นาที
“ฮึก ฮึก”
มือเรียวสวยถูกยกขึ้นมาปิ
“ฮือออ ฮึกกก”
เสียงสะอื้นที่สาวสวยหน้าคมพยายามกลั้นเอาไว้ถูกปล่
“ฮึกกก นะ น้ำ ฮือออ” ใบหน้าสวยซบลงกับฝ่ามือหนาของ น้ำ คนที่เป็นคนรักของตัวเองอย่างสุ
"น้ำ ฮึกก ได้โปรด ฮือออออ” ปากสวยจูบลงไปที่ฝ่ามือหนาที่มั
“เอม ฮึกก ขะ ขอโทษ” ปากสวยพร่ำเอ่ยแต่คำขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ ซ้ำไปซ้ำมา เสียงหวานขาดหายไปตามแรงสะอื้น ร่างกายขาวสะอาดที่เคยอมชมพูด้
“ฮือออ ตื่นมา ฮึกก ฟังเอมก่อน” สองมือเขย่าฝ่ามือหนาที่แนบอยู่
“น้ำตื่นมาฟังเอมก่อน ฮืออออ” เสียงอ้อนวอนเหมือนคนใกล้
“อะ เอมขอโทษ น้ำ เอมขอโทษ” ไม่ว่าจะอ้อนวอนขอร้องแค่
“พูดกับเอม บอกกับเอมสิคะ เอมขอร้อง”
เสียงหวานเริ่มเบาลงเหมือนคนไม่
@aimsatida : วันนี้เห็นน้ำเดินสยามกับผู้หญิง เลิกโง่สักที!!
มือเรียววางโทรศัพท์ลงบนตักด้วยความหงุดหงิดที่อยู่ๆก็มีเมนชั่นแปลกๆจากแอคที่เธอไม่คุ้นเคยส่งมาถึงแต่สิ่งที่ทำให้นักร้องสาวสวยมากความสามารถอย่างเอม สาธิดา ดีกรีแชมป์จากเวทีประกวดชื่อดังหงุดหงิดคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของ น้ำ เพื่อนสนิทจากเวทีประกวดเดียวกันที่ความสนิทมันค่อยๆพัฒนากลายเป็นความรักจนตกลงคบกันหลังออกจากบ้านมาไม่นานแต่พอเวลาผ่านไปสองปีน้ำก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุขอยู่ในเส้นทางการเป็นนักร้องและต้องเรียนไปพร้อมๆกันเลยทำให้น้ำตัดสินใจพักงานในวงการแล้วกลับไปใช้ชีวิตนักศึกษาธรรมดาแล้วมันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ความรักของเธอกับน้ำเริ่มมีปัญหาเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน
"เป็นอะไรไปลูกน้องเอม" น้ำเสียงนุ่มน่าฟังของคนเป็นแม่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่มีอะไรค่ะแค่พวกแอคเสี้ยมเดิมๆ" เอมบอกปัดแม่ไปด้วยความรำคาญ
"แล้วน้องเอมเชื่อเรื่องพวกนี้หรือเปล่าลูก" แววตาใจดีถามลูกสาวตัวดีด้วยเพราะมองขาดว่าตอนนี้จิตใจของลูกสาวคงกำลังว้าวุ่น
"ไร้สาระค่ะ" น้ำเสียงติดเบื่อหน่ายที่ร่างบางพูดออกมาดูจะขัดกับการกระทำที่เธอกำลังกดเบอร์โทรออกไปยังเบอร์โทรของคนคุ้นเคย
"ทำไมไม่รับสาย" เอมพูดออกมาอย่างหงุดหงิดที่น้ำไม่ยอมรับสาย
Line
Aim: ทำไมไม่รับสาย
Aim: อยู่ไหน
Aim: ทำไมไม่ตอบ!!!
"พอๆ เลิกโทรเลิกไลน์หาน้ำได้แล้ว"
"แต่น้ำไม่รับสายไม่อ่านไลน์เอมนะแม่" เอมตอบกลับเเม่ไปด้วยน้ำเสียงติดสะบัดเล็กน้อย
"น้ำยังเรียนอยู่รึเปล่าลูกวันนี้น้องมีเรียนทั้งวันไม่ใช่เหรอ"
"แต่ปกติน้ำก็ต้องตอบไลน์เอมได้นอกจากน้ำจะไม่ได้อยู่ที่มหาลัย" เอมคิดไปถึงเมนชั่นที่ถูกส่งมาให้เธอก่อนจะเริ่มรู้สึกว่าน้ำอาจจะกำลังเดินกับผู้หญิงอื่นที่สยามจริงๆ
“พอเลยๆ เตรียมตัวไปทำงานได้แล้ว”
เอมหลับตาลงก่อนจะพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้นมาก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินออกไปหาแฟนคลับที่มารออยู่ที่หน้าห้องซ้อมด้วยรอยยิ้มอย่างคนอารมณ์ดี
“ขอบคุณมากๆเลยนะน้ำที่ให้พลอยติดรถมาเอาของด้วย” เสียงใสๆของพลอย สาวผิวขาว หน้าตาน่ารัก ดีกรีลีดมหาลัย เอ่ยปากขอบคุณเพื่อนร่วมคณะใจดีที่ให้เธอติดรถมาด้วยเพื่อจะมาเอาของที่สั่งไว้
“ไม่เป็นไรๆยังไงน้ำก็ต้องเข้ามาอยู่แล้ว” น้ำส่งยิ้มตาหยีให้เพื่อนที่เธอเพิ่งเริ่มจะสนิทสนมด้วยได้ไม่นานเพราะพอเธอตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาธรรมดาไปเรียนทุกวันตามปกติเธอก็เริ่มจะสนิทกับเพื่อนๆในสาขาในคณะของเธอมากขึ้นซึ่งพลอยเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เธอสนิทสนมด้วย
“เออ ขอโทษนะคะใช่พี่น้ำรึเปล่าคะ” น้ำหันไปก็เจอกับเด็กมัธยมสองคนก่อนที่เด็กน้อยจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นเธอจริงๆ
“พี่น้ำจริงๆด้วยพวกหนูขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ”
“ได้สิ มาเลย!!” น้ำยิ้มรับคำขอของแฟนคลับก่อนจะรับมือถือมาถ่ายเซลฟี่ให้อย่างเต็มใจเพราะถึงแม้ว่าเธอจะพักงานนักร้องมาสักพักใหญ่แต่ก็ยังมีแฟนคลับเข้ามาทักทายเธอบ่อยๆพร้อมกับประโยคที่ว่า
“รีบๆกลับมาทำงานนะพี่น้ำพวกเราคิดถึงเอมน้ำจะแย่แล้ว” น้ำยิ้มรับกับคำพูดของแฟนคลับก่อนจะขอตัวเดินออกมาแต่ในหัวกลับคิดถึงคำพูดของแฟนคลับก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงใบหน้าสวยของเอมที่เธอไม่ได้เจอมาเกือบจะอาทิตย์นึงเต็มๆพอวันนี้ที่เธอมีเวลาว่างช่วงบ่ายแบบกะทันหันเลยตั้งใจจะมาหาเอมก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกอีกฝ่ายเลยว่าวันนี้คลาสช่วงบ่ายของเธอยกเลิกแล้วเธอก็พาเพื่อนมาเอาของที่สยามก่อน
“หาอะไรน้ำ”
“โทรศัพท์สงสัยน้ำลืมไว้ที่รถแน่ๆ” น้ำก้มดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือก่อนจะทำหน้าตกใจเมื่อเธอเห็นว่าเธอขาดการติดต่อกับเอมมาเกิน 4 ชั่วโมงแล้ว
“พลอยกลับเองได้ไหมพอดีน้ำต้องรีบไปหาแฟนยังไงถึงห้องแล้วก็ไลน์บอกน้ำด้วยละกันนะ”
น้ำไม่รอให้เพื่อนสาวตอบอะไรก็รีบวิ่งกลับไปที่รถให้เร็วที่สุดเพราะเธอกลัวว่าการที่เธอหายไปไม่ติดต่อกับเอมจะทำให้เกิดปัญหาทีหลัง
เอมไม่ชอบให้เธอตอบไลน์ช้า ไม่ชอบที่เธอไม่รับโทรศัพท์
แล้วเอมเกลียดที่สุดคือการที่เธอไม่รายงานตัวว่าตอนนี้ตัวเธอเองอยู่ไหนแล้วกำลังทำอะไรอยู่
“ตายแน่ๆไอ้น้ำ” ทันทีที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเธอก็ต้องเจอกับสายที่ไม่ได้รับเกือบสิบสายไหนจะข้อความในไลน์อีกหลายข้อความ น้ำเปิดเข้าทวิตเตอร์เพื่อเช็คว่าตอนนี้เอมซ้อมร้องเพลงเสร็จแล้วรึยัง
“ง้อยาวแน่ๆไอ้น้ำเอ๊ย!!”
