คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : บทที่ 7 ผู้ถูกเลือก [5]
“หรือว่าเชรีถูกคัดเลือกไป
ไม่จริงใช่มั้ยคะโรปา”
โรปาพยักหน้าช้าๆ
เพียงเท่านั้นเองยาบารีก็ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น เธอมั่นใจว่าเชรีต้องไม่ยินยอมแน่ๆ
ก็ในเมื่อเชรีคบหาอยู่กับองครักษ์วาคัค แล้วมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะทำอย่างไร
ทั้งสองจำต้องตัดขาดกันไปทั้งที่รักกันอย่างนั้นเหรอ
“ข้าจะไปตามเชรีกลับมาค่ะ”
“ไม่มีประโยชน์หรอก
ป่านนี้เชรีคงเข้าวังไปแล้ว เจ้าทำใจเสียเถอะ”
โรปาตบลงบนไหล่ของหญิงสาวอย่างให้กำลังใจ
แม้จะรู้ดีว่ายากที่จะทำใจเพราะเด็กสาวทั้งสองสนิทสนมกันมากก็ตาม
ผ่านไปอาทิตย์กว่าทุกอย่างดูช่างเชื่องช้าจนน่าใจหาย
หญิงสาวเฝ้ารอการมาขององครักษ์วาคัคเพื่อจะได้บอกเรื่องเชรีแก่เขา
และในที่สุดเจ้าชายทูปัก วีรา ก็เสด็จมาที่หมู่บ้านแห่งนี้อีกครั้ง
ยาบารีรีบไปที่ศาลาของหมู่บ้านทันที เธอยืนอยู่ด้านนอก จดๆ จ้องๆ มองหาวาคัค
เมื่อเขาหันมาเห็นเธอก็รีบกวักมือเรียกทันที
ทว่าดูเหมือนชายหนุ่มกำลังวุ่นอยู่กับการจัดระเบียบชาวบ้านที่มารอรับการรักษาให้เข้าแถวเป็นระเบียบ
ดูเหมือนวันนี้ทหารและผู้ช่วยที่ติดตามเจ้าชายทูปัก วีรา จะน้อยกว่าทุกครั้ง
องครักษ์หนุ่มจึงไม่มีเวลาลอบหนีออกมาได้อย่างเคย
ชายหนุ่มหันมาส่งสัญญาณบอกเธอให้รอก่อน
หญิงสาวจึงเดินกระสับกระส่ายไปมาอยู่ข้างศาลา
โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าสายพระเนตรคมปลาบทอดพระเนตรมายังเธอด้วยความสนพระทัย
‘กระต่ายน้อยมาทำอะไรแถวนี้
มีธุระอะไรกับวาคัคงั้นหรือ’ เจ้าชายหนุ่มทรงครุ่นคิด
ทรงเห็นสายตาของหญิงสาวจับจ้องอยู่ที่วาคัคไม่วางตาก็พานคิดไปว่าหรือทั้งสองคนจะมีใจชอบพอกัน
แล้วผู้หญิงอีกคนที่วาคัคพูดถึงล่ะ หรือพระองค์เข้าพระทัยผิดไปเองว่าเป็นคนอื่น
หาใช่เจ้ากระต่ายน้อย...
“เจ้ามีอะไรหรือ”
ในที่สุดวาคัคก็ปลีกตัวออกมาได้
“ไปคุยกันที่อื่นเถอะ”
ยาบารีคว้าแขนของชายหนุ่มแล้วลากให้เดินตามเธอไปอย่างลืมตัว ว่า ณ เวลานี้เธออยู่ในปี
ค.ศ. 1532 หาใช่ ค.ศ. 2013 ที่หญิงชายมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน
ดังนั้นการที่เธอจับมือถือแขนวาคัคเช่นนั้น ทำให้คนสูงศักดิ์ที่ลอบมองอยู่ห่างๆ
ไม่ค่อยพอใจนัก
“มีอะไรหรือยาบารี”
เมื่อยาบารีลากเขามาไกลจนลับตาคนแล้ว เขาจึงเอ่ยถาม เพราะปกติยาบารีไม่เคยมีท่าทีอยากพูดคุยกับเขามากขนาดนี้มาก่อน
“เชรีถูกคัดเลือกไปเป็นนางห้ามตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว
ข้าติดต่อท่านไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าป่านนี้เชรีจะเป็นอย่างไรบ้าง”
“หา! เจ้าว่าอะไรนะ”
องครักษ์หนุ่มรู้สึกราวกับภูเขาจะถล่มลงมาตรงหน้า
หูอื้อจนได้ยินเสียงรอบกายไม่ถนัด เป็นไปได้อย่างไรกัน
เชรีถูกส่งเข้าวังไปแล้วงั้นหรือ
“ท่านฟังไม่ผิดหรอกท่านวาคัค
เชรีถูกส่งไปเป็นนางห้ามแล้ว”
“โธ่!
