คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : CHAPTER 15 ## L(ast)-D(ay)-In-T(hai)
วันนี้เป็นวันที่เซฮุนต้องเดินทางกลับเกาหลีแล้วแต่ดูเขาจะไม่อยากกลับเลย
“ตัวเอง!!! เสร็จรึยัง เดี๋ยวสายนะ” ผมตะโกนเรียกเซฮุนที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องนอน
“เสร็จแล้ว มาแล้วๆ” เซฮุนเดินออกมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพร้อมกับติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอีกสองสามเม็ด
“มากินข้าวกันๆ” ผมเรียกเซฮุนที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่หน้าห้อง ให้เดินมาที่โต๊ะอาหาร
วันนี้ผมตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อมาทำข้าวต้มกุ้งให้เซฮุน นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผมโชว์ฝีมือทำอาหารให้เซฮุนกิน
ข้าวต้มกุ้งร้อนๆ ที่มีกุ้งตัวใหญ่เรียงอยู่ในชาม โรยหน้าด้วยผักชีต้นหอมแล้วก็กระเทียมเจียวสำหรับสองที่วางอยู่ตรงข้ามกัน ผมนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเซฮุนเดินมานั่งลงตรงข้ามผม
“รีบกินสิเดี๋ยวเย็นหมดนะ” ผมบอกเซฮุนที่ยังคงทำหน้ามุ่ยอยู่ เขาตักข้าวต้มใส่ปากไปหนึ่งคำแต่ก็ยังคงทำหน้ามุ่ยอยู่ดี
“ไม่อร่อยหรอ?”
“เค้าไม่อยากกลับเลยอะตัวเอง” ตอนนี้หน้าของเขาดูเศร้าไปกว่าเดิมซะอีก
“เค้ารู้ว่าเวลาแบบนี้มันมีน้อยแล้วมันก็กำลังจะหมดลง” เซฮุนเอาแต่มองหน้าผม ผมก็เหมือนกัน เรามองหน้ากันเหมือนกับต้องการซึมซับเวลาที่อยู่ด้วยกันและที่มีความสุขแบบนี้ให้ได้นานที่สุด
ผมเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากเซฮุนหรอก ผมนอนคิดเรื่องนี้ตลอดทั้งคืน นอนจ้องหน้าเขาขณะหลับอยู่อย่างนั้น ผมรู้ว่าเวลาของเรามันน้อยลงทุกๆนาที
ผมยิ้มบางๆให้เซฮุน แล้วเอื้อมมือผมไปวางบนมือของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ใช่ว่าเราสองคนจะไม่มีเวลาอย่างนี้อีกสักหน่อยนิ”
“มันก็คงจะอีกนานอ่ากว่าเค้าจะมาประเทศไทยอีก เค้าคิดถึงตัวเองแย่เลย” เซฮุนทำหน้าอ้อนใส่ผม
“เดี๋ยวไว้ถ้าทุกอย่างที่นี่ลงตัวแล้ว เค้าจะไปหาตัวเอง” ผมยิ้มบางๆไปให้เขา
“จริงๆนะตัวเอง!!” เซฮุนพูดอย่างตื่นเต้น เขายิ้มออกมาแล้ว
“แต่ตัวเองต้องเลี้ยงเค้านะ ครั้งนี้เค้าเรียกตัวเองไปแล้ว”
“ได้เลยตัวเอง ตกลงๆ”
“รีบๆกินเถอะ เดี๋ยวสายจะตกเครื่องกันพอดี”
“ก็ดีเหมือนกัน เค้าไม่อยากกลับเท่าไหร่” เซฮุนพูดขณะที่ข้าวต้มยังคงเต็มปากเขาอยู่
ผมหัวเราะกับท่าทางของเขา ทำไมเวลาดีๆแบบนี้มันน้อยเหลือเกิน...
