รายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ทางช่องสามที่ได้เปิดฉากแข่งกันมาจนกระทั่งถึงรอบสุดท้ายไฟนอลซึ่งอาทิตย์นี้ก็จะรู้ผลกันแล้วว่าใคร? จะเอาเงิน “สิบล้าน” ใส่กระเป๋ากลับบ้านไปสร้างฝันเติมฝันให้เป็นจริงกันด้วยการแสดงรอบชิงชนะเลิศนี้
ผมดูการแข่งขันมาโดยตลอดและชอบรายการนี้ตรงที่มีความหลากหลายในการโชว์ของทีมที่เข้าแข่งขัน ทั้งการ ร้อง เล่น เต้น ซึ่งแต่ละทีมต่างก็ขนความสามารถเอามาปล่อยกันเต็มอัตราศึก!
พอพูดเรื่องการแสดงแล้ว ผมก็มีข้อสังเกตอยู่อย่างนึงว่า
เกือบทุกทีม ไม่เคยทำให้ผมประทับใจเกินกว่ารอบออดิชั่นได้เลย
ผมคิดว่านะ การแสดงรอบแรกซึ่งเป็นรอบคัดเลือก ทุกทีมทำได้ดีที่สุด และทำได้ประทับใจที่สุด แล้วพอหลังจากรอบนี้ไปแล้ว ส่วนใหญ่ไม่เคยทำโชว์ได้ดีเท่ารอบแรกอีกเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมชอบทีมอย่าง “สะบัดลาย” ซึ่งรอบแรกขึ้นมาโชว์ความอลังการงานสร้างแบบเรียบง่ายแต่ชมแล้วกลับประทับใจเหลือหลาย นางผีเสื้อสมุทรในฉาก ปรากฏตัวเป็นรูปร่างอย่างสมจริง
และการเอื้อนร้องกลอนก็เป็นไปอย่างเพราะเสนาะโสต ดนตรีก็เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ ตลอดการแสดงเรียกความสนใจและอินไปกับการแสดงและเนื้อเรื่องอย่างน่าชม แม้จะมาชมวีดีโอซ้ำอีกก็ยังไม่เคยเบื่อเลย
เรียกได้ว่า นี่คือสุดยอดฝีมือที่ทีมนี้เค้นออกมาหมดตัวแล้วก็ว่าได้
แต่พอรอบที่สอง ทีมสะบัดลายก็ไม่เหลือเค้าของทีมในใจผมอีกแล้ว เพราะทุกอย่างมันเต็มไปด้วยความสับสนกับการโชว์ ตัวละครที่เสริมเข้ามาไม่ได้ช่วยให้ดูแล้วติดตาตรึงใจเหมือนโชว์นางผีเสื้อสมุทร แต่ก็นั่นแหละครับนี่เป็นเพียงความเห็นของผมคนเดียวเท่านั้น บางทีคนอื่นเขาอาจไม่คิดแบบผมก็ได้นะ ถ้าเปรียบการโชว์รอบแรกกับรอบนี้ รอบแรกจะเปรียบเป็น “หนังชาวบ้าน” ซึ่งดูกันได้ทั้งครอบครัว แต่โชว์รอบสอง เป็น “หนังอินดี้” ที่ต้องตีความกันเยอะหน่อย
แต่ก็ต้องชมว่า การแสดงเต็มไปด้วยศิลปะของนักแสดง
เพียงแต่ขออีกว่า ในรอบไฟนอล หากคิดจะเอาใจผมไป ผมขอนิดเดียวครับ
