คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 คุณชายรองตระกูลหลาน
บทที่ 2 คุณชายรองตระกูลหลาน
---------------------------------------
เข้าเช้าวันใหม่ ฟ่านซิงใช้เวลาอยู่นานถึงจะทำการลุกออกจากเตียงมาได้
ก็ที่นี่มันไม่มีนาฬิกาปลุกนี่นา ตื่นเช้าจัดๆมันก็ต้องมีเคลิ้มๆกันมั้ง
เมื่อตื่นมาก็ต้องทำกายบริหารอย่างน้อย5กระบวนท่า เพื่อไม่ให้ร่างกายแข็งจนเกินไป มาคิดๆดูการเล่นยิมนาสติกของเธออาจมีประโยชน์ในการต่อสู้ไม่มากก็น้อย ถือเป็นการกลบจุดด้อยด้านพละกำลังของเธอไป
แต่ด้วยปกติฟ่านซิงจะเป็นคนนอนตื่นสายเอามากๆเช้าสุดก็ปาไป9โมงกว่าๆแล้ว จู่ๆมาตื่นเช้าแบบนี้เลย...
ZzZzZz
ฟี้...ฟี้...
"ฟ่...น ซื...ย"
"อืม~"
"ฟ่าน-ซือ-เยว่!"
ปึง!
!!!
เสียงตบโต๊ะดังเข้าโสตประสาททำให้ฟ่านซิงที่ฟุบหลับฝันหวานอยู่ต้องสะดุ้งโหยง ก่อนตวัดตามองบุคคลที่มารบกวนเวลานอนของเธออย่างหงุดหงิด
"อุ้ย"
อารมณ์คุกรุ่นที่มีต่ออีกฝ่ายมลายหายไปพลัน เมื่อสบเข้ากับใบหน้าทะมึนของท่านอาจารย์หลานเข้าเต็มๆตา
ฟ่านซิงส่งยิ้มหวานกลบเกลื่อน มือบางรวบจัดผมเผ้ารุงรังให้กลับมาเรียบร้อย
"ทุกคนในที่นี้กำลังตั้งมั่นในการเล่าเรียน แต่กลับมีคนมาฟุบหลับ เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น"
อาจารย์หลานกล่าวเสียงเรียบนิ่งเดินกลับไปยืนหน้าห้องโถงสายตามองเธออย่างตำหนิ
แม่นางฟ่านแห่งมู่อันแสร้งยิ้มขัดเขิน เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะจากศิษย์คนอื่นๆ
ไม่รู้หรอกว่าที่หัวเราะเพราะเอ็นดูหรือหัวเราะความผิดของเธอในตอนนี้กันแน่==
"ฮึ!"
เสียงกระแอมจากท่านอาจารย์ทำให้บุรุษเหล่านั้นเงียบลงไปได้ ก่อนจะหันมาสบกับเด็กสาวตระกูลฟ่านอีกครั้ง
"ถ้าเจ้ามีเวลามาหลับในเวลาเรียนเช่นนี้ งั้นช่วยตอบข้ามาซักหน่อยว่ากฎสกุลหลานนั้นมีความสำคัญอย่างไร?"ฝ่ายผู้เป็นอาจารย์กล่าวก่อนเผยรอยยิ้มเหี้ยมออกมาทั้งที่ยังมีออร่าของผู้อาวุโสชั้นสูงอยู่
ดูเป็นคำถามดาษดื่นที่ผู้คนต้องรู้(มั้ง)แต่กลับเธอแล้ว
สวรรค์เถอะ...
จะให้ตอบยังไงในเมื่อตลอดเวลาเรียนนั้นเธอไม่ได้ฟังสิ่งที่ท่านอาจารย์สอนเลยแม้แต่นิด แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาตอบคำถามได้เล่า!?
แต่จะไม่ตอบมันก็ยังไงๆอยู่นะ ฟ่านซิงใช้นิ้วม้วนผมตัวเองเล่น ตอบเสียงอืดอาด
"เอ่อ...เพื่อให้ผู้คนรู้ว่าบรรพบุรุษของสกุลหลานเป็น...สังฆาราม?"
