คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 19 : สนามบิน
ซอฮยอนทำใจอยู่นานมากกว่าจะผลักประตูเข้าไปภายในห้องซ้อมได้
เธอหายใจเข้าจนปอดแทบจะรับอากาศไม่ไหวอีกต่อไป
แต่แล้วความกล้าบางอย่างก็ผลักดันให้เธอปล่อยวางและผลักประตูเดินเข้าไป
เมื่อเธอผลักประตูเข้าไปก็พบเข้ากับสมาชิกในวงที่กำลังซ้อมดนตรีและร้องเพลงกันอยู่
ยงฮวาเองไม่ได้หันมามองซอฮยอน
มีเพียงแต่สมาชิกที่เหลืออีกสามคนที่หันหน้ามาแว้บหนึ่งก่อนจะหันกลับไปสนใจเครื่องเล่นดนตรีของตัวเอง
แต่มีคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะดีใจมากที่เห็นซอฮยอน คุณชเวนั่นเอง
‘’อ้าว ซอฮยอน’’
คุณชเวลุกขึ้นเมื่อซอฮยอนเปิดประตูเข้ามา เขายิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร เมื่อเห็นดังนั้น
เธอจึงยิ้มบางๆตอบกลับไปตามมารยาท
‘’เป็นยังไงบ้าง เมื่อวานเจ้าพวกนี้มันแกล้งอะไรเธอหรือเปล่า’’
จึก!
เจ้าพวกนี้แกล้งอะไรเธอหรือเปล่าอย่างนั้นเหรอ ก็คงจะแกล้งอยู่หรอกถ้าเธอได้ขึ้นมาห้องซ้อม
แต่เธอไม่แม้แต่จะกดลิฟต์ขึ้นมาด้วยซ้ำ
‘’พวกเราไม่ได้แกล้งเธอครับ’’
จองชินพูดขึ้นกลบเกลื่อนแทนซอฮยอนเมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา
เธอเองก็ส่งสายตางุนงงไปให้เขาที่กำลังโกหกอย่างแนบเนียน
ทำไมเขาถึงโกหกช่วยเธอด้วยนะ เขาควรจะเกลียดเธอเหมือนใครบางคนสิ
‘’ขี้โม้ เรื่องแบบนี้ถามพวกเธอจะได้เรื่องหรือไง’’
คุณชเวจีบปากใส่จองชินอย่างเอ็นดู ซึ่งเขายิ้มเล็กน้อย ‘’แล้วยงฮวาแกล้งอะไรซอฮยอนหรือเปล่า’’
คำถามอันแสนน่ากลัวหลุดออกมาจากปากของคุณชเว
ราวกับว่าเขากำลังจะฆ่าเธอทางอ้อมยังไงอย่างนั้น ให้ตายเถอะ
พูดชื่อเธอกับยงฮวาเนี่ยนะ
แต่มันก็โทษอะไรคุณชเวไม่ได้หรอก ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และคุณชเวไม่ผิดที่พูดขึ้นมาแบบนั้น
แต่เธอก็รู้สึกไม่ดีอยู่ดี
ยงฮวาไม่ตอบคำถามคุณชเว
เขายังคงก้มหน้าก้มตาอ่านเนื้อเพลงแบบไม่สนใจคนรอบข้างหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ให้เด็กอนุบาลดูยังรู้เลยว่าเขาจงใจจะไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย ตั้งแต่ที่เขาขอโทษเธอ
แต่กลับได้ความรู้สึกแย่กลับมา
ความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงที่รู้ว่าตัวเองช้าไปเสมอ...
