ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fake Mask] หน้ากากซาตาน (Yonghwa/Seohyun-YongSeo)

    ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 20 : ข้างห้อง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 520
      7
      15 มี.ค. 59

              


              หลังจากนั่งเครื่องบินมาเป็นเวลาไม่นานนัก ก็ใกล้เวลาที่เครื่องบินจะแลนดิ้งลงสู่ผืนแผ่นดินของประเทศญี่ปุ่น สภาพอากาศนั้นไม่ต่างกับที่เกาหลีมากเท่าไรนัก ซอฮยอนขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าตัวเองนอนมากเกินไปเสียแล้ว

              ตัวเธอเองนั้นรู้สึกว่ามีน้ำหนักกดทับอยู่บนเปลือกตาเธอยังไงอย่างงั้น ซอฮยอนนอนแช่อยู่เกือบนาทีก่อนจะค่อย ๆ ดึงบางอย่างที่สวมทับเปลือกตาของเธอออก เธอกระพริบตาอย่างปรับสภาพก่อนจะจ้องมองไปยังที่ปิดตาปริศนา

              ทันทีที่เห็นมันเธอก็หันหน้าไปหาคนข้างตัวทันที เขากำลังนอนหลับอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ดูท่าทางจะเหนื่อยล้ามาก แม้แต่ตอนนอนนอนหน้าของเขายังดูอ่อนเพลียและอิดโรย ซอฮยอนมองนิ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา

     

    เขาสวมที่ปิดตาให้เธอ

     

              ถามเด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าใครเป็นคนสวมให้เธอ ซอฮยอนไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อยว่าทำไมเขาถึงเอาใจใส่กับเรื่องเล็กน้อยของเธอขนาดนี้ แล้วดูสิ เธอลืมมองไปเลยว่าบนตัวของเธอนั้นก็มีผ้าห่มของสายการบินคลุมกายอยู่

             

    ใจเต้นแรง

    ใจเต้นแรงมากๆ

     

               ให้ตายเถอะ! เขากำลังทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเธอเร็วและแรงขึ้นอยู่เรื่อยเลย เธอแพ้ความเอาอกเอาใจใส่ และนั่นคือสิ่งที่ยงฮวาทำอยู่ตอนนี้ ซอฮยอนขมวดคิ้วพลางกัดปากล่างอย่างที่เธอชอบทำประจำ ในหัวก็พลางคิดถึงเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา เรื่องที่มีปัญหากัน เรื่องบาดหมางระหว่างทั้งคู่ หัวสมองเธอทำงานอย่างหนัก เธอควรจะใจอ่อนดีไหม

     

    แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เธอจะไม่มีวันอ่อนข้อให้คนอย่างเขาอีกแล้ว ไม่มีวัน

     

     

     

     

              เสียงประกาศจากแอร์โฮสเต็สดังขึ้น ซอฮยอนหยุดความคิดไปชั่วครู่แล้วตั้งใจฟังสิ่งที่แอร์โอสเต็สสาวกำลังประกาศ ยงฮวาและสมาชิกด้านหน้าเองก็ขยับตัวกันทันทีเมื่อได้ยินเสียงหวานที่ดังขึ้นอยู่นี้ ยงฮวากระพริบตาอยู่หลายทีก่อนจะเหล่ตามาทางซอฮยอนอย่างปฏิกิริยาทั่วไป เธอเองก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วทำท่าฟังประกาศอย่างใจจดใจจ่อ

     

              ‘’เครื่องบินจะลงจอดอีกในเวลา 10 นาที กรุณาเช็คสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ’’

     

              เสียงนี้ประกาศอีกเป็นรอบที่สองก่อนจะตามด้วยภาษาอื่น ซอฮยอนเมื่อฟังดังนั้นก็รวบรวมสิ่งของเข้าด้วยกันทันที เธอผลักผ้าห่มและที่ปิดตาก่อนจะหยิบหนังสือเล่มโปรดที่ทำล่วงลงไปตอนไหนก็ไม่รู้ขึ้นมา ซอฮยอนสำรวจสัมภาระของตัวเองที่นำขึ้นมาด้วย

     

              ด้านฝั่งสมาชิกในวงก็เช่นกัน พวกเขารวบรวมสิ่งของที่ทำกระจัดกระจายอยู่บนตัวพวกเขาเองอย่างเหนื่อยล้า อันที่จริงพวกเขาอยากจะนอนต่อใจแทบขาด แต่เมื่อถึงเวลาเครื่องลงจอดนั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องตื่นกันเสียแล้ว ใจจริงนึกอยากให้เกาหลีและญี่ปุ่นไกลอีกนิด เพราะพวกเขาเหนื่อยเหลือเกินในตอนนี้ พวกเขาแทบไม่ได้หลับได้นอนกันเลย