ตอนนี้ผมกับเซฮุนนั่งอยู่บนแท็กซี่มุ่งหน้าไปสนามบิน ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาหลายวันมานี่มันไม่เหนื่อยเลยที่ต้องหลบๆซ่อนๆคนอื่น ถ้าแลกมาด้วยความสุขที่ผมได้รับอยู่ตอนนี้
ระหว่างที่ผมกำลังคิดนู้นคิดนี่ไปเรื่อยมีมือหนามาจับมือผมเอาไว้ เจ้าของมือนั้นยิ้มกว้างมาให้ผม ผมรู้ว่าเขาทำแบบนี้เพราะตั้งแต่ที่นั่งรถออกมาจากคอนโด เราก็ไม่ได้คุยกันเลยก็เป็นเพราะมีคนขับรถอยู่ด้วย อีกอย่างผมเห็นเขามองเซฮุนตั้งแต่เดินขึ้นรถมาผมกลัวว่าเขาจะจำเซฮุนได้
การจับมือกันแบบนี้เหมือนได้ถ่ายทอดความรู้สึกถึงกันโดยไม่ต้องใช้คำพูดอะไร มันสัมผัสถึงกันได้จริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อแท็กซี่ขับเข้ามาในเขตของสนามบิน ผมตัดสินใจให้คนขับรถก่อนที่จะถึงทางเข้าสนามบินนิดหน่อย
“ตัวเองจะไปไหน?” เซฮุนคว้ามือผมไว้ตอนที่ผมกำลังจะเปิดประตูออก
“ฉันจะลงตรงนี้ ฉันบอกให้คนขับไปส่งนายที่ประตูที่เมมเบอร์คนอื่นๆอยู่แล้ว เดี๋ยวมีคนมาเห็นเราอยู่ด้วยกันจะแย่” พูดจบผมเดินลงไป
“ฉันรออยู่ข้างในแน่นอน ไม่หนีไปหรอก” ผมพูดก่อนที่จะปิดประตู
ผมมองรถแล่นไปจนสุดสายตาแล้วผมก็เดินเข้าไปภายในสนามบิน
ผมมองเห็นคนกลุ่มใหญ่คิดว่าน่าจะเป็นแฟนคลับที่มาส่งวงเซฮุน เมื่อผมมองเข้าไปในคนกลุ่มนั้นคำพูดของคนในงานปาร์ตี้วันนี้ดังก้องในหัวของผมอีกครั้ง เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ ทั้งกังวล ทั้งรู้สึกแย่ ถ้าคนกลุ่มนี้ที่ผมกำลังมองอยู่เขารู้ว่าผมกับเซฮุนเป็นอะไรกันแล้วเขาจะรู้สึกยังไง? จะเสียใจหรือผิดหวังในตัวเซฮุนรึป่าว? จะส่งผมเสียให้เซฮุนรึป่าว? คำถามนับสิบวิ่งอยู่ในหัวผม
เท้าของผมค่อยๆก้าวถอยหลังช้าๆ หรือว่าผมไม่ควรอยู่ที่นี่?
ผมก็ยังคงตัดสินใจเดินเข้าไปในสนามบิน เวลาของเราเหลือน้อยแล้ว ผมจะไม่ปล่อยให้มันเสียเปล่าแน่นอน เนื่องจากผมไม่อยากไปเบียดกับแฟนคลับคนอื่นๆ ผมจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของร้านกาแฟยี่ห้อดัง นั่งชิดกระจกที่สามารถมองลงไปเห็นข้างล่างได้ชัดเจน แค่ผมได้เห็นเขาไกลๆจากตรงนี้ก็พอแล้ว
ดูเหมือนตอนนี้จะมีแฟนคลับมามากขึ้นเรื่อยๆเพราะมันใกล้จะถึงเวลาที่พวกเขาจะขึ้นเครื่องกันแล้ว ผมก้มหน้าเล่นโทรศัพท์รอเซฮุนไปพลางๆ แต่อยู่ๆก็มีคนเอากาแฟมาวางอยู่ตรงหน้าผม แต่ว่าผมไม่ได้สั่งนะ..