กลับมาเป็น “สะบัดลาย” ในแบบแรกหน่อยได้ไหม ผมอยากเห็นครับ อยากเห็นตัวละครที่ประทับใจ ดูง่าย ซึ้งง่าย และการร้องการเล่นที่ง่ายๆ แต่ได้ใจไปเต็มๆ
เพราะรอบออดิชั่นคุณมีการอินโทรด้วยความอ่อนช้อยในช่วงนางผีเสื้อยังแปลงกายอยู่นั้น และมาเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดร้อนแรงในช่วงกลาง เมื่อกลับไปเป็นนางยักษ์ ทำให้คนดูตื่นเต้นตื่นใจไปกับฉากและพอมาช่วงท้ายก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นเศร้าสร้อยคล้ายจะปลอบใจคนดู คือมันมีความหลากหลายในฉากเป็นอย่างมากอารมณ์คนดูโดนฉุดกระชากไปมาอย่างสนุก เลยเกิดความประทับใจยังไงล่ะ
แต่ถ้าในรอบไฟนอลหากคุณจะทำโชว์แบบชุดสอง ก็ขอให้แบ่งฉากท้ายๆให้กลายมาเป็นเอาใจคอทีวีบ้านๆแบบผมสักหน่อยได้ไหมครับโดยการใช้ “เพลงหรือกลอนฮิตติดหู” เข้ามาประกอบ มีเพลงไทยเดิมซึ่งมีทำนองที่ฟังง่ายและทำนองฮิตๆอยู่มากมาย ที่ขึ้นโน๊ตแรกมาก็โดนแล้วโดนเลยก็มีอย่าง “ค้างคาวกินกล้วย” หรือทำนองเพลงลูกทุ่งอย่าง “กลับมาทำไม” ใน “แหยมยโสธร” ก็ไม่น่าจะยากอะไรสำหรับสุดยอดฝีมือระดับพระกาฬในการเรียบเรียงทำนองเช่นทีมของคุณที่จะทำดนตรีให้ฟังง่าย เพราะและเพลินได้
แล้วก็ แต่งหน้าทาปากแบบไทยๆบ้าง คือแต่งเหมือนนางรำผัดหน้าทาคิ้วปากแดงดูง่าย ยกตัวอย่างเช่น แต่งหน้าแต่งตัวให้ออกแนว ตัวพระตัวนางในการแสดงโขน หรือ ออกไปในทาง ลิเกได้ก็ยิ่งดี เพราะลิเกการแต่งหน้าจะเอาใจผู้ชมหนักกว่าโขนอีตรงที่ การวาดหน้าทาปากจะเข้มกว่า และผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ อันจะเกิดความเด่นขึ้นบนใบหน้านักแสดงได้
อีกทีมที่จะขอเอ่ยถึงด้วยความประทับใจคือทีม “ไทภูเขียว”ครับ
น้องๆทำความสนุกสนานเกิดขึ้นในรอบคัดเลือกอย่างมากมายจนเข้ามารอบสองเพราะการแสดงด้วยท่าทางเต้นกันแบบประทับใจ บวกกับเพลงซึ่งรีมิกซ์เข้ากับท่าเต้นด้วยเพลงลูกทุ่งมันเลยทำให้ความสนุกเพิ่มเป็นสองเท่า น้องๆทุกคนเต้นเข้าขากันดีและค่อนข้างโดดเด่นยิ่งรอบคัดเลือกเสื้อผ้าเด่นเอามากๆ มองแล้วลายตาอีกต่างหาก
ส่วนรอบสอง ก็เข้าอีหรอบเดิมเหมือนๆกับเลียนแบบกันมาทุกทีมนั่นก็คือ