     

     

     

     

     

              ตอนนี้ทั้งหมดเดินลากกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าสะพายนิดหน่อยออกมายังเกทธรรมดาแล้ว จริงอยู่ที่ศิลปินส่วนใหญ่เลือกที่จะออกเกทพิเศษ แต่แฟนคลับที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความเป็นระเบียบมาก พวกเขาไม่ส่งเสียงดังและไม่รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้เหนื่อยใจเลย บริษัทจึงไว้วางใจในตัวแฟนคลับและเลือกให้ศิลปินออกเกทธรรมดามากกว่าทางพิเศษ

     

              คุณชเวเลือกเดินนำหน้าโดยมีมินฮยอกและจองชินเดินตามอยู่ข้างหลัง พวกเขานั้นสลัดสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกไปเลยเมื่อเห็นแฟนคลับ ทั้งคู่โบกมือและยิ้มจริงใจให้แฟนคลับที่มารอทั้งซ้ายและขวา ตามมาด้วยจงฮยอน ยงฮวา และซอฮยอนที่เดินรั้งท้ายตามมา จงฮยอนนั้นช่วยซอฮยอนถือกระเป๋าใบเล็กและคอยดูแลซอฮยอนเวลาเดิน ยงฮวาเองที่ทำไม่สนใจเธอก็คอยประกบอย่างห่วง ๆ ด้วย

     

              ภาพที่ปรากฏตรงหน้าของแฟนคลับทำเอาพวกเขางุนงงกันไปเลย เนื่องจากพวกเขาไม่เคยเห็นผู้หญิง(ซอฮยอน)มาก่อน บางคนรีบแชะภาพรัว บ้างก็ขมวดคิ้วทำนองว่าอยากรู้ความจริง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยสนใจซอฮยอนเท่าไร พวกเขาชูแบนเนอร์ความยาวเท่ากระดาษเอสี่ขึ้นให้กำลังใจซีเอ็นบลู แต่ชูได้ไม่กี่วิก็พับเก็บลง เนื่องจากคนข้างหลังมองไม่เห็นอยู่แล้ว ยิ่งชูขึ้นก็ยิ่งมองไม่เห็นใหญ่

     

              สมาชิกทั้งสี่คนรวมกับคุณชเวและซอฮยอนเดินตรงไปยังรถตู้ของบริษัทที่มารอรับอยู่แล้ว มีคนคอยยกวางกระเป๋าให้ทั้งหมด และท้ายที่สุดก็ได้เวลาก้าวขึ้นรถไปยังโรงแรมที่ถูกพักจองไว้ให้สำหรับแสดงคอนเสิร์ต

     

             

     

     

     

     

              รถตู้มาหยุดอยู่ที่หน้าโรงแรมหรูย่านใจกลางเมืองของประเทศญี่ปุ่น พนักงานหลายคนยืนรอรถตู้อยู่นานพอสมควร พนักงานคนหนึ่งทำหน้าที่เปิดประตูรถ ส่วนที่เหลือก็พากันขนยกกระเป๋าเดินทางแล้วตรงไปยังห้องที่ศิลปินพักอยู่ คีย์การ์ดโรงแรมนั้นอยู่ที่พนักงานหมดแล้ว พวกเขาพากันเดินตรงไปยังลิฟต์ทันที ยงฮวานั้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยอย่างวางท่า ซอฮยอนเองก็ดูไม่ค่อยสดใสเท่าไร เพราะเธอรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย นี่เป็นงานครั้งแรกของเธอที่ได้เดินทางออกนอกประเทศอย่างวันนี้

     

              ซีเอ็นบลูได้พักอยู่ชั้นสิบสองกันทุกคนและเป็นห้องเดี่ยว ห้องสำหรับเมเนเจอร์และรองเมเนเจอร์เองก็เป็นห้องเดี่ยว ที่ทั้งหมดสามารถพักห้องเดี่ยวได้เนื่องจากสมาชิกในค่าย S. Entertainment นั้นมีไม่มาก เขาคัดเฉพาะคนที่คิดว่าเป็นตัวท็อปจริงๆ และทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเรื่องง่ายต่อการจัดการ

     

              พนักงานของแต่ละคนรูดคีย์การ์ดในขณะที่อีกมือหนึ่งถือกระเป๋าเดินทางให้กับศิลปินและเมเนเจอร์ อาจจะยกเว้นซอฮยอนที่สะพายกระเป๋าใบเล็กใบน้อยเอง เพราะเธอนั้นจัดกระเป๋าราวกับว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไป

