ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #52 : 3-10 Interlude 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.61K
      57
      17 ก.พ. 60

    Chapter 3Beast King of Borderland

    Interlude 2 เถากุหลาบหนาม

    เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเอมาที, อาระ ณ. ทุ่งราบใต้เทือกเขามังกรขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ทางด้านหลังของเมือง, เงาร่างสองร่างขยับวูบไหวไปมาราวกับกำลังเต้นรำ

     

    ด้านหนึ่งเป็นมนุษย์สิงโตผู้มีร่างกายแข็งแกร่งดุจหินผา, ร่างสูงกว่า 2 เมตรในชุดคลุมสีน้ำเงิน ทั้งเส้นผมและเคราต่างเปลี่ยนสีเป็นสีขาวราวหิมะ ใบหน้าเคร่งขรึมสลักริ้วรอยของอายุที่ผ่านพ้น แต่สิ่งที่มาพร้อมความแก่ชราที่เห็นได้ชัดเจนนั้นคือความภูมิฐานสง่างาม

     

    อีกด้านหนึ่ง, เป็นเด็กสาวที่ดูราว 12-13 ปีในชุดเดรสสีดำที่ประดับประดาด้วยช่อดอกกุหลาบสีแดง เรือนผมสีดำขลับ, ดวงตาสีแดงเลือด และผิวสีขาวเนียนราวกับผลงานศิลปะ เพียงแต่ยืนนิ่งๆ, เธอก็เปล่งประกายเจิดจ้า ดึงดูดทุกสายตาให้หันไปมอง, เป็นเด็กสาวที่งดงามจนถึงขั้นน่าสะพรึงกลัว

     

    เด็กสาวถือดาบยาวเล่มบางที่ตกแต่งด้วยดอกกุหลาบด้วยมือข้างหนึ่ง, เผชิญหน้ากับสิงโตเฒ่า

     

    ถ้าหากมองผ่านๆ, เด็กสาวที่ความสูงต่างถึง 60cm และหนักน้อยกว่า 1 ใน 3 จะล้มเขาลงได้หรือ? นี่ยังไม่นับที่เขาดูเหมือนเป็นนักรบผู้ชำนาญอีก

    —ผลลัพธ์มันก็รู้กันอยู่—ทุกคนอาจคิดเช่นนั้น

     

    แต่ทว่า, ตรงข้ามกับที่คาด, พวกเขาต่อสู้กันอย่างสู้สี—ไม่, เหมือนเด็กสาวจะถูกผลักดันอยู่ฝ่ายเดียว

     

    ◆◇◆◇

     

    ฉันแทบจะใส่เครื่องป้องกันทั้งหมดและบัพที่มีแล้ว, แต่ก็มาได้เท่านี้สินะ ดีจริงที่ฉันไม่ได้ดูแคลนนาย สมแล้วที่เป็นเคนเอาชนะอานิมารุได้

     

    ด้วยเทคนิคตีแล้ววิ่งของผม, ทำให้สามารถโจมตีใส่ได้จากทุกทิศทาง แต่เหมือนว่าเขามีตาอยู่รอบตัว เขาหลบได้ทุกการโจมตี แม้แต่การโจมตีคู่ของกุหลาบแห่งเหล่าคนบาปก็ยังถูกกำปั้นกระแทกจนต้องเปลี่ยนทิศทางไป แล้วยังสามารถโจมตีสวนกลับมาได้อีก

    และมีโอกาสอีกนิดหน่อย, ที่แขนขาถูกจับไว้ได้แล้วโดนโยนออกมา

     

    สไตส์การต่อสู้ของราชาสัตว์ป่าไม่ใช่อะไรที่สามารถประมาทได้เลย

    ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ ไม่รู้ว่าถูกโยนออกมาครั้งที่เท่าไร, เปลี่ยนท่ากลางอากาศ, สร้างระยะด้วยการถีบพื้นเต็มแรง และเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่แม้แต่ผมเองก็ชักระอา

     

    มาเป็นแบบนี้ได้ไงนะเหรอ:

    มาคิดดูอีกที ถึงฉันจะไม่เห็นเพราะหมดสติอยู่ แต่ถึงขนาดไล่ต้อนอานิมารุอยู่ฝ่ายเดียวเลยงั้นหรอ?’

