ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fake Mask] หน้ากากซาตาน (Yonghwa/Seohyun-YongSeo)

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 19 : สนามบิน

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.พ. 59


              


              ซอฮยอนทำใจอยู่นานมากกว่าจะผลักประตูเข้าไปภายในห้องซ้อมได้ เธอหายใจเข้าจนปอดแทบจะรับอากาศไม่ไหวอีกต่อไป แต่แล้วความกล้าบางอย่างก็ผลักดันให้เธอปล่อยวางและผลักประตูเดินเข้าไป

     

              เมื่อเธอผลักประตูเข้าไปก็พบเข้ากับสมาชิกในวงที่กำลังซ้อมดนตรีและร้องเพลงกันอยู่ ยงฮวาเองไม่ได้หันมามองซอฮยอน มีเพียงแต่สมาชิกที่เหลืออีกสามคนที่หันหน้ามาแว้บหนึ่งก่อนจะหันกลับไปสนใจเครื่องเล่นดนตรีของตัวเอง แต่มีคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะดีใจมากที่เห็นซอฮยอน คุณชเวนั่นเอง

     

              ‘’อ้าว ซอฮยอน’’

              คุณชเวลุกขึ้นเมื่อซอฮยอนเปิดประตูเข้ามา เขายิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร เมื่อเห็นดังนั้น เธอจึงยิ้มบางๆตอบกลับไปตามมารยาท

              ‘’เป็นยังไงบ้าง เมื่อวานเจ้าพวกนี้มันแกล้งอะไรเธอหรือเปล่า’’

     

              จึก!

     

              เจ้าพวกนี้แกล้งอะไรเธอหรือเปล่าอย่างนั้นเหรอ ก็คงจะแกล้งอยู่หรอกถ้าเธอได้ขึ้นมาห้องซ้อม แต่เธอไม่แม้แต่จะกดลิฟต์ขึ้นมาด้วยซ้ำ

     

              ‘’พวกเราไม่ได้แกล้งเธอครับ’’

              จองชินพูดขึ้นกลบเกลื่อนแทนซอฮยอนเมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา เธอเองก็ส่งสายตางุนงงไปให้เขาที่กำลังโกหกอย่างแนบเนียน ทำไมเขาถึงโกหกช่วยเธอด้วยนะ เขาควรจะเกลียดเธอเหมือนใครบางคนสิ

              ‘’ขี้โม้ เรื่องแบบนี้ถามพวกเธอจะได้เรื่องหรือไง’’ คุณชเวจีบปากใส่จองชินอย่างเอ็นดู ซึ่งเขายิ้มเล็กน้อย ‘’แล้วยงฮวาแกล้งอะไรซอฮยอนหรือเปล่า’’

     

              คำถามอันแสนน่ากลัวหลุดออกมาจากปากของคุณชเว ราวกับว่าเขากำลังจะฆ่าเธอทางอ้อมยังไงอย่างนั้น ให้ตายเถอะ พูดชื่อเธอกับยงฮวาเนี่ยนะ

              แต่มันก็โทษอะไรคุณชเวไม่ได้หรอก ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และคุณชเวไม่ผิดที่พูดขึ้นมาแบบนั้น แต่เธอก็รู้สึกไม่ดีอยู่ดี

     

              ยงฮวาไม่ตอบคำถามคุณชเว เขายังคงก้มหน้าก้มตาอ่านเนื้อเพลงแบบไม่สนใจคนรอบข้างหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว ให้เด็กอนุบาลดูยังรู้เลยว่าเขาจงใจจะไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย ตั้งแต่ที่เขาขอโทษเธอ แต่กลับได้ความรู้สึกแย่กลับมา ความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงที่รู้ว่าตัวเองช้าไปเสมอ...

