คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Kape Diem ♡ | My half way lies
- 3 -
My half way lies
ฉันอยากจะหัวเราะดังๆ ด้วยความสะใจ เพราะว่าเมื่อวานพวกเขาสามคนโดนมอร์แกนตำหนิเรื่องที่เอาอีกัวน่าโซอี้มาเพ่นพ่านในร้าน เพราะเจ้า อีน่ากัว โซอี้ มันเคยหลุดออกไปที่คลับครั้งหนึ่ง แล้วไปทำให้คนภายในคลับแตกตื่น มอร์แกนเลยห้ามไม่ให้เอามันมาอีก ฉันเลยถือโอกาสฟ้องเรื่องที่พวกเขาแกล้งให้ฉันตกใจและเป็นลมไปซะเลย
‘ทำไมพวกนายยังเล่นเป็นเด็กแบบนี้!’ เสียงแหลมตวาดใส่อย่างดุดัน ‘แล้วถ้ามันหลุดออกไปจะทำยังไง ครั้งที่แล้วยังไม่เข้าใจกันอีกเหรอว่ามันวุ่นวายแค่ไหน พวกนายโง่กันหรือไงยะ’
ฉันละขำปนสมน้ำหน้าเรื่องเมื่อวานโดยเฉพาะออสโลและโนเอล พวกเขาเหมือนเด็กชะมัด ต้องโดนมอร์แกนเข้าไป ในตอนนั้นระหว่างที่มอร์แกนอยู่ ฉันก็พยายามตีหน้าให้เศร้าที่สุด เพื่อเรียกความสงสารจากเธอ และพอเธอออกไป ฉันก็เปลี่ยนสายตามองนายเฮลซินกิอย่างยิ้มเยาะ จนพวกเขาสามคนมองฉันอย่างหมั่นไส้ พอนึกถึงเเล้วก็สะใจสุดๆ
“แล้วตกลงได้เริ่มแพล็งค์หรือยัง?” คีช่าว่าในขณะที่เราเดินออกจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“ฉันรู้สึก ว่าฉันไม่สามารถแกล้งทำดีกับคนที่ฉันไม่ชอบได้จริงๆ ” ฉันถอนหายใจ
“ฉันละช็อคเป็นไปได้ยังไง ผู้ชายที่แกเจอในลิฟต์จะเป็นคนเดียวกับเป้าหมายแก” คีช่านิ่วหน้าสงสัย
“อือ แทนที่จะเจอกันละส่งสายตาหว่านไปให้ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะทำแบบนั้นใส่หมอนั่นเลยสักนิด”
“หรือแกอยากจะเลิกทำ ให้เนลไปเล่นแทนมะ?”
“คีช่าแกจะบ้าเหรอ ฉันบอกแล้วเราว่าเราใช้คนที่รู้จักไม่ได้” ฉันขมวดคิ้วใส่คีช่า
“แกก็อย่าประมาทละกันนะ ฉันว่าพวกเขาดูร้ายกาจไม่เบาเลยอะ”
“ร้ายกาจยังไงฉันก็ไม่กลัวหรอก ถือว่าดีแล้วกัน ยิ่งเกลียดเขา ฉันจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง” ฉันว่าพลางเชิดริมฝีปาก
“ยังไงแกก็ระวังตัว ฉันไม่ค่อยไว้ใจพวกนั้น แถมยังเป็นศัตรูกับเนลอีก”
“เชื่อฉันเถอะ พวกเขาไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรขนาดนั้นหรอกน” ออสโลกับโนเอล ก็ไมได้เลวร้ายอะไรมาก พวกเขาก็แค่ใจร้ายเฉยๆ ส่วนเฮลซินกิก็.. น่าจะลองทำดีกับเขาดู
“ยังไงพวกเขาก็เป็นผู้ชาย ระวังตัวหน่อยละกัน” คีช่าว่าละคว้าแขนฉันข้าไปกอด
“รู้แล้วหน่า ไม่ต้องเข้ามาใกล้เลยนะ” ฉันว่าละผลักหน้าคีช่าออกไป
