คืนระทมของพ่อตัวยุ่ง - คืนระทมของพ่อตัวยุ่ง นิยาย คืนระทมของพ่อตัวยุ่ง : Dek-D.com - Writer

    คืนระทมของพ่อตัวยุ่ง

    โดย aoikotori

    ฟิคสั้นๆ เรื่องราวบางมุมของหนุ่มๆเดอะสตาร์ 6 กัน ริท โตโน่ เซน ที่อาจทำให้คุณต้องอมยิ้ม ^^

    ผู้เข้าชมรวม

    918

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    918

    ความคิดเห็น


    17

    คนติดตาม


    7
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.พ. 54 / 01:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อริทที่กลัวผีขนาดหนักต้องอยู่คนเดียวในคอนโดในคืนที่แสนที่จะระทมสุดๆ ใครจะช่วยเขาได้ละทีนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      "กูขอโทษจริงๆว่ะริท แต่วันนี้ยังไงกูก็ต้องค้างกับพ่อกับแม่"

       

      เสียงนุ่มทางปลายสายบอกคำขอโทษพร้อมเหตุผลไม่ต่ำกว่าสามรอบแล้ว หนุ่มร่างเล็กที่กำบีบีสีเขียวไว้แนบหูมีสีหน้าปั้นยาก ใจหนึ่ง เขาก็ยอมรับในเหตุผลของเพื่อน นานๆทีพอแม่ของเซนจะลงมากรุงเทพฯสักที จะให้ลูกกตัญญูอย่างไอ้เซนมันทอดทิ้งไม่ดูแลพ่อแม่ได้ยังไงกัน...

       

      แต่อีกใจหนึ่ง วิญญาณของเด็กดื้อเอาแต่ใจก็เข้าสิงอยู่ครึ่งร่างเหมือนกัน

       

      ใช่...ริทพร้อมจะเข้าใจเซนนะ ว่าเซนจะต้องไปค้างกับพ่อกับแม่...

       

      แต่ทำไมต้องเป็นวันที่ทั้งพี่โตโน่ทั้งกันไม่อยู่ด้วยกันทั้งคู่ด้วยละ!!!

       

      แล้วยิ่งช่วงนี้มันมีอะไรแปลกๆหลายอย่างด้วยสิ...

       

      "ไม่เป็นไรเซน กูเข้าใจ เดี๋ยวกูจะพยายามรีบๆนอน..."

       

      แม้ในใจจะอยากร้องโวยวาย แต่ก็ต้องข่มใจไว้ ไอ้เซนเป็นคนดีเกินกว่าที่ริทจะไปวีนใส่มันได้ลง...

       

      "เออ มึงอย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกด้วยล่ะ เดี๋ยวกองถ่ายรอ เดียวพี่แนนก็ได้มาแงะจากที่นอนอีก เออละอีกอย่าง ตามึงอะจะเป็นแพนด้า..."

       

      "เออๆๆ กูรู้แล้ว" ริทบอกปัด เขาเคยชินกับการดูแลของเซนแล้ว เซนผู้เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนทุกคนไปซะทุกเรื่อง...

       

      "งั้นกูปิดมือถือแล้วนะ จะเข้าโรงหนังแล้ว อย่าไปคิดมากล่ะ..."

       

      "เออๆ มึงอย่าย้ำดิวะ!" ริทแหว ก่อนที่จะตัดสัญญาณมือถือไปพร้อมอาการขนลุกแบบเล็กๆ...

       

      การที่เซนกลับมาอยู่ที่คอนโดเดียวกับริทและพี่โตโน่อีกครั้ง ทำให้ริทมีความสุขขึ้นมาก พี่โตโน่ก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน นอกจากเหตุผลที่ว่าคิดถึงเพื่อนแล้ว เหตุผลในทางชั่วร้ายก็มี ก็คือ ห้องที่รกรุงรังดูสะอาดตาขึ้นมากทีเดียว...

       

      แต่สำหรับริทแล้ว มีเหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่านั้น เหตุผลก็คือ เขาจะได้ไม่ต้องอยู่ในสภาพนอนคนเดียวอีก...

