ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (fic exo) uppercut : chanbaek

    ลำดับตอนที่ #6 : chapter 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 58
      0
      15 มี.ค. 57

     photo logo_zpsc143684b.png

    5

     

                    วันนี้เป็นวันเสาร์ผมเลยได้ตื่นสายกว่าปกติ ผมเดินลงมาเจอจงอินที่กำลังอยู่คุยโทรศัพท์อยู่หน้าบ้าน ผมก็เลยหยุดยืนฟังบทสนทนาของไอ้เด็กทึบแสงกับคนในสายที่เฟสไทม์คุยกับมันอยู่...อ่า คยองซู

                    “แล้วเป็นอะไรมากมั๊ย?” จงอินถามพร้อมกับทำหน้ายุ่งใส่โทรศัพท์ คยองซูที่นอนสภาพแฉะแบะอยู่บนเตียงยิ้มก่อนจะตอบอะไรซักอย่างกลับมาที่ผมไม่อาจได้ยินเพราะไอ้จงอินมันใส่หูฟังอยู่

                    “กินยารึยัง?” คยองซูพยักหน้าหงึกๆตอบจงอิน

                    “งั้นก็ไปนอนพักได้แล้ว เดี๋ยวเย็นๆเราไปหา” ผมเบ้ปากกับประโยคของจงอิน ฟังแล้วมันจักจี้หู ถ้าให้ผมไปพูดแบบนี้กับไอ้จงแดมีหวังตายยยย! พูดเสร็จต้องถอดลิ้นตัวเองไปปาทิ้งลงน้ำเลยครับ ถ่วงหินให้จมลงไปลึกๆเลย!

                    “ครับๆ บ๊ายบาย” จงอินโบกมือให้กับคนที่อยู่บนน้าจอโทรศัพท์ คยองซูโบกมือกลับมาอย่างน่ารักมุมิก่อนจะหัวเราะนิดหน่อยเมื่อเห็นผมชะโงกหน้าเข้าไปโบกมือให้ด้วย จงอินวางสายคยองซูแล้วหันมาขมวดคิ้วนิ่วหน้าใส่ผม

                    “พี่มาแอบฟังทำไมเนี่ย?”

                    “ไม่ได้แอบ ยืนโต้งๆเลย ยืนหัวโด่เลยยย~

                    “พี่แม่งแย่ว่ะ!” จงอินทำหน้าตาไม่ชอบใจก่อนจะล็อกคอผมไว้แน่น ผมเอามือหยิกท้องแขนของมันด้วยความหมันไส้ จงอินปล่อยคอผมก่อนจะถอยออกไปยืนห่างๆด้วยความรวดเร็ว

                    “โอ๊ยๆ พี่ไม่มีที่อื่นให้หยิกหรอ? คันยิบเลยกู” ว่าไปก็ถูแขนตัวเองไป ผมหัวเราะอย่างสะใจและแลบลิ้นสมน้ำหน้ามัน

                    “ใครจะไปหยิกได้ถูกจุดเหมือนคยองซูเล่า~

                    “คยองซูหยิกผมที่ไหนล่ะ! ตลกแล้วพี่”

                    “อุ้ย! อย่าเพิ่งต่อยๆ กลัวแล้วครับ!” ผมพูดเหมือนเห็นจงอินทำหน้ายักใส่ สมน้ำหน้าชอบชงคนอื่นดีหนัก ขอแซวคืนบ้างเถอะ!

                    “เออพี่ มีเด็กใหม่มา รู้ยัง?”

                    “เด็กใหม่ที่ไหน? ที่โรงเรียนหรอ?”

                    “ที่ค่ายเราเนี่ยแหละ เพิ่งมาเมื่อกี้เลยพี่ ผมว่าจะเดินมาบอกอยู่พอดี แต่พอดีคยองโทรเข้ามาก่อนเลยยังไม่ได้เข้าไปบอก” จงอินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เดี๋ยวนะมึง คือเด็กใหม่เพิ่งมาเมื่อกี้แล้วกูก็เพิ่งลงมาเมื่อกี้กว่า แล้วกูจะรู้ได้ยังไงครับว่ามีเด็กใหม่มา?

                    “แล้วมันเป็นใครอ่ะ?” ผมถาม

                    “ผมว่าพี่ไปดูเองดีกว่า รับรองว่า...ปลื้ม!” ไอ้จงอินใส่อารมณ์กับคำว่าปลื้มยังรุนแรง ผมรู้สึกว่าหน้าสะเทือนเล็กๆหลังจากที่โดนปลื้มกระแทกใส่หน้า จงอินเดินนำผมไปที่หน้าค่าย ระหว่างทางผมก็ยิ้มทักทายทุกคนเหมือนปกติแต่พอเห็นคนหนึ่งที่กำลังยืนเท้าเอวหน้าบึ้งอยู่หน้าบ้านเท่านั้นแหละ...

                    “นี่แหละเด็กใหม่” จงอินบอก

    “ห้ะ?” ผมถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อรู้ว่าไอ้เด็กใหม่ที่จงอินพูดถึงคือ

    .

    .

    ไอ้!

     

    แว๊นซ์!

     

    ชานยอล!

     

    บ้า! ไม่อาววววว! ผมพยายามมองข้ามไอ้แว๊นซ์ไปด้านหลังของมันเผื่อว่าที่จริงแล้วไอ้เด็กใหม่ที่จงอินพูดถึงจะซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง อาจจะเป็นญาติ พี่น้องมัน อาม่า อากง เพื่อน หรืออะไรก็ตามที่มีขนาดเล็กกว่าตัวมัน

    “มองหาอะไรของมึง?” ไอ้แว๊นซ์ขยับตัวมาบังผมที่กำลังชะเง้อคอมองไปข้างหลังมัน ผมหันไปมองไอ้แว๊นซ์ที่กำลังถอดแว่นกันแดดมาเหน็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้วยท่าทางประหนึ่งพระเอกหนัง พอได้เห็นมันชัดๆความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวก็แล่นเข้ามาในหัวของผม

    ใครสั่งสอนให้มึงแต่งตัวทุเรศแบบนี้วะ?

