[Short Fic : J-Rock] My birthday : Kenzo X Yumehito (Ayabie) - [Short Fic : J-Rock] My birthday : Kenzo X Yumehito (Ayabie) นิยาย [Short Fic : J-Rock] My birthday : Kenzo X Yumehito (Ayabie) : Dek-D.com - Writer

    [Short Fic : J-Rock] My birthday : Kenzo X Yumehito (Ayabie)

    “ฉันแอบรักนายมานานแล้วล่ะ เคนโซ...” ...หากนี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของยูเมฮิโตะที่มีต่อเขา....แล้วความรู้สึกของเขาที่มีต่อยูเมะฮิโตะล่ะ? |Fic[Yaoi]: J-rock-Visual Kei[Ayabie](PG13) ใสๆน่ารักๆค่ะ : )|

    ผู้เข้าชมรวม

    451

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    451

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 มี.ค. 53 / 01:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    href="file:///C:\DOCUME~1\acer\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_filelist.xml" /> href="file:///C:\DOCUME~1\acer\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_themedata.thmx" />゚・*:.。..。.:*・゚゚・*:.。..。.:*・゚ ゚・*:.。..。.:*・゚゚・*:.。..。.:*・゚ ゚・*:.。..。.:*・゚゚・*:.。..。.:*・゚ ゚・*:.。..。.:*・゚゚・*:.。..。.:*・

    “ฉันแอบรักนายมานานแล้วล่ะ เคนโซ...”


    ผมได้ยินคำสารภาพของเขาในวันเกิดของผม...


    ผมพูดออกไปแล้ว...ผมจะโดนเกลียดมั้ยนะ....



    href="file:///C:\DOCUME~1\acer\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_filelist.xml" /> href="file:///C:\DOCUME~1\acer\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_themedata.thmx" /> href="file:///C:\DOCUME~1\acer\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_colorschememapping.xml" />“ขอโทษนะ ฮ่ะๆๆๆ ที่ทำให้วันของนายแย่ลง..”




    ....ยูเมะฮิโตะ.....




    /> /> />

    ถ้าหากความรู้สึกที่แท้จริงของยูเมะฮิโตะเขารับรู้แล้ว

     

    แล้วความรู้สึกของเขาล่ะ....



    ゚・*:.。..。.:*・゚゚・*:.。..。.:*・゚ ゚・*:.。..。.:*・゚゚・*:.。..。.:*・゚ ゚・*:.。..。.:*・゚゚・*:.。..。.:*・゚ ゚・*:.。..。.:*・゚゚・*:.。..。.:*・



    สวัสดีค่ะทุกคน

    เรื่องนี้ก็เป้นเรื่องแรกที่จะลงในเด็กดีค่ะ แต่บางคนก็อาจจะ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Photobucket
      (ห้ามนำภาพนี้ไม่ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาติ)



      Fiction :: my birthday

      Pairing :: kenzo X yumehito

      Genre :: pg-13

      Author :: Anna-Sama

      -----------------------------------------------------------------------------------------

       

      kenzo-kun! Otanjoubi omedetou gozaimasu!!!

       

      เสียงของแฟนเพลงในไลฟ์เฮาส์แห่งหนึ่งดังขึ้นกระหึ่ม เพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของมือกลองสุดหล่ออย่างเคนโซ วงอายาบิเอะ เจ้าตัวถึงกับอึ้งๆงงๆ เพราะนึกไม่ถึงว่าจะได้รับเซอร์ไพรส์จากแฟนเพลง สมาชิกอีกสี่คนที่เหลือเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มให้กับเคนโซ

       

      “สุขสันต์วันเกิดนะเคนโซ” อาโออิพูดใส่ไมค์ แฟนเพลงทุกคนต่างปรบมือให้กับเจ้าของวันเกิดที่ค่อยๆยิ้มอย่างเอ๋อๆ

       

      อินเท็ตสึปรบมือให้อย่างน่ารัก ส่วนยูเมฮิโตะกับทาเคฮิโตะช่วยกันถือเค้กที่จุดเทียนแล้วออกมา

       

      แสงไฟต่างๆดับลง มองเห็นเพียงแสงเทียนที่ประดับอยู่บนเค้ก ทุกคนต่างก็พร้อมใจกันร้องเพลงHappy birthday โดยที่มีอาโออิเป็นคนนำร้อง

