คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #60 : 3-18 Episode 14
Chapter 3
– Beast King of Borderland
Episode 14 กลภายใต้แขนเสื้อ
เมืองหลวงของสหพันธ์พระจันทร์เสี้ยว,
ฟาบูล่า ตั้งอยู่กลางอาณาจักรเซนต์ลูน่า ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางด้านการปกครองและวัฒนธรรม
ฟาบูล่าซึ่งตั้งอยู่ในอาณาจักรเซนต์ลูน่า,
เป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตีสร้างสหพันธ์พระจันทร์เสี้ยวขึ้นมา, เพราะอาณาจักรเครสทั้ง
100% ของมนุษย์สัตว์มักเป็นชนเผ่าเร่ร่อน
เนื่องจากโดยวิสัยของมนุษย์สัตว์ทำให้ไม่ได้สร้างเมืองขึ้นถาวร
(แม้แต่ที่นี้และอีกเมืองก็มีเพียงร้อยกว่าคน) และไม่สนใจการเมืองการปกครอง
อาณาจักรเซนต์ลูน่าที่ประกาศความเท่าเทียมกันของมนุษย์,
มนุษย์สัตว์และพวกกึ่งมนุษย์
จึงถือตัวเองเป็นเหมือนประเทศมนุษย์ที่ยืมรูปแบบการปกครองแบบรัฐบาลมา,
ดูแลความสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ด้วยเหตุนี้,
ถึงอาณาจักรเซนต์ลูน่าจะไม่ได้มีจำนวนประชากรหรือความแข็งแกร่งมากอะไร
แต่ก็เป็นเมืองใหญ่และมีรัฐบาลกลางควบคุมดูแลอำนาจ,
เป็นเมืองหลวงของสหพันธ์พระจันทร์เสี้ยว
กล่าวคือเมืองหลวงฟาบูล่าคือที่พักอาศัยของพวกผู้นำของสหพันธ์
แต่ถึงเป็นที่พักอาศัยของตัวแทนสหพันธ์
ก็ยังมีพระราชวังอันเป็นศูนย์กลางที่แท้จริงของสหพันธ์
ประธานธิบดีคนปัจจุบันของสหพันธ์,
เบาว์ดิ ผู้อยู่ณ.จุดสูงสุดของอาณาจักรเซนต์ลูน่าและขุนนางหนุ่มผู้เรืองอำนาจที่เกี่ยวพันใกล้ชิดกับอาณาจักรเซนต์ลูน่า
ถึงแม้ไม่ได้หล่อเหลาอะไรนัก,
รูปร่างแบบชายหนุ่มวัยกลางคนและห่างไกลจากคำว่ากล้าหาญ ด้วยเสน่ห์ที่คล้ายเด็กๆทำให้เขาดูเป็นมิตรกับทุกคน—เขาเป็นมนุษย์แบบนั้นละ
ในห้องรับรองที่ซึ่งมีการถกเถียงอภิปรายมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง—ระหว่างตัวแทนอาณาจักรเครส—จบลงโดยที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้
เขานั่งบนเก้าอี้นวมและดื่มชาที่ถูกนำไปอุ่นหลายครั้งแล้วให้ชุ่มคอ
เสร็จแล้ว,
เขาก็เรียกเลขาจากอีกห้องให้ไปเชิญแขก, เก็บถ้วยชาและเตรียมชาชั้นดี
โดยไม่ให้รอนาน,
ร่างชายหนุ่มผมบลอนด์สูงสง่าในชุดเกราะพราวประกาย,
และผ้าคลุมสีแดงที่ไม่มีเครื่องยศหรือตราใดๆติดอยู่
เขากำลังรออยู่,
แต่ร่างเล็ก,ที่ปิดบังตัวด้วยชุดคลุม, ที่เดินตามชายผมบลอนด์เข้ามา ทำให้เบาว์ดิแอบขมวดคิ้ว
--เด็ก? ถ้ามองจากรูปร่างอาจเป็นเอลฟ์... ไม่,
เป็นไปไม่ได้หรอก
พินิจตัวตนของบุคคลปริศนา,
ตระหนักถึงความเป็นไปไม่ได้, เขาก็ส่ายหัวปฏิเสธในใจ
โดยไม่ตระหนักถึงความสงสัยของเบาว์ดิ
ร่างในชุดเกราะก็นั่งลงบนโซฟาที่ตัวแทนจากอาณาจักรเครสเพิ่งลุกออกไป ถัดไปเป็นร่างในชุดคลุมที่นั่งลงด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ,
รูปร่างบอบบางนุ่มนวลเข้าสู่สายตาของเบาว์ดิ
--ผู้หญิง
“ผลการอภิปรายเป็นเช่นไรบ้าง?