     

              ‘’พี่ยงฮวาไม่ค่อยได้ยินใครหรอกครับ’’ มินฮยอกพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ายงฮวาไม่ตอบคำถามคุณชเว ซึ่งซอฮยอนจ้องมองไปยังยงฮวาด้วยสายตาเดายาก

              ‘’ไม่สบายนิดหน่อย ป่วยเป็นไข้ เลยไม่ค่อยอยากคุยกับใคร’’

              ‘’เกี่ยวกันตรงไหนวะ’’

              จงฮยอนที่ยังไม่คืนดีกับซึงยอนแม้จะดั้นด้นไปหาถึงที่แล้วพึมพำขึ้น เห็นกันอยู่ว่ามินฮยอกโกหกอะไรได้ปัญญาอ่อนมาก มันไม่เห็นจะเข้ากันตรงไหน

              ‘’เป็นไข้ใจไม่เกี่ยวตรงไหนครับ’’

              มินฮยอกสวนกลับ แต่ความเล่นมากของเขาทำให้ทั้งจองชินและจงฮยอนเขม่นตาใส่เมื่อเห็นว่าเขาเล่นไม่รู้เรื่อง เรื่องนี้คุณชเวไม่ควรจะรับรู้ อีกอย่างซอฮยอนเพิ่งเข้ามาทำงาน จะมามีเรื่องชู้สาวแบบนี้ก็ไม่สมควรและเกินไปหน่อย ยงฮวาเองก็เขม่นตาใส่มินฮยอกเช่นกัน แต่เมื่อเห็นเขาขยับไหล่ประมาณว่า ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทุกคนก็กลับไปสนใจหน้าที่ตัวเองต่อไป

     

     

     

     

              นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง คุณชเวสั่งให้ทุกคนเลิกซ้อมแล้วให้มานั่งฟังรายละเอียดต่อไปนี้ที่เขาจะต้องอธิบายเกี่ยวกับคอนเสิร์ตรวมค่ายที่จะมาถึงภายในอาทิตย์หน้า สมาชิกทุกคนเมื่อถึงเวลาพักก็วางเครื่องดนตรีและเดินมาหาที่นั่งทันที ซอฮยอนเองที่ใกล้จะเหน็บกินเต็มที่จากการนั่งมาทั้งวันก็รู้สึกว่าเธอควรกลับคอนโดของตนเองได้แล้ว

     

              ‘’ทุกคนซ้อมดีมากวันนี้ แต่วันพรุ่งนี้จนถึงวันพุธพวกเราจะต้องอยู่ซ้อมกันจนถึงตีสาม เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไร เลื่อนเวลาเข้าตึกเป็นบ่ายหนึ่ง’’

              หลังจากคุณชเวพูดจบทุกคนมีสีหน้าเหนื่อยล้าสุดขีดปรากฏอยู่อย่างชัดเจน ยงฮวาดูล้าไปบ้างแต่เขาก็ยังมีสีหน้าอ่านใจไม่ออกอยู่ดี คงจะเกิดจากเรื่องเมื่อเช้าในลิฟต์เป็นแน่ ซอฮยอนมองเขาครู่หนึ่งก่อนจะรีบหันกลับไปฟังคุณชเวที่กำลังจะพูดถึงกำหนดการต่อไปต่อ

              ‘’ซอฮยอนไม่จำเป็นต้องมาก็ได้นะสามวันนี้ เพราะสามวันนี้ไม่มีตารางงานอะไรเลย’’

              ‘’แต่ที่สำคัญเลยคือวันศุกร์ ให้เราทุกคนมาเจอกันหน้าตึกเวลาตีห้า แปลว่าเจ้าห้าคนนี้จะไม่ได้นอนเลยวันพฤหัส เป็นปกติอยู่แล้ว เพราะเราจะมีทัวร์คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีศิลปินในค่ายไปกันยกค่าย แต่วงอื่นๆจะไปกันวันพฤหัส อย่างBlack Devilรุ่นพี่ของพวกเธอจะไปวันพฤหัส มีถ่ายงานที่นั่นหนึ่งวัน’’

              มินฮยอกถอนหายใจแรงสุด ทุกคนดูอ่อนเพลีย

              ‘’ให้จัดเสื้อผ้าสำหรับหนึ่งอาทิตย์มากันให้ครบ เพราะเราจะทัวร์คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ไปเล่นที่โตเกียวและจังหวัดต่างๆด้วย จริงๆแล้วเราจะได้ไปเครื่องบินส่วนตัวกัน แต่เหมือนจะไม่พอและการตรวจรักษาความปลอดภัยก็ไม่เสร็จสิ้นดี มันอันตราย คิวเรามีไปวันศุกร์ รู้สึกว่าจะไปวงเดียวในวันนี้’’