น้ำตัดสินใจขับรถไปตามทางที่แสนคุ้นเคยเมื่อเธอพยายามโทรหาพยายามส่งไลน์หาเอมแต่ก็โดนเอมตัดสายทิ้งไหนจะอ่านไลน์แต่ก็ไม่ยอมตอบเธอเลยเลือกจะเข้าไปรอเอมที่บ้านแทนจากที่ตั้งใจไว้ว่าจะเข้าไปรับที่ห้องซ้อม
“หนูน้ำน้องเอมยังไม่กลับเข้ามาเลยจ๊ะ”
“งั้นน้ำขออนุญาตขึ้นไปรอเอมบนห้องนะคะ”
“ตามสบายเลยจ๊ะเดี๋ยวน้องเอมมาถึงน้าจะบอกให้นะ”
น้ำเดินขึ้นไปตามทางที่เธอรู้ดีว่าห้องนอนของลูกสาวคนเดียวของบ้านปิ่นสินชัยนั้นอยู่ตรงไหน
เธอเข้าออกบ้านหลังนี้ประจำจนเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่เธอจะใช้ชีวิตอยู่แต่พอเธอกลับไปเรียนเธอก็เลือกจะนอนที่คอนโดของเธอมากกว่าเพราะมันสะดวกกับการตื่นเช้าไปมหาลัยมือหนาเปิดประตูห้องอันแสนคุ้นเคยเข้าไปก่อนจะมองไปรอบห้องนอนที่ครั้งสุดท้ายที่เธอมานอนที่นี้ก็เกือบๆจะเดือนนึงแล้วมือหนาจับเอากรอบรูปที่ใส่รูปคู่ของพวกเธอเอาไว้แล้วลูบไปที่ใบหน้าสวยของคนรักด้วยความรู้สึกผิดเพราะตั้งแต่ที่เธอเลือกจะพักงานในวงการเธอกับเอมก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้นเพราะเวลาที่เริ่มไม่ตรงกันกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของเธอทั้งสองคนเธอไปเรียนทุกวันบางคืนก็ยังไปร้องเพลงกลางคืนกับพวกพี่ๆกลุ่มเดิมที่ร้านอาหารส่วนเอมเองก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆทำให้ไม่มีเวลาเจอกันบ่อยๆแบบตอนที่เธอยังทำงานร่วมกันอยู่
แกร๊กก
สายตาคมของเจ้าของห้องมองกวาดไปรอบห้องเพื่อหาร่างของคนที่เธอกำลังไม่พอใจก่อนจะไปสะดุดกับร่างของคนคุ้นเคยที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงใบหน้าจิ้มลิ้มที่ชอบทำให้เธอใจสั่นกำลังซุกอยู่กับเจ้าหมีมาคุอย่างที่น้ำชอบเวลาที่เจ้าตัวมานอนค้างที่บ้านเอมค่อยๆเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง มือเรียวสวยชะงักก่อนที่มันกำลังจะเอื้อมถึงตัวของคนที่นอนอยู่ปากอิ่มเม้มเข้าหากันเหมือนมันกำลังลังเลว่าควรจะเอ่ยเรียกอีกคนให้ตื่นขึ้นมาดีรึเปล่า
"แกแน่ใจได้ยังไงเอมว่าแฟนแกมันจะไม่มีคนอื่น"
"แกหมายความว่ายังไง" เอมมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยสายตาหวั่นไหวหลังจากที่เธอนัดเพื่อนๆออกมาทานข้าวก่อนจะระบายความอัดอั้นในใจระหว่างเธอกับน้ำที่ดูเหมือนว่าช่วงหลังๆน้ำมักจะยุ่งจนไม่มีเวลามาเจอเธอแบบเมื่อก่อน
"คือแกไม่แปลกใจบ้างเหรอคือแค่เรียนอย่างเดียวมันจะยุ่งอะไรขนาดตอนเป็นนักร้องยุ่งกว่านี้ตั้งเยอะยังมีเวลามาเจอแกได้เลย"
"น้ำบอกว่าน้ำอัดเรียนเพื่อจะได้จบตามเกณฑ์เลยเรียนเยอะกว่าปกติ" เอมยังเถียงคำของเพื่อนสนิทเมื่อเธอนึกได้ถึงเหตุผลของน้ำที่เคยบอกเธอไว้ก่อนหน้านี้
"เรียนเยอะเพราะอยากจบเร็วหรืออยากใช้เวลากับใครกันแน่ เอมแกก็รู้ว่านิสัยแฟนแกมันเป็นยังไงขนาดว่าตอนเป็นนักร้องมีแกคอยคุมยังมีผู้หญิงเข้ามาตั้งไม่รู้กี่คน" เอมเงียบไปเมื่อเพื่อนสนิทพูดจบทำไมเธอจะไม่รู้ว่าน้ำเป็นคนยังไง น้ำเป็นคนขี้เล่น อัธยาศัยดี ชอบหยอด ชอบเต๊าะ แม้จะไม่ได้คิดอะไรแต่ก็ทำเอาคนที่อยู่ใกล้ๆหรือได้พูดคุยกับน้ำหลงคารมมาแล้วไม่รู้กี่คนต่อกี่คนขนาดว่าเมื่อก่อนมีเธอคอยคุมยังมีพวกลองดีเข้ามาให้ได้ปวดหัวเต็มไปหมด
"แล้วอีกอย่างนะแกยิ่งน้ำกลับไปอยู่แบบสังคมเดิมๆบรรยากาศเดิมๆที่น้ำมันสบายใจจะคบใครก็ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆแกว่าน้ำมันจะไม่หวั่นไหวบ้างเลยเหรอผู้หญิงมหาลัยสมัยนี้สวยๆน่ารักๆมีเยอะไป"
Line
P_Ploy: พลอยถึงห้องแล้วนะ
P_Ploy: วันนี้ขอบคุณมากๆนะน้ำ
P_Ploy: แล้วพรุ่งนี้เจอกัน ^^
เสียงแจ้งเตือนไลน์จากโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงทำเอาร่างกายของเอมชาไปทั้งตัวดวงตาคมมองไปที่ข้อความที่ถูกส่งมาด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันกลับไปมองคนที่ยังนอนหลับอยู่ด้วยสายตาวูบไหวความระแวงที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิดวันนี้ดูเหมือนมันจะได้รับคำตอบของมันชัดเจนแล้ว
ก๊อก ก๊อกก ก๊อกกก
เสียงเคาะประตูเรียกสติให้เอมรีบเดินไปเปิดประตูพร้อมๆกับการขยับตัวของเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับสบาย
“มีอะไรคะน้าแมว”