       

      เมื่อเพลงจบ ทั้งไลฟ์เฮาส์ก็เงียบลง “เอาล่ะ ต่อไป ขอพรให้กับตัวเอง แล้วก็เป่าเค้กเลยนะเคนโซ”

       

      เคนโซหลับตาไปชั่วขณะ ก่อนที่จะเป่าเทียนที่อยู่บนเค้กให้ดับลง เมื่อแสงเทียนหาย แสงไฟก็เข้ามาแทนที่ พร้อมกับภาพของแฟนเพลงที่ปรบมือให้และสมาชิกทั้งสี่ยิ้มให้กับเจ้าของวันเกิด

       

      “เอาล่ะ เคนโซ พูดอะไรหน่อยสิ วันเกิดตัวเองแท้ๆนะ” อาโออิหันไปกระซิบเคนโซ เคนโซจึงเดินไปหยิบไมค์ แล้วพูดออกมา

       

      “ขอบคุณทุกคนมากนะครับที่มาอวยพรให้ผม ผมนึกว่าทุกคนจะลืมไปแล้วซะอีก” พอจบประโยคนี้เหล่าแฟนเพลงต่างก็ตะโกนบอกว่าไม่ได้ลืมซะหน่อย ทั้งห้าคนต่างระเบิดหัวเราะกันยกใหญ่

       

      “ผมขอบคุณจริงๆครับที่ทำให้วันเกิดของผมเป็นอะไรที่น่าจดจำ แก่ขึ้นอีกปีนึงแล้ว ผมจะพยายามเป็นผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ครับ” พูดจบแฟนเพลงต่างก็ปรบมือให้ แล้วอายาบิเอะ ก็เตรียมตัวกันเพลงสุดท้ายของไลฟ์นี้

       

      และแล้วไลฟ์ครั้งนี้ก็สิ้นสุดลง...

       

       

       

       

       

      ภายในห้องสต๊าฟ ทั้งห้าคนเตรียมเก็บของเตรียมตัวกลับไปฉลองวันเกิดเคนโซต่อ

       

      “ทุกคน วันนี้ไปกินกันที่ไหนดี” อินเท็ตสึเดินเข้ามาถามกับสมาชิกพร้อมทั้งผู้จัดการวง

       

      “เอาร้านที่เคนโซคุงชอบสิ ก็วันเกิดของเขานี่นา” อาโออิพูดพลางหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม

       

      “ไม่ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูเหรอ ว่าไงเคนโซ” อินเท็ตสึลองถามเจ้าตัวก่อนเผื่อเจ้าตัวอาจจะเปลี่ยนใจ

       

      “ไม่รู้สิ ไปไหนก็ได้ วันนี้ยกให้ ฮ่าๆๆๆๆ” เคนโซพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา

       

      “งั้นไม่ต้องไปไหนเลยดีกว่า” ทาเคฮิโตะพูดพร้อมกับฟุบหน้าลงบนโต๊ะ

       

      “เฮ่ย วันเกิดเคนเคนทั้งทีน่า ไปเหอะ” ยูเมฮิโตะเดินเข้ามาได้ยินทุกคนกำลังพูดเรื่องที่จะไปกินเลี้ยงฉลองวันเกิดเคนโซพอดีเลยเดินไปนั่งข้างๆทาเคฮิโตะแล้วไปสะกิดให้ร่างที่ฟุบหน้าอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมา

       

      “รู้แล้วน่ะ ฉันแค่พูดเล่น... งั้นก็ไปกันเหอะหิวแล้ว” ทาเคฮิโตะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมบิดขี้เกียจ แล้วทั้งหมดก็พากันเดินไปขึ้นรถที่จอดไว้บริเวณหลังตึกไลฟ์เฮาส์ เพื่อไปฉลองให้กับเคนโซ

       

       

       

       

       

       

       

      “คัมไป!!!!~~

       

      เสียงชนของแก้วดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนาน

       

      “เอาล่ะ ให้แต่ละคนอวยพรให้กับเคนโซมือกลองของพวกเราหน่อยเร๊วววววว” เสียงของผู้จัดการดังขึ้น ทุกคนจึงจ้องมองที่เคนโซเป็นสายตาเดียว “เริ่มที่อาโออิก่อนละกัน”

       

       

