[TS9] DEWAON' SF | คืนจันทร์ - [TS9] DEWAON' SF | คืนจันทร์ นิยาย [TS9] DEWAON' SF | คืนจันทร์ : Dek-D.com - Writer

    [TS9] DEWAON' SF | คืนจันทร์

    รัก รักเธอหมดใจรู้หรือเปล่า อยากมีเพียงสองเรา อยู่กับจันทร์เหมือนเคย อยากฟังซ้ำ คำที่เธอเอื้อนเอ่ย บอกว่ารักเหมือนเคย อยู่ในอ้อมแขน .. 

    ผู้เข้าชมรวม

    473

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    473

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 เม.ย. 56 / 19:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    คืนจันทร์

    SF เรื่องที่สอง ปริ่ม เหตุใดคอนพี่อ้นจึงโศกเศร้าโศกาถึงเพียงนี้
    ตอนแรกนึกว่าจะเอากีต้าร์เล่นบนคอน ร้องกะเปียโนซะงั้น ชิ ไม่เป็นไร
    เรายุ้ย(จีรนันท์ มโนแจ่ม)สุดไรสุด เราทำได้ เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ต้องมีโมเม้นต์ไรทั้งนั้น (ฮ่า)

    คิดถึงบ้านนักใช่มั้ยกฎ เอาให้คิดถึงตายไปเลย
    โหวตเข้าไป แกล้งเข้าไป อย่าให้ได้กลับไปหาพ่อหาแม่ สะใจ

    แต่รับรองว่าฟิคเรื่องนี้ไม่ปล่อยให้พี่อ้นเหงาเดียวดายแน่นอน
    อ้าว แล้วจะเหงากับใคร ต่อไปนี้มองจันทร์แล้วจะคิดถึงใคร อั้ยย้ะ
    ไปอ่านเหอะ เลอะเทอะมากแล้ว 555


    ฟิคเรื่องนี้เกิดจากความยุ้ยของผู้แต่งเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปินที่มีชื่อในฟิคใดใดทั้งสิ้น โปรดมีวิญญาณในการอ่าน

     
    apricot
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       


                 คืนจันทร์

       

                             คืนนี้จันทร์นวลผ่อง มองแล้วคิดถึงแต่เธอ

                 ตัวฉันยืนมองเหม่อ ถามว่าเธออยู่ที่ใด

                 วอนสายลมแผ่วๆ ให้นำช่วยพัดพาใจไป

                 บอกกับเธอ .. ว่าคิดถึง

       

                                 พี่เสกร้องเพลงกรอกหูเป็นรอบที่ล้านอย่างไม่รู้จักเหนื่อย

                 อยากจะถามเหลือเกินว่าร้องอยู่เพลงเดียวเนี่ยเบื่อบ้างไหม

       

                                 แต่คนฟังอย่างผมต่อให้ฟังกี่ล้านรอบก็คงเบื่อไม่ลง

                 ในคืนที่พระจันทร์ส่องสว่างเพียงหนึ่ง

                 คงไม่มีเพลงไหนตรงใจแทนความรู้สึกได้ดีเท่านี้อีกแล้ว

       

                                 ผมเอนหลังนอนมองภาพในความคิดฉายบนท้องฟ้าสีดำ ปล่อยให้แสงจันทร์อาบไล้ผิวกาย

                 ภาพทุกภาพไหลผ่านเข้ามาไม่ยอมหยุด

                 มันฉายชัดยิ่งกว่าพระจันทร์เสียอีก

       

                             จันทร์เจ้ารู้หรือเปล่า ว่าฉันเหงาเกินกว่าใคร

                 วันที่เธอลาไกล บอกไปแล้วจะกลับมา

       

                                 พ่อครับ แม่ครับ ผมเหงาเหลือเกิน

                 ผมคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงบ้าน

                 คิดถึงเพื่อน คิดถึงเชียงใหม่

                 คิดถึงทุกอย่างทุกคนที่อยู่ข้างนอก

       

                             คืนนี้ฉันรอเธออยู่ อยากบอกให้รู้คำเดียวว่า

                 จะรอจนกว่า .. ค่ำคืนนี้ไม่มีจันทร์

       

                                 แค่คิดขอบตาร้อนผ่าวก็ทำท่าเหมือนจะกักน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว

       

                                 “น้ำค้างสมัยนี้ไหลออกจากตาแล้วหรอเนี่ย”

       

                                 เสียงแบบนี้.. กวนแบบนี้..

