี้วาคัคแทบไม่ได้ยินเสียงของหญิงสาว เขาจมอยู่กับความคิดและความผิดหวังของตนเอง

     

    “เพราะข้าเอง เพราะข้ามัวแต่ชักช้า จึงทำให้ต้องเสียเชรีไป”

     

    “อย่าโทษตัวเองเลย คิดเสียว่ามันเป็นโชคชะตา ทุกอย่างได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว” เป็นคำพูดปลอบใจองครักษ์หนุ่ม ทว่าความหมายในถ้อยคำนั้นราวจะปลอบใจตัวเองเช่นกัน ทุกอย่างมันเป็นโชคชะตา ใครจะเชื่อเล่าว่าเด็กสาวลูกครึ่งไทย-เปรู อายุ 18 ปี จะหลงกาลเวลามาอยู่ในอาณาจักรอินคาเมื่อหลายร้อยปีก่อนได้

     

    “ข้าขอบใจเจ้ามากนะยาบารี ที่นำข่าวนี้มาบอกข้า” แม้จะเจ็บปวด แต่ชายชาติทหารก็ไม่มีน้ำตาสักหยด มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่หมองเศร้าจนน่าใจหาย เขาไม่เคยมีความรัก หรือแม้แต่ต้องตาต้องใจหญิงคนไหน จนกระทั่งมาเจอเชรี แต่แล้วนางกับเขาก็มีอันต้องพลัดพรากจากกันไปตลอดกาล...

     

    แล้วเขาจะรักใครได้อีก ในเมื่อรักแรกของเขาก็มีอันต้องผิดหวังในระยะเวลาอันสั้น

     

    “ข้าคงต้องไปก่อน หายมานานเจ้าชายจะกริ้วเอาได้” องครักษ์หนุ่มขอตัวแล้วเดินกลับไปที่ศาลา ยาบารีมองตามหลังชายหนุ่ม ไหล่ห่อลู่ลงไม่ผึ่งผายทำให้เธอยิ่งสงสารเขาจับใจ

     

     










    ฝากแฟนเพจด้วยนะคะ 
    กดที่รูปการ์ตูนสะมะเรียได้เลยค่ะ



    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×