[SF] Summer Madness* [Hiroki + Keita] - [SF] Summer Madness* [Hiroki + Keita] นิยาย [SF] Summer Madness* [Hiroki + Keita] : Dek-D.com - Writer

    [SF] Summer Madness* [Hiroki + Keita]

    ลองอ่านกันดูนะค่ะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ สมาชิกในบริษัทอินดี้แต่งขึ้นมาก 55++

    ผู้เข้าชมรวม

    195

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    195

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ธ.ค. 49 / 17:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      *หวืดดดด..* เสียงสายลมตีกันดันสนั่นเมื่อเครื่องบินโดยสารลำใหญ่จากอิตาลีลงจอด ไม่นานนัก บริเวณทางลงที่มีผู้คนมายืนรอรับอีกฝ่ายบนเครื่องบินเที่ยวนั้นมากมายก็เริ่มที่จะทยอยออกเสียงจอแจ แต่ทว่า... คงจะไม่มีใครเกิน.......

      " นี่ อย่าเบียดสิ ชุดเดี๊ยนราคาเป็นล้านนะคะ นี่ บอดี้การ์ด คุมกันดีๆหน่อยเซ๊~!!! น้องเคตของคุณแม่ขาจะมาแล้วนะ เดี๋ยวชั้นตัดเงินเดือนกันให้หมด" เสียงแหลมใสของหม่อมหญิงกุ๊กกี่ศรีเบญจมาศดังขึ้นเด่นชัดขึ้นท่ามกลางผู้คนที่เข้ามารอญาติของตนเช่นกัน

      “แล้วนี่ ลูกเคตจ๋าของชั้นจะมาเมื่อไรล่ะเนี่ย ยูสุนายลองเช็คดูซิ ว่าทำไมเครื่องมันดีเลย์นัก” คุณนายกุ๊กกี๋ศรีเบญจมาศหันไปจิกสายตาสั่งยูสุเกะบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวของหม่อมแม่กุ๊กกี่ศรีศรีเบญจมาศ บอร์ดี้การ์ดหนุ่มได้รับคำสั่งดังนั้น จึงรีบเดินงุดๆไปดูต้นสายปลายเหตุทันที

      ระหว่างที่หม่อมแม่กุ๊กยืนชะเง้อรอลูกสาว(???)คนงามอยู่นั้น เสียงใสๆของเด็กชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น “อ้าว...แม่ฮะ มายืนทำหน้าแก่ เอ๊ย...สวยไรแถวนี้ฮะ ^^”
      “โอ้ววว ลูกเคตจ๋าของแม่....ปากดีเหมือนพ่อมันจริงๆ .V.*”

      ทั้งสองแม่ลูกโผเข้ากอดกันราวแม่ลิงกับลูกลิงที่เพิ่งได้พบหน้ากันครั้งแรก ช่างเป็นภาพสโลว์โมชั่นที่...น่าประทับใจ (เหรอ???)
      “ลูกเคตจ๋าไม่ได้มากับไฟล์ทที่บอกหรอกเหรอคะ” แม่กุ๊กกี่ศรีเบญจมาศถามด้วยความสงสัย
      “เปล่าฮะแม่...ผมมาถึงตั้งนานระ ผมไม่ได้บอกหรอว่าเปลี่ยนไฟล์ท” น้องเคตหน้างุนงง หม่อมแม่กุ๊กกี๋มองหน้างุนงงของลูกชาย โอวววว...ลูกชายแม่ น่ารักเหมือนพ่อเคะของมันจริงๆ

      “แม่ฮะ...เป็นไรป่าวฮะ ทำหน้าเยิ้มๆ นอนไม่พอรึเปล่า” เคตะน้อยยกมือมาแตะหน้าผากผู้เป็นแม่เบาๆ เอ...ตัวก็ไม่ร้อน ทำไมทำหน้าเออเร่อซะขนาดนั้น - -“
      “เอ๋...อ่อ...ไม่เห็นรู้เลยนี่คะลูกขา...” หันมาตอบ เมื่อตั้งสติได้ “ไม่เห็นโทรมาบอกคุณแม่ขาเลย”

      “อ้าว...ก็ผมโทรบอกยูสุแล้วนี่ครับ” เคตะน้อยเอียงคอเล็กน้อยท่าทางใสซื่อ แต่คุณแม่กุ๊กกี๋ศรีเบญจมาศหันไป มองหน้ายูสุอย่างเคืองๆ ชิ...ไอ้เจ้าบอร์ดี้การ์ดคนนี้ ทำงานไม่ได้เรื่องจริงๆ ดีแต่ทำหน้าตาดีไปวันๆ ยังงี้ มันน่าตัดเงินเดือนซะให้เข็ด -*-
      แต่คุณนายจอมโหดก็ต้องพับความคิดนั้นเก็บใส่กระเป๋ากุชชี่ไปทันที เมื่อบอร์ดี้การ์ดหนุ่มส่งสายตาอ้อนวอน วิ้งๆ มาให้ เออ...นี่ถ้าไม่หล่อ ดำ ดูดี นะ ชั้นไม่ยอมอภัยให้หรอก -*-

      “แม่ฮะ แล้วพ่อล่ะ” เคตะน้อยรีบถามคำถามเพื่อเตือนสติผู้เป็นแม่ว่า แม่น่ะ มีลูกมีซะมีตัวเป็นๆดุ๊กดิ๊กได้อยู่แล้วนะ -*-

      “อ๋อ...พ่อเค้าทำงานอยู่ที่บ้านแน่ะลูก” คุณนายหันมาบอกลูกชาย “ไปๆ กลับบ้านกัน ท่าทางเหนื่อยแล้วสิ”

      เคตะอยากบอกว่า เหนื่อยตั้งแต่เห็นหน้าแม่แล้ว -*- แต่ก็ด้วยสายสัมพันธ์แม่ลูก 18 ปีมันรั้งไม่ให้เขาพูดความจริงออกไป ยูสุปราดเข้ามาลากรถเข็นที่เต็มไปด้วยกระเป๋าเดินทางและสัมภาระของคุณหนูเคตะเพ่อเดินทางกลับบ้านก่อนที่คุณนายกุ๊กกี๋จะหันมาสั่งเสียอีก

      เสียงล้อรถลีมูซีนสีดำเป็นมันแล่นเข้ามาถึงภายในคฤหาสน์หรูชานเมืองหลวง ทันทีที่รถคันสวยจอดสนิท บรรดาคนรับใช้ในบ้านที่มายืนเรียงแถวรอรับสมาชิกคนสำคัญของบ้าน ก็รีบเข้ามาเปิดประตู ถือของให้คุณชายน้อยของบ้านเป็นการใหญ่

      “อ๊ะ...ขอบคุณมากครับ แต่ผมถือเองก็ได้ ไม่เป็นไรครับ ^^” ด้วยความที่ถูกส่งไปเรียนที่เมืองนอกเมืองนามานาน พิธีรีตองต่างๆจึงเป็นสิ่งที่เคตะน้อยไม่คุ้นเคยกับมันเท่าไรนัก

      “เอ๋...แต่คุณหนูคะ...” แม่บ้านกระอักกระอ่วนที่คุณชายน้อยยื้อกระเป๋ากลับไปเพื่อจะถือเอง ก็เธอไม่อยากให้คุณหนูผู้แสนน่ารักคนนี้ต้องลำบาก อีกอย่าง คุณนายกุ๊กกี๋ศรีเบญจมาศก็ตามมายืนประกบแยกเขี้ยวใส่เธอ เห่อ...สยองงงงงงง

      “ไม่เป็นไรจริงๆฮะ”
      จังหวะที่เคตะพยายามที่จะอาสาถือกระเป๋าเองนั้น ทั้งเขาและแม่บ้านเผลอปล่อยมือพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย กระเป๋าเดินทางใบโตจึงหลุดมือ ตกใส่เท้าเคตะจังเบ้อเร่อ

      “จ๊ากกกกกกกกกกกกกก >[]< เจ็บๆๆๆๆๆๆ” น้องเคตร้องโวยวาย เสียงดังไปถึงโอกินาว่า เสียงแหลมเล็กของร่างเล็กกระตุ้นต่อมตกใจของร่างสูงที่ทำงานอยู่ที่ชั้นบนของบ้าน จนเขาต้องออกมาดูว่าใครกัน มาทำเสียงดังในบ้านของเขา - -*

      “เกิดอะไรขึ้น ใครมาทำเสียงดังโหวกเหวกกัน ~!!”

