คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 5 เย็นชา
-5-
เย็นชา
ผมรู้สึกถึงความร้อนจากแสงแดดยามเกือบเที่ยงของเมืองกรุง สาดส่องมาที่หน้าของผม ผมขยี้ตาตัวเองแล้วค่อยๆ ลืมตาตื่น กลิ่นแบบนี้ เพดานแบบนี้ สีห้องแบบนี้ นี่มันไม่ใช่ห้องผมนิ ผมชันตัวขึ้นนั่ง มองไปรอบๆ ห้อง นี่มันห้องเฮียคิวนี่น่า ผมอยู่ที่ทนี่ได้ยังไง แล้วทำไมผมไม่ใส่เสื้อ ผมใช้มือเปิดผา้าห่มก้มลงมองแดนนี่คุงน้อยกำลังยิ้มอะร่าฉ่าให้กับผม ผมรีบปิดผ้าห่มลงทันที นี่ผมเสียตัวให้เฮียคิวแล้วเหรอ โอ้!! ไม่!! กลิ่นคาวปนเลือดหน่อยๆ ลอยฟุ้งอยู่ทั่วห้อง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนได้วิ่งวนไปมาในสมองของผม เรียบเรียงไปตามลำดับขั้นตอน ราวกับหนังภาพยนต์ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมกับเฮียคิวจะมองหน้ากันติดไหม การที่ผมทำร้ายซะขนาดนั้น เฮียอาจจะเมินผมไปเลยก็ได้ อาจจะเย็นชากับผม แล้วจากผมไป ทั้งๆที่เราก็เคยสนุกสนานด้วยกันด้วยกันมาโดยตลอด ไม่นะ!! ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะอยู่ต่อยังไง ผมยอมไม่ได้ถ้าเฮียคิวจะเย็นชาใส่ผม ผมสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไป หันไปหันมาเพื่อหาว่าเจ้าของห้องอยู่ไหน ผมก็พบว่ามีกระดาษโพสอิทติดอยู่ที่หัวที่เตียง
~เฮียต้องรีบประชุมหน่ะ ไม่รู้จะเสร็จตอนไหนด้วย เฮียทำกับข้าวไว้ให้ตู้เย็นนะ เผื่อนายจะหิว
ปล.อุ่นก่อนกินด้วยนะ~
ผมอ่านข้อความในกระดาษโพสอิทอย่างพินิจ ก็ไม่เห็นจะมีคำไหนที่บ่งบอกว่าเฮียคิวจะเย็นชาใส่ผม ออกไปทางเป็นห่วงเสียด้วยซ้ำ ผมลุกจากเตียงก็เห็นว่ามีคาบเลือดจางๆ เลอะอยู่บนผ้าปูที่นอน นี่ผมรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ผมเดินไปจะเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ สายตาเฉมองไปเห็นเสื้อผ้าของผมห้อยโตงเตงอยู่ริมระเบียง ถึงขั้นซักผ้าให้เลย แบบนี้เค้าเรียกว่าเย็นชารึเปล่านะ เห็นดังนั้นก็อดยิ้มไม่ได้ ผมว่ายังไงเฮียคิวก็เป็นเอียคิวที่น่ารักของผมอยู่ดี
เวลา 16.35 น.
