ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Letter Love รักนะ อยากบอกให้รู้

    ลำดับตอนที่ #3 : Episode 2 : ขอเบอร์เธอหน่อย [ 120% ]

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 64




      2

    ขอเบอร์เธอหน่อย

    ฉันถึงกับนิ่งไปชั่วขณะเลย นี่ฉันตาฝาดอะไรไปหรือเปล่าเนี่ย บ้าไปแล้ว อย่างพี่ซิวเวอร์เนี่ยนะจะมาขอเบอร์ฉัน เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานเองนะ

    Punfan : พะ...พี่ว่าไงนะ

    Silver : ก็ขอเบอร์เราไว้ไง

    Silver : เผื่อถึงวันจะได้โทรหาเลย

    Silver : ไม่ต้องพิมพ์ไลน์มันช้า

    Punfan : อ่อ

    Punfan : ที่ขอเบอร์ไว้เพราะแค่นี้ใช่ไหมคะ

    Silver : ใช่

    Silver : พี่ไม่เอาเบอร์น้องไปแจกใครหรอกนะ

    Punfan : แต่ว่า...

    ฉันถึงกับนิ่งไปชั่วครู่และคิดพิจารณา สิ่งที่พี่เขาคิดมันก็มีเหตุผลอยู่นะ แต่ว่าจะให้เบอร์เลยมันก็ยังไงๆอยู่นะ คือขอตอนใกล้ถึงวันไม่ได้เหรอ

    Silver : งั้นเอาแบบนี้

    Silver : 081-928-xxxx

    Silver : เบอร์พี่

    Silver : น้องไม่ต้องให้เบอร์พี่แล้วก็ได้ พี่ให้เบอร์น้องเอง

    Silver : ถึงวันจริงที่นัดเจอกัน น้องก็โทรเข้ามาที่เบอร์นี้ได้เลยนะ

    เอ่อ...คือ แบบนี้ก็ได้เหรอ เพิ่งพบเจอ

    Punfan : ok

    Punfan : ตามนั้นค่ะ

    Silver : เม็มไว้ด้วยนะ

    Punfan : ค่ะๆ

    ฉันตอบกลับไปแค่นั้น แล้วปิดหน้าจอมือถือและโยนมันทิ้งไว้แถวบนเตียงทันที ก่อนที่จะเตรียมตัวไปอาบน้ำ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

    ให้ร่างกายได้พักบ้างเถอะ

    แต่ยังไม่ทันที่จะฉันจะพักก็มีเสียงจากโทรศัพท์เรียกเข้ามาเสียก่อน มันทำให้ฉันต้องเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เจ้าปัญหามาดูแล้วกดรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเปียโน

    “ ว่าไง โทรมาได้จังหวะจริงๆ ”

    [ จังหวะไรย่ะ กำลังทำไรอยู่หรือไงถึงโทรมาไม่ได้ ]

    “ กำลังจะนอนพักไง พรุ่งนี้ก็ต้องไปรายงานตัวอีก จำไม่ได้หรอ ”

    [ อ้าว พรุ่งนี้รายงานตัวที่มหาลัยฯเหรอ ]

    “ ก็ใช่นะสิ อย่าบอกนะว่าลืมอ่ะ ”

    [ สงสัยดีใจมากไปหน่อยจนลืมเลย ขอบใจที่เตือน ]

    “ ไม่เป็นไรหรอก บอกกีตาร์มันด้วยล่ะ ”

    [ ได้ เดี๋ยวบอกให้ ]

    เพียงแค่นั้น ฉันกดตัดสายไปในทันที ก่อนที่จะวางโทรศัพท์ไว้ยังชั้นวางของเล็กๆข้างเตียง แล้วปิดไฟนอนในทันทีที่รู้สึกง่วง

    พรุ่งนี้จะเป็นยังไงกันนะ

     

     

    วันต่อมา....