      “เอาล่ะ” อาโออิสูดหายใจก่อนที่จะพูด “สุขสันต์วันเกิดนะเคนโซ ขอให้มีความสุขมากๆ อย่าหล่อเกินไปล่ะ ฮ่าๆๆ” พอจบตำพูดของอาโออิ ทุกคนต่างก็หัวเราะออกมา เคนโซทำหน้าเหมือนก็ช่วยไม่ได้ คนมันหล่อนี่นา

       

      “ขอให้นายมีความสุขมากๆนะ แล้วก็ แกล้งฉันให้น้อยลงด้วยล่ะ” อินเท็ตสึพูดจบ เคนโซก็มองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เพราะถึงขอร้องให้ตายยังไง เขาก็ไม่ยอม อินเท็ตสึจ้องหน้าเคนโซตาปริบๆ ประมาณว่า ขอเหอะ ต่างคนต่างก็หัวเราะจากท่าทางของทั้งสองคนนี้

       

      “ไม่รู้จะพูดอะไรอะ มีความสุขมากๆแล้วกัน” ทาเคฮิโตะพูดสั้นๆแต่ได้ใจความ ต่อไปเป็นตายูเมะฮิโตะบ้าง

       

      ร่างบางมองหน้าของคนตรงหน้า เคนโซรู้สึกได้ว่ายสายตาของยูเมะฮิโตะต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง แต่แล้วมันก็หายไป...และถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มของยูเมะฮิโตะ

       

      “แก่ขึ้นอีกปีเป็นตาลุงแล้วนะเคนเคน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

       

      “ยูเมะ!!!!!” เคนโซพูดเสียงดุ แต่ทุกคนกลับหัวเราะร่า เพราะรู้ว่าสองคนนี้มักจะแซวใส่กันเสมอ

       

      แล้วบรรยากาศก็กลับมาครึกครื้นอีกตามเคย แต่ลึกแล้วเคนโซกำลังสงสัยว่าจริงๆแล้วยูเมะฮิโตะต้องการจะบอกอะไรกันแน่

       

       

       

       

       

       

       

       

      “วันนี้สนุกมากๆเลยนะเคนโซ” ยูเมะเดินไปอย่างเริงร่าหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว มีเพียงสองคนนี้ที่เดินกลับบ้านไปด้วยกัน ก็เพราะว่าทางของของทั้งสองเป็นทางเดียวกัน ยูเมะฮิโตะบิดตัวไปมาแล้วเดินต่อ เคนโซมองเพื่อนของเขาเป็นระยะๆ ก่อนที่จะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างออกไป

       

      “ยูเมะ” เคนโซเรียกชื่อของเขาอย่างแผ่วเบา แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้เจ้าตัวนั้นหันมาเผชิญหน้าได้

       

      “ว่าไงเหรอเคนโซ” ร่างบางยิ้มให้เหมือนปกติ นั่นทำให้เคนโซชะงักเล็กน้อย แต่เมื่อความสงสัยมันเกิด เขาก็จำเป็นต้องถาม

       

      “นายมีอะไรจะบอกฉันหรือเปล่า” เขาตัดสินใจที่จะถามไปตรงๆ และมันก็ได้ผล ยูเมะมีสายตาที่ตกใจ แต่เขาก็ซ่อนมันไว้ แต่คิดเหรอว่าเคนโซจะไม่เห็นว่าแววตาของร่างบางนั้นเปลี่ยนไป

       

      “บอก? บอกอะไรเหรอ” ยูเมะฮิโตะเอียงคอถาม แต่ท่าทางดูเหมือนกำลังปกปิดอะไรอยู่ เคนโซจึงตัดสินใจเดินเข้าไปยังตัวของร่างตรงหน้า

       

      ยูเมะฮิโตะตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังยืนอยู่เฉยๆ เมื่อเคนโซเดินเข้ามาในระยะประชิด เขาจึงเดินถอยหลังเล็กน้อย

       

      “มีอะไรเหรอ” ยูเมะฮิโตะถามไม่เต็มเสียง นั่นยิ่งทำให้เคนโซแปลกใจมากขึ้นกว่าเดิม

       

      “เมื่อตอนอยู่ในร้านน่ะ นายพยายามจะบอกอะไรฉัน ยูเมะ...” เคนโซยังย้ำคำถามเดิม สองตาจ้องลึกไปยังดวงตาของคนตรงหน้า เพื่อปัดเกราะกำบังของความคิดนั้นออกไป

