ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #56 : 3-14 Episode 11

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.08K
      48
      9 มี.ค. 60

    Chapter 3Beast King of Borderland

    Episode 11 หัวใจอันเย่อหยิ่ง-หัวใจที่ภาคภูมิ

    ที่นี้คงใช้ได้

    ร่างสูงใหญ่ที่สวมผ้าคลุมสีน้ำเงิน-ราชาสัตว์ป่ามองดูรอบๆแล้วพูดพลางพยักหน้าอย่างพอใจ

    ไม่มีปัญหา ยังไงก็จบในสามนาทีอยู่แล้วนี่, ไม่เห็นต้องมาไกลขนาดนี้เลย

    ผู้ที่พูดอย่างดูแคลนคือฮิยูกิที่สวมชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีดำที่ประดับประดาไปด้วยดอกกุหลาบ—ชุดที่เธอสวมอยู่คือกุหลาบแห่งสงคราม

    อา, ก็เป็นการประลองแบบส่วนตัวจะให้ใครเห็นคงไม่ดีเท่าไรนะขอรับ

    เขามองไปยังฮิยูกิ, และผู้เดินตามมาเบื้องหลังอย่างใกล้ชิด สัตว์ร้ายสีขาวผู้มีเก้าหาง—สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ อุสึโฮะ ซึ่งเปลี่ยนร่างมาอยู่ในร่างมนุษย์, ผู้มาพร้อมรอยยิ้มขมๆอย่างไม่เหมือนเคย

    เป็นผู้ที่แม้แต่ราชาสัตว์ป่าที่นับได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ก็ไม่สามารถละเลยได้

    อา, ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เจ้าค่ะ…”

    อสึมินะ, มิโกะแห่งเผ่าสิงโต, แสดงท่าทีเหนียมอายอย่างไม่ค่อยจะเห็นได้บ่อยนัก เรียกขานอุสึโฮะ

    มีอะไรงั้นรึ, มิโกะแห่งเผ่าสิงโต?”

    หลังจากการแข่งขันจบแล้ว ไม่ผลจะเป็นเช่นไรก็ตาม, ข้าขอวิงวอนเชื้อเชิญท่านยังเผ่าของเรา พ้องเรายินดีต้อนรับท่านด้วยความยินดีจากก้นบึ้งของหัวใจ

    “—อืมม นานมากแล้วที่ไม่ได้ลิ้มรสงานเลี้ยงฉลองฤดูเก็บเกี่ยวกับไวน์ศักดิ์สิทธิ์, ข้านะไม่มีปัญหาหรอก แต่ทว่า.....

    หุบพัดแล้วกดแนบกับริมฝีปาก, เธอมองไปที่อสึมินะด้วยสายตาสนใจ—อันที่จริงแล้ว,เธอค่อนข้างชอบที่ยอมรับและพูดได้ว่าตนเองเป็นสาวที่ชวนขนลุก--แล้วพูดต่อ

    ข้าคือบริวารขององค์หญิง, ข้าไม่อาจทำสิ่งใดได้ถ้าหากปราศจากคำอนุญาตขององค์หญิง

    ทันใดนั้นสายตาของอสึมินะก็ไปตกอยู่ที่ใบหน้าอันงดงามของฮิยูกิโดยอัตโนมัติ

    กรณีที่ต้านเราไว้ได้ 3 นาทีเท่านั้น ถ้าทำไม่ได้หรือทำได้ขี้ริ้วขี้เหร่, คงรู้กันดีละนะ

    คำตอบของฮิยูกิเรียกเลือดไปจากหน้าของอสึมินะ ก่อนที่เธอจะรีบคว้าแผ่นอกพี่ชายไว้แน่นแล้วเขย่าไปมา แน่นอนว่าเรวานที่ยืนอยู่ข้างเธอ, ยังไม่จับใจความอะไรไม่ได้

    ได้ยินแล้วใช่ไหมเจ้าค่ะ! เรวาน-นี่ซามะ, ความเป็นความตายของเผ่าเราอยู่บนเส้นด้าย, ไม่สิบางทีอาจเป็นความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์อย่างเราๆเลยก็ได้!! ถ้าฮิยูกิ-ซามะไม่สนใจพวกเราอีกละก็ต้องถึงจุดจบแน่ แล้วผู้ที่จะถูกเล่าขานต่อไปยังลูกหลานว่าเป็นต้นเหตุให้ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทอดทิ้งพวกเราไปก็คือพี่ชายน้า!! เข้าใจไหมเจ้าค่ะ!?”