      ทันทีที่เสียงเข้มอันแสนจะไพเราะนั้นดังขึ้น เคตะน้องก็รู้ทันที ว่านั่นคือเสียงของพ่อเคตะใหญ่สุดหล่อลากกระชากจิตของเขา
      “คุณพ่อค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบ TTOTT” เคตะน้อยผวาวิ่งโผเข้าหาผู้เป็นพ่อ น้ำตาที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากความปิติยินดีที่ได้พบพ่อหรือเพราะความเจ็บเท้า ฉ่ำรื้นดวงตาคู่สวยทั้งสองข้าง

      “เคตะลูกพ่อออออออออออออออออ” นี่ก็พอกัน -*- เคะผู้เป็นพ่อ เมื่อได้เห็นหน้าหวานๆของลูกชายสุดที่รัก ก็สลัดเก๊กออกจากตัว ก่อนจะวิ่งลงบันได หมายจะมากอดลูกชายให้หายคิดถึง
      “พ่อค๊าบบบบบบบบบบบบบบบ”
      “เคต่า.................”
      “พ่อค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ”
      “เคต่า...............”
      (พอเฮอะ...ยังกะอยู่คนละฝั่งโขง -*-)

      โครมมมมมมมมม!!!

      เคะสะดุดขั้นบันได ล้มกลิ้งลงมาทับร่างบอบบางของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน -*-
      หม่อมแม่กุ๊กกี๋ศรีเบญจมาศที่เพิ่งเดินตามเข้ามา ถึงกับส่ายหัวกุมขมับ เมื่อเห็นสภาพที่สุดแสนจะ XXX ของลูกและซะมีสุดหล่อที่นอนกองทับกันอย่างน่าหวาดเสียวบนพื้นบ้าน

      “โง่หรือโง่ะวะเนี่ย ไอ้คู่นี้ -*-“

      สองพ่อลูกหน้าตาดีจึงได้แต่หันมายิ้มแหะๆกับคุณนายกุ๊กกี๋ แล้วจึงรีบลุกแยกออกจากกัน ก่อนที่ทั้งคนในบ้าน และท่านผู้อ่านที่มีเกียรติจะคิดเตลิดไปไกล >//<

      “ลูกพ่อ โตขึ้นมากเลย หน้าตาดีด้วย สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ ><” เคตะใหญ่ที่ไม่ค่อยเห่อลูกชาย จับเคตะน้อยหมุนซ้ายหมุนขวาสำรวจดูอย่างชื่นชม ไม่น่าเชื่อ ว่าเคตะน้อยจะเป็นเด็กหน้าตาดีที่เกิดจากพ่อแม่ที่หน้าตาห่างชั้นกันอย่างสิ้นเชิง (คนแต่งมันแอบเกลียดกันป่าววะเนี่ย -*-)

      “แหม...คุณพ่อก็...^^” เคตะน้อยได้แต่หัวเราะแหะๆ “คุณพ่อสบายดีป่ะครับ อยู่กะแม่แค่สองคนมาตั้งนาน ทรมานแย่เลย”
      “ก็พอทนไหวน่ะลูก” เคะกอดคอลูกชายเดินเข้าไปในห้องรับแขกสุดหรู โดยมีคุณนายกุ๊กกี๋ที่ถูกสองพ่อลูกลืมสิ้น เดินตามไปติดๆ

      “แหม...เคะขา ลูกชายสุดที่รักกลับมาทั้งที เราน่าจะพาแกไปเที่ยวสักหน่อยนะคะ” ก่อนที่จะกลายเป็นสสารที่ถูกมองข้าม คุณนายกุ๊กกี๋รีบเสนอความเห็น เพื่อโกยเรตติ้งกลับมาจากสองพ่อลูก
      “โอ้วววววว ความคิดบรรเจิดมากยาหยี ดีเลย เคะก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน ว่าเราน่าจะไปฉลองกันไกลๆสักที ดีมั้ยลูก” หันมายิ้มกว้างให้ลูกชาย

      “แหม...ดีจริงๆเลยค่ะ แล้วเราจะไปไหนกันดีล่ะคะเคะขา”
      “เอ...” เคตะผู้เป็นพ่อขมวดคิ้วคิดหนัก
      “ไปทะเลสิฮะ ผมอยากไปทะเล” เคตะน้อยเสนอความเห็นเสียงใส “ผมคิดถึงทะเลญี่ปุ่นมากเลยฮะ นะๆๆๆ ไปทะเลกัน” ร่างเล็กส่งสายตาวิ้งๆเป็นประกายอ้อนพ่อกับแม่ จริงๆแค่ร่างเล็กเอ่ยปาก ทุกคนก็พร้อมที่จะทำตาม ก็แหม...ลูกชายคนเดียวของตระกูลฟุรุบานะ (??) นี่นา ใครจะกล้าขัด

      “เออ..ก็ดีเหมือนกัน เราก็ไม่ได้ไปทะเลกันนานมากแล้ว เอางี้ วันนี้ เคตจ๋าไปพักให้หายเหนื่อยก่อน มะรืน เราจะไปทะเลกัน ^^”
      ได้ยินคำแม่ดังนั้น ร่างเล็กกระโดดผึงด้วยความดีใจ เย้ๆๆๆๆๆ ไปทะเล~ ไปทะเล~ >w<

      ........
      ...............
      .......................

      สายลมเย็นสดชื่นพัดมากระทบร่างบางที่ตอนนี้ มายืนสูดกลิ่นอายทะเลบริสุทธิ์ ผมเส้นเล็กปลิวไปตามแรงลม ใบหน้าหวานหลับตาพริ้ม แขนทั้งสองข้างกางออกรับแรงลมและแสงแดดอุ่นของยามเช้า อากาศที่นี่ดีจังเลย >w< มีความสุขที่สุด อิจฉาตัวเองว้อยยยยย ตั้งแต่ไปเรียนที่อิตาลี เขาก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้สัมผัสทะเลมากนัก ไม่เจอกันนานแบบนี้ เคตะคิดถึงงงงงงง ><

      ร่างบางหันกลับไปมองบ้านพักของครอบครัวที่อยู่ริมหาดด้านหลัง ป่านนี้ คุณหญิงแม่กับคุณพ่อคงยังนอนหลับอยู่แน่ๆเลย เพราะตอนนี้ มันยังเช้าเกินไป ปกติ คุณหญิงแม่ต้องใช้เวลามาร์คหน้า 3 ชั้นเป็นเวลา 9 ชั่วโมงทุกวันอยู่แล้ว (มากไปๆ) เคตะน้อยอมยิ้มกรุ้มกริ่ม แหม...โอกาสทองมาถึงแล้ว ออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดดีกว่า หุหุหุ ^O^Y ว่าแล้ว ร่างเล็กจึงถอดรองเท้าออก การเดินบนทรายละเอียดด้วยเท้าเปล่านี่มัน...สุดยอดจริงๆ o><o

      “ฮ่าๆๆๆ ทรายที่นี่นุ่มสุดๆไปเลยยยยยย” เคตะน้อยช่างมีความสุขเหมือนเด็กๆ ขาเรียวสวยกระโดดขึ้นลง หมุนตัวดี๊ด๊าหลั่นล๊าไปมาจนเซเสียหลัก ล้มลงในที่สุด (โง่ซะ...หน้าตาดีซะเปล่า -*-)

      “อูยยยยย...เจ็บ TT^TT” รู้สึกเจ็บที่ดั้งจมูก (ยังดีนะ ยังมีดั้งให้เจ็บ) มือสวยยกขึ้นปัดป่ายทรายเม็ดเล็กออกจากใบหน้า แต่เนื่องด้วยพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก(และพระเอกกำลังจะโผล่) ความโง่ครอบงำไม่หยุดหย่อน ร่างเล็กเผลอปัดเม็ดทรายเข้าตาโดยไม่ทันตั้งใจ

      “แงๆๆๆๆ” เคตะน้อยขยี้ตา ร้องไห้เสียงดังเหมือนเด็กๆ

      ทันใดนั้น...

