คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #48 : 3-06 Episode 5
Chapter 3
– Beast King of Borderland
Episode 5 สามราชาสามเรื่อง
วันรุ่งขึ้นหลังจากเกิดเรื่อง
ณ.พระราชวังเมืองอาระ, บรรยากาศหนักหน่วงกดทับห้องส่วนตัวของกษัตริย์
ยืนอยู่เงียบๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียด,
ชายสองคนในชุดทักซิโดที่อยู่ด้านหลังผมคือ คอนราดและเท็นไก และชายกึ่งสิงโตที่มีฐานะไม่ธรรมดา—หนึ่งใน
Rank SS
ห้าคนของโลกใบนี้--『ราชาสัตว์ป่า』, ผมยกน้ำชาขึ้นจิบ
โดยมีมาโรโดะยืนหันหน้าเข้ากำแพง
แต่ดูจากท่าทางแล้วเหมือนกำลังสนุกและยิ้มอยู่ใต้หน้ากาก อา, ผมไม่ได้จะว่าเลือดของอานิมารุ-ซังไม่ดีนะแต่บางทีผมอาจจะดื่มมากไปหน่อย
ท้องไส้ผมเลยไม่ค่อยดีนะ
“…จนถึงตอนนี้, นับว่าโชคดีมากที่ไม่มีประชาชนเสียชีวิตเลย”
คอนราด,
หลังถูมือกับดวงตา—ที่กลายเป็นสีแดงเนื่องจากโหมงานหนักทั้งคืน—และขยับแว่น,
เขามองมาที่พวกเราแล้วพูดเหมือนสรุปกับตัวเอง
“โชคดีบ้าอะไรกัน!องค์หญิงถูกลอบทำร้ายเชียวนะ!?
เจ้านี่มัน--”
ยกมือขวาขึ้นหยุดเท็นไก
“สำหรับเรื่องนั้น, เราเป็นผู้ปฏิเสธการคุ้มกันอื่นๆระหว่างเที่ยวชมเอง
ผู้ที่ควรรับผิดชอบกับการเดินเล่นโดยไร้การป้องกันก็ควรเป็นเรา คอนราด-คุงไม่ผิดหรอก
แล้วถึงมีผู้คุ้มครองอีกกี่ร้อยคนก็ไม่มีทางต่อกรอีกฝ่ายได้,
นับว่ายังดีที่ไม่มีใครถูกลูกหลงจนตาย”
อา,
ถึงจะมีลูกน้องของอิคารุกะที่ลอบติดตามจับตาดูผมที่ตาย แต่นั่นก็อีกเรื่อง,
ผมจึงยังไม่พูดถึง
“…อุก แต่ว่า…”
เขาครางอย่างไม่สบอารมณ์,
บางทีเพราะเขาและคนอื่นๆล้มเหลวต่อหน้าที่และไม่อาจมาช่วยได้ทันเวลา—ใช่,
เมื่อเขามาถึง, เขาก็ต้องรู้สึกโกรธที่ไม่อาจรับผิดชอบต่อหน้าที่ได้,
และผ่าท้องตัวเองจนบาดเจ็บ... เพราะ MP ลดต่ำกว่าสภาวะปกติและการสูญเสีย
HP ไปจำนวนมากทำให้ต้องเยียวยาด้วย MP potion
แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาบ้าคลั่งอีกครั้ง—เท็นไกกัดริมฝีปากและกดหน้าลง (TL:
เท็นไกนึกถึงสภาพของฮิยูกิตอนที่ไปถึง; MP potion คือยาฟื้นค่าพลัง MP)
“ถูกต้องแล้วละ, ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าไปช่วยท่านหญิงไม่ทัน....ช่างน่าสะพรึงจริงๆ”
แล้วก็,
ถ้าหากในตอนนั้นผมถูกลักพาตัวแล้ว, คงถูกล่วงละเมิด, บังคับฝืนใจ....อะไรแบบนั้น
ผู้คนของประเทศผมคงได้ลุกฮือถล่มโลกนี้ไม่หยุดจนกว่าจะได้พบผมแน่ –อืม,
น่าสะพรึงกลัวทั้งสองความหมายเลยจริงๆ
“—อา, ข้าก็เพียงบังเอิญอยู่ที่นั่น, สุดท้ายแล้ว ผู้ที่มีชัยเหนือเขาได้ก็คือแม่หนู
(โอโจ-ซัง)นั่นละ”
ราชาสัตว์ป่ายกถ้วยชาออกจากปากแล้วยักไหล่
คำว่า『แม่หนู』ทำให้คิ้วเท็นไกกระตุกวูบ
แต่เขาก็อดทนเพราะอีกฝ่ายเป็นคนช่วยชีวิตผมไว้
“ที่เป็นเช่นนั้นได้เพราะได้ราชาสัตว์ป่าช่วยลด HP อานิมารุ...