    รู้แล้วน่า อยากให้ข้าชนะ, ข้าก็ต้องชนะอยู่แล้ว

    เรวานผลักมือของเธอออกแล้วตอบด้วยท่าทีรำคาญใจ

    อ๊า, เจ้าพี่โง่ของข้าไม่เข้าใจอะไรเลย! พี่ยังคิดว่าจะชนะได้หรือไง!? –ตระหนักได้ถึงความสิ้นหวัง, อสึมินะทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรง

    ในจุดที่ไม่ไกลกันนัก, ฮิยูกิพูดกับราชาสัตว์ป่าด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ

    ให้ตายสิจะว่าไงดี, ถึงจะเคยเห็นเจ้าคนไม่คิดอะไรเลย (โจอี้) หรือเจ้าคนโง่ที่เชื่อมั่นมากเกิน (เจ้าชายแอชชิว) มาก่อน แต่เจ้าพวกนั้นก็ยังมีส่วนน่ารักอยู่บ้าง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นเจ้าโง่ที่ไม่ใส่ใจคู่ต่อสู้ของตัวเองเลย—เป็นนิสัยจากคนรอบตัวสินะ?”

    “…กระผมรู้สึกอับอายจริงๆ

    ราชาสัตว์ป่าก้มหัวลงด้วยสีหน้าเหมือนถูกด่า

    เราคิดไว้ว่าจะสั่งสอนแค่นิดหน่อย แต่ดูเหมือนถ้าไม่ทำลายโดยสมบูรณ์คงไม่ได้สินะ —จะว่าไป —พวกเรามีผู้ฝึกสอนคนเดียวกัน ให้สู้กันเองจะไม่เป็นไรหรือ?”

    นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ดังนั้นท่านควรลงมือให้เต็มที่และแสดงความแตกต่างของพวกคุณให้กระผมเห็น การที่ท่านคิดจะออมมือเกรงว่าจะเป็นการหยามเกียรติกระผมมากกว่า

    “—เอ๋!? ฮิยูกิ-ซามะก็เป็นลูกศิษย์ของปู่ใหญ่งั้นหรอ!? ถ้างั้นก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับพี่ชายนะสิ!?”

    ฟังจากบทสนทนาของพวกเขาแล้ว อสึมินะก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงดังกังวาน

    ดวงตาของเรวานฉายแววตกใจ

    อา, เราเพิ่งได้รับการฝึกฝนจากเขาเมื่อไม่นานมานี้ ก็คงพอพูดได้ว่าเป็นลูกศิษย์ได้ละ

    ฮิยูกิยักไหล่เบาๆ

    เข้าใจละ—งั้นก็, เป็นศิษย์น้องหญิงสินะเจ้าค่ะ

    ดวงตาของฮิยูกิวูบไหวแล้วมองไปที่อสึมินะ

    “...อา, นั่นสินะ ศิษย์น้องหญิง, สินะ

    ใช่แล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องออมมือ

    เมื่อได้ยินน้ำเสียงเคร่งขรึมของราชาสัตว์ป่า เรวานตั้งท่าด้วยการกำมือทั้งสองข้างและพูดเป็นเชิงรับทราบ แต่ก็อย่างที่คาด, เขายังคงดูแคลนเธอ—ลูกศิษย์หน้าใหม่ ทั้งยังเป็นผู้หญิง—กลิ่นอายรอบๆตัวเขาบอกเช่นนั้น

    ถ้าเช่นนั้นเราก็พร้อมแล้ว

    ฮิยูกิก็ตั้งท่าเช่นกัน, แต่เธอแบมือออก

    องค์หญิง, ไม่ใช้กุหลาบแห่งเหล่าคนบาปหรือเจ้าค่ะ?”

