คลิ๊ก!
เสียงไขกุญแจ ตามมาด้วยเสียงบิดลูกบิดประตู  แสงไฟจากระเบียงนอกห้องที่ส่องผ่านบานประตูที่แง้มออก เผยให้เห็นมือหนึ่งที่คลำสะเปะสะปะหาสวิตส์ไฟที่ข้างประตู หลอดไฟนีออนกลางห้องสว่างขึ้นฉายให้เห็นร่างสูงโปร่งสองร่างที่เดินโซเซเข้ามา ร่างหนึ่งถือขวดเหล้าราคาถูกในมือ มีอีกร่างต้องคอยพยุงไม่ให้ทั้งสองล้ม
“ชีวิตกูโคตรบัดซบเลยว่ะ” เสียงรำพึงอ้อแอ้จากคนที่ถือเหล้า
“เออ..กูรู้แล้ว แต่มึงดื่มน้อย ๆ ลงหน่อยไม่ได้หรือไงวะไอ้วัตร”
“มึงนึกดู” คนถูกเรียกว่า “ไอ้วัตร” บ่นพึมพำต่อ
“กูมีแฟน...เขาก็ขอเลิก..... มาตอนนี้เสือกโดนไล่ออกจากงานอีก ความดีที่ทำมาเสียเปล่าว่ะ  ทำพลาดแค่หนเดียว ดัน
. ”
เสียงพูดหยุดอยู่แค่นั้น เพราะแอลกอฮอร์ที่ดื่มเข้าไปเพิ่งสำแดงฤทธิ์ ดูเหมือนว่าอาหารที่กินเข้าไปเมื่อตอนเย็นรังเกียจที่จะอยู่ในกระเพาะของเขา เพื่อนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพยุงเข้าห้องน้ำเพื่อหาที่เหมาะทันเวลา
“นี่มันก็เกือบเดือนมาแล้วนะ กูก็ไม่เห็นมึงจะอยากทำงานนั้นสักเท่าไหร่นี่หว่า มึงเลิกทำตัวอย่างนี้สักทีเถอะว่ะ” คนเป็นเพื่อนลูบหลังอีกฝ่ายไปพลางบ่นพลาง   
“ช่างกูเหอะ!” วัตรเริ่มสร่างเมา  เดินออกจากห้องน้ำมานอนแผ่อยู่บนเตียงแทน
“กูก็อยากทำอย่างนั้นอยู่หรอก” เพื่อนประชดอย่างหมั่นไส้ 
“มึงเล่นไม่ฟังใคร ไม่ช่วยตัวเอง จะรอให้ใครที่ไหนมาช่วยวะ
”
แล้วคำเทศนาต่าง ๆ พรั่งพรูออกมาจากปากเพื่อนผู้หวังดี วัตรนึกอยากจะเตะมันสักป้าบ  แต่เพราะเหล้าที่ดื่มเข้าไปตลอดคืนทำให้หนังตาของเขาหนักขึ้นทุกที...........
.....................................................................
วัตรไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาอยู่ในสถานที่ที่โล่งกว้าง รอบตัวดูขาวโพลนไปหมด เขาเดินวนไปมาเพื่อจะหาทางออก ทันใดนั้น ภาพชายคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา เขาใส่ชุดสีขาวสะอาด แต่เมื่อวัตรจ้องไปที่หน้าตาของอีกฝ่าย เขารู้สึกว่ามันพร่าเรือน แต่น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกกลัวเลย
“สวัสดี....” ชายคนนั้นก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงทักทาย เขาก้มหัวตอบ
“เราได้พบกันจนได้”ชายในชุดขาวพูดต่อ “ผมรู้ว่าคุณกำลังมีปัญหา ผมอยากช่วย”
“คุณจะช่วยผมได้อย่างไร”
“ผมจะพาคุณกลับไปดูอดีต ที่นั่นอาจมีคำตอบให้คุณ”
ชายชุดขาวพูด พร้อม ๆ กับยื่นมือข้างหนึ่งมาข้างหน้า  วัตรชั่งใจเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสกับมืออีกฝ่าย ทันทีที่สัมผัส ทัศนียภาพรอบด้านเปลี่ยนแปลงไป เขาหันไปดูรอบ ๆ และรู้ว่านี่คือห้องพักของเขานั่นเอง
“วันนี้คือวันที่ฝ้ายทะเลาะกับคุณ” เสียงชายคนนั้นเล่าต่อ
“วันนั้นเป็นวันเกิดเธอ ผมมีนัดเลี้ยงฉลองกับเพื่อนพอดี”
ภาพหญิงสาวผมยาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นในห้อง เธอกำลังอารมณ์ดี...วัตรคิด เพราะเธอฮัมเพลงไปเรื่อย ๆ ในระหว่างที่จัดห้องและเตรียมทำอาหาร ดูท่าเธอจะมองไม่เห็นเขาหรือว่าชายชุดขาวที่อยู่ข้าง ๆ  เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ หนึ่งเดือนมาแล้วที่เขาไม่ได้เห็นหน้าเธอ ใบหน้านวล แก้มมีเลือดฝาด และผมดำยาวสลวยที่เขาได้เห็นแต่เพียงในฝันมาหลายอาทิตย์ บัดนี้เธอมาอยู่ใกล้ ๆ เขาแล้ว วัตรเอื้อมมือออกไปหวังจะลูบผมยาวสลวยนั้น แต่มันกลับผ่านร่างเธอไปราวกับสัมผัสอากาศธาตุ
“นี่เป็นแค่ภาพในอดีต คุณแตะต้องไม่ได้หรอก” ชายชุดขาวอธิบาย
วัตรเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ชายชุดขาวมิได้ให้เขามีส่วนร่วมในอดีต ตอนนี้เขาเพียงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นอีกครั้ง  ฝ้ายเตรียมทำอาหารเพื่อฉลองวันเกิดในระหว่างที่รอให้เขากลับมา เธอจัดเตรียมทุกอย่างจนเสร็จแต่หัวค่ำและนั่งรอ เมื่อเขากลับมาในตอนดึกของวันนั้น ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาเจ็บแปลบในใจ พร้อม ๆ กับความเจ็บปวดที่แล่นผ่านทุกอณูประสาททั่วตัวเขา ทำไมเขาต้องทนเห็นละครฉากนี้ซ้ำสองด้วย
 
“คุณเห็นฝ้ายเป็นตัวอะไร ...สำคัญแค่ไหน......” เสียงฝ้ายตัดพ้อพร้อมกับหยาดน้ำตาที่หลั่งริน
“คุณอย่าจู้จี้นักสิ ผมก็แค่ไปฉลองกับเพื่อนนิดหน่อยเอง”
ตัวละครในฉากยังคงโต้เถียงกันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะจบลงด้วยตัวละครหญิงขว้างจานอาหารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทิ้ง และวิ่งออกประตูไป ทิ้งอีกฝ่ายให้อยู่ลำพัง ฝ่ายชายยังคงมีท่าทีหงุดหงิด ใบหน้าบูดบึ้ง ในระหว่างที่ก้มลงเก็บข้าวของที่กระจายเกลื่อน
“วันนั้นคุณโมโหมาก” เสียงชายชุดขาวเอ่ยเบา ๆ เรียกความนึกคิดของเขาให้กลับมา
“หลังจากทะเลาะกันวันนี้ อีกสองวันเธอก็ขอเลิกกับคุณ”
“ใช่...” ชายหนุ่มรับเบา ๆ การที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ทำให้เขาเริ่มตระหนัก ท่ามกลางสงครามคำพูด ไม่มีคำขอโทษใด ๆ หลุดจากปากของเขา  เขาไม่ได้ลืมวันเกิดเธอ แต่ก็ไม่มีเวลาพอไปซื้อของขวัญ
“คุณรักเธอ นั่นคือความจริง  เธอรักคุณ นั่นก็เป็นความจริง  แต่ทิฐิ ความไม่เข้าใจและการขาดความเอาใจใส่ทำให้ความจริงสองประการนี้ไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ของพวกคุณไว้ได้”
ทิวทัศน์รอบข้างแปรเปลี่ยนไป ตอนนี้กลายเป็นพวกเขายืนอยู่ตรงกลางห้องทรงกลม ผนังเป็นเหมือนจอโทรทัศน์ฉายภาพเขากับฝ้าย เหตุการณ์ต่างๆ หมุนเวียนกันปรากฏขึ้นมา หลายครั้งเขาทำให้เธอต้องเป็นฝ่ายรอหลายคราวที่เขาเลือกจะไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง แทนที่จะไปเป็นเพื่อนเธอซื้อของ เธอเองก็เป็นฝ่ายโทรศัพท์มาหาเขาถี่ ๆ จนบางครั้งเขารู้สึกรำคาญ ภาพความทรงจำแย่ ๆ พวกนี้ถูกฉายสลับกับความทรงจำดี ๆ ที่ทั้งคู่อยู่ร่วมกัน
“คุณจะให้ผมดูภาพพวกนี้ไปเพื่ออะไร  จะช่วยอะไรผมได้งั้นเหรอ” วัตรถาม
เขาได้ยินน้ำเสียงเย้ยหยันกึ่งรำคาญของตนได้ชัดเจน ชายชุดขาวไม่ตอบ แต่สภาพรอบตัวถูกเปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนี้เป็นที่ทำงานของเขา
“คุณไม่เคยชอบงานที่ทำเลย” ชายชุดขาวเอ่ย
“แต่มันเป็นงาน “งานคือเงิน เงินคืองาน บัลดาลสุข” คุณไม่เคยได้ยินเหรอ”
