[TS9] DEWAON' SF | ของสำคัญ - [TS9] DEWAON' SF | ของสำคัญ นิยาย [TS9] DEWAON' SF | ของสำคัญ : Dek-D.com - Writer

    [TS9] DEWAON' SF | ของสำคัญ

    บางสิ่งที่ไม่ได้คิดว่าสำคัญอะไร แต่พอถึงวันที่หายไปกลับเหงาจับใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    540

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    540

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 เม.ย. 56 / 13:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ของสำคัญ 

    ฟิควายกรุบกริบ ไร้ซึ้งความชัดเจน
    ดีเลย์มาก แต่อยากเอามาลงอ่ะ จะทำไม 555
    จั่วหัวว่าดิวอ้น แต่อ่านไปอาจต้องเลื่อนกลับมาดูว่านี่อ้นบูรณ์หรืออ้นดีรึป่าว (อ่าว)
    ติชมได้ตามอัธยาศัยเลย แบบว่าอยากแต่งฟิคคู่นี้แต่กลัวไม่มีคนอ่าน ฮือ ฝากด้วยนะคะ

    อ่านแล้วอย่าลืมกดโหวตอ้นแล้วติดตามผลงานดิวด้วยนะ <3

    ฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง แต่งขึ้นด้วยความอินส่วนตัว ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ศิลปินเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างใดเน้อ

    apricot
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ของสำคัญ 

       

                  กระเป๋าใส่กีต้าร์สีเขียวตรงหน้าถูกซ้อนทับด้วยภาพวันวานที่ยอนมาไม่หยุด เสียงกีต้าร์ขับขานกังวานอยู่ในความคิด สัมผัสอบอุ่น..

       

                  “พี่อ้น !!!

       

                  “หะ หา” เสียงตะโกนที่ดังอยู่ข้างหูทำให้หลุดออกจากภวังค์อย่างช่วยไม่ได้

       

                  “ไม่ได้ฟังอยู่จริงด้วยอ่ะ โหย ปล่อยให้ดีพูดคนเดียวตั้งนาน” แก้มป่อวงพองลมตามประสาเด็กขี้น้อยใจ ทำให้ต้องยื่นมือไปยีหัวฟูเป็นเอกลักษณ์อย่างเอ็นดู

       

                  “โทษที มัวคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ”

       

                  “คิดถึงพี่บูรณ์ล่ะสิ” คำพูดปกติธรรมดาแต่อมยิ้มแบบนั้นก็รู้เลยว่า “แซวพี่อีกแล้ว บอกแล้วไงว่าเพื่อนกัน”

       

                  “อั้ยย้ะ เค้ายังไม่ทันพูดไรเลย ร้อนตัวอ่า” พูดพลางหันไปหาแนวร่วมข้างหลัง แบมบี้ก็ดันพยักหน้าเห็นด้วยส่งสายตาวิบวับมาอีก นี่ถ้ามีเชอรีนอีกคนคงได้ล้อกันยาวแน่ สาวๆนี่นะ เรื่องแบบนี้ล่ะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

       

                  “พอเลย ทำเหมือนเราไม่คิดถึงพี่บูรณ์งั้นแหละ”

       

                  “ก็คิดถึง แต่คิดถึงพี่ดิวมากกว่า..” อ้าว บทจะเศร้าก็เศร้าไม่ปรึกษากนเลย คนเค้าเปลี่ยนอารมณ์ตามไม่ทันนะเฮ้ย

       

                  “เอาน่า มันช่วยไม่ได้นี่นะ” พูดไปก็ส่งยิ้มฝืนๆปลอบใจน้องไปด้วย ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่าผมเองก็ยังตั้งตัวไม่ติดที่คนที่นอนเตียงเดียวกันทุกวันต้องหายไป แถมพาน้องตัวใหญ่หน้าดุแต่ยิ้มร่าเริงใส่ได้ตลอดวันออกไปด้วย

       

                  ยังดีนะที่ตั้มเพื่อนยากยังอยู่ ไม่อย่างนั้นคงต้องไปปรับทุกข์กับราวบันไดไม่ก็หลอดไฟแล้วล่ะ

       

                  “เอ้อ เกือบลืมเลย ดีจะถามว่าดีจะให้ไรพี่ดิวดี พี่อ้นอ่ะชวนคุยเสียเรื่องหมด วุ้ว”

       

