ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชิดกลางใจ

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 384
      0
      18 ม.ค. 51

             
                  ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนของมุรี เม้มเข้าหากันแล้วเหยียดยิ้มร้าย หล่อนคิดไม่ผิด ผู้หญิงที่ธีมปทินท์จีบเป็นผู้หญิงหัวอ่อน เรียบร้อย ไม่สู้คน จึงง่ายเหลือเกินที่จะหลอกและปั่นหัว  เมื่ออีกฝ่ายพูดเสียงสั่นๆตอบกลับมา หล่อนจึงเสแสร้งพูดเสียงอ่อนกลับไป
    ขอบคุณที่คุณยืนยันว่าจะไม่ยุ่งกับธีม  คุณยังกลับใจกลับตัวทัน ฉันสิคะ

                     ฉันเข้าใจคุณค่ะ 

                     เสียงหวานๆที่ตอบกลับเหมือนที่หล่อนคิดไว้ ทำให้มุรียิ้มกว้างมากขึ้น เพราะดูเหมือนธีมยังไม่ยอมตัดใจจากผู้หญิงคนนี้  ต้องกันไว้เผื่ออีกฝ่ายใจอ่อน ฉันดีใจที่เราคุยกันได้  ขอบคุณมากนะคะหล่อนหยอดเสียงที่คล้ายจะจริงใจเข้าไปให้อีกฝ่าย

                     ไม่เป็นไรคะ  

                    สิ้นเสียงหวาน มุรีจึงวางสาย ก่อนจะแกะซิมโทรศัพท์ที่ได้รับแจกมาจากข้างถนนออก แล้วใส่ซิมที่เป็นเบอร์โทรปกติของตัวเองกลับเข้าไปแทน พลางคิดว่าครั้งนี้น่าจะพอแล้วสำหรับผู้หญิงโง่ๆและไม่สู้คนแบบนั้น ช่วยไม่ได้นะ สมัยนี้ ผู้ชายดีๆต้องรีบคว้าหล่อนกับธีมอยู่บริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก ที่คุ้นเคยกันเพราะงานที่ต้องติดต่อประสานกันบ่อยๆ  ผู้ชายหน้าตาดี เรียบร้อย หน้าที่การงานดี ทำให้หล่อนคิดโปรยเสน่ห์ แต่เขาก็คบหล่อนเป็นเพื่อนเฉยๆไม่มีจีบ ไม่มีแม้กระทั่งการพูดเล่นแบบหมาหยอกไก่ ทั้งที่เพื่อนผู้ชายคนอื่นๆยังพูดแซวเล่นกับหล่อน ระยะหลังมุรีได้รู้มาว่า ธีมปทินท์ชอบผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน  หล่อนจึงแต่งตัวและพยายามทำตัวเรียบร้อย จนสนิทกันมากขึ้น แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยจีบ ในที่สุดหล่อนได้ข่าวจากเพื่อนๆในกลุ่มของชายหนุ่มว่า เขาจีบผู้หญิงอยู่คนหนึ่งอยู่ ชื่อเล่นว่า ฟาง  แล้วโอกาสของหล่อนก็มาถึงเมื่อวันหนึ่ง ธีมปทินท์วางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานเพราะโดนเรียกตัวเข้าพบหัวหน้าขณะที่หล่อนเดินมาหาพอดี  จึงฉวยโอกาสหยิบมากดหาเบอร์โทรของ ฟาง    

                   ซัพพลายเออร์ของบริษัท... ติดต่อมารึยัง เสียงทุ้มพูดขึ้นข้างโต๊ะ 

                      ทำให้มุรีหลุดจากห้วงความคิด  แล้วยิ้มให้ชายหนุ่มผิวขาว ผมซอยยาวระต้นคอ  ที่มีเค้าโครงหน้าออกไปทางผู้หญิง แต่คิ้วเข้มหนาช่วยทำให้ใบหน้าดูเข้มขึ้น ติดต่อมาแล้ว นัดคุยให้แล้วนะ... พลางค้นหาแฟ้มออกมา แล้วเปิดให้ชายหนุ่มดู ธีม ช่วงนี้งานเยอะเหรอ