    ถ้าจะถามข้า, ข้าก็เพียงต่อสู้ตามปกติเท่านั้น ถ้าเจ้าต้องการ, เราไม่มาลองสู้กันสักครั้งหรือ, แม่หนู?

    โอ๋, เยี่ยมไปเลย มาลองกันเถอะ

    แล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นโดยที่ผมไม่ได้ใส่ใจเช่นนั้น (กว่าจะหาที่สู้และต่อสู้กันโดยไม่ให้ใครรู้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย)

     

    การโจมตีดุจลูกธนูที่พุ่งเข้ามาจากสี่ทิศ, นี่เป็นทางของข้าเลยละ ยิ่งกว่านั้นตัวแม่หนูก็เบามาก ข้าไม่ต้องใช้แรงทั้งหมดโยนก็ได้ ที่ทำให้ลำบากจริงๆ, คงเป็นเรื่องที่แม่หนูแทบจะไม่เสียสมาธิเลยนี่ละ ไม่มีช่องว่างเลย, ถึงจะเป็นการโจมตีแบบโง่ๆก็ยังทำให้เดาได้ยาก

     

    ราชาสัตว์ป่าพูดพลางยักไหล่

     

    อืม, ถ้ามองจากสถานการณ์นี้ ด้วยความสามารถการต่อสู้ระยะประชิดของอานิมารุ, ก็จะได้เปรียบกันคนละด้าน –คงเป็นความต่างด้านประสบการณ์, ทิฐิฐานะ, ความพร้อมของอุปกรณ์ และความสามารถในการรับมือกับทักษะที่ไม่รู้จักสินะ ที่ทำให้ฉันแพ้?”

     

    ผมเดาเหตุผลที่ทำให้ผมแพ้อานิมารุจากการต่อสู้กับราชาสัตว์ป่าเมื่อครู่

     

    จากนั้น, ราชาสัตว์ป่าก็ยิ้มราวกับคุณครูที่ได้ยินคำตอบของนักเรียนดีเด่น

    การเข้าจากเรื่องใหญ่จากเรื่องเล็กน้อย, นั้นยอดเยี่ยมมาก—นี่, แม่หนู ถ้ายังไงหลังจบการต่อสู้นี้แล้วมาเป็นลูกศิษย์ไหม? อืม, หรือข้าควรจะเป็นคนก้มหัวขอร้องนะ

     

    อืม~มม~, พูดกันตรงๆ, ฉันอยากแข็งแกร่งขึ้นก็จริง, แต่ว่าแบบนั้น, ฉันไม่เอาด้วยหรอก …”

    ความแข็งแกร่งก็เป็นเหมือนเครือญาติ ให้มองหาจุดสิ้นสุดไม่ได้หรอก ในตอนนี้, ความสามารถของผมยังห่างไกลเกินกว่าจะสามารถอยู่รอดในโลกนี้มากนัก

     

    บางทีความคิดของผมอาจจะแสดงออกทางสีหน้ามากไป, ราชาสัตว์ป่าพยักหน้าด้วยท่าทางพึงพอใจขรึมๆ

     

    ถูกแล้ว ความแข็งแกร่งไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับผู้ที่ต้องการ สำหรับผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงย่อมไม่เอากิเลสมาใส่ใจ แม่หนูเลือกได้ถูกต้องแล้ว.... แต่เมื่อเห็นเพชรยังไม่เจียระไนอยู่ตรงหน้า, ข้าก็คงปล่อยไว้ไม่ได้หรอก

     

    ผมเข้าใจ—อา, แล้วก็ดูเหมือนลาโปกุ-ซังจะกลายเป็นศัตรูไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไงก็ตาม, ผมก็จำเป็นต้องพยายามให้มากขึ้นถึงจะเอาชนะเขาได้