       

      ร่างบางมีสีหน้าตื่นมากกว่าเดิม แต่ก็พยายามยิ้มให้คนตรงหน้าเห็น

       

      “อ๋อ ก็นึกไม่ออกไงว่าจะพูดว่าอะไร แหะๆๆๆ” ยูเมะฮิโตะหัวเราะแห้งๆ แต่เคนโซกลับไม่ขำด้วย เขายังคงมองใบหน้าของร่างบางอย่างแน่นิ่ง

       

      “แน่ใจเหรอว่าแค่นั้น” เขายังคงต้องการคำตอบที่มากกว่านั้น ร่างบางหลบสายตาก่อนที่จะพยักหน้า

       

      “ก็แค่นั้นจริงๆแหละน่า นายคิดมากไปแล้วนะเคนโซ” ยูเมะฮิโตะกลับมาตอบอย่างร่าเริงอีกครั้ง คราวนี้เคนโชเอื้อมมือไปจับที่ต้นแขนของร่างบาง

       

      “อย่าโกหก ฉันอยู่กับนายมาตั้งหลายปี ทำไมแค่นี้ฉันจะดูไม่ออก” เจอประโยคนี้ร่างบางถึงกับสะอึก ทำอะไรไม่ถูก สายตาได้แต่กลอกไปมา

       

      “บอกมาซิ ยูเมะ..” ร่างนั้นยังคงพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ ร่างบางก้มหน้าลง ราวกับว่าตัวเองทำความผิดอันใหญ่หลวงไว้

       

      “ยูเมะ..” เคนโซเข้าไปช้อนคางของยูเมะไว้ให้เงยหน้าขึ้นมา เพื่อให้ร่างตรงหน้าบอกความจริงแก่เขา แต่แล้ว..

       

      ร่างบางพุ่งเข้าไปแนบชิด ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ริมฝีปากบางแตะกับริมฝีปากของเคนโซอย่างแผ่วเบาที่สุด

       

      รอบข้างไม่มีเสียงใดๆ นอกจากเสียงของลมหายใจของทั้งคู่ ไอเย็นรอบด้านไม่สามารถทำให้ใบหน้าของร่างบางเย็นลงได้ ทั่วใบหน้าร้อนผ่าว แก้มสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อ มือที่จับไหล่ของเคนโซไว้สั่นเทิ้มเล็กน้อย

       

      ยูเมะฮิโตะค่อยๆผละออกมา แล้วก้มหน้าลง ในตอนนี้เขาไม่สามารถมองหน้าเพื่อนของเขาได้เลย เขาไม่อยากเห็นสีหน้าของเคนโซ เขากลัวว่าสิ่งที่เขาทำไปจะทำให้คนตรงหน้าเกลียดเขา

       

      “ฉันแอบรักนายมานานแล้วล่ะ เคนโซ...” ร่างบางตัดสินใจพูดความจริงออกไป แต่ร่างของเคนโซนั้นยังยืนนิ่ง ไม่ไหวติง

       

      “ฉันตัดสินใจจะบอกนายในวันนี้ แต่ฉันก็ไม่กล้า เพราะฉันกลัว...” ยูเมะฮิโตะยังคงก้มหน้านิ่ง ในใจหวังว่าจะได้ยินเสียงที่ตอบสนองกลับมาบ้าง แต่เปล่าเลย ไม่มีการตอนรับจากเคนโซ

       

      “ขอโทษนะ ฮ่ะๆๆๆ ที่ทำให้วันของนายแย่ลง..” ร่างบางพูดพร้อมเกาหัวแล้วยิ้มให้เคนโซอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น

       

      แต่มันเป็นรอยยิ้มที่อาบไปด้วยน้ำตาจากภายใน รอยยิ้มที่หม่นหมอง เหมือนวันฟ้ามืดและเต็มไปด้วยฝน ทั้งที่รอยยิ้มของเขามักจะสดใสและเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์กำลังส่องแสง ร่างบางรู้สึกที่มือที่สั่นเล็กน้อย ด้วยอารมณ์ที่มันกำลังจะหยุดไม่อยู่

       

      “งั้นฉันไปแล้วนะ อ้อ เมื่อกี้อย่าถือสาฉันเลย ฉันเมาน่ะ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ”