    “ หวังว่าเราจะได้เจอกันตอนเปิดเทอมนะคะ ” อาจารย์ที่สอบสัมภาษณ์ส่งยิ้มให้ฉันอย่างอารมณ์หลังจากที่สัมภาษณ์ฉันเสร็จ ฉันจึงส่งยิ้มกลับให้ด้วยความเคารพ

    “ แน่นอนค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ” ฉันตอบกลับ ก่อนที่จะเตรียมตัวลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องนั่งลงเพียงเพราะเสียงเรียกของอาจารย์

    “ เดี๋ยวก่อนปันฝัน ”

    “ มีอะไรคะอาจารย์ ”

    “ คืออาจารย์อยากจะขอถ่ายรูปเก็บไว้หน่อยได้ไหม และก็อยากขอลายเซ็นไปให้ลูกสาวที่บ้านด้วยนะจ๊ะ ลูกสาวจารย์นี้ชอบหนูมากเลยล่ะ ” อาจารย์ตอบกลับฉันพร้อมกับถือกระดาษและปากกาเตรียมให้ฉันเซ็นให้ จนฉันถึงกับแอบขำเล็กน้อย เล่นเตรียมมาสะขนาดนี้ จะไม่เซ็นให้ได้ไงกันล่ะ

    “ ได้ค่ะ ” ฉันเอ่ยตอบรับออกไปพร้อมกับรับกระดาษมาเซ็นลายเซ็นให้แล้วส่งคืน ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆอาจารย์ที่ตั้งรอเตรียมจะเซฟฟี่ด้วย พร้อมกับยิ้มให้กล้องหน้าในโทรศัพท์อาจารย์

    “ ขอบคุณมากนะ ”

    “ ยินดีค่ะ ” สิ้นคำพูดฉันก็ลุกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มทันที พร้อมกับสวมแว่นดำอำพรางใบหน้าหลังออกมาจากห้องสัมภาษณ์ เพื่อป้องกันการถูกรุมล้อมขอถ่ายรูป 

     Silver : สอบสัมภาษณ์เป็นไง

    ฉันมองข้อความตรงหน้าด้วยรอยยิ้มเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนส่งข้อความมา พร้อมกับเตรียมจะตอบกลับไป แต่ยังไม่ทันที่จะกดเข้าไปตอบ ก็มีเสียงเรียกของใครบางคนแทรกเข้ามา

    “ น้องครับ ” เสียงเรียกของผู้ชายคนนึงเอ่ยเรียกฉันขึ้นพร้อมกับวิ่งตรงเข้ามาหาฉัน

    “ คะ? ” ฉันตอบกลับไปพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปจ้องใบหน้าเขาผ่านแว่นดำมืดนี้ คือแบบ...โอ๊ย คุณพี่คะไม่ทราบว่าจะหล่อไปไหนคะ ฉันจ้องมองดวงตาเรียวคมที่ดำสนิทนั้นที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเนียนใสนั้น เรือนผมสีดำสนิทของเขาเคลื่อนไหวไปตามแรงลมจนทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีก

    แต่ยังไม่ทันที่พี่แกจะตอบอะไรฉัน เปียโนกับกีตาร์ก็เดินเข้ามาหาเสียก่อน

    “ มีอะไรหรอแก ” เปียโนเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าฉันสลับกับมองหน้าพี่เขา พร้อมกับกระพริบตาปริบๆสองสามที คงอึ้งในความหล่อใสของพี่เขาจนกีตาร์ถึงกับสะกิดแล้วส่งยิ้มให้พี่เขา

    “ พวกน้องเป็นเด็กนิเทศฯใช่ไหมครับ ”

    “ ใช่ค่ะ ” ฉันตอบกลับไปในทันที

    “ พี่ชื่อซีเคนะครับ อยู่นิเทศฯปีสาม ” พี่ซีเคเอ่ยทักกับพวกฉันด้วยรอยยิ้ม กีตาร์ที่ยืนนิ่งเงียบจึงเอ่ยถามต่อด้วยความสงสัย

    “ ครับ แล้วพี่มีอะไรหรือเปล่าครับ ”

    “ คือพี่จะมาแจ้งนะครับว่าภายในวันพรุ่งนี้จะมีการรับน้อง นี้ครับใบรายละเอียดเกี่ยวกับการรับน้อง ยังไงก็มาร่วมสนุกกันด้วยนะครับ ”