"เจ้าตอบไม่ตรงกับสิ่งที่ข้าถาม"
"เพื่อ...ให้ผู้คนรู้ว่าคัมภีร์กฎสกุลหลานมีความยาวกว่า1จิ้ง*หรือ"จบคำนางก็เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมา แต่ก็ต้องหุบปากฉับเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงอารมณ์ของผู้เป็นอาจารย์
"เจ้าเห็นเป็นเรื่องเล่นๆเหรอ!!"
ปึง!
เสียงตบโต๊ะดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีอารมณ์โทสะของท่านอาจารย์ผสมอยู่ด้วยเกือบเก้าส่วน
และสุดท้ายนางก็ถูกไล่ตะเพิดออกมาพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักของศิษย์คนอื่นๆตามหลังมาไม่ขาด
บทลงโทษของคนที่ไม่ให้ความสำคัญกับกฎสกุลหลานคือนางต้องไปคัดกฎสกุลหลานมา3จบ เวลาจำกัดเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น ตัวฟ่านซิงแทบร่ำไห้น้ำตานองออกมาเป็นสายเลือด
ท่านอาจารย์โปรดเมตตาศิษย์ด้วยTT
ณ หอตำราสกุลหลาน
มิต้องสงสัยเลยว่าทำไมล่วงเลยว่าเข้ายามอู่แล้วเธอถึงพึ่งมาถึงหอตำราสกุลหลาน
นั่นก็เพราะฟ่านซิงนั้นได้กระทำการอุกอาจคิดฝ่าฝืนคำสั่งของท่านอาจารย์โดยการหนีไปนั่งเล่นที่น้ำตกหลังภูเขาซึ่งห่างไกลจากผู้คนนัก แต่มิรู้ทำไม'อีกฝ่าย'ถึงหาตัวเธอเจอได้
ฟ่านซิงหรือฟ่านซือเยว่เหล่มองบุรุษตรงหน้าอย่างสลดใจ ท่านอาจารย์เล่นนางแล้วไงล่ะ ส่งใครมาคุมไม่ส่งแต่ดันส่ง'หลานฉี่เหริน'คุณชายรองสกุลหลานมาคุมเสียนี่
ทวงท่าสง่างามดุจเทพเซียนลงมาจุติ แต่กลับรู้สึกถึงกำแพงที่ขวางกั้นอีกฝ่ายไว้ราวกับอยู่คนละโลก
นี่มันหลานวั่งจีเวอร์ชั่นไว้หนวดไว้เคราชัดๆ!
"นี่คุณชายหลาน ท่านจะรักษาระยะห่างเกินไปหรือไม่ ตอนนี้แม้แต่ใบหน้าของท่าน ข้าก็แทบมองไม่เห็นแล้ว"เธอเอ่ยหยอกเย้าอีกฝ่ายที่นั่งห่างจากเธอเป็นวาเพื่อไม่ให้เขาและเธอดูใกล้ชิดกันเกินงามตามกฎสกุลหลานข้อไหนก็มิอาจทราบ
อีกฝ่ายตวัดตามองควับดูไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน ก่อนจะเอ่ยตอบกลับมาเสียงต่ำ
"บุรุษมิควรเข้าใกล้สตรีจนเกินงาม"
"แต่-"
"สตรีที่ดีมิควรเอ่ยวาจาเกินพอดี"
อืม~=)-(=
ลมจำนวนนึงถูกนำมารวมกันอยู่ในแก้มเนียนของเธอจนกลมป่อง เพราะอีกฝ่ายไม่ปล่อยให้พูดจบก็สวนคำสั่งสอนมาให้ถึง2ข้อ
รูปงามแค่ไหน แต่แบบนี้สตรีก็มิโปรดกันหรอกนะคุณชายหลาน...