              ‘’ส่วนซอฮยอน ท่านประธานฝากบอกผ่านคุณคิมมาว่าคอนเสิร์ตวันสุดท้ายจะมาหาเธอนะ’’

              คุณชเวจัดแจงเรื่องอื่นอีกไม่กี่เรื่อง ใช้เวลาอธิบายเพิ่มเติมอีกไม่นาน แต่ที่ต้องใช้เวลานานเลยคือต้องมานั่งถกเถียงครั้งแล้วครั้งเล่ากับเหล่าสมาชิกในวงที่ดูจะเถียงไปซะทุกเรื่องเหลือเกิน แต่เมื่อโดนคุณชเวปรามไปถึงหน้าที่พวกเขาก็ได้แต่ทำปากมุบมิบไม่กล้าพูดอะไรต่อ

     

     

              ถึงเวลาเลิกงานของสมาชิกในวงและซอฮยอนแล้ว เธอรีบปลีกตัวออกไปก่อนทันทีที่สมาชิกซีเอ็นบลูจะได้พูดอะไรต่อมิอะไรกับเธอได้ เธอรีบเดินออกไปพลางกดปุ่มลงย้ำหลายที

     

              ตื๊ด ตื๊ด...

     

              เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋าของซอฮยอน เธอตกใจเล็กน้อยก่อนจะควานหามันในกระเป๋า และแล้วก็กดรับทันที

     

              ‘’ฮัลโหล’’

              ซอฮยอนกรอกเสียงลงปลายสาย ลิฟต์กำลังขึ้นมาชั้นของเธอ

              ‘’จูฮยอน มารอฉันที่ลานจอดรถ’’

              อะไรนะ!? ทำไมไม่เป็นหน้าตึก

              ‘’ทำไมถึงรอที่นั่นล่ะ’’ ซอฮยอนหน้าเครียด สมาชิกซีเอ็นบลูทั้งสี่คนกำลังเดินตรงมาทางนี้ มือเธออยู่ไม่นิ่ง

              ‘’อย่าถามมาก รีบมาละกัน’’ มินโฮพูดแค่นั้นก่อนจะตัดสายไป บัดนี้ลิฟต์เปิดออกท่ามกลางซอฮยอนที่กำลังยืนอยู่คนเดียว  ซะที่ไหนกันล่ะ!

     

              จองชินและเมมเบอร์อีกสามคนเดินตรงมายังลิฟต์ทันทีที่มันเปิดออก ซอฮยอนตัวเกร็งไปหมด แต่เธอพยายามทำตัวให้ปกติ เธอเดินเข้าไปข้างในซึ่งตามมาด้วยสมาชิกอีกสี่คนที่เดินตามเข้ามาไล่ๆกัน ยงฮวานั้นสีหน้านิ่งเกินคาดเดา

     

              ลิฟต์ลงจอดถึงชั้นล่างสุด ทุกคนในลิฟต์ทยอยกันออกมาอย่างเหนื่อยล้าปานจะหลับกลางอากาศกันได้แล้วก็ไม่ปาน ซอฮยอนเดินนำไปยังลานจอดรถก่อน โดยมีเมมเบอร์ทั้งสี่คนเดินตามไปติดๆเพราะไปทางเดียวกัน

     

              ซอฮยอนมองหารถอันคุ้นเคยของมินโฮ และแล้วเธอก็เห็นมัน แต่เหมือนว่าเมมเบอร์ทั้งสี่คนจะไม่รู้ว่ามีคนมารับเธอกลับบ้าน จองชินถึงได้ถามขึ้นอย่างสงสัยและเป็นห่วงรองเมเนเจอร์ของวงตัวเอง แม้เขาจะไม่ค่อยพูดคุยหรือมีส่วนในหัวข้ออะไรมากนักแต่เขาก็เป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมากทีเดียว

     

              ‘’ซอฮยอน กลับยังไง’’ เขาถามเธอ ยงฮวามองทั้งคู่แว้บหนึ่งก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจโทรศัพท์ในมือตัวเอง

              ‘’มีคนมารับน่ะ’’ ซอฮยอนตอบอย่างระมัดระวัง เธอเหลือบมองยงฮวา

              ‘’ไม่เห็นต้องถามมากเลย ผัวเค้าก็ต้องมารับอยู่แล้วป่ะวะ’’