Canter Point @Cantral World
ผมกำลังเดินเข้าไปในกลุ่มคนที่คุ้นตา ที่กำลังทั้งยื่นท้งนั่งคุยกันเล่นอย่างสนุกสนาน ผมหยุดมองรอยยิ้มสดใสของคนที่ผมเฝ้าคิดถึงแต่เรื่องของเค้าทั้งวัน กำลังยื่นคุยร่าเริงกับจามแล้วก็อาย ก็ยังร่าเริงเหมือนเดิมหรือผมจะคิดมากไป ผมเริ่มเดินอีกครั้งจนเข้าใกล้คนๆนั้นเต็มที่ ไม่รู้เพราะอะไรสายตาที่เริ่มมองมาทางผมของเฮียคิว ถึงได้ดูร้ายกาจจนผมรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว แล้วด้วยสายตานั้น ทำให้จามและอายมองตามมาที่ผม
"พี่แดน สวัสดีค่ะ" จามหันมาทักทายผมเหมือนทุกครั้งที่เราเจอกัน แต่สายตาที่เธอมองผม เหมือนว่าเธอรู้อะไร
"ครับ....เอ่อ....เฮีย..."ยังไม่สิ้นเสียงที่ผมเรียกชื่อเฮียดี เฮียคิวก็สะบัดตัวเดินออกไปนั่งค้นหาอะไรสักอย่างจากกระเป๋าเป้ของเค้า ผมคุยเล่นกับจามแล้วก็อายนิดหน่อย แล้วหันเอากระเป๋ามาวางไว้ว่างข้างๆ เฮียคิว
"เฮียคิวครับ"เฮียลุกขึ้นเหมือนไม่ได้ยินว่าผมเรียกแล้วก็เดินไปลากข้อมือจามให้เดินตาม
"ไหนใครบอกว่าจะเลี้ยงข้าวพี่น๊าาา ป่ะ!! จามไปกินข้าวกัน" เฮียคิวพูดด้วยน้เสียงร่าเริง ผิดกับที่เมินผมเมื่อกี้ไปอย่างสิ้นเชิง
"ให้อายไปด้วยได้ไหม" อายตะโกนถามไล่หลัง
"ไม่!! แค่จามเท่านั้น" กับคำตอบที่อายก็ยังอึ้ง สายตาที่มองมาที่ผมมากกว่าที่จะมองไปที่อาย ซึ่งนั้นก็คงหมายความว่า ผมำม่ควรเข้าไปยุ่งด้วย ผมได้แต่ยื่นมองเฮียคิวลากจามไป จนกลายเป็นเดินคู่กัน ผิดไหมที่ผมนึกอิจฉาเด็กที่เดินตามเฮียคิวไป
Specail Part
Q's Part
@Sukishi
ในที่สุดผมก็ลากจามมานั่งในร้านนี้จนได้ ผมนั่งเงียบใช้ตะเกียบเขี่ยๆ ชาจังเมียนเล่ ผมเซ็งกับรสชาติของมันที่จืดได้อีก ยิ่งอารมณ์ตอนนี้ของผม จะกินอะไรก็คงไม่อร่อย ไม่ต่างจากจามที่นั่งจิ้มๆเขี่ยๆ ผัดต๊อกโบกีของเธออยุ่ตรงข้ามผม รู้สึกได้เลยว่าเป็นการกินอาหารมื้อที่ไม่คุ้มเอาซะเลย
เหตุผลที่ผมลากจามมาแบบนี้ ก็เพราะว่าดูเหมือนจะมีแค่เธอเท่านั้นที่เข้าใจผม แต่การที่ผมจะปรึกษาเธอ เธอเด็กเกินไปรึเปล่า นี่เธออายุยังไม่ถึง 20 เลยด้วยซ้ำ แต่ก็มีแค่เธอคนเดียวที่รู้สถานการณ์และเข้าใจสุดๆ
"จาม" ผมเรียกชื่อเธอ เธอเงยหน้าจากอาหารตรงหน้าของเธอขึ้นมามองหน้าผม สิ่งที่เธอทำมันทำให้ผมพูดไม่ออก