       

                                 “ดิว !!!” ผมปาดน้ำตาทิ้งแล้วมองให้ชัดอีกที มันจะมาได้ไงวะ

       

                                 “ครับผม”

       

                                 ชัดเลย เสียงกวนประสาทกับยิ้มแฉ่งฟันขาวแบบนี้มีมันคนเดียวนี่แหละ

       

                                 “มาได้ยังไง !

       

                                 “เหาะมา นี่ไงเห็นปีกป่าว”

       

                                “ไม่ขำ มาทำไม รู้มั้ยถ้ามีใครเห็นเป็นเรื่องแน่” ทำอะไรไม่รู้จักคิดเลย ผมนี่ล่ะจะพลอยซวยไปด้วย

                 เพราะจะโดนหาว่าติดต่อกับคนข้างนอก

       

                                “ดึกป่านนี้คนปกติเขาหลับกันหมดแล้ว ใครจะบ้ามานอนตากน้ำค้างกัน”

       

                                ขนาดยิ้มยังกวนประสาทเลยให้ตายเหอะ “กูไม่ได้บ้าเว้ย !

       

                                 “แล้วออกมาตากน้ำค้างทำไม เดี๋ยวก็ไม่สบาย”

       

                                 “...แค่มีอะไรให้คิดนิดหน่อย” ตอบออกไปแล้วต้องหลบตาอย่างช่วยไม่ได้

       

                                 ไม่อยากสบตา ไม่อยากให้เห็น ไม่อยากให้รู้

                 ว่าความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัว ไม่ได้นิดหน่อยอย่างที่พูดเลย

       

                                 “ห้ะ” อยู่ๆมือขาวก็ยื่นข้ามกำแพงออกมา

       

                                 “ส่งมือมาสิ”

       

                                 “ทำไร” ผมถามอย่างระแวง ไม่ได้ล่ะ คนอย่างมันเคยไว้ใจได้ที่ไหน

       

                                 “เถอะน่า” มันกระตุกมือเป็นเชิงเร่งให้ส่งมือไปให้

       

                                 แล้วผมก็เชื่อคนง่ายซะด้วย..

       

                                “ระบายออกมาเถอะ” มือที่เพิ่งส่งไปถูกกระชับให้แน่นขึ้น ราวกับหัวใจผูกติดอยู่ที่ปลายนิ้ว
                 แรงบีบที่มือบีบคั้นไปถึงหัวใจ

       

                                 ไม่ไหวแล้ว ท่วมท้น ความรู้สึกกำลังจะท่วมท้นออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “ฮึก”

       

                                 ผมพิงหัวกับกำแพง หวังว่าความรู้สึกที่มีอยู่จะบรรเทาลงเมื่อส่งผ่านกำแพงไปถึงอีกคน

       

                                รัก รักเธอหมดใจรู้หรือเปล่า ฮึก..

                 อยากมีเพียงสองเรา อยู่กับจันทร์เหมือนเคย

                 อยากฟังซ้ำ คำที่เธอเอื้อนเอ่ย

                 บอกว่ารักเหมือนเคย อยู่ในอ้อมแขน”

       

                                 ผมได้ยินเสียงตัวเองร้องเพลงและสะอื้นคลอไปกับเสียงเพลงจากหูฟังไอพอด

                 ทั้งตัวสั่นไปหมด รวมถึงมือที่จับกันไว้ มือถูกบีบแรงจนเจ็บ

                 แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว ทั้งหมดคือเรื่องจริง คนอีกฝั่งกำแพงมีตัวตนจริงๆ

       

                                 ความอบอุ่นในมือหลุดลอยหายไป เหลือเพียงความเย็นของอากาศ

       

                                 อย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี่ผมฝันไป..

       

                                 “ตุบ”

       

                                 เสียงของหนักตกลงมาอย่างแรง

                 แต่ยังไม่ทันหันไปมอง ตัวของผมก็กลับสู่ความอบอุ่นอีกครั้ง

                 อุ่น...ยิ่งกว่าน้ำตาของผมที่หยดลงสู่ไหล่กว้างตรงหน้าเสียอีก

       

                                 ผมตัดสินใจฝังตัวลงหาความอบอุ่นในอ้อมกอดนี้ อ้อมกอดเดียว ที่มีให้ผมในเวลานี้

                 ซบหน้าลงกับไหล่กว้าง ปล่อยให้น้ำตาหกรดคนตรงหน้าอย่างไม่อาย

                 มือถูกส่งไปโอบรอบตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ตรงหน้า กำเสื้อแน่นกลัวว่าจะหายจากกันไปไหนอีก

       

                                 ถ้านี่เป็นความฝัน ก็ขอฝันต่ออีกหน่อยละกันนะ

       

                                 อินโทรเพลงดำเนินมาถึงท่อนฮุกสุดท้าย

       

                             รัก รักเธอหมดใจรู้หรือเปล่า

                 อยากมีเพียงสองเรา อยู่กับจันทร์เหมือนเคย

                 อยากฟังซ้ำ คำที่เธอเอื้อนเอ่ย     

                 บอกว่ารักเหมือนเคย อยู่ในอ้อมแขน .. ของฉัน

       

                                 .