–หึ, ไม่ต้องพูดหรอก ดูจากท่าทางของนายก็พอรู้ ให้ตายสิ, เจ้ามนุษย์สัตว์พวกนั้น เป็นแค่พวกสัตว์ที่ทำอะไรไม่ได้แท้ๆ
แค่เห็นแสงริบหรี่ตรงหน้าก็กระโดดลงไปตะครุบ, ไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ของประเทศเลย”
ชายในชุดเกราะยิ้มเยาะเย้ยมนุษย์สัตว์ที่มาก่อนหน้านี้
“…ก็จริง ต่อให้พูดยังไง,
พวกเขาก็เอาแต่พูดว่า『พวกเราเชื่อฟังแต่ราชาสัตว์ป่า』ไม่คิดจะฟังอะไรเลย”
เบาว์ดิบ่นออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
แล้วยังเอาแต่ชี้นำพวกตนเหมือนคนทะเยอทะยาน
หลงลืมแม้แต่ปรัชญาของสหพันธ์ แต่เท่าที่เขาเห็น, คนเหล่านั้นก็เพียงศรัทธาให้กับสิ่งไร้รูปร่างอย่างเทพเจ้าหรือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์,
ที่เอาแต่ล้างสมองตัวเอง และไม่ทำสิ่งใด ทั้งอ่อนแอ, เห็นแก่ตัว และน่ารังเกียจ
สำหรับเขาที่นับถือแต่สิ่งที่เป็นจริง,
ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว, ก็ต้องทำให้ได้
แม้แต่ความลังเลและความเจ็บปวด,
เขาก็จะเอาชนะความไม่มั่นใจและบาดแผลเหล่านั้น เขาจะไม่เสียใจหรือละอายต่อเส้นทางที่เลือกเดิน,
นั่นคือวิถีชีวิตของเขา
ในมุมมองของเขา,
พวกคนที่เอาแต่เชื่อฟัง『ราชาสัตว์ป่า』นั้น, พวกเขาช่างไร้เดียงสาจริงๆ
---ที่สำคัญ
พวกเขาไม่เข้าใจคุณสมบัติของคนที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุด ....ต้องมีความแข็งแกร่ง,
ทักษะ, และหัวใจเพื่อส่วนรวมถึงจะเป็น『ราชา』?!
ช่างโง่เขลา! ในความจริงแล้ว คนที่ไม่เห็นแก่ตัว(ผู้บริสุทธิ์)ย่อมไม่มีอำนาจ
เป็นได้แค่ผู้นำที่ดีแต่เปลือก, แต่ไม่ว่าจะยังไง สิ่งที่เขาสนใจมีแต่ผลลัพธ์ต่างหาก
แต่ว่า,
อิทธิพลและความสามารถการต่อสู้ของเผ่ามนุษย์สัตว์ในสหพันธ์ไม่ถือเป็นสิ่งใดได้
นอกจากภัยคุกคาม ถึงแม้ว่าภาพนอกจะดูร่วมมือกันดี แต่ด้วยแผนการที่เบาว์ดิได้วางแผนไว้,
เพื่อเรียกคืนพื้นที่จากจักรวรรดิ—ถ้าหากว่าได้กลับคืนมา, ประเทศนี้ก็จะได้แตกแยกออกเป็นสองส่วนเสียที
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อาจทำให้สถานการณ์พลิกผันได้,
เขาก็ต้องการหลีกเลี่ยงทั้งนั้น
เพื่อการณ์นั้นแล้ว,
ผู้ที่อยู่ตรงหน้าก็คือกุญแจของสิ่งเหล่านั้น
“---จริงหรือ, ที่อิออนจะไม่เข้าแทรกแซง?”