เชรี”
วาคัคเซถอยหลังราวกับยืนไม่อยู่
นี่เขาช้าไปงั้นหรือ เขาหมายใจว่าคบหากันไปอีกสักพักจะให้เจ้าชายทูปัก วีรา มาสู่ขอเชรีกับพ่อแม่ของนางให้เขา
เพื่อที่จะได้แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณี
จะรับนางเข้าไปอยู่กับเขาในตัวเมืองกุสโก
และคงได้เห็นใบหน้าหวานเมื่อยามตื่นนอนทุกเช้า
ทว่า...ทุกอย่างที่วาดหวังไว้กลับพังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี
นางห้าม!
คือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนในอาณาจักรนี้มิอาจเอื้อม หากผู้ใดกระทำฝ่าฝืนหรือแม้แต่พยายามเข้าไปยังสถานที่ที่นางห้ามอาศัยอยู่
จะต้องถูกลงโทษเสียบร่างประจานหรือถูกแขวนคอจนถึงแก่ชีวิต
โอ้...ความรักที่ถูกพลัดพรากมันช่างเจ็บปวดจนเจียนบ้าเช่นนี้เอง
“ท่านวาคัค ข้าเสียใจด้วย
ไม่ใช่แต่ท่านที่เสียคนรักไป ข้าเองก็เสียเพื่อนที่แสนดีไปเช่นกัน”
ยาบารีปลอบโยนชายหนุ่ม ทว่านาทีนี้วาคัคแทบไม่ได้ยินเสียงของหญิงสาว
เขาจมอยู่กับความคิดและความผิดหวังของตนเอง
“เพราะข้าเอง เพราะข้ามัวแต่ชักช้า
จึงทำให้ต้องเสียเชรีไป”
“อย่าโทษตัวเองเลย
คิดเสียว่ามันเป็นโชคชะตา ทุกอย่างได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว” เป็นคำพูดปลอบใจองครักษ์หนุ่ม
ทว่าความหมายในถ้อยคำนั้นราวจะปลอบใจตัวเองเช่นกัน ทุกอย่างมันเป็นโชคชะตา
ใครจะเชื่อเล่าว่าเด็กสาวลูกครึ่งไทย-เปรู อายุ 18 ปี จะหลงกาลเวลามาอยู่ในอาณาจักรอินคาเมื่อหลายร้อยปีก่อนได้
“ข้าขอบใจเจ้ามากนะยาบารี
ที่นำข่าวนี้มาบอกข้า” แม้จะเจ็บปวด แต่ชายชาติทหารก็ไม่มีน้ำตาสักหยด
มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่หมองเศร้าจนน่าใจหาย เขาไม่เคยมีความรัก
หรือแม้แต่ต้องตาต้องใจหญิงคนไหน จนกระทั่งมาเจอเชรี แต่แล้วนางกับเขาก็มีอันต้องพลัดพรากจากกันไปตลอดกาล...
แล้วเขาจะรักใครได้อีก
ในเมื่อรักแรกของเขาก็มีอันต้องผิดหวังในระยะเวลาอันสั้น
“ข้าคงต้องไปก่อน
หายมานานเจ้าชายจะกริ้วเอาได้” องครักษ์หนุ่มขอตัวแล้วเดินกลับไปที่ศาลา
ยาบารีมองตามหลังชายหนุ่ม ไหล่ห่อลู่ลงไม่ผึ่งผายทำให้เธอยิ่งสงสารเขาจับใจ
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น