       

      พอพูดจบ ร่างบางก็หันกลับไปทันที แล้วก็เดินจากไป ทิ้งไว้ให้เคนโซยืนนิ่ง

       

      เคนโซรู้ว่ายูเมะฮิโตะไม่ได้เมา เคนโซรู้ว่านั้นมาจากความรู้สึกจากใจจริง มือข้างขวาเอื้อมมาแตะที่ริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว

       

      สมองของเขาในตอนนี้มีแต่เรื่องของยูเมะฮิโตะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม ในห้วงความคิดมีแต่คำว่ายูเมะฮิโตะไปหมด

       

      สองขาพาไปยังม้านั่งที่อยู่ตรงหน้า เขานั่งลงและใช้ความคิดอย่างหนัก

       

      สิ่งที่ยูเมะฮิโตะทำไป เขาไม่ปฏิเสธมันเลย กลับกัน เหมือนจะต้องการและโหยหามากขึ้น

       

      เขาทอดมองไปยังดวงไฟที่ตั้งอยู่ตรงข้ามเขา

       

      ถ้าหากความรู้สึกที่แท้จริงของยูเมะฮิโตะเขารับรู้แล้ว

       

      แล้วความรู้สึกของเขาล่ะ....

       

       

       

       

       

       

      “เฮ้อ....” ยูเมะฮิโตะถอนหายใจยาวๆ เมื่อเขายืนเหม่อมองดวงจันทร์ที่ส่องแสงอันอ่อนโยนกระทบผิวน้ำข้างล่างที่เขายืนอยู่เป็นเวลาซักพักนึงแล้ว ร่างบางก้มหน้า มองเงาอันเลือนรางของตัวเองบนผิวน้ำ สองแขนเท้าเข้าที่สะพานปูน

       

      “นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ย..วันเกิดเคนโซทั้งที ไม่น่าเล้ยยยยยย” ร่างบางเกาหัวพร้อมทำหน้ามุ่ย เขานึกโทษตัวเองที่ทำให้เขาตัวเองมองหน้าเคนโซไม่ติด

       

      “เฮ่อ จะขอโทษดีมั้ยนะ..จะโดนเกลียดมั้ยนะ” ร่างบางเริ่มคิดไปต่างๆนาๆ พลางนึกโทษให้กับความผิดของตัวเอง

       

      ความเย็นของอากาศ รอบด้านเงียบเหงาไร้ผู้คนนั้นพาลจะทำให้น้ำตารื้อขึ้นมาดื้อๆ ใบหน้าของยูเมะฮิโตะชาไปหมด

       

      นี่เขาจะต้องโดนเคนโซเกลียดจริงๆใช่มั้ย...

       

      ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในยามค่ำคืนรอบๆร่างที่ยืนเหม่ออย่างโดดเดี่ยวไว้ แต่แล้วความอบอุ่นก็แทรกผ่านเข้ามาแทนที่ ความหนาวเย็นหายไป เหลือเพียงความอบอุ่นซึ่งสัมผัสได้กำลังโอบล้อมตัวเขาอยู่

       

      ความอบอุ่นนั้นทำให้ร่างบางน้ำตาปริ่ม พวงแก้มขึ้นสีระเรื่อ ไม่กล้ามองเจ้าของความอบอุ่นที่มอบให้กับเขาเลย

       

      “ไม่ต้องร้องไห้นะ...ยูเมะ..” สองแขนกระชับร่างบางเข้าหาตัว แผ่นหลังร่างบางแนบชิด จนไออุ่นนั้นส่งผ่านถึงกัน

       

      ใบหน้าของร่างที่โอบร่างบางไว้นั้นทาบลงไปบนต้นคอขาวๆของยูเมะฮิโตะ และถือโอกาสสูดกลิ่มหอมอ่อนๆที่ติดตัวไปด้วย

       

      ทั้งสองนิ่งไปซักพัก ยิ่งนานร่างนั้นก็ยิ่งกอดแน่นมากขึ้น ราวกับว่าคนตรงหน้าจะหายไป

       

      “เคนโซ ไม่ต้องหรอก..พอเถอะ..” ร่างบางเอ่ยเรียกด้วยเสียงสั่นเทิ้ม พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา พยายามกลืนเสียงสะอื้นลงคอด้วยความยากเย็น “ฉันรู้ตัวดี..ไม่ต้องปลอบฉันหรอก..”

