ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bleach : The Happened [Ichigo x Rukia]

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 5 : Who's she love? คนนั้นคือใคร

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 54


     

     

    ในโรงแรม.... ห้อง 409

       อิจิโกะนั่งอ่านนิตยสารเล่มหนึ่งอยู่บนโซฟาอย่างสงบๆ แต่ไม่นานเสียงแว้ดๆของลูเคียก็ดังเข้าโสตเขา ทำให้เขาจะละสายตาจากหน้าหนังสือแล้วหันไปมองเจ้าตัวที่วิ่งโล่เข้ามา

     

       “อิจิโกะ!

     

       สีหน้าของลูเคียเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เดิมทีลูเคียจะเป็นคนนิ่งๆเรียบๆ แต่ถ้าได้เห็นอะไรแปลกใหม่และชอบขึ้นมาใบหน้าของเธอก็จะน่ารักขี้อ้อนเหมือนลูกแมว ยกตัวอย่างเช่นกรณีของกระต่ายแช้ปปี้

     

       “อะไรอีกล่ะ” อิจิโกะถามกลับแล้วอ่านนิตยสารต่ออย่างไม่คิดจะสนใจมาก

     

       “ไปเล่นน้ำทะเลกันเถอะ ข้าเบื่อจะแย่อยู่แล้ว”

     

       “เธอก็ไปเองสิ...”

     

       “บ้าเรอะ เล่นคนเดียวมันจะสนุกได้ไงล่ะเจ้าหน้าโง่!” ลูเคียตะคอกใส่อิจิโกะจนเขาต้องหันมาจ้องเธออีกรอบ

     

       เขาจ้องเธอนิ่งนานๆ และตอกกลับด้วยน้ำเสียงหนักๆ “ไม่ไป” คำตอบสั้นๆง่ายๆของอิจิโกะทำเอาลูเคียต้องมีน้ำโห

     

       “เออได้สิ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป! งั้นข้าไปชวนอาชิโดะก็ได้ไอ้คนไร้น้ำใจ” ลูเคียพูดประชดทั้งที่รู้ว่าอาชิโดะเองก็คงไม่ว่าง เธอทำท่าจะเดินไปจากห้องจริง แต่สายตายังคงเหลือบไปที่อิจิโกะ...

     

        อ้าว...เจ้านี่ไม่คิดจะสนใจข้าจริงๆงั้นเหรอ!

     

       แน่นอนว่าอิจิโกะยังคงนิ่งสงบ เขาไม่สะสนใจสิ่งที่ลูเคียชวนและสิ่งที่เธอบ่นประชดเลยสักนิด คราวนี้ลูเคียกำมือแน่นตาดุแล้ววกตัวกลับเข้าหาอิจิโกะใหม่พร้อมกับกระชากนิตสารในมือของเขาออก

     

       “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้เมินคำพูดข้า หนังสือนี่มันมีอะไรดีนักหนางั้นเหรอฮะ -_-+!

     

       “อ้าว! ก็ฉันขี้เกียจออกไปข้างนอกนี่ ร้อนก็ร้อน เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆคนมันก็อยากพักบ้างสิฟะ -_-

     

        “นั่นไม่ใช่ประเด็น เรื่องมีอยู่ว่า...เจ้ากล้าเมินคำพูดข้า -_-^

     

       “ฉันไม่ได้เมินเฟ้ยยัยบ้า ฉันก็ตอบไปแล้วนี่ว่าไม่ไป ครั้งสุดท้ายเธอบ่นว่าจะไปกับคนอื่นฉันยังได้ยินอยู่เลย แล้วตรงไหนที่เรียกว่าเมินมิทราบยัยเพี้ยน!

     

       “จะยังไงก็ช่าง เมินก็คือเมิน นั่นมันก็เรียกว่าเมินเหมือนกันแหละเจ้าหน้าโง่อิจิโกะ!