       

      ตั้งแต่รู้ว่าพี่โตโน่กับกันถ่ายละครเรื่องเดียวกันและต้องออกต่าง จังหวัดเป็นว่าเล่น มันก็ทำให้ริทบ่นไม่หยุดปาก จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ริทเริ่มเงียบเสียงลงบ้างเพราะเซนมาอยู่ด้วย...

       

      อย่างน้อย อะไรๆที่เป็นความกลัวลึกๆในใจของเขาจะได้ทุเลาเบาบางลงไปบ้าง...!!!

       

      เหตุผลลึกๆที่ริทไม่กล้าบอกใคร เหตุผลที่ทำให้ริทหวั่นใจถึงขั้นต้องขอไปนอนบ้านกันบ้างบางโอกาส...มันก็คือ...

       

      ...เรื่องผี...นี่แหละ...

       

      อาจฟังแล้วน่าขำ ทั้งริทและพี่โตโน่เคยย้ายห้องมาแล้วรอบหนึ่งด้วยสาเหตุ ของเรื่องลึกลับ ในตอนนั้นพี่โตโน่เหมือนว่าจะคล้อยตามที่ริทคิด แต่หนหลังนี้ ริทกลับได้รับคำตอบว่าตัวเอง "เพ้อเจ้อ" ไปคนเดียวมากกว่า

       

      ก็ไอ้ผีบ้านี่ มันจำเพาะเจาะจงมาสำแดงฤทธื์เดชตอนริทอยู่คนเดียวด้วยนี่สิ มันช่างเกินจะทานทนจริงๆ...!!!

       

      วางหูโทรศัพท์จากเซนไปก็ขนลุกไป สรุปคืนนี้ นอนคนเดียวแบบสมบูรณ์แบบ ตายแน่...ตายแน่ๆกู...!!!

       

      ........................................

       

      "คัท~! โอเค พักได้!"

       

      สิ้น เสียงประกาศิตของพี่สันต์ผู้กำกับ กันก็แทบจะกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ ในที่สุด คิวที่วุ่นวาย และบทที่ยาวเหยียดในซีนนี้ก็ผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยไม่ ต้องเทค วันนี้ช่างโชคดีเสียจริง หนุ่มผิวเข้มเดินมานั่งแปะตรงที่นั่งหลังกล้อง พลางหยิบแก้วน้ำที่มีชื่อตัวเองขึ้นมาดื่มแก้กระหาย

       

      "เป็นไงวะ รอดตัวแล้วนี่หว่า ไอ้ริน!"

       

      เสียงเหน่อๆแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน "แน่นอน ไอ้แก้ว!" กันร้องทักกลับไปพร้อมรอยยิ้มกว้าง พี่ชายคนโก้ของเขา...พี่โตโน่

       

      "วันนี้ เก่งนะมึงน่ะ เมพๆๆ!!!" โตโน่ส่งเสียงแซว "ดีใจด้วยนะ ได้พักละ ตอนนี้ก็..." โตโน่ก้มลงมองนาฬิกา "ตีหนึ่ง เท่านั้นเอง มึงยังได้นอนอีกตั้งสี่ชั่วโมง"

       

      "เออ ใช่ คิวตีห้า" กันพึมพำ "พี่สันต์ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ตั้งแต่สี่โมงเย็นแล้ว แล้วพี่โตโน่จะถึงกี่โมงอะ วันนี้"

       

      "ยัง ไม่รู้เลยว่ะ" หนุ่มตี๋คนโก้ตอบ พลางยกแก้วน้ำที่มีชื่อตัวเองติดขึ้นดื่มบ้าง "ก็หวังว่า มันจะไม่ยืดเยื้อนะ จะได้นงได้นอนมั่ง วันก่อนไม่ไหวว่ะ กูจำจนตายเลย กระทิงแดงกะเกลือแร่!"