“น้าจะมาถามว่าคุณหนูกับหนูน้ำจะทานข้าวไหมคะน้าจะได้เตรียมไว้ให้” เอมหันกลับมามองคนที่กำลังสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาด้วยความชั่งใจเพราะปัญหาคาใจที่เพิ่งได้รับคำตอบมันทำให้เธอยังไม่อยากจะทำอะไรเลยในตอนนี้
“ไม่เป็นไรค่ะน้ำคงทานเข้ามาแล้ว”
เสียงหวานๆของคนที่พูดคุยกับคนหน้าประตูเรียกความสนใจให้น้ำได้เป็นอย่างดีก่อนที่รอยยิ้มหมีๆจะถูกเผยออกมาเมื่อเห็นว่าร่างของคนที่เธออยากเจอนั้นกลับมาแล้ว น้ำรีบเดินไปหาคนที่กำลังปิดประตูแต่ทันทีที่ใบหน้าสวยหันกลับมาก็ทำเอารอยยิ้มกว้างหุบลงใบหน้าคมเรียบเฉยบวกกับสายตาคมดุที่มองมาก่อนเธอจะนึกได้ว่าเอมคงยังโกรธเธอเรื่องที่ขาดการติดต่อจากเจ้าตัวไป
“เอมมม เอมมมมจ๋า!!” น้ำเสียงทุ่มถูกดัดให้เล็กลงแบบทุกครั้งที่เธอทำอะไรผิดหรืออยากจะเข้าไปออดอ้อนออเซาะวงแขนรวบตัวคนหน้านิ่งเข้ามาในอ้อมแขนก่อนจะหอมแก้มเนียนๆนั้นด้วยความคิดถึง
“เธออเค้าขอโทษ” ใบหน้าน่ารักซบลงกับไหล่บางด้วยความสำนึกผิดเธอรีบเอ่ยขอโทษทันทีเพราะเธอรู้ดีว่ายังไงเอมก็ต้องโกรธแล้วตัวเธอก็ผิดเองที่มัวแต่รีบร้อนจนลืมโทรศัพท์ไว้ในรถจนทำให้ขาดการติดต่อไปตั้งนานสองนาน
“เรื่องอะไร” เอมมองเสี้ยวหน้าของคนที่ซบอยู่ตรงไหล่เธอพยายามสงบจิตใจที่มันใกล้จะระเบิดด้วยความอดทน น้ำทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพูดขอโทษออกมาง่ายๆเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน
“ก็วันนี้อาจารย์เค้ายกเลิกคลาสตอนบ่ายน้ำก็เลยตั้งใจจะไปรับเอมที่ห้องซ้อมแต่พอดีเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกันเค้าจะเข้ามาเอาของที่สยามน้ำก็เลยพาเค้าไปเอาแต่น้ำดันลืมมือถือไว้ในรถอ่ะ” คำพูดยืดยาวของน้ำที่พูดออกมาดูจะไม่ใช่ประเด็นที่เอมอยากจะได้ยินมันเลยสักนิดในตอนนี้เพราะตอนแรกเธอก็โกรธที่น้ำไม่รับสายไม่ตอบไลน์แต่ตอนนี้เธอกำลังโกรธที่น้ำนอกใจเธอ!!!
“ไปส่งเพื่อน?”
“ใช่! เพื่อน ชื่อพลอยเป็นเพื่อนในสาขาเดียวกับน้ำนี่แหละเค้าจะเข้ามาพอดีน้ำก็เลยให้มากับน้ำซะเลย” น้ำเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะจับให้เอมหันมามองหน้าเธอสองมือหนากอบกุมใบหน้าสวยเอาไว้อย่างเบามือก่อนจะเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิดจริงๆ
“น้ำขอโทษที่ไม่ได้บอก ขอโทษที่ไม่ได้รับสาย ขอโทษที่ไม่ได้ตอบไลน์ ขอโทษที่หายไปนะคะ อย่าโกรธน้ำเลยน๊า” นัยน์ตาเรียวของน้ำแน่วแน่ไม่มีวูบไหวทำให้เอมเริ่มลังเลใจ
“หึ เพื่อนคนนี้ดูสำคัญมากนะถึงได้รีบไปส่งถึงที่ รีบจนลืมมือถือได้” แต่ความระแวงและความเชื่อที่คิดว่ายังไงน้ำก็ต้องมีคนอื่นทำให้เอมเลือกจะไม่เชื่อคำพูดของคนตรงหน้าเอมเบี่ยงหน้าออกจากการกอบกุมก่อนจะเลือกเดินหนีเข้าห้องน้ำแทน
“เธออออ ไม่เอาสิ เพื่อนก็คือเพื่อน เพื่อนจริงๆ” น้ำรีบเดินตามคนขี้งอนเข้าไปก่อนจะสวมกอดจากทางด้านหลังก่อนที่ปากบางจะจูบเข้าที่ซอกคอระหงด้วยความคิดถึง
“ปล่อย! เอมจะอาบน้ำเหนียวตัว” เอมพยายามปลดอ้อมแขนแข็งแรงของคนตัวดีออกเพราะสัมผัสที่น้ำมอบให้มันกำลังทำให้เธอลืมเรื่องที่เธอกำลังโกรธอยู่
“จะอาบน้ำก็ต้องอาบกับน้ำด้วยสิถึงจะสะอาด”
“อย่ามาเนียนแล้วเอมก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าเป็นแค่เพื่อน!!” เอมเบี่ยงตัวหลบปากบางๆกับจมูกโด่งนั้นไม่ให้สัมผัสตัวเธอได้อีก
“เอม” น้ำเงยหน้าขึ้นก่อนจะเรียกชื่อของคนขี้ระแวงด้วยความอ่อนใจก่อนจะพลิกตัวเอมให้หันกลับมา
“พลอยเป็นเพื่อนน้ำแล้วน้ำก็ไม่ได้มีใครทั้งนั้น”
“เพื่อนที่ไหนต้องไลน์มาบอกว่าถึงห้องแล้วพรุ่งนี้เจอกันแบบนี้เหรอที่เรียกว่าเพื่อน!!!” เอมตะโกนใส่หน้าน้ำอย่างหมดความอดทน
“มันต้องเป็นเพื่อนคนสำคัญมากขนาดไหน ห๊ะ!!!” มือเรียวผลักคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความโมโห
“เดี๋ยวก่อนเอม หยุด หยุด” น้ำพยายามจับมือที่ตอนนี้ทั้งผลักทั้งตีของเอมให้หยุดอยู่นิ่งๆ
“เอมน้ำบอกให้หยุดไง!!!” คนใจร้อนหยุดการกระทำของตัวเองลงก่อนจะมองหน้าคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่องเพราะน้ำไม่เคยตะคอกใส่หน้าเธอแบบนี้