เสียงถามยืนยันจากเบาว์ดิกล่าวย้ำ—กับชายหนุ่ม—ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นคนถือสารลับจากศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์อิออน,
ผู้ถือป้ายข้อความลับที่ลงนามและตราประทับของพระสันตะปาปา (TL: คนที่เข้ามาในห้องมีสองคน
ชายในชุดเกราะ กับหญิงสาวในชุดคลุม)
“แน่นอน, ประเทศของเราเป็นกลาง
จึงไม่อาจสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ อีกอย่าง, .....สงครามก็ดูท่าจะยืดเยื้อและลำบาก....อา,
แต่ถ้าพื้นที่นี้เป็นอิสระเมื่อไร ทางเราก็พร้อมช่วยเหลือ จะอย่างไร,
ตามคำสอนของศาสนจักรเรา,
การไม่ให้ที่พักพิงเผ่ามนุษย์สัตว์หรือพวกกึ่งมนุษย์เป็นข้อกำหนดพื้นฐาน,
เราถึงจะช่วยเหลือได้”
“ฟุ, ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็อีกไม่นานเท่านั้นหรอก....
แล้วเรื่องอื่นละ?”
ของอร่อยเกินไปย่อมมีเบื้องหลังเสมอ
เบาว์ดิผู้ไม่เชื่อถือในน้ำคำเดียว ย่อมไม่มีทางมองอีกฝ่ายเฉกเช่นมนุษย์ผู้หวังดีไม่หวังผลใด
“เรื่องแรกสุด ทางเราต้องการให้แก้ไขปัญหาของสหพันธ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นได้”
เข้าใจสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ถ้อยคำอันเริงร่า—อีกนัยหนึ่ง,
การกำราบด้วยกำลังทหาร—เมื่อสงบลง, เบาว์ดิก็ขมวดคิ้ว
“ถ้ายึดอำนาจเหนือสหพันธ์รวดเร็วเกินไป
ไม่แยกสหพันธ์แล้วใช้อำนาจเด็ดขาด อย่างไรก็ต้องพบกับปัญหาภายในอยู่ดี,
เท่าที่ผมคาดการณ์ไว้”
ชายหนุ่มมองไปที่เบาว์ดิที่อยู่ตรงข้าม
“เดิมทีไม่ใช่ว่าการมีสองหัวคือปัญหางั้นหรอ?
ถ้ามีแค่หัวเดียวก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเลือกทางเดินเสียหน่อย อันที่จริง, ความถูกต้องของกฎแห่งสหพันธ์ก็อยู่ในมือของคุณแล้ว
ต่อให้ต้องแยกร่างเป็นสองก็อยู่ที่การเลือกของคุณ”
“ก็จริง, ถึงอย่างนั้น…” (เบาว์ดิ)
“มันจะไม่ดีหรือที่จะตีเหล็กตอนที่ยังร้อนๆ?”
สำหรับเบาว์ดิที่กำลังลังเลแล้ว,
นั้นไม่ต่างอะไรไปจากเสียงกระซิบของปีศาจ
“ไม่, ไม่มีประโยชน์
ถ้าเป็นแบบนั้น, ผมก็ต้องรับมือกับจักรวรรดิสีเลือด ความเข้มแข็งของจักรวรรดิสีเลือดมีมากเท่าไรใครบ้างไม่รู้
ถ้าผมเดินผิดก็คงจบสิ้นแบบไม่ต้องสงสัย”
เขาพยายามดึงตัวเองให้อยู่กับความเป็นจริง
“งั้นหรอ, เรื่องนั้นก็ช่วยไม่ได้นี่นะ”
ชายผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้ถือสารลับจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อิออนทิ้งน้ำหนักลงโซฟา,
--ฉีกยิ้มกว้างเหมือนรอยยิ้มของเด็กขี้แกล้ง
“แต่ถ้า, ปัญหานั้นได้รับการแก้ไขละ,
เจ้าจะว่าเช่นไร?”
“หมายความว่าไง?”
บุคคลที่สามซึ่งเงียบมาตลอดการสนทนา,
ร่างในชุดคลุมลดหมวกคลุมลงแทนคำตอบ
“ปะ- เป็นไม่ได้!?”