    เวลานั้นเอง ใบหน้าของผู้คนมากมาย อย่างมาโรโดะ และผู้สืบทอดราชาสัตว์ป่าที่ยังไม่เคยเห็น (ไม่มีโจอี้หรอ?) ก็พรั่งพรูขึ้นในหัวของผม

     

    นี่, หลังฉันจบเรื่องอาณาจักรเครสแล้ว, ถึงไม่ได้เป็นครูฝึกส่วนตัวของฉัน แต่สนใจเป็นผู้ฝึกสอนศิลปะกากรต่อสู้ให้จักรวรรดิสีเลือดไหม? มีผู้คนอีกมากที่ต้องการใครสักคนสั่งสอน (TL: ประมาณมีฝีมือแต่ต้องการคนขัดเกลา-เป็นครูฝึกให้)

     

    แน่นอน, ข้ายอมรับข้อเสนอ อา, เกี่ยวกับเรื่องอาณาจักรเครส ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็สุดแท้แต่เถอะ จะว่าไปข้ายอมรับตำแหน่งแล้วจะได้อะไรเป็นค่าตอบแทนหรือ?”

     

    ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง, หญิงสาว หรือเงินทอง ฉันก็จะมอบให้ตามต้องการ

     

    ของพวกนั้นไม่จำเป็นกับคนวัยอย่างข้าอีกแล้ว แค่อาหารอร่อยๆสักสามมื้อต่อวันกับเหล้าดีๆก็พอแล้ว

     

    คำพูดของเขาทำให้ผมนึกถึงสิงโตขี้เซาที่อยู่ในสวนสัตว์

    “…ไม่ใช่ว่าเขี้ยวกับกงเล็บขึ้นสนิมไปหมดแล้วหรอก?”

     

    ข้าไม่ได้เป็นคนอ่อนแอเช่นนั้น

     

    จะจริงหรือไม่จริง ก็คงต้องลองปะมือกันซะหน่อยละนะ …”

     

    ราชาสัตว์ป่าแสยะยิ้มป่าเถื่อนตอบรับคำยั่วยุของผมและเป็นฝ่ายเริ่มเป็นครั้งแรก

    กระโจนเข้าสู่ระยะกลางพร้อมกับกำหมัด

    ถ้าให้ผมพูดถึงความเร็ว, มันก็เร็วอยู่แต่ไม่ถึงขนาดตั้งรับไม่ทัน—หรือบางที, เพราะดวงตาเจ้าหญิงแวมไพร์ของผม ก็เลยมองเห็นภาพช้าก็เป็นได้

    (TL: ระยะการต่อสู้แบ่งได้ 3 ระยะ คือ ระยะไกล, ระยะกลาง, ระยะใกล้/ระยะประชิด ถ้าให้ยกตัวอย่างเป็นอาวุธก็.... ระยะไกล=หอก/ทวน ระยะกลาง=ดาบ/กระบี่ ระยะใกล้=มีดสั้น/หมัด)

     

    ผมรักษาความเยือกเย็นเอาไว้แล้วหลบ—ทันทีที่ผมขยับ, หมัดนั้นก็พลันหายไปจากหรอบสายตา กำปั้นพุ่งเข้าปะทะผมที่เคลื่นตัวหลบจากด้านข้างราวกับกำลังคอยอยู่

    ---อ๊า!

    ยิ่งไปกว่านั้น, แรงกระแทกที่ไม่รู้ที่มาก็ทะลวงเข้ามาในตัวผม เพียงแค่หมัดเดียวก็ซัดผมไปไกลหลายเมตร

     

    กรอบแกรบ, ผมตกลงบนพุ่มไม้ และเมื่อผมพยายามยืนขึ้น, ทว่า—ความเจ็บปวดไม่ได้หายไป—เท้าของผมสั่นระริก

     

    ผมเช็กหน้าต่างสเตตัสอย่างเร่งรีบ ถึงแม้ว่าค่า HP ของผมจะกำลังลดลงอย่างช้าๆ แต่ไม่มีสถานะผิดปกติอะไร, ดังนั้นเขาไม่ได้ใช้พิษแน่.... ถ้าอย่างนั้น, นี่คือผลกระทบต่อเนื่องของการเจาะเกราะงั้นหรอ?I