                                 .

                                 .

       

                                 “น้ำค้างแรงจริงๆนะเนี่ย ดูดิพี่ เสื้อเปียกหมดเลยอ่ะ”

       

                                 พูดไปแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำคนที่ยืนทำหน้าไม่ถูกที่โดนแซว

       

                                 “เงียบไปเลย ไม่ต้องมายิ้มด้วย”



                                 เสียงขึ้นจมูกกับรอยน้ำตาบนใบหน้าทำให้ผมไม่ไหวที่จะทำตามที่พี่อ้นสั่ง

       

                                 มันขำจริงๆนี่ครับ ใครก็ได้ช่วยย้ำให้ผมมั่นใจทีว่าคนตรงหน้าผมเนี่ยอายุ 22 ไม่ใช่เด็กอายุ 2 ขวบ

                 ร้องไห้แงๆคิดถึงบ้านแบบนี้เนี่ย หึหึ

       

                                 “อย่าหัวเราะนะ โกรธจริงด้วย !

       

                                 “เปล่า ไม่ได้หัวเราะ” ผมสาบานนะว่าพยายามกลั้นแล้ว แต่อาการคนตรงหน้าน่ะ
                 เขินจนแทบจะมุดกำแพงไปแล้ว แล้วจะผมให้ทนเก๊กหน้าขรึมต่อยังไงไหว

       

                                 “ก็เห็นอยู่อ่ะ !!!

       

                                 “ชู่ววว อย่าส่งเสียงดังสิ”

       

                                 เหล็กสีส้มถูกซ่อนหายไปในทันทีที่ผมพูดจบ

       

                                 “ว่าง่ายจัง” ฉีกยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวไปอีกทีที่สั่งได้ดั่งใจ

       

                                 “นอนแล่ว กลับไปเลยนะ !” เสียงอู้อี้พยายามออกคำสั่งอีกครั้งด้วยเสียงที่เบาลงอย่างเห็นได้ชัด

       

                                 “เดี๋ยวดิพี่” มือถูกส่งไปคว้าแขนคนที่ทำท่าจะเดินเข้าบ้านไปจริงๆเอาไว้อัตโนมัติ

       

                                 “อ่ะ” ผมยื่นพลาสติกแข็งรูปหยดน้ำสีประจำตัวของผมไปให้

       

                                 “ปิ๊ก ? เพื่อ”

       

                                 “แลกกันไง ผมไม่รับของใครฟรีๆหรอกนะ”

       

                                 “ไม่เอา มี”

       

                                “เอ้า คนอุตส่าห์เอามาให้ น้อยใจ แย่” นี่แหน่ะ เขาบอกว่าเด็กทำอะไรก็ไม่ผิด
                 จัดลูกอ้อนไปหนึ่งดอก

       

                                 “เออๆๆๆ”

       

                                 เยส สำเร็จครับ ปิ๊กที่เคยอยู่ในมือผมถูกอีกคนฉวยไปถือไว้ในมืออย่างเสียไม่ได้

       

                                 “มีไรอีกป่าว จะไปนอนแล้ว” ทำเสียงแข็ง แต่รอยบุ๋มข้างแก้มนั่นน่ะ ผมเห็นนะ

       

                                 “ปิ๊กสีฟ้า ผมจะเก็บไว้อย่างดี แต่ถ้าปิ๊กผมหาย หรือว่าใครบางคนไม่ยอมใช้ละก็...มีเคลียร์แน่”

       

                                 คนฟังเลิกคิ้วขึ้นอย่างท้าทาย ก่อนจะหันหลังเดินเข้าบ้านไป

       

                                 “ถึงจะไม่ใช่กระต่าย แต่ก็จะไปรออยู่บนดวงจันทร์นะ !

       

                                 “ไปให้ถึงดวงดาวนะพี่ !!!

                     

       

       

      END

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×