‘’พี่ยงฮวาไม่ค่อยได้ยินใครหรอกครับ’’ มินฮยอกพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ายงฮวาไม่ตอบคำถามคุณชเว
ซึ่งซอฮยอนจ้องมองไปยังยงฮวาด้วยสายตาเดายาก
‘’ไม่สบายนิดหน่อย ป่วยเป็นไข้ เลยไม่ค่อยอยากคุยกับใคร’’
‘’เกี่ยวกันตรงไหนวะ’’
จงฮยอนที่ยังไม่คืนดีกับซึงยอนแม้จะดั้นด้นไปหาถึงที่แล้วพึมพำขึ้น
เห็นกันอยู่ว่ามินฮยอกโกหกอะไรได้ปัญญาอ่อนมาก มันไม่เห็นจะเข้ากันตรงไหน
‘’เป็นไข้ใจไม่เกี่ยวตรงไหนครับ’’
มินฮยอกสวนกลับ
แต่ความเล่นมากของเขาทำให้ทั้งจองชินและจงฮยอนเขม่นตาใส่เมื่อเห็นว่าเขาเล่นไม่รู้เรื่อง
เรื่องนี้คุณชเวไม่ควรจะรับรู้ อีกอย่างซอฮยอนเพิ่งเข้ามาทำงาน
จะมามีเรื่องชู้สาวแบบนี้ก็ไม่สมควรและเกินไปหน่อย
ยงฮวาเองก็เขม่นตาใส่มินฮยอกเช่นกัน แต่เมื่อเห็นเขาขยับไหล่ประมาณว่า ไม่เห็นเป็นอะไรเลย
ทุกคนก็กลับไปสนใจหน้าที่ตัวเองต่อไป
นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง คุณชเวสั่งให้ทุกคนเลิกซ้อมแล้วให้มานั่งฟังรายละเอียดต่อไปนี้ที่เขาจะต้องอธิบายเกี่ยวกับคอนเสิร์ตรวมค่ายที่จะมาถึงภายในอาทิตย์หน้า
สมาชิกทุกคนเมื่อถึงเวลาพักก็วางเครื่องดนตรีและเดินมาหาที่นั่งทันที
ซอฮยอนเองที่ใกล้จะเหน็บกินเต็มที่จากการนั่งมาทั้งวันก็รู้สึกว่าเธอควรกลับคอนโดของตนเองได้แล้ว
‘’ทุกคนซ้อมดีมากวันนี้
แต่วันพรุ่งนี้จนถึงวันพุธพวกเราจะต้องอยู่ซ้อมกันจนถึงตีสาม
เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไร เลื่อนเวลาเข้าตึกเป็นบ่ายหนึ่ง’’
หลังจากคุณชเวพูดจบทุกคนมีสีหน้าเหนื่อยล้าสุดขีดปรากฏอยู่อย่างชัดเจน
ยงฮวาดูล้าไปบ้างแต่เขาก็ยังมีสีหน้าอ่านใจไม่ออกอยู่ดี
คงจะเกิดจากเรื่องเมื่อเช้าในลิฟต์เป็นแน่
ซอฮยอนมองเขาครู่หนึ่งก่อนจะรีบหันกลับไปฟังคุณชเวที่กำลังจะพูดถึงกำหนดการต่อไปต่อ
‘’ซอฮยอนไม่จำเป็นต้องมาก็ได้นะสามวันนี้ เพราะสามวันนี้ไม่มีตารางงานอะไรเลย’’
‘’แต่ที่สำคัญเลยคือวันศุกร์ ให้เราทุกคนมาเจอกันหน้าตึกเวลาตีห้า
แปลว่าเจ้าห้าคนนี้จะไม่ได้นอนเลยวันพฤหัส เป็นปกติอยู่แล้ว
เพราะเราจะมีทัวร์คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีศิลปินในค่ายไปกันยกค่าย
แต่วงอื่นๆจะไปกันวันพฤหัส อย่างBlack Devilรุ่นพี่ของพวกเธอจะไปวันพฤหัส
มีถ่ายงานที่นั่นหนึ่งวัน’’
มินฮยอกถอนหายใจแรงสุด ทุกคนดูอ่อนเพลีย
‘’ให้จัดเสื้อผ้าสำหรับหนึ่งอาทิตย์มากันให้ครบ
เพราะเราจะทัวร์คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์
ไปเล่นที่โตเกียวและจังหวัดต่างๆด้วย จริงๆแล้วเราจะได้ไปเครื่องบินส่วนตัวกัน แต่เหมือนจะไม่พอและการตรวจรักษาความปลอดภัยก็ไม่เสร็จสิ้นดี
มันอันตราย คิวเรามีไปวันศุกร์ รู้สึกว่าจะไปวงเดียวในวันนี้’’
‘’ส่วนซอฮยอน ท่านประธานฝากบอกผ่านคุณคิมมาว่าคอนเสิร์ตวันสุดท้ายจะมาหาเธอนะ’’
คุณชเวจัดแจงเรื่องอื่นอีกไม่กี่เรื่อง ใช้เวลาอธิบายเพิ่มเติมอีกไม่นาน
แต่ที่ต้องใช้เวลานานเลยคือต้องมานั่งถกเถียงครั้งแล้วครั้งเล่ากับเหล่าสมาชิกในวงที่ดูจะเถียงไปซะทุกเรื่องเหลือเกิน
แต่เมื่อโดนคุณชเวปรามไปถึงหน้าที่พวกเขาก็ได้แต่ทำปากมุบมิบไม่กล้าพูดอะไรต่อ
ถึงเวลาเลิกงานของสมาชิกในวงและซอฮยอนแล้ว
เธอรีบปลีกตัวออกไปก่อนทันทีที่สมาชิกซีเอ็นบลูจะได้พูดอะไรต่อมิอะไรกับเธอได้
เธอรีบเดินออกไปพลางกดปุ่มลงย้ำหลายที
ตื๊ด ตื๊ด...
เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋าของซอฮยอน
เธอตกใจเล็กน้อยก่อนจะควานหามันในกระเป๋า และแล้วก็กดรับทันที
‘’ฮัลโหล’’
ซอฮยอนกรอกเสียงลงปลายสาย ลิฟต์กำลังขึ้นมาชั้นของเธอ
‘’จูฮยอน มารอฉันที่ลานจอดรถ’’
อะไรนะ!? ทำไมไม่เป็นหน้าตึก
‘’ทำไมถึงรอที่นั่นล่ะ’’ ซอฮยอนหน้าเครียด
สมาชิกซีเอ็นบลูทั้งสี่คนกำลังเดินตรงมาทางนี้ มือเธออยู่ไม่นิ่ง
‘’อย่าถามมาก รีบมาละกัน’’
มินโฮพูดแค่นั้นก่อนจะตัดสายไป บัดนี้ลิฟต์เปิดออกท่ามกลางซอฮยอนที่กำลังยืนอยู่คนเดียว… ซะที่ไหนกันล่ะ!
จองชินและเมมเบอร์อีกสามคนเดินตรงมายังลิฟต์ทันทีที่มันเปิดออก
ซอฮยอนตัวเกร็งไปหมด แต่เธอพยายามทำตัวให้ปกติ เธอเดินเข้าไปข้างในซึ่งตามมาด้วยสมาชิกอีกสี่คนที่เดินตามเข้ามาไล่ๆกัน
ยงฮวานั้นสีหน้านิ่งเกินคาดเดา
ลิฟต์ลงจอดถึงชั้นล่างสุด
ทุกคนในลิฟต์ทยอยกันออกมาอย่างเหนื่อยล้าปานจะหลับกลางอากาศกันได้แล้วก็ไม่ปาน
ซอฮยอนเดินนำไปยังลานจอดรถก่อน
โดยมีเมมเบอร์ทั้งสี่คนเดินตามไปติดๆเพราะไปทางเดียวกัน
ซอฮยอนมองหารถอันคุ้นเคยของมินโฮ และแล้วเธอก็เห็นมัน
แต่เหมือนว่าเมมเบอร์ทั้งสี่คนจะไม่รู้ว่ามีคนมารับเธอกลับบ้าน
จองชินถึงได้ถามขึ้นอย่างสงสัยและเป็นห่วงรองเมเนเจอร์ของวงตัวเอง
แม้เขาจะไม่ค่อยพูดคุยหรือมีส่วนในหัวข้ออะไรมากนักแต่เขาก็เป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมากทีเดียว
‘’ซอฮยอน กลับยังไง’’ เขาถามเธอ
ยงฮวามองทั้งคู่แว้บหนึ่งก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจโทรศัพท์ในมือตัวเอง
‘’มีคนมารับน่ะ’’ ซอฮยอนตอบอย่างระมัดระวัง เธอเหลือบมองยงฮวา
‘’ไม่เห็นต้องถามมากเลย ผัวเค้าก็ต้องมารับอยู่แล้วป่ะวะ’’
ยงฮวาพูดหน้าตาย ซอฮยอนหันไปทางเขาทันทีอย่างไม่เข้าใจ
เธอไม่ค่อยสนใจคำหยาบคายที่เขาพูดมาอยู่แล้ววันนี้ เขาไม่หงุดหงิดสิแปลก
เธอใจสถานการณ์นะ บางทีที่เธอปฏิเสธเขาเมื่อเช้าคงทำเขาหัวเสียมากที่เดียว
ที่เก็บแต้มจากผู้หญิงอย่างเธอไปไม่ได้ คงหัวเสียที่พลาดไปหนึ่งคะแนน.. เธอคิด
มินโฮวนรถมาแล้วแล่นมาจอดตรงหน้าซอฮยอนทันทีเมื่อเห็นเธอลงมา เขานั้นหยุดรถตรงหน้าซอฮยอนและสมาชิกในวง
ซึ่งเธอดูจะหัวเสียมากทีเดียวที่เขาดูจะเปิดเผยกับทุกสิ่ง
ซอฮยอนเปิดประตูรถทันทีที่มินโฮหยุดรถ
