ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #49 : 3-07 Episode 6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.95K
      64
      22 ม.ค. 60

    Chapter 3Beast King of Borderland

    Episode 6 มนุษย์สัตว์ผู้เป็นมิโกะ

    เที่ยงคืน ณ.ดินแดนรกร้างที่ไม่มีสิ่งใดนอกจากสายลมและเสียงเห่าหอนของสัตว์ป่า, เด็กสาวคนหนึ่งเดินคู่กับร่มสีขาวบริสุทธิ์

     

    ดูแล้วราวกับสาวแรกรุ่น, ผมยาวสลวยดำสนิทราวกับยามค่ำคืนถูกมัดราวกับม้วนไหม ผิวขาวกระจ่างแม้อยู่ในความมืด ดูบริสุทธิ์ไร้มลทินดุจเสกสรรจากแสงจันทร์ และดวงตาอันเปล่งประกาย—ราวกับฝังด้วยโกเมน เธอดูสวยงามจนชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นงานศิลปะชั้นเลิศ

    (TL: โกเมน หรือ garnet เป็นพลอยเนื้ออ่อนที่มีหลายสี อยู่ในกลุ่มสีแดงและสีน้ำตาล ส่วนใหญ่มีสีแดงเข้ม)

     

    ชุดเดรสก็งดงามราวกับถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ ชุดเดรสแขนกุดที่มีสีดำเป็นหลัก—เปิดคอกว้าง (décolleté) และชายกระโปรงหรูหราที่ประดับด้วยผ้ามากมาย—รวมถึงช่อดอกกุหลาบ แม้แต่ที่คาดผม และถุงน่องทั้งสีดำสีขาวต่างก็ประทับด้วยลวดลายดอกกุหลาบ

    (TL: décolleté เป็นลักษณะของเสื้อหรือชุดของผู้หญิงที่มีคอเสื้อต่ำ มักเปิดเผยบริเวณคอและไหล่)

     

    เป็นเรือนร่างที่แม้แต่ชนชั้นสูงก็ต้องให้ความสนใจ แต่ในเวลานี้และสถานที่แห่งนี้ออกจะแปลกประหลาดไปเสียหน่อย บางทีถ้ามีใครมาเห็น หลังจากรับสเน่ห์ที่แผ่กระจายออกมาแล้วอาจจะวิ่งหนีสุดชีวิต เพราะนึกกลัวว่าเป็นผีหรือมอนเตอร์ก็เป็นได้

    ช่างเป็นภาพที่งดงามจริงๆ

    ◆◇◆◇

    ....นึกว่าจะมีโจรดักปล้นไม่ก็มอนเตอร์กลางคืนอยู่ในที่แบบนี้เสียอีก

    ผมถอดหายใจ ขณะทอดมองทิวทัศน์อันรกร้างและแห้งแล้ง

    ถึงยังไงที่นี้ก็เป็นพื้นที่ของเผ่ามนุษย์สัตว์ น่าจะมีพวกพืชไม้ ลำธารหรือบ่อน้ำบ้างนะ

     

    ดูจากที่ที่พวกเราอยู่...ช่างชวนให้รู้สึกเวทนาจริงๆเจ้าคะ, องค์หญิง

    อุสึโฮะรำพึง—อยู่ภายในอกของผมจากการใช้Pet Unison

     

    อา ก็นะ ยังไงซะ อาณาจักรนี้-อาณาจักรเครสก็เป็นที่ของพวกมนุษย์สัตว์ที่พ่ายแพ้มนุษย์นี่นะ

     

    มีขึ้นมีลงเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต การที่พวกมันล้มเหลวเพราะเรื่องเช่นนี้ ก็นับว่าน่าสมเพชเกินไปแล้ว การฆ่าล้างพวกมันทั้งหมดด้วยน้ำมือของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ยังถือว่าเป็นความเมตตาเกินไปด้วยซ้ำ

     

    อุสึโฮะพึมพำด้วยน้ำเสียงรำคาญ

    อืม~ ครั้งนี้ผมเลือกพาจิ้งจอกเก้าหางซึ่งเปรียบเสมือนพระเจ้าของพวกเขามา แต่ดูเหมือนจะคิดผิดซะแล้วสิ

     

