ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SMS] Halloween Event

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 55


    ช่วงค่ำของวันหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงบเช่นทุกครั้ง ดวงดาวบนท้องฟ้าส่องแสงพราวระยับ สายลมเย็น พัดเอื่อยลัดเลาะไปตามแมกไม้ใบหญ้า ทำให้เสียดสีกันเกิดเป็นเสียงบรรเลงยามค่ำคืน

     

     

    เด็กหนุ่มกำลังเดินตรวจสอบความเรียบร้อยของโบสถ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้านอน แต่ทว่า ร่างสูงโปร่งกลับเดินเข้ามาคว้าแขนของร่างบางเอาไว้ ก่อนจะกึ่งดึงกึ่งลากให้มาด้วยกัน

    “ห..หือ..?” เอแคลร์สาวเท้ายาวๆเดินไปตามที่อีกฝ่ายลากให้ไป เกรงว่าจะล้มอยู่หน่อยๆ เพราะอีกฝ่ายช่างดูรีบร้อนเหลือเกิน

    “ มีอะไรจะคุยด้วย” จูเลียตบอก ใบหน้าหล่อเหลาดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

    “มีอะไรเหรอครับ?”  เอแคลร์ถามอย่างประหลาดใจ แต่ก็ยังคงเดินตามอีกฝ่ายไป อันที่จริง..เพราะจูเลียตไม่ยอมปล่อยต่างหากล่ะ..

    ร่างสูงโปร่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องๆหนึ่ง ที่อยู่ในส่วนที่ลึกของโบสถ์พอสมควร ก่อนจะพาร่างเล็กเข้าไปในห้องนั้นพร้อมกับตน

    “เดี๋ยวก็รู้น่า” จูเลียตปล่อยแขนบางๆของอีกฝ่ายเเล้วไปล็อคประตูก่อนจะหันมองซ้ายมองขวาเล็กน้อย ในขณะที่เอแคลร์ได้แต่ยืนมองอีกคนงงๆ

    สักพักหนึ่งใบหน้าหล่อเหลาก็หันมามองทางเอแคลร์แล้วถามว่า

    “ เธอ...เอ้ย..นายน่ะ..มี..มีอะไรกับโรมิโอใช่มะ?

    “ ห..หา..!!” ร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ

    “ ตอบฉันมา” จูเลียตมองอีกฝ่ายอย่างกดดัน

    “ ก..ก็...” เสียงนุ่มตะกุกตะกักอย่างกล้าๆกลัวๆ อันที่จริง นั่นเรียกว่า มีอะไรกันด้วยเหรอ การที่บุกห้องชาวบ้านเขากลางดึกแล้วทำมิดีมิร้ายเนี่ย ..สมควรเรียกว่า โดนปล้ำ มากกว่าด้วยซ้ำ

    ดวงตาสีอัญมณีที่เคยคิดว่าน่าหลงใหล จ้องมองไปที่ร่างบางราวกับตำรวจที่กำลังจับผิดผู้ต้องหา ในขณะที่กำลังรอคำตอบจากอีกฝ่าย

    “ก็ใช่ครับ.....ผมขอโทษ...” เอแคลร์กล่าวออกมาเสียงเบาราวกับผู้ร้ายที่ต้องยอมจำนน ทันทีที่ได้คำตอบร่างสูงโปร่งดันร่างเล็กไปติดกับกำแพงห้องทันที

    เด็กหนุ่มตัวสั่นน้อยๆพลางเงยหน้ามองอีกฝ่าย คิ้วสีเข้มของจูเลียตขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความไม่พอใจในอะไรบางอย่าง ก่อนจะประทับริมฝีปากของตนไปบนริมฝีปากบางๆของอีกฝ่าย เอแคลร์รู้สึกตกใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะพยายามขัดขืนด้วยการดันตัวอีกฝ่ายออก แต่แรงที่มีเหมือนจะไม่ทำให้คนตรงหน้าเขยื้อนออกไปเลยแม้แต่น้อย

    เมื่อเห็นร่างเล็กขัดขืน จูเลียตจึงกัดริมฝีปากบางของอีกฝ่ายแทนเป็นเชิงให้หยุดพยศ

    “อึก..!” ร่างบางสะดุ้งตัวด้วยความเจ็บ ไม่นานนักอินคิวบัสหนุ่มก็ค่อยๆผละออกมามองดูเด็กหนุ่มที่กำลังลูบริมฝีปากของตนเบาๆ

    “เจ็บ..” เอแคลร์พึมพำกับตนเอง

    “หึ..” จูเลียตส่งเสียงในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะปิดตาของอีกฝ่ายไว้แล้วทำให้หลับ

    ร่างบางทรุดนั่งลงกับพื้นพร้อมเข้าสู่ห้วงนิทราดั่งที่อีกฝ่ายตั้งใจให้เป็น เมื่อเห็นว่าบาทหลวงคนงามหลับสนิทลงแล้ว อินคิวบัสหนุ่มจึงใช้พลังเพื่อเข้าไปอยู่ในฝันของอีกฝ่าย

    ....