"อ้าว!! พี่คิวก็...เรียกแล้วก็ไม่พูดต่อ" ยิ่งคำพูดของเธอเปล่งออกมายิ่งทำให้อึดอัด มองเธอที่ก้มลงจิ้มชิ้นต๊อกโหกีขึ้นมาจ่อปากผม
"อ่ะ พี่คิวลองชิมดูอร่อยนะ" ผมรับชิ้นต๊อกโบกีเข้าปาก มันเป็นชิ้นแป้งเหนียวๆหนืดๆ
"อร่อยไหมค่ะ"
"ก็ดีครับ" ผมตอบไปงั้นๆ ไม่ได้สนใจรสชาติของอาหารสักเท่าไร
"อ่ะ!!!! พี่คิว!!!" จามส่งเสียงเรียกผมอย่างตกใจ ซ้อมที่หล่นจากมือของเธอกระทบกับจานเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสะดุ้งไปเลยสักนิดเดียว สายตาที่มองมาทางผม เหมือนกับว่าในตัวผมมีอะไรที่ผิดปกติไป ผมใช้มือปัดป่ายไปทั้วทั้งตัว ระแวงว่าจามจะเห็นในสิ่งที่ผมไม่อยากให้เธอเห็น
"ปากเลอะอ่ะค่ะ มะ จามเช็ดให้นะคะ" จามว่าพลางหยิบกระดาษทิชชูว่าเช็ดปากให้ผม แต่กลับไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรมาเลอะปากผม ผมมองตามทิชชูที่ดึงกลับไป ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีเศษอาหารติดไปด้วย ผมก็ได้แต่นึกสงสัยว่าเธอทำอะไรของเธอ
"จาม จามทำไมถึงคิดว่าพี่ชอบพี่แดนล่ะ" ผมถามไปเพราะตั้งแต่เมื่อวานที่เธอถามผม ผมก็ไม่เข้าใจตลอดว่าอะไรที่ทำให้เธอคิดแบบนั้น
"สายตาไงค่ะ"
"ยังไง"
"ก็อย่างสายตาที่พี่คิวมองพี่แดนอยู่กับน้องๆ ผู้หญิงโดยเฉพาะพี่ตัวเอ็ม หรือพี่คิวจะเถียงว่าไม่เคยรู้สึกว่าไม่อยากให้อยากให้ผู้หญิงคนไหนๆ เข้าใกล้พี่แดน นั่นไงเถียงไม่ออกเลยล่ะสิ สายตาที่พี่แดนมองมาที่พี่คิว ที่ทั้งแคร์ ทั้งห่วงใย และพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าหาของพี่ตัวเอ็ม สายตาพวกนั้นเหมือนมีออร่าที่เปล่งออกมา ถ้าเป็นหนังการ์ตูนก็คงมีรูปหัวใจลอยอยู่รอบๆตัวพวกพี่แล้วแน่ๆ" จามอธิบายยืดยาว ผมแสดงออกจนเธอมองเห็นขนาดนั้นเลยเหรอ ขนาดผมยังไม่รู้ตัวเลยว่าผมมองแดนแบบนั้น
"จะบอกว่าจามสามารถอ่านสายตาคนออกรึไง" ผมถามขึ้นเพราะไม่อยากจะเชื่่อเท่าไร
"จะว่างั้นก็ได้ค่ะ"เธอตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ พลางหยิบเมนูรายการอาหารมาดู เหมือนจะสั่งเพิ่ม
“พี่ว่าพี่คงชอบแดน อย่างที่จามถามไปเมื่อวานแล้วแหละ”
“ห๊า!!!!!!!!???” จามส่งเสียงเบาๆ กับหน้าที่ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด พลางวางเมนูไว้ที่เดิม
“ไม่สิ ต้องพูดว่า จามเข้าใจถูกแล้วแหละ ที่ว่าพี่ชอบแดน...”