    ถ้าหากว่าผู้สืบทอดของราชาสัตว์ป่าที่ผมกำลังจะไปพบเป็นพวกขี้ขลาดหรือปากหมาละก็, บางทีวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของเผ่ามนุษย์สัตว์

     

    อา...ถึงราชาสัตว์ป่าจะเขียนจดหมายแนะนำมาแล้วก็เถอะ รู้สึกเหมือนเดินเข้าค่ายทหารพันธมิตรพร้อมกับระเบิดกับที่จุดระเบิดไม่มีผิด

     

    แล้ว, ที่ใต้เท้าของผม—สิ่งที่ควรจะเป็นเงาจากแสงจันทร์, แต่กลับมืดสนิทยิ่งกว่าความมืดยามราตรี—ก็ขยับไหว

     

    “? อา, ดูเหมือนเราจะถึงแล้ว

    มนุษย์ธรรมดาทั่วไปย่อมไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ผมกลับเห็นได้อย่างชัดเจน ถึงรั้วและป้อมปราการที่ขอบฟ้า, ควันจากการทำอาหารลอยฟุ้งจากเต้นท์นับสิบ

     

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นคือที่ตั้งของเผ่ากึ่งสิงโตที่อพยพ,ทายาทของราชาสัตว์ป่า

     

    เอาละ, มาดูกันว่าจะได้ปีศาจหรือว่างูกัน (TL: ประมาณ ออกหัวหรือก้อย) …”

     

    ผมเร่งฝีเท้าขึ้นเล็กน้อย

    ◆◇◆◇

    อย่างที่คิดมีบางคนที่คัดค้าน แต่เมื่อแสดงจดหมายแนะนำที่ลงชื่อของราชาสัตว์ป่า ผมก็ถูกพาไปยังเต้นท์ที่ใหญ่ที่สุด แล้วยังถูกเชิญให้นั่งบนเก้าอี้บนสุดที่มีพรมสีแดงเลือด

     

    ภายในเต้นท์สว่างวูบวาบจากกองไฟ ตรงหน้าผม, ถึงมองไม่เห็นเพราะถูกบังด้วยกระโปรง, ที่นั่งอยู่ด้วยท่านั่งผิดธรรมเนียม-วาริซะ (ชื่อเล่น...ของท่านั่งผู้หญิง ถึงชื่อแบบนั้น แต่มันสะดวกตรงที่ไม่ทำให้ขาชา!) เด็กสาวตาโต อายุราว 1314 ปี ผมสั้นสีเกาลัด (TL: สีนำตาลแดง) ดูท่าทางสบายอารมณ์และชายชราวัยประมาณ 60 ปีที่ดูราวกับกำลังจะประสาทกิน ทั้งคู่มีหูสิงโตอยู่บนหัว

    (TL: วาริซะ หรือ割座เป็นท่านั่งที่พับขาออกจากตัวทั้งสองข้าง มีความหมายว่า ท่านั่งแยก; ผู้แปลอิงเสริมว่าที่ฮิยูกิบรรยายว่าท่านั่งผู้หญิง เพราะโดยส่วนตัวยังถือศักดิ์ศรีว่าตัวเองเป็นผู้ชายอยู่)

     

    ส่วนที่พวกเขาใส่อยู่.....เป็นอะไรที่ดูคล้ายชุดประจำชาวไอนุ

    ลวดลายและเส้นด้ายเรียงร้อยมีสีสันมีชีวิตชีวา, มีเชือกผูกสั้นๆด้านหน้าที่เอวเหมือนชุดญี่ปุ่น พวกเขาสวมกางเกงแบบง่ายๆและรองเท้าจากหนังสัตว์

    ชุดของเด็กสาวไปทางสีขาวและแดง ในขณะที่ชุดของชายชราเป็นแนวสีเขียวเข้มไม่โดดเด่น, ดูแล้วน่าจะไม่มีข้อแตกต่างระหว่างชายหญิงเท่าไร

    (TL: ชาวไอนุ หรือ アイ ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลญี่ปุ่นว่าเป็นชนพื้นเมืองของประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2551 แนะนำให้ดูชุดและข้อมูลเพิ่มเติมจากอากู๋)

     