    ผมมองมันตังแต่งหัวจรดเท้าก่อนจะเบ้หน้า มันใส่เสื้อเชิร์ตสีส้มแปร๋นพับแขนเสื้อขึ้นไปกองตรงต้นแขน ปลดกระดุมสี่เม็ดแรกเพื่อโชว์เสื้อกล้ามที่เขียวมะนาวลายสกรีนถลอกๆด้านใน สอดชายเสื้อเข้าไปในกางเกงหนังสีดำสกรีนลายงูกับรองเท้าแตะ...ผมนี่ปาดเจลเสยขึ้นไปบางส่วนก็มีการปาดเป็นลอน...เล็กน้อย

    ผมว่าลุกนี้มันดูไม่ได้เลยนะ ชนิดที่เห็นแล้วอยากจะเอาน้ำร้อนมาสาดไล่ อยากจะแนะนำให้มันกลับไปแต่งชุดนักเรียน คือมันจะเป็นพระคนต่อคนมองมากกกกก~

    “เรื่องของกู” ผมเสตามองไปทางอื่น คือสภาพมันแบบ...พ่อคู๊ณณณณณณ! อออกจากบ้านมาได้ไงวะ!?

    “พี่ๆ หล่อสะบัดไปเลยเนาะ” จงอินกระแซะๆเข้ามากระซิบข้างหูผมพร้อมกับทำหน้าตากรุ้มกริ่ม

    “สภาพแบบนี้คนปกติเค้าเรียกว่าหล่อกันหรอวะ?” ผมหันไปตอบเบาๆ เอาดิ! นินทามันต่อหน้าอย่างงี้แหละ

    “ก็คนที่หลงเค้าหัวปักหัวปำเค้าก็คงว่าหล่อน้า~” หรี่ตามองผมพร้อมกับอมยิ้ม คนๆนั้นไม่ใช่กูแน่ๆโว้ย! มึงเลิกชง! ซักนาทีจะตายหรอ? ห้ะ! ไอ้มืด!

    “ใช่เวลามั๊ยมึง? เฮ้ยๆๆ...แล้วมึงจะไปไหน! กูไม่ให้เข้า!” ในขณะที่ผมกำลังแยกเขี้ยวให้ไอ้มืด ไอ้แว๊นซ์มันก็เดินผ่านผมและจงอินเข้าไปด้านใน ผมหันไม่คว้าแขนมันไว้ก่อนจะออกแรงดึงให้มันหยุดเดิน

    “ทำไมจะเข้าไม่ได้? กูมาเรียนกูต้องเข้าได้ดิ!” ไอ้แว๊นซ์พยายามยื้อแขนมันกลับ ผมก็ดึงมันออกมาอีกครั้ง แล้วมันก็ขืนแรงดึงกลับไปอีก เหมือนว่าเรากำลังเล่นชักเย่อกันอยู่ ไม่ครับ ไม่ใช่เรา ผมหมายถึงผมกับมัน

    “กูไม่ให้เรียน!

    “กูจ่ายตังแล้ว!” เสียงตะโกนเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนทุกคนหันมาสนใจ

    “มึงไปจ่ายตอนไหน!?” ไอ้ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่มองจ้องไปทางจงอิน ผมหันไปมองจงอินที่ยืนตัวดำยิ้มแห้งๆให้อยู่ด้านหลัง อ๋อ...นี่มึงคิดจะงุบตังกลับบ้านหรอไอ้มืด!!!

    “งั้นก็เอามึงคืนไป”

    “ได้ไงล่ะอิหมาเปียก! กูจ่ายแล้วจ่ายเลย กูไม่รับเงินคืนและมึงต้องรับกูเข้า!” มันแลบลิ้นฟ้าๆของมันใส่ผม คือจะทำอะไรช่วยเช็คสภาพตัวเองก่อนซักนิดดีกว่าป้ะมึง!

    “เอ้า! ผมเปิดพนัน! คิดว่าพี่แบคฮยอนหรือพี่จิ๊กโก๋จะชนะ เลือกฝั่งเลยครับ! จ่ายตังที่คิมจงอิน!” ไอ้จงอินตะโกนขัดจังหวะการโต้เถียงของผมยังไร้มารยาท แต่คนในค่ายก็เริ่มสนใจครับ เริ่มมีเสียงฮือฮาพูดชื่อผมกับคำว่าจิ๊กโก๋ หลายคนยิ้มหัวเราะเหมือนมันเป็นเรื่องตลกแต่ก็หยิบเงินคนละนิดละหน่อยมาให้จงอิน เอ้า! ไปบ้าจี้ตามอิมืดมันทำม๊ายย!

    ตึง!

    “เอะอ่ะอะไรกัน!?” พ่อใช้เท้าถีบประตูบ้านอย่างรุนแรงก่อนจะออกมายืนเก๊กขรึมอย่างผู้มีอำนาจ ทำเอาแต่ละคนรีบเก็บตังกลับเข้ากระเป๋าแทบไม่ทัน ไอ้จงอินร้องโห่อย่างเสียงดายแต่ก็ยอมปิดการพนันของมันแต่โดยดี

    พ่อเปลี่ยนจากการมองไปรอบๆมามองที่มือของผมแทน พอมองตามสายตาพ่อไปเห็นว่ามือของผมกับไอ้แว๊นซ์กำลังจับกันอยู่นี่ดีดตัวออกจากกันแทบไม่ทันครับ ผมกับมันเด้งออกจากกันเหมือนแม่เหล็กขั้วเดียวกัน ผมถลาเข้าไปเอามือเช็ดเสื้อจงอินที่กำลังยืนนับตังอยู่

    “เอ็งเป็นใคร?” พ่อถามไอ้แว๊นซ์ด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

    “ปาร์คชานยอลครับ ผมมาสมัครเรียน” โอ้โหเห้ย! มันสุภาพเฉยเลยว่ะ

    “ผมมาสมัครเรียนแต่มีคนไม่ยอมให้ผมเข้า” มันพูดกับจะปลายตามามองผมที่ยืนกอดคอจงอินและกำลังมองมันด้วยสายตาที่บ่งบอกได้ว่าผมไม่ชอบใจสุดๆ พ่อมองตามสายตาของมันจนมาเจ๊อะกับผม ผมเลยเสหน้าไปทางอื่นแล้วชี้มือชวนไอ้จงอินชมนกชมไม้ไปเรื่อย

    “ปาร์คชานยอลเอ็งตามข้าเข้าบ้านมาคุยกันหน่อย ส่วนพวกเอ็งที่เหลือกลับไปซ้อม!” พ่อพูดจบก็หันหลังควับเข้าบ้านไปเลย

    “เดี๋ยวพ่อ!” ไม่สนใจจะหยุดฟังผมเรียกซักนิด ไอ้ชานยอลหันมายิ้มเยาะผมก่อนจะเดินตามพ่อเข้าไปในบ้าน เดี๋ยวเถอะ! กูขอให้พ่อตะเพิดมึงจนกลับบ้านไม่ถูกตกท่อตายอยู่หน้าปากซอยเลย! แล้วกูจะตามไปกรีดกางเกงงูเห่ยๆที่ศพมึงด้วยตัวเองเลย ไอ้จั่กคั่ก!