    เอแคลร์รู้สึกตัวอีกครั้ง ก็เหมือนกับอยู่ในที่ที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด..ห้องแปลกตาห้องหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย จำไม่ได้ว่าตัวเองมาที่นี่ได้ยังไง เพราะก่อนหน้านี้ก็ยังคงอยู่ที่โบสถ์กับจูเลียตหลังจากถูกทำอะไรแปลกๆก็รู้สึกเหมือนทุกอย่างมืดจางหายไปหมด หรือว่า นี่อาจจะเป็นความฝันก็เป็นได้..

    “ โย่ว..” เสียงของจูเลียตดังขึ้นจากทางด้านหลัง เอแคลร์หันไปมองอย่างตกใจนิดๆ ก่อนจะเอ่ยถามว่า

    “ที่นี้ ในความฝันหรอครับ..”

    “ใช่เเล้ว” จูเลียตตอบพร้อมยิ้ม

    “หืม..เพิ่งเคยฝันแบบรู้ตัวว่ากำลังฝันแฮะ” บาทหลวงคนสวยเอียงคอนิดๆอย่างประหลาดใจ

    “ ฉันเก่งใช่มั้ยหละ”จูเลียตยกยิ้มอย่างภูมิใจก่อนจะเชยคางอีกฝ่ายขึ้นมา

    “อ..เอ๋..ฝีมือของจูเลียตเหรอครับ?” เอแคลร์ถาม

    “ อ..อะไรครับเนี่ย” เอแคลร์ถามเสียงสั่น

    “ในเมื่อโรมิโอได้นายไปเเล้ว ฉันก็ต้องได้มั่งสิ” ริมฝีปากเรียวได้รูปแสยะยิ้ม

    “ อ..เอ๋..”

    “ น่าจะรู้นี่?” จูเลียตบอกก่อนจะลูบไล้ลามไปถึงบั้นท้ายของอีกฝ่าย

    ม..ไม่เอานะครับ อย่าล้อเล่นแบบนี้สิ..” เอแคลร์ปฏิเสธเสียงสั่น

    “ ทำไมหละ? เป็นฉันไม่ได้เหรอไง?” จูเลียตถามพลางจ้องมองอีกฝ่าย

    ...ผ..ผมก็แค่..กลัว..”เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

    “ฉันจะไม่ทำนายเจ็บหรอกน่า” จูเลียตปลอบ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่ จูเลียตขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย เอแคลร์เลยรีบตอบว่า

    “ โอเคครับ..ผมเชื่อก็ได้..”

    “ เย้..” อินคิวบัสหนุ่มดีใจเหมือนเด็กๆแล้วกอดร่างบางตรงหน้าไว้แน่น เอแคลร์ถอนหายใจหน่ายๆ ก่อนจะถูกอีกฝ่ายอุ้มขึ้นมาเสียงอย่างนั้น มือเล็กเกาะไหล่อีกฝ่ายไว้ตามสัญชาตญาน จูเลียตอุ้มร่างเล็กในอ้อมแขนไปวางไว้บนเตียงนุ่ม แล้วลงมือปลดกางเกงของอีกฝ่ายออก

    -- ป้องกันความไม่เหมาะสม ทางนี้ นะคะ --

    “ เฮ้อ ไม่ได้ทำเเบบนี้นาน รู้สึกดีเเฮะ” จูเลียตบอกพลางก้มนัวเนียอีกฝ่ายที่กำลังหายใจหอบ เหมือนเด็กๆ

    “ พี่กับน้องพอกันเลย” เอแคลร์พึมพำเบาๆ

    จู เลียตค่อยๆถอนเเก่นกายออกแล้วเอ่ยถามว่า

    “ ทำกับใครรู้สึกดีกว่ากัน?

    “ .. ใช่เรื่องที่สมควรถามหรอครับนั่น..”เอแคลร์ย้อนถามเสียงแผ่ว

    “ อยากรู้นี่?” จูเลียตบอก

    “ไม่รู้ครับ ไม่ตอบหรอก..” เด็กหนุ่มปฏิเสธ

    ”โหยย ทำไมอ่ะ” จูเลียตทิ้งตัวทับอีกฝ่ายเบาๆเหมือนเด็กน้อย

    “ ..แล้วผมจะออกไปจากที่นี่ยังไง..”บาทหลวงคนสวยเปลี่ยนเรื่อง

    “ก็ตื่นสิ”อินคิวบัสหนุ่มตอบพลางหัวเราะ

    “แล้วเมื่อไหร่ผมจะตื่นล่ะ” เอแคลร์ถามอีก

    “ไม่รู้สิ” จูเลียตตอบหน้าตาเฉยพลางลูบใบหน้าอีกฝ่าย

    “ถ้างั้นผมก็ต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะตื่น?” เด็กหนุ่มยังไม่เลิกถาม

    “ ใช่เเล้วว” จูเลียตยิ้ม

    ร่างบางถอนหายใจเบาๆ พลางมองสารพัดหนวดประหลาดที่ยังคงพันแขนขาของตนเอาไว้

    “ งั้นรบกวนช่วยบอกคุณพวกนี้ให้ปล่อยแขนผมได้ไหมครับ”

    “โอ๊ะ โทษที” จูเลียตเอ่ย ก่อนจะดีดนิ้วสองทีให้มันหายไป

    “ ค่อยยังชั่วหน่อย..” เอแคลร์พึมพำเบาๆอย่างโล่งอก ทำเอาคนต้นเหตุหัวเราะออกมา

    “ไม่ต้องมาหัวเราะเลยครับ..” เด็กหนุ่มดุเบาๆ พลางมองหาเสื้อผ้าตัวเองที่ถูกถอดออก อินคิวบัสหนุ่มนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างเล็กราวกับเป็นของเล่น จนคนโดนกอดอดสงสัยไม่ได้

    “ ไม่เหม็นเหงื่อรึไงครับ..”