                  “อ่าวๆ โทษกันเฉยเลย” ตีเหม่งไปที ให้มันรู้บ้างว่านี่ใคร เรื่องเก่งกับเด็กขอให้บอก ฮ่าๆ

       

                  “โอ้ย หน้าตาออกจะน่ารักนิสัยรุนแรงซะได้ เลิกแกล้งน้อง ! ตอบก่อนนน”

       

                  “อืม.. ดิวหรอ ไม่รู้ดิ”

       

                  “ซะงั้น เห็นชอบไรคล้ายๆกัน ไม่ช่วยเลยอ่า” นั่นไง พอตอบไม่ได้ดั่งใจก็ทำปากยื่นหน้าตายุ่งอีกแล้ว “แล้วพี่อ้นจะให้ไรอ่ะ”

       

                  “ปิ๊กมั้ง” ตอบเร็วแบบยังไม่ทันคิด หรืออาจจะ..คิดไว้นานแล้ว

       

                  “ปิ๊ก ! ใช่เลย ไมไม่บอกแต่แรกเนี่ย อุ๊บอิ๊บไปได้”

       

                  “พูดเหมือนเรามีปิ๊กงั้นอ่ะ ?”

       

                  “เอ้ยนั่นดิ ไม่มี ลืมคิดอ่ะ ขออันดิพี้ชายยยย” เลียนเสียงเบบี้มายด์มาแล้ว เสียงสิบแปดหลอดทำเอาขำครืนกันทั้งรถ จะตลกไปไหนเนี่ย

       

                  “เรื่องงงงงง ของแพงนะเว้ย”

       

                  “งกกับน้อง ชิ”

       

                  ยังไม่ทันได้ง้อก็ถึงบ้านก่อน ทุกคนหยุดกะทันหันแล้วรีบลงมาจากรถเข้าไปหาสองคนที่เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว

       

                  ผมตรงดิ่งผ่านทุกคนไปที่ห้อง ไม่อยากอยู่ฟัวงเค้าร่ำลากันเท่าไร กลัวโกนบิ๊วครับ ร้องไห้ออกสื่อเดี๋ยวไม่หล่อ ฮ่าๆ

       

                  กระเป๋าหนังสีเขียวถูกเปิดออก ปิ๊กสีฟ้าถูกหยิบออกมาจากที่ประจำของมันอย่างคล่องแคล่ว

       

                  “สองอันสิ” ผมเลือกของที่เหมือนกันแล้วเดินลงมาข้างล่าง ยื่นอันหนึ่งให้ดิวก่อน ไม่ได้ตั้งใจหรอก พอดีบูรณ์ยังไม่ว่างรับน่ะ

       

                  “ขอบคุณครับ” ยิงฟันขาวอีแล้ว ผมไม่ได้ยิ้มตอบไปหรอก ใครจะยิ้มพร่ำเพื่อได้แบบมัน ตัวเองต้องเป็นคนออกแท้ๆ

       

                  “อ่ะ” หันไปส่งปิ๊กอีกอันให้อีกคน “ขอบคุณนะ ทั้งที่เล่นไม่เก่ง..ไม่เป็นด้วยซ้ำ” แล้วเสียงหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลกก็นำให้ลักยิ้มของผมต้องออกมาอวดโฉมอย่างห้ามไม่อยู่

       

                  “อย่าเพิ่งอ่านนะ อ๊ะ ! อย่าเพิ่งเปิด” เสียงจอมโวยวายประจำบ้านอีกแล้ว หมีขั้วโลกนั่นก็แกล้งน้องจนวินาทีสุดท้าย ให้ตายเหอะ ต่อไปคงไม่มีคู่กัดแล้วนะน้องดี บ้านคงเงียบไปโข

       

                  บรรยากาศในบ้านที่มีหกคนชวนอมยิ้มได้ไม่ยาก แต่อีกไม่นานก็ต้องเหลือแค่สี่คน คงจะเหงาน่าดู..

       

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

       

                  “รู้สึกยังไงที่ไม่ได้ไปต่อ”

       

                  “เสียดายมากกว่าครับ ผมอยากเล่นกีต้าร์บนคอนเสิร์ตของตัวเอง”

       

                  ต้องมีสักวัน..

       

                  เจ้าของคำตอบคิดพลางเลื่อนมือไปกระชับวัตถุรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยมในกระเป๋ากางเกง ราวกลับกลัวของสำคัญจะหลุดลอยไป

       

       

      END

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×