ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bleach : The Happened [Ichigo x Rukia]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : Choice ตัวเลือก

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 54


     






       ร่างสูงโปร่งทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้เอน และกางหนังสือบทเรียนหมายจะอ่านเตรียมสอบเช่นเคยลงบนโต๊ะทำงานของตน แต่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มยังคงเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เหม่อไปไกล...ไกลถึงโซลโซไซตี้ ถัดมาเรื่องที่เขาคิดก็คือ...ยมทูตสาวคุจิกิ ลูเคีย ผู้เป็นทั้งคนสำคัญและเพื่อนของเขา

     

       หลังจากจบศึกอารันคาร์แล้ว ลูเคียก็ไม่มาให้เขาเห็นอีกเลย เขาคิดว่าเธอยังคงมีอะไรทำเยอะที่เซย์เรย์เทย์ ไม่ว่างมาคิดเรื่องบ้าๆเหมือนเขานี่หรอก จริงๆเขาเองก็ไม่ว่างมาคิดเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่บางครั้งมันก็อดคิดถึงไม่ได้ นี่ผ่านมาได้ปีกว่าแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาเองจะผ่านศึกนั้นมาได้...เอาเถอะ เขาคงเก่งจริงๆล่ะมั้ง (หลงตัวเองเหมือนกันนะพระเอกของเรา)

     

       “ว้าวววว ไม่อยากเชื่อเลยยยย OoO!!” จู่ๆอิจิโกะก็สะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของยูซึดังขึ้นลั่นบ้านอย่างตื่นเต้น “พี่ต้องดีใจมากแน่ๆ”

     

       “เงียบสิ ยูซึ ฉันกำลังเล่นเกมอยู่นะต้องใช้สมาธิ -_-” คารินเอ็ดใส่เธอนิดๆแล้วหันกลับไปจ้องจอทีวีต่อโดยไม่ใส่ใจว่าใครจะมาที่บ้าน

     

       ลูเคียในชุดวันพีซสีขาวลูบหัวตัวเองป้อยๆ เธอเดินเข้ามาในบ้านตามคำเชิญชวนของอิชชินที่พบเห็นเธอท่าทางลังเลของเธออยู่หน้าบ้าน

     

       “เอ่อ...อิจิโกะอยู่ไหมคุณคุโรซากิ”

     

        “แหม...เรียกพ่อก็ได้นะ ฮิๆ ><” อิชชินว่า ลูเคียตีหน้าเอือมระอาก่อนจะถือวิสาสะเดินขึ้นไปบนบ้านอย่างคุ้นเคยแม้ว่าจะไม่ได้มาเหยียบกว่าปีครึ่งแล้วก็ตามที 

     

       “อืม...ข้าควรทำยังไงดีนะ” ลูเคียทำท่าคิดหนักก่อนจะเคาะประตูห้องของอิจิโกะเบาๆ แต่ปฏิกิริยาที่ตอบกลับมาคือนิ่งงั่น เธอจึงรัวเคาะไปอีกครั้ง

     

       ก๊อกๆ

     

       อิจิโกะไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู ตั้งแต่ได้ยินเสียงยูซึโวยวายเขาก็รีบเอาหูฟังมาใส่แล้วเปิดเพลงดังๆพร้อมอ่านหนังสือไปด้วย

     

       ก๊อกๆๆๆ ลูเคียเพิ่มแรงเคาะอีก แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่รู้ตัว... เส้นเลือกที่หัวลูเคียจึงปูดขึ้นอีกเท่าตัว คราวนี้เธอทั้งเคาะและตะโกนด่าอิจิโกะไปด้วย

     

        ก๊อกๆๆๆ!!!

     

       “เจ้าหน้าโง่อิจิโกะ เปิดประตูให้ข้าซะก่อนที่ข้าจะโมโห เจ้าหน้าโง่อิจิโกะ!!!!

     

       “โว๊ยยยยย!!” อิจิโกะรับรู้แล้วถึงเสียงกระหน่ำรัวเคาะประตูอย่างแรง แต่เขาก็ยังคงไม่ได้ยินคำพูดทั้งหมดของลูเคีย อิจิโกะถอดหูฟังออกและกระชากประตูออก พร้อมเตรียมอ้าปากจะด่าให้คนที่มันมารบกวนสมาธิของเขาในเวลาที่อ่านหนังสือแต่ทว่า...

     

       เมื่อได้เห็นใบหน้าเง้างอนของลูเคียนั้น ทำเอาเขาอ้าปากค้างพูดไม่ออกไปชั่วขณะ... รู้สึกว่าผมของเธอจะสั้นลงนะ...