     

              ทันทีที่ทุกคนเข้าห้องตัวเองเรียบร้อยแล้วนั้น พนักงานก็โค้งคำนับก่อนจะออกจากห้องไปทันที ซอฮยอนกำคีย์การ์ดแล้วล้มตัวลงบนเตียงนุ่มขนาดใหญ่สีขาวเลยทันที เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก

     

              ซอฮยอนนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยพลางหลับตาแน่น แต่เดี๋ยวนะ เหมือนเธอจะลืมอะไรไปบางอย่าง เธอจำไม่ได้ว่าซีเอ็นบลูต้องทำอะไรบ้างวันนี้!

     

              คิดดังนั้นซอฮยอนรีบเด้งตัวพลางควานหาโทรศัพท์มือถือเครื่องสวยทันที เธอปลดล็อครหัสผ่านก่อนจะเข้าดูตารางงานของวง แต่เมื่อเช็คดูแล้วก็ทราบว่าทั้งหมดจะมีเวลาว่างได้พักผ่อนในช่วงเช้าถึงช่วงบ่ายนิด ๆ เพราะรถตู้จะมารับทุกคนในเวลาบ่ายสองโมงเพื่อนำไปยังสถานที่แสดงคอนเสิร์ตรวมของค่ายเพื่อซ้อมใหญ่กับเวทีจริง

     

              เมื่อรับรู้ได้ดังนั้นแล้วซอฮยอนรีบเดินไปเปิดประตูทันที เธอเดินไปยังห้องข้าง ๆ เธอก่อนจะกดออดเบา ๆ หนึ่งที คุณชเวนั่นเอง

     

              ซอฮยอนคิดว่าจะย้ำกับคุณชเวเรื่องตารางงานวันนี้ว่าสมาชิกในวงต้องทำอะไรบ้าง เธอไม่แน่ใจว่าคุณชเวจะรู้แล้วหรือยัง แต่เพื่อความแน่ใจก็ต้องบอกให้เขารับรู้ก่อนจะดีที่สุด แต่รออยู่สักพักก็ไม่มีท่าว่าคุณชเวจะออกมาเปิด

     

              เธอจะต้องบอกสมาชิกคนอื่น ๆ แทนไหมนะ ซอฮยอนคิด

     

              แอ๊ด….

     

              ‘’มีอะไร’’

               เสียงเย็นดังขึ้น ซอฮยอนยืนนิ่ง ตาเบิกกว้างเล็กน้อยอย่างตกใจ

              ‘’ทำไมนายอยู่ห้องนี้ล่ะ’’ ซอฮยอนสะกดออกมาแต่ละคำอย่างติดขัด

              ‘’ก็จะอยู่ห้องนี้อ่ะ’’ ยงฮวาเริ่มขมวดคิ้ว ‘’แล้วมีอะไร?’’

              ซอฮยอนมองหน้าเขาอย่างวิเคราะห์ บ้าไปแล้วเหรอ ตอนที่เธอเดินเข้าห้องน่ะคุณชเวอยู่ข้างห้องเธอ เพราะเรียงจากสมาชิกในวง คุณชว แล้วสุดท้ายด้วยเธอเองต่างหาก จู่ ๆ เขาจะย้ายมาห้องนี้ได้ยังไงกัน

     

              แต่เพื่อไม่ให้ดูเหมือนว่าเธอสนใจ ก็ปล่อยผ่านไปเถอะ

     

              ‘’วันนี้พวกนายมีเวลาพักผ่อนได้แค่ถึงบ่ายโมง เพราะบ่ายสองรถตู้จะมารับไปซ้อมใหญ่คอนเสิร์ตรวมค่าย’’ ซอฮยอนกลั้นหายใจพูดออกมา

              ‘’แล้วมาบอกฉันทำไมไม่ทราบ’’ ยงฮวาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

              ‘’ไอ้ –‘’

              ‘’ฉันรู้ก่อนเธออีก ซอฮยอน’’

     

              ฉันรู้ก่อนเธออีก ซอฮยอน…. ให้ตายเถอะ เกิดมาเธอไม่เคยได้ยินใครเรียกชื่อเธอได้หวั่นหัวใจขนาดนี้มาก่อนเลย เขาเป็นอะไรไปนะ ทำไมถึงชอบทำให้เธอใจเต้นแรงอยู่เรื่อยเลย

     

