ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bleach : The Happened [Ichigo x Rukia]

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 7 : Side By Side เคียงข้างกัน

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 54


     

     


       ลูเคียตัวแข็งทื่อทันที่ที่ถูกอิจิโกะสวมกอดแน่น เมื่อได้สติว่าตัวเองกำลังทำอะไรจึงรีบผลักร่างสูงออกไปจากตัวแทบจะทันที

     

       “เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าน่ะอิจิโกะ!!

     

       “ลูเคีย...” อิจิโกะคราวชื่อเธอเบาๆ เขาตั้งใจจะบอกทุกความรู้สึกที่มีอยู่แล้วเชียว ติดที่ว่าสายตาของลูเคียที่จ้องมองตรงมายังเขานั้นดูไม่สู้ดีนัก

     

       ราวกับว่าเธอกำลังกลัวบางอย่างในตัวของเขา และ...ตัวของตัวเอง

     

       “คือ...เอ่อ...ฉัน” อิจิโกะไปไม่ถูก เขาหลบสายตาลูเคียก่อนจะหันหลังและวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

     

       ลูเคียมองตามหลังอิจิโกะไปอย่างไม่เข้าใจในการกระทำทุกอย่างของเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเขาถึงได้กอดเธอ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงจ้องมองเธอด้วยสายตาแบบนั้น และ...ไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจของเธอถึงต้องเต้นตึกตักไปกับอ้อมกอดที่แข็งแกร่งของเขา  

     

       ครั้นอยากจะตามไปถามให้รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู แต่ขาเธอกลับก้าวไม่ออก ลูเคียกุมขมับตัวเองก่อนจะบีบมันเบาๆ ริมฝีปากบางขยับคำพูดที่แม้แต่ตัวเองยังยากที่จะเข้าใจมัน “นี่มันเกิดอะไรขึ้นนะ...อิจิ...”

     

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น...

     

       กลิ่นหอมหวานลอยมาแตะที่จมูกของร่างบาง ปลุกให้เธอตื่นขึ้นมาโดยเร็ว พอลูเคียได้กลิ่นอาหารเช้าแล้วเธอจึงรีบหันซ้ายหันขวามองหาต้นเหตุของกลิ่นหอมยามเช้านี้ทันที และพบว่ามันมาจากข้างนอกระเบียงของโรงแรมริมหาดที่เธอพักอยู่

     

        บาร์บีคิว!

     

        เธอรู้ทันทีทันใด ลูเคียรีบเปิดประตูกระจกออกไป พบว่าอิจิโกะกำลังย่างบาร์บีคิวอยู่จริงๆ (ที่พักของพวกอิจิลูจะเป็นคล้ายๆบ้านพักอย่างนี้มากกว่า เลยมีระเบียงกว้างๆค่ะ จะเรียกว่าโรงแรมก็ไม่ถูก แต่มันเป็นโรงแรมจริงๆนะ =_=;; เรียกว่าบังกะโลคงได้มั้งคะ)

     

       “อิจิ...” ลูเคียพยายามเปล่งเสียงเรียก แต่เรื่องเมื่อคืนทำให้เธอไม่กล้าที่จะเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเต็มสตรีมเช่นเดียวกับทุกครั้ง

     

       อิจิโกะรู้สึกได้ถึงแรงดันวิญญาณของเธอ เขาหันมาก่อนจะตีหน้ายุ่งใส่ “ตื่นสายเชียวนะเธอ”

     

       “อิจิโกะ...เมื่อคืน” ลูเคียกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆก่อนจะเปล่งเสียงถามเต็มๆอีกครั้ง “เมื่อคืนเจ้ากอดข้าทำไม”

     

       “กอด?...นี่เธอพูดถึงเรื่องอะไรกันฮะ ฝันเหรอ หรือเพ้อ? ใครจะกอดเธอลงกัน”

     

       “ฮะ...หา??” ลูเคียตีหน้างงเป็นไก่ตาแตก “ก็เมื่อคืนเจ้า...แบบว่า กอดข้าหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ”