    “ ได้ค่ะ พรุ่งนี้พวกน้องจะมานะคะ ” ฉันตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นมิตร ก่อนที่จะขอตัวและเดินจากไปพร้อมกับกีตาร์และเปียโนทันที

    มีแต่เรื่องสนุกๆรอทั้งนั้นเลย ว่าไหม

     

     

    วันถัดมา

    บรรยากาศรวมตัวในตอนนี้นั้นมีแต่เสียงดนตรีและนันทนาการของพวกพี่ๆเต็มไปหมด  ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่พวกฉัน ไม่ว่าจะเป็นฉัน เปียโน หรือกีตาร์ก็ตาม ในเวลานี้ฉันไม่ได้ใส่แว่นดำอำพรางแต่อย่างใด และไม่มีผู้ใดมาเบียดขอถ่ายรูปเหมือนครั้งก่อนๆอีกแล้ว เพราะคำสั่งของพี่ๆที่กล่าวเตือนไว้ เพื่อไม่ให้มีความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น  ซึ่งก็ดีสำหรับพวกฉันสามคนมาก

    “ ดีนะที่คนส่วนมากสนใจแก  ” เปียโนแอบกระซิบที่ข้างๆหูฉัน มันทำให้ฉันถึงหันหน้าเหลือบมองคนที่ตัวเล็กว่าแล้วเห็นว่าดวงโตคู่สวยของเพื่อนกำลังเป็นประกายอย่างอารมณ์ดี

    “ ไม่ขนาดนั้นหรอก จับจ้องมาที่แกก็ไม่น้อยนะ ” ฉันสวนกลับไปอย่างรู้ทัน ก็เพื่อนฉันน่ะเป็นถึงนักร้องและนักเปียโนแนวหน้าของประเทศเลยนะ 

    “ จับจ้องแกทั้งนั้นแหละ ทำมาเป็นพูด ”

    “ เลิกเถียงกันได้แล้ว ก็มองกันหมดทั้งคู่นั่นแหละ ” กีตาร์เอ่ยห้ามปราบพวกฉันทั้งสองคนที่กำลังซุบซิบกันอยู่ หลังจากที่เงียบมาตั้งนาน

    “ มากันครบแล้วใช่ไหมครับ ” เสียงของรุ่นพี่คนเมื่อวานที่เข้ามาทักฉันเอ่ยดังขึ้น ทำให้ทุกคนละความสนใจจากการพูดคุยกันแล้วมองไปตามน้ำเสียงเรียบนิ่ง  แม้ว่าพี่เขาจะมีสีหน้าจริงจังแค่ไหน ก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่อยู่ดี สงสัยความหล่อจะบังตา

    ทุกสายตาต่างจับจ้องเป็นที่พี่ซีเคแล้วถึงกับตาลุกวาว  โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่ตอนแรกจ้องกีตาร์อย่างกับจะจับกลืนกินก็ยังต้องยอมละสายตาไปมองเขาเลย 

    “ กรี๊ดดดดดดดดดดด ” เสียงกรี๊ดจำนวนมากจากทั่วสารทิศรอบบริเวณพร้อมใจส่งเสียงมาในทันทีที่พี่เขาปรากฏตัวและเอ่ยพูด แล้วยิ่งพี่เขาส่งยิ้มมาให้เพียงเท่านั้นทุกคนเป็นอันต้องใจเต้นแรงและละลายไปกับรอยยิ้มนั้น

    ถึงพวกฉันจะไม่ได้กรี๊ดออกมาอย่างนอกหน้า แต่แน่นอนว่าก็แอบเคลิ้มไปไม่น้อยกับรอยยิ้มของพี่เขาจนต้องแอบกรี๊ดในใจไปเหมือนกัน

    “ เฮ้อ รอดสักที ” เสียงถอนหายใจของกีตาร์ ทำให้ฉันและเปียโนถึงกับหายเคลิ้มไปชั่วขณะแล้วหันมามองตามเสียงของเพื่อนตัวเอง