ฉันทำงานที่คลับทุกวันยกเว้นไม่มีวันหยุด แต่ก็เป็นช่วงกลางคืนเป็นต้นไปเลยไม่ได้มีผลกับการเรียนมากมาย วันนี้พวกเรามีเรียนแค่ช่วงเช้าเฉยๆ เลยทำให้ช่วงบ่ายวันนี้ว่างทั้งวัน ฉันกับคีช่าไม่มีอะไรทำเลยว่าจะกลับไปที่คอนโด ไปนอนเล่นอุ่นๆ กัน เพราะช่วงนี้อากาศเย็นจนทำให้ฉันไม่อยากไปไหน ส่วนพวกทรอยก็จะตามมาทีหลัง ชีวิตที่เฮลซินกิน่าเบื่อสุดๆ อย่างงนะ เฮลซินกิเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์ ไม่เกี่ยวกับนายเฮลซินกินั่นอะไรเลย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกไปเล่นกีฬาสักเท่าไร เมื่อก่อนช่วงนี้ว่างๆ ฉันเคยไปเล่น ฮอกกี้กับพวกวิลเลี่ยม แต่ดูเหมือนช่วงนี้พวกเขามัววุ่นวายกับพวกนักสเก็ตบอร์ดอะไรเถือกนั้น เห็นว่าจะต้องแข่งอีก ซึ่งพวกเขาก็บังคับให้ฉันไปดูวันเสาร์ที่จะถึงจะนี้ อีกหนึ่งประเด็นคือเพราะว่าทรอยเข่ง คีช่าเลยบังคับให้ฉันต้องไป
“งั้นแสดงว่าเฮลซินกิก็ต้องพักอยู่ที่นี่ใช่มะ” คีช่าโพล่งขึ้นมาในขณะที่เราทั้งคู่เดินเข้าไปอยู่ในลิฟต์
“เจอที่ทำงานก็จะแย่เเล้ว” ฉันเบะปาก
“คิดในแง่ดี มันอาจจะเป็นโชคที่ทำให้แกได้เจอกับเขา เงินหมื่นเหรียญ!” คีช่าพูดด้วยในตาแวววาว
“จริงสินะ” ฉันพึมพัม
พอถึงห้อง คีช่าก็ปีนขึ้นเตียงบอกจะไปงีบสักครู่ ส่วนฉันก็หยิบแม็กบุคขึ้นมานั่งเล่นที่โซฟาห้องรับแขก ช่วงนี้รู้สึกว่าไม่ค่อยเช็คหน้าได้ถ่ายวีดิโอลงเท่าไรเลย ที่อัพโหลดวล็อกไปเมื่อวันก่อน ไม่รู้ว่าวันนี้มียอดวิวเท่าไรแล้ว ฉันมีหน้ายูทูปสองช่อง ช่องแรกเป็น Main Channel ชื่อว่า ‘Roseminty’ อัพเดตเกี่ยวกับ ความสวยความงาม แฟชั่น แล้วก็พูดเรื่องเรื่อยเปื่อย ส่วนอันที่สองเป็น Vlog’s channel ฉันใช้ชื่อว่า Rosebelle’s vlog วล็อกอันนี้มีคนติดตามประมาณ สี่แสนกว่าคน ฉันไม่อยากเชื่อว่าคนธรรมดาอย่างฉันจะมีใครสนใจใยดีเรื่องชีวิตส่วนตัวเหมือนอย่าง พวกเมเดอร์ลิน หรือ อิงกริช Tuesdayink วล็อกเกอร์จากเมืองหรูหราอย่างลอนดอน วล็อกของพวกเขามีคนติดตามเยอะ จำนวนที่ว่าโด่งดังในโลกออนไลน์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง โดยเฉเพราะ อิงกริช ฉันเคยอ่านเรื่องของเธอในนิตยสารออนไลน์ฉบับหนึ่ง เห็นเธอเปรยๆ ว่า ไม่คิดว่าจะมีใครสนวีดีโอของเธอเท่านี้มาก่อน เพียงเพราะเธอเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่บ่นใส่กล้องตรงหน้าอย่างไร้สาระ แต่ทว่ายอดคนดูนั่นมาก จนทำให้อิงกริชทึ่งและ มันยิ่งกว่าฝันเป็นซะอีก ฉันเคยเห็นเธอเมื่อครั้งหลายปีก่อนเมื่อตอนที่ฉันกลับไปเยี่ยมญาติที่อังกฤษ แล้วไปบังเอิญเจอแฝดแจ็กฟินน์ แฮรี่ นั่นทำให้ฉันเจออิงกริชไปด้วย ฉันว่าเธอดูหยิ่งมากๆ สำหรับฉัน มันคงจะยากที่จะเข้าไปรู้จักเธอ..
