บทที่
4
หลงกาลเวลา
สายลมจากทุ่งหญ้าพัดแผ่วลู่ปลายต้นหญ้าให้เอนลู่ไปในทิศทางเดียวกันราวกับผืนผ้าสีเขียวขนาดใหญ่
ร่างบอบบางนอนอยู่บนผืนหญ้าที่หนาราวกับผืนพรม
หญิงสาวนอนหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ได้ เธอพลิกตัวขึ้นนอนหงาย มองเห็นท้องฟ้าสีคราม
และก้อนเมฆลอยเอื่อยอย่างอ้อยอิ่งด้วยความมึนงง แล้วจู่ๆ
ก็มีมือเอื้อมมาจับไหล่แล้วเขย่าตัวหญิงสาว
“แม่หนู...เจ้ามานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง”
ยาบารีขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจภาษาที่หญิงชรากำลังเอ่ยถามเธออยู่ในขณะนี้
เธอค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง
แล้วก็ต้องยกมือขึ้นกุมศีรษะเมื่อเธอรู้สึกปวดแปลบราวกับโดนทุบแรงๆ
“เป็นอะไรมากมั้ยแม่หนู” หญิงชรามองหญิงสาวด้วยความแปลกใจ
สายตาฝ้าฟางมองหน้าเธออย่างพินิจพิจารณาจนกลายเป็นยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วจ้องหญิงสาวเขม็ง
“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด
ที่นี่ที่ไหนคะ” หญิงสาวพยายามพูดภาษาสเปนซึ่งเป็นภาษาราชการของเปรู
หญิงชราตรงหน้าแต่งกายด้วยเสื้อผ้าย้อนยุคแบบชาวอินคา เสื้อสีสันสดใส
ผ้าเนื้อหนาทอเป็นลายตารางสวมใส่ชิ้นเดียวแล้วมีเชือกหนาผูกไว้ที่เอวหลวมๆ
ผมสีดอกเลาขาวโพลนไปทั้งศีรษะ
ใบหน้าเหี่ยวย่นและผิวกร้านแดดทำให้หญิงชราตรงหน้าดูแก่กว่าวัย
“เจ้ามาจากเผ่าไหนกัน
แล้วเดินทางมาถึงที่นี่ได้อย่างไร”
หญิงสูงวัยมีท่าทางตกอกตกใจอย่างเห็นได้ชัด
ถอยห่างจากหญิงสาวราวกับหวาดระแวง ชนต่างเผ่าไม่มีสิทธิ์มาที่มาชูปิกชู
เพราะถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พำนักพักผ่อนของกษัตริย์ผู้เป็นพระโอรสขององค์สุริยเทพ
ชนเผ่าอื่นหากเข้ามาอาศัยอาณาจักรอินคาจะมีสิทธิ์อยู่ที่เมืองหลวงไม่สามารถเข้ามาถึงที่นี่ได้เป็นอันขาด
“คุณยายพูดภาษาสเปนได้มั้ย
หรือพูดภาษาอังกฤษ” ยาบารีพยายามชวนคุยเพื่อที่จะถามว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน
ตรงนี้ไม่ใช่
โบราณสถานที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างจากหินก้อนใหญ่ แต่มันคือทุ่งหญ้ากว้างขวาง
น่าจะเป็นพื้นที่สำหรับทำการเกษตร แล้วคำถามก็วิ่งวุ่นอยู่ในหัวสมอง
เธอมานอนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
ในเมื่อก่อนหน้านี้เธออยู่ที่
มาชูปิกชูและกำลังยืนดูอินติฮวนตานา!
