BaRaMos เกมราชาในป้อมอัศวิน - BaRaMos เกมราชาในป้อมอัศวิน นิยาย <Fic> BaRaMos เกมราชาในป้อมอัศวิน : Dek-D.com - Writer

    <Fic> BaRaMos เกมราชาในป้อมอัศวิน

    เรื่องเก่าเอามาลงไหม่ก๊ะ ช่วยเม้นด้วยเน้อ ขอบคุนค่า "นายเบื่อขนาดนั้นเรยเหรอ งั้นชั้นมีเกมมาเสนอ" โร เซวาเรสกล่าว

    ผู้เข้าชมรวม

    874

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    874

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 มี.ค. 49 / 14:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ณ ตอนปิดเทอมของนักเรียนป้อมอัศวินปี 3 อากาศภายนอกดูไม่เป็นใจนักสำหรับนักเรียนที่ต้องการจะ

      กลับไปเยี่ยมบ้านเยี่ยมเมืองของตน  เพราะขณะนี้ได้มีฝนเลือดห่าใหญ่ตกหนักตลอด3วัน ส่งผลให้นัก
      เรียนทุกคนต้องอยู่โยงภายในป้อม

      “เฮ้อ  น่าเบื่อจัง” เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะ ทีฟ ออฟ บารามอสซึ่งขณะนี้กำลังนั่งบ่นไปกินไปภายในห้อง
      นั่งเล่นรวมของป้อมอัศวินซึ่งมีนักเรียนป้อมอัศวินปี 3 มากมายที่ไม่ได้กลับบ้าน

      “นายเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ  งั้น ชั้นมีเกมมาเสนอให้ทุกคนเล่น” โร เซวาเรส บุรุษขอทานแห่งทริสทอร์เอ่ยขึ้น

      “จริง  ตกลงเลย” นัยน์ตาพราวระยิบ จากสุดยอดหัวขโมยผู้ไม่เจียมตัวเอ่ยตอบ

      “เกมที่ฉันจะเสนอก็คือ  เกมราชา” โรเอ่ย “มีใครสนใจจะเล่นบ้าง”

      “ไม่ต้องถามหรอกเล่นมันหมดนี่แหละ ส่วนคนที่ไม่อยากเล่นก็กลับห้องไป” เมื่อเฟรินพูดจบก็เหลือบไปเห็นเจ้าชายน้ำแข็งกับนักฆ่าเพื่อนซี้กำลังจะเดินกลับห้องเลยรีบเรียกไว้ก่อน “คนอื่นกลับได้แต่พวกนายห้ามกลับ”
      วาจาเห็นแก่ตัวสุดๆจากหัวขโมยทำให้เพื่อนๆในป้อมพากันยกมือกุมขมับพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พอพูดเสร็จก็ทำสายตาเว้าวอนจนน้ำแข็งเกือบละลายจึงพยักหน้าแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนนักฆ่าเพื่อนซี้เมื่อเห็นความใจอ่อนของเจ้าชายเลยจำใจต้องกลับไปนั่งต่อ

      “เฮ้อ” กลับไปในห้องก็ไม่มีอะไรทำนั่งอยู่ข้างนอกอาจจะสนุกกว่าก็ได้ คิลคิดแล้วกลับไปนั่งที่เดิม

      “บอกไว้ก่อนว่าถ้าดึกมากฉันจะกลับก่อนนะ” คาโลพูดแล้วคิลก็พยักหน้าเห็นด้วย

      “ตกลง เรามาเริ่มกันดีกว่าโร ตอนนี้ที่เหลือก็ ฉัน นาย คาโล คิล ซีบิล ครี้ด เจค เอ็ดเวิร์ด มาทิลด้า เรนอน แล้วก็แองจี้” เฟรินพูดพลางตวัดสายตาไปมา

      บอกไว้ก่อนนะว่าอย่าเล่นอะไรแผลงๆ” มาทิลด้าเอ่ย

      “ตกลงว่ามีเล่นกันทั้งหมด11คน”โรหยุดไปพักหนึ่งเพื่อสบสายตากับเพื่อนทุกๆคนอย่างมีเลศนัย “กติกาคือฉันจะมีไม้ทั้งหมด11แท่งตามจำนวนคน….”