    “ แค่นี้ถึงกับถอนหายใจเลยหรือไง ” ฉันเลิกคิ้วขึ้นถามด้วยสงสัย

    “ คนฮอตก็แบบนี้ละนะกีตาร์ ” เปียโนเอ่ยแซวเพื่อนตัวเองอย่างขบขัน 

    “ ฮอตอะไรไอ้เปียโน สู้พวกแกๆไม่ได้หรอกทำมาเป็นพูด ” กีตาร์ตอบอย่างปัดๆ ก่อนที่จะเตรียมลุกขึ้น เมื่อได้ยินเสียงพวกพี่เขาประกาศเริ่มกิจกรรม ทำให้พวกฉันจำเป็นต้องเตรียมตัวกันด้วย

    โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังมีสายตาจากใครบางคนกำลังจ้องมองมาทางนี้อยู่


    60%



    [ Silver Part ]

    สายตาของผมในตอนนี้กำลังจ้องมองไปยังร่างเล็กๆที่กำลังเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องของคณะนิเทศฯ อยู่แล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้เลยเมื่อเห็นเธอคนนั้นกำลังยิ้มและหัวเราะกับเพื่อนๆของเธออยู่

    แต่แล้ว...ก็มีมารสองตัวมาขัดจังหวะความคิดของผม

    “ มองอยู่นั้นแหละ ” เสียงของมารตัวที่หนึ่งที่นามว่ารีอาเอ่ยแขวะผมขึ้นพร้อมสีหน้าเซ็งๆ  ก่อนที่มารตัวที่สองที่นามว่าซีเวียร์จะแขวะต่อ

    “ ถ้าจะมองขนาดนี้ ขอน้องเขาเป็นแฟนเลยดีไหมเพื่อน ”

    “ พูดบ้าอะไรของพวกแกสองคน แค่มองเฉยๆเองเปล่าวะ ” ผมตอบกลับไปเมื่อได้สติหลังจากที่ได้ยินคำว่า แฟนจากปากเพื่อนสาวตัวดี

    คือผมก็แค่มองน้องเฉยๆเองนะ  ยังไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย

    หรือเปล่าวะ?

    “ มองแบบนี้เขาเรียกว่ามองเฉยๆเหรอ ” รีอาเอ่ยขึ้นก่อนที่จะกระตุกยิ้มขึ้นอย่างมีเล่ห์นัย คือคุณเพื่อนครับ อย่ามาส่งสายตาจับผิดกูตอนนี้จะได้ไหมครับ!!

    สงสารอีซิวเวอร์คนนี้บ้างเถอะ

    “ พวกมึงสองคนจะอะไรกับกูนักหนาวะ! ไปๆแยกย้ายไปหาผัวพวกมึงได้ล่ะ ” ผมเอ่ยตอบไปกลับในทันทีพร้อมทำท่าทีที่ไล่เพื่อนสาวทั้งสองคนให้ไปอยู่กับคนรักของแต่ละคนแล้วปล่อยผมไปสะ

    “ ทำมาเป็นไล่ ” รีอาเอ่ยขึ้นพร้อมกับทำท่าทีจิจ๊ะ ก่อนที่ใบหน้าเธอจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในเวลาไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อเห็นว่าใครบางคนกำลังเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม  “ พี่พีเจ!

    จะใครเสียอีกละครับ ถ้าไม่ใช่หนุ่มหน้าหวานเจ้าของเรือนผมสีส้มอ่อนๆที่พลิ้วไหวไปตามแรงลม  อีกทั้งดวงตาสีเพลิงแดงที่กำลังส่งยิ้มมาให้คนที่กำลังมองอยู่

    เอาง่ายๆเลยนะครับ ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากผัวไอ้รีอามันนั้นแหละ

    “ เป็นไงบ้างละเรา ” พีเจเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงก่อนที่จะใช้ฝ่ามือใหญ่ขยี้ผมคนเป็นแฟนด้วยความเอ็นดู  จนทำให้ผมถึงกับต้องหันหน้าหนีเลยทีเดียว