“ตะคอกใส่เอมเหรอน้ำกล้าตะคอกใส่เอมใช่ไหม!!!” เอมผลักร่างตรงหน้าสุดแรงก่อนจะตามเข้าไปทั้งทุบทั้งตีอีกคนด้วยความรู้สึกที่ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจ
“จะพอได้รึยัง พอใจรึยัง ถ้าพอใจแล้วก็ช่วยฟังกันบ้าง” น้ำถามออกมาเมื่อปล่อยให้อีกคนระเบิดอารมณ์โกรธกับร่างกายของตัวเองอย่างเต็มที่
“น้ำขอโทษแต่เชื่อน้ำนะว่าน้ำกับพลอยเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆน้ำแค่เป็นห่วงเพราะพลอยต้องกลับรังสิตคนเดียวก็เลยให้ไลน์บอกว่าถึงห้องแล้วมันก็แค่นั้นเองเอม” น้ำอธิบายเหตุผลที่ตัวเธอต้องการให้เพื่อนไลน์มาบอกเธอไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเธอแค่เป็นห่วงที่เพื่อนต้องกลับไปรังสิตคนเดียวมันก็แค่นั้น
“ดูเป็นห่วงเป็นใยจังนะเพื่อนคนนี้ เหอะ” เอมพูดสวนกลับไปทันทีอย่างที่เธอคิดปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อน้ำแสดงความห่วงใยผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธอ
"ก็เราต้องเรียนด้วยกันทุกวันเป็นห่วงกันก็ไม่แปลกนิเธออย่าคิดมากได้ไหม" น้ำจับไหล่คนขี้ระแวงแล้วลูบเบาๆ
"หึ เจอกันทุกวันเป็นห่วงกันทำไมไม่เอากันไปเลยล่ะจะได้จบๆ"
เอมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรำคาญปนเหยียดเพราะตอนนี้ต่อให้น้ำจะแก้ตัวยังไงเธอก็ไม่เชื่อทั้งนั้น
"เอม!!! มันจะไปกันใหญ่แล้วนะอย่าหาเรื่องชวนทะเลาะได้ไหม" น้ำเริ่มหงุดหงิดกับความพูดไม่รู้เรื่องของเอมขึ้นมาบ้างแล้ว
"น้ำรู้ว่าน้ำผิดแต่น้ำก็ขอโทษเอมแล้วไง"
"ถ้าไม่ได้รู้สึกผิดจริงๆอย่าขอโทษให้เปลืองน้ำลายดีกว่า"
"เอมน้ำจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะน้ำขอโทษที่วันนี้น้ำลืมมือถือเอาไว้ที่รถส่วนเรื่องพลอยน้ำคิดกับเค้าแค่เพื่อน" น้ำเสียงหนักแน่นกับนัยน์ตามั่นคงของน้ำมันทำให้เอมเริ่มสงบลงมาได้บ้าง
"เราอย่าเสียเวลาทะเลาะกันเลยได้ไหมเธอเพราะทุกวันนี้เราก็แทบจะไม่มีเวลาเจอกันอยู่แล้ว"
น้ำยกมือหนาเข้าไปลูบที่แก้มนวลของเอมเบาๆเธอคิดถึงเอมทุกวันเธออยากอยู่กับเอมทุกวันแต่เธอก็อยากจะเรียนให้จบไวๆถึงจะต้องเรียนเยอะเรียนหนักกว่าคนอื่นเธอก็ต้องทนเพราะอย่างน้อยๆถ้าเธอเรียนจบเธอก็คงมีเวลาโฟกัสงานในวงการได้เต็มที่มากขึ้นแล้วมันก็คงดีสำหรับเอมที่จะบอกใครๆว่าเธอเรียนจบมีงานทำที่มั่นคงไม่ใช่คนที่ยังไม่รู้อนาคตแบบเมื่อก่อน
“เอมไม่คิดถึงน้ำบ้างเหรอแต่น้ำคิดถึงเอมมากนะ”
เอมมองหน้าคนหน้าหมีด้วยความสับสนเธออยากจะตะโกนตอบกลับคนที่ทำหน้าตาน่าสงสารถามเธอด้วยเสียงอ่อยๆว่าเธอทั้งคิดถึงทั้งโหยหาอีกคนมากขนาดไหนเวลาที่เธอเหนื่อยเวลาที่เธอท้อเธออยากมีน้ำอยู่ข้างๆแบบเมื่อก่อน เธอไม่เคยชินกับการที่ทั้งเธอและน้ำต้องอยู่ห่างกันแบบนี้เพราะมันทำให้เธอกลัวว่าความสัมพันธ์ของเรามันจะค่อยๆห่างกันออกไปเธอกลัวว่าคนที่น้ำต้องการในเวลาที่น้ำต้องการใครสักคนมันจะไม่ใช่เธอ
“อยากให้น้ำกลับไปก่อนรึเปล่ารอให้เอมใจเย็นกว่านี้แล้วเราคอยคุยกัน” สองมือเรียวรีบกุมชายเสื้อของคนที่กำลังจะผละออกทั้งที่ในใจก็ยังมีเรื่องให้โกรธให้สงสัยแต่พออีกคนเอ่ยปากจะไปจริงๆก็เป็นตัวเธอเองที่ไม่ยอม
“เชื่อใจเราได้ไหมเธอเราขอร้อง” น้ำรั้งร่างบางนั้นให้เข้ามาใกล้ก่อนจะเอ่ยปากขอร้องให้เอมเชื่อใจเธอบ้างปากบางเลื่อนไปจูบที่หน้าผากเนียนของอีกคน
“อย่าให้มีอีกนะ!!” น้ำยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคนขี้หวงพูดก่อนจะพยักหน้าเล็กๆเป็นการรับคำสั่ง
น้ำผละออกมาก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากบางลงกับปากอิ่มที่แสนคิดถึงแล้วค่อยๆละเมียดละไมขบเม้มกลีบปากอิ่มนั้นด้วยความโหยหาสัมผัสคุ้นเคยที่อีกคนมอบให้มันทำให้เอมยกสองแขนเรียวขึ้นมาคล้องคอน้ำเอาไว้ก่อนจะเริ่มขยับริมฝีปากตอบรับสัมผัสของอีกฝ่าย
“งั้นตอนนี้คุณสาจะอนุญาตให้คุณสาคนนี้อาบน้ำด้วยได้รึยัง” คำถามของคนที่ถอนริมฝีปากออกเรียกความสงสัยให้เอมได้ไม่น้อย
“คุณสาอะไรของเธอ” น้ำยิ้มกว้างก่อนจะชี้นิ้วไปที่เอม
“คุณสาก็เธอไง คุณสาธิดา!” เอมพยักหน้าน้อยๆกับคำอธิบายของคนหน้าทะเล้นแต่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อน้ำกำลังใช้นิ้วหันกลับไปชี้ที่ตัวเอง
“ส่วนเราก็คุณสาเหมือนกันแต่เป็น คุณสามีสาธิดา!!”