     

       “เฮ้ย...เธอตีความหมายยังไงกันแน่ฮะยัยบ้า ฉันบอกแล้วว่าไม่ได้เมิน!” อิจิโกะลุกขึ้นยืนกรานเถียงลูเคียที่เริ่มจะมั่ว

     

       “เมินสิ!

     

       “ไม่ได้เมินเฟ้ย!

     

       “เมิน!

     

       “ไม่ได้เมิน!!

     

       และสิ้นสุดเพียงแค่นั้น ทั้งสองรีบเอามือทาบอกและหอบหายใจแฮ่กๆราวกับจะขาดใจ...ก็เล่นเถียงกันแบบชนิดที่ว่าลืมหายใจกัน จะไม่เหนื่อยได้ไง

     

       “ไร้สาระชะมัด” อิจิโกะสบถแล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง

     

       “เฮอะ!” ลูเคียเองก็ทำเช่นเดียวกัน แล้วเธอก็เดินเชิดออกจากห้องไปอย่างหัวเสีย

     

    ทว่าความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้น อิจิโกะวิ่งออกจากห้องไปทันที เมื่อเห็นหลังไวๆของคนตัวเล็ก เขาก็คว้าไหล่ลูเคียไว้ได้ทันและกระชากเจ้าตัวเข้าหา “เธอช่วยอะไรหน่อย”

     

       “มีอะไร” น้ำเสียงของเธอติดจะงอน แต่อิจิโกะไม่ได้สนใจตรงนั้น เขาสนแต่ว่าเรื่องที่เขากำลังจะบอกกับเธอ

     

       “โทรหาอิโนะอุเอะเดี๋ยวนี้เลยนะ” อิจิโกะว่า ลูเคียจ้องเขาอย่างจับผิด แล้วจู่ๆสายตาที่เต็มไปด้วยความเคืองนั่นก็แปรเปลี่ยนเป็นประกายเจ้าเล่ห์บางอย่าง ลูเคียเหยียดยิ้มนิดๆที่มุมปาก ทำราวกับจะรู้ทัน

     

       “นั่นน่ะ...เจ้าชอบนางงั้นสินะอิจิโกะ”

     

       “ไม่ใช่เฟ้ย!” อิจิโกะรีบปฏิเสธทันควันพร้อมโบกไม้โบกมืออย่างกระตือรือร้น

     

       แต่มันน่าเคืองนัก! ยัยนี่ไม่มีความรู้สึกอะไรกับเขาจริงๆด้วย สีหน้าแบบนั้นกับคำพูดแบบนี้มันแสดงให้เห็นชัดๆแล้วว่ายัยลูเคียไม่ได้คิดอะไรกับเขา...

     

        “ฉันอยากให้เธอเรียกอิโนะอุเอะมาอยู่เป็นเพื่อนต่างหาก หรือเธอจะนอนกับฉันสองคน” อิจิโกะว่า

     

       “ก็นอนได้นี่ ตู้เสื้อผ้าเจ้า ข้าก็นอนมาแล้ว เราก็แค่เปลี่ยนจากตู้เสื้อผ้ากับเตียงเป็นโซฟากับเตียง” ลูเคียร่ายความคิดของตัวเอง อิจิโกะถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างปลงๆ

     

       ลูเคียไม่เคยรู้อะไรเลย ถึงเรื่องความรู้สึกของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงยามกลางคืนในห้องนอน ยิ่งเป็นหญิงสาวที่แอบชอบด้วยแล้วมันก็ยิ่งไปใหญ่ ก่อนหน้านั้นที่ลูเคียอยู่ห้องเขา จริงอยู่ว่าเขาแทบไม่ได้คิดอะไร แต่เป็นเพราะตอนนั้นเขายังไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเธอมากเหมือนตอนนี้ ลูเคียไม่เคยรู้อะไรเลยว่าเขาน่ะ...เปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนที่กลับมาจากโซลโซไซตี้ครั้งที่ไปช่วยเธอมาแล้ว....

     

       “ฉันนอนกับเธอไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราจะนอนแยกกันก็เถอะ” อิจิโกะตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ลูเคียมองเขาอย่างคิดไปชั่วอึดใจนึง...