    จากนั้น, เด็กสาวก็เงยหน้า

    หลังจากมองผมนิ่งๆเหมือนตุ๊กตาครู่หนึ่งก็เบนหน้าไปมองหน้าต่าง, ผมก็เปลี่ยนท่านั่งมานั่งดีๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    ยินดีที่ได้พบท่าน ข้าทายาทเผ่าสิงโตภรรยาว่าที่ผู้นำสีเหลือง, พี่น้องร่วมน้ำนมของข้า เรวาน นาม อสึมินะ เจ้าค่ะ (TL: พี่น้องร่วมน้ำนมถูกเลี้ยงด้วยแม่คนเดียวกัน น้ำนมเดียวกัน แต่คนละสายเลือดกัน เหมือนคู่คาร์โลกับแอชชิว)

     

    ฟังคำแนะนำตัวแล้วก็ต้องตกใจ

    --ว่าไงนะ!? ภรรยา!! เป็นพี่ชายแล้วยังมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเนี้ยนะ ~~~!!! ยกโทษให้ไม่ได้ เจ้าบ้ากามระยำ!

     

    ทันใดนั้น ความประทับใจที่มีต่อผู้สืบทอดของราชาสัตว์ป่า—เรวาน, สินะ?—ก็ติดลบ 200 แต้มทั้งที่ยังไม่พบ ยิ่งไปกว่านั้น, ถ้ามีคนรักอื่นอีกสัก 5-6 ละก็.....มาเปิดสงครามกันเถอะ!

     

    ชายแก่เงยหน้าแล้วกระแอมเบาๆ เขามองอสึมินะที่ข้างตัว

    “—อสึมินะ-ซามะ เล่นพอแล้วกระมั้งขอรับ

     

    อสึมินะหลบสายตา บางทีอาจเพราะแรงกดดัน เธอจึงหันมามองผมอีกครั้งแล้วค้อมศีรษะลง

     

    “…ขออภัยด้วย ข้าทายาทเผ่าสิงโตน้องสาวว่าที่ผู้นำสีเหลือง, เรวาน และเป็นหัวหน้ามิโกะ นาม อสึมินะ เจ้าค่ะ–ส่วนตำแหน่งภรรยาเป็นแผนในอนาคต”

    เธอแก้ให้ถูกอย่างไม่เต็มใจ

     

    “…”

    เด็กผู้หญิงคนนี้นี่มันอะไรกันนะ!? เป็นมิโกะจริงหรอ, จะปล่อยเกินไปไหม?

     

    เสียมารยาทต่อท่านหญิงแล้ว ก่อนอื่น, ข้าในฐานะที่ปรึกษาแห่งเผ่าสีเหลือง นาม จิซึ ขอขอบพระคุณอย่างยิ่ง, ที่ท่านอุตส่าห์ลำบากเดินทางมายังสถานที่อันห่างไกลเช่นนี้

    ชายแก่--จิซึค้อมศีรษะลงต่ำอีกครั้ง

     

    ไม่ต้องมากพิธีหรอก แต่, น่าจะมีเขียนอยู่ในจดหมายแล้วนี่ว่าต้องการพบผู้สืบทอดของราชาสัตว์ป่านะ?”

     

    ฟังคำของผมแล้ว ทั้งสองคนก็ดูลำบากใจแล้วสบตากัน

     

    อันที่จริง...ถึงจะน่าอายที่จะพูดไปเสียหน่อย แต่ขณะนี้เรวาน-ซามะไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านหรอกขอรับ ท่านผู้นั้นไปอยู่ตามลำพังที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ใกล้ๆนี้ …”

     

    อาระ, งั้นก็มาเสียเปล่าสินะ?

     

    บางทีเพราะแสดงออกทางสีหน้าหรือด้วยสัญชาตญาณของมิโกะ อย่างไม่ลังเล, อสึมินะยื่นข้อเสนอ

    คือ, ข้ามีหน้าที่ต้องไปส่งอาหารทุกวันอยู่แล้ว ถ้าอย่างไรพรุ่งนี้เช้า ข้าสามารถส่งข้อความให้ท่านได้ ....แต่ถ้า, ท่านรีบละก็ ข้าสามารถพาท่านไปได้”

     

    ฟุ... เราเบื่อที่จะคอยแล้ว, ถ้าจะไปตอนนี้เลยละ?