“โอ้วว!!! จะมีครั้งไหนที่ลางสังหรณ์ของจามมันจะผิดพลาดบ้าง” ไม่ทันที่ผมจะจบ จามก็ร้องแทรกออกมาทันที พลางทำหน้าเหมือนอยากตาย ระอากับลางสังหรณ์ของตัวเองไปซะแบบนั้น
“เพียงแต่พี่ยังไม่มั่นใจ ความรู้สึกของพี่กับแดน การกระทำที่....เอ่อ...พี่หมายถึง เอ่อ..พี่ยังรับไม่ได้กับการกระทำบางการกระทำ จะว่ายังไงดีล่ะ” ผมไม่รู้ว่าจะควรพูดอะไรให้จามเข้าใจ และไม่ให้เธอรู้ว่าการกระทำที่ผมหมายถึงคืออะไร ผมกลัวที่จะพูดจริงๆ ยิ่งมองหน้าเธอที่คิ้วขมวดเป็นปม มองอาการผมอย่างจับผิด สายตาแบบนี้ของเธอ ผมไม่ชอบเลย
“เอาเป็นว่าจามเข้าใจก็แลกกัน” จามว่า พลางวางทุกอย่างจากมือ แล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นไปดื่ม
“ถ้าพี่คิวสับสน ว่าตกลงพี่คิวชอบพี่แดนจริงๆ เหรอ กับผู้ชายด้วยกันเนี้ยนะ จามเคยบอกไปแล้วนะค่ะว่าเพศมันปิดกั้นความรักไม่ได้หรอก ความรักมันเป็นของหัวใจ อย่าใช้สมองคิดสิค่ะ เดี๋ยวไมเกรนก็ขึ้นหรอก เรื่องนี้จามว่าพี่คิวน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว โตขนาดนี้ ยังจะให้จามที่เด็กกว่าพี่คิวตั้ง 10 ปีสอนอีกเหรอค่ะ” ผมตั้งใจฟังในสิ่งที่จามพูด มันก็ถูกอย่างที่จามพูดมาทั้งหมด แล้วเรื่องอะไรเธอถึงจบด้วยการโวยวายใส่ผมแบบนั้นด้วย
“ก็ถ้าเป็นผู้หญิงพี่คงไม่คิดมากขนาดนี้หรอก พี่กลัวว่าคนรอบข้างจะรับไม่ได้ กลัวอะไรๆจะเปลี่ยนไป” ผมเผลอสารภาพไปแล้วสิ
“แล้วจามมีท่าทีเปลี่ยนไปไหมล่ะ หรือว่าท่าทางรับไม่ได้บ้างไหม” จามถามผม ผมมองเธอก็ยังเหมือนเดิม ไม่เห็นว่ามีท่าทีเปลี่ยนไป แต่ก็ใช่ว่ามีแค่เธอนี่น่า
“ถ้าพี่คิวยังกลัว ก็ปล่อยให้มันค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำตามใจตัวเองที่มันบอก จามเชื่อว่าซักวันหนึ่ง ไม่ว่ายังไงมันก็จะดีกับพี่ทั้งสอง” จบคำพูดของจาม ผมแทบจะตกมือให้ดังๆให้เธอเหลือเกิน อยากจะถามจริงๆว่านี่เธออายุ 19 หรือ 29 กันแน่ ดูปราดเปลืองยิ่งนัก
“ให้คำปรึกษาเก่งใช้ได้เลยนิ” ผมชมเธอ พลางใช้มือสอดแทรกเข้าในกลุ่มผมของเธอ แล้วขยี้เล่น ผมของเธอก็ยังคงนุ่มลื่นเหมือนเคยไม่มีเปลี่ยน ยังดูเงางามไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนสีผมบ่อยขนาดไหน หรือทำมากี่สีแล้วก็ตาม
“ก็แค่เคยถูกส่งตัวไปอบรมการให้คำปรึกษา แล้วเป็นที่ปรึกษาให้ของนักเรียนทั้งโรงเรียน แค่นั้นเอง อีกอย่างก็ชอบให้คำปรึกษาคนอื่นอยู่แล้วด้วย” แทนที่จะถ่อมตัวรับคำชมแต่กลับพูดโอ้อวดตัวเองซะงั้น นี่แหละเธอแหละ
~Bum Bu Bum Bum~