    เหม็นความรักจริงๆ

    “ ก็ดีค่ะ แล้วพี่ล่ะ ” รีอาตอบกลับคนเป็นแฟนด้วยรอยยิ้มพร้อมกับสบตากับคนที่สูงกว่าอย่างอารมณ์ดีจนเกินไป

    ผมหมั่นไส้ครับ ขอสักทีเถอะ

    “ รุ่นน้องมาชอบเยอะดีใช่ไหมละรีอา ” ผมฉีกยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อเอ่ยแซวอย่างนึกสนุก เล่นทำพีเจถึงกับหันหน้าขวับแล้วขมวดคิ้วมามองที่ผมด้วยความสงสัย

    “ ใครบ้าง ” พีเจเอ่ยถามผมกลับ

    “ เยอะแยะ ” ซีเวียร์เอ่ยตอบแทนผม หลังจากที่ทนความหมั่นไส้ของคู่นี้ไม่ไหว

    “ อย่าไปฟังมันนะพี่พีเจ ชอบบ้าอะไรกันไม่มีทั้งนั้นแหละ ” รีอาถึงกับรีบปฏิเสธในทันที คงไม่อยากมีปัญหากับแฟนตัวเองละมั้ง

    “ จริงหรอครับ ” พีเจหันมาสบตากับคนร่างเล็กที่กำลังแอบสั่นเบาๆเหมือนทำความผิดมา

    “ จะ...จริงสิ ถึงเขาจะชอบรีจริงๆ รีก็ไม่ได้ชอบเขาอยู่ดี ” รีอาตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ก่อนที่จะหลบสายตาคนเป็นแฟน แล้วพูดต่อเพื่อให้ผู้ชายตรงหน้าเธออารมณ์ดีขึ้น  “ ก็รีมีพี่อยู่แล้วทั้งคน  จะชอบหรือจะรักใครอื่นได้ละ ถ้าคนนั้นไม่ใช่พี่น่ะ ”

    “ อ้วกแปป ” ผมเอ่ยขึ้นลอยๆ ไม่ได้คิดหมั่นไส้เลยจริงๆนะเนี่ย

    “ พูดดีแบบนี้... ” พีเจเอ่ยขึ้นก่อนที่จะกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างมีเล่ห์นัยราวกับคิดจะจับเพื่อนผมกินอยู่อย่างนั่นนั้นแหละ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูรีอาจนทำให้เจ้าตัวถึงกับหน้าแดงแปร๊ดด้วยความเขินอายกันเลยทีเดียว และด้วยเสียงที่มันไม่ได้เบามากจนเกินไป ผมเลยได้ยินทุกคำพูดทั้งหมดอย่างชัดเจน  “ เดี๋ยวคืนนี้พี่มีรางวัลให้นะครับที่รัก ”

    อือหื้ออออออ ผมละอยากจะกรี๊ด

    “ อะ...อะไรหรอคะ ” รีอาตอบกลับพีเจด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก แม้จะพอรู้อยู่บ้างแล้วก็ตาม แต่ก็อยากถามให้แน่ใจ ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดใช่ไหม

    แต่ผมว่าใช่แน่นอนสิ่งที่เธอคิดน่ะ

    “ เดี๋ยวก็รู้เอง งั้นเดี๋ยวพี่ไปทำงานต่อล่ะนะ พอดีคิดถึงเลยแวะมาหา แค่ได้เห็นหน้าเราพี่ก็มีกำลังในการทำงานล่ะ ” พีเจเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดีสุดๆก่อนที่จะโบกมือลาแล้วจากไป “ พี่ไปก่อนนะ บาย  ”

    “ เหม็นความรัก ” ซีเวียร์เอ่ยขึ้นมาลอยๆพร้อมกับเบะปากมองบน

    “ อะไรของแกยัยเวียร์ ไปทำงานกันได้ล่ะพักนานแล้ว ” รีอาเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเตรียมตัวไปทำหน้าที่ต่อพร้อมกับพวกผม ส่วนผมที่ได้ยินแบบนั้นก็จำเป็นต้องละสายตาจากคนไกลในทันทีด้วยความเสียดาย