ร่างใต้ผ้าคลุมเป็นดังเช่นที่เขาคาด,
หญิงสาว—อันที่จริง, เด็กสาวผู้มีสีสันสีแดงสดใสและสีดำสนิท
ดูอายุราว 12 ถึง 13 ปี, เรือนผมสีดำยาวทิ้งตัวลงราวกับผ้าไหม,
นัยน์ตาดุจอัญมณีสีแดงเปล่งประกาย, ทั้งจมูกและดวงตาจัดวางอย่างได้รูป
ผิวพรรณดูงดงามสมบูรณ์ไร้ที่ติ
ไม่เพียงเท่านั้น, เธอดูลึกลับงดงามโดดเด่นสง่างามดุจเทพธิดาจำแลง,
เป็นความงามเกินจะพรรณนา
เบาว์ดิรู้สึกหวาดกลัว
ไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์อันงดงามนั่น, แต่เป็นเพราะลักษณะเฉพาะที่ถูกบันทึกในรายงาน นายเหนือหัวแห่งจักรวรรดิสีเลือด,
ฮิยูกิ
“เป็นไปได้ยังไง... นี่จักรวรรดิสีเลือดของปีศาจทำงานร่วมกับอิออนงั้นหรือ...!?!”
เห็นสภาพของเขาแล้ว,
ชายหนุ่มก็ยิ้มอย่างพอใจในการละเล่นของตน
“ถึงพวกเราจะดูเหมือนหันคมดาบใส่กัน,
แต่ความจริงก็ร่วมมือกันอยู่เบื้องหลัง ถึงคำสอนของพระเจ้าจะสำคัญ,
แต่หากขาดน้ำและอาหารก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ไม่ใช่หรือ”
เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในความคิดของเบาว์ดิ
เมื่อเขาเลื่อนสายตามองดูฮิยูกิ, เธอก็ไหวไหล่เบาๆ
“ก็นะ, ถ้าต้องร่วมมือกัน,
เราก็อยากจะร่วมมือกับผู้ชนะ”
ฮิยูกิตอบด้วยน้ำเสียงของหญิงสาวที่โตเต็มวัย,
เป็นเสียงที่ต่ำกว่าที่เขาคาด
“ถ้าหากท่านไม่ได้ประสงค์ช่วยเหลืออาณาจักรเครส,
ท่านต้องการทำสิ่งใดหรือ, ท่านหญิง?”
“เราไม่ได้ต้องการทำอะไร,
เพียงคิดว่าการคัดเลือกราชาสัตว์ป่าน่าสนใจดี จึงไปชมดูเท่านั้น, ไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่านั้น”
“…เช่นนั้นเอง”
“แล้วไงละ? ยังมีปัญหาอะไรอีกไหม”
ชายหนุ่มยิ้มแย้มขณะที่พูดถ้อยคำที่จะผลักดันไปสู่สงคราม
◆ ◇ ◆ ◇
เงาร่างเล็กใหญ่สองเงาออกมาจากห้องนั่งเล่น
กลับไปยังโถงทางเดินที่นำสู่ห้องทำงานของประธานาธิบดี
เงาใหญ่ในชุดเกราะวิจิตรงามตาพูดกับเด็กสาวที่เดินข้างเขา
“ค่อยยังชั่วหน่อย, โชคดีที่จัดการเสร็จก่อนเวลา『การ์ดจำแลง』จะหมด”
“อา, งานเสร็จเรียบร้อยปลอดภัยสบายหายห่วง
–ว่าแต่ว่านะ, ฉันดูเหมือนฮิยูกิ-จังมากเลยใช่มะใช่ม้า? หรือว่าฉันควรจะพูดสุภาพกว่านี่นะ”
ไม่เหมือนก่อนหน้านี้,
พูดด้วยท่าทางเป็นกันเองกว่าและใช้มือขวาลูบผมด้วยท่าทางราวกับสาวเจ้าเสน่ห์
“ไม่, เหมือนบรรยากาศจอนที่คุยกับเพื่อนๆ...
ถ้าเป็นคนคนนั้นก็พูดแบบนั้นละ”
“งั้นหรอ? งั้นก็สมบูรณ์แบบ”
แย้มยิ้มแล้วเธอก็พยักหน้า
ชายหนุ่มมองดูรูปลักษณ์ของเด็กสาวด้วยท่าทางซับซ้อนเล็กน้อย
“จะว่าไป, ฮิยูกิจะเป็นไงบ้างนะ?