    อุสึโฮะเอียงคออย่างไม่เข้าใจ

    วันนี้เราแค่มาทักทายเท่านั้น—จะเริ่มละนะ

    เข้ามา!”

    ทันใดนั้น, ฮิยูกิก็ใช้ความแข็งแกร่งของขาถีบพื้น, ร่นระยะห่างกว่า 5 เมตรด้วยเวลาที่เกือบจะเท่ากับ 0 วิ

    ในเวลาเดียวกันนั้นเองเธอก็วาดมือขวาเข้าแก้มของเรวาน, ด้วยความเร็วที่อสึมินะซึ่งมองอยู่ไกลๆจับภาพไม่ได้, ฟาดซ้ำลงไปถึง 8 ครั้ง

     

    -จากนั้นเสียงตบเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะ!!!ก็ดังลั่นไปทั่วบริเวณ

    ห๊ะ

    และการกระทำถัดมา, พร้อมกับเสียงตะโกนของเธอ, ฮิยูกิส่งเตะล่างไปที่ขาขวาของเรวาน—จากด้านหลังข้อพับ, และพับขึ้นมาในแนวทแยง

    เรวานที่สูญเสียสมดุลไปมองที่ด้านข้าง และทันเห็นขาขวาของฮิยูกิที่ยกขึ้นพร้อมกับชายกระโปรงที่เลิกขึ้นเล็กน้อย

    ฉึบ

    แล้วมันก็บินใส่เขาด้วยลูกเตะวงกว้าง

    กัง! พร้อมกันนั้นเสียงหนักๆก็ดังขึ้น จากการที่หน้าของเรวานและขาของเขาร่วงลงพื้น

    “อ๊ากก!

    และยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่งอขาขวา, เธอก็ใช้ขาซ้ายเป็นแกนและหมุนตัวราวกับดาวตก โดยที่ไม่ได้ใส่แรงเพิ่ม, เธอส่งลูกเตะวงกว้างเข้าใส่หน้าท้องของเรวานอีกครั้ง

    ตร๊อง!!

    เสียงหนักและทู่เหมือนเสียงตีกลองดังขึ้น, ร่างของเรวานลอยขึ้นไปราว 10m. จากพื้น และเมื่อไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงได้ ในที่สุดร่างของเขาก็ตกลงพื้นจนเกิดเป็นหลุมเล็กน้อย เขากลิ้งขลุกๆเหมือนเศษผ้าก่อนจะหยุดลง

     

    “…ได้แค่นี้หรือ

    อุสึโฮะที่คลี่พัดป้องปากพึมพำแล้วหุบพัดดังฉับอย่างเบื่อหน่าย

    ไม่ต้องถึง 3 นาทีแค่ 10 วิคงไม่ไหวสินะ

    ราชาสัตว์ป่าแสดงความเห็นอย่างไร้ปราณี

    อา, คงเป็นงั้นแหละ—?”

    ฮิยูกิถอนหายใจอย่างเสียดาย

    ผลลัพธ์ที่เลวร้าย, ทั้งสามแสดงท่าทีออกมาในแนวเดียวกัน

    เวลานั้นเอง

    แกร๊ก พวกเขาก็ได้ยินเสียงบางสิ่งเคลื่อนไหวจากกลุ่มฝุ่นที่คละคลุ้งอยู่

    เมื่อพวกเขามองดูก็เห็นเรวานที่น่าจะหมดสติไปพยายามยืนขึ้น

    เขาช่างมีจิตวิญญาณในการต่อสู้อย่างน่าตกใจ—หรือบางที, ทั้งสามเหลือบไปมองด้านข้าง

    ผู้ที่อยู่ตรงนั้น—อสึมินะแบฝ่ามือทั้งสองข้างไปทางพี่ชายของเธอ ที่ฝ่ามือส่งละอองแสงจางๆไปยังเขา

    “…ฮะฮะ, อันที่จริง ปกติข้าจะร่ายเวทมนต์เสริมความแข็งแกร่งให้ท่านพี่ก่อนต่อสู้นะเจ้าค่ะ แต่ครั้งนี้ข้าลืมไปเสียสนิทเลย, ข้ามาร่ายกลางคันเช่นนี้ ...จะเป็นอะไรไหมเจ้าค่ะ?”

    อสึมินะแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

    ทุกคนในที่นี้ต่างรู้ดีว่าเวทมนต์ที่เธอร่ายไม่ใช่เวทมนต์เสริมความแข็งแกร่งแต่เป็นเวทมนต์รักษา แต่ถึงอย่างนั้นอุสึโฮะก็ปล่อยผ่านไปอย่างไม่สนใจ, ราชาสัตว์ป่าเพียงยักไหล่เบาๆ และฮิยูกิ--

    เข้าใจละ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้ละนะ, แค่ครั้งนี้เท่านั้นละ

    แต่ไม่มีครั้งที่สองอีก, รับรู้ได้ถึงสิ่งที่ฮิยูกิต้องการสื่อ อสึมินะพยักหน้าเข้าใจแข็งๆ

    “…ชิ, ข้าแค่ประมาทไป…!”

    ต้องขอบคุณเวทย์รักษาของอสึมินะ, เรวานที่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บคายเลือดที่อยู่ในปาดและพยายามยืนขึ้น

    ประมาทหรือ,อย่าพูดอะไรเช่นนั้นเลยนะเจ้าค่ะ เรวาน-นี่ซามะ!”

    ดูจากท่าทีของเรวานเหมือนจะไม่ตั้งใจฟังคำตำหนิของอสึมินะเลย ฮิยูกิหรี่ตาลงครึ่งหนึ่งมองเขาเล็กน้อย

    ดูเหมือนที่เราโจมตีไปเมื่อครู่จะไม่ได้บอกอะไรเจ้าเลยสินะ เอาเถอะ, รอบที่แล้วเราเป็นเริ่ม คราวนี้ก็ให้เจ้าเริ่มแล้วกัน

    อย่ามาทำเป็นอวดดี–!”

    จะว่าพาลหรือใจเสียดี เรวานก็ถีบพื้นอย่างแรงและเข้าไปในระยะโจมตีฮิยูกิด้วยการไถลไปมา

    อย่ามาล้อเล่นนะ! ข้าฝึกหนักมาตั้งแต่ 5 ขวบ, กว่า 10 ปีเชียวนะ! ข้าไม่มีทางแพ้ให้กับคนที่เริ่มฝึกเมื่อไม่นานมานี้ได้หรอก!

    กู่ร้องอยู่ในใจ, เขาใช้สกิลที่เรียนรู้มาจากราชาสัตว์ป่า เทคนิคที่พุ่งโจมตีไปยังหัวของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง

    มีการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์มากไป

    วิจารณ์การโจมตีนั้นเล็กน้อยแล้วฮิยูกิก็หลบไปด้านข้าง และเมื่อการโจมตีมาถึงก็คว้าข้อมือขวาของเขาไว้

    อะ…?!”

    ไม่ให้โอกาสตอบโต้, ฮิยูกิเหวี่ยงขาขึ้นข้างหนึ่งและทุ่มเขาลงพื้นด้วยแรงจากแขนข้างเดียว

    อ๊ากกกกกก….!?!”

    ขณะที่เรวานดิ้นรนอย่างทรมานอยู่บนพื้น, ฮิยูกิมองไปที่ราชาสัตว์ป่า

    “ดูเหมือนจะอ่อนเทคนิคไปหน่อยนะ แค่อีกฝ่ายเปลี่ยนจุดปะทะหรือปล่อยให้ผ่านไปก็เป็นได้แค่ท่าโจมตีพื้นฐานเท่านั้น—อา, เพราะเจ้าหมอนี่อ่อนเกินไป, ยังไม่ทันได้ใช้ความคิดคู่ขนานด้วยซ้ำ”

    นั่นสินะ, บางทีถ้าปูพื้นฐานตั้งแต่เด็กๆให้มากกว่าสอนเทคนิคเล็กน้อยพวกนี้ บางทีอาจจะปล่อยพลังและความเร็วได้มีประสิทธิภาพกว่านี้....เฮอ, ไม่นึกเลยว่าจะอ่อนแอได้ถึงขนาดนี้

    น่าสมเพช, ช่างเป็นผู้แพ้ที่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

    รับฟังทั้งเสียงของฮิยูกิ, การตอบรับอันน่าชังของราชาสัตว์ป่า และเสียงเย้ยหยันของอุสึโฮะ

    หนอยแก…!”