              ‘’รู้ก่อนก็รู้ก่อนสิ ฉันไปละ’’ ซอฮยอนทำหน้าอารมณ์เสียกลบเกลื่อน

             

              ระหว่างที่เธอกำลังหันตัวเดินกลับไปยังห้องของตัวเองนั้น แขนแกร่งก็กระชากเธอกลับมาเสียก่อน ซอฮยอนเซตามแรงกระชาก เธอตกใจ

     

              ‘’อะ อะไรเนี่ยยงฮวา!’’ ซอฮยอนเผลอตะโกนขึ้นมา เธอตกใจมาก

              ‘’ทำไม ตกใจมากเลยเหรอ’’ ยงฮวาถาม มือยังคงจับแขนเธอไว้แน่น

              ‘’ก็นายกระชากขนาดนี้ใครจะไม่ตกใจบ้างล่ะ!’’ ซอฮยอนหน้ามุ่ยอารมณ์เสียของจริงเสียแล้วคราวนี้ ยงฮวาเมื่อเห็นดังนั้นก็ยิ้มมุมปากก่อนจะดึงเธอเข้ามาภายในห้องของเขาพร้อมกับปิดประตูลงเบา ๆ

     

              ซอฮยอนตาเหลือก ซึ่งมันดูขัดกับลุคส์หยิ่งจองหองของเธอมาก ยงฮวาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว นั่นยิ่งทำให้ซอฮยอนขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ยหนักกว่าเดิม เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ!

     

              ‘’หัวเราะอะไร ปล่อยได้แล้ว เอาฉันเข้ามาทำไมเนี่ย!’’ ซอฮยอนพยายามสลัดแขนออกจากยงฮวา ซึ่งมันดูน่ารักมากในสายตาเขา

              ‘’ฉันจะไม่ปล่อยเธอกลับห้องทั้งที่เธอยังหน้ามุ่ยแบบนี้อยู่หรอกนะ’’

              ‘’สนใจอะไรล่ะ เรื่องของฉันสิ’’ ซอฮยอนขมวดคิ้วพร้อมจิกตาใส่

              ยงฮวาไม่พูดอะไรต่อ เขาเพียงแต่จ้องหน้าซอฮยอนอย่างหลงใหลในตัวผู้หญิงตรงหน้า ใบหน้าสวยชวนหลงใหล ท่าทางหงุดหงิดที่กำลังทำเขาคิดอยากจะกำราบเธอด้วยมือของเขาเอง ให้ตาย ทำไมเธอน่ารักขนาดนี้นะ ยงฮวาจ้องซอฮยอนอยู่นาน สายตาที่มองเธอลึกลงไปราวกับต้องการอะไรบางอย่างมาก ๆ ความเงียบครอบงำทั้งคู่ทันที สายตาของทั้งสองจ้องมองกันราวกับจะรื้อฟื้นอะไรบางอย่าง

     

              และแล้ว เหมือนมีอะไรดึงดูดทั้งคู่เข้าหากัน ยงฮวาขยับเข้าหาซอฮยอนพลางผลักเธอเบา ๆ แนบไปกับกำแพง ซอฮยอนทำท่าจะปฏิเสธ แต่อะไรบางอย่างกลับจุดเพลิงในตัวเธอให้ทำต่อไป ยงฮวาเอียงหน้าจรดลงจมูกของเธอ ริมฝีปากของทั้งคู่แตะกันเบา ๆ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นเมื่อซอฮยอนเป็นฝ่ายเริ่มมันเสียเอง เธองับริมฝีปากล่างของยงฮวาเบา ๆ แล้วผละออกมา ซอฮยอนมองหน้ายงฮวาด้วยสายตาที่รู้ได้เพียงสองคน ยงฮวานั้นเริ่มต้นประกบริมฝีปากเข้ากับเธอทันที เขาขยับริมฝีปากอย่างรวดเร็วและชำนาญในขณะที่เธอก็จุดเพลิงในตัวเขาโดยที่ไม่ตั้งใจเช่นกัน ซอฮยอนลูบมือสวยไปตามลำคอของอีกฝ่ายอัตโนมัติ เท่ากับว่าครั้งนี้เธอเป็นคนเติมไฟให้ผู้ชายอย่างเขาเสียได้ ทั้งคู่สอดลิ้นอุ่นเข้าไปในโพลงปากของอีกฝ่าย จูบครั้งนี้ที่ยาวนานกว่าครั้งไหน ๆ เริ่มต้นจากอ่อนโยนไปจนถึงป่าเถื่อน ยงฮวาสอดนิ้วมือเข้าไปในเสื้อคอเต่าของซอฮยอนก่อนจะเลื่อนมือเข้าไปปลดบราเธอเสีย ซอฮยอนหอบ