จะเปลี่ยนไปหรือเปล่า? ตลอดเวลาที่ฉันไม่ได้เจอกัน…” (TL: ผู้ชายพูด)
“ฮ๊ะ~~, ฉันไม่รู้หรอก ฉันแค่มองอยู่จากไกลๆแล้วก็ใช้『การ์ดจำแลง』จดจำเธอมา ไม่ได้เข้าไปใกล้ๆสักหน่อย.....
อืม~~, แต่ก็น่ารักกว่าที่คิด อย่างกับเด็กสาวในอุดมคติเลย”
ถึงจะผิดพลาด, เด็กสาวก็ต้องเล่นต่อไป (TL:
ประมาณว่า ถึงก๊อปมาผิดยังไงก็ต้องแสดงเป็นฮิยูกิต่อไป)
“อา… งั้นหรอ”
“หือ?
---ดูไม่แปลกใจเท่าไรเลยนี่, จะว่าไป ที่บอกว่าก่อนหน้านี้, นี่หมายความว่าไงหรอ?”
“ไม่มีอะไร, ไม่ว่าเขาจะเป็นเพศไหน
ก็ยังเป็นที่สนใจของผู้คนอยู่ดี... อย่างน้อยตามบันทึกแชทระหว่างสมาชิกกิลด์ของพวกเราก็เป็นแบบนั้น”
เห~, พอได้ยินเช่นนั้น เด็กสาวก็เอียงคอ, รอยยิ้มลามกอันหยาบคายปรากฏบนใบหน้าเธอ
“แล้วนายสนใจจะโอบกอดร่างนี้ไหมละ?”
เหลือบมองสีหน้าของอีกคน,
สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบ
“ฉันไม่ได้มองเธอแบบนั้น อย่าใช้รูปลักษณ์ของฮิยูกิ-ซังพูดหรือทำเรื่องหยาบคายแบบนี้”
ฟังน้ำเสียงเย็นชาทิ่มแทงแล้ว,
เด็กสาวก็ยักไหล่อย่างไม่ละอาย
“แหม, ขอโทษที --ก็เห็นเจ้านายกอดอย่างมีความสุขนี่”
--จากนั้น, เธอก็เดาะลิ้นครั้งหนึ่งอย่างเบื่อหน่าย
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรที่ไม่เป็นการเคารพต่อรูปลักษณ์ที่ใช้อยู่อีก,
ใบหน้าของชายหนุ่มก็บิดเบี้ยวราวกับข่มกลั้นบางสิ่งด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด
◆ ◇ ◆ ◇
“--ฮัดชิ้ว!”
ผมที่มาพบกับอสึมินะในเช้าวันถัดมา,
จามและรู้สึกหนาวสั่นอย่างน่าประหลาด
“เป็นหวัดหรือเจ้าค่ะ,
ฮิยูกิ-ซามะ?”
“ไม่, เราเพียงรู้สึกคัดจมูกเท่านั้น
ตอนนี้สบายมาก”
พวกเราอยู่ที่เดียวกับเมื่อวาน『ลานสังเวยปีศาจหมาป่า』และตอนนี้ที่ลานด้านหน้าพวกเรา
การแข่งขันรอบที่สองคู่ที่หนึ่ง เรวาน Vs.『หินยักษ์』ยูเจนแห่งเผ่าหมี
กำลังจะเริ่มขึ้น.
“อืม นัดที่จะเริ่มขึ้น,
คู่ต่อสู้เป็นยักษ์หนัก 700kg สินะ”
“สบายมากเจ้าค่ะ
เรวาน-นี่ซามะ, สามารถล้มมอนเตอร์หนัก 1000kg ได้ด้วยมือเปล่าเชียวนะเจ้าค่ะ”
อสึมินะตอบด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
อย่างที่คิด,
ความต่างของน้ำหนักไม่ถูกนำมาพิจารณา- ยิ่งไปกว่านั้น, ปกติแล้วน้ำหนักมอนในเกมก็เป็นตันหรือมากกว่าอยู่แล้ว
เรื่องแบบนั้นก็คงเป็นได้เพียงอุปสรรคของโลกเดิม, ผมนึกขึ้นได้เช่นนั้น
เมื่อได้รับสัญญาณจากกรรมการ,
ทั้งสองฝ่ายก็ลงไปกลางสนาม---
“…หมีนั่นมันอะไรนะ?”