อา, ช่วยทำความเสียหายให้เป็นอย่างมาก ฉันจึงสามารถเอาชนะได้ในระยะเวลาสั้นๆ”
สถานะบ้าคลั่งที่อยู่ได้เพียงเวลาสั้นๆถ้าอานิมารุยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีร่องรอยความบาดเจ็บละก็
คงทำได้เพียงสู้อย่างสู้สี
อันที่จริง,
สำหรับมือใหม่แล้วมันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมาก เพราะตราบที่ยังมีศัตรูอยู่บริเวณใกล้เคียง
มันก็จะอาละวาดไปเรื่อยๆจนกว่า HP จะหมด
ดังนั้น,
เมื่อเป็นอย่างนี้ตอนอยู่หน้าจอ, อ๊า! รู้สึกอยากจะยกมือยอมแพ้
“แล้วก็ยังมีเรื่อง, พวกเราเผชิญกับลาโบกุ-ซามะ ตอนที่อานิมารุ-ซา.... ไม่,
อานิมารุปรากฏตัว--”
“มันดูไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะขอรับ การที่พวกเราถูก『ขัดขวาง』
ไม่ว่าคิดได้อย่างไรก็คือพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกัน –อา, ยังดีที่พวกเราไม่ตาย”
เมื่อผมหันไปมองมาโรโดะ
เขาก็หัวเราะเบาๆตอบกลับมา
“เขาเป็นปีศาจของแท้เลยละขอรับ ผมทำได้แค่วิ่งหนีไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง”
“—โฮ่ว เป็นคนที่แม้แต่เจ้ายังต้องไปให้ไกลเลยรึ?”
ราชาสัตว์ป่าเหลือบมองหน้ากากมาโรโดะแวบหนึ่ง บรรยากาศบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างนักผจญภัย Rank S กับ นักผจญภัย Rank SS เมื่อผมแนะนำตัวมาโรโดะ เขาก็หัวเราะขึ้นจมูก “ฟุหุหุ, มาโรโดะสินะ” ด้วยท่าทางมีเลศนัย
“ครับ, เพียงแค่แรงกดดันจากการแกว่งดาบ พื้นดินก็แยก ต้นไม้ล้มโค่น
แม้แต่ก้อนหินยังแหลกเป็นส่วนๆ... เหมือนสู้อยู่กับสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์ไม่มีผิด
ถ้าผมไม่มีอาวุธกับชุดเกราะที่องค์หญิงมอบให้ บางทีผมก็คงแยกเป็นสองตั้งแต่ดาบแรกๆแล้ว
ไม่สิ, ถ้าสู้นานกว่านี้ก็คงลำบาก ---เรียกได้ว่าจะเป็นหรือตาย『ขึ้นอยู่กับเวลา』เลยละ”
“ลาโบกุ-ซังมีดาบที่แข็งแกร่งที่สุด『เซ็ท』แค่สามารถเผชิญหน้าตรงๆได้ก็นับว่าน่าชื่นชมแล้ว”
ผมพูดออกมาจากใจจริง
มาโรโดะได้รับการฝึกจากสมาชิกโต๊ะกลมของผม บางทีถ้าผมไม่วางแผนสู้กับเขาดีๆ,
ก็คงแพ้ได้เหมือนกัน
“อา, แล้วก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะตั้งใจถ่วงเวลาด้วย จึงไม่ได้เอาจริงเท่าไร
ผมเลยตั้งใจจะโจมตีตอนที่เขาเปิดช่องว่าง แต่...”