ฉันเลื่อนสาตาจากคลิปวีโอของตัวเธอมาดูที่ Recommend video ของใครคนหนึ่ง เขามียอดวิวประมาณเจ็ดแสนกว่าคน เพียงแค่เป็นคลิป ‘Draw my life’ ธรรมดาเท่านั้น ฉันคลิกเข้าไปดูด้วยความสนใจอย่างรู้อย่างเห็น และคลิกดูคลิปอื่นๆ ของเขา ให้ตายเถอะ! เจ้าของยูทูปนี้ต้องเป็นบ้าแน่ๆ เลยเพราะทุกวีดีโอของเขาที่ถ่าย เห็นเพียงถึงคอเท่านั้น ไม่มีใบหน้า ถึงจะเห็นหน้าแต่ก็เอาหน้าการ์ตูนมาใส่แทน แต่ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวีดีโอของเขามีเสน่ห์มากแค่ไหน ทั้งเสียงพูดของเขา ความตลกของเขา ฉันกดติดตามวล็อกเขาทันที ‘Berlyin’s daily’ ... ฉันอยากรู้จริงๆ ว่านายคือใคร ความอยากรู้อยากเห็นเลยทำให้ฉันส่งข้อความไปหาเจ้าของ Berlyin’s daily ทาง Tumblr
ฉันนั่งมองนาฬิกาที่แควนอยู่บนพนังด้วยสายตาเบื่อหน่าย ตอนนี้วิลเลี่ยม ทรอย เนลล์ และจอยซ์มากันครบแล้ว ฉันที่นั่งเบื่อๆ มองพวกเขานั่งคุยกันเลยเดินไปที่ห้องครัวหาจอยซ์
“อยากได้อะไรมั้ย เดี๋ยวออกไปซื้อให้” ฉันถามจอยซ์ในขณะที่เขากำลังบดแป้งพิซซ่า วันนี้เราจะมีปาร์ตี้กันอีกแล้วน่ะ
“เบียร์!!!!!!!!!” วิลเลี่ยมตะโกนจากห้องรับแขก
“ใช่ 12 ลังเลยครับ!” ทรอยโพล่งอย่างเมาๆ เดินมาจากห้องนอนฉัน
“พวกนายไปกินที่ไหนมาก่อนเนี่ย” ฉันว่าละถอยห่างจากทรอยที่เดินเข้ามาใกล้
“ซื้อมาสักสองลังแล้วกัน” เนลว่าละเดินมาหา “เดี๋ยวฉันไปด้วย”
“ฉันไปคนเดียวได้ นายอยู่ที่นี่กันเถอะ”
“เธอถือไหวหรือยังไงกัน” เนลลิกคิ้วมองฉันอย่างสงสัย โอเคยอมแพ้..
ฉันกับเนลเดินมากันที่ร้านขายเครื่องดื่มที่ไม่ไกลจากคอนโดนฉันนัก จากนั้นเนลล์ก็เข้าไปสั่งเบียร์ส่วนฉันก็หยิบขนมขบเขี้ยวไปที่เช็คบิล พวกเราถือกล่องเบียร์กันคนละไม้ละมือ มันดูเหมือนจะหนักนะ แต่ว่าเบากว่าที่ฉันคิดไว้ ระหว่างที่เดินกลับเนลก็เอ่ยถามฉัน
“ตกลงเธอเจอไอ้เฮลแล้วใช่ไหม”
“อื้อ เขาน่าหมั่นไส้อย่างที่นายว่าจริงๆ” ฉันว่าแล้วยิ้มน้อยๆ ให้เขา
เนลแสะยิ้มให้ฉัน ระหว่างที่เดินคุยกันจนไปถึงคอนโด มันก็ถึงเวลาที่ฉันจะต้องไปทำงานที่คลับ ฉันเลยฝากกล่องเบียร์ให้เนลขึ้นไปแทน วันนี้ที่พวกเรามารวมตัวกันที่ห้องฉัน ก็เพราะวันนี้มีปาร์ตี้บางอย่าง ความจริงแล้วมันไม่มีเหตุผลหรอกนะที่พวกเขาจะปาร์ตี้กัน
ฉันเดินเข้าไปหามอร์แกนที่ห้องทำงานของเธอเพื่อเช็คว่ามาทำงานเเล้ว จากนั้นฉันก็เดินเข้าไปในห้องซ้อมดนตรี พวกเฮลซินกิอยู่ครบกันในห้องซ้อมแล้ว แต่ทว่าพวกเขาดูไม่สนใจใยดีฉันสักนิด คิดจะแก้แค้นเรื่องที่ฉันบอกมอร์แกนงั้นเหรอ.. งั้นก็ไม่สนใจกันไปตลอดนะ!