    จะเกิดสถานะเช่นนี้ได้ ก็ต่อเมื่อมีลูกกระสุนหรือลูกธนูติดอยู่ในร่าง, แต่ไม่เห็นมีของแบบนั้นเลย

    เพราะการโจมตีสุดท้าย, การโต้กลับของราชาสัตว์ป่าสินะ

     

    —การโจมตีด้วยคิ, รู้สึกประทับใจพอไหม? (TL: สำหรับคนลืม คิ(น่าจะ)คือพลังภายใน)

     

    น่าสนดี เป็นสกิลที่ดูถูกไม่ได้เลย

    อา, น่าจะมีค่าพอให้ศึกษาด้วย

     

    ยังมีการใช้แบบอื่นด้วย เดี๋ยวเจ้าก็จะได้เรียนรู้ในอนาคต

     

    เอ๋-, ไม่ละ มันเจ็บนะ เพราะงั้น--

     

    หืม?”

     

    “…-รับครั้งเดียวก็พอแล้วละ ยังไงฉันก็พอจับส่วนหลักๆและวิธีรับมือได้แล้ว

     

    บางทีอาจจะยากที่จะตัดสินใจเชื่อคำพูดของผม, ราชาสัตว์ป่าหลับตาลง

    โฮว, แล้วจะรับมือยังไงละ?”

     

    อืม--, ก่อนอื่นหนามกุหลาบ:เปิดหนาม (TL: ชื่อตรงนี้ทางอิงเขาแยกเป็นสองส่วน แต่เรารวบเป็นอันเดียวกันนะ เผื่อใครสงสัย)

     

    หลังพูดคีย์เวิร์ด เถากุหลาบที่เกาะอยู่บนผิวอุปกรณ์ตรงมือซ้าย, กุหลาบเหล็กก็แยกตัวออก และแผ่ขยายเป็นวงกลมโดยมีผมเป็นศูนย์กลาง

     

    --โอ๊ะ

    มันตรวจพบเท้าราชาสัตว์ป่าที่เข้ามาในวงกลม, เถากุหลาบพุ่งสะบัดราวกับมีชีวิต

     

    อา, มันมีพิษที่หนามด้วย ระวังด้วยละ

     

    ราชาสัตว์ป่าขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำเตือนของผม

    อย่าบอกนะว่าเจ้าคิดว่าแค่เว้นระยะห่างแล้วจะปลอดภัยนะ?”

     

    “……”

    ผมไม่มีคำตอบ—ไม่สิ, ผมแค่ยังตอบเขาไม่ได้

     

    ราชาสัตว์ป่าไหวไหล่น้อยๆด้วยสีหน้าผิดหวัง—อย่างเสแสร้ง เขาขว้างอาวุธบางอย่างที่ดูคล้ายกรงเล็บเหล็ก 5 ชิ้นออกมา

     

    เมื่อตรวจจับพวกมันได้, กำแพงเถาวัลย์ก็ก่อตัวขึ้นกันอย่างรวดเร็ว

    แต่แล้ว, ราชาสัตว์ป่าก็อาศัยช่องว่างด้วยการมองเพียงครั้งเดียว กระโดดขึ้นจากส่วนที่หนาแน่นเบาบาง

     

    อย่างมุ่งร้าย, เถาวัลย์นับไม่ถ้วนกลายเป็นพายุแส้ฟาดเข้าใส่ไม่หยุด แต่พวกมันกลับไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของราชาสัตว์ป่าที่ผสมการหลอกล่อไว้ได้, ทำได้แค่ตีอากาศไปมาเท่านั้น

     

    มันจบแล้วละ

    หมัดขวาของราชาสัตว์ป่าพุ่งเข้าที่ท้องของผม--ถ้าเพียงแต่, วินาทีที่เขาสัมผัสผิวชั้นนอกของผม

    —อะไรกัน!