     

    ได้เจ้าค่ะ—เช่นนั้น, ข้าขอไปเตรียมของก่อน

     

    มองแผ่นหลังของอสึมินะที่ผุดลุกขึ้นทันที, ก็เผลอพูดออกมาโดยไม่ตั้งใจ

    “—เจ้านะ, ไปส่งอาหารถึงในภูเขาทุกวันเลยสินะ? คงลำบากแย่

     

    ไม่หรอกเจ้าค่ะ

    อสึมินะหันกลับมาด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนดอกทานตะวัน

     

    ความประทับใจแรกที่มีต่อเธอคือ เด็กแปลก แต่บางทีผมอาจต้องคิดใหม่

    เธอเป็นเด็กดีที่ใส่ใจพี่ชายจริงๆ

     

    แต่, อสึมินะก็พูดต่อทั้งที่ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า

    มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือเจ้าค่ะ ที่ต้องป้อนอาหารให้สัตว์ที่ยังไม่ติดเราอย่างสม่ำเสมอนะ

     

    “…”

    อะ-อา ผมว่าผมได้ยินอะไรที่ไม่ควรได้ยินซะแล้ว

    ...ผมคงหูฝาดไป

    อืม, ผมไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นละ

    ◆◇◆◇

    ผมคุยกับจิซึอยู่ในเต้นท์ไประหว่างรอ

    ขออภัยที่ให้คอย

    หลังจากที่คุยแกมโม้ได้ไม่นาน อสึมินะก็กลับมาพร้อมตะกร้าเล็กๆบนไหล่

     

    ผมคิดว่าจะมีคนคุ้มกันตามเธอมาด้วย แต่ดูเหมือนจะมีเธอคนเดียว, จึงผิดหวังนิดหน่อย

    ให้เด็กผู้หญิงเดินกลางค่ำกลางคืนคนเดียวจะดีหรือ?”

     

    สบายมากเจ้าค่ะ ข้าชินแล้ว อีกอย่าง, สำหรับเผ่าสีเหลืองอย่างพวกข้าแล้ว, ความมืดเท่านี้ไม่นับเป็นปัญหาหรอกเจ้าค่ะ

    เธอพูดและกระพริบตา ดวงตาที่เรียวเล็กของเธอทอประกายสีทอง

     

    ดูเหมือนโครงสร้างของสัตว์ที่หากินกลางคืน, ที่ช่วยรวมแสงแล้วขยายมันสินะ แต่ก็ยังไม่ดีเท่าของผมหรอก การเดินทางตอนกลางคืนไม่มีทางเป็นปัญหา (TL: ดวงตาของฮิยูกิสามารถมองกลางคืนได้ไม่ต่างจากกลางวัน ในขณะที่ดวงตาของอสึมินะซึ่งไม่ต่างจากสัตว์ที่หากินตอนกลางคืน จึงต้องอาศัยแสงสว่างอยู่ ถ้าไม่มีแสงเลยหรือแสงน้อยเกินก็จะมองไม่เห็น)

     

    ยิ่งกว่านั้น, ข้ายังมีคนนำทาง--

    จากในเสื้อตรงบริเวณอก, สัตว์ที่ดูเหมือนสโทธสีขาวพิสุทธิ์ก็กระโดดออกมาและนั่งอยู่ใกล้ขาของอสึมินะ

    (TL: สโทธ หรือ Stoat มีอีกชื่อคือ เออร์มิน หรือ Ermine หรือชื่อไทยคือ เพียงพอนหางสั้น เป็นสัตว์จำพวกวีเซลและเพียงพอน ว่องไวมาก ปกติมีสีน้ำตาลและเปลี่ยนเป็นสีขาวในฤดูหนาว มีนิสัยกินไม่เลือก ล่านกกินได้ กินไข่นกก็ได้ ทำให้นกหลายชนิดในนิวซีแลนด์ตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์)

     

    โอ, ดูเหมือนจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นะเจ้าค่ะ

    อุสึโฮะพึมพำด้วยน้ำเสียงยกย่องอยู่เบาบาง

     

    นี่คือสหายของข้า ฮาริ-จัง เด็กคนนี้จะคอยบอกเวลามีอะไรผิดปกติหรือมีอันตราย—ฮาริ-จัง, ทักทายท่านหญิงสิ

     

    เมื่อถูกกระตุ้นโดยอสึมินะ, สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ (ฮาริ) ก็ส่งเสียงดังอย่างระแวดระวัง “ปิปิ!! –คูว…….” มันเบิกตากว้างแล้วหงายท้อง, แสร้งตาย

    เจ้าสัตว์หยาบคาย

     

    “…..เอ๋? เกิดอะไรขึ้น, ทำไมวันนี้ทำท่าทางแปลกๆละ?”