ลอบคิดอยู่ในใจ
จากที่มองแล้วคุณชายรองสกุลหลาน 'หลานฉี่เหริน' นั้นนับว่าเป็นบุรุษที่รูปงามคนนึงเลยเชียว ทั้งผิวพรรณเรียบสวยหรือโครงหน้าที่เรียวคมนั่นล้วนมีเสน่ห์ชนิดสตรีใดสบตาก็ยากที่จะไม่ให้ใจสั่นได้ ติดอยู่(หลาย)อย่างตรงที่เขาเป็นคนที่เคร่งขรึมชนิดไม่น่าคบค้าสมาคมด้วยหรือจะคิ้วคมได้รูปที่ขมวดอยู่ตลอดเวลานั่นก็ดี
อย่างหนักที่สุดก็คือเคราแพะที่ไม่รู้อีกฝ่ายจะปลูกไว้ทำไมนี่แหละ
ท่านทำให้ตัวเองดูเสียของมากเลยนะคุณชาย...
ฟ่านซิงไม่คิดจะเสวนากับอีกฝ่ายต่อ เพราะยิ่งพูดจ้อแค่ไหน บรรยากาศภายในห้องสมุดแห่งนี้ดูจะต่ำลงเรือยๆตามอารมณ์ของคุณชายหลานฉี่เหริน
จนตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายเริ่มจะต่ำลงตามไปด้วยอย่างไม่รู้สาเหตุ
คิดแบบนั้นแล้วเธอก็เอื้อมหยิบเอากระดาษมาปึกหนึ่งกับพู่กันมาเพื่อเริ่มคัดกฎสกุลหลานให้เสร็จๆไปเสีย
ฟึบๆ
ปลายพู่กันตวัดไปมาเป็นตัวอักษรสระสวย หลานฉี่เหรินที่ลอบมองอยู่ห่างๆก็ต้องเอ่ยชมในใจ ถึงแม่นางฟ่านจะมีพฤติกรรมไม่สมสตรีสักเท่าไร แต่ก็ยังมีความละเอียดอ่อนอยู่บ้าง ทำให้คุณชายหลานที่ตอนแรกดูจะมีทิฐิกับนางนั้นยอมเปิดใจขึ้นมานิดหน่อย...
ปึก!
"อ๊ะ!?"
นิดหน่อยจริงๆ...
หลานฉี่เหรินมองชายเสื้อสีขาวสะอาดของตน ซึ่งตอนนี่เปอะเปื้อนไปด้วยน้ำหมึกสีดำที่ไหลย้อยลงมาจากโต๊ะ และเป็นเธอเองนี่แหละที่เป็นคนปัดมือไปชนมันจนหกเองกับมือ
ในตอนนี้แม่นางตระกูลฟ่านรู้สึกได้ถึงสายตาเย็นเหยียบของอีกฝ่ายที่กำลังมองมาอย่างกินเลือดกินเนื้อ
"แฮะๆ^^;"
เค้าไม่ได้ตั้งใจน่า
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่นางถูกไล่ตะเพิดออกมาจากหอตำราสกุลหลานให้ไปคัดที่เรือนของตนแทน
แต่ด้วยอีโก้ที่สูงเทียบเท้าหอไอเฟลของเธอ
หนีเลยแล้วกัน==
ตอนนี้ฟ่านซิงได้หนีมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ข้างสระบัวเพียงลำพัง
"อย่าเห็นฉันเป็นสนามอารมณ์~"
นี่ก็จะเข้ายามเซิน(15.00 น.-16.59 น.)แล้ว กฎที่ต้องคัดก็ยังไปไม่ถึงไหน หากไม่เสร็จภายในหนึ่งเดือนมีหวังชะตาชีวิตเธอจะไม่สงบเสียแล้ว
แค่เหตุการณ์ในวันนี้ก็น่าจะกลายเป็นที่จับตาของท่านอาจารย์หลานแล้วล่ะ...
แต่นี้ไปสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี...มั้ง ถ้าทำได้ล่ะนะ=.=
เอาจริงๆไอ้การรักษากฎ3000พันข้อมันก็ไม่น่าทำได้อยู่แล้วป่ะ? นอกเสียจากว่าจะเป็นหุ่นที่ถูกตั้งโปรแกรมมาแล้วน่ะ
แต่พอคิดๆไป
"หลานฉี่เหรินกับหยกคู่สกุลหลานก็ทำได้นี่หว่า"
ล้มตัวลงนอนกับพื้นหญ้า กลิ่นอายจากธรรมชาติทำให้ความคิดฟุ้งซ่านในจิตใจเธอเริ่มเบาลงบ้าง
อยากนอนจัง...