    ด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว, เขาผุดลุกขึ้นแล้วทุ่มความรู้สึกทั้งหมดใส่ฮิยูกิ

    ไม่ยกโทษให้แน่!!”

    ตะโกนแล้วเขาก็วิ่งใส่ฮิยูกิ

    การเคลื่อนไหวของเขาไม่อาจนับเป็นอะไรได้ ทั้งความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจของเขาล้วนถูกทำลายไปหมดแล้ว เขาเพียงเคลื่อนไหวไปตามแรงอารมณ์, เหมือนสัตว์ร้ายที่บาดเจ็บ

    ปล่อยศอกไปได้ครึ่งเดียว, ฮิยูกิที่หมุนตัวทวนเข็มนาฬิกาก็ศอกซ้ายเข้าที่ท้องของเรวาน--เพียงเท่านั้นก็พอจะหยุดเรวานได้แล้ว

    โอ๊ะ—!”

    อุกก…!”

    พุ่งไปหลายเมตรจากแรงกระแทก, อากาศในปอดของเรวานไหลออกไปนอกร่างกาย, สติของเรวานถูกปกคลุมด้วยม่ายสีเข้มอย่างรวดเร็ว

    .

    .

    .

    ซามะ

    .

    -นี่ซามะ!”

    .

    แข็งใจไว้นะเจ้าค่ะ, เรวาน-นี่ซามะ!”

    ในขณะที่กำลังจะจมหายไปในความมืด, เสียงอันคุ้นเคยของน้องสาวและสัมผัสอุ่นๆที่หยดลงที่ข้างแก้มก็เรียกให้เรวานเปิดตาขึ้นอย่างเลื่อนลอย

    ดูเหมือนตอนที่เขาตกอยู่ในภวังค์, อสึมินะก็ร้องไห้เรียกหาเขาให้กลับมา

    ถึงหมดสติไปไม่กี่วินาทีแต่ก็ช่วยทำให้ความโกรธของเขาเลือนหายไป และคืนสู่ความว่างเปล่า

    เธอกำลังร้องไห้, เพราะข้าหรือ....ข้าทำให้เธอร้องไห้หรือ

    อสึมินะห่วงใยเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อเขาตระหนักได้เช่นนั้น, ก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งฉีกกระชากหัวใจของเขา

    และเขาก็เห็น, ราชาสัตว์ป่าผู้คอยตำหนิติเตียนเขาแต่ก็ไม่เคยละทิ้งเขาไว้ และยังมีนัยน์ตาที่ฉายแววห่วงใยและกังวลของฮิยูกิหลังเอาชนะเขาได้ เมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งเหล่านั้น, เขาก็รู้สึกอับอายขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ

    นี่ข้ากำลังทำบ้าอะไร

    หยิ่งทะนงเพราะถูกเรียกขานว่าเป็นผู้สืบทอดแห่งราชาสัตว์ป่าและเชื่อว่าตนแข็งแกร่งและสามารถทำได้ทุกอย่างตามต้องการ และเพราะอัตตานั้นเองที่ทำให้เขาละเลยผู้คนรอบตัวและใช้ชีวิตตามอำเภอใจ

    และสุดท้ายก็ไม่มีใครสนใจไยดีตัวเขาเลย แม้แต่ตัวของเขาเองก็ตาม

    และเพราะความทะนงตนว่าแข็งแกร่ง, เมื่อพ่ายแพ้ให้กับเด็กสาวที่ตัวเล็กกว่า ก็ไม่ยอมรับความอ่อนด้อยของตนและโทษแต่คนอื่น

    อา, นี่ข้าเป็นคนน่ารังเกียจขนาดไหนกัน

    ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงไม่มีวันก้าวไปข้างหน้า, มีแต่จะทำลายตัวเองเท่านั้น

    เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รู้สึกเหมือนมีไฟจุดขึ้นกลางอก

    จะปล่อยให้จบแบบนี้ไมได้!