    ผมขยี้หัวตัวเองอย่างอารมณ์เสียก่อนจะหันไปเตะหน้าแข้งดำๆของไอ้จงอินด้วยความหมันไส้

    “ยืนรออะไรล่ะมึงอ่ะ ไปซ้อมดิ!

    “เห้ยไม่ได้พี่ เดี๋ยวผมต้องไปทำงานแล้ว ไว้บ่ายๆจะกลับมาซ้อมแล้วกันนะ”

    “นี่มึงจะโดดทุกวันเลยหรอครับไอ้จงอิน?”

    “พักวันละนิดจิตจะแจ่มใสครับพี่ ผมไปก่อนนะ จุ้บๆ ขอให้มีความสนุกกับเด็กใหม่~” ไอ้จงอินพูดจบก็รีบวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว ผมถอดรองเท้าเขวี้ยงตามหลังไอ้จงอินไปด้วยความหมันไส้แต่ดันไม่โดนมัน ทำให้ความหมันไส้ในใจเพิ่มขึ้นอีกเป็นร้อยเท่า!

    เฮ~ มีความสุขกับผีสิไอ้ทึบแสง!

     

    แอ๊ด...

    ผมลุกพรึ่บทันทีที่ได้ยินเสียงประตูบ้านเปิดแต่คนที่เดินออกมากลับเป็นพี่ซูโฮกับกระเป๋าช้างสุดที่รัก

    “จะไปไหนหรอพี่?”

    “ไปเที่ยวกับคริส~” พี่ซูโฮตอบพร้อมกับฉีกยิ้มสวยให้ผม ผมพยักหน้าแล้วมองตามพี่ซูโฮที่กระโดดอย่างมีความสุขจนลับสายตาไป ก่อนจะนั่งลงกับขั้นบันไดที่เดิมอีกครั้ง

    ผมมานั่งรอลุ้นผลได้กว่าครึ่งชั่วโมงแล้วหลังจากที่จงอินออกไป ทีแรกผมตั้งใจว่าจะเข้าไปนั่งฟัง(และขัดขวาง)ว่าพ่อพูดอะไรกับมันบ้าง ผมจะได้เสี้ยมให้พ่อไล่มันไปให้พ้นๆ ถ้าพ่อรู้ว่ามันเป็นคนที่เอาหินมาปาบ้านนะ...มันไม่เหลือแน่ๆ! พ่อไม่น่าล็อคประตูเลย อะไรจะพูดคุยเป็นความลับขนาดนั้น!

    ผมหันไปมองประตูบ้านที่พี่ซูโฮปิดไม่สนิทแล้วลอบยิ้มให้ตัวเอง ผมค่อยๆย่องไปเพื่อที่จะเปิดประตูแต่ยังไม่ทันที่จะได้แตะบานประตู

    พรึ่บ!

    “เห้ย!/หึ่ย!

    ใครบางคนก็เป็นโช้ะออกมาเสียก่อน ผมตกใจผงะหงายหลังจนจะเซตกเฉลียงหน้าบ้าน แต่โชคดีที่คนตรงหน้าคว้าแขนไว้ทัน ผมเอามือคว้าแขนเสื้อของคนตรงหน้าไวเพื่อพยุงไม่ให้ตัวเองล้ม...แต่นั่นกลับเป็นการทำให้ทั้งผมและคนๆนั้นเซถลาตกลงมาด้านล่างด้วยกัน

    โชคดีที่ผมคว้าราวบันไดไว้ได้ทัน ทำให้ทรงตัวได้ ผมหันไปมองคนที่กำลังเกาะแขนผมไว้แน่นเพราะกลัวว่าจะตกลงไปซี้แง่กอยู่ข้างล่าง...ครับ เดาไม่ผิดหรอกว่าใคร

    ไอ้แว๊นซ์ชานยอลนั่นเอง!

    “ปะ ปล่อยแขนกูเลยมึง...โอ้ย!” ผมสะกระชากแขนตัวเองกลับมาด้วยความรุนแรงแต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้ชานยอลมันปล่อยแขนผมพอดี

    ทำให้ผมปล่อยหมัดเข้าหน้าตัวเอง

    ผมเพิ่งเคยรู้ว่าหมัดตัวเองมันเจ็บขนาดนี้

    รู้สึกเหมือนกรามเคลื่อนไปอยู่ที่ไหล่ข้างขวาเลยครับ

    “ฮ่าๆๆ โง่ชิบหาย! เป็นหมาเปียกกลิ่นก๋วยเตี๋ยวแล้วยังโง่อีก” ไอ้แว๊นซ์พูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่น ที่พูดมานี่มันเป็นเพราะมึงหมดเลยป้ะ! ไอ้ขากาง! เอ้ย ขาโก่ง

    “แบคฮยอน! เอ็งพาไอ้หนุ่มนี่ไปเปลี่ยนชุดสิ มัวแต่เล่นอะไรกันอยู่นั่นแหละ!” พ่อที่ตามออกมาจากในบ้านเอ่ยบอกด้วยเสียงดัง ผมก็เข้าใจนะว่าชุดของมันอัปลักษณ์มากแต่ทำไมพ่อต้องพามันไปเปลี่ยนด้วยล่ะ? มันกลับไปเปลี่ยนเองที่บ้านไม่ได้หรอ?

    “เปลี่ยนทำไมพ่อ?”