      “เป็นอะไรมากรึเปล่าครับคุณ” เสียงหล่อๆนุ่มๆดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง เคตะสะดุ้งเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะมีใครมาเห็นสภาพปัญญาอ่อนของตัวเอง รีบหันกลับไปมองทางต้นเสียง
      ทันทีที่ตาสบตา (ได้ข่าวว่าทรายเข้าตาไม่ใช่เรอะ .V.*) เคตะน้อยก็เกิดอาการปิ๊งวิ๊งวับ ประกายไฟแลบแปลบๆ โอวววววว...หล่อ...หล่อเหลือเกินนนนนนนนนนน

      “เออ...” ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
      “เอ่อ...” ก็ยังพูดเหมือนกันอยู่ -*-
      “คุณ...” น้องเคตแกล้งทำหน้าเหมือนรู้จักกันมาสักชาติเศษ ทั้งที่เพิ่งเจอกันแท้ๆ เป็นไปได้ไหม ว่าเราอาจเคยเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน (เป็นไปไม่ได้หรอก .V. ...ป้าคิ)

      “เอ่อ...เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่าฮะ” จากประสบการณ์การเป็นลูกชายของคุณแม่กุ๊กกี๋ศรีเบญจมาศมา 18 ปี ทำให้น้องเคตรู้จักวิธีรุกหาชายหนุ่มน่าตาดีมากขึ้น

      “เอ...ไม่มั้งครับ ว่าแต่ คุณเป็นอะไรมากรึเปล่า ดูตาแดงๆ” ชายหนุ่มถามด้วยท่าทางเป็นห่วง “นี่ดูท่าทางว่าทรายจะเข้าตาสินะครับ บ้านอยู่ไกลรึเปล่าครับ ผมไม่เคยเห็นคุณแถวนี้มาก่อน เอางี้ เดี๋ยวคุณไปล้างตาที่บ้านผมดีกว่านะ ใกล้ๆนี่เอง” พูดจบ ร่างสูงก็ประคองเคตะน้อยเดินไปยังบ้านหลังเล็กของเขาที่อยู่ไม่ไกลจากหาดนั้น
      “เอ่อ...ขอโทษนะฮะ คุณชื่ออะไรหรอฮะ” น้องเคตแอบส่งสายตา (แดงๆ) ให้ฮิโรกิ
      “จริงสิ ลืมแนะนำตัวเองไปเลย ชั้นชื่อนาคาโดอิ ฮิโรกินะ”
      อ๊ากกกกกกกก >w< รูปก็งามนามก็เพราะ ชื่อเท่ห์จังเลย เคตะน้อยแอบกรี๊ดกร๊าดอยู่ในใจ

      “ผมชื่อ ฟุรุบานะ เคตะ จูเนียร์ ครับ” ไม่รอให้อีกฝ่ายถาม ไม่สนว่าอีกฝ่ายอาจไม่อยากรู้ เคตะรีบแนะนำตัวเองกับชายหนุ่ม เย้ๆๆๆ ตอนนี้ เราสองคนก็รู้จักกันแล้วน้า >w<
      ...
      ......
      ...........

      “อะ...ขอบคุณมากฮะ...>///<” เสียงใสๆเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายหลังจากที่ฮิโรกิช่วยพาเคตะกลับมาล้างหน้าเสร็จ ร่างสูงยิ้มใจดีให้ ทำเอาหัวใจเล็กๆเต้นตุบตับไม่เป็นปกติ

      “"เป็นอะไรมากรึป่าว?" ชายหนุ่มเอ่ยถามก่อนที่จะเอื้อมมือไปแตะเบาๆที่หน้าผาก เห้ย~!! เคตะน้อยรีบถอยกรูดไปแทบติดผนัง... จะ.. จะทำไรอ่า...รึว่ามีใจให้เรา แค่.. แค่ผงเข้าตาเค้าไม่ต้องแตะหน้าผากกันหรอกตาบ้า อ๊างๆๆเขิลลนะ(ดูมัน-_-")

      เคตะน้อยยิ้มเจื่อนๆ แต่เมื่อนึกในใจอย่างนั้นแล้วก็แทบจะเผลอยิ้มกว้างออกมา ดีนะเก็บไว้ทัน... คุณหญิงแม่บอกให้เคตะเรียบร้อย.. เป็นเด็กดี... ต้องเรียบร้อย... แต่...อืมม.... ไม่ไหวแล้วววววว

      "เห้ย~!!!!" ฮิโรกิร้องเสียงดังลั่น เมื่อจู่ๆร่างบางๆของเคตะก็กระโดดเข้าใส่เค้าที่ไม่ทันตั้งตัว ทำเอาทั้งคู่ล้มหมุนกลิ้งลงไปกองที่พื้น เคตะน้อยตกใจสุดขีด แต่ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงประคองตัวเขาไว้ไม่ให้ได้รับบาทเจ็บ... แต่... แต่.. แต่.... นั่ง... เคตะได้นั่งบนตัวฮิFรกิคุงด้วย คุณหญิงแม่ค๊าบบบบบบบบบบ ฉะหวันนนนนนนน~

      "เป็นอะไรรึป่าว ? จู่ๆกระโดดเข้ามาทำไมน่ะ นายไม่สบายอยู่นะ เดี๋ยวก็มีแผลด้วยหรอก" ฮิโรกิ รีบยันตัวเองขึ้นทำให้อีกฝ่ายจำเป็นจะต้องลุกขึ้นไปพร้อมๆกันด้วย อ๊าา ไม่อยาก ลุกเลยยยยยยย >[]<

      "ไม่สบาย????@_@?? ผม... ผม.. ไม่เป็นอะไรฮะ ก็... ก็..."
      " ก็นายหน้าแดงแจ๋เลย " ฮิโรกิชิงพูดขึ้นเสียก่อน ทำเอาดวงตาซุกซนจ้องมองอีกฝ่ายอย่างงุนงงง อะ เอ้ยยย หน้า.. หน้าแดงงงงง เคตะหน้าแดงงเหนอ อ๋อ ... งั้นที่ฮิโรกิคุงแตะหน้าผากเราเมื่อกี้ .... ก็เพราะคิดว่าเราไม่สบายหรอกเหรอ แง.... แม่ค๊าบบบบบบบบ

      ความจริงที่ได้รับทำเอาหัวใจดวงน้องตีบลีบ... ด้วยความที่เป็นลูกคุณหนูที่ถูกตามใจมาตลอด ในสถานการณ์ที่น่าตกใจเช่นนี้ ทำเอาร่างบางถึงกับงงงัน น้ำใสๆในตาล้นออกมาโดนอะติโนมัติ

      " เห้ย!! นายเป็นอะไร!!!!!????? "

      " อย่าร้องไห้นะ ๆ ๆ " ฮิโรกิทำตัวไม่ถูก เขาไม่เคยทำให้ใครร้องไห้มาก่อน = =(คนดีจริงๆ) พอมาเห็นน้ำตาใสๆที่หยดลงมาอาบแก้มเนียนของเด็กหนุ่ม ยิ่งทำให้ใจคอไม่ดี

      “เคตะ เป็นอะรรึเปล่าครับ”
      มือหนาลูบหัวเด็กน้อยอย่างเบามือ เส้นผมนุ่มทำเอาคนลูบเองเคลิ้ม ฮิโรกิแอบมองหน้าเคตะที่มีน้ำตาคลออย่างเอ็นดู เคตะที่ตอนนี้รู้สึกหวาม ๆ เหมือนมีไฟลุกอยู่ในทรวง ใบหน้าแดงกร่ำทำให้ฮิโรกิตกใจหนัก
      “ร้องไห้จนไม่สบายเลยหรอเนี้ย” คิดในใจ ก่อนจะค่อยๆอุ้มประคองร่างเล็กขึ้นไปนอนที่โซฟา
      " นายนอนนิ่งล่ะๆ เดี๋ยวชั้นจะถอดเสื้อให้... " (o[]O...คนแต่ง) พูดจบมือหนาก็ผลักหน้าอกร่างบางให้นอนลงแผ่วเบา ก่อนที่จะจัดการปลดกระดุมตั้งแต่เม็ดบนออก ร่างบางชะงักนิ่ง เหอออออ .. วะ เหวอออ .. . ระ . . . รีบไปรึป่าว?? ถึงขั้นนั้นแล้วเหรอ อ๊ายยยย