                     มีมาเพิ่มนิดหน่อย แก้ของเก่าด้วย เขามองใบหน้าสวยของอีกฝ่าย ตอนแรกที่มุรีเข้ามาทำงานใหม่ๆ หล่อนไม่ได้ดูเรียบร้อยแบบนี้หรอก ตอนนั้นหญิงสาวแต่งตัวแบบสาวทำงานเต็มที่ อาจเป็นเพราะอยากพิสูจน์ฝีมือในที่ที่แวดล้อมไปด้วยผู้ชาย ผมยาวมักถูกรวบไว้เพื่อความคล่องตัวแต่ก็เหมาะกับใบหน้าเรียวยาวได้รูปของหญิงสาว

                     แล้วแบบนี้จะมีเวลาให้แฟนเหรอ?” หล่อนแกล้งถามยิ้มๆ

                                                                          

                หึ ชายหนุ่มทำเสียงในคอ แล้วแค่นยิ้ม ไม่มีหรอก แฟนน่ะ

                  มุรีทำเสียงแปลกใจ ทำไมล่ะ ไหนว่าคบกัน

                 เขาไม่คบกับเรา น้ำเสียงทุ้มเจือเศร้า ก่อนจะเปลี่ยนไปพูดเรื่องงานต่อ

                   ใบหน้าเรียวยาวก้มลงมองงานตรงหน้า ด้วยแววตาสมหวังและพอใจ            

     

                ทางด้านหญิงสาวอีกคนที่เพิ่งวางโทรศัพท์ลง กำลังมีดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตามองเบอร์โทรเข้าของผู้หญิงที่บอกว่าเป็นแฟนธีม ซึ่งหล่อนกดเรียกขึ้นมาดู หล่อนเก็บไว้ไม่ลบทิ้ง ทั้งที่บาดลึกลงไปทุกครั้งที่เห็นเบอร์เดิมๆนี้โทรเข้ามา รวมถึงเบอร์ของชายหนุ่มที่ทำให้หล่อนต้องทรมานใจอยู่นี่ด้วย หล่อนบอกตัวเองว่า สักวันจะลบทิ้งให้หมดทุกอย่างรวมถึงความทรงจำที่มีต่อผู้ชายที่ชื่อ ธีมปทินท์  โทรศัพท์มีสัญญาณเรียกเข้าอีกครั้ง ชื่อที่โชว์ขึ้นพร้อมกับสัญลักษณ์โชว์รอยยิ้มแป้น ทำให้พนิตาหรือฟางยิ้มออกมาได้

               คอนนิจิวะ  こんにちは  เสียงใสๆจากในโทรศัพท์ดังออกมา หล่อนรู้ว่าหมายถึงสวัสดีตอนบ่าย เพราะเจ้าของเสียงสดใสนี่แหละที่สอนให้รู้จัก

                ลูกชิดนี่ดีเนอะ ฟางเอ่ยแซวออกไป สดชื่นได้ตลอด

              ลูกชิดรู้ว่าคนทำงานน่ะ หน้าย่นเลยไม่ทำให้ย่นหนักเข้าไงคะ  ว่าแต่พี่ฟาง เมื่อไหร่จะกลับบ้านล่ะคะ

               นัยน์ตาที่ยังหม่นอยู่ของพนิตาหรือฟางหลุบต่ำลง คำว่ากลับบ้านของนฌิชร์คงหมายถึงที่ตราด ยังไม่รู้เลย

                ลูกชิดคิดถึง 

                พนิตายิ้มกับโทรศัพท์ ถ้าพี่จะกลับจะโทรบอก แถมจะเอาสาไปฝากลูกชิดด้วยนะบางทีการลาพักร้อนกลับบ้านอาจจะดีก็ได้ ไปเจอบิดามารดา รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ กับน้องสาวอารมณ์ดีคนนี้ แต่ช่วงนี้ยังไม่ว่างเลย

               พี่ฟางสบายดีหรือคะ

                 สบายดี ไม่มีอะไรจ้ะ ลูกชิดล่ะ อยู่กับใครตอนนี้

                ลูกชิดหัวเราะเสียงใส ตอนนี้อยู่กับย่าศิ สลับกันไปๆมาๆ หนุกมากเลย

                ดีจังนะคะ 

                 ทางด้านคนว่างงานอารมณ์ดี ทำแก้มป่อง เมื่อจับน้ำเสียงอีกฝ่ายได้ว่า ไม่ค่อยจะสดชื่นนัก เราโทรไปกวนแหง๋เลย อุตส่าห์เลือกโทรบ่ายวันพุธคิดว่างานไม่เยอะแล้วเชียว พี่ฟางทำงาน  ลูกชิดไม่กวนพี่ฟางแล้วค่ะ แล้วเจอกันนะคะ