     

       “ละ...ลูเคีย”

     

       “ก็ใช่น่ะสิเจ้าหน้าโง่ นี่ถ้าไม่ติดว่าหน้าต่างเจ้าปิดนะ ข้าคงกระโดดเข้าทางหน้าต่างนั่นแหละ”

     

       อิจิโกะอึ้งไปชั่วขณะ...หัวใจของเขาเต้นกระส่ำอย่างทุกครั้งที่ได้พบเธอ ลูเคีย...มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วจริงๆ ริมฝีปากของเขากลายๆจะยิ้ม แต่ก็จำต้องรีบหุบเพราะเจ้าหล่อนกำลังขมวดคิ้วสงสัยกับพฤติกรรมของเขา

     

       นั่นสินะ...เขาไม่เคยแสดงออกเก่งเลย ไม่ว่าจะชอบมากแค่ไหนก็ไม่เคยที่จะแสดงออกได้มากกว่าที่เคย เพราะสายตาเธอนั่น ไม่เคยมองเขามากไปกว่าเพื่อนคนหนึ่ง...   

     

        อิจิโกะสะบัดหัวพรืดไล่ความคิด ก่อนจะปะติดปะต่อคำพูดใหม่

     

        “ดีแล้วที่มันเป็นแบบนี้ เธอจะได้เข้าที่เข้าทางเหมือนชาวบ้านเขาซักที!

     

       “เข้าที่เข้าทางอะไรมิทราบยะ!” เธอเท้าสะเอวว่า ก่อนจะย่างกายเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ ซึ่งอิจิโกะก็ยอมหลีกทางให้เธอแต่โดยดี และเหมือนเคย...ลูเคียมักจะขึ้นไปนั่งบนเตียงของเขาเสมอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาก็คิดมากอยู่หรอก แต่นานๆไปก็ชิน ลูเคียเองก็คงไม่ประสีประสากับกาลเทศะของโลกนี้หรอก

     

       “อะแฮ่ม...ไม่ได้เจอกันนานนะอิจิโกะ”

     

       “ก็เกือบปีได้มั้ง” อิจิโกะว่าพร้อมเกาหัวแกรกๆ “ทรงผมใหม่ดูดีนี่”

     

       “หือ ? อ้อ ขอบใจ” ลูเคียว่าพลางลูบหัวตัวเองน้อยๆ “ข้ายังกังวลเกี่ยวกับมันอยู่ว่าจะดีรึเปล่า”

     

       “ว่าแต่มาที่นี่คงมีเรื่องอะไรที่โซลโซไซตี้อีกล่ะสิ”

     

       “กะ...กะ...ก็ไม่เชิง -/////-“ จู่ๆ ลูเคียก็หน้าแดงขึ้นถนัดตา อิจิโกะรู้สึกหายใจติดขัดไปชั่วขณะ น้อยครั้งที่จะเห็นลูเคียเขินอาย ถ้าไม่ใช่เรื่องเบียคุยะก็คงจะเป็นกระต่ายแชปปี้ที่เธอชอบ แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นเธอหน้าแดง มันน่ารักกว่าตอนที่ชอบโหวกเหวกเหมือนผู้ชายเยอะเลยทีเดียว

     

       “แต่...ข้าไม่ได้มาหาเจ้าเพื่อให้เจ้าเป็นตัวเลือกหรอกนะ!

     

       “ตัวเลือก?”

     

       “อุบบ” ลูเคียรีบปิดปากตัวเองทันที “ขะ...ข้าแวะมาหาเฉยๆ เอ่อ...จริงๆข้ามีภารกิจตรวจสอบฮอล์โลว์กับเร็นจิที่เมืองใกล้ๆนี่เลยถือโอกาสมาเยี่ยมพวกเจ้าที่ไม่ได้เจอกันนาน ตายล่ะ...! ข้าทิ้งเจ้านั่นให้ทำงานคนเดียวเกือบชั่วโมงแล้ว”

     

       ลูเคียรีบกินยาเม็ดวิญญาณเทียมเพื่อถอดกายหยาบออก  “ฝากด้วยนะ เดี๋ยวข้ามา” ว่าแล้วเธอก็กระโดดออกไปจากหน้าต่างห้องทันที อิจิโกะเบิกตากว้างเมื่อเห็นป้ายประจำตำแหน่งที่แขนเธอ

     

       “อ้อ...เดี๋ยวนี้ได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ เก่งใช่ย่อยนี่ยัยนี่” 

     

       บ่งบอกได้ว่า...ปีกว่ามานี้ ลูเคียได้ขึ้นเป็นรองหัวหน้าของหน่วยสิบสามแล้ว...