      ร่างเล็กๆที่เอียงแผ่นหลังพิงโซฟาแกร็งแข็งขึ้นมาซะดึ้อๆ ก็มันตื่นเต้นอ๊า~~~ ที่อิตาลีเคตดูแบบนี้ในTVบ่อยๆ ที่ว่าแฟนกันทำอะไรกันบนโซฟา(ฮ่าๆๆๆๆๆๆ) สงสัยมาก็นาน... วันนี้เราจะรู้แล้วเหรอเนี่ย>_<(ก๊ากกกกกก)

      ฮิโรกิจัดการปลดกระดุมเสื้อคนตัวเล็กออกจนหมด อืม.. แต่ความจริงตัวก็ไม่ร้อนนี่นา ร่างสูงคิดในใจ แต่จะพูดไปก็ใช่ที่เพราะดูจากอาการภายนอกตอนนี้ เคตะแปลกไปมาก หน้าแดงงงง แถมยังหลับตาเกร็งๆอีก
      "ฉันจะเช็ดตัวให้นายนะ ไม่เป็นไรหรอก โอ๋ๆๆ" คุณหญิงแม่ค๊าบบบบบบTT A TT รอยยิ้ม... รอยยิ้มที่แสนจะใจดีแบบนั้น กับมืออุ่นๆ กันการแสดงออกที่ทำให้ผมใจเต้น.. เค... เคตะเป็นไรไปอ่า>//////< เคตะชอบเค้าใช่มั๊ยคับ??? ใช่สิก็ชอบนี่ ชอบมากๆด้วย>/////< แต่ทว่า... ฮิโรกิคุง... ที่ทำแบบนี้ก็เพราะคิดว่าเคตะไม่สบายอยู่ดีTT^TT ที่เป็นแบบนี้น่ะ เพราะฮิโรกิคุงต่างหากล่า แง ....TT [ ] TT///
      คิดทบทวนไปมาให้ใจคนเดียว แงงงงง พ่อคร๊าบบบบบ หรือผมชอบเขาจริง ๆ แม่คร๊าบบบ ผมควรทำไงดี

      “เคตะ ท่าทางนายดูแย่ๆนะ”
      ฮิโรกิที่เริ่มเช็ดตัวเถามขึ้น เมื่อเห็นร่างเล็กหน้าตาเหลอหลา
      “คะ...คือ...”

      >[]< อ๊ากกกกกกกกกก ใจดีเกินไปแล้วววววววววว

      " กริงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงง " เสียงโทรศัพท์ที่ห้องฮิโรกิดังขึ้น
      " เคตะ แปปนึงนะ เดี่ยวฉันมา "
      “โฮกกกก เกือบไปแล้ว เกือบห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้วเชียว” เคตะคิดในใจ
      "ครับ ครับ" ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ก่อนจะเดินมาหาเคตะ
      "เออ นายพักอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง " ฮิโรกิพยุงตัวเคตะขึ้นมาจากโซฟา
      เคตะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงอย่างขัดใจ
      “เง้อออ...กำลังค้างเลยอ้ะ >O<” (โว๊ะ...ลูกสาวชั้น พูดมาด๊ายยยยย)

      “ว่าไงครับ” ฮิโรกิถามซ้ำ ทำเอาเคตะงอนแก้มป่อง อะไรกัน อยู่ดีๆก็จะมาไล่กันกลับง่ายๆงี้น่ะหรอ -3- (ก็นี่มันบ้านเค้า - -“) ใช่สิ ก็เรามันไม่สำคัญนี่ มีแต่เราที่บ้าไปเอง ฮึ้ยยยยย โมโห >o<* ร่างบางคิดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะยันกายลุกขึ้น เดินกระแทกเท้าฉับๆนำหน้าฮิโรกิออกไป

      “นายไม่ต้องไปส่งเราก็ได้ เรากลับเองได้ -*-“
      ฮิโรกิมองดูร่างเล็กอย่างงงๆ ไม่เข้าว่าเค้าโกรธอะไร
      ร่างเล็กปิดประตูปังเดินสะบัดก้นงอน ๆ ออกไป จนฮิโรกิต้องวิ่งตามมาดู
      "เป็นอะไรไปหรอ" ร่างสูงที่เพิ่งวิ่งตามมาทันถามด้วยความงุนงง อะไรล่ะ เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย

      "ป่าว" ปฏิเสธเสียงแข็ง แถมยังสะบัดหน้าหนีซะงั้น
      "ชั้นไปส่งนะ"
      "ไม่ต้องหรอก เรากลับเองได้ "
      "น่า ชั้นอยากไปส่ง"
      "ไม่ต้องหรอก " แล้วก้อวิ่งหนีไป น้ำใส ๆ ค่อย ๆ ไหลเออล้นสองตาน้อย ๆ
      "ฮือ ๆ ๆ ไอ้คนใจร้าย ทำไมไม่ตามมาง้อว่ะ" (อ้าวน้อง...-*-) น้องเคตงอแงแก้มป่อง เมื่อแน่ใจว่า ร่างสูงไม่ได้ตามมาง้อจริงๆ เง้อออออ ไอ้คนบ้า ไอ้คนผีทะเล๊...TAT

      ...............
      .........................
      .................................


      ตัดมาที่คุณแม่กุ๊กกี่ กับ พ่อเคะ
      "เอ๋ มีใครเห็นคุณลูกเคตขามั้งไหมนะ" คุณแม่กุ๊กกี๋ชะเง้อมองหาลูกชายสุดสวาทจนคือยืด
      "อืม นั่นสิ นิมันก็จะเย็นแล้วนะ หายไปไหนของเขาทั้งวัน หรือตกทะเลไปแล้วเนี้ย" คุณพ่อสุดหล่อเข้มพล่ามอย่างห่วง ๆ
      "อ่ะ คุณพี่ มาแช่งลูกเคตขาได้ไงล่ะคะ >[]<* เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวคุณน้องจูบเลย "
      "เหวอออออ"
      ด้วยความหวาดกลัวจูบพิฆาติมารของกุ๊กกี๋ เคตะจึงรีบลุกไปหายูสุ เพื่อให้ช่วยกันออกตามหาลูกชายสุดที่รัก แต่ก่อนที่เคตะรูปงามจะเจอยูสุสุดหล่อล่ำตัวดำ
      เขาก็พบว่า ลูกชายสุดสวาทของเขากำลังเดินกลับมาด้วยสภาพน้ำตานองหน้า