    “ก็ข้ารับมันเข้ามาแล้ว เองก็พามันไปขึ้นสังเวียนชกกันได้เลย”

    “ห้ะ!?” ผมร้องเสียงหลงแล้วมองพ่อสลับกับไอ้แว๊นซ์ที่ยืนยืดอกและยักคิ้วกวนตีนให้อย่างน่าหมันไส้

    “ได้ยินแล้วนี่! ไปๆ แก้ผ้าๆแล้วขึ้นชกกันเลย!” พ่อพูดก่อนจะปรบเสียงเสียงดังแล้วเดินเลยผมไปเพื่อสั่งให้คนในค่ายจัดเตรียมสังเวียนให้ผมเพื่อต่อยกับไอ้แว๊นซ์นี่...อะไรของพ๊อออออ!

    “เอ้า ไปดิ! พากูไปแก้ผ้าๆแล้วมาชกกัน” มันพูดเลียนแบบพ่อพร้อมกับยิ้มเยาะเย้ยผม ผมแทบอยากจะกระโดดเอาหัวไปโหม่งหน้ามันให้หงายไปเลย ใครเขาจะอยากแก้ผ้าต่อยกับมึง! ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำไมต้องตามารังควานกูถึงที่ขนาดนี้!

    ห้ะ! ไอ้หัวเหม่ง!!!

    …………………………………

     

    “สรุปมึงเข้าไปได้แล้วใช่มั๊ย?” ผมนั่งลงบนม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะวางถุงกระดาษสีน้ำตาลใบใหญ่ไว้ข้างๆ

    [เออ กูแอบวอร์มอัพอยู่ในห้องแต่งตัวเนี่ย เดี๋ยวต้องไปต่อยกับอิหมาเปียกมัน]

    “ทำไมต้องต่อยกันด้วยวะ?”

    [กูขอพ่อมันเองแหละ กูบอกว่ากูอยากต่อยลูกเค้า ถ้ากูแพ้จะยอมเป็นลูกศิษย์ลูกเค้าเลย โห่ย! กูโคตรเท่ห์เลยเนาะลู่เนาะ] โอ่ย! เท่ห์ตายล่ะมึง

    “เท่ห์สู้มอเตอร์ไซค์ท่อคู่ของกูไม่ได้หรอกมึง”

    [ของมึงไม่เห็นจะเท่ห์เลย!กูเห็นล่ะนึกว่ามึงขี่แมลงวัน]

    “มึงก็ขี่แมลงสาบเหมือนกันล่ะวะ!” ผมเถียงกลับอย่างรวดเร็ว ไอ้ปาร์คโก่งกางมันกล้าดียังไงมาลบหลู่มอเตอร์ไซค์ฟลูออพชั่นของผมวะ! ผมเอานิ้วชี้ไปวนๆพันๆกับชายกางเกงขาสั้นสีเหลืองสุดชิคของผมเพื่อระบายอารมณ์โมโหไอ้โก่งกาง

    [ไม่โว้ยยย! เห้ย! มึงอย่าเพิ่งมาพากูนอกเรื่อง มึงแน่ใจนะว่าแผนมึงเวิร์คอ่ะไอ้ลู่! ]

    “เออ ทำๆไปเหอะหน่า! ระดับกูแล้วไม่พลาดหรอก!” ผมตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิดๆ

    [ถ้ามึงพลาดนะเดี๋ยวมึงรู้เลย!] โอ่ยๆ! ไอ้โก่งมาทำเป็นขู่! กลัวตายล่ะมึง! มึงจะทำอะไรกูได้ เอาหูมาตีพั่บๆใส่หน้ากูหรอ? กูจะเด็ดหูมึงทิ้งสักวันคอยดู! ถ้ากูไม่รักไม่อยากเด็ดทิ้งให้มึงหรอก

    [แค่นี้นะมึง กูจะไปต่อยหน้าอิหมาเปียกมันและ คนอะไรหน้าอย่างกับหมาไม่แทะกระดูก ดูดีตายยย~ อิแหมบ! เล็บขบกูยังหล่อกว่ามึงเลย!]

    ตู้ด!

    ด่าเสร็จก็ตัดสายไปเลยครับ...

    เมื่อวานไอ้ชานยอลโทรมาโวยวายใส่ผมว่าเกลียดไอ้หน้าหมาอย่างโน้น โมโหหน้าหมาอย่างนี้ มันบอกว่าอยากจะให้แบคฮยอนเลิกมายุ่งกับฮยอนอาของมันแล้วไปให้พ้นๆซักที ด้วยความที่ผมเป็นเพื่อนซี้หนีตีนด้วยกันมาแล้วกว่าสิบล้านครั้งและด้วยความที่เมื่อวานผมโดนไอ้ช้างใหม่สมุนของไอ้พ่อช้างซูโฮมันเล่นงานมา ผมเลยเลือกที่จะเข้าข้างไอ้ปาร์คและช่วยมันวางแผนขับไล่แบคฮยอนออกไป

    ที่จริงผมก็ไม่ได้อยากวางแผนทำร้ายหรือปั่นป่วนแบคฮยอนเท่าไหร่หรอกเพราะผมไม่ได้มีปัญหากับเขาแต่กับพี่เขาน่ะมี ไอ้คนหน้าช้าง!

    อยากรู้อ่ะดิว่าแผนอะไร

    .

    .

    ไม่บอก!

    .

    .

    .

    ไม่ต้องตกใจครับ ไม่บอกคือชื่อแผนของผมเอง โค้ดลับไงโค้ดลับ ผมคันปากอยากจะเล่าแผนจะตายอยู่แล้ว...

    เล่าเลยแล้วกัน!

    เมื่อวานไอ้ชานยอลโทรมาเรียกให้ผมออกไปหามันที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง...ที่ผมได้ยินชื่อแล้วโคตรไม่อยากไปเลยเพราะว่ามันเป็นร้านที่พี่คริสนัดเจอผมครั้งแรก แล้วดันมาพูดเรื่องไอ้มือที่สามซูโฮ โอ่ยยย หานชอกหนอ~

    ไอ้ลู่กูไม่ไหวแล้ว! กูเกลียดอิหมาเปียกมันว่ะ มันโดนน้ำสูตรมฤตยูของกูสาดไปแล้วตัวไม่เหม็นตลอดวัน! ตอนเย็นตัวมันกลับมาหอม ไม่! กูหมายถึงกลับมามีกลิ่นสาบหมาที่ไม่ใช่กลิ่นน้ำมฤตยูของกู แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าฮยอนอายอดรักกูจะรักมันมากขึ้น โอ้ย! เกลียดมันว่ะ กูอยากให้มันเลิกกันทำไงดีวะลู่?