เธอไม่แม้แต่จะหยุดมองดูเมมเบอร์ที่เหลือ ซึ่งเธอก้าวขาขึ้นนั่งและคาดเบลท์ทันที
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นเมื่อมินโฮไม่คิดจะเคลื่อนตัวรถออกไปเลย
เขากดลดหน้าต่างฝั่งซอฮยอนออกครึ่งทางก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ซอฮยอน
และในที่สุดเขาก็ประทับจูบลงไปบนแก้มเนียนใสของเธอ ซอฮยอนตกใจทำอะไรไม่ถูก
เมมเบอร์ที่ยืนมองอยู่รู้สึกคับแค้นใจแทนยงฮวาที่กำลังกำมือแน่นจนแทบจะควบคุมไว้ไม่ได้
‘’คิดถึงจังเลยครับ คนสวย’’
ขณะที่พูดมินโฮเลือกที่จะจ้องหน้ายงฮวาแทนที่จะมองซอฮยอน
ยงฮวาจ้องตามินโฮอย่างน่ากลัว ระดับอารมณ์พุ่งขึ้นจนร่างกายแทบสั่น เขาโกรธ
เมื่อเห็นว่าเป็นไปตามแผน มินโฮเผยยิ้มสะใจให้กับยงฮวาครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดกระจกฝั่งซอฮยอน
เธอตาค้างและตกใจเป็นอย่างมาก โดยสัญชาตญาณเธอนั้นรีบหันหน้าไปทางยงฮวาทันที
เธอเห็นเขาดูโกรธจัดมาก แต่ไม่รู้ว่าเขาโกรธเพราะถูกหยามศักดิ์ศรีหรือว่าอะไร
แต่เธอพยายามจะไม่เป็นห่วงเขาแน่นอน ยงฮวาไม่ได้รักเธอจริง
เขาเห็นเธอเป็นเพียงผู้หญิงในสต็อค และคำว่ารักที่เขาพูดออกมามันก็ไม่จริงทั้งเพล
ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นก็คือยงฮวาที่โกรธจัดราวกับพร้อมจะฆ่าคนได้เลยทีเดียว
และถ้าทำได้ มินโฮคงตายคามือเขาไปแล้ว…
ท้องฟ้ามืดสนิทซึ่งมีเพียงแค่แสงไฟบางๆบ่งบอกให้รู้ว่าตีห้าของวันศุกร์ได้มาถึง
ซอฮยอนงัวเงียลงมาจากรถคันหรูของมินโฮพร้อมกับสัมภาระข้าวของที่จัดเตรียมมาอย่างแน่นและเยอะที่สุด
เธอนั้นหลับมาตลอดทาง มินโฮเองก็ง่วงได้ที่แต่งอแงจะมาส่งเธอให้ได้
เขานั้นไม่วายขับไปด่าเธอไปตลอดทาง แต่ซอฮยอนนั้นไม่ได้ใส่ใจอะไร
เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย
‘’เช้าเป็นบ้า ลาออกไปเถอะบริษัทปัญญาอ่อนนี่’’
มินโฮออกเสียงเต็มที่เมื่อมาส่งเธอที่หน้าบริษัท
‘’อยากรู้จริงๆว่านายมีชีวิตมาจนถึงป่านนี้ได้ยังไงกันนะ อีกอย่าง นี่บริษัทพ่อฉัน’’ ซอฮยอนจิกตาใส่เขา แม้มันจะแทบลืมไม่ขึ้นแล้วก็ตามที มินโฮเองก็ช่วยขนกระเป๋าลากของเธอสองใบลงมาให้ระหว่างที่บ่นพึมพำไปด้วย
ซึ่งเธอก็หยิบกระเป๋ายิบย่อยของตัวเองลงมาเช่นกัน
มินโฮขนกระเป๋าลงมาครบทุกใบพลางครางออกมาอย่างเหนื่อยหอบ
ซอฮยอนเองก็หยิบกระเป๋าใบเล็กใบน้อยรวบเข้าหากัน