“ไอ้บ้า >///<” เอมเผยรอยยิ้มแรกของวันออกมาเมื่อเจอความทะเล้นของคนตัวดีเข้าไปก่อนที่เธอจะถูกช้อนตัวขึ้น
“คุณสาจะเต็มใจรึเปล่าเราไม่สนเพราะคุณสาคนนี้บังคับ!!”
เสียงหัวเราะของคนรักกันที่ดังออกมาจากห้องน้ำเปลี่ยนเป็นเสียงที่บอกถึงความรักความโหยหาที่คนทั้งคู่มีต่อกันแล้วดูเหมือนช่วงเวลาแห่งความสุขมันคงจะไม่จบลงเพียงแค่นั้น
ต่อนะคะ
ครืดดดดด ครืดดดดดดดด
แขนเรียวผละออกจากคนที่นอนกอดอยู่ก่อนจะควานหามือถือที่ส่งเสียงร้องไม่หยุดอย่างหงุดหงิด
“ฮัลโหลล!!”
เสียงรับโทรศัพท์ของคนข้างๆทำให้เอมต้องพลิกตัวกลับมามองนาฬิกาก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าตอนนี้มันเป็นเวลาเกือบๆตีหนึ่ง
“อืม นอนแล้วพลอยมีอะไรรึเปล่า” ชื่อของคนปลายสายทำให้ความโกรธที่เพิ่งจะจางหายไปเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“ขอบใจมากนะพลอยที่โทรมาบอก ไม่ลืมๆ ฝันดี” มือหนาวางโทรศัพท์ลงก่อนจะฟุบหน้าลงกับหมอนนุ่มแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่นี่เธอต้องกลับคอนโดไปเอารายงานแล้วต้องไปที่มอตั้งแต่เช้ามืดใช่ไหมเนี่ย เฮ้อออ
“มีเรื่องอะไรต้องโทรเข้ามาตอนนี้” น้ำเงยหน้าขึ้นมามองเอมก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกรอบเมื่อเธอคิดว่าเรื่องนี้มันคงไม่จบง่ายๆเหมือนเมื่อตอนหัวค่ำ
“อาจารย์นัดเรียนเพิ่มพรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงครึ่งพลอยเห็นว่าไลน์มาแล้วน้ำไม่อ่านเลยโทรมาบอก”
“เป็นเพื่อนที่ห่วงกันดีจริงๆ หึ”
“ก็มันเป็นวิชาที่ขาดไม่ได้ไง” น้ำส่ายหัวกับความขี้ประชดของเอมอย่างอ่อนใจก่อนจะตัดสินใจลุกออกจากเตียง
“เปลี่ยนเสื้อผ้าทำไมจะไปไหน” ความโกรธของเอมยิ่งปะทุขึ้นอีกเมื่อเห็นว่าน้ำลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนเตรียมตัวจะกลับ
“จะกลับคอนโดมันมีรายงานที่น้ำต้องเอาไปด้วยน้ำกลัวว่าออกไปตอนเช้าจะแวะเข้าคอนโดไปเอาไม่ทัน”
“คงไม่ได้ไปเอารายงานหรอกมั้งรีบขนาดนี้” น้ำหันมามองคนที่ยังนั่งอยู่บนเตียงด้วยความไม่เข้าใจ
“หมายความว่าไงเอม”
“คงรีบไปเอาคนมากกว่ามันถึงรอจนเช้าไม่ได้!!” เอมยืนขึ้นแล้วตวาดใส่คนที่ยังยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความโมโห
“เอม!! น้ำบอกแล้วไงว่าพลอยเป็นแค่เพื่อน”
“เพื่อนบ้าเพื่อนบออะไรถึงต้องโทรหากันตอนเที่ยงคืนตีหนึ่งพอวางสายก็รีบออกไปแบบนี้จะให้คิดว่าไม่มีอะไรกันได้ยังไง”
“แต่น้ำบอกเหตุผลไปหมดแล้วไงหรือเอมจะกลับคอนโดกับน้ำจะได้สบายใจ” น้ำพยายามคุมอารมณ์ไม่ให้โมโหคนที่พูดไม่ยอมฟังก่อนจะเสนอวิธีที่เธอคิดว่ามันคงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“อย่ามาหาทางเอาตัวรอดเคยละอายใจบ้างไหมที่พูดออกมา”
“ละอายใจ? ทำไมน้ำต้องละอายด้วยในเมื่อน้ำไม่ได้ทำอะไรผิด” เส้นความอดทนของคนร่างสูงเริ่มจะขาดลงเรื่อยๆด้วยคำพูดของเอม
“ไม่ได้ทำอะไรผิด นอกใจ!! นี่มันไม่ผิดอีกเหรอ” พูดออกมาได้ว่าไม่ได้ทำอะไรผิดแค่คิดจะนอกใจกันมันก็ผิดมากพอแล้ว
“นอกใจ? น้ำไปนอกใจเอมตอนไหน” น้ำกัดฟันแน่นเมื่อโดนข้อหาที่เธอไม่ได้ทำมันเลยสักนิด
“แล้วที่ไปส่งมันสยามที่มันไลน์มาแล้วที่เพิ่งโทรมาจนต้องรีบแจ้นออกไปหามันอยู่เนี่ยมันเป็นใคร” เอมถามอย่างเอาเรื่องดวงตาคมเริ่มมีน้ำใสๆคลอขึ้นมาเมื่อเธอต้องเจ็บกับความไม่รู้จักพอของน้ำ
“เป็นเพื่อนไง!! ต้องให้น้ำบอกอีกกี่รอบเอมถึงจะเชื่อ”
“ไม่เชื่อ!! คนอย่างเธอมันไม่รู้จักพออยู่ใกล้ใครก็ชอบไปทั่ว!!” สิ่งที่เอมหวาดระแวงอยู่ในใจถูกพูดออกมาทำลายความรู้สึกของอีกคนโดยไม่รู้ตัว
“ถ้าลืมจะช่วยเตือนความจำให้ไหมว่าเคยทำอะไรไว้ หงหยก ผ้าแพร จำได้ไหมว่าเคยคุยกับพวกมันไปถึงขั้นไหนแล้ว” ชื่อของคู่กรณีเก่าที่เคยมีประเด็นถูกยกขึ้นมาให้คนความจำสั้นลองนึกดู
“ถ้าเอมจับไม่ได้คงไม่ใช่แค่ไลน์คุยกันคงนอนคุยกันไปถึงไหนแล้ว!!!”