       

      หนุ่มแก้มบุ๋มหัวเราะเอิ้ก "ดีแล้วพี่ ไงก็เป็นบทเรียนไง งั้นกันไปนอนก่อนนะพี่ ขอให้เสร็จไวๆนะ"

       

      ว่า พลางก็ตบบ่าให้กำลังใจพี่ชายไปเบาๆ สีหน้าของพี่โตโน่ดูเพลียๆ แต่กันเห็นแววตาของพี่แกดูมุ่งมั่นมากมาย มันเหมือนมีดาวระยิบระยับอยู่ในนั้น...ครับ กันรู้ว่าพี่กำลังใจดี

       

      "เออ สู้เว้ย!" หนุ่มตี๋ตะโกนเรียกความมั่นใจก่อนที่จะคว้าบทเดินไปทางหนึ่ง ส่วนหนุ่มผิวเข้มก็เตรียมมุ่งหน้าไปทางรถตู้...สถานที่พักผ่อนที่เดียวในขณะ นี้ แต่ขณะนั้นเอง...

       

      "อีกนานไหมเธอจะทำใจได้หรือเปล่า..."

       

      เสียง เพลงชาติประจำตัวดังมาจากกระเป๋ากางเกง ลางสังหรณ์แวบขึ้นมา กันอมยิ้ม พลางนึกจินตนาการ ใครกันนะ...โทรมาป่านนี้...คิดจบ ล้วงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบมือถือขึ้นมาดู...แล้วเขาก็ต้องอมยิ้ม...

       

      นั่นไงละ คิดไว้ไม่มีผิด...

       

      "มีไรวะ ไม่หลับไม่นอน!" ส่งเสียงโวยคล้ายจะดุผ่านปลายสายไป "กูได้ข่าวพรุ่งนี้มึงมีถ่ายเช้านี่ คุณจอห์น!!!"

       

      "ก็...กู...นอนไม่หลับนี่..." เสียงสั่นเครือผ่านมาอีกด้านของโทรศัพท์ "ก็ที่กูเคยบอกมึงไง ว่ากูกลัวๆ กูว่ามันมาอีกแล้ว!!!"

       

      "เอ๋า อะไรวะ แล้วไอ้เซนไปไหนซะละ" กันยิ้มขำจนเห็นแก้มบุ๋มชัด

       

      "ไอ้เซนมันไปนอนกับพ่อกับแม่มันดิ แล้วต้องเป็นวันนี้ด้วยนะ กูจะเถียงก็ไม่ได้ กูละอยากจะโวย แต่ก็โวยไม่ได้!!!"

       

      "เออ ละมาโวยกับกูเนี่ยนะ เยี่ยม!" กันตอกกลับ "แล้วมึงทำไมโทรมาหากูล่ะ ไม่โทรหาพี่โตโน่?"

       

      ในใจพอรู้คำตอบรางๆ แต่กระนั้น ก็ยังหวังจะฟังคำตอบชัดๆจากคนตัวเล็กอีกที ว่าจะตรงกับที่เขาคิดในใจไหม...

       

      "ก็โทรหาพี่โตโน่ กูก็โดนด่าดิ กูโทรหามึง กูรู้ มึงไม่ด่ากูหรอก..."

       

      ปลายเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด กันหัวเราะหึหึ ไอ้ริทนี่มันซื่อเสียจริงหนอ...

       

      "มึงรู้ได้ไงว่ากูไม่ด่า สงสัยปกติที่กูด่านี่ มึงคงคิดว่าไม่ด่างั้นสิ"

       

      "ไม่หรอก มึงไม่เคยด่ากูจริงๆ.."

       

      กันอมยิ้ม ที่ริทพูดก็ถูกอยู่ แม้ใครๆจะมองว่าเราทั้งสองคนดูเหมือนจะกัดกันเล่นเป็นอาหารว่าง แต่ถ้าดูจริงๆแล้ว เราไม่เคยด่าทอกันรุนแรงสักครั้ง หรือไม่เคยโกรธกันจริงๆเลยด้วยซ้ำ

       

      แค่ริทงอน กันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ยังไงก็ต้องรีบง้อก่อนละ...