‘’เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย’’
มินโฮถามซอฮยอน
‘’คงไม่มีอะไรแล้วแหละ’’
เธอกวาดตาไปรอบๆหลังรถของมินโฮเพื่อตรวจดูว่ามีอะไรตกหล่นไปบ้างหรือเปล่า
แต่เมื่อไม่เห็นก็เลิกกังวลทันที
‘’แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ฉันไปด้วย’’
เมื่อฟังจบซอฮยอนเบ้ปากทันที เขาบ้าไปแล้วเหรอ
‘’ปัญญาอ่อนหรือเปล่านายน่ะ ฉันไปทำงานนะ’’
‘’ทำงานกับยงฮวา จะเถียงมั้ยล่ะ’’ มินโฮท้าวมือกับหลังคารถ
‘’โรคจิต ไม่คุยแล้ว’’ ซอฮยอนหยิบกระเป๋าล้อลากทั้งสองใบลากเข้าตึกทันที
โดยมีมินโฮตะโกนมาว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ และอยู่ห่างจากยงฮวาเอาไว้
เธอได้แต่ขมวดคิ้วหนักๆและส่ายหัวให้เขาเป็นคำตอบ
ระหว่างที่ซอฮยอนกำลังเดินเข้าไปนั้นเธอก็เหลือเห็นว่าสมาชิกทุกคนและคุณชเวยืนรออยู่กันพร้อมแล้ว
แสดงว่าฉากตั้งแต่เริ่มที่มินโฮมาส่งเธอทุกคนก็คงจะเห็นกันหมดเลยล่ะสิ ดูจากสีหน้าที่อารมณ์เสียของยงฮวาแล้วก็คงเดาไม่ยาก
คุณชเวพูดอะไรอีกเล็กน้อยก่อนรถตู้จะมารับทุกคนพาไปสนามบิน
ทั้งหมดรีบเดินตรงไปโดยคุณชเวสั้งให้คนในวงช่วยซอฮยอนถือกระเป๋าด้วย
ตอนแรกเธอนั้นไม่ยอมแต่ก็โดนกระชากถือไปอยู่ดี จงฮยอนนั้นเป็นคนช่วยเธอ จองชินกับมินฮยอกก็ถือกระเป๋าใบเล็กใบน้อยอีกคนละใบสองใบ
‘’ฉันทำดีขนาดนี้ก็ช่วยไปบอกให้ซึงยอนคืนดีกับฉันได้แล้ว’’
จงฮยอนพูดขึ้นมาหน้าตาย ซอฮยอนมองหน้าเขาพักหนึ่ง
‘’ส่วนกระเป๋าใบเล็กๆพวกนี้เดี๋ยวยัดใส่กระเป๋าฉันให้ จะได้ไม่เกะกะ
บอกตามตรงนะ มันน่ารำคาญอ่ะ ขนไรมาเยอะแยะ’’ จองชินบ่นอุบอิบ
หลังจากนี้ไม่มีใครพูดอะไรกันอีก
ยงฮวานั้นแทบไม่พูดอะไรขึ้นมาอีกเลยถ้าไม่จำเป็น สมาชิกที่เหลือก็เช่นกัน
พวกเขาหลับเป็นตายในรถระหว่างทางไปสนามบิน เห็นได้ว่าทุกคนดูเหนื่อยล้ากันมากจากการซ้อม
ซอฮยอนนั้นไม่ค่อยเหนื่อยอะไรเท่าไร เพราะเธอได้หยุดสามวัน
แต่ที่เหนื่อยก็คงจะเป็นนิสัยการนอนดึกและแถมต้องมาตื่นเช้าแบบวันนี้นั่นเอง
ใช้เวลาไม่นานมากนักทั้งหมดก็มาถึงสนามบิน
พวกเขาลากกระเป๋ากันเพื่อเข้าไปยังตัวสนามบิน ซึ่งมีแฟนคลับไม่เยอะมากเท่าไรมายืนรอ
เพราะตอนนี้ค่อนข้างเช้าจัดแถมคนเกาหลีส่วนใหญ่จะไม่โวยวายมากเท่าไรในเวลาเช่นนี้
พวกเขาเพียงแต่พยายามเข้าใกล้ศิลปิน
เวลาผ่านไปพักใหญ่