หนึ่งชั่วโมงถัดมา
ฉันแทบจะไม่ได้คุยกับพวกเขาเลย ถึงแม้ว่าเขาจะออกมากินน้ำ หรือทำอะไร แม้แต่ออสโล ทำไมพวกเขาเมินฉันแบบนี้ ฉันเริ่มรู้สึกอึดอัดแล้วนะ พวกเขาคลุกกันอยู่แต่ในห้องกระจกนั้น ส่วนฉันก็นั่งอยู่ด้านนอก ไม่ได้แล้วฉันต้องทำอะไรซักอย่าง ยิ่งมาโกรธเมินอะไรแบบนี้ แผนฉันคงไม่ก้าวหน้าแน่ๆ เพราะฉะนั้นฉันจะต้องทำดีกับพวกเขา ท่องไว้โรสเบล..
“นี่พวกนายมีอะไรให้ฉันช่วยมั้ยอะ” ฉันว่าละแง้มหน้าถามเขา ทว่าไม่มีใครสนใจใยดีฉันเอาเสียเลย
“เธอไม่ได้มีหน้าที่ในนี้สักหน่อย” โนเอลว่าแบบไม่หันแม้แต่หันมามอง
เออฉันไม่มี..
“นี่พวกนายโกรธฉันหรอ” ฉันว่าพลางปั้นหน้าเศร้า “เฮลซินกิ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะฟ้องมอร์แกนนะ แต่ตอนนั้นอารมณ์มันพาไป” ปั้นเสียงเศร้าอย่างสุดซึ้ง
“เธอเล่นตลกอะไรของเธอ” โนเอลยังว่าต่อ..
“เปล่านี่ ฉันแค่เสียใจ แล้วรู้สึกอึดอัดด้วย..”
“จริงเหรอ..” ออสโลว่า
“อืม จริงๆ นะ” ฉันพยักหน้าหงึกๆ “จะให้ฉันทำอะไรก็ยอมเลยล่ะ แต่มาดีกันเถอะ”
“ทำอะไรก็ได้งั้นหรอ ” เฮลซินกินถามซ้ำด้วยรอบยิ้มเจ้าเล่ห์
“เธอจะทำอะไรก็ได้ที่พวกฉันสั่ง... ฉันยกให้นายเลยว่ะ” ออสโลว่าพลางมองเฮลซินกิ
“เหมือนกัน” เฮลซินพยักหน้ามองเพื่อนเขาอย่างมีเลศนัย เดี๋ยวๆ นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่จะยอมทำทุกอย่าง ดูรอยยิ้มพวกเขาสยองชะมัด ฉันคงต้องสมองฟันเฟืองแน่ๆ ☹
“ถ้าไอ้เฮลพอใจ พวกฉันก็พอใจนะ” ออสโลว่า
แล้วไอ้ความพอใจของพวกนายมันมีขีดจำกัดเท่าไรกัน
“งั้นหลักเลิกงานเจอกัน” เฮลซินกิว่าแล้วเดินเข้าไปในห้องซ้อม ฉันอมยิ้มให้พวกเขาจากนั้นก็เดินมานั่งที่เดิม พระเจ้ายัยโรสเบล เธอต้องบ้าไปแล้วเเน่ๆ แค่จะทำให้พวกเขาตายใจแต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นยอมทำอะไรก็ได้ ฮึ่ย!~ ยังไงก็ตาม ยังไงมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือไปแน่ นี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้น
หลังจากที่หมดชั่วโมงของฉัน ฉันนั่งรอเฮลซินกินอยู่หน้าไนต์คลับ ตอนนี้งานของเขายังไม่จบ หมอนั่นต้องร้องเพลงอีกตั้งสองชั่วโมง ฉันส่งข้อความบอกคีช่าว่าวันนี้อาจจะกลับดึกหน่อย ให้ปาร์ตี้กันไปก่อนเลย ยัยนั้นส่งข้อความทำหน้าร้องไห้กลับมา แหมอยู่กับทรอยก็น่าจะมีความสุขแล้วนี่นา เอ๊ะ! ทำไมฉันต้องรู้สึกอิจฉาพวกเขาด้วยเนี่ย
ฉันเดินไปร้านข้างมินิมาทข้างๆ เพื่อซื้อของบางอย่างให้เฮลซินกิ
‘บุหรี่ยี่ห่ออะไรคะ?’