    ดวงตาของเขาเปิดออก ไม่มีม่านหมอกหลงเหลืออยู่ในดวงตาคู่นั้น

    ข้าไม่เป็นไร อสึมินะ, อย่ากังวล

    เขายิ้มและวางมือบนหัวของเธอเหมือนที่เขาเคยทำสมัยยังเป็นเด็กๆ

    “…เรวาน-นี่ซามะ?”

    ข่มความรู้สึกอยากอาเจียนและเหงื่อเย็นที่ไหลชโลมร่าง, เรวานลุกขึ้นหันไปโค้งให้ฮิยูกิ

    ท่านหญิง, ข้าขอโอกาสอีกสักครั้งได้หรือไม่ขอรับ?”

    ได้ ตามที่เจ้าต้องการ

    หันไปทางฮิยูกิที่แย้มยิ้มอย่างมีความสุข, เขาก็โค้งขอบคุณอีกครั้ง

    ผู้นำเผ่าสิงโตคนถัดไป, เรวาน, เข้ามา!”

    นายเหนือแห่งจักรวรรดิสีเลือด, ฮิยูกิ, ข้าขอรับคำท้าของท่าน!”

    สิ้นสุดคำทักทาย, เรวานก็เป็นฝ่ายเริ่ม สภาพของเขา, แท้จริงแล้วคงสู้ต่อไม่ได้แล้ว แต่แรงใจที่เหลืออยู่ก็ทำให้เขาพุ่งแทงตรงไปยังฮิยูกิ

    ต่างจากครั้งก่อน, ถึงความเร็วจะตกลงแต่ไม่มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่าแม้แต่น้อย เป็นการเคลื่อนไหวตามพื้นฐานโดยแท้จริง

    ฮิยูกิยิ้มและสวนแทงไปในลักษณะเดียวกัน

    และเมื่อมันพบกันก็เกิดเสียงปะทะดังสะนั่นระหว่างพวกเขา

    จากนั้น... ร่างของเรวานก็ไถลล้มลงอย่างเชื่องช้า ต่อหน้าอสึมินะที่กลั้นหายใจมองดู

    ทั้งแรงกายแรงใจของเขาเกินขีดจำกัดแล้ว แต่ใบหน้าของเขาก็ฉาบด้วยความพึงพอใจ

    ทิ้งที่เหลือให้อสึมินะที่รีบวิ่งไปหาเรวานจัดการ, ฮิยูกิคลี่ยิ้มเล็กน้อย มือข้างซ้ายชาจากการปะทะกับเรวานเมื่อครู่

    จะนับว่าถึงสามนาทีหรือดีไหมนะ?”

    ถึงจะมีอีกหลายสิ่งที่ข้าไม่พอใจ แต่ข้าว่าเขาน่าจะผ่านขอรับ

    ราชาสัตว์ป่าตอบรับคำพูดของฮิยูกิด้วยท่าทีดุดันเช่นเคย

    “—อืม, ก็ดูมีหวังขึ้นมาบ้างนะเจ้าค่ะ

    ดูเหมือนอุสึโฮะจะมองเขาต่างจากเดิมเล็กน้อย

    อา, อย่างน้อยก็คงไม่ตกรอบแรกแล้วละนะ

    ไม่ไหวๆ, ฮิยูกิโคลงหัวเบาๆ

     

    End

    Talk: ตอนแรกนึกว่าคุณพี่ชายเป็นพวกไม่เอาไหนเสียอีก ดันเป็นพวกหยิ่งจนไม่มีใครเอานี่เอง //ทุบมือ  แต่เห็นแล้วก็น่าหมั่นไส้จริงๆนั่นแหละ ฮิยูกิน่าจะอัดให้มากกว่านี้หน่อยน้า จะได้รู้สำนึกถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงซะบ้าง—ว่าแต่อย่างฮิยูกินี่ นับว่าเป็นผู้หญิงเต็มตัวได้หรือยังนะ มีความเป็นผู้หญิงมากกว่าคนแปลอีก //หัวเราะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×