      “ฉันไม่ค่อยไว้ใจสายตาของนายโรนั่นเลย” คิลเอ่ย

      “ช่างมันเถอะน่า มีอะไรสนุกๆ ให้เล่นก็ดีแล้ว” เฟรินเอ่ยพลางสะกิดให้เพื่อนฟังกติกาต่อ

      “ทั้ง10แท่งจะมีหมายเลขติดไว้คือหมายเลข1-10ส่วนอีกแท่งหนึ่งเราจะแต้มสีแดงไว้  คนที่จับได้ไม้ที่มีแต้มสีแดงจะได้เป็นราชาและนั่นก็หมายความว่าราชาจะสามารถสั่งให้คนอื่นที่หยิบแท่งที่เป็นหมายเลขทำอะไรก็ได้  แต่ ถ้าคนที่ไม่ยอมทำก็จะโดนเพื่อนๆทุกคนรุม” โรอธิบายต่ออย่างชวนให้ขโมยเสียวสันหลังวาบ

      "เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” โรเสนอ ว่าแล้วก็จัดแจงเอาไม้ที่เขียนหมายเลขและไม้ที่แต้มสีแดงใส่รวมกันไว้ในกระบอกสีทึบโดยคว่ำส่วนที่มีหมายเลขติดและสีแดงติดลงไปก้นกระบอก แล้วเขย่าให้ทุกคนหยิบ

      ฉันเป็นราชา” คิลพูดพร้อมกับประกายขบขันในดวงตา พร้อมกับออกคำสั่ง  “ให้เบอร์ 3 กับเบอร์ 9 หอมแก้มกัน” 
          
      คำสั่งจากพระราชาทำให้ทุกคนตะลึง เพราะผู้ที่ได้เบอร์ 3 คือซีบิลหนุ่มน้อยผู้เรียบร้อยที่ต้องรับเคราะห์เพราะเบอร์ 9 ก็คือครี้ดบุรุษหนุ่มตาเดียว  ในขณะที่ทุกคนกำลังอึ้ง เฟรินก็แหย่เข้าให้
      “แหม ราชาสั่งอะไรมาก็ช่วยทำตามพระประสงค์หน่อยสิ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะจนท้องแข็ง

      “ฉันครี้ด ธันเดอร์ เดอะ วอริเออร์ผู้กล้าหาญมีหรือจะไม่กล้าทำ” เจ้าตัวประกาศก้องพร้อมย่างสามขุมไปหาซีบิลอย่างรวดเร็วและ............จู่โจมโดยการหอมแก้มแบบที่ว่าหนุ่มน้อยซีบิลไม่ทันตั้งตัว ทำเอาซีบิลหน้าแดง

      “วิด หวิ้ว” เสียงผิวปากจะมาจากใครไม่ได้นอกจากหัวขโมยแห่งป้อมอัศวิน แต่คราวนี้มีเจคเป็นผู้ช่วยทำให้คนอย่างครี้ดเริ่มทนไม่ไหวแต่ก็ต้องข่มสติไว้ในใจและกำลังคิดว่าเสร็จจากงานนี้เมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น

      “มาจับใหม่  จับใหม่” โรเอ่ย พลางเขย่ากระบอกที่ใส่ไม้ไว้ไปมาอย่างอารมณ์ดีแล้วให้ทุกคนจับเบอร์ขึ้นมาใหม่

      “ฉันได้เป็นพระราชา” โรเอ่ยด้วยเสียงแห่งชัยชนะ “ฉันขอสั่งให้เบอร์ 10 ตบหน้าเบอร์ 2”
      เมื่อสั่งเสร็จมาทิลด้าเจ้าหญิงแห่งลุ่มน้ำอเมซอนผู้ได้รับหมายเลข 10 ก็ยืนขึ้นพลางกวาดสายตามองหาผู้ที่ถือหมายเลข 2 เมื่อเจค ได้ยินคำสั่งแล้วรู้ว่าเบอร์ 10 เป็นมาทิลด้าก็สะดุ้งแล้วหันไปมองเจ้าหญิงแห่งลุ่มน้ำอเมซอนอย่างหวาดๆ ด้านมาทิลด้าก็เริ่มผิดสังเกตในอาการของเจคจึงก้าวเข้าไปยืนใกล้ๆแล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานทำให้เจคสะดุ้ง      อีกระรอก “เจคนายได้เบอร์ 2หรอ”เจคพยักหน้าพลางสวดมนต์ไปด้วย