                 สวัสดีค่ะ แล้วพี่จะโทรหานะ  ฟางผ่อนลมหายใจออกเบาๆหลังจากวางสาย สายตาเหลือบมองปฏิทินตรงหน้า เสียงเพื่อนๆทำงานดังอยู่รอบๆตัว เสียงโทรศัพท์ เสียงพิมพ์งาน เสียงพูดคุยเบาๆ  หล่อนไม่ได้ยินเสียงคลื่นลมทะเลมานานแล้ว  

             

                           

              4- 5 วันหลังจากที่นฌิชร์โทรหาเพื่อนรุ่นพี่ที่กรุงเทพฯ  คราวนี้อีกฝ่ายเป็นคนเข้าโทรมาหาตอนหัวค่ำ

              ลูกชิด ทำอะไรอยู่คะ

              มือหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกมือกำลังกำแอปเปิ้ลอยู่ค่ะ นฌิชร์บอกพฤติกรรมของตัวเองตอนนี้ให้พี่ฟางฟัง แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากอีกฝ่าย

              ลดความอ้วนเหรอ

              พี่ฟาง อาหารเย็นลูกชิดนะ ตั้งใจว่าแอปเปิ้ลกับแอปเปิ้ล  ย่าเกดบอกว่าไม่ให้ลดแล้วพยายามทำของกินมาล่อลูกชิดด้วย พอกลับบ้านแม่ก็ทำเค้กอีกนฌิชร์พูดเหมือนฟ้อง

             ค่อยๆลดเถอะค่ะ ดีกว่าอดซะทีเดียวนะคะ เสียงยิ้มๆพูดตอบ พี่ลาพักร้อน จะกลับตราดวันเสาร์นี้นะคะ

              จริงเหรอ ดีจัง มากี่วันคะ มายังไง ลูกชิดไปรับนะ เอ๊ะ หรืออาพีไปรับ คนรับถามเร็วปรื๋อเพราะดีใจ ที่เพื่อนรุ่นพี่จะมา หล่อนไปๆมาๆ ระหว่างบ้านปู่ดิศและโรงแรมของบิดามาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว ถึงจะชอบทะเลและมีแต่คนเอาใจ แต่ก็เบื่อที่เจอแต่ผู้ใหญ่     

              พี่ลาถึงวันอังคาร...ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลยว่าจะให้แปลกใจ

             งั้นลูกชิดไปรับนะคะ ไม่บอกอาพีหรอกอาพีเป็นบิดาของพี่ฟาง ซึ่งนฌิชร์ก็ให้ความนับถือเสมือนญาติอีกคน นฌิชร์เคยคิดเล่นๆตอนแข่งกีฬาสีโรงเรียนว่า ถ้ามีการแข่งขันเอาคนที่นับถือเหมือนญาติและญาติทั้งหมดมายืนเข้าแถวกัน หล่อนคงชนะเลิศแน่

              พี่คงไปเครื่อง แต่ยังไม่ได้จองตั๋ว แล้วพี่ต้องนัดกับสาอีกที ค่อยบอกเวลาแน่นอนวันหลังนะ

             ค่ะพี่ฟาง แล้วเจอกันค่ะ พอวางสายแล้วนึกขึ้นได้ว่า อาทิตย์นี้ปู่ดิศให้หล่อนไปดูแบบแปลนด้วย ไม่รู้คนที่รับเคราะห์กรรมแทนเพื่อนจะมาหรือเปล่า คงไม่เป็นไรมั๊งก็คนละคนกับที่หักอกพี่ฟางนี่หน่า แล้วก็...คงไม่ได้เจอกันหรอก

     