ไม่สามารถเอาความโดดเด่นไปลบภาพความ “เด่นยิ่งกว่าเด่น” ในรอบแรกลงได้
รอบสองจึงดูแล้วเหมือนหนังคนละม้วนกันไปเลย
ทีมนี้ไม่ทราบผู้จัดการทีมคิดเปลี่ยนลุคส์น้องเขาแบบนี้ทำไมน้า
เพราะไม่เหลือเค้าเด็กซนและแก่นในตอนรอบคัดเลือกเลย ดูแล้วแข็งทำให้ความบริสุทธิ์ของภาพเด็กหายไปอย่างน่าเสียดาย
น่าจะเน้นสไตล์เดิมคงสนุกสนานกว่านี้เพราะดูไม่เด่น
แถมยังไม่มีเพลงลูกทุ่งซึ่งผมว่าเข้าถึงง่ายกว่านี้เยอะเลยสักเพลง มันเลยดูแข็งไปหน่อยครับแต่ความสามารถในการเต้นของน้องๆเลยทำให้ช่วยไว้ได้เยอะ
ถ้าในรอบไฟนอลอาทิตย์นี้ หากคิดจะได้คะแนนโหวตสูงๆละก็ควรหวนกลับมาสู่ “สามัญ” แบบที่เขาเรียกว่า “กลับมาบ้านเราเหอะ” นั่นแหละ เพราะการเอาความเป็นคนอีสานและเพลงลูกทุ่งนำเสนอให้ผู้ชมดูด้วยความเพลินและสนุกสนานแบบเข้าถึงได้ง่ายนั้น น่าจะดีและมีแสงสว่างสู่ทางเงินล้านได้ง่ายกว่านะครับ เพลงลูกทุ่งโดยเฉพาะลูกทุ่งหมอลำน่าจะเหมาะกับการแสดงที่สุด เพราะจังหวะเร้าใจแถมยังเข้ากับท่าเต้นแนวสตรีทแดนซ์ได้ดี
เพราะรอบเซมิฯ
ทุกทีมเท่าที่ดูแล้วไม่ค่อยมีทีมไหน “เอาเพลงลูกทุ่งมาประกอบการแสดงจริงจัง” เลยสักทีมเดียว ส่วนใหญ่เป็น “แดนซ์ และสตริง” แล้วก็เป็น “โอเปร่า” กันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น
“กรีโยคะ” ซึ่งก็น่าจะใช้เพลงบรรเลงประเภท “สปา” มาประกอบ รอบไฟนอลแนวเพลงน่าจะเหมือนเดิมซึ่งก็เหมาะสมกับการแสดง
ทีม ณ อัศจรรย์นี่ก็เพลงเชียร์แนวสถาบันหรือปอมปอมแน่นอน
ทีม บางกอกแดนซ์ แน่นอนก็ต้องเพลงบัลเล่ต์หรูสวยสง่าอยู่แล้ว
ไฮไลท์ ก็เช่นกันบรรเลงเนื้อๆแต่ถ้ามีร้องก็คงเพลงสากลสไตล์ “ไตตานิค”ประมาณนั้น
สาวสะบัด เท่าที่ผ่านตามา ก็ต้องเพลงปลุกใจเร้าอารมณ์แนว “คาราบาว”ประมาณ “บางระจัน” ครับแต่ถ้าหากกล้าเอาเพลง “หมอลำ” มาเล่นผมจะเทโหวตให้หมดเลยครับ
ส่วนแฮนด์เมด ก็ต้อง สตริงโฉ่งฉ่างเฮฟวี่เมทัลหนักๆหรือเบาหน่อยคงประมาณ เดือนเพ็ญนี่แหละ แต่ก็หวั่นๆว่าจะเอา “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร”มากระชากโหวตอยู่เหมือนกันแฮะ!