    “ไม่นี่?” จูเลียตตอบ เอแคลร์พยักหน้าเบาๆก่อนจะเปรยๆขึ้นมาว่า

    “ ผมไม่เข้าใจอยู่อย่างนึง...”

    “ หืมม?” จูเลียตรับ

    “ก็ทั้งคุณจูเลียต ทั้งคุณโรมิโอ ทำแบบนี้กับผม..ต้องการอะไรจากผมกันแน่ครับ?” เอแคลร์ถาม

    “หา? มันมีความหมายอื่นด้วยหรือไง?” จูเลียตย้อน

    “ผมไม่รู้ความหมายของมันเลยต่างหาก...” เด็กหนุ่มบอกพลางขมวดคิ้ว

    “ "ต้องการนาย" เเค่อย่างเดียวเเหละ” อินคิวบัสหนุ่มตอบ

    “ ต้องการ?” เสียงเล็กทวนถามอย่างไม่เข้าใจ

    “อยากกิน”  จูเลียตตอบแบบกวนๆพลางแลบลิ้นแหย่อีกคน

    “ผมเป็นแค่อาหารสินะ” เอแคลร์สรุปตามที่ตนเข้าใจ

    “ ฮะๆๆ ถ้านายเป็นเเค่อาหารจริงๆโรคงฆ..อ๊ะ ช่างเถอะๆ”  อินคิวบัสรูปหล่อตัดบท

    “หืม? คุณโรมิโอทำไมหรอครับ?” เด็กหนุ่มถามเมื่ออีกฝ่ายพูดถึงแวมไพร์หนุ่มอีกตน

    “อะไร๊ ฉันไม่ได้พูดถึงหมอนั่นเลยนะ หูฝาดเปล่าๆ”

    “ ..เอ๋..งั้นเหรอครับ สงสัยผมคงหูฝาดนั่นแหละ..” เอแคลร์พยักหน้า เขาอาจจะหูฝาดเองจริงๆก็ได้

    “ ช่ายๆ เเถมนี่มันเป็นฝันนะ ไม่ต้องไปจริงจังหรอก” จูเลียตยิ้ม

    “เป็นฝันที่สมจริงดีนะครับ...” บาทหลวงหนุ่มบอก อนึ่งไม่เข้าใจว่าบาทหลวงคนสวยต้องการชมหรือประชดกันแน่

    “ ฉันเก่งใช่ป่ะล่ะ” จูเลียตถามอย่างภูมิใจในความสามารถของตน

    “ ครับ เก่งมากเลยครับ” ร่างเล็กชมแบบหน่ายๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง แล้วพูดขึ้นว่า

    “ เป็นปิศาจเนี่ย..ดีจังเลยนะ..จะเข้าฝันใครก็ได้ จะกินเลือดใครก็ได้ไม่เดือดร้อนอะไร..ต่างจากมนุษย์ธรรมดาที่ทำอะไรแบบนั้น ไม่ได้สักอย่าง..”

    “ฮะๆๆ ดีงั้นเหรอ? สนใจมาเป็นเเบบพวกเรามั้ยหละ” จูเลียตเอ่ยชวนพลางหัวเราะเเล้วกอดเอวก่อนจะเอาคางเกยไหล่อีกฝ่าย

    “ ม..ไม่ดีกว่าครับ..เกิดเป็นมนุษย์แล้วทั้งที่ อยู่แบบปกติไปจนกว่าจะตายน่ะ ดีแล้วครับ...พระเจ้าท่านอุตส่าห์กำหนดมาแบบนี้แล้วนี่นา..” เอแคลร์ปฏิเสธ

    “ เหรอ...คิดเเบบนั้นเหรอ”  ร่างสูงโปร่งถามก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้เป็นคำตอบ แล้วนึกขึ้นได้ว่า

    “ว้า เดี๋ยวนายก็ตื่นเเล้วมั้ง ฉันไปดีกว่า” พ่อปิศาจหนุ่มที่หล่อพอๆกับเทพบุตรลุกขึ้นจากเตียงแล้วกล่าวลาอย่างทะเล้นว่า

    “เเล้วเจอกันในโลกความจริงนะจ๊ะ จุ๊บๆ” ฉับพลันร่างสูงก็กลายเป็นกลุ่มควันแล้วจางหายไป



    ขอบคุณธีมสวยๆจาก




     

    :) Shalunla


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×