    แต่ก็ก้าวเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้น ผมก็หันหลังกลับไปมองอีกครั้ง แล้วก็พบว่าปันฝันเองก็มองมาที่ผมอยู่ด้วยเช่นกัน เราสบตากันอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจอย่างน่ารักมาให้ผม

    ตึกตัก...ตึกตัก

    รอยยิ้มที่ทำให้ผมใจเต้นได้ถึงเพียงนี้

    “ นี่อีซิว มึงจะมองน้องเขาอีกนานไหม ” เสียงของซีเวียร์แทรกขึ้นมาท่ามกลางความคิดผม แม่งเป็นมารขัดจังหวะจริงๆเลย

    ผมส่งยิ้มให้น้องอีกครั้ง ก่อนที่จะหันกลับไปต่อว่าเพื่อนตัวเองต่อ

    “ นานแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของมึงครับคุณเพื่อน ” ผมตอบกลับไปในทันทีด้วยความหงุดหงิดใจ  นี่เพื่อนหรือมารผจญกันแน่วะ

    ไม่คิดจะให้เพื่อนมีความสุขบ้างหรือไง!

     

     

    [ Punfan  Part ]

    ในขณะนี้ผู้คนต่างวุ่นวายกับการเตรียมตัวเข้ากิจกรรม สายตาฉันก็เหลือบไปเห็นใครอีกคนที่กำลังมองมาทางฉันอยู่  เมื่อหันไปเห็นก็พบกับเจ้าของดวงตาเรียวคมสีฟ้าคู่สวยกำลังมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้ม

    รอยยิ้มที่ทำให้ฉันยิ้มตามในทันทีที่เห็น

    ทั้งฉันและซิวเวอร์ต่างสบตากันนานนับนาทีจนกระทั่งเพื่อนเขาทั้งสองเรียกตามเขาจึงยิ้มให้ฉันอีกครั้งก่อนที่จะละสายตาและเดินจากไป

    “ ปันฝัน ”

    “ .... ”

    “ เฮ้ย! ไอ้ฝัน ”  เสียงของเปียโนแทรกเข้ามาเลยทำฉันถึงกับสะดุ้งก่อนที่จะหันไปมองหน้าเพื่อนรักตัวเองที่กำลังจ้องมองมาพร้อมกับกีตาร์

    “ อะ...อะไรของแกเปียโน ”

    “ มองอะไรวะ เห็นมองและก็ยิ้มอยู่นั้นแหละ ” เป็นกีตาร์บ้างที่พูดขึ้นมาพร้อมกับสายตาจับผิด ที่แบบนี้ละจับผิดกันใหญ่เลยนะ

    อย่าให้ถึงคร่าวฉันบ้างแล้วกัน

    “ มองผู้ชายอยู่หรอจ๊ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยิ้มไม่หุบเลยนะ ” เปียโนเอ่ยถามมาอย่างล้อเลียน จนฉันแทบจะเก็บสีหน้าไว้ไม่ถูกเลย

    “ จะมองใครได้ล่ะ ก็มองอะไรทั่วๆไปนั้นแหละ ” ฉันตอบกลับไปอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ใครจะกล้าบอกละว่ามองเดือนคณะบริหารอย่างพี่ซิวเวอร์อยู่

    “ เหรอจ๊ะ ” น้ำเสียงตอแหลของกีตาร์ เล่นทำฉันถึงกับแอบหมั่นไส้

    “ มองพี่ซิวเวอร์ละสิ ฉันเห็นนะว่าเขามองแกอยู่ ” เปียโนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยักคิ้วให้หนึ่งที

    “ ไม่รู้ไม่บอก  ฟังพวกพี่เขาอธิบายเกมได้แล้ว ” ฉันเอ่ยตอบออกไปพลางชี้นิ้วไปที่พวกพี่ๆที่กำลังอธิบายเกมที่จะให้เล่นอยู่ รู้สึกจะเป็นตามหาตัวอักษรมาต่อเป็นคำหรือไงเนี่ยแหละ