อืม,
จะพูดว่าขาดพลังโจมตีสินะ ดูท่าดาบออร์คจะเริ่มไม่เหมาะกับเขาแล้วสิ คงต้องใช้อุปกรณ์ที่แข็งแกร่งกว่านี้...
อา ดูเหมือนจำนวนคนรอบตัวที่แข็งแกร่งกว่าผมจะเพิ่มมากทุกทีเลย...
อา,
แต่ยังไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ ตอนนี้ต้องสนใจเรื่องตรงหน้าก่อน
“—อย่างงั้นเองสินะ
สู้กับเขาที่ไม่ได้เอาจริงได้ก็ดีแล้ว...ว่าแต่เขาใช้แค่ดาบเดียวสินะ?”
“ขอรับ... หรือว่าเขาเป็นผู้ใช้ดาบคู่หรือขอรับ?”
มาโรโดะเผยอปากด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
ในขณะที่ผมหวนนึกถึงสไตส์การสู้ของลาโบกุ-ซังที่เคยเห็นในเกม, แล้วส่ายหัว
“ก็ไม่เชิงหรอก ตอนที่เอาจริงเขาใช้ได้เก้าดาบเลยละ,
พูดว่าเขาเป็นผู้ใช้เก้าดาบคงถูกกว่า”
มาโรโดะกับคอนราดถึงกับเซมาข้างหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง
ในขณะที่ราชาสัตว์ป่าพูด “โฮ่ว” ออกมาคำเดียวโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“เก้าดาบ? เขาถือมันได้ยังไงละนั่น?!”
มาโรโดะที่ตกตะลึงหลุดถามออกมา
“อ่านะ... ทำให้ดาบลอยแล้วโจมตีด้วยตัวเองเหมือนกับนักเวท
เพิ่มเติมด้วยการบังคับอิสระตามความตั้งใจของผู้ใช้
ควบคุมดาบทั้งเจ็ดประสานกับดาบทั้งสองในมือที่เป็นเสมือนอีกอวัยวะหนึ่งในร่างกาย”
แค่พูดมันก็ง่ายอยู่
แต่จะมีใครทำเช่นนี้ได้, เห็นทีคงมีแค่ลาโบกุ-ซังคนเดียว
เดิมที,
อุปกรณ์ประเภทดาบบินหรืออุปกรณ์โจมตีอัตโนมัติ จะเป็นรูปแบบซ้ำเดิม (TL: ระบบจะกำหนดรูปแบบเอาไว้อยู่แล้ว
อย่างเช่น ดาบบิน A จะโจมตีจากบน, ล่าง, ซ้าย, ขวา
แล้ววนขึ้นบนใหม่อีกครั้ง เป็นต้น)
แต่ตอนนี้ที่ระบบ AI (Artificial
Intelligence) ไม่ทำงานแล้ว มันจึงไม่ได้โจมตีศัตรูตามที่ต้องการ
แต่โจมตีศัตรูได้ก็ยังนับว่าดี
ดังนั้นต่อมา,
ลูกปัดควบคุมที่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง (manually
control) จึงถูกเพิ่มเข้ามาตามคำเรียกร้องของผู้เล่น แต่เมื่อนำมาสู้จริงกลับใช้ไม่ได้
จากการกินช่องตรงหน้าอกกับหลังอย่างละ 2 ช่องทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่มองมันว่าเป็นไอเทมขยะ แต่อย่างไรก็ตาม,
มีคนเพียงคนเดียวที่สามารถใช้มันได้, นั่นคือ ลาโบกุ-ซัง
ในตอนนั้นเขาถูกต่อว่าอย่างหนัก
เพราะถูกมองว่าใช้บอทหรือโปรแกรมผิดกฎหมาย ในฐานะหัวหน้ากิลด์,