      “อยู่เฉยๆ ฉันจะไม่ทำให้นายเจ็บมากนัก หึหึ” มาทิลด้าเอ่ยน้ำเสียงเหี้ยมแล้วก็   เปรี้ยงงงงงงงงงงง   เจคผู้เหมือนตกนรกทั้งเป็นก็ได้รอยฝ่ามือไปประทับไว้บนใบหน้าอย่างสวยงาม
      ทุกคนพากันหัวเราะเจคที่ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วเพราะลูกตบของมาทิลด้าทำให้เจคชาไปทั้งตัว แต่มีเพียงบุรุษคนเดียวเท่านั้นที่ไม่หัวเราะไปกับเค้าด้วย ไม่ต้องสงสัยเพราะบุรุษคนนั้นก็คือ คาโล วาเนบลี ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างไม่สนใจสิ่งภายนอก
      แล้วโรก็เขย่ากระบอกอีกรอบให้ทุกคนจับ

      “ฉันได้เป็นพระราชา” แองเจลิน่าเอ่ยขึ้น “ฉันขอให้เบอร์ 4 กอดเบอร์ 6”
      เมื่อเบอร์ 4 และเบอร์ 6 ได้ยินดังนั้นก็สะดุ้งพร้อมกัน เฟรินซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเห็นปฏิกิริยาของเพื่อนซี้และเจ้าหญิงคนงามก็เผยรอยยิ้มและกระเซ้าเข้าให้ “ คิลนายนี่ช่างโชคดีจริงๆเลย ทำบุญไว้เยอะล่ะสิถึงได้ได้กอดกับเจ้าหญิงคนงามน่ะ” ว่าแล้วก็แสร้งทำหน้าหนักใจแกมอิจฉาส่งมาให้เพื่อนซี้ข้างๆนักฆ่าผู้ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครจำเป็นต้องเดินไปกอดเจ้าหญิงแสนสวยแห่งคาโนวาลด้วยท่าทีเคอะเขิน ส่วนเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลบัดนี้หน้าแดงก่ำไม่แพ้เจ้านักฆ่าตัวดี

      เมื่อวีรกรรมของนักฆ่าหนุ่มผู้กล้าหาญเสร็จแล้วเพื่อนๆก็พากันมาจับใหม่อีกรอบ
      คราวนี้นักบวชหนุ่มนามเอ็ดเวิร์ดผู้เงียบไปนานกล่าวขึ้น “ฉันเป็นพระราชา” “งั้นฉันขอให้เบอร์ 1 กับเบอร์ 7บอกรักกัน”คำสั่งจากพระราชานักบวชผู้ไม่ไว้หน้าใคร ทำให้ประชาชนผู้รอรับคำสั่งตะลึง อ้าปากค้าง

      เฟรินหัวขโมยผู้ถือหมายเลข 1 กับแองเจลิน่าผู้ถือหมายเลข 7 กำลังอึ้งเพราะถ้าไม่ทำก็โดนรุมสถานเดียวแล้วหัวขโมยที่รักตัวกลัวตายอย่างเขาจะมีทางเลือกใดได้นอกจากบอกรักคนตรงหน้าที่ออกมายืนรอคำสารภาพรักอยู่

      ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินเข้าไปหาเธอ และเอื้อมมือไปสัมผัสสาวน้อยก่อนจะจุมพิตแล้วพูดว่า

      “ฉัน......รักเธอ”แองเจลิน่าหน้าแดงก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ
      ฉับพลันห้องทั้งห้องก็กลายเป็นน้ำแข็งแม้กระทั่งเตาผิงในห้องนั่งเล่นก็ดับวูบ แล้วจู่ๆอากาศก็อบอุ่นขึ้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      เฟรินซึ่งรู้สึกถึงสายตาเย็นเฉียบจากทางด้านหลังก็รีบหันไปมอง แล้วก็พบกับสายตาของเพื่อนทั้งสอง คนหนึ่งกำลังขันลึกกับอาการที่เรียกว่าหึงของเพื่อนข้างๆ ส่วนเพื่อนข้างๆที่ถูกเรียกว่าทำอาการหึง ก็มีสายตาเย็นชาจนชนิดที่เฟรินคิดว่าคงจะไม่ได้พบความร้อนอีกแล้วในชีวิตนี้