      "อุ๊ยยยยยย คุณลูกเคตขาเป็นอะไรไปคะ ร้องไห้ทำไมคะลูกกกกก"
      "ป่ะ ป่าว ครับ" ยิ่งถามเหมือนยิ่งสะกิดแผลน้อย ๆ ในดวงใจ เคตะเลยยิ่งร้องไห้หนัก
      "โอ๋ ๆ ๆ มา ๆ มากินข้าวดีกว่าลูกเคตขา คงจะหิวสินะ เลยร้องไห้แบบนี้"
      "มา ๆ กินข้าวกัน" คุณพ่อที่ยิ้มสี่เหลี่ยมกระชากใจที่สุดในจักรวาลพูดขึ้น พร้อมกับจุงมือเคตน้อยไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่ได้จัดเตรียมอาหารดีๆไว้มากมาย แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้ทำให้เคตะน้อยรู้สึกว่าอยากอาหารขึ้นมาแม้แต่น้อย ก็ในเมื่อภาพใบหน้าของคนใจร้ายมันลอยวนเวียนหลอกหลอนอยู่ตลอด ฮืออออ...
      หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ ทั้งหม่อมแม่และท่านพ่อต่างก็พาเอาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปเข้านอนแต่หัวค่ำ ด้วยกลัวว่าเด็กน้อยจะนอนไม่พอ อีกทั้งวันนี้ยังกลับมาที่พักด้วยสภาพที่ไม่ดีเท่าไหร่ ทำเอาหัวใจพ่อแม่สั่นคลอน(ฮ่าๆๆๆ)
      เคตะน้อยล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนแรง มือเล็กๆฉวยคว้าเอาหมอนหนุนในใหญ่มากอดไว้แน่น... ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวดหัวใจ... วันนี้.. วันนี้วันเดียวเลย ที่เค้าทั้งมีความสุข และแสนเศร้าและผิดหวังในคราวเดียวกันและมันก็มาจากคนๆเดียวกันเสียด้วย ... ฮิโรกิ.. ฮิโรกิๆๆๆๆๆ ชื่อนี้ล่องลอยอยู่เต็มหัว ภาพรอยยิ้มและความอ่อนโยนนั้นผุดขึ้นมาให้อมยิ้มไม่หยุด แล้วแล้วกลับต้องหุบลงเมื่อนึกถึงความผิดพลาดผิดหวังครั้งใหญ่ของตัวเอง.... นี่รักแรกของฉันนะ... เฮ้ออ.....
      เอาน่าเคตะ พรุ่งนี้เราต้องทำอะไรสักอย่าง!!... ร่างบางนอนกัดเล็บครุ่นคิดก่อนที่จะผล็อยหลับไป


      เช้าวันต่อมา
      เคตะจำใจต้องตื่นขึ้นมา เพราะมีเสียงแหลมๆแสบแก้วหูของคนคนนึงดังขึ้น
      “เคต จ๋า เคตลูกแม่ คนดี๊...คนดี ตื่นเถอะ เราไปเที่ยวกัน”
      “เอ๋...ไปไหนฮะแม่” เคตะน้อยงัวเงียถาม มือเล็กๆขยี้ตาเพราะรู้สึกง่วงนอนอยู่เลย ก็เมื่อคืน กว่าจะข่มตาหลับได้ร่างเล็กนอนนับแกะไปเกือบหมดฟาร์ม
      “พ่อของลูกบอกว่าจะพาไปเที่ยวหาดสวยๆแถวนี้ เค้าว่ากันว่าสวย แต่ไงๆแม่ว่ามันก็สวยน้อยกว่าแม่อยู่ดี โฮะๆๆๆๆๆ ^O^”

      พอได้ยินดังนั้น เคตะก็แทบอยากวิ่งหนีไปไกลๆ ไม่ใช่เรื่องที่เค้าเถียงในใจเกี่ยวกับความสวยของแม่ -*- แต่เพราะว่า ถ้าหากเขาไปเที่ยวหาดแถวนี้ เขาอาจต้องเจอกับฮิโรกิอีกครั้งก็ได้
      “แม่ฮะ ผมไม่ไปดีกว่า เมื่อวานไปมาแล้ว ก็เห็นว่าก็งั้นๆแหละ” โกหกไปเต็มๆ จริงๆหาดมันก็สวยอย่างที่เค้าว่ากันน่ะแหละ แต่เหตุผลก็...นะ อย่างที่บอก เคตะเผลองอนแก้มป่องอย่างไม่รู้ตัว
      “อ้าว...ตายจริง งั้นแม่กะพ่อก็ต้องไปเดทกันสองคนสิเนี่ย ^O^Y” น้ำเสียงออกจะเสียดาย กับท่าทางที่แสดงออกมา มันช่างขัดกันอย่างสิ้นเชิงซะจริง -*- เคตะน้อยเห็นหม่อมแม่กุ๊กกี๋ทำท่าหลั่นล้าดี๊ด๊าจนน่าหมั่นไส้ เคตะแอบคิดใน “เป็นไรมากป่ะวะแม่ตู -*-“
      "งั้นแม่ไปก่อนนะลูกเคตขา" จูบลาลูกก่อนจะวิ่งปรู๊ดไปหาพ่อมัน
      "เฮ้อออออออออ" เคตะถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม่เราเน้ออออ
      "เอาไงดี งั้นเราก้ออยู่คนเดียวซิ เฮ้อ " บ่นเซ็ง ๆ แล้วเดินเข้าไปแปรงฟัน อาบน้ำ
      "ก๊อก ๆ ๆ มีคนอยู่ไหมครับ "
      เสียงเคาะประตูทำเอาเคตะตกใจ “ใครหว่า มาทำไมฟระ”
      เขารีบวิ่งไปเปิดประตูแต่ก้อต้องตกใจเมื่อคนที่ยืนอยู่หลังประตูคือคนที่เขาไม่อยากเจอเลยตอนนี้
      "อ้าว เคตะ นายอยู่ที่นี่เองหรอ" ชายหนุ่มคุ้นตาคนนั้นยิ้มอย่างอบอุ่น
      "อืม มีไร" เด็กน้อยทำเสียงแข็ง
      “เราเอาปลาหมึกมาส่ง”
      “นายมาส่งทำไม นายเป็นชาวประมงรึไง” เคตะน้อยมีท่าทีฮึดฮัดใส่ฮิโรกิ จนร่างสูงอดคิดไม่ได้ ว่าทำไมเด็กคนนี้ท่าทางเอาใจแต่จัง
      “นายเอากลับไปเหอะ เราไม่อยากกิน” เคตะน้อยพูดจบก็ท่าจะปิดประตูใส่หน้า
      แต่ด้วยความที่ฮิโรกิคลุกคลีในวงการปลาหมึกมานาน จึงมือเร็วจับประตูคว้าไว้ได้ทัน
      “อย่ามาทำแบบนี้นะ ชั้นไม่ชอบ -*-“ ฮิโรกิเองก็เริ่มไม่พอใจที่เห็นท่าทางเอาแต่แบบนั้น มิหนำซ้ำท่าจะปิดประตูใส่อีก ลูกคนรวยอะไรไม่มีมารยาท
      “ปล่อย เจ้าบ้า ไปไกลๆเลย เอาปลาหมึกของนายกลับไปด้วย เราไม่ต้องการ >[]<”
      “ก็คนบ้านนายไปสั่งเอาไว้ นายจะมาบอกว่าไม่เอาได้ไง -*-“ ฮิโรกิผลักประตูและก้าวเข้าบ้านได้ในที่สุด
      “อ๊ะ~!! คนเสียมารยาท ออกไปนะ ไม่มีใครสอนนายเหรอว่าทำแบบนี้มันเสียมารยาท ออกไปอ๊า~~” ในคราวนี้อารมณ์งอแงของเด็กน้อยคราวกำเริบอีกครั้ง เสียงโหวกเหวกเอาชนะแบบเด็กๆทำเอาฮิโรกิผู้ที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่พอถึงกับหงุดหงิดเข้าไปอีก(แล้วเป็นผู้ใหญ่ตรงไหนวะ)
      “ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายที่ต้องถาม นายเป็นอะไรของนายเนี่ย? ฉันพูดดีๆด้วยก็ไม่ฟังแบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อวานยังดีอยู่เลย”
      “มะ.. ไม่... ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเมื่อวานเลย!! ไม่เกี่ยว!! นายจะทวงบุญคุญชั้นเหรอ อึ๊~~ ออกไปจากบ้านเค้านะ ก่อนที่เราจะเรียกคนมาช่วย นี่ ออกปายยยย อ๊า>O<” ร่างบางอ้าปากตะโกนดังลั่น เสียงแหลมๆใสๆแม้จะอยู่ภายในตัวบ้าน แต่ก็สามารถทำให้ยูสุเกะที่เป็นบอดี้การ์ดที่คอยเฝ้าคุ้มภัยเคตะอยู่ภายนอกได้ยินสบายๆ
      ชายหนุ่มบอดี้การ์ดมาดแมนตรงดิ่งเข้าไปหาคนทั้งคู่ เคตะถลึงตามองคนที่เพิ่งเข้ามาด้วยความตกใจ ก็เมื่อจู่ๆมือใหญ่ก็คว้าเอาคอเสื้อยืดสีจืดๆของฮิโรกิขึ้นอย่างรุนแรงก่อนที่จะดันอีกฝ่ายติดกำแพงตึง!!
      “หะ เห้ย~!! เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน ยูสุ อย่าน้า~~~~” ร่างกระจ้อยร่อยกระโดดเข้าไปเกาะแขนแข็งกล้ามใย๊ใหญ่ของยูสุเกะ ก่อนที่มันจะปล่อยหมัดหนักๆเข้าหน้าสุดหล่อในดวงใจ
      “นะ.. นี่.. คนนี้เค้าเป็นเพื่อนชั้นเอง ไม่มีอะไรหรอกนะ นี่.. รู้แล้วก็ปล่อยเค้าซี่ ปล่อยได้แล้วTT [] TT” ยูสุเกะสุดหล่อปล่อยมือออกจากเสื้ออีกฝ่ายทันนที เมื่อเห็นว่าบ่อน้ำตาของเจ้านายตัวน้อย รื้อตื้นขึ้นมาอีกครั้ง
      แต่แล้วเจ้าตัวน้อยก็รู้สึกตัวจนได้ว่าทำผิดถนัด... เค้า... เป็นคนไล่ฮิโรกิให้ออกไปจากบ้านตัวเองนี่นา... แล้วตะกี้ กลับหลุดปากออกไปแบบนั้น ฮือTT^^TT ไม่กล้าหันไปมองหน้าแย้ววว แงง.. ถ้าหญิงแม่กลับมาจาฟ้องแม่ ฮือTT^^TT
      แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร่างบางเดินลึกเข้าไม่ในบ้านไม่มองหน้าอีกฝ่าย “ออกไปเลย ออกไปจากบ้านเราเลย อึก...”
      “นายร้องไห้??? เป็นอะไร” เด็กหนุ่มถามด้วยความห่วงใย(เพื่อนมนุษย์)จากใจจริง
      “ไม่ร้องง ฮือTT^^TT(แม่จ๋า~~~~) ก็บอกว่าออกไปๆๆๆๆ ฮือออออ...”
      “เฮ้~~ รึว่าไม่สบายเมื่อวานยังไม่หาย เคตะ!!O.0”
      “ไม่ต้องมาเรียกชื่อชั้น!!! ออกไป!!!!”
      * ผลั่ก!!!!!!! *
      มือใหญ่ที่ยื่นออกไปหวังจะดึงร่างอีกฝ่ายมาดูอาการกลับถูกเจ้าตัวสะบัดออกแรงอย่างไม่ใยดี อีกแล้ว!!!! เคตะ! นายว่าแต่ว่าคนอื่นเค้าไม่มีมารยาท แต่ตัวเองล่ะ เคยมองดูบ้างรึป่าว ฮิโรกิอารมณ์เดือดปุดๆขึ้นมาอีกระลอก(ฮ่าๆๆ) มือหนาฉวยดึงเอาไหล่บางๆของคนตรงหน้าให้หันกลับมารวดเร็ว มองเห็นหยดน้ำตาใสๆที่เกาะพราวอยู่รอบดวงตาอีกฝ่าย ... แล้วความรุ้สึกแปลกๆก็ก่อเกิด(???)
      ....เด็กๆนี่ น่าเอ็นดูนะ(ฮ่าๆๆ)