“ผมไม่ได้สั่งนะครับ” ผมเงยหน้าไปมองคนที่เอาแก้วมาวาง
“แต่พี่สั่งให้” ชายร่างสูงหุ่นดี จมูกโด่งเป็นสัน ผิวขาว เสื้อเชิ้ตสีขาวมีเข็มติดที่อก กางเกงสีดำ ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มืออีกข้างนึงถือแก้วกาแฟ เขายิ้มมาให้ผม
“พี่เตอร์!!” ผมอุทานแล้วยืนขึ้นทันที หลังจากที่คิดอยู่นาน
(‘พี่เตอร์’ เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนสมัยมัธยมของผมเอง บ้านเขาก็ทำกิจการการส่งออกคล้ายๆกับผมเนี่ยแหละแต่เป็นทางด้านอื่นดังนั้นครอบครัวของผมจึงรู้จักดี)
“ก็ใช่หน่ะสิ พี่ทั้งคนทำไมต้องคิดนาน” พี่เตอร์วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ แล้วดึงผมเข้าไปกอด
“กอดทีสิไอ้น้องรัก คิดถึงวะ ไม่เจอกันนานเลย” ผมก็ตอบพี่เขาแบบงงๆ
ตอนนี้ผมอยู่กับเหล่าเมมเบอร์ทั้งหมด พวกเรากำลังจะเดินเข้าสนามบินแล้ว
“ลู่หานฮยองอยู่ไหนเนี่ย?” ผมมองสอดส่ายไปทั่ว เหมือนกับวันที่ผมมาถึงที่นี่วันแรกไม่มีผิด
“อยู่ข้างไหนอ่าแหละ เห็นลิตเติ้ลฮยองบอกว่าจะไปเจอลู่หานฮยองข้างใน ป่านนี้คงจะเจอกันแล้วแหละ” ชานยอลฮยองหันมาบอกผม
“ไปกันได้แล้วๆ! ”ซูโฮฮยองหันมาบอกพวกผม
ผมเดินเข้ามาภายในสนามบินพร้อมกับพวกฮยอง แฟนคลับมาส่งเราเยอะเหมือนเดิม ตอนนี้พวกเราโดนรุมไปด้วยแฟนคลับ คยองซูฮยองเหมือนโดดดูดหายไปเลย ถ้าไม่มีจงอินอยู่ด้วยคงจะหลงเข้าไปในกลุ่มแฟนคลับแน่ๆ
ผมมองไปรอบๆเพื่อหาคนๆเดิม แต่ผมหาเขาไม่เจออีกแล้ว ไปไหนหน่ะ? หรือจะโดดดูดไปเหมือนกับคยองซูฮยองตัวยิ่งเล็กๆอยู่หรือจะโดดฉุดไปแล้วยิ่งสวยๆอยู่ด้วย(?) ผมคิดนู้นคิดนี่ไปเรื่อย ผมเริ่มมองไปที่ชั้นอื่นๆของสนามบิน เหมือนโลกของผมหยุดหมุน ผมเห็นลู่หานฮยองกำลังกอดกับใครบางคนอยู่ แค่ผมเห็นแค่ข้างหลังเขาก็รู้แล้ว แถมผู้ชายคนนั้นดูดีใช้ได้ ยังกับนายแบบอะไรอย่างนั้น
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“มาแล้ว” ผมรีบหันมองออกไปนอกกระจกร้านกาแฟที่ผมยืนอยู่
“เห้ย! ไม่ทันแล้วเขาไปแล้ว” ผมเห็นกลุ่มคนเคลื่อนผ่านสายตาผมไปจนสุดสายตา ผมถอนหายใจยาวออกมา ผมคงหมดหวังที่จะเจอเขาก่อนกลับเกาหลีแล้ว
“เป็นอะไรรึป่าว?” พี่เตอร์หันมาถามผม ขณะที่หลอดกาแฟยังคงคาอยู่ที่ปาก
“อ่อ....ป่าวครับ”
เวลาของผมหมดแล้ว ช่วงเวลาสุดท้ายที่ผมหวังว่ามันจะมีค่าที่สุด มันหายไปแล้ว....
ความคิดเห็น