              ยงฮวาพูดหน้าตาย ซอฮยอนหันไปทางเขาทันทีอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่ค่อยสนใจคำหยาบคายที่เขาพูดมาอยู่แล้ววันนี้ เขาไม่หงุดหงิดสิแปลก เธอใจสถานการณ์นะ บางทีที่เธอปฏิเสธเขาเมื่อเช้าคงทำเขาหัวเสียมากที่เดียว ที่เก็บแต้มจากผู้หญิงอย่างเธอไปไม่ได้ คงหัวเสียที่พลาดไปหนึ่งคะแนน.. เธอคิด

     

              มินโฮวนรถมาแล้วแล่นมาจอดตรงหน้าซอฮยอนทันทีเมื่อเห็นเธอลงมา เขานั้นหยุดรถตรงหน้าซอฮยอนและสมาชิกในวง ซึ่งเธอดูจะหัวเสียมากทีเดียวที่เขาดูจะเปิดเผยกับทุกสิ่ง

     

              ซอฮยอนเปิดประตูรถทันทีที่มินโฮหยุดรถ เธอไม่แม้แต่จะหยุดมองดูเมมเบอร์ที่เหลือ ซึ่งเธอก้าวขาขึ้นนั่งและคาดเบลท์ทันที แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นเมื่อมินโฮไม่คิดจะเคลื่อนตัวรถออกไปเลย เขากดลดหน้าต่างฝั่งซอฮยอนออกครึ่งทางก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ซอฮยอน และในที่สุดเขาก็ประทับจูบลงไปบนแก้มเนียนใสของเธอ ซอฮยอนตกใจทำอะไรไม่ถูก เมมเบอร์ที่ยืนมองอยู่รู้สึกคับแค้นใจแทนยงฮวาที่กำลังกำมือแน่นจนแทบจะควบคุมไว้ไม่ได้

     

              ‘’คิดถึงจังเลยครับ คนสวย’’

              ขณะที่พูดมินโฮเลือกที่จะจ้องหน้ายงฮวาแทนที่จะมองซอฮยอน ยงฮวาจ้องตามินโฮอย่างน่ากลัว ระดับอารมณ์พุ่งขึ้นจนร่างกายแทบสั่น เขาโกรธ

     

              เมื่อเห็นว่าเป็นไปตามแผน มินโฮเผยยิ้มสะใจให้กับยงฮวาครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดกระจกฝั่งซอฮยอน เธอตาค้างและตกใจเป็นอย่างมาก โดยสัญชาตญาณเธอนั้นรีบหันหน้าไปทางยงฮวาทันที เธอเห็นเขาดูโกรธจัดมาก แต่ไม่รู้ว่าเขาโกรธเพราะถูกหยามศักดิ์ศรีหรือว่าอะไร แต่เธอพยายามจะไม่เป็นห่วงเขาแน่นอน ยงฮวาไม่ได้รักเธอจริง เขาเห็นเธอเป็นเพียงผู้หญิงในสต็อค และคำว่ารักที่เขาพูดออกมามันก็ไม่จริงทั้งเพล

     

              ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นก็คือยงฮวาที่โกรธจัดราวกับพร้อมจะฆ่าคนได้เลยทีเดียว และถ้าทำได้ มินโฮคงตายคามือเขาไปแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

             

     

              ท้องฟ้ามืดสนิทซึ่งมีเพียงแค่แสงไฟบางๆบ่งบอกให้รู้ว่าตีห้าของวันศุกร์ได้มาถึง ซอฮยอนงัวเงียลงมาจากรถคันหรูของมินโฮพร้อมกับสัมภาระข้าวของที่จัดเตรียมมาอย่างแน่นและเยอะที่สุด เธอนั้นหลับมาตลอดทาง มินโฮเองก็ง่วงได้ที่แต่งอแงจะมาส่งเธอให้ได้ เขานั้นไม่วายขับไปด่าเธอไปตลอดทาง แต่ซอฮยอนนั้นไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย

     

              ‘’เช้าเป็นบ้า ลาออกไปเถอะบริษัทปัญญาอ่อนนี่’’ มินโฮออกเสียงเต็มที่เมื่อมาส่งเธอที่หน้าบริษัท