น้อง พีซ พรรษยา ร้องแนว “มิวสิคเคิล” รอบแรกไปแล้วรอบเซมิก็ “แฟนธ่อมออฟโอเปร่า”
รอบไฟนอลก็น่าจะไม่หนีกันเท่าไหร่ อาจจะมี “เดอะ ซาวน์ ออฟมิวสิค” หรือหากจะเอาลูกทุ่งมาเป็นมิวสิคเคิลก็คิดว่าน้องพีซไม่ถนัดเท่ารอบแรกซึ่งออกแนว “แม่นาค”ซึ่งทำได้ดีสุดนั้นหรอก และถ้าจะฉีกหน่อยก็ประมาณเพลงพื้นบ้านภาคกลางครับคงไม่มีเพลง “โทรหาแหน่เด้อ”หรอก
ส่วนน้องชะบาแก้ว ตุ้ยนุ้ยน่ารักนั้น หลากหลายแนว แต่ไฟนอลน่าจะอยู่ในคอนเซ็ปต์
เดิมคือ เต้น เล่น โชว์ร้องเพลงละครประมาณ “เรยาเดอะมิวสิเคิล”หรือ “โกโบริอังศุมาลิน” พร้อมกับแสดงอินเนอร์ตามบทตัวละครแล้วก็ความสามารถร้องไห้แบบสั่งได้
สะบัดลาย งานนี้คงไม่หนีคอนเซ็ปต์ “โขน โอเปร่าปนขับกลอนเสภา” เช่นเดิม
หรือถ้าจะฉีกไปจริงๆก็คงไม่หนีไปกว่า การร้องรำเพลงพื้นบ้านผสมฉากอลังการ
เอาเป็นว่า ทุกทีมในปีนี้ต่างก็มีการแสดงในแบบตัวเอง
และส่วนใหญ่ ออกแนว “แดนซ์” เกือบเกินครึ่ง ที่เหลือมี “ร้องเพลง” แค่ไม่กี่ทีม
ดังนั้น ปีนี้คาดๆว่า คนชนะน่าจะเป็นทีมเต้นซะมากกว่า
ใครเต้นดีและใช้การแสดงที่เข้าถึงคนดูได้ง่าย ทีมนั้นจะเป็นทีมได้โหวตสูง
เท่าที่ผมเห็นตอนนี้ มีทีมซึ่ง “โหวเฮ้งดี” อยู่ดังนี้
ต้องออกตัวก่อนนะครับว่านี่เป็นการเดา และเป็นการเล่าให้กันฟังว่า
ผมรู้สึกยังไงและอยากให้เป็นแบบไหนเท่านั้นหรือเรียกง่ายๆว่า “เป็นความเห็นของคนๆเดียว”เท่านั้น
รอบชิงชนะเลิศ หากว่าเราไม่คิดอะไรมาก
หากเราไม่ยึดติดกับว่า ชื่อรายการและการประกวดหมายถึง “ทาเลนท์”และให้ชมด้วยความเป็นกลาง ดูผลงานเขาอย่างสนุกๆแล้วละก็ จะมีทีมที่ “เข้าตา” ผม ดังนี้
ที่เด่นโร่มาเลยเป็นทีมแรกคงหนีไม่พ้น “ไทภูเขียว” ครับ
ก็อย่างที่บอก เด็กกลุ่มนี้พกความซนทะเล้นน่ารักมาทำให้คนดูสนุกสนานยามแสดง
หากวันแข่งจริง เอาวิธีที่ผมบอกนั้นไปใช้
ถึงจะไม่ชนะแต่ก็ไม่แพ้แน่นอน ทีมนี้จะ ติดหนึ่งในสาม
ทีม “สะบัดลาย” เป็นหนึ่งในสามทีมและยังอยู่ในโผนี้ตั้งแต่แรกมาแล้วของผม
หากทีมนี้งัดเอาความเรียบง่ายกินใจใส่เข้าในโชว์ มีสิทธิ์เป็นทีมต้นๆที่จะมีโหวตสูงแต่ยังเป็นรองไทภูเขียวเล็กน้อยครับ
ทีม “น้องพีซ พรรษยา” หนึ่งเดียวของแสดงโชว์เดี่ยวร้องเพลงพร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้า
ถ้าน้องเอาเพลงโชว์ที่เพราะๆและการแสดงสวยๆเสื้อผ้าหน้าผมงามๆ ยิ้มให้คนดูเยอะๆจะได้ขึ้นแท่นสามคนสุดท้ายครับ
และทีม “กรีโยคะ” ซึ่งใช้ความสามารถในการเล่นโยคะได้อย่างน่าชมนั้น