    มึงแน่ใจหรอว่าเค้าคบกันอ่ะ?

    ทำไมมึงพูดงี้...มึงไปรู้อะไรมา?

    ก็ไม่ได้รู้อะไรมาหรอก กูแค่เห็นว่าสายตาที่เค้ามองกันไม่เหมือนเวลากูกับพี่คริสมองกันเลย

    เพ้อนะมึง! มึงมาช่วยกูคิดหาวิธีทำให้มันเลิกกันหน่อยดิ ไอ้หมาเปียกมันเป็นน้องชายพี่ซูโฮ เพราะฉะนั้นมึงก็ต้องไม่ชอบมันเหมือนที่มึงไม่ชอบพี่มันด้วยเข้าใจป้ะ?พอผมได้ยินแรงริษยาในอกมันก็ลุกโชนขึ้นมา

    ก็ถ้ามึงทำให้ฮยอนอามาชอบมึงไม่ได้ มึงก็ทำให้แบคฮยอนไปชอบคนอื่นแทน

    มึงจะให้กูเอาน้องซาร่าไปล่อมันหรอ?

    แล้วแต่มึงดิ...หรืออีกวิธีนึงนะมึงก็ทำให้แบคฮยอนหายแมนไปเลย!’

    เป็นความคิดที่ดีกูควรไปจ้างใครซักคนมาจัดการกับมัน! เอาให้มันเป็นเหมือนไอ้เซฮุนไปเลย!’

    งั้นกูว่ามึงคงต้องใช้ตัวเองว่ะ

    ‘…’

     พรุ่งนี้มึงลองไปที่ค่ายแบคฮยอน  ไปสมัครเรียนแล้วก็ใช้เวลาช่วงนั้นคอยจับผิดว่าระหว่างแบคฮยอนกับยอดรักของมึงมีอะไรดูผิดปกติมั้ยเพราะกูว่าเค้าทำตัวไม่เหมือนแฟนกัน ถ้าบอกว่าแบคฮยอนเป็นแฟนกับไอ้หงิมที่ตัวติดกันตลอดกูว่าน่าเชื่อมากกว่า

    ไอ้ชานยอลเห็นด้วยกับแผนของผมมาก มันเอาแต่ไปนั่งคิดว่าจะเอาใครมากหลอกล่อให้แบคฮยอนนอกในฮยอนอา เช้าวันนี้มันเลยรีบดิ่งไปทำตามที่บอกทันที ว่าแล้วผมก็ควรปรบมือให้กับความคิดของตัวเอง

    “หานโคตรเก๋เลยว่ะ! ฮ่าๆ” ผมปรบมือให้กับแผนการสุดล้ำ ทั้งมาดแมนและฉลาดขนาดนี้ พี่คริสไม่รักก็บ้าแล้ว! โอ่ยๆ เขินหนอ~

    ระหว่างที่ผมกำลังตบมือมีความสุขกับตัวเองอยู่ สายตาดันเหลือบไปเห็นผู้ชายตัวสูงผมทองแล้วใบหน้าน่ารักมุมิที่คุ้นเคยยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนห่างไปประมาณห้าร้อยเมตร ผมคว้าถุงกระดาษสีน้ำตาลและลุกขึ้น สาวเท้าเดินเข้าไปหาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับร้อยยิ้ม ผมก้มหน้าลงไปมองของในทุกด้วยความดีใจ

    พ่อจะพาหนูไปหาแม่แล้วนะลูก!

    แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกที ยิ้มกว้างที่เคยอยู่บนหน้าผมก็หายไป ผมก็เห็นว่าเขากำลังคุยกับวัตถุกลมๆสีฟ้า

    พี่คริสยืนอยู่กับไอ้มาสคอตช้างตัวเดิม

    พี่คริสกำลังส่งยิ้ม ยิ้มที่ผมคิดว่ามันทำให้โลกผมสดใส ยิ้มที่ผมไม่สามารถลืมแสงประกายที่เกิดจากการสะท้อนของแสงอาทิตย์และฟันพี่คริส ยิ้มที่ผมคาดหวังว่าจะได้เจ้าของรอยยิ้มมาเป็นแม่ให้ลูกของผม

    แต่ตอนนี้เจ้าของรอยยิ้มนั้นกำลังส่งยิ้มที่ผมรักนักหนาให้ใครอีกคน

    พี่คริสกำลังส่งยิ้มให้กับ...

    .

    .

    กับไอ้พ่อช้างซูโฮ

    พอเห็นหน้าไอ้บ้านั่นยิ้มกลับมาให้พี่คริสอย่างมีความสุขผมก็กำถุงในมือแน่น ผมคิดว่าผมกำลังโกรธแต่รู้สึกเหมือนความอิจฉาจะมีมากกว่า ตอนนี้มองเห็นอะไรก็ไม่สวย ผมมองเห็นน้ำพุตรงหน้าเน่าเหมือนคลองที่ปลาตายล้านศพ มองเห็นคนที่เดินผ่านไปมาหน้าตายับเหมือนถุงก๊อบแก๊บโดนอัดอยู่ในที่แคบมาสิบชาติเศษ มองเห็นถุงกระดาษในมือเป็นแค่ต้นไม้โง่ๆที่วิ่งหนีคนที่มาตัดไม่ทัน ผมเห็นไอ้มาสคอตช้างเป็นสิ่งที่หน้าถีบทีสุดในโลก

    และ...ผมเห็นเท้าผม

    .

    .

    อยู่ที่ก้นมันเรียบร้อยแล้ว

    ผลั่ก!

    “เฮ้ย!/อ้ะ!” รู้สึกตัวอีกทีไอ้มาสคอตช้างมันก็คว่ำหน้าโง่ๆของมันลงไปจุ่มกับดินเรียบร้อย ผมปาถุงกระดาษใส่ไอ้ช้างที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้นก่อนจะโถมตัวลงไปทับมันและและทุบหัวสีฟ้ากลมๆที่ดูน่าหมันไส้ที่สุดในชีวิต ผมอยากให้มันงวงหัก หักละเอียดแบบแหลกยับไม่มีชิ้นดี อยากจะเด็ดงามันไปทำไม้จิ้มฟัน จะเอาไปแคะจนกว่าจะใส่ฟันปลอมหมดทั้งปากเลย!