     

              จูบครั้งนี้ที่ดูว่าจะเกินไปเลยไปไกลมากกว่านี้ เริ่มทำให้ทั้งยงฮวาและซอฮยอน ที่ตอนนี้ดูจะไม่มีสติความยับยั้งเหลืออยู่แล้วคิดขึ้นมาได้แว้บหนึ่ง ยงฮวาลากนิ้วไปตามหน้าอกของซอฮยอนจนเธอร้องครางออกมาเสียงกระเส่า  ทั้งคู่ประกบริมฝีปากเข้าหากันอีกครั้ง ครั้งนี้นานกว่าครั้งแรก จูบที่เต็มไปด้วยความหมาย จูบที่เต็มไปด้วยความปรารถนา จูบที่ทำให้ทั้งคู่มีสติว่าพวกเขาไม่ควรไปไกลกว่านี้

     

              เหมือนพวกเขาจะคิดได้เหมือนกัน ทั้งคู่ผละริมฝีปากออกจากกันช้า ๆ อย่างนึกเสียดาย ความรู้สึกขมขื่นบางอย่างที่เกิดขึ้นทำให้ซอฮยอนน้ำตาคลอ เธอรักเขาเข้าไปแล้วของจริง จูบที่ยิ่งตราตรึงว่าเธอไม่เคยรักใครเท่าเขามาก่อน ยงฮวาเองก็ได้รู้ใจตัวเองแล้วว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาพร้อมจะหยุดด้วย แต่มันก็สายไปเสียแล้ว

     

              ‘’กลับห้องเถอะ เดี๋ยวไปส่ง’’

              ยงฮวาพูดขึ้นพลางขยับเข้าไปใกล้ซอฮยอนอีกหน เขายกแขนทำท่าจะกอดเธอ แต่แล้วที่จริงเขาก็แค่ใส่บรากลับเข้าที่ให้เธอเหมือนเดิมเหมือนตอนที่เขาปลดมันมา ซอฮยอนอายมาก เธอหน้าแดงราวกับคนเป็นไข้

     

              เขามองเธอแว้บหนึ่งอย่างรู้เรื่อง และแล้วยงฮวาก็ทำในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าเขาจะทำ เขากอดเธอแน่นพลางวางใบหน้าลงบนไหล่ของเธอ ซอฮยอนตกใจเล็กน้อย เธอไม่เคยคิดว่าคนอย่างเขาจะกอดใครมาก่อน ที่เขาทำแบบนี้มันยิ่งทำให้เธอคิดว่าเขาทำกับเธอเป็นคนแรกหรือเปล่านะ

     

              ‘’เหนื่อยจัง’’

              ยงฮวาพูดขึ้น ซอฮยอนกัดริมฝีปากแน่น

     

              ‘’ขอกอดแบบนี้สักพักนึงได้มั้ย’’

     

              ซอฮยอนลังเลว่าควรจะกอดตอบเขาดีไหม เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขารักเธอจริงหรือเปล่า เพราะการกระทำของเขามันสั่นใจเธอได้ดีจริง ๆ

     

              แล้วถ้าเกิดเขาหลอกเธออีกล่ะ

     

              ‘’รักเธอนะซอฮยอน รักมากจริง ๆ’’

              ซอฮยอนน้ำตาไหล เธอไม่อาจต้านทานคำบอกรักนี้ได้อีกแล้ว เธอเจ็บปวดกับเขามามากก็จริง แต่ทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้ เธอไม่อาจหนีเขาไปให้พ้นได้อีกเลย แต่ผู้ชายแบบเขาเหรอจะมาหยุดที่เธอ เธอจะเชื่อเขาได้ไหม

     

    ‘’ยอมได้เหรอ ถ้าอยู่ในสถานะ ชู้’’





    --------------------------------------------------------------------------------------------------

          ไรเตอร์คิดถึงนักอ่านทุกคนเลย เม้นต์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ แล้วก็ตอนต่อไปก็คงดราม่า

          น้อยลงแล้วค่ะ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมากขึ้น แต่ดราม่าก็ยังคงเยอะกว่าตอนแรกๆนะคะเพราะเรื่อง

          เข้มข้นจะถึงจุดพีคแล้ว อยู่ด้วยกันไปจนจบเลยนะ รักนะคะนักอ่าน

          ปล.ธีมเก่าเสียค่ะเลยได้ธีมใหม่แบบนี้มาแทน 

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×