       

      มือของเคนโซข้างหนึ่งยกขึ้นมาปาดน้ำตาให้ ก่อนที่จะพลิกตัวยูเมะฮิโตะให้มาเผชิญหน้า แต่ร่างบางก็ยังก้มหน้า เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นความอ่อนแอของตัวเอง

       

      “ยูเมะ อย่าร้องไห้สิ ไม่สมกับเป็นนายเลยนะ” เคนโชพยายามจ้องลึกเข้าไปที่ใบหน้า หวังไว้ว่ายูเมะฮิโตะจะกลับมายิ้มได้อีกครั้ง

       

      สองมือจับใบหน้าของยูเมะฮิโตะอย่างแผ่วเบา สองนิ้วโป้งไล้น้ำตาที่หลั่งรินมาอย่างไม่ขาดสาย

       

      ใบหน้าของเคนโซเลื่อนเข้ามาใกล้ หน้าผากของทั้งคู่แตะกัน ร่างบางเงยหน้าขึ้นพร้อมช้อนตามองอีกฝ่าย ที่ห่างกันไม่ถึงคืบ

       

      สองตาสอดประสาน ดวงตาดุดันมองลึกลงไปที่ดวงตากลมโตที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาด้วยความอ่อนโยนจนสัมผัสได้ ยูเมะฮิโตะกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาออกไป

       

      มือแกร่งจับใบหน้าของร่างบางไม่ให้หนีไปไหน รอยยิ้มอันอ่อนโยนผุดขึ้นใบหน้าของเคนโซ ใบหน้าของเขาเลื่อนเข้าหาช้าๆ จวบจนกระทั่งเขาทาบทับริมฝีปากชมพูซีดนั้น เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลง จูบที่อ่อนโยน นุ่มนวล และเนิ่นนานนั้นทำให้ยูเมะฮิโตะน้ำตาหยุดไหล เสียงสะอื้นหมดไปทันที ร่างบางหลับตาพริ้ม ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ หัวใจที่เต้นโครมครามดังก้องหู สองมือแข็งทื่อ ความคิดตื้อไปหมด เหลือเพียงความรู้สึกที่เคนโซได้มอบให้ ความรู้สึกที่อ่อนหวานจนแทบจะละลาย หากนี้เป็นเพียงความฝัน ร่างบางก็ขออย่าให้เขาตื่นเลย

       

      เคนโซค่อยผละออกจากริมฝีปากช้าๆ พลางมองคนตรงหน้า แล้วยิ้มออกมา ก่อนที่จะบรรจงจูบลงไปที่เปลือกตาข้างขวา

       

      “อย่างนี้สิ คนดีของฉัน...ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ..” เคนโซพูดพลางใช้นิ้วม้วนเส้นผมที่คลอเคลียข้างใบหูของยูเมะฮิโตะ

       

      “นาย..นายไม่เกลียดฉัน...ใช่มั้ย..” แต่เสียงยังคงสั่นเล็กน้อย เคนโซนึกขำอยู่ในใจ

       

      “แล้วใครจะจูบแบบนี้กับคนที่เกลียดล่ะ” เคนโซถามกลับไป ร่างบางหน้าขึ้นสีเมื่อนึกถึงเวลานั้น ช่วงเวลาอันหวานหอมจนหลอมละลาย ร่างบางหลบหน้าเคนโซด้วยอาการเคอะเขิน แต่มือแกร่งก็จับคางให้หันมาเผชิญหน้ากันอีก

       

      “เพราะฉันก็รักนายมานานมากพอกับที่นายรักฉันนั่นแหละ”

       