    “ลู่หาน! ทำอะไรลุกออกมาเดี๋ยวนี้นะ” พี่เข้ามาหิ้วปีกผมออกไปจากตัวช้าง

    “ปล่อย พี่คริสปล่อยหาน!!!” ผมดิ้นๆเพื่อจะสะบัดพี่คริสให้หลุด แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดเค้าปล่อยผมออกทันทีที่ผมลุกออกมาจากตัวช้าง ไม่แม้แต้จะรั้งผมไว้ซักนิด โอ่ยยยย! พี่คริสคนดีจะรู้มั้ยว่าไอ้หานมันช้ำมันชอก!

    “ลู่มาทำไม?” พี่คริสถามผมอย่างไรเยื่อใยในขณะที่สายตาเอาแต่มองไอ้บ้าที่ตาลีตาเหลือกวิ่งเข้าไปช่วยพาช้างลุกขึ้น ผมมองตามสายตาพี่คริสพร้อมกับความรู้สึกแปร๊บๆในอก

    “พี่คริสไม่เคยคิดจะรักหานจริงๆหรอวะ? ผมทำดีเท่าไหร่ก็จะไม่มองเลยหรอ?”

    “พี่ว่าเราเคยคุยกันแล้วนะลู่หาน ไม่ว่ารู้จะทำอะไร พี่ก็เห็นลู่เป็นแค่น้องชายคนหนึ่ง พี่ไม่อยากให้ความหวังลู่”

    “อ๋อใช่...ก็พี่คริสชอบเค้าไปแล้วนี่” ผมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ผมไม่ชอบเลยเวลาเห็นพี่คริสทำหน้าเหมือนคนอมตด ผมชอบที่จะเห็นฟันขาวๆเรียงร้อยแบบระเบียบของพี่เขามากกว่า เพราะฉะนั้นหานจะไม่ท้อนะคนดี หานอยากจะเห็นรอยยิ้มของพี่คริสคนดีเป็นของหานคนเดียวเรื่อยไป แต่ตอนนี้...

    “ลู่หาน!/อย่าๆๆ!

    ผมดึงหางไอ้ช้างหน้าโง่จนมันเซถอยหลังเข้ามาหาก่อนจะออกแรงต่อยหูบานที่เหมือนกับของไอ้ชานยอลจนหัวโตๆงี่เง่าของมันหมุนติ้วๆ

    “อย่าทำช้างเลยนะ” ซูโฮวิ่งเข้ามาดึงผมไว้ในเมื่อเห็นว่าผมกำลังจะเข้าไปซ้ำอิช้างที่กำลังโซเซหาที่ยืนให้ตัวเองไม่ได้ ผมสะบัดแขนออกอย่างรุนแรงก่อนจะสาวเท้าเข้าไปกระโดดตบกบาลไอ้ช้างนั่น ซูโฮร้องห้ามแต่เสียเบาลงเรื่อยๆ ที่จริงเขาควรจะขอบคุณผมนะที่ผมเลือกที่จะตุ๋ยอิช้างนี่จนม่องแทนที่จะเป็นคนอื่น ก็พราะไอ้ช้างนี่มาจะเจ็บน้อยสุดเวลาโดนหมัดหรือแข้งของผมไง พูดแล้วก็ขอเตะซ้ำหน่อย ไอ้ชุดหนาๆบวมๆที่ดูไม่เก๋ไของมึงจะพังด้วยน้ำมือกูนี่แหละอิช้างงง!!

    “ซูโฮ!” ในระหว่างที่ผมกำลังนัวกับไอ้ช้างบ้าอย่างมเมามัน เสียงตะโกนของพี่คริสก็ดังจนผมต้องหันไปมอง ไอ้พ่อช้างซูโฮกำลังอยู่ในอ้อมแขนของพี่คริส...ของผม ซูโฮจับไหล่พี่คริสไว้ หายใจถี่ๆอย่างน่าสงสาร...แต่ผมไม่สงสารไง

    พี่คริสช้อนตัวซูโฮแล้วรีบวิ่งออกจากตรงนั้น ยังไม่ทันที่ผมจะได้วิ่งตามไปผมก็โดนไอ้ช้างบ้าที่น่าจะน่วมไปแล้วผลักกระเด็ดกลิ้งหลุนๆไปอีกทางจนได้แผลถลอกเล็กน้อยที่แขน

    “มึงไอ้ช้าง!” ผมตะโกนไล่หลังไอ้ช้างที่ทำท่าจะหนี รีบวิ่งไปคว้าตัวมันไว้ ไอ้ช้างสะบัดแขนผมออกอย่างรวดเร็วก่อนจะหันมาเต้นแอโรบิคให้ผมดู มันสับมือไปมาท่าเบสิคที่มาสคอตทุกตัวทำก่อนที่จะ

    “โอ้ยย!” ปล่อยหมัดใส่หน้าผม!

    “ไอ้ช้างมึงกล้าดียังไงวะ! มึงจะหนีไปไหนเดี๋ยวมึงเจอกูแน่!” ผมได้แต่ตะโกนไล่หลังไอ้ช้างที่วิ่งหนีหายไปพร้อมกับอาการมึนหัวเล็กน้อย “ไอ้ช้าง! ไอ้ตูดใหญ่! ไอ้มีงวง! ไอ้มีงา! ไอ้ตาดำ! ไอ้หน้าการ์ตูน! ไอ้หางยาวจนห้อยซีดีได้!!!

    “อย่าให้กูเจออีกนะมึง” ผมยันตัวลุกขึ้นก่อนจะเหลือบไปเห็นถุงกระดาษสีน้ำตาลของผมที่ถูกผมปาใส่ไอ้ช้างบ้ากระจายหายไปคนละทิศละทางวางอยู่ตรงหน้า ผมไม่รู้ว่ามันกลับมาได้ยังไง ผมไม่อยากเห็นมันอีกแต่ก็เลือกที่จะก้มลงหยิบมันขึ้นมาอยู่ดี กระชับถุงในมือก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนที่มามุงดูเหตุการณ์เมื่อกี้ออกไป

    …………………………………

     

    เป๊ง!