             แต่สิ่งที่หญิงสาวคิดกลับตรงกันข้ามอย่างที่ไม่น่าจะเกิดอย่างกับการตัดต่อพันธุกรรมให้หนูเข้าไปจุ๊บปากแมว เมื่อสายๆวันเสาร์นฌิชร์แต่งตัวขับรถออกไปรับพี่ฟางและเพื่อนรักที่จะโดยสารเครื่องบินมาเที่ยวแรกของวัน  ใบหน้าค่อนข้างกลมน่ารักที่กำลังจะฉีกยิ้มให้พี่ฟางและสลิสาที่เดินออกมามีอันชะงักไปเมื่อเห็นกลุ่มคนด้านหลังที่เดินตามออกมาไม่ห่างกันนัก  ทำไมมันบังเอิญแบบนี้หล่อนเห็นคนขับรถของโรงแรมมารอรับลูกค้า แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นกลุ่มของคุณสิทธิศักดิ์ ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้มากับร่างสูงคิ้วเฉียง จมูกโด่งที่ดึงดูดน้องก้างปลาไปเมื่อครั้งนั้น แต่ยังมาพร้อมกับผู้หญิงอีก 3 คน และร่างสูงหน้าหวานผิวขาวที่หล่อนมั่นใจว่า คือผู้ชายคนที่ทำให้พี่ฟางเสียใจ   คนกลุ่มนั้นเดินไปทางที่มีคนของโรงแรมยืนถือป้ายรอรับโดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นหล่อน

               พี่ฟาง คิดถึงจังเลยนฌิชร์เอ่ยทักเสียงใสเมื่อคนที่มาถึงเดินเข้ามาใกล้  ก่อนหันไปทักเพื่อน คุยกันทุกวัน แต่ก็คิดถึงนิดหน่อยเหมือนกัน

                เอ้อ ยังดี เพราะเราไม่คิดถึงแกเลย สลิสาพูดกวนๆ

               ในระหว่างขับรถพาพี่ฟางไปส่งที่บ้าน พี่ฟางค่อนข้างเงียบ ถามคำตอบคำและไม่มีใครพูดถึงความบังเอิญสุดๆที่เพิ่งผ่านมา จนกระทั่งรถแล่นไปจอดที่บ้านของพี่ฟาง  มารดาของพนิตาหรือฟาง ยิ้มดีใจที่เห็นบุตรสาวกลับบ้าน ก่อนจะดุนิดๆที่ไม่ยอมบอกก่อน นฌิชร์และสลิสานั่งเล่นสักครู่ แล้วจึงลากลับ

              บ๊าย บาย พี่ฟางก่อนจะหันไปยกมือไหว้ลามารดาของพี่ฟาง

               พอขึ้นรถ สลิสาก็พูดขึ้นทันที ไปเจอกันบนเครื่อง นี่ถ้าเห็นตั้งแต่ที่สนามบินนะ เราว่า พี่ฟางเปลี่ยนใจแน่

             แล้วนาย..นายอะไรนะ ชื่อเรียกยากๆ มาทักรึเปล่า

              ธีม...เข้ามาทักน่ะสิ พี่ฟางคงทำใจได้แล้วละ ไม่ร้องไห้ด้วยแต่หน้าซีดเลย  นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าชู้  แล้วหลอกพี่ฟางนะ ดูเป็นคนดี ท่าทางสุภาพ หน้าก็ซื่อๆ

              ร่างปลอมนะสิ ไม่งั้นจะหลอกผู้หญิงได้ไง นฌิชร์พูดเหยียดๆ มากับคนรับเหมาด้วย ไม่รู้มาเที่ยว หรือเป็นคนวาดแบบ

               ที่เราฟังๆ เขาบอกกับพี่ฟางว่ามาทำงานแหละ แล้วก็ไปพักกันที่เกาะนะ

               ได้ข้อมูลมาเยอะเชียวเสียงใสพูดยานคาง แล้วยิ้มนิดๆ แอบฟังเหรอ

               ก็เขาพูดกันอยู่ข้างๆเรานี่หว่า สลิสารีบปฏิเสธ ทำสีหน้าว่าไม่ได้แอบฟัง

               รถโรงแรมเราไปรับ คงรีสอร์ทปู่แน่เลย ..เดี๋ยวคงได้เจอนฌิชร์เปรย

       

                 ถึงเวลาอาหารค่ำ บนโต๊ะจึงมีอาหารหลายอย่าง และเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน นฌิชร์นั่งอยู่ระหว่างพี่ฟางและสลิสา ย่าเกดและปู่ดิศ คุยกับบิดามารดา โดยมีย่าศินั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน แต่ขาดตาและยายซึ่งอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็สามารถเรียกว่าวันรวมญาติก็ว่าได้ ความจริงวันรวมญาติที่นฌิชร์ตั้งชื่อขึ้น มักจะมีปีละสองสามหน ในวันสำคัญๆ บางครั้งก็วันเกิดตา บางครั้งก็วันเกิดย่าศิ หรือวันที่ทิศวรรฒ์น้องชายของหล่อนกลับ มาเมืองไทยช่วงปิดเทอม แต่อาหารมื้อนี้มีบิดามารดาของพี่ฟาง มาด้วย คนจึงไม่น้อยกว่าวันรวมญาติเลย