     

       “เมื่อคืนพอออกจากห้องน้ำมาเธอก็หลับไปแล้ว ฉันเลยย้ายไปนอนบนโซฟา” อิจิโกะอธิบายให้เธอชัดแจ่มแจ้ง “ตกลงเธอเพ้อบ้าบออะไรกันฟะ”

     

       “...” ลูเคียถึงกับนิ่งไป

     

       เธอใช้มือเคาะหัวตัวเองเบาๆก่อนจะพึมพำออกมากับตัวเอง “ข้าเป็นบ้าไปแล้วรึไงถึงได้ฝันแบบนั้น”

     

       ทว่าพอรู้ว่าทุกอย่างเป็นความฝัน สีหน้าที่เคยหวั่นเกรงและวิตกกังวลนั้นก็กลับมาสดใสอีกครั้ง เธอรู้สึกโล่งอกที่ทุกอย่างนั้นยังคงปกติ ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่กับอิจิโกะ...

     

       มือที่กำลังย่างบาร์บีคิวนั้นหยุดนิ่ง เขาเหลือบมองสีหน้าของคนตัวเล็กที่กำลังหมุนตัวกลับเข้าห้องนอน อิจิโกะถอนหายใจเล็กน้อย เขาไม่ได้รู้สึกโล่งอกขึ้นเลยสักนิด เขาโกหกเธอว่าทุกอย่างนั้นคือความฝัน ทั้งที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริง..ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เขายิ่งอยากกอดเธออีกครั้ง อยากจุมพิตเธอ และอยาก...มากกว่านั้น แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เธอยังคงเย็นชากับเขา เธอยังคงนิ่งต่อท่าทีของเขา ที่เร็นจิพูดมาทั้งหมดคงเป็นแค่เรื่องที่เร็นจิคิดไปเองทั้งนั้น

     

        เธอไม่ได้ชอบเขาเลย...

     

     

     

    สองชั่วโมงต่อมา....

     

       “เอ่อ...ป๋า...=_____=” อิจิโกะตีหน้าเซ็งทันทีที่เดินไปเปิดประตูต้อนรับการมาของครอบครัวคุโรซากิที่เหลือ คารินกับยูซึถือวิสาสะวิ่งเข้าห้องของอิจิโกะพร้อมกับถุงใส่ชุดว่ายน้ำ

     

       “ลูเคียจังมาเล่นน้ำกันเถอะ!” ยูซึชวนทันที

     

       “ได้สิ ข้า...เอ้ย! ฉันเองก็อยากเล่นเหมือนกัน” เธอฉีกยิ้มกว้างเฟคๆแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำกับพวกยูซึ

     

       “โอ้ววววว!! อิจิโกะ เราจะ...จะได้เห็นพวกลูเคียจังใส่ชุดว่ายน้ำในรอบปีเชียวนะเฟ้ยยย >/////< ไม่ตื่นเต้นบ้างรึไงในฐานะที่เป็นลูกชายของฉันน่ะฮะ!! อิชชินทำท่าทางดี๊ด๊าพร้อมจินตนาการภาพของพวกยูซึที่ใส่ชุดว่ายน้ำ... (ลามกจริงอะไรจริง)

     

       “หนวกหูน่าตาแก่ลามก เก็บความคิดนั้นไว้คนเดียวซะเถอะ แล้วอีกอย่างยัยลูเคียไม่ได้เซ็กซี่อย่างที่ป๋าคิดหรอก!

     

       “ฮะ!!~ แกว่าไงนะ! นี่แก...เมื่อคืนแกกับลูเคียจัง >////< แอ๊ฟฟฟฟ!!