    สุดท้ายผมก็มันอยู่บนวังเวียนกับไอ้แว๊นซ์จนได้ ผมได้แต่มองมันที่ตั้งการ์ดอย่างตั้งใจด้วยสายตาหน่ายๆ ไอ้ชานยอลใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงมวยสีแดงทำให้ดูมีความเป็นคนขึ้นมาเยอะ หลังจากที่มันเข้าไปถอดกางเกงหนังงูบ้าๆนั่นอยู่กว่าสิบนาที ในที่สุดมันก็ได้ความเป็นคนกลับมาอีกครั้ง

    “กูถามจริงๆเถอะ มึงมาทำไมเนี่ย?”

    “เรื่องของกู จะบอกมึงทำไมให้โง่!” มันพูดพร้อมกับปล่อยหมัดขวากระจอกๆที่ผมหลับตายังหลบได้มา และแน่นอนว่าผมหลบได้แบบสบายๆ

    “บอกกูก็ไม่ได้ทำให้มึงโง่ขึ้นหรอก” ผมตอบพร้อมกับหลบหมัดซ้ายที่มันปล่อยมา

    “ถ้ามึงแพ้ฮยอนอาเป็นของกู”

    “แฟนกูไม่ใช่สิ่งของ เรื่องอะไรต้องให้มึง?”

    “เรื่องของกู!” เอ้า! ทุกอย่างเป็นเรื่องของมึงหมดรึไงวะ? ไอ้ชานยอลไม่พูดอะไรต่อเอาแต่ปล่อยหมัดใส่ผมแต่ผมก็หลบและกันได้ทุกครั้ง ผมแทบจะไม่ได้ออกแรงเลยในขณะที่อีกฝ่ายหอบแฮ่กๆไปแล้ว สู้แบบไม่มีสติก็แบบนี้ล่ะครับ เหนื่อยเปล่าๆ

    ไอ้ชานยอลเริ่มอารมณ์ไม่ดีจึงใส่แรงเพิ่มมากขึ้นไปอีก มันพยายามจะต่อยให้โดนผมถึงขนาดเอานวมมาหนีบคอเสื้อผมไว้ไม่ให้หนี แต่แค่ผลักออกนิดเดียวมือมันก็ไหลหวืดออกไปจากคอเสื้อแล้ว มันปล่อยหมัดขวาอีกครั้งแบบสุดแรง

    ฟิ้ววว~

    จนนวมหลุดออกจากมือไป

    “ไอ้แบคต่อยๆให้จบไปสิ ข้ารอไม่ไหวแล้ว หิวข้าวโวย!” พ่อลุกขึ้นยืนโวยวายอย่างหัวเสีย ผมหันลงไปมองคนอื่นๆที่นั่งดูอยู่ข้างล่างก็มีท่าทีว่าเบื่อเต็มทนแล้วเหมือนกัน ผมหันกลับไปมองหน้าไอ้แว๊นซ์ที่พร้อมจะพุ่งเข้ามาบวกผมอยู่ตลอดเวลาก่อนจะถอนหาย จงแดไม่อยู่...ผมต่อยมันไปคงไม่มีใครว่าอะไรมั้ง

    อีกอย่างต่อยๆไปมันจะได้เข็ดแล้วเลิกมายุ่งวุ่นวายกับผม

    ต่อยเลยแล้วกันเนาะ

    .

    .

    ผลัวะ!

    ผมต่อยหน้าไอ้แว๊นซ์ไปด้วยแรงที่ผมคำนวณมาแล้วว่าจะทำให้มันแค่เซเท่านั้นหรือล้มลงไปนั่งในกรณีทีมันขาอ่อนอยู่ แต่รู้สึกเหมือนผมจะคำนวณพลาดไปนิดเมื่อไอ้แว๊นซ์ที่ควรจะนั่งกลับหงายตึงลงไปนอนแอ้งแม้งกับพื้นสังเวียนด้วยท่าปลาดาว

    “อ่าว เฮ้ยมึง!” ผมเดินไปนั่งลงเอามือเขี่ยมันดู มันยังมีสติครับ แต่ดูจากหน้าตาเหมือนยีราฟเมาอึของมันแล้ว ผมว่ามันกำลังเห็นดาวลอยอยู่แน่ๆ

    “ดี! ต่อไปนี้เอ็งก็ต้องเป็นลูกศิษย์ของไอ้แบคลูกข้าตามที่สัญญาไว้!

    “ห้ะ!” ผมถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อพูด เดี๋ยวๆ เดี๋ยวววววว! อะไรคือให้มันเป็นลูกศิษย์ผม? มันควรจะไปให้พ้นๆจากชีวิตผมไม่ใช่หรอคุณ แล้วถ้ามัน...เป็น...คือมันจะมา แล้ว โอ้ยยยยยย! อย่างงี้มันก็ยังไม่หลุดออกจากชีวิตผมซักทีสิ! ทำมเป็นงี้วะ! ห้ะ!

    พ่อออออออออออออออออออ!

     

    สุดท้ายผมก็ต้องลากไอ้ชานยอลลงมาจากสังเวียนและคำสั่งของพ่อที่ให้ผมดูแลและเป็นคู่ฝึกมันนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฮ……..

    “เอาไป” ผมโยนกล่องปฐมพยาบาลลงบนโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ไอ้ชานยอลมองผมตาขวางก่อนจะกระชากกล่องไปแล้วเปิดด้วยความรุนแรง มันหยิบนู่นทำนี่ด้วยเสียงดังตึงตังเหมือนเวลาคนไม่ได้ดั่งใจแล้วโมโหกระฟัดกระเฟียด

    “ถ้ามึงไม่พอใจจะมาทำไม กลับบ้านไปเหอะ” แล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก กูขอร้อง

    “ไม่ต้องมายุ่ง กูจะไปไหนมาไหนไม่พอใจอะไรก็เรื่องของกูป้ะไอ้หมาเปียก” เออ เรื่องของมึงทุกอย่าง! มึงจะมาค่ายกูก็เรื่องของมึง มึงจะแกล้งกูก็เรื่องของมึง มึงจะหกล้มก็เรื่องของมึง จะหน้าจิ้มขี้จิ้มโคลนก็เรื่องของมึง มึงหูบานหูกางหูใหญ่หูหนาหูหาบ้าบออะไรก็เรื่องของมึง แต่ถ้าเรื่องของมึงไม่เดือดร้อกูกูก็ไม่เข้าไปยุ่งหรอกโว้ยยยยย!