     

       “ก็ได้...ข้าจะโทรเรียกนาง” ลูเคียพยักหน้ารับอย่างง่าย เธอเข้าใจผิดว่าเพราะอิจิโกะอยากเจอโอริฮิเมะเธอเลยยอมโทรหา ไม่นานนักเสียงปลายสายก็ตอบรับเธอ

     

       “ฮัลโหล คุณคุจิกิ”

     

       “โอ้...อิโนะอุเอะ ข้าแค่อยากโทรมาชวนเจ้าเที่ยวน่ะ” ลูเคียเหลือบมองอิจิโกะ เขารีบพยักเพยิดหน้าบอกสัญญาณให้เธอพูดเรื่องที่ต้องพูด “เอ่อ...ที่เกาะฮอกไกโด ตอนนี้รอบครัวคุโรซากิคงมาไม่ได้แล้วเพราะติดงานกีฬาของน้องสาวอิจิโกะ เจ้าช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนข้าหน่อยได้ไหม”

     

       “เอ๊ะ อยู่กับคุโรซากิคุงสองคนงั้นเหรอ...” น้ำเสียงของโอริฮิเมะฟังดูตกใจเล็กน้อย

     

       “ใช่ กับเจ้าหน้าโง่อิจิโกะนี่แหละ” อิจิโกะถลึงตาใส่ลูเคียนิดๆเมื่อเธอด่าเขาผ่านทางโทรศัพท์กับโอริฮิเมะ

     

       โอริฮิเมะนิ่งไปนานกว่าสิบวิ สักพักเธอก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแสนจะเสียดายและแอบเศร้า “ฉันคงไม่ได้ไปสนุกกับทั้งสองคนหรอกค่ะ ฉันมีรายงานต้องทำกับพวกทัตสึกิจังและก็ทิ้งให้พวกทัตสึกิจังทำคนเดียวไม่ได้ด้วย” 

     

       “งั้นเหรอ งั้นเจ้าไม่ต้องลำบากหรอก ทำงานของเจ้าไปเถอะ”

     

       “คุณคุจิกิไม่เป็นไรนะคะ”

     

       “น่า... ข้าดูแลตัวเองได้ อีกอย่างเจ้าอิจิโกะกับข้าไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้นแหละ เจ้าสบายใจได้” ประโยคหลังๆมาลูเคียต้องพูดเสียงเบาเพื่อให้ไม่ให้อิจิโกะได้ยิน “ไว้กลับไปข้าจะช่วยเจ้าหาทางสารภาพรักกับเจ้านี่ละกัน”

     

       “เอ่อ...คือว่าไม่...”

     

       “โอ้...ข้ามีสายเข้า แค่นี้นะ” แล้วลูเคียก็รีบกดวางทันทีโดยไม่ลืมปิดเครื่อง

     

       อิจิโกะมองลูเคียอย่างงงๆ “ไหนเธอว่ามีสายเข้าไง”

     

       “ก็อ้างไปงั้นแหละ” ลูเคียว่าพร้อมเตรียมจะเดินเลี่ยงอิจิโกะไป 

     

       “ทำไม ดูเหมือนเธอจะมีเรื่องอะไรกับอิโนะอุเอะนะถึงได้รีบวางขนาดนั้น”

     

        ลูเคียชะงักฝีเท้าทันทีที่ได้ยินอิจิโกะพูดแบบนั้น เธอหันกลับมาตอบเสียงหนักว่า “เปล่า ข้าแค่ไม่สบายใจที่จะคุยกับนาง”

     

       “ไม่สบายใจ? ไม่สบายใจเรื่องอะไรล่ะ อิโนะอุเอะเขาไปทำอะไรให้... อุก!” ไม่ทันจะพูดจบ อิจิโกะก็โดนลูเคียเสยคางไปเต็มๆ

     

       “หนวกหู อย่าถามมาก ข้าอารมณ์ไม่ดี ต้องใช้ความคิด!!