       

      "งั้น มึงจะให้กูทำไงละ กูอยู่สามชุกนี่ไม่มีปัญญาหายตัวไปนอนเป็นเพื่อนมึงได้นะเว้ย!" กันรีบเปลี่ยนเรื่องเร็วรี่

       

      "ก็...ไม่ต้องทำไงอะ..." ริทส่งเสียงอ่อน "คือกูอยากหลับ แต่กูไม่ง่วงอะ มึงร้องเพลงให้กูฟังหน่อยสิ..."

       

      "หา? ร้องเพลงเรอะ?" กันถามย้ำแบบไม่เชื่อหู มือข้างหนึ่งเปิดประตูรถตู้ แทรกกายเข้าไปแล้วปิดประตู "ให้กูร้องเพลงกล่อม?"

       

      "มึงก็ร้องให้กูฟังหลายทีแล้ว ขออีกสักทีเป็นไรไป"

       

      หนุ่มแก้มบุ๋มจินตนาการหน้าคนทางปลายสายด้วยอารมณ์สนุก หึหึ ไอ้ริทเอ้ย ป่านนี้ หน้ามึงคงเหลือสองนิ้วแล้วสินะ...

       

      "คนที่มาขอร้องคนอื่นนี่ เขาพูดจาแบบนี้กันหรือไง พูดใหม่!" กันตอบเสียงเข้มไปแบบคนที่ถือไพ่เหนือกว่า..

       

      "เอ้อ...งั้น กันครับ ร้องเพลงให้ริทฟังหน่อยนะ นะ...นะครับ..."

       

      สรรพนาม เปลี่ยนไปทันที กันแทบจะระเบิดเสียงหัวเราะแห่งชัยชนะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นขำเอาไว้ ใจแอบนึกสงสารเพื่อนตัวยุ่งอยู่ครามครันเหมือนกัน...

       

      "โอเค ริท งั้น กันจะร้องเพลงนี้ให้ฟังนะ กันไม่เคยร้องที่ไหนมาก่อนเลยด้วย..."

       

      "ดีดี ร้องมาเลย ริทอยากฟัง"

       

      เสียง ตื่นเต้นทางปลายสายทำให้กันอมยิ้มอีกครั้ง นึกถึงประกายตาสดใส ขนตายาว ปากเชิดนิดๆ หน้าตาริทตอนนี้คงจะน่าเอ็นดู เหมือนยามเด็กได้ของเล่น...

       

      "เอาละนะ ...."

       

      เคยไม่มีเหตุผลและเป็นเหมือนไฟ

      เผาให้ทุกอย่าง ละลาย

      ไม่เคยละเว้นหัวใจของใคร

      เหมือนฉันเป็นคนที่ไร้หัวใจ

      ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

       

      จนเมื่อวันที่เธอได้เดินเข้ามา

      หัวใจที่เคยหายไปจากฉัน ก็ย้อนคืนมาที่เก่า

      เหมือนฉันได้เจอส่วนที่หาย

      เธอมาเติมเต็มให้ใจดวงนี้ ไม่ว่างเปล่า

       

      เธอคือดวงใจของฉัน จากนี้ฉันจะมีแค่เธอ

      ฉันจะทำให้เธอไม่เสียน้ำตาตลอดไป

      จากนี้สัญญา ฉันจะดูแลเธอไปอย่างดี

      ขอมีเธอจนวันตาย ขอเป็นคนสุดท้ายของเธอ

       

      ทำให้เธอเจ็บช้ำมานานเท่าไร

      นึกแล้วได้แต่ละอาย

      ที่เคยไม่เห็นความดีของเธอ

      เพิ่งรู้ความจริงในวันนี้

      ว่าไม่มีใครที่ดีกับฉันเหมือนเธอ

       

      เธอคือดวงใจของฉัน จากนี้ฉันจะมีแค่เธอ

      ฉันจะทำให้เธอไม่เสียน้ำตาตลอดไป

      จากนี้สัญญา ฉันจะดูแลเธอไปอย่างดี

      ขอมีเธอจนวันตาย ขอเป็นคนสุดท้ายของเธอ

       

      "ขอมีเธอจนวันตาย ขอเป็นคนสุดท้ายของเธอ ...."