    ราชาสัตว์ป่าหายใจสะดุด เมื่อร่างของผม, ที่ควรจะถูกหมัดโจมตี, เลือนหายไป และปรากฏอีกครั้งในท่ายืนอยู่บนแขนที่ยืดออกมาของเขา

     

    ทันใดนั้นเอง, เท้าของผมก็กระแทกเข้ากับแก้มของราชาสัตว์ป่าพอดี

     

    แต่ทว่า, เพียงแค่อีกนิดเดียวที่จะโจมตีถึงตัว ราชาสัตว์ป่าก็ปัดผมออกพร้อมกับถอยร่นลงไป จากนั้นเขาก็ “อึบ!” เปล่งเสียงออกมาคู่กับแทงสวนกลับมา

    ณ. ปลายทางที่ผมหลบไปอย่างรวดเร็ว, อีกครั้งแล้ว, ที่หมัดของเขาหลุดหายไปจากกรอบสายตา แล้วชกเข้ากับ—อากาศธาตุ !? อาศัยช่องว่างจากความตกใจ, จากท่าหลบที่ต้องกวาดขาออกในแนวนอนขนานกับพื้น ใช้แรงส่งจากข้อเท้าฟาดใส่จากด้านล่าง เหมือนตัวผมกำลังจะพุ่งขึ้น

     

    ราชาสัตว์ป่าที่ผ้าคลุมตรงส่วนท้องฉีกขาดไป, ถอยเว้นระยะห่างแล้วถอนหายใจอย่างชื่นชม

     

    ข้านึกว่าจะแค่เล่นๆ ไม่นึกเลยว่าจะรับมือเทคนิคของข้าได้จริงๆ, บอกได้ไหมว่าทำได้อย่างไร?”

     

    หน่า...ก็, เป็นงานหนักพอตัวอยู่เหมือนกันนะ

    ผมเผยความลับขณะที่คิ้วเริ่มผูกเข้าหากันเพราะความเจ็บปวดในหัว

    ความคิดคู่ขนานนะ

     

    โฮว, ที่อัศวินสหายของแม่หนูใช้ควบคุมดาบทั้งเจ็ดสินะ?”

     

    ก็แค่เลียนแบบนะ ฉันเคยสอนทริกลาโปกุ-ซังมาก่อน แต่มันก็ต้องใช้เวลาหลายวิเลยในการเตรียมการ แล้วก็ถ้าฉันจะใช้จริง อย่างมากก็ได้ไม่กี่นาทีหรอก

     

    เพราะฉะนั้น, มันถึงไม่เหมาะกับการต่อสู้จริงๆเท่าไร แต่ตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะเอาชนะเขาได้ยังไงถ้าไม่ใช้มัน

     

    —จะว่าไป, การโจมตีด้วยคิพูดสั้นๆแล้ว, ไม่มีผลตอนเคลื่อนไหว แต่จะเสริมการโจมตีหนักในตอนที่เข้าปะทะระยะประชิดที่สุดสินะ?

     

    เหมือนจะจับทางถูก, ราชาสัตว์ป่ายิ้มขำเบาๆ

     

    แต่เพราะอย่างนั้นถึงได้มีอาการกระตุกนิดหน่อย ฉันก็แค่ใช้ช่วงที่ว่านั่นละ ส่วนการโจมตีอื่นๆก็ใช้การทำนายการเคลื่อนไหวแล้วจำกัดการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์, แล้วฉันก็เคลื่อนที่ไปคนละทางกับที่ตั้งใจไว้ตอนแรกก็เท่านั้น

     

    หลังจากที่ผมพูดจบ, ราสัตว์ป่าก็แย้มยิ้มกว้าง

     

    นี่เจ้ามองไปไกลขนาดไหนกันนี่! ช่างมีพรสวรรค์จริงๆ!”