     

       ว่าแล้วลูเคียก็วิ่งจากไปทันที อิจิโกะลูบคางตัวเองพลางร้องซี้ด และมองตามหลังไวๆนั้นไปอย่างสงสัยสุดขีด “รอบเดือนไม่มารึไงฟะยัยนั่น ชกมาได้เต็มเหนี่ยวขนาดนี้ ซี้ด....”

     

     

     

       “โอ้...ว่าไงอิจิโกะ” เมื่อเสียงปลายสายตอบรับ อิจิโกะจึงข่มตาแน่น เขาใช้ความพยายามอย่างมากที่ต้องตัดสินใจโทรหาเร็นจิเพื่อให้เขาช่วยลูเคีย ด้วยหารไปเป็นคู่หมั้นให้กับเธอชั่วคราวแทนที่ขุนนางคนอื่นๆที่ลูเคียไม่รู้จัก “เฮ้...เงียบทำไมน่ะ มีอะไรก็พูดมาสิ ข้าไม่ได้ว่างทั้งวันหรอกนะเฟ้ย”

     

       “เอ่อ...จะว่าไงดีล่ะฟะเนี่ย” อิจิโกะเกาหัวแกรกๆ “นายช่วยลูเคียไม่ได้เหรอ”

     

       “ช่วย? ช่วยเรื่องอะไร ลูเคียเป็นอะไรอิจิโกะ!” เสียงเร็นจิที่หน่ายๆฟังดูกระตือรือร้นทันทีที่ได้ยินชื่อของลูเคีย

     

       “ปะ...เปล่าเฟ้ย ฉันหมายถึง....คู่หมั้นน่ะ”

     

       อิจิโกะตัดสินใจพูดมันออกไปแม้ว่าคำพูดของเขาจะทำให้ตัวเองเจ็บปวด แต่เขาคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าให้เร็นจิช่วยหมั้นกับลูเคีย ไม่ว่าจะชั่วคราวหรือตลอดทั้งชีวิตก็ตาม...แต่เร็นจิคือคนที่ไว้ววางใจได้ อิจิโกะเชื่อว่าเขาจะสามารถปกป้องเธอได้ดีกว่า ไม่ใช่เด็กมัธยมปลายหัวเดียวกระเทียบลีบอย่างเขา และเขาเองก็ไม่สามารถยอมรับได้หากลูเคียจะไปดูตัวกับขุนนางที่เขาและเธอไม่รู้จัก เพราะคนที่ว่านั้นอาจไว้ใจไม่ได้เท่าเร็นจิอีกแล้ว

     

       ฉะนั้นหากเขาคิดจะปล่อยเธอไป...เธอควรจะไปอยู่ในอ้อมกอดของเร็นจิซะยังจะดีกว่า  

     

       “ไม่ได้ ฉันไม่อยากช่วยยัยนั่นด้วยเหตุผลแบบนั้น”

     

       “ทำไมล่ะ” อิจิโกะแปลกใจที่เร็นจิซึ่งรักลูเคียมาตลอดปฏิเสธคำขอร้องให้ช่วย แม้ว่าจะเป็นเรื่องของลูเคีย

     

       “ฟังนะอิจิโกะ” เร็นจิสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะสาธยายให้เขาฟัง “ลูเคียไม่ได้รักข้า ยัยนั่นรักแก”

     

       “ไม่จริงหรอก” อิจิโกะกำโทรศัพท์ไว้แน่น “ยัยนั่นน่ะ...เย็นชา”

     

       “ก็บางทียัยนั่นไม่ได้รู้ตัวเสมอไปหรอกอิจิโกะ จะบอกอะไรให้นะ ลูเคียสนแต่คำว่ามิตรสหายจนมองข้ามความรู้สึกพิเศษที่มีของตัวเองไป”

     

       “...”

     

        “อิจิโกะ ยัยนั่นชอบแกมากนะ แต่บางทีอาจจะ...”