“คุณไม่เคยชอบงานขาย ”
“แต่งานนี้เงินเดือนดี แล้วก็มั่นคง”
“ลองมองเวลาที่คุณทำงานสิ”
ในออฟฟิศที่ถูกกั้นเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นสูงประมาณไหล่  วัตรเห็นภาพตัวเองนั่งทำงานอยู่ท่ามกลางกองเอกสาร ในมือถือหูโทรศัพท์คุยกับลูกค้า เขาไม่เคยสังเกตสีหน้าตัวเองเวลาทำงานมาก่อน
“นั่นไม่ใช่สีหน้าของคนที่มีความสุขกับงานเลย” ชายชุดขาวเอ่ย วัตรพยักหน้า  พินิจพิเคราะห์ภาพของตัวเอง คิ้วของชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะขมวดเข้าหากัน ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีเสียงหัวเราะ เมื่อขาดความสุขทำให้เขาขาดความเอาใจใส่ สุดท้ายก็นำไปสู่ความผิดพลาด สามปีที่เขาใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่เขาไม่ชอบเลยแม้แต่น้อย
“คุณต้องการให้ผมดูภาพทั้งหมดนี่เพื่ออะไร  ผมกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้นี่”
ทิวทัศน์รอบตัวกลับคืนสู่ความว่างเปล่าสีขาวอีกครั้ง ชายชุดขาวสบตาเขาตรง ๆ อยู่ชั่วครู่
“ถูกต้อง... อดีตแก้ไขไม่ได้ แต่คุณคงรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร”
คำพูดนั้นทำให้วัตรนิ่ง ตลอดเวลาที่ดูภาพอดีตพวกนั้น เขายังหวังว่าตนจะได้รับโอกาสให้แก้ไขสิ่งผิดพลาดในอดีตได้ เหมือนอย่างในหนังหลายเรื่องที่เคยดู แต่เมื่ออดีตแก้ไขไม่ได้...เขาหยุดคิดพักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ
“ทีนี้คุณก็ไปได้แล้ว เราคงต้องจากกันตรงนี้”
พูดจบ ชายในชุดขาวก็หันหลังและเริ่มต้นเดินจากไป ก่อนที่ภาพของเขาจะเลือนหายไป วัตรร้องเรียก
“เดี๋ยวสิ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
คนถูกเรียกหยุดเดิน และหันกลับมาช้า ๆ  ใบหน้าที่เขารู้สึกว่าพร่าเรือนมาตลอดนั้นกลับชัดขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่เขารู้จักดี รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้านั้น
“คุณรู้อยู่แล้วว่าผมชื่ออะไร”
.........................................................................................
ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นจากเตียง  แสงแดดยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านเป็นลำยาวมาที่เตียงนอนซึ่งเขานอนนิ่งครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เวลาผ่านไปพักใหญ่กว่าเขาจะลุกขึ้นล้างหน้า เมื่อเงยหน้าขึ้น เขามองภาพตัวเองที่สะท้อนในกระจกอยู่ชั่วครู่
“ขอบคุณ” เขาได้ยินเสียงตัวเองเอ่ยเบา ๆ
รอยยิ้มบนใบหน้าที่สะท้อนกลับมาเตือนให้เขานึกถึงรอยยิ้มที่เขาเห็นในฝัน วัตรยิ้มตอบใบหน้านั้น...
...สายวันนั้น วัตรเปิดหนังสือพิมพ์กรอบเช้า ชายหนุ่มกวาดสายตาไปตามคอลัมพ์รับสมัครงาน ก่อนจะเอาปากกกาแดงวงตรงกรอบที่เขียนว่า “รับสมัครครีเอทีฟ” เสร็จแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรศัพท์ รอจนกระทั่งปลายทางรับสาย
“ฝ้าย... นี่ผมวัตรนะ  มีเรื่องอยากคุยด้วย..”
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น