     

    ไม่, ไม่น่าจะใช่หรอก…? ฉันต่างจากลาโปกุ-ซังที่เป็นอัจฉริยะโดยธรรมชาติ กรณีของฉัน, กว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้ก็ต้องใช้ความพยายามแลกมาทั้งนั้นละ

    ผมคิดว่าเป็นการชำนาญในด้านที่ไม่ดีเท่าไร (TL:ใช้ความสามารถความชำนาญเพื่อเล่นเกม)

     

    เหอะ, จะอัจฉริยะหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับการเรียนรู้หรอก...จะว่าไปแล้ว, เจ้าจะทำอะไร? จะต่อเลยไหม?

     

    ไม่ละ, ให้จบแค่นี้เถอะ หัวฉันปวดไปหมดแล้ว ไว้ค่อยต่อหลังฉันกลับมาจากอาณาจักรเครสแล้วกัน

     

    ผมเอากุหลาบแห่งเหล่าคนบาปและของอื่นๆกลับเข้าช่องเก็บของ

    และทันใดนั้นผมก็นึกอะไรขึ้นได้, ผมเลยถามราชาสัตว์ป่าเกี่ยวกับเรื่องนั้น

     

    ว่าแต่, ผู้สืบทอดนั่นนะแข็งแกร่งเหมือนกันไหม?”

     

    ราชาสัตว์ป่าครางในลำคอตอบ “ฮืมม” รอยบนหน้าผากกดลึกลงไป

     

    ถ้าในอนาคตก็พอคาดหวังได้ แต่ตอนนี้, ก็อยู่ในระดับธรรมดา... ถ้าสู้กับแม่หนู...อืม เขาคงต้านไว้ได้สัก 2 นาที ข้าคิดว่าน่าจะละนะ

     

    อืมม-ม ถ้าคิดว่างั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาพอต้านฉันได้สัก 3 นาที, ก็คงพอมีค่าให้รู้จักได้บ้าง

     

    ราชาสัตว์ป่าพยักหน้ารับจริงจังกับคำล้อเล่นของผม

     

    อืม, ถึงข้าจะไม่ค่อยแน่ใจระดับความอ่อนแอของผู้สืบทอด แต่ก็เชิญลงมือได้ตามสบายเลย

     

    อา, มีสิงโตผลักลูกตัวเองไปในหุบเขาลึกอยู่จริงหรอเนี้ย

    (TL: สิงโตผลักลูกตัวเองลงเหว เปรียบได้กับการที่ผู้ใหญ่ปล่อยให้เด็กได้พบกับความยากลำบาก เพื่อจะได้รู้จักวิธีเอาตัวรอดเข้มแข็ง)

     

    อือ, ฉันจะพยายามเจรจาให้สงบสุขเท่าที่เป็นไปได้แล้วกัน

     

    ถึงแม้ว่า, อีกฝ่ายจะเป็นเผ่าสิงโตที่ดำเนินตามกฎแห่งป่า แต่ผมคิดว่าการเจรจาคงยากพอควรเลย ผมไหวไหล่พลางคิดไปเรื่อยเปื่อย

    (TL: กฎแห่งป่า คือผู้แข็งแกร่งอยู่รอด ส่วนผู้อ่อนแอก็ตายจากไป)

     

    End

    Author Notes

    ในความคิดของฉันแล้ว ราชาสัตว์ป่าก็เหมือนอาจารย์ของฮิยูกิ

     

    ตั้งแต่แรกแล้วฉันก็มีความคิดนี้แล้ว, แต่เพราะลักษณะของฮิยูกิที่ไม่ได้ออกโรงต่อสู้มากนัก แต่ไปในทางเสริมความแข็งแกร่งให้คนอื่น (โจอี้, โจอี้ และโจอี้)

     

    ดังนั้นแล้ว, ถ้าเทียบทั้งสองคนกับฮิยูกิ, ฮิยูกิมีโอกาสชนะสูงมากในการต่อสู้เสี่ยงตาย (ฮิยูกิเป็นพวกใช้เวลาวิ่งมาราธอนมากกว่าลงสงครามแตกหักกันในช่วงสั้นๆ ซึ่งต่างกับราชาสัตว์ป่าเฒ่า)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×