“เอม!!!!” เส้นความอดทนของน้ำขาดลงเมื่อโดนเอาเรื่องเก่าๆเข้ามาเกี่ยวแต่ที่เจ็บที่สุดคงเป็นคำดูถูกที่เอมพูดมันออกมา
“เมื่อไหร่จะเลิกเอาเรื่องหงกับแพรมาพูดสักทีเรื่องมันจบไปตั้งนานแล้ว” ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงเอมมักจะเอาเรื่องที่เธอเคยคุยกับหงหยกและผ้าแพรมาเกี่ยวทุกครั้ง
“จะให้ลืมง่ายๆเหรอมันลืมได้ง่ายๆไหมที่แฟนตัวเองคุยกับผู้หญิงคนอื่นพร้อมกันตั้ง 2 คน น้ำก็ลืมได้สิก็น้ำไม่ใช่คนเจ็บนิ คนที่เจ็บมันเอมไง เอม!!!” น้ำตาของเอมค่อยๆไหลออกมาเมื่อพูดถึงแผลที่น้ำเคยฝากไว้มันเป็นแผลที่ไม่เคยหายสนิทเป็นแผลที่ทำให้เอมต้องคอยระแวงน้ำอยู่ตลอดเวลา
“แต่น้ำก็สัญญากับเอมแล้วไงว่าน้ำจะไม่ทำมันอีก” เมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดของคนรักก็ทำให้น้ำใจเย็นลงแล้วเดินเข้าไปหาคนที่ยังยืนอยู่ที่เตียง
“ไม่ต้องมาจับ!!” เอมปัดมือคนที่เอื้อมเข้ามาจับ
“ถ้าไม่อยากให้น้ำกลับน้ำไม่กลับก็ได้”
“แล้วใครที่มันรีบร้อนจะกลับพอโดนจับได้ก็ไม่กลับขึ้นมาเฉยๆเลยนะ” มือเรียวปาดน้ำตาที่กำลังไหลออกก่อนจะบอกตัวเองว่าเธอต้องไม่ร้องไห้ให้เรื่องไร้สาระแบบนี้อีก
“อยากกลับก็กลับไปเถอะ”
“เอม” น้ำพยายามเรียกอีกคนเสียงอ่อนเมื่อเธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่คำไล่ด้วยความประชดแบบทุกที
“บอกให้กลับไปไงอยากไปไหนก็ไปเถอะ” เอมเบือนหน้าหนีคนที่ยังทำหน้าตาอ้อนวอนอยู่ตรงหน้า
“แล้วเอมจะให้น้ำไปไหน น้ำก็มีแต่เอม น้ำรักเอม”
เพี๊ยะ!!!
ใบหน้าน่ารักหันตามแรงฝ่ามือที่ถูกสะบัดลงบนหน้าเมื่อเธอพูดจบน้ำค่อยๆหันกลับมามองคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาสั่นไหวไม่ต่างกัน
“หยุดพูดว่าเธอรักเราสักทีถ้าเธอไม่ได้รู้สึกมันจริงๆ เธอรู้ไหมว่าเพราะอะไรเราถึงต้องคอยระแวงเธออยู่ตลอดเวลาแบบนี้ก็เพราะว่าเธอเองไม่ใช่เหรอน้ำ เธอเองเป็นคนค่อยๆถอยห่างจากความรักของเราไปทีละนิดตอนที่เธอทำงานเธอยุ่งกว่านี้ไม่รู้กี่เท่าแต่เธอก็มีเวลาให้เราได้ตลอดแล้วทุกวันนี้มันคืออะไร เธอบอกว่าเธอติดเรียนบ้างติดทำงานกลุ่มบ้างติดร้องเพลงที่ร้านบ้างจะหาเวลามาเจอเราทีทำไมมันต้องยากเย็นขนาดนั้นทำไมเราต้องเป็นคนที่คอยเข้าหาเธอตลอดเวลาแล้วมาวันนี้เธอจะให้เราคิดยังไงเราไลน์หาเธอก็ไม่อ่าน โทรไปเธอก็ไม่รับ แล้วต้องมารู้ว่าเธอพาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ไปนั่นไปนี่ต้องมาเห็นว่ามันส่งไลน์มาหาเธอแล้วสุดท้ายต้องมานอนมองคนที่เพิ่งจะเอากันเสร็จรับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนเดิมแล้วก็รีบร้อนจะออกไปเธอจะให้เรารู้สึกยังไง ต้องให้เอมรู้สึกยังไง!!!” ความรู้สึกของเอมถูกระบายออกมาจนทำให้คนฟังเริ่มรู้สึกผิด
“เอมคือน้ำขอโทษแต่น้ำกับพลอย”
“อย่าพูดชื่อมันออกมานะ!!” เอมพูดอย่างเหลืออดที่น้ำจะพูดชื่อผู้หญิงคนนั้นออกมาวันนี้เธอได้ยินชื่อนี้มามากเกินพอแล้ว
"เอมฟังน้ำก่อน" น้ำพยายามจับมือคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแต่ไม่ว่าจะพยายามจับยังไงเอมก็สะบัดมือเธอออกทุกครั้ง
"กลับไป" น้ำเสียงเรียบที่ออกจากปากของเอมมันเหมือนน้ำเย็นค่อยๆราดลงบนตัว
"เอม"
"ออกไปน้ำ!" แววตาคมหันมามองคนที่ยืนนิ่งอย่างให้รู้ว่าเธอพูดจริง
"เอมขอร้องฟังน้ำอีกสักครั้งเถอะ"
"รีบๆพูดมา" เอมพยายามใจเย็นที่จะฟังคำพูดของคนตรงหน้าทั้งๆที่เธอรู้ตัวว่าต่อให้น้ำพูดอะไรมาตอนนี้เธอก็คงไม่มีทางเชื่อ
"เรื่องหงกับแพรน้ำรู้ว่าน้ำผิดน้ำไม่มีอะไรจะแก้ตัวนอกจากขอโทษแล้วน้ำก็สัญญาว่าน้ำจะไม่ทำแบบนั้นอีก น้ำจะไม่นอกใจเอม น้ำจะไม่คุยกับใครแล้วตั้งแต่วันที่น้ำพูดน้ำก็ไม่เคยผิดสัญญาเลยแม้แต่วินาทีเดียวส่วนเรื่องพลอยตั้งแต่ที่น้ำกลับไปเรียนก็มีพลอยเป็นคนช่วยเรื่องเรียนน้ำมาตลอดแต่เราไม่เคยคิดอะไรกันเกินเลยนอกจากคำว่าเพื่อนพลอยรู้ว่าน้ำมีแฟนพลอยเองก็มีแฟนอยู่แล้วเอมจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็คือความจริง น้ำรักเอมมากนะถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้เจอกันแต่น้ำก็ไม่เคยต้องการให้ใครคนไหนเข้ามาแทนที่เอมเลยสักครั้งเอมรอน้ำอีกหน่อยได้ไหมอีกแค่เทอมเดียวน้ำก็จะเรียนจบแล้วถึงตอนนั้นน้ำจะไม่ห่างเอมไปไหนเลย"
"พูดจบรึยังถ้าจบแล้วก็ออกไปซะจะไปไหนก็ไปไม่ต้องมาให้เจออีกเลยยิ่งดี!!"