ทั้งหมดถูกตรวจค้นสิ่งของต่างๆตามร่างกายและพาสปอร์ตก่อนจะได้เข้าไป กระเป๋าก็ถูกส่งไปอย่างถูกต้อง
จะมีเสียค่ากระเป๋าเพิ่มบ้างก็ตรงที่ซอฮยอนขนของไปเยอะเกิน แต่โดยรวมแล้วทุกคนไม่มีปัญหาอะไร
ฉะนั้นทุกอย่างจึงดูง่ายขึ้นและทั้งหมดก็เพียงแต่เดินไปขึ้นเครื่อง
ภายในตัวเครื่องนั้นค่อนข้างไม่แออัด เพราะคนขึ้นน้อย
มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น พวกเขาได้นั่งในชั้น VIP และแทบไม่มีใครนั่งเลย
ซอฮยอนเลือกที่นั่งข้างหลัง ซึ่งเธอได้แต่ภาวนาว่าคุณชเวจะมานั่งกับเธอ
ซอฮยอนส่งสายตาไปหาคุณชเวที่ไม่ได้มองมาทางเธอเลย และเหมือนว่าพระเจ้าไม่เข้าข้าง
คุณชเวเลือกนั่งกับจองชินข้างหน้า ส่วนตรงกลางนั้นมินฮยอกกับจองชินก็นั่งลงไปเลยแบบไม่คิดชีวิต
จองชินก็เอากับเขาด้วย เดาไม่ยากเลยว่ายงฮวาจะได้นั่งที่ไหน
ก็นั่งข้างเธอนั่นไงล่ะ
เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่นั่งลงไปทันที
ซอฮยอนมองเขาด้วยหางตาก่อนจะหันมาสนใจตัวเองที่กำลังนั่งเกร็งทุกสัดส่วน
สักพักหนึ่ง เสียงหวานของแอร์โฮสเต็สคนหนึ่งก็ดังขึ้นว่าให้ทุกคนทำการตรวจเช็คภายนอกเครื่องบิน
และเช็คตัวเองให้เรียบร้อย พร้อมกับเดินเข้ามาสาธิตการคาดเข็มขัดนิรภัย
เธอก็ทำตามอย่างขมักเขม่น ยงฮวาและคนที่เหลือดูจะชำนาญดีเพราะได้เดินทางบ่อย
ไม่ใช่ว่าเธอเดินทางไม่บ่อยนะ แต่เธอไม่ค่อยชอบขึ้นมากกว่า
เครื่องบินเริ่มลอยตัวขึ้น หูของซอฮยอนเองก็เริ่มอื้อขึ้นเรื่อยๆ
เธอขอที่ปิดหูกับแอร์โฮสเต็สคนสวย และแล้วเธอก็หยิบมันสวมทันที ซอฮยอนเกร็งไปหมด
เพราะคนข้างๆเธอดูเหมือนจะนั่งนิ่งไม่ทำอะไรทั้งสิ้น
เห็นดังนั้นเธอจึงหาหนังสือที่เตรียมมาเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่านทันที เธอไม่อยากมือว่าง
เดี๋ยวจะได้ฟุ้งซ่านขึ้นมา
เวลาผ่านไปสักพัก ซอฮยอนเริ่มง่วง
เธอปิดหนังสือลงพลางเอียงคอไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางเดียวกับยงฮวา
เธอแอบเห็นเขาก็ตาปรือเช่นกัน เธอเห็นดังนั้นจึงคลายกังวลขึ้นมาได้บ้าง
ซอฮยอนปิดตาสนิท ในหัวเริ่มไม่ประมวลผลอะไรแล้ว เธอจะหลับในอีกไม่กี่นาทีนี้
ซอฮยอนหลับไปทั้งหนังสือที่ปิดค้างอยู่หว่างอก
ยงฮวาเหลือบมองเธออย่างสนใจเล็กน้อย ใบหน้ายามนอนหลับของเธอแทบไม่ต่างไปจากคืนวันนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เดียงสา ปากสวยเผยอออกเล็กน้อย