อยู่ๆเสียงริงโทนจาก IPhone ของจามก็ดังขึ้น ผมก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าจามก็ใช้ IPhone เหมือนกันก็วันนี้แหละ เมื่อวานยังเห็นใช้ BB อยู่เลยนิ ผมเห็นชื่อและรูปคนที่โทรเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาเอาการกับชื่อที่ไม่น่าจะมีใครตั้งให้ลูกตัวอง “VamPire”
“ขอตัวเดี๋ยวนะค่ะ .... ค่ะ พี่แวม” ว่าแล้วจามก็ลุกเดินออกไปหน้าร้าน ผมหยิบเมนู แล้วเรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่มพลางมองไปที่จามที่กำลังคุยโทรศัพท์ไปเธอก็ยิ้มไป เหมือนคุยกับคนรักเลยนะ คนรักงั้นเหรอ ใครที่ได้เป็นแฟนของจามคงสนุกน่าดู ก็เธอมันหลายนิสัยหลายมิติจะตาย ผมก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ เอาล่ะ คราวนี้จะสั่งอะไรมากินดีนะ จามเลี้ยงท้งทีนี่น๊า
The End Special Part
ตอนนี้พวกเราทั้งหมดกำลังยื่นรอ BTS กัน เพราะมีนักสังสรรค์กันนิดหน่อย ดูเหมือนทุกคนจะยินยอมที่จะไปกัน เพราะครั้งนี้จามบอกว่าเธอจะเลี้ยงเอง เนื่องในโอกาสที่เธอกำลังจะได้รถคันแรกและก็ฉลองที่อายได้คะแนนสอบกลางภาคมาเป็นอันดับ 3 ของชั้นปี ก็ได้กินฟรีทั้งทีนี่น๊า
ผมยื่นคอตกมองหน้าจอมือถือไปเรื่อย แอบแหล่มองเฮียคิวที่ยื่นอยู่อีกประตูทางขึ้น BTS อีกประตูหนึ่ง ตลอดเวลาที่ซ้อม วันนี้เฮียไม่เข้ามาใกล้ผมสักนิด แทนที่จะให้ผมสอนท่าให้ แต่กลับให้อาร์มสอนให้ จนอาร์มบ่นอุ๊บ และไล่มาให้ผมสอน แต่ก็ยังให้อาร์มสอนให้อยู่ดี แล้วก็ยังร่าเริงตลอดเวลา ดูมีเรี่ยวมีแรงเกินหน้าเกินตา ทั้งที่เมื่อคืนก็จัดหนักขนาดนั้น เอ๊ะ!! ผมโดนเฮียคิวเมินใส่เข้าให้แล้ว ฮืออ... ผมอยากร้องไห้ชะมัก จะทำไงดีล่ะทีนี้
พอ BTS มาจอดตรงหน้า ผมเห็นเฮียคิวเดินเข้าไปพร้อมๆกับแพน จาม อาย แล้วก็น้องอีกสองคนที่จะกลับบ้านด้วย ผมจึงเดินเข้าไปด้วย พลางก้มจิ้มๆ จอมือถือไป
“แหมม พี่อาร์มเป็นสุภาพบุรุษมากเลยนะค่ะ” เสียงแซวแว่วๆมา ฟังดูเหมือนจะเป็นเสียงของสาวเหนืออย่างอาย แซวอาร์มที่นั่งลงที่ที่นั่งสุดท้ายพอดี แล้วผมก็หยุดเดิน จับห่วงบนหัว ก่อนจะเผยหน้ามองคนตรงหน้า ผมถึงผงะเบาๆ ทำไมผมต้องมาหยุดตรงหน้าอาร์มด้วยล่ะเนี่ย ผมมองไปทางกลุ่มของเฮียคิว ดูร่าเริงเกินไปแล้วนะเฮียคิว สนุกกันจัง จุรู้ไหมว่าคนๆนี้ เหมือนกำลังจะตาย แล้วผมก็พบกับสายตาของจาม เธอมองผมยิ้มๆ ยิ้มแบบที่ผมเดาไม่ออกว่าเธอจะสื่อสื่ออะไรออกมา แต่ผมเชื่อในรอยยิ้มนั้นว่ามันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แน่ๆ