    มึงโกรธเป็นคนเดียวรึไง เห็นกูเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมแบบไอ้จงแดหรอ? ก็เหมือนจะไม่ใช่ป้ะ! อย่าให้กูปรี๊ดแตกนะเว้ย! กูจะอัดซ้ายอัดขวาเข่ามึงอั่กๆๆๆอัปเปอร์คัตเสยคางมึง เสย! เสย! เอาให้คางมึงไปพับรวมกับหน้าผากเลย เดี๋ยวเถอะ!

    อ๋อใช่!...เมื่อไหร่ตัวกูจะแห้ง?

    รู้สึกว่ากูจะเป็นไอ้หมาเปียกมานานแล้วนะ!

    ผมทำได้แค่กรนด่ามันในใจเพราะไม่อยากจะสาวความยาวต่อความยืดต่อยตีกันยืดเยื้อกับมันนัก แต่ต่อไปนี้ผมคงต้องทำตัวให้เหมือนแฟนฮยอนอามากกว่านี้ซักนิดเพราะปกติเวลากลับมาจากโรงเรียนหรือไม่ได้อยู่ต่อหน้าไอ้แว๊นซ์หรือไอ้เด็กตุ๊ดผมก็จะทำตัวปกติ ไม่ได้ไปเจ๊าะแจ๊ะจอแจออกอาการหึงหวงมันเลยซักนิด...เฮ้อ ทำไมต้องเพิ่มงานให้กูครับ!

    “พี่แบคฮย๊อนนนนนนนนนน~

    “ครับ~” ผมหันไปขานรับเจ้าตัวเล็กที่วิ่งหัวเราะคิกคักออกมาจากบ้าน จูอึนวิ่งมาถึงก็รีบปีนขึ้นเก้าอี้มากอดคอผมไว้ ผมหันไปยิ้มแล้วก็จุ๊บปากกับเจ้าตัวเล็กของบ้าน จูอึนยิ้มร่าก่อนจะเปลี่ยนมาจับแก้มผมไว้สองข้างแล้วโยกไปมาอย่างสนุกสนาน

    “อุ้ย!” เจ้าตัวเล็กร้องเสียงหลงก่อนจะรีบปีนมาเกาะหลังผม แล้วโผล่ขึ้นมาจากไหล่ผมเพื่อแอบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมหันไปมองไอ้ชานยอลที่มองมาที่น้องสาวผมด้วยแววตาแฝงความนัยน์อะไรซักอย่าง

    “นั่นเพื่อนพี่แบคหรอ?”

    “ใช่ครับ” คนตอบไม่ใช่ผมแต่เป็นไอ้แว๊นซ์ มันตอบพร้อมกับยิ้ม...มาแปลกนะมึง

    “ใจดีมั้ย?” จูอึนถามอีกครั้ง

    “อ๋อก็...เอ่อ มะ”

    “ใจดีมากครับ” ไอ้บ้านั่นมันพูดก่อนจะยิ้มอีกครั้ง จูอึนค่อยปล่อยมึงออกจากผมแล้วปีนไปนั่งบนโต๊ะตรงกลางระหว่างผมกับมันแทน

    “ชื่ออะไรคะ?” ไอ้ชานยอลบีบเสียงเล็กถามพร้อมกับยื่นมือออกมาลูบหัวน้องผม อู่ยยย...มันดูเป็นคนปกติขึ้นมาทันตาเห็นเลยครับ

    “ชื่อจูอึนค่ะ”

    “ชื่อน่ารักจัง พี่ชื่อชานยอลนะ” ผมได้แต่ปล่อยให้เขาสองคนทำความรู้จักกันไปเพราะตัวผมเองชะงักค้างไปเรียบร้อยแล้ว คือ...ไอ้แว๊นซ์มันโดนอะไรเข้าสิงมาไม่รู้ กลายเป็นไอ้แว๊นซ์อีกแว๊นซ์หนึ่งที่ไม่ใช่ไอ้แว๊นซ์นั่นและ โอ่ยย...พูดไปก็งง แบบมันดูเป็นคนปกติกว่าปกติของมัน

    “พี่แบคฮยอนนนน”

    “ห้ะ? คะ?” ผมสะดุ้งละสายตาจากไอ้แว๊นซ์ที่กำลังทำตัวมุมิหลอกล่อเด็กกลับมาหาน้องสาวตัวเอง จูอึนทำท่าเหมือนจะกระซิบผมแต่พูดออกมาด้วยเสียงดังฟังชัด

    “พี่ชานยอลหล่อจังเลย จูอึนช๊อบชอบ!

    “ห้ะ...” ผมได้แต่อ้าปากค้างมองหน้าจูอึน ผมคิดว่าผมอาจจะต้องขอเวลาไปไล่จับสติของตัวเองกลับมาใส่คืนที่อีกพักใหญ่

    “พี่ชานยอลๆ” จูอึนหัวเราะกับท่าทางของผมก่อนจะหันหลังกลับไปกวักมือเรียกไอ้แว๊นซ์ที่นั่งยิ้มอยู่ ไอ้ชานยอลยื่นหน้าเข้าหามาจูอึนใกล้ๆก่อนจะ...

    จุ้บ!

    “คิกคิก แม่จ๋าาาาาาาาาา~” จูอึนกระโดดลงจากโต๊ะแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปด้วยความรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงแต่ไอ้แว๊นซ์ที่กำลังยิ้มหน้าบานกับผมที่เอ๋อไปแล้วและคำถามที่เต็มหัวไปหมด

    จูอึนไปจุ้บปากมันทำไมคะ!

    แบบนี้มันไม่ใช่แล้วลู๊กกกกกกกกกก!




     


    ""
    ถ้าชานยอลแต่งตัวแบบนั้นจริงๆก็ยังหล่อเนาะ 55555555555555
    #ฟิคเสยคาง

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×