              ‘’อยากรู้จริงๆว่านายมีชีวิตมาจนถึงป่านนี้ได้ยังไงกันนะ อีกอย่าง นี่บริษัทพ่อฉัน’’ ซอฮยอนจิกตาใส่เขา แม้มันจะแทบลืมไม่ขึ้นแล้วก็ตามที มินโฮเองก็ช่วยขนกระเป๋าลากของเธอสองใบลงมาให้ระหว่างที่บ่นพึมพำไปด้วย ซึ่งเธอก็หยิบกระเป๋ายิบย่อยของตัวเองลงมาเช่นกัน

             

              มินโฮขนกระเป๋าลงมาครบทุกใบพลางครางออกมาอย่างเหนื่อยหอบ ซอฮยอนเองก็หยิบกระเป๋าใบเล็กใบน้อยรวบเข้าหากัน

     

              ‘’เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย’’

              มินโฮถามซอฮยอน

              ‘’คงไม่มีอะไรแล้วแหละ’’ เธอกวาดตาไปรอบๆหลังรถของมินโฮเพื่อตรวจดูว่ามีอะไรตกหล่นไปบ้างหรือเปล่า แต่เมื่อไม่เห็นก็เลิกกังวลทันที

              ‘’แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ฉันไปด้วย’’

              เมื่อฟังจบซอฮยอนเบ้ปากทันที เขาบ้าไปแล้วเหรอ

              ‘’ปัญญาอ่อนหรือเปล่านายน่ะ ฉันไปทำงานนะ’’

              ‘’ทำงานกับยงฮวา จะเถียงมั้ยล่ะ’’ มินโฮท้าวมือกับหลังคารถ

              ‘’โรคจิต ไม่คุยแล้ว’’ ซอฮยอนหยิบกระเป๋าล้อลากทั้งสองใบลากเข้าตึกทันที โดยมีมินโฮตะโกนมาว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ และอยู่ห่างจากยงฮวาเอาไว้ เธอได้แต่ขมวดคิ้วหนักๆและส่ายหัวให้เขาเป็นคำตอบ

     

              ระหว่างที่ซอฮยอนกำลังเดินเข้าไปนั้นเธอก็เหลือเห็นว่าสมาชิกทุกคนและคุณชเวยืนรออยู่กันพร้อมแล้ว แสดงว่าฉากตั้งแต่เริ่มที่มินโฮมาส่งเธอทุกคนก็คงจะเห็นกันหมดเลยล่ะสิ ดูจากสีหน้าที่อารมณ์เสียของยงฮวาแล้วก็คงเดาไม่ยาก

     

              คุณชเวพูดอะไรอีกเล็กน้อยก่อนรถตู้จะมารับทุกคนพาไปสนามบิน ทั้งหมดรีบเดินตรงไปโดยคุณชเวสั้งให้คนในวงช่วยซอฮยอนถือกระเป๋าด้วย ตอนแรกเธอนั้นไม่ยอมแต่ก็โดนกระชากถือไปอยู่ดี จงฮยอนนั้นเป็นคนช่วยเธอ จองชินกับมินฮยอกก็ถือกระเป๋าใบเล็กใบน้อยอีกคนละใบสองใบ

     

              ‘’ฉันทำดีขนาดนี้ก็ช่วยไปบอกให้ซึงยอนคืนดีกับฉันได้แล้ว’’

              จงฮยอนพูดขึ้นมาหน้าตาย ซอฮยอนมองหน้าเขาพักหนึ่ง

              ‘’ส่วนกระเป๋าใบเล็กๆพวกนี้เดี๋ยวยัดใส่กระเป๋าฉันให้ จะได้ไม่เกะกะ บอกตามตรงนะ มันน่ารำคาญอ่ะ ขนไรมาเยอะแยะ’’ จองชินบ่นอุบอิบ

      