หน้าอกสะท้อนขึ้นลงบ่งบอกว่าเธอกำลังหายใจอยู่ ซึ่งมันน่าดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก
ระหว่างนั้นซอฮยอนขยับตัวเล็กน้อย เธอใช้วงแขนกอดตัวเองแน่น
เห็นดังนั้นยงฮวาจึงละสายตาจากเธอและเรียกแอร์โสเต็สทันที
เขาขอผ้าห่มกับที่ปิดตาให้เธออย่างเงียบๆกลัวว่าคนข้างหน้าจะได้ยิน
ซึ่งไม่มีทางแน่เมื่อพวกเขาหลับเป็นตายกันทุกคน
เสียงกรนเล็กน้อยบ่งบอกว่าพวกเขาจมหายไปกับความฝันกันเสียแล้ว เมื่อเขาได้ที่ปิดตากับผ้าห่มมาเขาก็เริ่มต้นคลุมกายให้เธอทันที
เมื่อเธอรู้สึกว่าอบอุ่นดีแล้วจึงคลายวงแขนออก
เหมือนซอฮยอนจะลืมตาแต่เธอก็เหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรได้
ยงฮวาเริ่มต้นขยับเข้าไปใกล้เธอก่อนจะสวมที่ปิดตาให้เธออย่างบรรจง
ระหว่างทำไปเขาก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
แม้ในใจจะนึกขมขื่นกับคำตอบที่เธอตอบกลับมาระหว่างความสัมพันธ์ที่เป็นไปไม่ได้สำหรับทั้งเขาและเธอ
ยิ่งรู้ว่ามินโฮหยามหน้าเขาขนาดไหนเขายิ่งร้อนรน
แต่อีกใจหนึ่งเขาคิดว่าเธอทำถูกแล้ว
คนโลเลอย่างเขาไม่สมควรที่จะมีใครมาจริงจังด้วย เพียงแต่เขาปลงไม่ได้ เขารักเธอ
เธอต้องเป็นของเขาคนเดียว แต่มาวันนึงเมื่อรู้ว่าเธอกลายไปเป็นของคนอื่น
นั่นยิ่งทำให้เขาเสียใจกับการกระทำของตัวเอง เขาเก็บตัว ไม่พูดคุย
และคิดถึงเธอใจแทบขาด…
เขาหวังนะ ว่าเขาจะย้อนอดีตไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่มันติดอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้น แค่เรื่องเดียวจริงๆ
มันเป็นไปไม่ได้
เขาย้อนอดีตไม่ได้
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ยังไม่จิกหมอนขาดค่ะ รอไปญี่ปุ่นก่อนเนาะทุกคน ใจเย็นกันก่อนค่ะ ใจร่มๆ มาอัพเร็วเพราะเห็นคนมาเม้นต์เยอะและดีใจ เลยสะดิ้งมาแต่งต่อ นี่ยังไม่อาบน้ำค่ะ งงมาก55555555 ตอนต่อๆไปจะเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้คู่ยงซอนะคะ ตอนนี้อัดอะไรมากไม่ได้ เดี๋ยวมันงง มันต้องค่อยเป็นค่อยไป สุดท้ายนี้อย่าลืมเม้นต์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ เม้นต์เยอะไรต์ก็สะดิ้งแบบนี้แหละ ไม่แน่อัพกันวันต่อวันเลยนะ555555555 รักค่ะ
ความคิดเห็น