      แล้วตาของเจ้าชายน้ำแข็งก็เบือนหนีไปทิ้งให้เฟรินช็อคกับอาการเย็นไม่น้อยจาก Halls Lites รสน้ำแข็งขั้วโลก แล้วผู้ที่ถูกประณามว่าเย็นก็เอ่ยขึ้นว่า “ฉันจะเล่นเกมนี้อีกรอบเดียวเท่านั้นนะ”น้ำเสียงที่บอกถึงความเย็นชาหลุดออกจากปากเจ้าชายแห่งคาโนวาล
      แล้วโรก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “ตกลงงั้นเราก็จะเล่นกันอีกแค่รอบเดียว” แล้วก็เรียกให้คนอื่นมาจับ

      “ฉัน...ได้.เป็นพระราชา” ครี้ดเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อดกลั้นมานาน หลังจากที่ต้องหอมแก้มเพศเดียวกันอย่าจำยอม จึงสั่งคู่สุดท้ายของการเล่นเกมพระราชาด้วยพระพักตร์ที่หื่นกามและสะใจเป็นที่สุด “ฉันขอให้เบอร์ 5 กับเบอร์ 8 จูบกัน” แล้วพระราชาก็หัวเราะด้วยอารมณ์ที่เก็บกดมานาน แต่ตอนนี้บุรุษที่โดนประณามว่าเป็นน้ำแข็งไม่มีความรู้สึกหน้าเริ่มขึ้นสีเรื่อและหัวขโมยก็หน้าแดงเช่นกันเพราะคาโลเป็นผู้ถือเบอร์ 5 และเฟรินก็ถือเบอร์ 8 อารมณ์เสียของคาโลเมื่อกี้ก็พังทลายไปอย่างรวดเร็ว

      “ให้มันไวกันหน่อยได้มั้ย ฉันง่วงแล้นนะ” คำกระเซ้าจากคิลทำให้เพื่อนทั้งสองหน้ายิ่งแดงเข้าไปใหญ่  แล้วฉับพลันห้องทั้งห้อง คนทุกคนก็เหมือนถูกหยุดเวลาไว้ เหลือไว้เพียงบุคคลสองคนที่ยังคงใช้ชีวิตไปตามเวลาที่ไม่ได้กำหนดให้หยุดเหมือนคนอื่น
      เฟรินซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการตกใจก็หันมาเจอกับหน้าที่ทำให้หัวใจเต้นผิดเสต็ป เมื่อคาโลเอื้อมมือมาดึงแหวนที่พ่อให้เธอออก แล้วเฟรินก็กลายเป็นผู้หญิงอย่างรวดเร็ว คาโลเริ่มโน้มหน้าเข้ามาใกล้แล้วประทับรอยจูบที่แสน
      อ่อนหวานละนุ่มนวลให้กับสาวน้อยผู้เป็นที่รัก แล้วทั้งสองก็จูบกันเนิ่นนาน........จนเมื่อเวทหยุดเวลาเสื่อมไปตั้งนานแล้วจึงมีคนตะโกนมาว่า “ไม่ต้องจูบกันนานขนาดนั้นก็ได้” คำพูดที่ว่านั้นมาจากครี้ดพระราชาผู้ออกคำสั่ง    
      แล้วทั้งสองก็หน้าแดง คาโลก็รีบสวมแหวนกลับให้เฟรินทันที
          เมื่อเล่นกันเสร็จเพื่อนๆทุกคนก็แยกย้ายกันกลับเข้าห้องของตน ในคืนนั้นเจค และซีบิลตกลงกันว่าจะไม่ขอเล่นเกมพระราชาอีกเลย

      *ส่วนคนที่เหลือไม่ต้องพูดถึงนอนหลับฝันดีกันไปเป็นแถว

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×