โปรดอย่าตกใจค่ะ ฉันไม่เคยยุ่งเรื่องแบบนี้แน่ๆ แต่ว่านายเฮลซินกิบอกให้ซื้อมาให้ข้างในต่างหาก เสียสุขภาพจะตาย
เสียอึกกะทึกคึกโครมข้างในไนต์คลับทำให้ฉันต้องเดินออกมานั่งข้างนอกกับมอร์แกน ฉันกับมอร์แกนเริ่มจะสนิทกันบ้างแล้ว เธอเป็นคนน่ารักและเข้ากับใครได้ง่าย ถึงแม้ว่าใบหน้าหวานจะดุแต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นซะทีเดียว
“ไม่ออกไปอยู่ข้างในรอเฮลอะโรส” คุยกับมอร์แกนสักพักไม่นานเฮลซินกินก็เดินออกมาพร้องกับกระชากมือฉันเดินตามเขาไป ยังไม่ทันได้ร่ำลา
“นี่จะให้ฉันทำอะไรอ่ะ” ฉันหยุดถามเขา
“ตามฉันมาเถอะ” เขาว่าและเร่งผีเท้าไปข้างหน้าเรื่อยๆ อะไรของเขานะ ฉันเร่งฝีเท้าเดินตามเขา แต่ว่าหมอนี่เดินเร็วชะมัด
“นี่เฮลซินกิบอกฉันมาก่อนไม่ได้เหรอว่าเรากำลังจะไปไหน”
“...”
“นาย!” ฉันว่าละกระฉากแขนเสื้อเขาให้หยุด
“…” เฮลซินกิปรายตามองฉันอย่างหงุดหงิด “ไปห้องฉันโอเคมั้ย” เขาว่าพลางเลิกคิ้วใส่ฉันอย่างยียวน
ห้องเขา! กรี้ดดด... ทำไมต้องไปอ่ะ
ตายแล้วเขาเป็นเพลย์บอยซะด้วย...
ฉันต้องแย่แน่ๆ เลยทำไงดีนะ ...
“นี่ยัยเพี้ยน อย่าแพนนิคกได้ปะ ก็เคยๆ กันอยู่แล้วทำไมต้องให้พูดอะไรมากด้วย” คะเคยอะไรของนายวะ ฉันมองเฮลซินกิตาโต
“นายหมายความว่าไง อะไรเคยๆ ของนายยะ”
“เอ้า!~ ก็เรื่องแบบนั้นไง ทำไมเธอต้องให้ฉันพูดเยอะๆ ด้วยเนี่ย” เฮลซินกิว่าแล้วก้มหน้าลงใกล้ฉัน
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ แบบนั้นนะ” ฉันสบตากับเขาและกระชากแขนออก
“หึ เลิกเล่นตัวแล้วไปกับฉันสักที”
“ฉันไม่ไป ถ้าให้ไปทำเรื่อง ‘สกปรกแบบนั้น’ ทำไมนายไม่ไปซื้อเอาข้างทาง!” ฉันแพดเสียงดังให้เขาหยุด และแกะมือเขาออก
“ไหนว่าเธอจะทำอะไรก็ได้ล่ะ” เขาหยุดแล้วมองฉันด้วยสายตานิ่งๆ
“ฉะฉัน..” ให้ตายเถอะ นี่ฉันแพ้เขาอีกแล้วสิ ฉันขบปากล่างด้วยความโกรธ
“เธอนี่คิดมากจริงๆ ฉันแค่จะให้เธอไปทำงานความสะอาดที่ห้องเอง” เขาหยักไหล่แล้วยิ้มน้อยๆ เฮลซินกิคงจะรู้ทันว่าฉันคิดอะไรอยู่ เขาพยายามจะทำอะไรกันแน่ ยั่วโมโหเหรอ เฮอะ และเขาก็ทำสำเร็จ ฉันมองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง จากนั้นฉันปรับสีหน้าให้ดูปกติ
“ไปสิ” ฉันว่าเดินนำหน้าเขา
ณ คอนโด
เราเดินมาถึงคอนโดโดยไม่พูดอะไรเลยสักนิดเดียว
“เธออยู่ห้องไรมีอะไรจะได้ใช้ถูก” เขาก้มแตะคีย์การ์ดถามฉันด้วยใบหน้านิ่งเฉย ใช้คำว่า ‘ใช้ ’ เลยงั้นเหรอ มันจะมากไปแล้วนะ