     

       “อะไรคือสิ่งที่ทำให้นายแน่ใจว่ายัยนั่นชอบฉัน” อิจิโกะสวนกลับทันควัน น้ำเสียงของเขาเหมือนจะเย้ยหยันตัวเองนัก

     

       แต่เร็นจิก็สามารถตอบคำถามเขาได้ แม้ว่าตัวเองเองก็ต้องเจ็บปวดไม่ต่างกับอิจิโกะ “ตอนที่อยู่โซลโซไซตี้ตลอดปีกว่า...ยัยนั่นเอาแต่พูดถึงแก ยัยนั่นยุ่งกับการเข้ารับตำแหน่งรองหัวหน้าหลังจากศึกเมืองคาราคุระกับพวกอารันคาร์จนไม่มีเวลาลงมาหาแกที่โลกมนุษย์ และพอเราว่าง...ยัยนั่นก็จะถูกหัวหน้าคุจิกิจับแต่งงาน หัวหน้าได้ให้เวลายัยนั่นตั้งหนึ่งอาทิตย์ แล้วทำไมกัน...คนที่ลูเคียคิดถึงคนแรกถึงได้เป็นแก ยัยนั่นมาหาแกก่อนแค่นี้ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้อีกงั้นเหรอ”

     

       “...”

     

       อิจิโกะใจเต้นเล็กน้อยกับคำพูดทั้งหมดของเร็นจิ เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าคนที่ลูเคียคิดถึงคนแรกจะเป็น...เขา คนอย่างเขา!

     

       “คุโรซากิ อิจิโกะ แกยังเด็กมากและยังไม่รู้จักลูเคียดีพอ การแสดงออกเพียงเล็กน้อยของแกไม่มีทางทำให้ยัยนั่นหวั่นไหวหรือรู้ใจตัวเองได้หรอก แกต้องแสดงออกมากกว่านี้...เชื่อข้า”

     

       “พอแล้วเร็นจิ...เอาเป็นว่า ฉันจะลองดู”

     

       “ข้าไม่แนะนำให้แกทะเล่อทะล่ามากเกินไป ไม่งั้นมันจะเกิดผลเสียอย่างที่สุดเลยเชียว”

     

       “เออน่า!!

     

       “เพราะแกเป็นซะอย่างนี้ไงล่ะฟะ ถึงได้ห่วงทั้งแกทั้งยัยนั่น ให้ตายสิ!”ว่าแล้วเร็นจิก็วางหูไป

     

       ทิ้งให้อิจิโกะยืนคิดเรื่องของลูเคียตามลำพัง อิจิโกะกุมขมับตัวเองก่อนจะคลายยิ้มออกมานิดๆ

     

       ถ้ายัยนั่นชอบฉันจริงๆก็ดีสิ งั้นฉันควรแสดงออกแบบไหนกันให้เธอเห็น...ลูเคีย เขาคิดไม่ตกเลยจริงๆ 








    --------------------------------------------------
    ใครมีเพื่อน แนะไปให้อ่านหน่อยก็ดีนะ เพราะถ้าคอมเม้นแต่ละตอนถึง 10
    ไรเตอร์จะอัพเร็วจนน่ากลัวเลยทีเดียว =_= ก็บอกว่าเรื่องนี้แต่งไว้แล้ว
    แต่ก็ยังแต่งไม่จบนะ 55555
    เรื่องนี้แรกๆก็จะให้มันกุ๊กิ๊กซะหน่อย แต่ดันทำไม่ได้
    อิจิโกะกับเจ๊ลูแกแข็งข้อกันจริงๆ ให้หวานก็คงหวานได้แต่คงไม่มาก
    แต่ถ้าแต่งอิจิกับฮิเมะ คงจะเลี้ยนเกินไป...
    สรุปก็คือ ไรเตอร์ว่าแต่งอิจิลูดีกว่านะ 555 ดูน่ารักกว่า
    แต่ทำไมแต่งไปแต่งมาพระเอกของเรากลับดูน่าสงสาร แถมยังเจ็บๆซ้ๆขนาดนั้น
    สงสัยวันหลังต้องให้เจ๊ลูเจ็บบ้างซะแล้ว!  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×