แต่ จะมีอีกทีมซึ่งผมไม่ได้ประทับใจมากนักแต่ทีมนี้มีสิทธิ์เข้าวินได้เหมือนกันคือ
น้อง “ชบาแก้ว” ซึ่งเธอแรงตั้งแต่รอบคัดเลือกมาแล้วและมีคะแนนนำคู่ต่อสู้ลิ่วทุกครั้งที่แสดง น้องชะบาแก้วมีความสามารถและการแสดงถูกใจคนดูมาก คาดๆว่าอาทิตย์นี้คะแนนเธอก็ไม่แพ้ผู้ใหญ่แน่
เอาเป็นว่าถึงการประกวดครั้งนี้จะจบแบบไหน? ใครได้ที่หนึ่งก็ตามที
ก็ขอให้ทุกคนดูด้วยความสนุกนะครับ อย่าไปคิดอะไรมากนักแล้วเราก็จะมีความสุขกับการแสดง
ส่วนเรื่องการตัดสินของคณะกรรมการผมมีความเห็นว่า
กรรมการเขาก็อยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุดแหละครับ แต่ในเมื่อคนดูมีเป็นแสนเป็นล้าน
การจะทำให้ทุกๆคนพอใจก็คงเป็นไปไม่ได้ กรรมการก็เป็นมนุษย์มีชีวิตจิตใจเหมือนเช่นเราๆ
เราคิดเห็นอะไรในแบบเราซึ่งบางทีมันอาจจะผิดหรือถูกก็มี ก็เช่นเดียวกับกรรมการ
เขาก็มีความคิดในแบบเขาซึ่งคิดว่าเขาคงไตร่ตรองเป็นหลายๆรอบอย่างรอบคอบแล้วถึงได้ตัดสินแบบนั้น และกรรมการเขาก็คงจะต้องพิจารณาถึงจิตใจคนดูแล้วว่าหากตัดสินแบบนั้นคนจะคิดยังไง? เขาเป็นกรรมการเขาคงพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและพยายามเป็นกลางให้มากที่สุดแล้ว เพียงแต่ว่า คนดูมีหลายหลากความเห็น ก็อาจจะต้องมีถกเถียงกันบ้าง
ผมเช่นกัน ไม่ได้เข้าข้างใครหรอกครับ
ทีม “ไฮไลท์”กับ “น้องจึ๋ง” ทั้งสองทีมนี้ก็มีความสามารถมาก
น้องจึ๋งผมก็เชียร์ เพราะเห็นว่า ในรอบสองน้องเขาทำได้ดีทีเดียวและการแสดงก็ตื่นเต้นมากชมแล้วสนุก และในเมื่อน้องจึ๋งแพ้ตกรอบก็ได้แต่เสียดายแต่ก็ยอมรับการตัดสินของกรรมการว่าเหมาะสม
ส่วน “ไฮไลท์” ผมก็เชียร์ และหวังว่าในเมื่อพวกคุณชนะแบบค้านสายตาคนดูแล้ว
ในรอบนี้ อยากให้พวกคุณอย่าได้คิดมาก จงตั้งใจทำโชว์ให้สุดความสามารถ
และก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่พวกคุณจะได้แสดงให้ทุกคนเห็นว่า พวกคุณเข้ารอบด้วยฝีมือจริงๆ
โดยการฝึกซ้อมและแสดงโชว์ให้มันสนุกกว่าที่ผ่านมา เอาทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมี โปะลงในโชว์นี้ให้หมดตัก! คัดเอาแต่สุดยอดเข้ามาไว้ในโชว์นี้ซะ อันไหนไม่เข้าท่า ตัดมันออก
หากจะแพ้ละก็ จงแพ้แบบไม่ค้างคาสายตาคนดูนะครับเอาความศรัทธากลับคืนมาให้ได้
แล้วพวกคุณจะลงเวทีอย่างผู้ชนะใจคนดูแน่นอน!
ก็สรุปนะครับว่า ไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ปีนี้ซึ่งเป็นซีซั่นห้า
ผู้ชนะ และแสดงได้ถูกใจคนดูมากที่สุด ผมคาดว่า
เศรษฐีสิบล้านวันอาทิตย์นี้ จะเป็นเด็กครับ!
ความคิดเห็น