              หลังจากนี้ไม่มีใครพูดอะไรกันอีก ยงฮวานั้นแทบไม่พูดอะไรขึ้นมาอีกเลยถ้าไม่จำเป็น สมาชิกที่เหลือก็เช่นกัน พวกเขาหลับเป็นตายในรถระหว่างทางไปสนามบิน เห็นได้ว่าทุกคนดูเหนื่อยล้ากันมากจากการซ้อม ซอฮยอนนั้นไม่ค่อยเหนื่อยอะไรเท่าไร เพราะเธอได้หยุดสามวัน แต่ที่เหนื่อยก็คงจะเป็นนิสัยการนอนดึกและแถมต้องมาตื่นเช้าแบบวันนี้นั่นเอง

     

              ใช้เวลาไม่นานมากนักทั้งหมดก็มาถึงสนามบิน พวกเขาลากกระเป๋ากันเพื่อเข้าไปยังตัวสนามบิน ซึ่งมีแฟนคลับไม่เยอะมากเท่าไรมายืนรอ เพราะตอนนี้ค่อนข้างเช้าจัดแถมคนเกาหลีส่วนใหญ่จะไม่โวยวายมากเท่าไรในเวลาเช่นนี้ พวกเขาเพียงแต่พยายามเข้าใกล้ศิลปิน

     

              เวลาผ่านไปพักใหญ่ ทั้งหมดถูกตรวจค้นสิ่งของต่างๆตามร่างกายและพาสปอร์ตก่อนจะได้เข้าไป กระเป๋าก็ถูกส่งไปอย่างถูกต้อง จะมีเสียค่ากระเป๋าเพิ่มบ้างก็ตรงที่ซอฮยอนขนของไปเยอะเกิน แต่โดยรวมแล้วทุกคนไม่มีปัญหาอะไร ฉะนั้นทุกอย่างจึงดูง่ายขึ้นและทั้งหมดก็เพียงแต่เดินไปขึ้นเครื่อง

     

              ภายในตัวเครื่องนั้นค่อนข้างไม่แออัด เพราะคนขึ้นน้อย มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น พวกเขาได้นั่งในชั้น VIP และแทบไม่มีใครนั่งเลย

     

              ซอฮยอนเลือกที่นั่งข้างหลัง ซึ่งเธอได้แต่ภาวนาว่าคุณชเวจะมานั่งกับเธอ ซอฮยอนส่งสายตาไปหาคุณชเวที่ไม่ได้มองมาทางเธอเลย และเหมือนว่าพระเจ้าไม่เข้าข้าง คุณชเวเลือกนั่งกับจองชินข้างหน้า ส่วนตรงกลางนั้นมินฮยอกกับจองชินก็นั่งลงไปเลยแบบไม่คิดชีวิต จองชินก็เอากับเขาด้วย เดาไม่ยากเลยว่ายงฮวาจะได้นั่งที่ไหน ก็นั่งข้างเธอนั่นไงล่ะ

     

              เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่นั่งลงไปทันที ซอฮยอนมองเขาด้วยหางตาก่อนจะหันมาสนใจตัวเองที่กำลังนั่งเกร็งทุกสัดส่วน สักพักหนึ่ง เสียงหวานของแอร์โฮสเต็สคนหนึ่งก็ดังขึ้นว่าให้ทุกคนทำการตรวจเช็คภายนอกเครื่องบิน และเช็คตัวเองให้เรียบร้อย พร้อมกับเดินเข้ามาสาธิตการคาดเข็มขัดนิรภัย เธอก็ทำตามอย่างขมักเขม่น ยงฮวาและคนที่เหลือดูจะชำนาญดีเพราะได้เดินทางบ่อย ไม่ใช่ว่าเธอเดินทางไม่บ่อยนะ แต่เธอไม่ค่อยชอบขึ้นมากกว่า

     

              เครื่องบินเริ่มลอยตัวขึ้น หูของซอฮยอนเองก็เริ่มอื้อขึ้นเรื่อยๆ เธอขอที่ปิดหูกับแอร์โฮสเต็สคนสวย และแล้วเธอก็หยิบมันสวมทันที ซอฮยอนเกร็งไปหมด เพราะคนข้างๆเธอดูเหมือนจะนั่งนิ่งไม่ทำอะไรทั้งสิ้น เห็นดังนั้นเธอจึงหาหนังสือที่เตรียมมาเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่านทันที เธอไม่อยากมือว่าง เดี๋ยวจะได้ฟุ้งซ่านขึ้นมา

     