      “ร้องไห้แบบนี้ เด็กชะมัด นายเองก็โตแล้วทำไมไม่รู้จักทำตัวให้มีเหตุผลซะบ้าง” ถึงจะเป็นคำพูดประชดประชัด แต่มันก็ถูกกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและดูเหมือนเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย(ไม่ทันไร ริอาจไปเป็นห่วงเค้าซะและ เฮ้ออออ)
      “ฮือ... นายมาว่าฉันไง ฮือTT^^TT ไม่ต้องมายุ่ง นายก็ไม่เป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน ฮือๆๆ ฉันไล่นายนายก็ไม่ไป” ฮิโรกิแอบอมยิ้มเล็กๆ นายนี่มันเด็กจริงด้วยแฮะ เฮ้ออออ...
      นิ้วเรียวยกขึ้นเช็ดเอาหยดน้ำตาอุ่นๆออกจากขอบตาของอีกฝ่าย เคตะน้อยเหวอ ~ ตกใจไม่น้อยที่ฮิโรกิทำแบบนี้จนตัวเองเซไปมาแต่คนตัวสูงกว่าก็ยังคงเอื้อมมือออกไปประคองตัวของเขาทัน นั่นยิ่งทำให้ร่างบางมีอาการเข้าไปใหญ่ ใจเต้นดังเกินไปแล้ว.. ถ้าฮิโรกิได้ยินก็เสียฟอร์มน่ะสิ.. ก็มันใกล้กันซะขนาดนี้...>///< ฮึ๊ย~
      “หน้าแดงอีกแล้วแฮะ นี่ยังไม่หายไม่สบายจากเมื่อวาน หรือว่า... ? ?? ” ร่างสูงกระชับดึงเอาตัวของอีกฝ่ายใกล้เข้ามาอีกจนหน้าอกเคตะมันมาชิดกะตัวของเค้า อัตราการสูบฉีดเลือดขึ้นหน้าของร่างเล็กจึงเพิ่มขึ้นทวีคูณ ง๊า~~ หม่อมมแม่~~~~แอ้...แอ้...แอ้...(เอ็คโค่น่ะค่ะพี่น้อง แหะๆๆ)

      “หรือ... หรือว่าอะไร??? หะ หา เรื่องชั้นเหรอ?” ฮิโรกิแทบจะเก็บรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ ก็ในเมื่อคนข้างหน้าที่แนบชิดขนาดนั้นพูดตะกุกตะกักแถมมีทีท่าว่าไม่กล้ามองหน้าตัวเองอีก รู้สึกเหมือนว่าจะเข้าใจอะไรบางอย่าง... อืมมม^ ^

      “ก็หรือว่า ที่หน้าแดงนั่น เป็นเพราะชั้นไง ^_^” รอยยิ้มที่อ่อยโยนดูเหมือนจริงใจแต่ในตอนนี้มันกลับแปลกไปจากครั้งก่อน เพราะแววตานั่นที่ไม่โอนอ่อนเหมือนเคย แต่คราวนี้มันกลับดูมั่นใจในตัวเองและดูแข็งแกร่งกว่าคราวก่อนๆ ร่างบางแทบสะอึกเมื่อยินคำของอีกฝ่าย... ใช่... นาย... นายรู้ไงอ๊า
      “ไอ้... ไอ้บ้า มะ ไม่เห็นเกี่ยว เกี่ยวอะไรกับนายเลย... ทำไมชั้นต้องหน้าแดงเพราะนายด้วย>/////<” เอาแล้วไง ยิ่งพูดก็ยิ่งแดงใหญ่ แล้วจะเถียงไปทำไมเนี่ย^^”’
      “จริงสิ งั้นชั้นคงหลงตัวเองล่ะมั้ง แต่ปกติชั้นไม่ใช่คนอย่างนั้นนี่นา... ถ้าไม่เชื่อ... เราลองทดสอบกันดูมั๊ยล่ะ^_^///”
      O.0//////
      O.0/// ทดสอบ????
      “อะ อาไร-*- ฉันรมณ์ไม่ดีแล้วนะ นายจะแกล้งฉันไปถึงไหน ไปไกลๆเลย ออกไปๆๆๆๆ”
      “ก็เห็นอารมณ์ไม่ดีมาตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ?”... ฮิโรกิกระหยิ่มยิ้มเล็กๆที่มุมปาก มองดูเคตะพยายามพลักเอาตัวเค้าออกไป พวกคุณหนูก็เป็นแบบนี้ ดื้อ เย่อหยิ่ง ชอบเอาชนะ ถูกตามใจมามากมาเจอแบบนี้คงไม่มีทางยอมแน่... ดีเลย เคตะ...
      “กลัวแพ้รึไง? รึว่ากลัวว่าฉันจะรู้ว่าที่นายเป็นแบบนี้เพราะฉันจริงๆ”