“25/5” ฉันตอบไป พอถึงชั้น 9 เขาก็เดินนำฉันไปที่ห้อง ว่าแต่นี่มันจะดีเหรอที่ฉันจะเข้าห้องกับผู้ชายแบบนี้
“เธอบอกจะให้ทำอะไรก็ได้ จนกว่าฉันจะพอใจใช่ป่ะ” เฮลซินกิว่าขณะเดินอยู่ข้างหน้า
“ใช่..แต่ว่า จนกว่านายจะพอใจฉันไม่ได้พูด”
“ถึงแบบนั้น.. ถ้าฉันไม่พอใจขึ้นมา ก็ต้องทำเรื่อยๆ อยู่ดี”
“แต่หลังจากนั้นพวกนายต้องดีกับฉัน ฉันไม่อยากทะเลาะกับพวกนายอีก” ฉันว่าเอียงตัวไปถามเขาที่อยู่ด้านหน้า
เขาทำเป็นใช้ความคิด จากนั้นก็มองมาที่ฉัน “อืมตกลง”
พอถึงห้องของเขา ภาพที่ฉันเห็นตรงหน้าก็แทบจะช็อก เพราะว่าภายในห้องรกมากๆ ไม่สิ ต้องใช้คำว่าสรกปกเลยต่างหาก กล่องเปล่าวางระเกะระกะไปตามพื้นห้อง ทั้งเสื้อผ้า ขวดเบียร์ อาหารเน่า สงครามอะไรกับหรือไง..
“นายอยู่ในห้องแบบนี้ตลอดหรอ..” ฉันถามเขาด้วยความสงสัย แต่งตัวก็ดูสะอาดสะอ้านแต่ความจริงซกมกอย่าบอกใคร..
“เปล่า ไม่ได้เข้ามาอยู่ช่วงนี้ บังเอิญว่าแม่บ้านฉันไม่อยู่เพราะฉะนั้นนั้น นี่เป็นงานของเธอแล้ว ” เฮลซินกิชี้ไปที่กองขยะมากมายที่อยู่ตรงหน้าฉัน นี่..เขาต้องแกล้งฉันแน่ๆ
“เรื่องแค่นี้ ฉันทำได้อยู่แล้ว” ฉันว่ายืดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างอาจหาร ตอนนี้มันก็ดึกเเล้วด้วย กว่าจะเสร็จก็คงจะดึกแน่ๆ
“นี่เก็บเตียงให้ฉันก่อนฉันจะนอน” เฮลซินกิว่าพลางพาฉันเดินไปที่ห้องเขา โชคดีที่ห้องนอนไม่ใหญ่เท่าไร เพียงค่าเสื้อผ้าเเละผ้าปูที่นอนเท่านั้นกองอยู่บนพื้น ฉันรู้สึกได้ว่านายเฮลซินกินั่นกำลังมีความสุข ฮึ่ย! ทีใครทีมันนะยะ เขาสั่งนู่นสั่งนี่จนทำให้ฉันมึนหัวไปหมด ทำเองดีไหมยะ
“นายมันเป็นผู้ชายพันธ์นั้นจริงๆ” ฉันเบ้หน้ารังเกียจเมื่อเห็นกางเกงในสีแดงลูกไม้กับยกทรงผ้าบางที่ซ่อนอยู่ในกองผ้าห่ม
”พึมพัมงึมงัมอะไร” เขาว่าขณะเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์ ฉันมองอย่างแขยงๆ ของที่อยู่ตรงหน้า จนเขาต้องหัวเราะ
“อยากได้ก็เอาไปใส่ได้นะ”
หลังจากเก็บห้องนอนของเขาเสร็จ ฉันก็เดินออกมากเก็บที่ห้องนั่งเล่นบ้าง โอ้ย เหนื่อย แค่หนึ่งห้องใช้เวลาไปตั้งหนึ่งชั่วโมงเชียวเหรอ ถึงแม้ว่าจะเป็นอากาศหนาวฉันก็อยากจะถอดทุกอย่างออกจากตัวให้หมด ฉันถอดเสื้อโค้ดตัวหนาออก ให้เหลือเพียงเสื้อแขนยาวตัวบางสีขาว กับเลกกิ้งตัวบาง จากนั้นก็รวบผมให้เป็นจุกหลวกๆ อยู่กลางหัว
“ถึงกับต้องถอดเสื้อผ้ากันเลยหรือไง” เฮลซินกิว่าแล้วแสะยิ้มใส่ฉัน ฉันจิ้ปากใส่เขาอย่างไม่สนใจ หลังจากเก็บขยะเสร็จ ฉันก็ดูดฝุ่น ถูห้องและ จัดระเบียบ และในที่สุด..