                 สลิสามองบรรดาผู้ใหญ่รอบตัวเพื่อนตาปริบๆ  แล้วคิดถึงวันแรกที่มาเที่ยวที่บ้านของเพื่อนรัก หล่อนตัวเกร็งอยู่หลายวันทีเดียว ตอนนั้นจึงเริ่มเข้าใจว่าทำไมนฌิชร์ถึงได้มีนิสัยติดหัวโบราณในบ้างเรื่องอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งการถูกเนื้อต้องตัวระหว่างผู้หญิงผู้ชาย ซึ่งถ้าเป็นตัวหล่อนเอง ยืนกอดคอถ่ายรูปกับเพื่อนผู้ชายได้สบายๆ แต่นฌิชร์จะวางตัวจนเพื่อนผู้ชายบางคนมองว่าหยิ่ง ทั้งการเที่ยวกลางคืน นฌิชร์ไม่เคยไปเที่ยวผับกับพวกเพื่อนๆสักครั้ง ทั้งที่บอกให้หลอกยาย แต่ยัยเรื่องมากก็ไม่ไป บอกว่าหนวกหู เหม็นเหล้า เหม็นบุหรี่  ตอนแรกหล่อนก็ไม่เข้าใจ แต่พอได้สนิทสนมและมาพักที่นี่หลายครั้งจึงเข้าใจเพื่อนมากขึ้น

                สลิสานอนห้องเดียวกับนฌิชร์ที่บ้านหลังรีสอร์ท  ไม่ได้ไปเปิดห้องในโรงแรมนอน เพราะอยากคุยกัน หญิงสาว 2 คนคุยกันจนดึกทั้งเรื่องแผนเรียนต่อของสลิสา และพูดถึงเพื่อนคนอื่นๆที่แยกย้ายกันไปจนถึงเรื่องหางานของนฌิชร์

                 ตกลงได้หาหรือยังเหอะ  สลิสาถามเสียงหน่าย

                 ยัง คนตอบ ตอบสั้นๆ

                 ทำไมไม่หา เดี๋ยวก็โดนจับทำที่นี่หรอก

                 ที่ตราดมีอะไรที่ไหน  แล้วนะพออยู่บ้าน บางทีพ่อก็เรียกไปให้ไปเอาบัญชีมาดูด้วย แล้วไม่รู้ร่วมมือกันกับปู่ดิศหรือเปล่า เพราะพอเราอยู่ทางโน้น ปู่ดิศก็เอางานที่รีสอร์ทมาปรึกษา ทั้งบัญชีทั้งบริหารเลย  อย่างที่ให้เราไปดูแปลนด้วย นี่ก็เหมือนกัน 

                 สลิสาทำหน้าทึ่งๆ แล้วยกนิ้วโป้งให้ พร้อมพูดว่า ชัวร์

                 นฌิชร์ส่ายหน้ายิก รอพอสักพัก เราจะขอย่าเกดไปทำงานที่กรุงเทพฯอีกหน

               ยัยยุ่งเอ้ย สลิสาว่า

                 ใบหน้าน่ารักทำสีหน้าไม่สนใจ พรุ่งนี้ออกแต่เช้านะเพราะชวนเพื่อนเอาไว้ว่าให้ไปเกาะช้างด้วยกัน

               อือ

     

     

                 ทั้งที่เมื่อวานนี้ สลิสาก็รับปากไว้ว่าจะตื่นเช้า แต่นฌิชร์เขย่าแล้ว  คนขี้เซาก็เอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัวนอนต่อ  ทำให้กว่าจะลากใส่รถได้ก็เกือบ 8 โมง   ร่างเล็กในชุดเอี๊ยมขาสั้นสีดำใส่ทับเสื้อยืดสีม่วงสดเหล่มองเพื่อนไปพลางขับรถไปพลาง ดูสิสายเลย