              เวลาผ่านไปสักพัก ซอฮยอนเริ่มง่วง เธอปิดหนังสือลงพลางเอียงคอไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางเดียวกับยงฮวา เธอแอบเห็นเขาก็ตาปรือเช่นกัน เธอเห็นดังนั้นจึงคลายกังวลขึ้นมาได้บ้าง ซอฮยอนปิดตาสนิท ในหัวเริ่มไม่ประมวลผลอะไรแล้ว เธอจะหลับในอีกไม่กี่นาทีนี้

     

              ซอฮยอนหลับไปทั้งหนังสือที่ปิดค้างอยู่หว่างอก ยงฮวาเหลือบมองเธออย่างสนใจเล็กน้อย ใบหน้ายามนอนหลับของเธอแทบไม่ต่างไปจากคืนวันนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เดียงสา ปากสวยเผยอออกเล็กน้อย หน้าอกสะท้อนขึ้นลงบ่งบอกว่าเธอกำลังหายใจอยู่ ซึ่งมันน่าดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก ระหว่างนั้นซอฮยอนขยับตัวเล็กน้อย เธอใช้วงแขนกอดตัวเองแน่น

     

              เห็นดังนั้นยงฮวาจึงละสายตาจากเธอและเรียกแอร์โสเต็สทันที เขาขอผ้าห่มกับที่ปิดตาให้เธออย่างเงียบๆกลัวว่าคนข้างหน้าจะได้ยิน ซึ่งไม่มีทางแน่เมื่อพวกเขาหลับเป็นตายกันทุกคน เสียงกรนเล็กน้อยบ่งบอกว่าพวกเขาจมหายไปกับความฝันกันเสียแล้ว เมื่อเขาได้ที่ปิดตากับผ้าห่มมาเขาก็เริ่มต้นคลุมกายให้เธอทันที เมื่อเธอรู้สึกว่าอบอุ่นดีแล้วจึงคลายวงแขนออก เหมือนซอฮยอนจะลืมตาแต่เธอก็เหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรได้ ยงฮวาเริ่มต้นขยับเข้าไปใกล้เธอก่อนจะสวมที่ปิดตาให้เธออย่างบรรจง ระหว่างทำไปเขาก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แม้ในใจจะนึกขมขื่นกับคำตอบที่เธอตอบกลับมาระหว่างความสัมพันธ์ที่เป็นไปไม่ได้สำหรับทั้งเขาและเธอ ยิ่งรู้ว่ามินโฮหยามหน้าเขาขนาดไหนเขายิ่งร้อนรน

     

              แต่อีกใจหนึ่งเขาคิดว่าเธอทำถูกแล้ว คนโลเลอย่างเขาไม่สมควรที่จะมีใครมาจริงจังด้วย เพียงแต่เขาปลงไม่ได้ เขารักเธอ เธอต้องเป็นของเขาคนเดียว แต่มาวันนึงเมื่อรู้ว่าเธอกลายไปเป็นของคนอื่น นั่นยิ่งทำให้เขาเสียใจกับการกระทำของตัวเอง เขาเก็บตัว ไม่พูดคุย และคิดถึงเธอใจแทบขาด

     

              เขาหวังนะ ว่าเขาจะย้อนอดีตไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันติดอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้น แค่เรื่องเดียวจริงๆ

     

    มันเป็นไปไม่ได้ เขาย้อนอดีตไม่ได้





    -----------------------------------------------------------------------------------------------

    ตอนนี้ยังไม่จิกหมอนขาดค่ะ รอไปญี่ปุ่นก่อนเนาะทุกคน ใจเย็นกันก่อนค่ะ ใจร่มๆ มาอัพเร็วเพราะเห็นคนมาเม้นต์เยอะและดีใจ เลยสะดิ้งมาแต่งต่อ นี่ยังไม่อาบน้ำค่ะ งงมาก55555555 ตอนต่อๆไปจะเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้คู่ยงซอนะคะ ตอนนี้อัดอะไรมากไม่ได้ เดี๋ยวมันงง มันต้องค่อยเป็นค่อยไป สุดท้ายนี้อย่าลืมเม้นต์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ เม้นต์เยอะไรต์ก็สะดิ้งแบบนี้แหละ ไม่แน่อัพกันวันต่อวันเลยนะ555555555 รักค่ะ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×