ไม่คิดให้เปลืองพื้นที่ในสมอง ฟ่านซิงหลับตาลงก่อนเข้าสู่ห้วงนิทราในทันที สายวาโยอ่อนๆพัดมาประปรายทำให้อากาศโดยรอบตัวเธอไม่ร้อนอบอ้าว
จากเดิมเขาเร้นเมฆาก็ไม่ได้มีสภาพอากาศที่ชวนอบอ้าวอยู่แล้วด้วย
แล้วใครจะไปคิดล่ะว่าแค่งีบหลับเฉยๆพอรู้สึกตัวอีกทีเวลาก็ล้วงเลยเข้ายามจื่อ(23.00 น.-24-59 น.)ไปซะแล้ว
ฟ่านซิงเอ้ย นี่งีบหลับหรือซ้อมตายกันหน่อ...
ถ้าจะเดินกลับเรือนยามนี้ต้องผิดกฎแน่ๆ ผิดกฎเต็มๆเลย เธอไม่อยากโดนลงโทษเพิ่มไปหรอกนะ!
คิดได้ดังนั้นปฎิบัติการลักลอบเข้าเรือนจึงเริ่มขึ้น คุณหนูตระกูลฟ่านคลานลัดเลาะไปตามพุ่มไม้ริมทาง
ถ้าสามารถแปลงกายเป็นเจ้าก้อนกระต่ายขนปุยได้ เชื่อเถอะทำไปแล้ว
แล้วด้วยความเพียรพยายามของฟ่านซือเยว่ ทำให้เธอสามารถลอบเข้ามาได้จนถึงหน้าเรือนรับรองของตนโดยไม่มีใครมาพบเข้า แหงล่ะ ยามนี้ศิษย์สกุลหลานทั้งหลายคงปิดไฟเข้าเรือนนอนกันไปหมดแล้ว คงไม่มีใครอยู่เฝ้ายามจนดึกดื่นปานนี้หรอ-
!?
ถึงกับชะงักกึก เมื่อพบเข้ากับปรายรองเท้าสีขาวสะอาดตาของคนตระกูลหลานเข้า
"อุ๊ปส์~"
"..."ขมวดคิ้ว
ฟ่านซิงดีดตัวขึ้นจากพื้น พร้อมปัดๆตบๆเศษหญ้าที่ติดอยู่ตามตัวออก ก่อนยิ้มแหยะๆไปทางของดวงตาคมดุนั่น
"แฮะๆคุณชายรองหลาน~มิทราบว่าท่านมายืนหน้าเรือนรับรองข้าทำไมรึ? แล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
คนถูกถามทำเพียงปรายตามองเธอ ก่อนริมฝีปากเรียวเป็นกระจับนั่นจะเอ่ยออกมา
"ข้ามาจับคนเข้าเรือนหลังเวลา และตังแต่เมื่อไหร่...ก็ตั้งแต่ที่เจ้าเริ่มเอนหลังนอนนั่นแหละแม่นางฟ่าน"
สะบัดชายเสื้อแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงสตรีนางหนึ่งที่ยืนนิ่งค้างอยู่หน้าเรือน โดยเข่าแทบทรุดมันเสียตรงนั้น
ค่ะ...
และในวันนั้นฟ่านซือเยว่คนดีก็ได้คัดกฎเพิ่มอีก3จบ
รวมแล้วเป็น6จบภายในหนึ่งเดือน
มือจ๋า...ฉันขอลาก่อน
---------------------------------------
#ฟ่านซิงหนีเก่ง~
#งานนี้มีมือหงิกกันไปข้างแน่ฟ่านซิงเอ้ย
#คุณชายรองฉี่เหรินนี่แบบร่างหลานวั่งจีชัดๆเหมือนกันเด๊ะ ยืนยันจากปากฟ่านซิงเอง
#อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจกันด้วยน่า~
ความคิดเห็น