เป็นผมเองที่เปิดปากพูดออกมาอย่างโง่งม
“อะไรหรือเจ้าค่ะ? ก็มนุษย์หมีไงเจ้าค่ะ
...อา, โดยปกติแล้วรูปร่างของเผ่าหมีจะดูคล้ายมอนเตอร์ ผู้ที่ไม่ได้มีรูปร่างเช่นนั้นจึงหาได้ยากเจ้าค่ะ”
“ไม่, อันนั้นก็เรื่องหนึ่ง,
แต่-”
โดยสามัญแล้ว
,ฉายา『หินยักษ์』ก็ย่อมเป็นคนร่างใหญ่
ดังที่อสึมินะกล่าว,
ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีรูปลักษณ์เช่นหมีอย่างสมบูรณ์ ร่างทั้งร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าปกคลุมด้วยขนแข็งมันวาว
หูชี้ตั้ง, ดวงตาคมปราด, ปากใหญ่และแนวฟันที่โผล่ลอดออกมา
และกรงเล็บที่ยาวมาจากมือทั้งสองก็คมจนดูราวกับจะตัดเหล็กได้
แต่ถึงแม้ว่ามีรูปร่างเหมือนสัตว์ป่า,
ก็ยังสวมบางสิ่งที่เหมือนกับชุดคาราเต้ทับชุดด้านใน และผูกเข็มขัดผ้าที่ด้านหน้า ทั้งสีและวัสดุทั้งร่างเป็นแบบเดียวกัน
ชวนให้รู้สึกภูมิฐาน ต่างจากภาพลักษณ์ของสัตว์ป่าทั่วไป
และที่สำคัญที่สุด, รูปร่างแบบนั้น
ขนสีขาวตลอดทั้งตัว แต่บริเวณหู, ตา และมือเท้าทั้งสองข้าเป็นสีดำสนิท
“นั่นมันแพนด้าไม่ใช่เรอะ!!”
โดยไม่ตั้งใจ, ผมก็เผลอตะโกนออกมา
“หืม....? ก็เป็นหมีไม่ใช่หรือเจ้าค่ะ?”
อสึมินะเอียงคออย่างุนงงกับท่าทางของผม
--อา, น่าตกใจอะไรอย่างนี้, จะมองว่าเป็นเรื่องแปลกหรือเรื่องปกติดีละนี่!?
“อืม, ช่างเถอะ! หวังว่าคู่แรกผ่านไปด้วยดี คงไม่มีเรื่องให้ทุกคนต้องวิ่งเผ่นหรอกนะ!
?”
อสึมินะเอียงคอด้วยท่าทางสับสนมากขึ้น
End
Author Notes
ประธานธิบดีเบาว์ดินี่สมเป็นนักการเมืองจริงๆ
Talk: สวัสดีวันปีใหม่ไทยนะค่ะ! ไปเที่ยวสงกรานต์ก็อย่าลืมทำบุญไหว้พระรดน้ำขอพรผู้หลักผู้ใหญ่กันนะ! สำหรับคนที่ไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือกลับบ้านกันช่วงหยุดยาวนี้ ขอให้มีความสุขสมบูรณ์แข็งแรงเดินทางปลอดภัย แล้วก็...ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาทค่ะ!!
ป.ล. อาณาจักรเซนต์ลูน่า
ไม่ใช่ สหพันธ์พระจันทร์เสี้ยวนะคะ –สหพันธ์พระจันทร์เสี้ยวเป็นเหมือนองค์กรการปกครอง
ที่รวมหลายๆอาณาจักร เมื่อก่อนอาณาจักรเครสก็เป็นหนึ่งในนี้
แต่ก็ถอนตัวออกมาแล้วไปเข้ากับฮิยูกิ ส่วนอาณาจักรเซนต์ลูน่าเป็นอาณาจักรหนึ่งในสหพันธ์เช่นเดียวกับอาณาจักรเครส
ความคิดเห็น