       

      เสียงนุ่มร้องปิดท้ายเพลงไปอย่างไพเราะ คนร้องเองก็ปลื้มใจเบาๆ ถือว่าโอเคนะนี่ จากที่ซ้อมมาเองไม่กี่รอบ...

       

      "เป็นไงบ้าง ริท"

       

      คนถามถามแบบตัวฟู แต่คนปลายสายเงียบไปแบบผิดสังเกต กันกรอกเสียงลงในหูโทรศัพท์อีกครั้ง "เฮ้ย ริท ไปไหนละ หลับแล้วเหรอ..."

       

      "ยัง..."

       

      เสียงแผ่วๆตอบกลับมา มีแววประหลาดติดที่หางเสียง กันรู้ได้ทันที นอยด์อะไรอีกละ...

       

      "ริท เป็นอะไร..."

       

      "กัน ร้องเพลงนี้เพราะจังเลย เพราะกว่าริทร้องตั้งหลายเท่า..." เสียงเบาๆที่ตอบกลับมา บ่งบอกอาการนอยด์เด่นชัด "ตอนที่ริทร้อง ริทยังจับจังหวะไม่ถูกเลย กันต้องไปบอก ไม่งั้นริทก็ร้องไม่ได้..."

       

      กันส่ายหน้าเบาๆ อยากจะร้องเฮ้ออออ สักร้อยรอบจริงๆ.... "ริทครับ ดื้ออีกแล้วนะ จะมานอยด์ใส่กันทำไม ริทก็เก่ง"

       

      "ริทอยากร้องเพลงเก่งๆแบบกันบ้างจัง..."

       

      เสียงน้อยใจตามมาอีกระลอก ดื้อแบบนี้สงสัยเริ่มง่วงแล้วสินะ

       

      "พอๆ ริท เริ่มง่วงแล้วใช่ไหมเนี่ย"

       

      "ก็...นิดนึง..."

       

      "งั้นกันจะร้องให้ฟังอีกเพลงละกัน เอาแบบไม่เคยฟังเลย ริทก็ไม่เคยร้อง กันก็ไม่เคยร้อง โอเคนะ"

       

      ต้องรีบดักคอไว้ก่อน บทเรียนสำคัญทีเดียว ห้ามเอาเพลงที่ริทร้องไปแล้วมาร้องอีก...

       

      "อื้ม"

       

      "เอาละนะ..."

       

      นานแค่ไหนที่ฉันไม่มองคนอื่น

      นานเท่าไหร่ ฉันฝืนใจ อยู่คนเดียว

      แต่วันนี้ ใจไม่เป็นเหมือนเคย

      ก็เธอ ทำใจฉันร้อนรน

       

      โปรดเถอะ ใจฉัน มันทำไมถึงสั่น ทันทีที่เจอหน้าเธอ

      ใจฉัน รอให้เรารักกัน

      ทุกๆคืน ทุกๆวัน ใจฉันละเมอ

       

      ในวันนี้ฉันเฝ้ามองเธออยู่ ฉันไม่รู้ เธอคิดอย่างไร

      อยากให้เธอ รักฉันบ้างได้ไหม อย่าให้ใจ ฉันได้แต่รักเธอ

       

      โปรดจงรู้ว่าฉัน มีแต่เธอ รักเธอ ใจมั่นคง ความรู้สึกจากหัวใจ

      ไม่รัก ใครอีกแล้วเท่าเธอ ใจมั่นคง สิ่งที่ตรงคือหัวใจ

       

      เธอมีใจ ให้ฉันบ้างหรือเปล่า โปรดเถอะเธอ ให้ฉันได้รับรู้ไว้

      ถ้าเธอไม่รัก ฉันคงไม่ไหว หัวใจฉันคงสลาย

       

      ...ใจฉัน มันทำไมถึงสั่น ทันทีที่เจอหน้าเธอ

       

      "...ใจฉัน รอให้เรารักกัน ทุกๆคืน ทุกๆวัน ใจฉันละเมอ..ถึงเธอ..."