    อสึมินะที่กำลังสับสนคว้าหางมันยกลอยขึ้นกลางอากาศ

    แต่เมื่อเห็นว่ามันไม่แสดงท่าทางใดทั้งที่ถูกแหย่ เธอก็ซุกฮาริกลับเข้าอก

    ดูเหมือนวันนี้จะฤกษ์ไม่ดีเท่าไร ไว้ให้มันทักทายท่านหญิงภายหลังนะเจ้าค่ะ

     

    “…อา, ถึงมันไม่ได้ทักทายเราก็ไม่ว่าอะไรหรอก ว่าแต่ไม่มีฮาริไปด้วยจะไม่เป็นไรรึ?”

     

    ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อย่างไรก็ไม่มีมอนเตอร์อันตรายบนทางนี้ อีกอย่างเส้นทางนี้ก็เป็นเส้นทางที่คุ้นเคยสำหรับภรรยาอย่างข้าอยู่แล้วเจ้าค่ะ

    เธอพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดที่ไม่เหมาะสมที่ผสมอยู่ด้วย—จิซึที่ยืนอยู่ด้วยกระแอม

     

    ยิ่งไปกว่านั้น—“ อสึมินะหันมาพูดกับผมอย่างเป็นธรรมชาติ “วันนี้ก็มีทุกท่านไปด้วย”

     

    ……ทุกท่านหรอ ดูเหมือนจะไม่ใช่มิโกะธรรมดาสินะ รับรู้ถึงพวกที่แอบคุ้มครองผม—ไม่สิ, บางทีอาจจะรู้ถึงอุสึโฮะที่หลอมรวมกับผมด้วย

     

     

    แน่ล่ะ, คนที่อาจกลายเป็นเป้าโจมตีได้อย่างผมย่อมไม่สิ้นคิดขนาดเดินทางมาตัวโดดๆโดยไม่ระมัดระวังหรอก นอกจากอุสึโฮะที่เป็นหนึ่งเดียวกับผมแล้ว ยังมีโคคุโยที่ซ่อนอยู่ในเงา, อิซูโมะแห่งอาซาเซล หนึ่งในแม่ทัพปีศาจทั้งสิบสามที่มีพลังเทียบเท่ากับอิคารุกะเฝ้าระวังจากบนฟ้า และสวนลอยฟ้าที่ลอยตามมาอยู่ไม่ไกล

    (TL: อาซาเซล หรือ Azazel เป็นชื่อของเทพที่มาจากคัมภีร์ฮิบรู ว่ากันว่าเป็นผู้มีศักดิ์รองจากซาตาน เป็นทั้งหัวหน้าแห่งแดนนรก และหัวหน้าของเหล่าทูตตกสวรรค์ทั้ง 9)

     

    เป็นการวางแผนเผื่อไว้เวลามีใครสักคนอย่างอานิมารุปรากฏตัวขึ้นอีก ทุกคนก็จะเข้าจู่โจมได้ทันที แต่ตอนนี้ไม่มีเค้าลางแบบนั้นเลย (TL: เค้าลางว่าต้องต่อสู้)

     

    อา, เอาไว้หลังพบกับคุณ ผู้สืบทอดแล้วก็ค่อยดูว่าจะให้ความร่วมมือดีไหมแล้วกัน

     

    ถ้างั้น, ก็ไปกันเลยเถอะ!”

     

    ตามหลังอสึมินะที่เดินมุ่งไปอย่างมุ่งมั่น ผมที่กำลังดื่มดำไปกับท้องฟ้ายามค่ำอันปลอดโปร่ง, พึมพำกับตัวเอง

     

    อา –วันนี้เป็นคืนที่ดีจริง

     

    End

    Author Notes

    คราวนี้ฮิยูกิก็เคลื่อนไหวด้วยตัวเองอีกแล้ว (หัวเราะ)

    Talk: สัปดาห์นี้กับสัปดาห์หน้าอาจไม่ได้ลงนะคะ แต่ถ้ามีแรงพออาจได้ลง

    ถ้าอยากทวงอยากเจอก็มาเจอกันที่งานเกษตรแฟร์ได้นะค่ะ //เนียนโฆษณา //ยิ้ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×