     

       ไม่ทันจะพูดจบ อิชชินก็โดนลูกชายเสยคางเต็มเหนี่ยว  

     

       “ยะ...อย่าบ้าน่า ฉันไม่ได้เห็นอะไร ไม่เลยยยสักนิด ถึงเห็นก็ไม่ไหว ไม่อยากดู...แอ๊ฟฟฟ!!  คราวนี้เป็นตาของอิจิโกะที่โดนบ้าง

     

       โดนลูเคียกระโดดถีบจากข้างหลังนั่นเอง เธอถีบเขาทั้งที่ยังใส่ชุดคลุมอยู่

     

        “นินทาอะไรข้าให้มันเบาๆเสียงหน่อยจะได้ไหม!” ลูเคียโกรธจนหน้าแดงก่ำ “แล้วที่ว่าไม่อยากดูน่ะ...หมายความว่าไง มีปัญหาอะไรกับเรือนร่างข้าอย่างนั้นรึ!

     

       “ก็ไม่...” อิจิโกะเตรียมจะโต้กลับ ทว่าเมื่อหันไปมองสีหน้าของพ่อและน้องสาวตัวเองที่ช็อคซีนีม่า เขาถึงกับตีหน้ายุ่งขึ้นมาทันที งานเข้าแล้วสิ...

     

       อิจิโกะรีบกระชากตัวลูเคียเข้ามากระซิบที่ข้างใบหู “ยัยบ้าเอ้ย อย่าพูดให้คนเขาจินตนาการไปลึกๆซิฟะ!

     

       “ช่างสิ ก็ข้าไม่ได้พูดอะไรผิดซักหน่อย” ลูเคียแกล้งอิจิโกะด้วยการพูดเสียงดังๆ ลอยหน้าลอยตาเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร

     

       “โธ่ยัย…!” อิจิโกะทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างเหลืออด แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มมีปากเสียงกันตามเคย

     

     

     

       “คุโรซากิคุง~

     

       ทันทีที่เดินออกมาจากที่พัก เสียงแหลมเล็กของใครบางคนก็ดังเข้าโสตอิจิโกะ เขาเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก และพบว่าทั้งแช้ด อุริว และโอริฮิเมะกำลังตั้งโต๊ะอาหารรอการมาของครอบครัวคุโรซากิและลูเคียอยู่ริมชายหาด

     

       “พวกอิโนะอุเอะก็มาด้วยหรือเนี่ยป๋า” อิจิโกะขมวดคิ้วแล้วหันควับไปถามพ่อที่เดินตามหลัง

     

       “แหมมม มาหลายคนแกจะได้สนุกๆไงล่ะอิจิโกะ ฮ่าๆๆ เป็นไง ความคิดฉันดีซะไม่เมี๊ยยะ”

     

       “วุ่นวายล่ะสิไม่ว่า เฮ้อ...” อิจิโกะถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แต่ในทางกลับกันเขาคิดว่ามีพวกโอริฮิเมะดีเหมือนกัน ลูเคียจะได้มีเพื่อน

     

       อิจิโกะหันไปมองทางลูเคียที่โบกไม้โบกมือให้โอริฮิเมะ เขาระบายยิ้มนิดๆเมื่อเห็นว่าเธอร่าเริงขึ้น ไอ้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน...เขาจะคิดซะว่าฝันไปเองอย่างที่โกหกเธอไว้แล้วกัน

     

       “ไงอิจิโกะ” มองตามลูเคียอยู่นาน ก็ถูกเร็นจิเรียก อิจิโกะมองเร็นจิที่เดินเข้ามาอย่างแปลกใจ

     

       “นายก็มากับเขาด้วยเหรอเร็นจิ”

     

       “ก็เป็นห่วงนายกับยัยนั่นน่ะสิ แล้วเป็นไง...ข้าไม่เห็นว่าพวกแกจะพัฒนากันเลยแฮะ”

     

       “จะพัฒนาได้ไงเล่า ก็ยัยนั่นน่ะเบื้อกจะตาย”

     

       “ฮะๆ มันก็จริงอย่างว่าล่ะนะ ไม่งั้นข้าก็คงได้แอ้มไปก่อนเจ้าแล้ว”

     

       “แกว่าไงนะ” อิจิโกะหันไปทำตาขวางใส่ เร็นจิรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธทันที

     

       “เออๆ ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าเพิ่งโมโหจะได้ไหม”

     

       “เปล่าเฟ้ยย!