       

      จบ ไปอีกเพลง...กันอมยิ้มให้ตัวเอง เพลงนี้ไม่เคยร้อง ไม่เคยซ้อมจริงๆ ถือว่าทำได้ดีเกินคาดแฮะเรา อมยิ้มภูมิใจให้ตัวเองนิดๆ ตาปรือหน่อยๆ ความเหนื่อยสะสมทั้งวันทำให้ง่วงงุนจนแทบจะหลับแล้วเหมือนกัน...

       

      "ริท..."

       

      เงียบ...

       

      "ริท...ริทครับ..."

       

      ปลายสายเงียบไป อย่าบอกนะว่านอยด์อะไรอีก...กันขมวดคิ้ว ตั้งใจฟังเสียง ความเงียบจากรอบบริเวณทำให้ได้ยินเสียงทางปลายสายชัดขึ้น...

       

      "ฟรี้....ฟรี้....."

       

      เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าทางโน้นเข้าสู่นิทราราตรีสวัสดิ์ไปเสียแล้ว กันมองหน้าจอมือถือ ส่ายหัวเบาๆ ริทครับ จะนอนทั้งทีไม่รอกันเลยเนอะ...มือจะกดปิดสายโทรศัพท์ทิ้ง แต่ก็ยั้งมือไว้...

       

      กันหายตัวไปนอนเป็นเพื่อนริทไม่ได้ งั้นกันก็นอนเป็นเพื่อนริทตรงนี้แล้วกัน...

       

      หนุ่มแก้มบุ๋มหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน พร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่ยังคงค้างอยู่ในมือ...

       

      ..........................

       

      "กัน...นอนไปยังวะ..."

       

      เสียง นี้มาพร้อมประตูรถตู้ที่เลื่อนออก อาเฮียใหญ่นั่นเอง โตโน่ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ...อืม ตีสี่...สักชั่วโมงก็ยังดีวะ...หันไปมองทางน้องชายตัวแสบ ท่านอนดูไม่เป็นปกติสุขนัก นั่งท่าเหมือนสัปหงก คอพับไปด้านหนึ่ง

       

      "อ้าว ไอ้กัน ทำไมมานอนแบบนี้วะ ไม่ห่มผ้าอีก เดี๋ยวก็เป็นหวัด"

       

      พี่ชายบ่นพึมพำเบาๆ ก่อนจะจัดแจงขยับท่าทางให้น้องชายใหม่ให้ดีขึ้น จนเห็นสิ่งที่อยู่ในอุ้งมือของน้องชายตัวแสบ...โทรศัพท์มือถือ...

       

      ไอ้กันมันคุยกับใครวะ...ขอดูหน่อยเหอะ

       

      โตโน่อมยิ้ม หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ไฟหน้าจอสว่างยังไม่วางสายด้วยซ้ำไปนี่ เขามองชื่อที่หน้าจอแล้วก็ต้องส่ายหัว

       

      กูว่าแล้ว ซื้อหวยถูกแบบนี้มั่งก็ดี!!!

       

      ว่า แล้วก็กดดับมือถือให้ซะหน่อย มันเปลืองเงินนะเว้ย ไอ้กัน! อ๋อ ไม่ใช่เงินมึงงั้นสินะ...คิดไปแล้วก็ขำในใจ อาเฮียใหญ่คลี่ผ้าห่มคลุมร่างน้องชายคนโปรด ก่อนที่จะปีนไปที่เบาะหลัง

       

      ช่วงนี้การได้งีบสักชั่วโมงถือเป็นสวรรค์แล้วล่ะนะ

       

      "ราตรีสวัสดิ์นะไอ้กัน เจอกันตีห้า ฮ่าๆๆๆ"

       

      เสียงแผ่วเบาสุดท้ายบอกน้องชายที่หลับไม่รู้เรื่องอย่างไม่หวังว่าคนหลับ จะตื่นมาฟัง แล้วอาเฮียก็เอนหลังพิงเบาะหลังสุดเข้าสู่นิทรารมณ์ไปอีกคน

       

      ราตรีสวัสดิ์นะ สามหนุ่มอสรพิษ....

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×