ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 4 หลงกาลเวลา [1]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 756
      9
      20 พ.ย. 60










    บทที่ 4

    หลงกาลเวลา

     

     

    สายลมจากทุ่งหญ้าพัดแผ่วลู่ปลายต้นหญ้าให้เอนลู่ไปในทิศทางเดียวกันราวกับผืนผ้าสีเขียวขนาดใหญ่ ร่างบอบบางนอนอยู่บนผืนหญ้าที่หนาราวกับผืนพรม หญิงสาวนอนหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ได้ เธอพลิกตัวขึ้นนอนหงาย มองเห็นท้องฟ้าสีคราม และก้อนเมฆลอยเอื่อยอย่างอ้อยอิ่งด้วยความมึนงง แล้วจู่ๆ ก็มีมือเอื้อมมาจับไหล่แล้วเขย่าตัวหญิงสาว

     

    “แม่หนู...เจ้ามานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง”

     

    ยาบารีขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจภาษาที่หญิงชรากำลังเอ่ยถามเธออยู่ในขณะนี้ เธอค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วก็ต้องยกมือขึ้นกุมศีรษะเมื่อเธอรู้สึกปวดแปลบราวกับโดนทุบแรงๆ

     

    “เป็นอะไรมากมั้ยแม่หนู” หญิงชรามองหญิงสาวด้วยความแปลกใจ สายตาฝ้าฟางมองหน้าเธออย่างพินิจพิจารณาจนกลายเป็นยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วจ้องหญิงสาวเขม็ง

     

    “ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด ที่นี่ที่ไหนคะ” หญิงสาวพยายามพูดภาษาสเปนซึ่งเป็นภาษาราชการของเปรู หญิงชราตรงหน้าแต่งกายด้วยเสื้อผ้าย้อนยุคแบบชาวอินคา เสื้อสีสันสดใส ผ้าเนื้อหนาทอเป็นลายตารางสวมใส่ชิ้นเดียวแล้วมีเชือกหนาผูกไว้ที่เอวหลวมๆ ผมสีดอกเลาขาวโพลนไปทั้งศีรษะ ใบหน้าเหี่ยวย่นและผิวกร้านแดดทำให้หญิงชราตรงหน้าดูแก่กว่าวัย

     

    “เจ้ามาจากเผ่าไหนกัน แล้วเดินทางมาถึงที่นี่ได้อย่างไร”

     

    หญิงสูงวัยมีท่าทางตกอกตกใจอย่างเห็นได้ชัด ถอยห่างจากหญิงสาวราวกับหวาดระแวง ชนต่างเผ่าไม่มีสิทธิ์มาที่มาชูปิกชู เพราะถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พำนักพักผ่อนของกษัตริย์ผู้เป็นพระโอรสขององค์สุริยเทพ ชนเผ่าอื่นหากเข้ามาอาศัยอาณาจักรอินคาจะมีสิทธิ์อยู่ที่เมืองหลวงไม่สามารถเข้ามาถึงที่นี่ได้เป็นอันขาด

     

    “คุณยายพูดภาษาสเปนได้มั้ย หรือพูดภาษาอังกฤษ” ยาบารีพยายามชวนคุยเพื่อที่จะถามว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ตรงนี้ไม่ใช่
    โบราณสถานที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างจากหินก้อนใหญ่ แต่มันคือทุ่งหญ้ากว้างขวาง น่าจะเป็นพื้นที่สำหรับทำการเกษตร แล้วคำถามก็วิ่งวุ่นอยู่ในหัวสมอง

     

    เธอมานอนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ในเมื่อก่อนหน้านี้เธออยู่ที่
    มาชูปิกชูและกำลังยืนดูอินติฮวนตานา
    !

     

    “เจ้ารู้หรือไม่ การลักลอบเข้ามาเช่นนี้มีโทษสถานใด รีบออกไปจากที่นี่เสีย ถ้าไม่อยากตาย” หญิงชราทั้งผลักทั้งดึงให้หญิงสาวลุกขึ้นยืน ก่อนจะดุนหลังให้หญิงสาวออกเดิน

     

    ยาบารีหมุนซ้ายหมุนขวาด้วยอาการมึนงง มองไปทางไหนก็มีแต่ทุ่งหญ้าและป่าเขา แล้วนี่อาจารย์โซลาโน่ไปไหน ทำไมเขาถึงปล่อยเธอนอนอยู่ตรงนี้คนเดียว แล้วนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ล่ะ

     

    “คุณยาย คุณยายเป็นคนท้องถิ่นแถวนี้ใช่มั้ยคะ พอจะบอกหนูได้มั้ยว่าย่านโรงแรมในเมืองอูรูบัมบาต้องไปทางไหน หนูต้องไปขึ้นรถมินิบัสตรงไหนคะ” หญิงสาวพยายามพูดภาษาสเปนช้าๆ ด้วยเข้าใจว่าคุณยายน่าจะพอฟังออกบ้าง เพราะถึงอย่างไรประเทศเปรูก็ใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ

     

    “ไป! ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวพวกทหารมาเห็นข้าจะพลอยซวยไปด้วย” หญิงชราโบกมือไล่ด้วยท่าทางไม่พอใจ

     

    แม้ยาบารีจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่จากภาษากายก็ทำให้หญิงสาวเข้าใจว่าหญิงชรากำลังไม่พอใจเธอ และกำลังไล่เธอไปให้พ้นๆ จากที่นี่

     

    “เดี๋ยวสิคะคุณยายบอกทางหนูก่อน หนูจะไปขึ้นรถค่ะ มินิบัส...หนูต้องไปทางไหนคะ กรุณาบอกทางหนูด้วยเถอะนะคะ” ยาบารีพยายามอ้อนวอนแต่หญิงชรากลับโบกมือไล่และไม่ยอมฟังคำขอร้องจากเธอ เมื่อหญิงชราทำท่าจะเดินหนีหญิงสาวก็รีบปราดเข้าไปจับแขนเหี่ยวย่นเอาไว้ แล้วพยายามทำท่าทางให้หญิงชรารู้ว่าเธอต้องการไปขึ้นรถบัส ทว่าหญิงสูงวัยกลับสะบัดมือออกแล้วก้าวเท้าหนีไปอย่างรวดเร็ว

     

    “ทำไมถึงได้ใจร้ายแบบนี้ นักท่องเที่ยวหลงทางน่าจะมีน้ำใจกันบ้าง” หญิงสาวโอดครวญกับตนเอง ก่อนจะเริ่มออกเดิน คิดว่าเดินไปเรื่อยๆ คงพอจะมีใครให้ถามทางบ้าง

     

    มันน่าแปลกเสียจนหญิงสาวเริ่มท้อ เบื้องหน้าคือไร่ข้าวโพด ไร่มันสำปะหลัง และฟาร์มอัลปากาเต็มไปหมด เธอไม่เคยรู้เลยว่ารัฐบาลเปรูเปิดให้ชาวบ้านขึ้นมาทำการเกษตรกันบนยอดเขามาชูปิกชูด้วย หากเป็นระหว่างทางในเมืองอูรูบัมบายังพอเป็นไปได้บ้าง แต่ที่มาชูปิกชูมันดูผิดปกติเกินไป หรือว่าตรงนี้รัฐบาลได้จำลองขึ้นมาเพื่อให้รู้ว่าในอดีต
    มาชูปิกชูเป็นอย่างไร

     







    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×