    “ แล้วตอนนี้นะครับ พวกพี่ก็ได้นำตัวอักษรไปซ่อนในจุดต่างๆรอบคณะเราแล้ว และจะปล่อยให้น้องๆไปตามหาตัวอักษรทั้งหมดมาต่อเป็นคำ โดยนำตัวอักษรที่ได้มาพร้อมเรียงเป็นคำเรียบร้อยแล้ว มาถอดรหัสเพื่อรับสร้อยข้อมือรุ่นไปนะครับ ” เสียงของพี่ซีเคเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่เสียงกรี๊ดจากพวกสาวๆจะตามมาเป็นซาวด์แทรคประกอบหลังจากที่พี่แกพูดจบ

    ฮอตเหมือนกันนะเนี่ยคุณพี่

    “ จะว่าไป...พี่ซีเคนี่ก็หล่อเหมือนกันนะแก ” เปียโนเอ่ยขึ้นขณะจ้องมองไปยังซีเคอย่างพินิจพิจารณา ก่อนที่ประโยคถัดมาของกีตาร์จะทำให้ฉันและเปียโนถึงกับหน้าเหวอ

    “ พี่ซีเคเขาหล่อก็จริง แต่...เขามีเมียแล้ว ”

    “ วะ...ว่าไงนะ ” ฉันเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง นี่พี่เขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วหรอ น่าเสียดายจริงๆ หน้าตาก็ดีไม่น่ารีบมีแฟนเลย

    “ น่าเสียดาย ” เปียโนเอ่ยขึ้นพร้อมกับท่าทางเสียดาย

    “ แถมแฟนพี่ซีเคนะก็สวยมากด้วย เท่าที่ได้ยินมานะ ” กีตาร์บอกกับพวกฉันก่อนที่จะลุกขึ้นเมื่อได้ยินพวกพี่ๆประกาศบอกให้เริ่มไปหาตัวอักษรได้ เมื่อได้ยินอย่างนั้นทั้งฉันและเปียโนต่างก็ต้องลุกขึ้น ก่อนจะเดินเกาะกลุ่มกันสามคนไปตามหาตัวอักษรด้วยกัน

    โดยไม่รู้เลยว่ามันจะมีกี่ตัว และมีตัวอะไรบ้าง

     “ พวกแกคิดว่ามันจะเป็นคำว่าอะไรวะ ” ฉันถามออกไปอย่างนึกสงสัย อยู่ๆก็ให้หาตัวอักษรแล้วมาเรียงเป็นคำว่าอะไรก็ไม่รู้

    “ ไม่รู้วะ ฉันว่าเราลองหาแถวม้านั่งใต้ต้นไม้บริเวณนี้ดูไหม ” เปียโนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เดินมาถึงที่แล้วพลางใช้สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณ

    “ จะเริ่มหาจากตรงไหนก่อนดีละเนี่ย ที่ก็ออกจะกว้างขนาดนั้น ” กีตาร์เอ่ยร้องขึ้นอย่างโอดครวญ บริเวณที่พวกฉันมาหานั้นคนก็ไม่ได้เยอะมากมายถ้าเทียบกับที่อื่น แต่ก็เยอะสำหรับพวกฉันอยู่ดี

    “ เป็นไงเป็นกัน ”

     .

    .

    40 นาทีต่อมา

    “ โอ๊ย เหนื่อยจังวะ ” เสียงบ่นของฉันดังขึ้นหลังจากที่เดินหามาตั้งนาน  คนอื่นเขาหาได้ไปไหนต่อไหนล่ะ ขนาดกีตาร์กับเปียโนยังหาได้คนละตัวเลย เหลือฉันเนี่ยยังหาไม่ได้เลยสักตัว

    มันจะหายากขนาดนั้นเลยหรอวะ

    ฉันถึงกับทิ้งตัวลงนั่งกับม้านั่งแล้วใช้มือพัดตัวเองให้เย็นขึ้น ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปบนมองต้นไม้แล้วพบวัตถุต้องสงสัยเป็นกระดาษแข็งที่น้ำเงินเขียนว่า ‘ P ’

    เฮ้ย! บทจะเจอก็เจอง่ายแบบนี้เลยหรอ

    “ เจอแล้ว! ” เมื่อเห็นอย่างนั้นฉันก็เอ่ยร้องออกมา ก่อนที่จะยิ้มกว้างด้วยความดีใจแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืนบนม้านั่งพร้อมเขย่งตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะหยิบกระดาษแผ่นนั้น  ฉันก็มั่นใจนะว่าฉันก็สูงพอแต่ทำไมมัน....