               อากาศดี โทษทีสลิสาพูดหน้ายิ้มๆ

                 รถแล่นไปถึงท่าเรือไปเกาะช้าง คราวนี้หล่อนไปเช้าเย็นกลับจึงขับรถไปเอง เรือกำลังจะออกพอดี ไม่เสียเวลารอ  รถแล่นไปตามทางเรื่อยๆจนถึงรีสอร์ทของปู่ดิศ หญิงสาวจอดรถแล้วเดินลงไปยังหาดทรายแล้วยืนกวาดสายตามองหาร่างปู่ดิศ อยู่ไหนกันหว่าแต่สายตากลับไปเห็นสตรี 3 คนที่หล่อนเห็นว่ามากับคุณสิทธิศักดิ์เมื่อเช้าวานนี้ หญิงวัยกลางคน 2 คนและร่างบอบบางผิวขาว ผมลอนสวยสีชอคโกแลตปลิวตามแรงลมแม้จะผูกโบว์รวบไว้แล้วก็ตาม เดินตามหาดทรายไปเรื่อยๆ  นฌิชร์จึงหันไปบอกเพื่อน เขาคงคุยกันแล้ว ไปที่ร้านอาหารก่อนดีกว่า   

                

                   เดินไปถึงร้านอาหารของรีสอร์ท โต๊ะใหญ่ในร้าน มีชายวัยกลางคนที่รับเหมาปรับปรุงรีสอร์ทหรือคุณสิทธิศักดิ์ พร้อมด้วยชายหนุ่มผิวขาวคนหนึ่ง ผมยาวระต้นคอท่าทางสุภาพที่กำลังคุยอยู่กับคนคิ้วเฉียงจมูกโด่งโชคร้ายรับเคราะห์กรรมแทนเพื่อนไปเมื่อครั้งนั้น หล่อนจำชื่อได้แล้วธีมปทินท์  แล้วก็ปู่ของหล่อน

                ยัยชิด เราไปเดินเล่นนะ เสร็จแล้วก็โทรบอกด้วยละ สลิสาขอตัวเพราะตัวเองไม่เกี่ยวกับงานนี้ด้วย

                เอากุญแจรถไปเผื่อขับเที่ยว นฌิชร์ยื่นกุญแจให้เพื่อน แล้วเดินตรงไปที่โต๊ะ ปู่คะ ขอโทษที่มาช้าค่ะ หล่อนเอ่ยขอโทษ ก่อนจะยกมือไหว้ผู้ที่นั่งอยู่ก่อนอีก 3 คน

                มาดูสิลูก ชอบมั้ย  ชายชราเบี่ยงตัว แล้วเลื่อนแบบตรงหน้าให้หลานสาว

              

                 แบบแปลนที่ทางคุณสิทธิ์เอามาให้ดูนั้น เป็นแบบบ้านยกพื้นสูง โดยมีเสากลม 5 เสาตั้งรับตัวบ้าน หลังคาทรงป้านปูกระเบื้องสีน้ำตาลเข้ม ตัวบ้านภายนอกเป็นแผ่นไม้สังเคราะห์ที่ทนแดดทนฝนสีโทนอ่อน มีบันไดขึ้นไป  3 4 ขึ้นพร้อมระเบียงที่เป็นพื้นไม้สีเดียวกับหลังคา ราวระเบียงทำเป็นไม้ดัด ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่แข็งขัดตา ประตูกระจกเป็นบานเลื่อน สามารถเปิดโล่งรับลมทะเล เช่นเดียวกับหน้าต่าง   

                  สวยดีค่ะ ปู่ชอบมั้ยคะ

                  อือ  สียังไม่ถูกใจ อีกหน่อยมันจะด่างมั้ยล่ะ

                  แผ่นไม้เขารับประกัน 10 ปีครับ คุณสิทธิศักดิ์บอก พร้อมอธิบายและมีสีให้เลือก พร้อมจับคู่สีที่เข้ากันให้ดูด้วย  เมื่อพอใจ ต่อไปจึงเป็นแบบสวนรอบๆ  

                       การจัดวางตำแหน่งบ้านเหมือนเดิมเพราะไม่ต้องตอกเสาใหม่ แต่สวนภายนอกมีการปรับปรุงวางตำแหน่งต้นไม้และทางเดินใหม่  ซึ่งคนที่รับจัดวางและออกแบบทางเดินและสวน คือชายหนุ่มที่มาใหม่ ธีมปทินท์                     