      “เคน...!!!!” เคนโซไม่ปล่อยให้ยูเมะฮิโตะพูดต่อ เขารีบประกบริมฝีปากตัวเองเข้าไปอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นความอ่อนหวานที่แทรกความเร่าร้อนและดุดันลงไปจนสองขาแทบจะยืนไม่อยู่ ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าและร่างกายจนแทบควบคุมสติไม่อยู่ เสียงครางในลำคอดังขึ้นมาเป็นระยะๆ มือเล็กทั้งสองข้างขยำเข้าที่เสื้อของคนที่มอบสัมผัสให้ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ดวงตาทั้งสองข้างปิดเข้าหากันแน่น ใบหน้าแดงจนลามไปถึงหูทั้งยังแดงชัดมากยิ่งกว่าเก่า ลำแขนแกร่งโอบรอบเอวเพื่อดึงให้ร่างบางได้รับสัมผัสที่แนบชิดมากยิ่งขึ้น จนร่างบางไม่อาจต้านทานความหวั่นไหวนี้ได้ เรี่ยวแรงเหมือนถูกกลืนกิน สองเข่าอ่อนแรงลง การหายใจติดขัดเพราะความเร็วที่รุกเร้าและความเอาแต่ใจของเคนโซ ทำให้ยูเมะฮิโตะต้องรีบส่งเสียงคราวท้วงไป เคนโซจำต้องถอดถอนริมฝีปากออกมา พร้อมมองใบหน้าของคนตรงหน้า

       

      ใบหน้าแดงซ่านบวกกับดวงตาปรือเยิ้ม ริมฝีปากที่เผยอเข้าออกเพราะการหายใจ ทั้งหมดนี่ดูยั่วยวนในสายตาของเคนโซจนเขาเผลอเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว

       

      “รู้อะไรมั้ยยูเมะ...” เคนโซพูดขึ้นหลังจากที่ยูเมะฮิโตะเริ่มเป็นปกติ

       

      “ของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดสำหรับฉัน ก็คือการที่นายกับฉันใจตรงกันนี่แหละ..” เคนโซพูดจบแล้วดึงตัวยูเมะเข้าไปกอดแน่น ร่างบางได้แต่ตอบกอดเท่านั้น ณ เวลานี้ เขาดีใจจนพูดไม่ออกแล้ว

       

      ความอบอุ่นที่มีให้กันและกันท่ามกลางอากาศหนาวเย็นรอบตัว แสงจันทร์สีนวลที่ส่องลงมาทำให้บรรยากาศดูอ่อนโยน ความรักที่ผลิบานครั้งนี้ ทำให้หัวใจของทั้งคู่ได้ถูกเติมเต็ม

       

      และไม่ต้องกังวลใจ ที่จะต้องซ่อนความรักอีกต่อไป...

       

       

       

       

      The end

       

       

       

       

      *ต่อนิดๆ*

       

      “ว่าแต่นายปิ๊งฉันตั้งแต่เมื่อไหร่อะ” ยูเมะฮิโตะถามขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่มาบ้านของห้องของเคนโซที่อพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งแล้ว และตอนนี้ยูเมะฮิโตะกำลังอุ่นนมดื่มอยู่

       

      “ไม่รู้ ฟ้าลิขิตมั้ง” เคนโซตอบแบบกวนประสาทไปพลางเดินเข้าไปใกล้ร่างบาง

       

      “อย่ามาตลก พูดไม่เคลียร์เดี๋ยวจะโดน” ยูเมะฮิโตะหยิบนมที่อุ่นเสร็จแล้วค่อยๆดื่มพอจะหันกลับนั่งที่โซฟา ก็พบว่าเคนโซมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว

       

      “จะทำอะไร..” ยูเมะฮิโตะค่อยๆถอยห่าง แต่เคนโซกลับเดินเข้าไปประชิด

       

      “นายนี่มันน่ารักจริงๆ” พูดจบก็เอาแก้วนมที่ร่างบางถืออยู่วางไว้ที่โต๊ะข้าง แล้วใช้มือจับใบหน้าของร่างบาง แล้วบรรจงจูบลงไปอย่างเร้าร้อน

       

      “เฮ่ย!!!!” ยูเมะผลักตัวออกมาก่อน “พอแล่วววววววว อย่ามาหื่นแถวนี้!!” ร่างบางรีบห้ามไว้ แต่ไม่ทันไรห็ถูกอุ้ม

       

      “เหวออออ”

       

      “ดื่มนมจากปากนายมันอร่อยดี...” เคนโซพูดพลางมองยูเมะอย่างเจ้าเล่ห์ “แต่กินนายดูท่าจะอร่อยกว่า”

       

      “เฮ่ยยยยยยยยยยย ไม่อ๊าววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว”

       

       

      และแล้วทั้งคู่ก็ได้อยู่ร่วมกันทั้งคืนภายใต้ผืนผ้าเดียวกัน...

       

       

      The end จริงๆ 555+

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×