    ไม่ถึงวะ!!

    สองเท้าของฉันขยับเข้าไปใกล้ๆ จนกระทั่ง....

    กึก!

    “ ระวัง! ” เสียงของคนคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับร่างฉันที่กำลังเซจะตกจากม้านั่ง เวร! มั่วแต่จะเก็บจนลืมดูเลยว่าตอนนี้เท้าฉันมันอยู่ขอบม้านั่งพร้อมจะพลาดท่าล้มลงเมื่อไหร่ก็ได้

    บัดซบ! นี้ฉันกำลังจะตกจากม้านั่งจริงๆหรอเนี่ย

    “ กรี๊ดดดดดดดดดดดด ” ฉันเอ่ยร้องขึ้นด้วยความตกใจพร้อมกับหลับตาปี๋ก่อนที่ร่างฉันจะร่วงตกจากม้านั่งในเวลาต่อมา

    แต่...ทำไมฉันถึงไม่รู้เจ็บเลยแหะ

    ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งแรกที่ฉันพบเห็นก็คือดวงตาเรียวคมสีฟ้าที่กำลังจ้องมองมาที่ฉันด้วยความตกใจในระยะประชิด สายตาฉันเลื่อนต่ำลงแล้วพบว่าปลายจมูกของเราทั้งสองแตะกันเบาๆ เป็นระยะใกล้ชิดที่น่ากลัวมากจริงๆ

    เขาค่อยๆละใบหน้าห่างออกจากฉัน เพื่อรักษาระยะห่าง แต่ตัวของเขาที่ยังประคองรับร่างฉันไว้ยังไม่ขยับไปไหน ใบหน้าของฉันยังคงแนบชิดกับแผ่นอกกว้าง มันใกล้จนกระทั่งฉันได้ยินเสียงหัวใจของผู้ชายตรงหน้าฉันว่ามันเต้นแรงแค่ไหน

    “ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ” เสียงของเขาเอ่ยดังขึ้นข้างๆหูฉัน ทำให้ฉันถึงกับได้สติแล้วเอ่ยเรียกชื่อเขาตอบกลับไปอย่างคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาที่เข้ามาช่วยฉันเอาไว้

    “ พะ...พี่ซิวเวอร์ ”  


    120%




    -------------------------------------------------------------------------

         ครึ่งแรกมาแล้ววววววววววววววว  ขออภัยที่รอบนี้มาช้าชนิดนานนับเดือนได้เลยนะคะ 555555 ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ นี้เพิ่งมีเวลาเลยมาอัพต่อให้ทันทีเลยนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งไรท์ไปตั้งแต่เริ่มเพียงสองตอนแรกแบบนี้นะคะ T^T ถึงจะมาช้าบ้าง ก็ยังดีกว่าไม่มาเลยนะ ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องนี้กันด้วยนะคะ คอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้กันบ้างนะคะ

    ฝากเพจด้วยจ้า : Amy07

    #ซิวเวอร์จัดให้

    By : Amy07


    -------------------------------------------------------------

    มาอัพต่อครึ่งยาวๆจนจบตอนแล้วนะคะ ไวกว่าอัศวินขี่ม้าขาวก็คุณพี่ซิวเวอร์ของเราเนี่ยแหละเจ้าค่ะ มาช่วยคุณน้องปันฝันได้ทันเวลาพอดี อย่างกับรู้ใจ 55555555555  ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องนี้กันด้วยนะคะ โมเม้นต์ฟินๆเรื่องนี้ยังมีอีกเพียบ! คอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้ไรท์คนนี้ด้วยนะคะ หรือจะกดปุ่มให้กำลังนักเขียนแทนก็ได้นะ

    แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ :)

    ขอบคุณค่ะ

    By : Amy07


    ฝากอีกเรื่องด้วยจ้าาาา






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×