                      นัยน์ตาโตคู่สวยเหลือบมองใบหน้าเกลี้ยงขาว ที่อาจเรียกได้ว่าเหมือนหนุ่มเกาหลี หน้าตาดีๆ ไม่ใช่หน้าตี๋ ตาตี่ผิวซีดเป็นกุ้งฝอยตายซาก ถือว่าหล่อ เลยหลอกผู้หญิงเล่นงั้นสิ หญิงสาวนั่งมองแบบสวนที่ปู่ให้ดู โดยมีเสียงทุ้มของธีมปทินท์พูดอธิบายเรียบๆ มองๆไปก็สวยดี เหมือนรีสอร์ทหรูๆ ทั้งที่ใช้งบประมาณไม่มาก เพราะคนทำรู้จักดัดแปลงและใช้ต้นไม้เหมาะสม แต่หล่อนก็ถามออกไป คุณธีมปทินน์คิดนานมั้ยคะ

                      ก็พอสมควรครับ คนออกแบบตอบอย่างสุภาพ

                     แล้วพวกต้นไม้ เก่าๆ เอามาใช้ได้มั้ยคะ

                      ได้ครับ  ตรงนี้เราสามารถเอา...คนทำงานตั้งใจอธิบาย

                    แต่คนอยากกวนถามไปอย่างไม่ต้องการคำตอบ เมื่ออีกฝ่ายตอบว่าสามารถเอามาแทนต้นไหน หรือวางตำแหน่งไหนได้ ก็มองไปอย่างนั้น  พอเสียงทุ้มพูดจบจึงพูดต่อ นึกว่าคุณธีมจะเอาแต่ของใหม่ๆ ของเก่าต้องทิ้งเสียอีกแล้วมองหน้าอีกฝ่าย ไม่ทราบว่าที่ผ่านมา ทิ้งไปเยอะมั้ยคะ

                     คนโดนถามรับไม่ทัน เสียงใสๆเป็นปกติ แต่แววตาที่มองมา เขาดูยังไงก็ไม่ธรรมดา  เอ้อ ...แล้วแต่ลูกค้าต้องนะครับ

                     โดยส่วนตัวคุณธีม ชอบแต่ของใหม่ๆหรือเปล่าคะ

                     พูดอะไรลูกชิด เสียงปู่ดิศแทรกขึ้นเพราะไม่เข้าใจที่หลานสาวพูด อยากได้ต้นอะไรก็บอกเลย ปู่ไม่ว่า 

                        นัยน์ตาโตกระพริบมองปู่ แล้วพูดเสียงใส แค่เสียดายต้นเก่านะคะ ก่อนจะหันไปบอกชายหนุ่ม ต้นไหนที่ยังใช้ได้ ก็หาที่ลงให้หน่อยแล้วกันนะคะ คุณธีมปทินท์

                        ได้ครับ

                        ปู่ว่าไงคะ หญิงสาวหันไปถามความเห็นผู้สูงวัย

                        ดีแล้วละ ตามใจลูกชิดเถอะชายชราเห็นด้วยกับหลานสาว

                        รบกวนคุณธีมปทินท์ วาดมาให้ดูอีกได้มั้ยคะ  ...ต้นปาล์ม พร้อมกับชี้นิ้วจิ้มลงไปตรงภาพที่เป็นกลมๆ สัญลักษณ์แทนต้นไม้ใหญ่ ที่นี่มีอยู่หลายต้น เอามาใส่แถวนี้ได้มั้ยคะ

                     ได้ครับ

                     ทางเดินมีแบบอื่นอีกใช่มั้ยคะ ลองทำมาให้ดูหลายแบบได้มั้ยคะแล้วทำตาใสซื่อมองอีกฝ่าย เอาแบบที่เรียงด้วยตัวหนอน แล้วก็ขอแบบที่หล่อเป็นรูปน่ารักๆ แล้วก็ขอแบบโรยกรวดด้วยนะคะ

                      ปู่ดิศหัวเราะ  ทำไมมันเยอะนักล่ะลูก

                     อ้าวจะได้เห็นภาพไงคะ คุณธีมปทินท์บอกว่าแบบนี้สวย แต่แบบอื่นลูกชิดนึกภาพไม่ออกนี่คะ เผื่อชอบมากกว่า

                      คนที่รับออกแบบบ้าน ที่นั่งเงียบฟังเพื่อนอธิบาย เหลือบมองใบหน้าน่ารักของลูกค้าอย่างครุ่นคิด นึกภาพไม่ออก ไม่น่าเชื่อแล้วแว่บหนึ่งเขาเห็นนัยน์ตาคู่สวยของหญิงสาวเป็นประกายเจ้าเล่ห์เมื่อเหลือบตามองเพื่อนของเขา  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×