“เจ้ารู้หรือไม่ การลักลอบเข้ามาเช่นนี้มีโทษสถานใด
รีบออกไปจากที่นี่เสีย ถ้าไม่อยากตาย” หญิงชราทั้งผลักทั้งดึงให้หญิงสาวลุกขึ้นยืน
ก่อนจะดุนหลังให้หญิงสาวออกเดิน
ยาบารีหมุนซ้ายหมุนขวาด้วยอาการมึนงง
มองไปทางไหนก็มีแต่ทุ่งหญ้าและป่าเขา แล้วนี่อาจารย์โซลาโน่ไปไหน
ทำไมเขาถึงปล่อยเธอนอนอยู่ตรงนี้คนเดียว แล้วนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ล่ะ
“คุณยาย
คุณยายเป็นคนท้องถิ่นแถวนี้ใช่มั้ยคะ
พอจะบอกหนูได้มั้ยว่าย่านโรงแรมในเมืองอูรูบัมบาต้องไปทางไหน หนูต้องไปขึ้นรถมินิบัสตรงไหนคะ”
หญิงสาวพยายามพูดภาษาสเปนช้าๆ ด้วยเข้าใจว่าคุณยายน่าจะพอฟังออกบ้าง
เพราะถึงอย่างไรประเทศเปรูก็ใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ
“ไป! ออกไปได้แล้ว
เดี๋ยวพวกทหารมาเห็นข้าจะพลอยซวยไปด้วย” หญิงชราโบกมือไล่ด้วยท่าทางไม่พอใจ
แม้ยาบารีจะฟังไม่รู้เรื่อง
แต่จากภาษากายก็ทำให้หญิงสาวเข้าใจว่าหญิงชรากำลังไม่พอใจเธอ
และกำลังไล่เธอไปให้พ้นๆ จากที่นี่
“เดี๋ยวสิคะคุณยายบอกทางหนูก่อน
หนูจะไปขึ้นรถค่ะ มินิบัส...หนูต้องไปทางไหนคะ กรุณาบอกทางหนูด้วยเถอะนะคะ”
ยาบารีพยายามอ้อนวอนแต่หญิงชรากลับโบกมือไล่และไม่ยอมฟังคำขอร้องจากเธอ
เมื่อหญิงชราทำท่าจะเดินหนีหญิงสาวก็รีบปราดเข้าไปจับแขนเหี่ยวย่นเอาไว้
แล้วพยายามทำท่าทางให้หญิงชรารู้ว่าเธอต้องการไปขึ้นรถบัส
ทว่าหญิงสูงวัยกลับสะบัดมือออกแล้วก้าวเท้าหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ทำไมถึงได้ใจร้ายแบบนี้
นักท่องเที่ยวหลงทางน่าจะมีน้ำใจกันบ้าง” หญิงสาวโอดครวญกับตนเอง
ก่อนจะเริ่มออกเดิน คิดว่าเดินไปเรื่อยๆ คงพอจะมีใครให้ถามทางบ้าง
มันน่าแปลกเสียจนหญิงสาวเริ่มท้อ
เบื้องหน้าคือไร่ข้าวโพด ไร่มันสำปะหลัง และฟาร์มอัลปากาเต็มไปหมด
เธอไม่เคยรู้เลยว่ารัฐบาลเปรูเปิดให้ชาวบ้านขึ้นมาทำการเกษตรกันบนยอดเขามาชูปิกชูด้วย
หากเป็นระหว่างทางในเมืองอูรูบัมบายังพอเป็นไปได้บ้าง
แต่ที่มาชูปิกชูมันดูผิดปกติเกินไป
หรือว่าตรงนี้รัฐบาลได้จำลองขึ้นมาเพื่อให้รู้ว่าในอดีต
มาชูปิกชูเป็นอย่างไร
| เสน่หาอินคา | เพียงฤทัย | www.mebmarket.com | ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน | |
|
| ซากุระผลิที่กลางใจ | เพียงฤทัย | www.mebmarket.com | หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ | |
|
| ดวงใจปฏิพัทธ์ | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง | |
|
| มายามรณะ | รางนาก | www.mebmarket.com | ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล... | |
|
| มะนาวซ่อนหวาน | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว | |
|
| มนตราสีกุหลาบ | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน... | |
|
ความคิดเห็น