ผมจึงประกาศว่าเขาไม่ได้โกง ถ้าเขาจะโกง, ก็การมีตัวตนอยู่ของเขานั่นละ (TL: แบบเทพเกินจนเหมือนพวกพระเอกใส่สูตรโกง
//หัวเราะ; บอท หรือ Bot คือโปรแกรมอัตโนมัติ
สำหรับทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมาจากคำว่า Robot ---พูดอีกอย่างคือใช้โปรแกรมเล่นเกมอีกที)
สิ่งที่ผู้คนทั้งหลายคิดว่าเป็นเล่ห์กลบางอย่างในการควบคุมดาบทั้งเก้า,
ความลับคือความคิดคู่ขนาน』—พรสวรรค์ที่ทำให้แยกประสาททำงานต่างกันในเวลาเดียวกันได้
(เพราะถูกจำกัดด้วยจำนวนของมือและเท้าในการใช้คีย์บอร์ดพร้อมกัน ดังนั้นนอกจากดาบหลัก『เซ็ท』—อีก 8 เล่มคือ『ฮานะ・โทริ・คาเซะ・สึกิ・ยูเมะ・มาโบะโระชิ・อาวะ・คาเกะ』—จึงมีกระตุกบ้าง) (TL: ถ้าแปลชื่อดาบเป็นไทย--
บุปผา, วาตะ, สกุณา, จันทรา, นิมิต, ภูตผี, ละอองฟอง, เงาเลือน //รู้สึกลิเกไป)
การต่อสู้กับลาโบกุ-ซังในสภาพเอาจริงไม่ต่างอะไรไปจากการต่อสู้กับผู้เล่นมีชื่อถึง 9 คน, ซึ่งผมคงไม่มีทางเอาชนะได้
อาชีพสายเวทมนต์ที่โจมตีอย่างรุนแรงจากระยะไกลจะได้เปรียบมากกว่า (ในทางกลับกัน,
แม้แต่『ตอนนี้』อาชีพสายอัศวินก็จะได้เปรียบทางด้านการป้องกัน)
“…ไม่อยากจะเชื่อเลย”
มาโรโดะสะบัดหัวด้วยความรู้สึกที่เกินจะหยั่งถึง
“อา, เขาเป็นอัจฉริยะของแท้เลยละ—ว่าแต่,นั่นคือลาโบกุ-ซังจริงๆสินะ?”
ผมหันไปถามเบื้องหลัง,
เท็นไกพยักหน้ายืนยัน แล้วเขาก็มองผมอย่างสงสัย
“ไม่ผิดแน่ขอรับ—มีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องหรือขอรับ องค์หญิง?”
“เราไม่แน่ใจ การที่ลาโบกุ-ซังทำตามคำสั่งของใครอื่นเป็นเรื่องที่แปลกมาก เขาคือ【ชายหนึ่งกองทัพ】ไม่ใช่หรอ? ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรก็ตาม แต่ความจริงที่ว่าเขาทำตามคำสั่ง
ทำให้เราไม่เข้าใจจริงๆ”
ถึงผมจะพูดแบบนั้นก็ใช่ว่านิสัยลาโบกุ-ซังจะไม่ดีอะไรหรอกนะ
เขาเป็นคนที่แสดงออกชัดเจนว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร และปฏิเสธชัดเจนในสิ่งที่ไม่ชอบ
และสิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดคือการเป็นคนที่ต้องคอยรับคำสั่งจากคนอื่น
“ถ้าเราได้คุยกับเขาโดยตรงคงพอรู้อะไรบ้าง
น่าเสียดายที่เราสู้ติดพันอยู่กับคนที่น่าจะเป็นอานิมารุ-ซัง…”
“『น่าจะ』หรือว่าเขาจะไม่ใช่
…?”