     

       “พฤติกรรมันฟ้อง อย่าปฏิเสธซะให้ยากเจ้าบ้า”

     

       ทั้งอิจิโกะและเร็นจิสบตากันพักหนึ่ง...ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนไปมองหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขารัก... ลูเคียกำลังยิ้มสดใสร่าเริงไปกับพวกยูซึ

     

       “สำหรับข้า แค่ได้เห็นลูเคียมีความสุขข้าก็พอใจ...” เร็นจิเปรยขึ้นคนแรก อิจิโกะกระตุกยิ้มที่มุมปาก สายตาของเขาจับจ้องที่เร็นจิอย่างเข้าใจ

     

        “ก็คล้ายๆฉัน” อิจิโกะพูดขึ้นบ้าง “ตอนนี้ไม่ว่ายัยนั่นจะรักชอบใคร ฉันคิดว่าฉันจะไม่สนมันอีกต่อไป” พูดจบเขาก็ยิ้มให้กับตัวเอง แม้ว่าสายตาของเขาที่มองเธอจะเจ็บปวดมากก็ตามที

     

       เร็นจิมองพฤติกรรมของอิจิโกะอย่างไม่เข้าใจ “แกจะบ้าเหรอ ยัยนั่นน่ะชอบ...”

     

       “ไม่หรอก ยัยนั่นแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย” อิจิโกะแทรกขึ้น น้ำเสียงของเขาฟังดูท้อแท้จนน่าใจหาย “เร็นจิ...ฉันไม่สนว่ายัยนั่นจะชอบใคร แต่ฉันชอบยัยนั่น...ขอแค่ยัยนั่นยังอยู่ข้างๆฉัน ไม่ว่าจะในฐานะอะไรฉันคิดว่าฉันคงอยู่ต่อไปได้ แค่มียัยนั่นอยู่ข้างๆ...มันก็พอแล้ว”

     

       เร็นจิข่มตาแน่น ความคิดของอิจิโกะนั้นโง่เต็มทน เขาคิดว่าอิจิโกะจะมีดีกว่านี้ซะอีก ตอนต่อสู้ อิจิโกะมั่นใจในพลังของตัวเองนักหนา แต่พอเอาเข้าจริงๆ เรื่องแบบนี้กลับไม่มีความมั่นใจอะไรเลย

     

       “เฮอะ!แล้วแกจะเสียใจที่คิดอะไรแบบนั้น”

     

    เร็นจิกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะวิ่งไปรวมตัวกับพวกลูเคียที่ริมหาด ทิ้งให้อิจิโกะยืนนิ่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียว....

     

       มันดีแล้ว สำหรับเขามันดีแล้วจริงๆน่ะเหรอ ?

      


    -------------------------------------------------------

    แหม...ทุกคนเร่งไรเตอร์กันเหลือเกิน กลัวลงเยอะๆเดี๋ยวแต่งไม่ทันจะยุ่งนา... 555 
    แต่ไรเตอร์เคยเป็นนักอ่าน เลยเข้าใจ ตอนนี้จะลงให้เร็วหน่อยก็ได้ ^^ 

    มาตอบอะไรของแต่ละคนก่อน...
    คุณ momay นะคะ ^^ 
    อันนี้เห็นด้วยนะคะ 55 55 แต่ อ.คุโบะก็เคยให้สัมภาษณ์อ่ะเนอะ
    ว่าไม่ใช่เพื่อน แต่ก็ไม่ใช่ความรัก มากกว่านั้น เป็นความสัมพันธ์ที่พิเเศษ
    อันนี้ไรเตอร์ไม่เห็นจะเข้าใจเลย = =
    ไรเตอร์จึงสรุปว่าสองคนนี้คือทุกอย่างของกันและกัน พอละ...  




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×