ตอนนี้เรามาถึงร้านอาหารที่เราจะมีสังสรรค์กันแล้ว ถึงว่าเป็นโชคดีของจามหรือโชคร้ายกันแน่ที่อยากเลี้ยงสมาชิกทั้งวง แล้ววันนี้สมาชิกก็ว่างมาซ้อมกันครบทุกคน เพราะเตรียมตัวขึ้นงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทุกคนสั่งอาหารได้อย่างไม่เกรงใจเจ้าภาพเลี้ยงครั้งนี้ หรือพนักงานเสิร์ฟเลย เจ้าภาพอย่างจามก็ยังยิ้มปริ่มอยู่ข้างๆเฮียคิว บอกได้อย่างดีว่าบ้านจามนั้นรวยใช้ได้เลยทีเดียว อือ!! ผมก็เพิ่งนึกไดว่า ช่วงเสร็จงานครั้งต่อไปจะเป็นวันหยุดยาว แบบนี้เราต้องจัดทริปเที่ยวซะแล้ว
“ทุกคนครับ ฟังทางนี้หน่อย” ผมลุกขึ้นกล่าวเปิดงาน เอ้ย!! พูดเพื่อเปิดประชุมว่าเราจะไปเที่ยวไหนกันดี ดูทุกคนจะหันมาสนใจผม แล้วก็สนใจอาหารตรงหน้าต่อมากกว่า =___=’’
“เนื่องจากโชว์ครั้งหน้า จะเป็นวันหยุดยาว และเราไม่ได้มีทริปออกเที่ยวกันนานแล้ว ก็เลยคิดว่าน่าจะจัดทริปออกเที่ยวซะหน่อย มีสมาชิกท่านไหนที่อยากเสนอสถานที่เที่ยวบ้างไหมครับ” ผมพูดประหนึ่งปราศรัยหาเสียงก็ไม่ปาน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องใช้ภาษาเป็นทางการขนาดนั้นด้วย
“พี่แดน ไปสมุยกันไหม” พีทยกมือพลางเสนอสมุยมา
“ไม่เอาอ่ะ ไปแต่ทะแล เบื่อเป็นบ้างไหมเนี่ย” แพนขัดขึ้นจนผมรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้ต้องมี Something กันอย่างแน่นอน
“พี่เห็นด้วยกันแพนนะ พี่อยากทางอีสานบ้าง ภูเขา น้ำตกอะไรแบบนี้อ่ะ” ผมเริ่มออกความคิดเห็น
“เอ่อ...จามขอออกความเห็นได้ไหมค่ะ” จามยกมือขึ้นกล้าๆกลัวๆ ผมพยักหน้าให้เธอ เป็นเชิงให้เธอพูดได้
“ไปเที่ยวบ้านจามไหมล่ะค่ะ?”
“จามหมายถึงชัยภูมิ?”
“ใช่ค่ะ ที่นั่นมีภูเขามากมาย มีน้ำตก มีเขื่อน ซึ่งจามก็รู้จักเกือบทุกที่ และที่สำคัญ...พวกพี่จะมีที่พักฟรี อาหารฟรี แม้แต่ค่าเดินทางก็ฟรี” จามพูดออกมาซะน่าสนอะไรๆก็ฟรี จะเป็นไปได้ไง นอกจากว่าเธอเป็นเจ้าของพี่พักพวกนั้น
“หืม? หมายความว่าไง?” ผมถาม
“คืองี้ค่ะ ทางบ้านจามทำรีสอร์ทแล้วก็ไร่ผลไม้ ถ้าพี่ไปที่นี่ ทุกอย่างที่พูดก็ฟรีค่ะ” โอ๊ะ!! เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆด้วย เด็กคนนี้รวยจริงอะไรจริง
“เอาไงดีพวกเรา” ผมหันไปถามคนอื่นๆ
“เอางั้นก็ได้ครับ แต่เราจะไม่จ่ายค่าอะไรเลยมันก็น่าเกียจไป” อาร์มที่เงียบฟังอยู่นานก็เอ่ยขึ้น
“ตกลงตามนี้นะครับ”
“ตานนั้นเลยพี่แดน” แพนส่งเสียงสดใส ไม่ผิดกับแก๊บกะบอส ก็นะ นานๆจะได้ออกไปเที่ยวแบบนี้สักที
ปล. อาจจะเห็นว่า ชื่อไอดีไรท์เตอร์ เปลี่ยนไป ก็เพราะจำพาสเวิร์ดไปได้ ก็เลยตรงสมัครใหม่ อีกสักทำโน๊ตบุ๊คหลายก็เลย ไม่ได้อัพซะนานเลย ยังไงอ่านแล้วก็เม้นให้ไรท์เตอร์ด้วยนะค่ะ ขอบคุณนะค่ะ
ความคิดเห็น