“อา~~, มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอยู่นะ
ถึงแม้ว่าสนับมือสนับเท้าพร้อมกับศพที่เก็บมาจะใช่『คันโชว』กับ『บาคุยะ』ไม่ผิดแน่ก็เถอะ.....”
อย่างไรก็ตาม,
ความรู้สึกบางอย่างก็บอกว่าไม่ใช่
“ถึงพวกเราจะเป็นกลุ่มเดียวกัน, แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกันมากเท่าไร แต่เขาไม่น่าจะใช่พวกคนที่น๊อตในหัวหลวมหรอก~”
ถึงจะไม่ค่อยรู้จักตัวจริงที่อยู่หลังจอเท่าไร
แต่ตัวจริงที่อยู่ข้างในต้องเป็นเช่นนั้นแน่... บางทีนะ
ตอนนั้นเอง,
ที่ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดไป
“…ถึงไม่แน่ใจเท่าไร แต่ดูเหมือนเขาจะขาดสามัญสำนึกแบบมนุษย์ไป”
“ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น ตอนที่ข้าได้พูดคุยด้วย
เหมือนกำลังพูดกับเด็กๆจนน่าแปลกใจ”
ราชาสัตว์ป่าเห็นด้วยกับคำพูดของผม
“อย่างไรก็ตาม,
ฉันไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเขาเป็นคนอื่นนอกจากอานิมารุ-ซัง
เวลานี้ก็ให้ตัดสินเป็น『บุคคลที่มีลักษณะใกล้เคียงอย่างมาก』ไปก่อนแล้วกัน”
อา,
สำหรับผม, การฆ่าแล้วดื่มเลือดคนใกล้ชิด ทำให้รู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
คิดแบบนี้น่าจะดีกว่า
“…ถ้าเช่นนั้นสำหรับลาโบกุ-ซามะก็ด้วยหรือขอรับ?”
“ใช่ สำหรับตอนนี้ก็ให้มองว่าเป็น『คนที่คล้ายกัน』ไปก่อนจนกว่าจะแน่ใจเข้าใจไหม?”
“ขอรับ! กระผมจะปฏิบัติตามนั้นขอรับ”
เท็นไกโค้งตอบรับ
จากนั้น, ราชาสัตว์ป่าก็วางแก้วชาที่เขาดื่มลงบนโต๊ะ
“ในเมื่อจบเรื่องกันแล้ว, จะช่วยฟังเรื่องของข้าบ้างได้หรือไม่?”
ถ้อยคำนั้นพาให้บรรยากาศที่เพิ่งคลายลงกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
ได้รับสายตาจากโดยรอบ,
ราชาสัตว์ป่าพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ให้ความสำคัญนัก
“ก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร เพียงแต่บ้านเกิดของข้า,
อาณาจักรเครสแยกตัวจากสหพันธ์พระจันทร์เสี้ยว และอยากจะขออยู่ใต้ร่มจักรวรรดิสีเลือดของแม่หนูนะ”
“นะ--นี่ท่านว่าไงนะ!?!”
กษัตริย์คอนราดกรีดร้อง
End
Talk: ตอนแรกว่าจะแปลชื่อตอนว่า สามหนุ่มสามมุม ละเนี้ย //หัวเราะ
ขอโทษที่มาช้าคะ
พอดีเราลืมอะ //หัวเราะแห้งๆ ...แล้วก็ดูเหมือนว่าเราจะแปลฉายาผิดละ
เลยว่าจะขอย้อนกลับไปแก้นิดหน่อยๆ ถ้ามันเด้งขึ้นมาไม่ต้องตกใจกันนะคะ ><
อ๊ะ จริงด้วย
ขอฝากโฆษณานิดนึง
เตรียมพบกับ!!
ร้านอาหารนิสิตคณะสัตวแพทย์ ภายในงานเกษตรแฟร์ฯ
ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2560
เวลา 12.00-22.00 น. ณ โซน M ข้างศร.1
******** มากันเยอะๆน้า //โบกมือ ********
ความคิดเห็น