      “O.0/// ป่าวว้อยยย>O<”
      “ก็นายหน้าแดงใหญ่แล้ว^^”
      “ก็นายบอกเองว่าฉันไม่สบาย!!>O<”
      “ฮ่าๆๆ^O^” แล้วฮิโรกิก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆแก้มแดงๆที่ถูกเป่าจนป่องเหมือนลูกโป่งสีชมพูสด>////<(จะเขียนเพื่อไรวะกรู 5 5 5)เคตะเหวอจัดๆเอามือตีๆไปที่หน้าอกฮิโรกิไม่หยุด>///< (กี๊ดดด)
      หม่ามี๊ค๊าบบบ กลับมาหาเคตะเร๊ววววว ใจจะหลุดออกมาจากอกแย้วววว ทำไมต้องชอบด้วยล่ะ? ทำไมต้องชอบทั้งที่โดนแกล้งแบบนี้TTATT ง่า...
      “…” ไร้เสียงใดเติมต่อ ฮิโรกิหยุดเสียงหัวเราะร่วนลงซะอย่างนั้น ชายหนุ่มขยับตัวประชิดชนอีกฝ่ายใกล้อีก ใกล้เข้าไปอีก..จนเคตะขยับหนีไม่ ได้ ใบหน้าคมก้มโน้มลงมาเทียบเคียงกันคนตัวเล็ก เคตะที่จ้องเขม็งอยู่อย่างนั้นรีบหลบสายตานิ่งนั่นโดยเร็ว ฮึ๊ย... มี๊.. หม่อมมแม่...

      สายตาของคนโตกว่าจ้องนิ่งไปบนใบหน้าอ่อนใส่ที่กลายเป็นสีชมพูดเข้ม รู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก เด็กๆนี่น่าเอ็นดูแบบนี้กันทุกคนเลยใช่มั๊ย?... งั้นคงไม่ผิดสินะที่ฉันจะรู้สึกแบบนั้นกับนาย ...
      ปลายจมูกโด่งรั้งขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆจนแตะชมกันแก้มนุ่มใส แต่เคตะหลับตาปี๋ไม่กล้ามองไปซะแล้ว>///< ชายนุ่มเลื่อนกดจมูกลงสูดดมกลิ่มหอมจากผิวกายอีกฝ่าย ก่อนเลื่อนปากแดงขมเม้มผิวนิ่ม
      เรื่อยไปจนถึงต้นคออ่อน ไม่ลังเลที่จะก้มลงไปพรมจูบเบาทำเอาอีกคนหน้าร้อนฉ่า... ทั้งๆที่หลับตาอยู่แท้ๆ แต่หน้าแดงแจ๋เลย ฮิโรกิผละกายออกมาไม่เบียดเหมือนเคยแต่ก็ต้องถึงกับอึ้งเมื่อเคตะน้อยลืมตาขึ้นมาพร้อมน้ำตาหลดเล็กๆ

      “ฮืออออTTATT คนใจร้ายยย ออกไปเลยยยย” อ่าว.. น้ำตาบ่อใหญ่ของคนตัวน้อยดันแตกซะแล้วววว ในชั่วขณะที่ฮิโรกิอึ้งไปกันใบหน้าเปื้อนน้ำตา เคตะรีบใช้มือผอมแห้งที่เหมือนมีแต่กระดูกดันไปที่อกกว้างอย่างรุนแรงก่อนที่จะวิ่งหนีขึ้นบันไดไป .. ไม่นานเสียงปิดประตูปังโครมใหญ่ก็ดังขึ้น

      “เคตะ...รอเดี๋ยว” ฮิโรกิวิ่งตามขึ้นไปที่หน้าห้องนอนของร่างเล็กที่ชั้นบนของบ้าน

      “ชั้นขอโทษ...ชั้นไ ม่ตั้งใจ” ร่างสูงเคาะประตู ห้องนั้นหลายครั้ง แต่ทว่า กลับไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก -*-

      “เคตะ...ชั้น...”

      “กลับไปเดี๋ยวนี้นะ คนใจร้ายยย นายเห็นชั้นเป็นอะไร ถึงได้แกล้งกันแบบนี้ กลับไปเลย TTOTT” เสียงเล็กตะโกนออกมาจากห้องนอน
      “เคตะ...ชั้นบอกแล้วไง...ชั้นไม่...”
      “เฮ้ย...แกทำอะไรคุณหนูน่ะ .V.*” บอร์ดี้การ์ดหน้าหล่อนามยูสุเกะปราดเข้ามาอีกครั้งพร้องอาวุธครบมือ - -“ “แกออกมาห่างๆจากห้องคุณหนูเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ชั้นจะระเบิดสมองของนายเอาไปต้มให้คุณนายกิน -*-“

      “อะไรจะโหดเว่อร์ปานนั้นฟระ” ฮิโรกิคิดในใจ “นายวางอาวุธนายลงก่อนเหอะ ท่าทางจะหนัก ชั้นแค่ทะเลาะกับคุณหนูของนายนิดเดียว” ฮิโรกิตอบเสียงเครียด ที่เครียดนั่นก็ไม่ได้เพราะกลัวไอ้ปืนหนีภาษีในมือบอร์ดี้การ์ดหน้าหล่อนั่น แต่กำลังเป็นห่วงร่างเล็กที่อยู่ในห้องต่างหาก

      “ผมเตือนแล้วนะครับว่าให้ออกไปห่างจากคุณหนู-*-”
      *ตึก!* มือใหญ่คว้าเอาปืนพกขึ้นดันกายอีกฝ่ายเข้าชนติดผนังปังใหญ่ ฮิโรกิด้วยความเป็นพระเอกเกือบที่จะยั้งมือสวนกลับไปไม่ทัน ถ้า...
      *ปัง!!โครม!!*

      “ยะ.. หยุดนะ!!! ทำอะไรกัน!! ยูสุวางปืนลงนะ!!” (นางเอกมาแล้วฮ่า)
      น้ำเสียงดื้อรั้นดังขึ้นห้ามตามหลังเสียงเปิดประตูปังใหญ่ พูดออกมาอย่างอวดใหญ่ทั้งๆที่น้ำตายังคลอล้นอยู่ท่วมเปลือกตา ยูสุเห็นแบบนั้นก็รีบปล่อยตัวฮิโรกิลงโดยเร็ว
      ป้าดดดด นั่นโว๊ะโฮ๊ะ-*- นั่นปะไร จากที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นพอน่ารักน่าเอ็นดูแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะถึงขั้นสุดแล้ว ฮิโรกิจะตบหน้าผากตัวเองและยูสุเกะแรงๆที่ดันไปกระตุ้นต่อมตื่นตัวของต่อมน้ำตาอีกทีของเจ้านี่ซะแตกรั่ว ยูสุเกะผู้ที่ไม่เคยเห็นนายน้อยเป็นแบบนี้มาก่อนยืนอึ้งแข็งตึง หน้า เหวอ แบบ’ไม่ใช่เพราะผมนะคร้าบบบ’ เสียแล้ว
      ฮิโรกิเห็นแบบนั้นจึงรีบยักคิ้วหลิ่วตา เป็นทีบอกว่าให้อีกฝ่ายออกไปก่อน เดี๋ยวเค้าจัดการเอง ร่างสูง(และดำ)พะว้าพะวงอยู่สักพักก็ตัดใจเดินออกไปง่ายๆ เพราะเสียงร้องที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดนั่น


      “ฮือ... โฮTTOTT แง๊~~~~TTATT หม่ามี๊ค๊าบบบบบ ปาปี๊ คุณพ่อ คุณหญิงแม่ง่าTTATT แงงงงงง”
      “...เคตะ ...”
      “แง๊~~~TTATT คุณหญิงแม๊~~~ ฮือๆๆ โฮTTOTT/////”
      “โอ๋ๆๆๆ” ด้วยความที่เป็นถึงสุดยอดพระเอกฟิค(รั่วๆ) ความเนียนจึงไม่เป็นรองใคร ฮิโรกิแนบเนียนไปกอดไหล่เคตน้อยเบาๆก่อนที่จะตบบ่าเล็กไปมาอย่างปลอบใจ