ทิฐิกับความเชื่อในความรู้สึกของตัวเองทำให้เอมไม่เชื่อคำพูดอะไรที่ออกมาจากน้ำทั้งนั้นในตอนนี้หัวใจที่ร้อนเป็นไฟไปด้วยความโกรธจากความหึงหวงระแวงในตัวคนรักทำให้เลือกจะพูดประชดประชันออกไปด้วยถ้อยคำที่เธอเองไม่ทันได้ไตร่ตรอง
เอมมองตรงไปยังถนนที่ว่างเปล่ามีเพียงไฟหน้ารถส่องให้พอเห็นทางแต่มันก็เป็นเส้นทางที่เธอไม่คุ้นเคยเอมหันไปมองคนที่ขับรถทำหน้านิ่งอยู่ข้างๆก่อนจะเริ่มโวยวายออกมา
"น้ำจะขับรถพาเอมไปไหน" เอมถามคนรักที่เพิ่งจะทะเลาะกันเมื่อครู่แต่น้ำก็ไม่ยอมตอบอะไรกลับมา
"เอมบอกให้น้ำไปไหนก็ไปไม่ใช่ให้ขับรถพาเอมออกมาแบบนี้" ครั้งสุดท้ายเธอจำได้ว่าเผลอเอ่ยปากไล่น้ำออกไปแต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ขึ้นมานั่งอยู่บนรถกับน้ำ
"ถ้าน้ำไม่อยู่เอมดูแลตัวเองได้ใช่ไหม" เอมมองอีกคนด้วยความสงสัยที่คนข้างๆเอื้อมมาจับมือของเธอเอาไว้ก่อนจะถามอะไรแปลกๆออกมา
"อยู่ได้สบายๆเลยต่างหาก" เพราะความโกรธที่ยังค้างอยู่ในใจมันทำให้เธอเลือกพูดประชดประชันอีกคนไม่ยอมหยุด
"แล้วถ้าน้ำไม่อยู่เอมจะคิดถึงน้ำไหม"
"ไม่มีวัน"
“เอมจะลืมน้ำรึเปล่า” เอมมองหน้าคนที่เอาแต่ถามคำถามด้วยความรู้สึกแปลกๆแต่เธอก็ยังทำเก่งเลือกจะประชดอีกคนอยู่ดี
“เราจะไปจำคนอย่างเธอทำไม”
เอมมองมือเรียวของตัวเองที่ตอนนี้กำลังถูกคนข้างๆสอดประสานเข้าด้วยกันด้วยรอยยิ้มเพราะไม่ว่าเธอจะโกรธอีกคนแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยจะใจแข็งกับสัมผัสอ่อนโยนแบบนี้ได้นานสักครั้ง
"น้ำขอโทษนะเอมสำหรับทุกๆอย่าง" น้ำเสียงอ่อนโยนถูกเอ่ยออกมาก่อนจะกระชับมือเรียวของเอมไปวางไว้ที่หน้าตัก
"แล้วน้ำก็ไม่ได้มีใครทั้งนั้นน้ำมีแค่เอมคนเดียว"
"อืม" เอมรับคำของอีกคนด้วยท่าทีอ่อนลง
"ต่อไปนี้เอมต้องดูแลตัวเองดีๆรู้ไหม" เอมกระชับมือเข้าหาน้ำอย่างไม่มีสาเหตุเธอรู้สึกแค่เธอต้องการจะจับมือน้ำเอาไว้ให้นานที่สุด
"น้ำรักเอมนะแค่เอมคนเดียว"
มือเรียวถูกยกขึ้นประทับจูบอย่างอ่อนโยนก่อนที่น้ำจะหันมามองและส่งยิ้มให้เธอรอยยิ้มของน้ำดูอบอุ่นและเศร้าในเวลาเดียวกันแต่ก่อนที่เอมจะได้พูดอะไรแสงไฟจากรถที่อยู่ๆก็ขับสวนทางมาทำให้เธอเริ่มมองไม่เห็น
"น้ำระวัง!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดด"
เฮือกกกกกกกก!!
ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างตกใจก่อนจะหันไปมองรอบๆเพื่อมองหาคนรักก่อนจะเห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอน
"ฝันไปเหรอเนี่ย อุ๊ย"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เอมสะดุ้งเมื่ออยู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาก่อนจะมองไปที่ประตูอย่างเอาเรื่องคนกล้าดีที่ปลุกเธอในวันที่เธอไม่มีงานแบบนี้
"น้องเอม! รีบแต่งตัวแล้วไปโรงพยาบาลกับแม่เดี๋ยวนี้" ทันทีที่เปิดประตูคนเป็นแม่ก็รีบบอกเธอให้ไปแต่งตัว
"เดี๋ยวก่อนแม่ใครเป็นอะไรแล้วทำไมต้องรีบขนาดนั้น"
"แม่บอกให้รีบไปแต่งตัวไง"
"ถ้าแม่ไม่บอกเอมก็ไม่แต่ง เอมจะนอน เอมง่วง!!" ร่างบางหันหลังกลับหวังจะกลับไปนอนต่อให้หายง่วง
"หนูน้ำรถชนตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลอาการเป็นตายเท่ากัน"
สองขาเรียวหยุดนิ่งทันทีที่คนเป็นแม่พูดจบร่างกายชาไปทั้งตัวหัวใจเริ่มเต้นรัวอย่างคนกลัวอะไรบางอย่างภาพความฝันเริ่มย้อนกลับเข้ามาทำให้เอมส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ เธอหันกลับมาหาคนเป็นแม่ก่อนจะรู้สึกว่ามีก้อนบางอย่างมาจุกอยู่ตรงหน้าอกเอมพยายามเปล่งเสียงออกมาถาม
"แม่ว่าอะไรนะ"
"หนูน้ำรถชน!!!!"