“นายจะฆ่าฉันแน่ๆ” ฉันเป่าลมออกจากปากพลางปาดเหงื่อบนใบหน้าและฟุบลงที่โซฟางกลางห้องโถงเขาอย่างอ่อนเพลีย พนันได้ว่าแรงทั้งหมดของฉันมันได้หายไปหมดเกลี้ยงแล้ว
“เธอนี่สุดยอดอะ” เขายิ้มแป้น...
“ฉันไปได้แล้วใช่มะ” ฉันว่าละลุกขึ้นฮวบเพื่อจะเดินออก ไปแต่ทว่า..
“เฮ้ ฉันยังไม่พอใจเลย จะไปไหน” เขาว่าละกระฉากแขนฉันไว้ ใบหน้ากรุ้มกริ่มนั้นดึงตัวฉันเข้ามาใกล้
“ปล่อยฉันนะ นายจะทำอะไรน่ะ” ฉันพยายามสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของเขาแต่กระนั้นมันก็ไม่เป็นผล
“เฮ้ ดิ้นทำไมหล่ะ” เขาว่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้
“นะนาย จะทำอะไร” ฉันว่าละมองในตาสีน้ำตาลอย่างกล้ากลัวๆ ในตาเขาแพรวพราวเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ นี่ฉันควรจะเล่นด้วยหรือยังไงดี ให้ตายสิ แต่ในใจฉันมันกลับร้องขอความช่วยเหลืออย่างบอกไม่ถูก
“ขยับเข้ามาทำไม่เล่า” ฉันว่า
“...”
“เฮลซินกิ..”
ตึก ตัก ตึก ตัก..
“เธอ... มีฝุ่นติดอยู่” เขาว่าแล้วใช้นิ้วโป้งปาดที่หน้าผากฉันอย่างเบามือ
“อืม ขอบคุณนะ”
“แล้วพรุ่งนี้เจอกัน..”
“อะอื้ม” ฉันค่อยๆ ขยับตัวออกจากเขา เสียงตะกุกตะกักของฉันทำให้เขาอมยิ้มเล็กๆ ฉันรีบหยิบเสื้อโค้ดและรองเท้าเดินออกมากจากห้องเขาทันทีโดยไม่ล่ำลา เกือบไปเเล้วไหมหล่ะ เกือบจะแย่แล้วไง แค่ฝุ่นติดแค่นี้ทำไมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนากนั้นด้วยนะ เรื่องแกล้งคนนี่ถนัดเชียว เฮ้อ...รู้สึกตัวเองพลาดท่าไปแล้ว เขาไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂
คุยกัน ♡
นางเอกโดนแกล้งอีกแล้ว น่าสงสารจุงเบย 555555 บทนี้ราแต่งรวดเร็วมาก พอเสร็จก็อยากจะเอาลง
ทั้งที่บทที่เเล้วกำลังเอาลงแท้ๆ เอาหล่ะ ฝากอ่านด้วยนะ เดี๋ยวอาจจะมีฉากกุ๊กกิ๊กน่ารักในฉากต่อไป แผนร้ายของนางเอกกำลังเริ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่แผนเธอไม่ฉลาดเอาเสียเบย โดนพระเอกแกล้งตลอด
เราแอบให้อยากมีฉากแบบนี้เร็วๆ 5555555
ความคิดเห็น