      “โอ๋...เงียบซะนะครับ อย่าร้องไห้นะคนดี” ฮิโรกิค่อยๆพูดปลอบร่างเล็กเบาๆอย่างอ่อนโยน ไม่กล้าแตะมากกว่านี้ กลัวว่าอีกฝ่ายจะยิ่งร้องไปกันใหญ่
      “ไม่ต้องมาพูดเลยนะ นายนี่ จะมาทำให้ชีวิตชั้นปั่นป่วนไปถึงไหนนะ TT[]TT” เคตะร้องโวยวาย ใช่สิ เจ้าคนบ้า ปั่นป่วนทั้งตัวทั้งหัวใจเลย ฮืออออออออ
      “อย่าร้องเป็นเด็กสิ โตแล้วนะ “- -“ ฮิโรกิจับไหล่ที่กำลังสั่นไหวของเคตะให้หันมาหาเขา “ร้องแล้วไม่น่ารักเลย ตอนยิ้มยังจะน่ารักกว่าอีก” พูดจบก็ใช้นิ้วโป้งปาดคราบน้ำตาบนสองแก้มใสเบาๆ สัมผัสอ่อนโยนของร่างสูง ทำให้เคตะใจเต้นไม่เป็นส่ำ อย่านะ อย่าเข้ามาใกล้มากกว่านี้ เดี๋ยวก็จับได้กันพอดี ว่าเรากำลังใจเต้นแรงแค่ไหน....เง้ออออออ แม่ค๊าบบบบบบ ลูกเคตของแม่จะขาดใจตายอยู่แล้วววววววว //>[]<//

      แต่ก็ไม่ใช่ร่างเล็กเท่านั้นหรอกที่รู้สึกแบบนั้น ร่างสูงก็ชักไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองแล้ว ว่าบางสิ่งที่ก่อตัวขึ้นในใจ มันคืออะไรกันแน่
      “เคตะ...คือ...ชั้น...” เฮ้ย...นี่ตูจะพูดอะไรวะ -*-“ ฮิโรกิเกิดอาการสับสนหนักข้อขึ้น กรรม -*-
      “เอ๋...o.O ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอ้ะ ทำไมทำตาซึ้งๆแปลก เหมือนตอนที่พ่อกะแม่...อ๊ากกกกกกก ไม่จริง...นี่เขากำลังจะ...กำลังจะ...” น้องเคตคิดสะระตะไปร้อยแปดพันประการอยู่คนเดียว
      “ชั้น...ชั้นว่า...ชั้นชอบนายล่ะ” ฮิโรกิสารภาพออกมาอย่างตะกุกตะกัก ก็คนมันไม่เคยสารภาพรักนี่ -//-
      เคตะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงตาค้าง...หา...//O[]O// นี่ชั้นหูฝาดไปรึเปล่า ฮิโร...ฮิโรกิ...บอกว่าชอบชั้น...โอ้ววววว แม่จ๋า พ่อจ๋า ใครก็ได้ ช่วยมาเป็นพยานที ว่าหนูเปล่าน้า....เค้ามาเอง

      เอ๊ะ...ไม่ได้ๆ แม่จ๋าสอนไว้ เป็นสาวเป็นแส้ (???) ต้องรักนวลสงวนตัว หน็อย...กว่าจะพูดออกมาได้ ทำเอาเราเสียน้ำตาไปเป็นถัง หุหุหุ จะเล่นตัวซะให้เข็ด (แล้วจะจบมะวะ)
      “แต่ชั้นไม่ได้ชอบนายซะหน่อย -3-“ เคตะสะบัดหน้าหนี

      ฮิโรกิซึมไปสักพัก เค้าก้มหน้าลงสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะเงยหน้าและยิ้มให้เคตะ .. เด็กน้อยไม่เข้าใจเขามองคนตัวโตอย่างงงงัน (??) แล้วร่างสูง(?)ก็เดินออกไป ... เคตะลังเลว่าควรจะรั้งไว้หรือว่าปล่อยไป แต่สุดท้ายเขาก็วิ่งตามฮิโรกิไป ... แขนน้อย ๆ ดึงเสื้อของฮิโรกิแน่น

      “นายจะไปจริง ๆ หรอ” ... เคตะน้อยน้ำตาซึมแต่เคาพยายามกลั้นมันเอาไว้
      “นายอยากให้ฉันไปมั๊ยล่ะ ? ”
      ... เด็กน้อยส่ายหน้าเบา ๆ ... ร่างสูงยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินเข้ามากอดคนตัวน้อยแน่น

      “ถ้าเคตะพูดมาคำเดียว ว่าไม่ให้ไป ชั้นก็จะตรงนี้” ร่างสูงพูดน้ำเสียงอ่อนโยน
      เคตะน้อยก้มหน้างุด ก็...จะให้พูดยังไงล่ะ ว่าอยากให้ด้วยกันอ้ะ >//<

      ฮิโรกิลอบชำเลืองมองร่างเล็กตรงหน้า กำลังสับสนทางเพศ เอ๊ย...สับสนในใจอยู่อ่ะดิ หึหึหึ เด็กหนอเด็ก(ฮิโรกิเริ่มหางงอกแล้วคับพี่น้อง)
      “งั้นชั้นไปก่อนนะ” ฮิโรกิหันหลังกลับ ท่าเหมือนจะเดินออกไปอีกครั้ง เคตะรีบคว้าแขนร่างสูงไว้แน่น คราวนี้ ให้ตายยังไงก็ไม่ปล่อย
      “ฮิโรกิ...นาย...อยู่กับชั้นก่อนเถอะนะ” ชายหนุ่มจุดยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง ก่อนจะหันมาตีหน้าขรึมใส่ร่างเล็ก จะแกล้งให้เข็ดเลยคอยดู
      “นายว่าไงนะ” ฮิโรกิตีหน้าขรึม ทำเสียงเตรียดใส่
      “ยะ...อยู่ กับชั้นนะ” เคตะน้อยบอกเสียงแผ่ว...อะไรล่ะ เจ้าบ้านี่ >//< ชั้นก็อายเป็นนะเฟร้ยยยยย //>[]<//
      “อยู่...แล้ว...ยังไงล่ะ” ฮิโรกิยังกวนร่างเล็กเลิกไม่เลิก
      “นายหมายความว่าไง” เคตะน้อยงุนงง ก็บอกให้อยู่แล้ว ทำไมยังต้องการอะไรกันอีกนะ โรคจิตป่าววะเนี่ย -*-
      “ก็...มันยังเคลียร์ ชั้นไม่เข้าใจเท่าไร” ฮิโรกิยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับร่างเล็ก
      “งั้นเคตะบอกชั้นมาคำเดียว...สั้นๆ…นายชอบชั้นรึเปล่า” ฮิโรกิถามเสียงนุ่ม แววตาอ่อนโยนวิบวับเป็นประกาย
      >//< อ๊ายยยยย อย่าจ้องกันแบบนี้ได้มั้ย...เจ้าฆาตกรรรรรรร นายกำลังจะฆ่าชั้นด้วยสายตา >//< อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
      “หืม??..ว่าไง เคตะ...” ยิ่งถาม ใบหน้าของคนทั้งสองเริ่มมีระยะห่างน้อยลงทุกที เคตะเห็นท่าไม่ดี อัตราเสี่ยงว่าจะถูกรังแกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (จริงๆก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรอก กิ๊ซๆๆๆๆ ><) ร่างเล็กลังเล ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่ ว่า ...
      “อื้อ...ชั้น...ก็ชอบนาย”
      ฮิโรกิอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “จริงเหรอ...ดีใจจังที่ได้ยินแบบนี้ ^^”
      เคตะน้อยเห็นอีกฝ่ายยิ้มด้วยท่าทางดีใจแบบนั้นก็ยิ้มออกมาได้บ้าง อ๊ายยยย นะ...นี่ก็หมายความว่า...ชั้นกับฮิโรกิ...เรา... >//<
      คุณหญิงแม่จ๋า พ่อสุดหล่อจ๋า....เคตะน้อยมีความสุขที่สุดในโลกเล้ยยยยยย ^O^Y

      -------------------------จบ-----------------------

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×