“ฮึกกก ไอ้หมี เอม อึก ขอโทษ ฮือออออ”
เสียงสะอื้นที่หยุดลงไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้ากลับมาอีกครั้งเมื่อเจ้าของใบหน้าสวยนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วทันทีที่เธอมาถึงโรงพยาบาลเธอก็แทบใจสลายเมื่อน้าของคนรักบอกว่าโอกาสรอดของน้ำเหลือน้อยลงเรื่อยๆแล้วก็ต้องแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อหมอเดินออกมาอีกครั้งเพื่อบอกว่าให้ญาติเตรียมใจเอาไว้
“กลับมา อึก หาเอมนะ ฮึกก” ใบหน้าสวยที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาแนบเข้าหาฝ่ามือหนาอีกครั้งอย่างต้องการที่พึ่ง
“พลอยเป็นเพื่อนน้ำ”
“ฮึกก ฮืออออ”
เอมปล่อยเสียงร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้นใบหน้าสวยส่ายไปมาอยู่บนฝ่ามือหนาน้ำเสียงทุ้มของคนที่นอนอยู่ดังขึ้นมาให้เธอได้แต่ย้อนกลับไปคิดถึงคำพูดของคนรักที่พูดย้ำกับเธอแต่เธอเอาแต่เชื่อความรู้สึกตัวเอง
“อะ เอมเชื่อแล้ว อึกก ขอร้อง ฮึกกก” เอมเขย่ามือหนาที่เธอซบอยู่อย่างจะบอกให้น้ำรู้ว่าเธอเชื่อแล้วเธอเชื่อทุกอย่าง
ติ๊ด
"ถ้าน้ำไม่อยู่เอมดูแลตัวเองได้ใช่ไหม"
“ฮืออออ ไม่ ฮึกก เอมอยู่ไม่ได้ ฮึก น้ำกลับมานะ ฮือออ มาดูแลเอมนะ ฮึกก” ภาพในความฝันกับคำถามที่น้ำถามย้อนกลับมาให้เธอได้คิดทบทวนคำตอบของเธออีกครั้ง
ติ๊ด
"แล้วถ้าน้ำไม่อยู่เอมจะคิดถึงน้ำไหม"
“คิดถึง ฮึกกก แค่นี้ ฮึกก เอมก็คิดถึง ฮือออ จะตายอยู่แล้ว ฮือออออ” ปากอิ่มจูบย้ำลงบนฝ่ามือสลับกับหลังมือของคนรักไม่หยุดแม้ว่าน้ำจะนอนอยู่ตรงนี้เธอก็คิดถึงแทบจะขาดใจอยู่แล้ว
ติ๊ด
“เอมจะลืมน้ำรึเปล่า”
“ฮืออ จะลืม ฮึกก น้ำ ได้ยังไง ฮือออ ที่รัก ฮึกก” มือเรียวบีบมือของคนรักแน่นเมื่อเธอเริ่มรู้สึกว่าอีกไม่กี่นาทีเธอต้องเสียน้ำไป
ติ๊ด ติ๊ด
"น้ำรักเอมนะแค่เอมคนเดียว"
“ไม่เอา ฮึกกก น้ำตื่นสิ ตื่นมาบอกเอมสิ ฮึก หมอออออ ฮือออ” ใบหน้าสวยผละออกมาตะโกนเรียกคนที่จะช่วยให้เสียงสัญญาณบ้าๆนั้นเงียบลงสักที
ติ๊ด ติ๊ดด
“จะไปไหนก็ไปไม่ต้องมาให้เจออีกเลยยิ่งดี”
“ไม่ ไม่ ฮึกก เอมไม่ให้น้ำไปไหนทั้งนั้น
ฮึกก เอมขอโทษ อึกก”
สายตาคมมองไปที่เส้นสัญญาณที่มันเริ่มกลายเป็นเส้นเล็กๆก่อนที่เธอจะรู้สึกว่านิ้วมือของคนที่เธอกุมมือเอาไว้มันค่อยๆยกขึ้นมาสัมผัสกับมือเรียวของเธอช้าๆ
“น้ำ น้ำ ได้ยินเอมไหม”
ติ๊ดด ติ๊ดดด
“เอมเชื่อน้ำนะเอมเชื่อน้ำทุกอย่างเลย”
ติ๊ดด ติ๊ดดดด ติ๊ดดดดด
“เอมรักน้ำ ฮึกกก ที่รัก รักน้ำ”
ติ๊ดดด ติ๊ดดดด ติ๊ดดดดดดดด
“ที่รัก ฮือออ ได้โปรดดด ฮึกก กลับมา กลับมา !!!!”
ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มาต่อตอนจบก่อนกำหนดให้ด้วยความใจดี (หรา)
ก็เค้าบอกแล้วว่ามันไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คิดเน๊าะ
คิคิ
รักนะคะ เจอกันใน (Girl)Friend
ค่ะ
จะมีต่อไหมอ่ะอยากให้ฟื้นขึ้นมากสงสารเอมรีบมาต่อเร็วๆๆนะไรท์
เพราะการที่มาต่อมันได้มีสาระอะไรเพิ่มมาเลย คือมันก็เหมือนและเข้ารูปแบบเดิมคือเอมงอน หึง และไม่ยอมฟังน้ำ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แกทำกับสามีชั้นแบบนี้ได้ยังง๊ายยยยยยย????????????????????????????????
**กลับสู่โหมตสาระ** ความเอาแต่ใจของเอมหาลิมิตไม่ได้จริงๆแหละค่ะ คิดว่าง้อกันเสร็จในห้องน้ำแล้วสถานการณ์จะคลี่คลายลงซะอีก สรุปคิดผิด? เอมหาเรื่องน้ำได้โคตรผู้หญิงอ่ะ(ก็ผู้หญิงนี่หว่า????)เอะอะฟื้นเรื่องเก่ามาชำแหละ แต่บทตรงเอมโทษว่าที่เอมต้องเป็นแบบนี้เพราะพฤติกรรมน้ำนั่นแหละ โห่..คุณคะ เป็นเราๆก็เส้นอดทนขาดเหมือนกันนะ สรุปที่ทำตัวดีมาทั้งหมดไม่มีค่าเลยอ่ะเจอประโยคนี้เข้าไป ...ส่วนอิตอนฝันว่าพาขับรถง้อนี่เริ่มสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีละ แล้วก็โคร้มมม ???????????? นั่นแหละ ... แต่อีกใจนึงแอบสะใจนะ ถ้ามองในแง่ฟิค คือสมควรโดนแบบนี้อ่ะ เป็นไงล่ะยะไล่เค้าไปจากชีวิต เค้าไปจริงแถมไปแบบไม่มีวันหวนกลับมาอีกเลยด้วย
ปล.เกลียดความเย็นชาของไรท์มากค่ะ จะใจร้ายกับน้ำไปถึงใหน ในฐานะเมียน้ำนี่รับไม่ได้อย่างแรงค่ะ ฮือออออออTT
ฉากที่น้ำนอนอยู่คือน่ารัก ฉากเอมหันมาทำหน้าเหวี่ยง อุเหม่..สวย??
เอมในเรื่องอารมณ์คงเส้นคงวาจริงๆ อารมณ์ร้อนน่ะ ฮือออออออ
ไอหมีหลุดตะคอกเพราะคุณนายเธอพูดไม่รู้เรื่องอ่ะ????????????
ปกติไอหมีคงจะเป็นคนร้อนเหมือนกันสินะ แต่อยู่กับนายแม่ต้องเย็นช่าย?
ขึ้นต้นดราม่าตรงกลางหวาน ขอให้ตอนจบลงท้ายด้วยดี *สวดมนตร์*????????
ปล.ไม่นึกว่าจะแต่งฟิคแบบอิงชีวิตศลป หุหุ -w-
ห้ามค้างนะไรท์
แต่เราจะไม่โวยวาย เพราะเรารอแนวนี้มานานแล้ว55555555+
ทำไมเปิดเรื่องมาเมนชั้นไม่มีบทพูดเลยอ่ะ อ๋อนอนอยู่ ..ลิม
แกเล่นเขียนเอาบทสรุปมาเล่าย้อนอดีตงี้ ความเป็นไปได้ให้จบแฮปปี้คงมีน้อยแต่ก็ยังหวังให้แฮปปี้นะ
รีบเอาตอนเต็มมาลง ไม่งั้นจะทวงทุกสองชั่วโมง ..........................................
/ชมนิดนึงก็ได้/ ชอบภาพที่บรรยายฉากน้ำนอนบนเตียง เก็บรายละเอียดแม้กระทั้งเส้นชีวิตบนเครื่องช่วยหายใจ
แล้วก็อุณหภูมิร่างกาย เอาใจช่วย น้ำต้องรอด ไม่เอาเศร้าแต่เศร้าก็ดี(?) TT