     

     

     

     

       “ไง...ยัยคนจะแต่งงาน”

     

    เร็นจิซึ่งกำลังทำภารกิจอยู่เอ่ยทักลูเคียที่กำลังมุ่งหน้ามาในจังหวะที่เขาฟันฮอล์โลว์ตัวสุดท้ายเสร็จพอดี “ทิ้งกันแล้วไปนั่งเล่นที่บ้านเจ้าอิจิโกะเฉยเลยนะ”

     

       “เออน่ะ ข้าขอโทษ...ทางนี้เรียบร้อยดีแล้วใช่ไหม”

     

       “อืม ก็ไม่ผิดปกติอะไร” เร็นจิว่า “แล้วเธอว่าไง เจ้าอิจิโกะนี่เป็นตัวจริงของเธอใช่รึเปล่า”

     

       ผัวะ!!

     

       “บ้าสิเจ้าเบื๊อกนี่ พูดอะไรไม่เข้าท่า!” เธอว่าพร้อมตบกะบาลเร็นจิไปหนึ่งที (แต่แรงมาก)

     

       “อ้าวว ทำไมล่ะ เห็นเธอกับเจ้านั่นก็เข้ากันได้ดีไม่ใช่เหรอ”

     

       “หึ...พูดงี้นี่ไม่เจ็บใจตัวเองบ้างเลยรึไง เจ้าเองก็ชอบข้าอยู่นี่” น้ำเสียงยียวยกวนอารมณ์ของลูเคียทำเอาคนฟังเส้นเลือดปูด

     

       “หนอย...ยัยนี่ ทำไมชอบจี้จุดอ่อนของคนจังฟะ -_-+  

     

       “เออน่ะ...ข้าน่ะไม่คิดอะไรกับอิจิโกะหรอก เจ้านั่นก็เพื่อนคนหนึ่งที่สำคัญเพราะเคยช่วยข้าไว้ อีกอย่างเจ้านั่นเป็นมนุษย์ ส่วนข้าน่ะยมทูต ไม่มีทางลงเอยกันได้หรอก”  ลูเคียอธิบายแบบง่ายๆและไม่คิดอะไรมาก

     

       ใช่...อย่างมากอิจิโกะก็แค่เพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนที่สำคัญมากๆ

     

       “แล้วเจ้าไปหาเจ้านั่นทำไมถ้าไม่ใช่เพราะว่าคิดถึง”  

     

        “นี่เจ้าจะพูดให้ตัวเองเจ็บทำไม โรคจิตรึเปล่า -_-

     

       “นี่เจ้า -__________-++

     

       “ข้าไปหาเพื่อนข้าที่ไม่ได้เห็นมาเกือบปีมันผิดตรงไหน สมมุติว่าเจ้าเป็นข้าและอิจิโกะเป็น...รองหัวหน้าฮินาโมริละกัน เจ้าจะเลือกไปเยี่ยมเขาไหมหากไม่ได้เจอกันนานมากๆและเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ”

     

       “เอ่อ...ก็ไป”  เร็นจิตอบอย่างอ้อมแอ้ม

     

       “งั้นก็ไม่ต้องแปลกใจ กรณีนั้นกับสถานการณ์นี้มันก็เหมือนกัน” ลูเคียยักไหล่ไม่ใส่ใจ

     

       “เออ...นี่เจ้าแล้วเรื่องคู่ของเจ้าน่ะ เจ้าคิดจะหาเอาจากที่ไหนกันฮะ”

     

       “ก็อาจจะเอาเจ้าไปแก้ขัดก่อน”

     

       “บ้าสิยัยนี่!!” ลูเคียสะดุ้งโหยง เธอตอบไปแบบเล่นๆไม่คิดอะไร แต่ทำเอาเร็นจิถึงกับตีหน้าเครียดพร้อมโวยวายยกใหญ่ “เจ้าคิดว่าคนอย่างหัวหน้าคุจิกิจะสบประมาทได้อย่างนั้นเหรอลูเคีย บ้าสิ...เจ้าบ้าไปแล้ว ยังไงก็ตามถึงข้าจะชอบเจ้า แต่ข้าไม่เห็นด้วยที่เจ้าจะใช้ข้าเพื่อเลี่ยงการพบปะกับคู่หมั้นที่หัวหน้าคุจุกิจัดไว้ให้”

     

       “เอ่อเร็นจิ...จริงๆแล้วข้าพูดละ...”

     

       “หึลูเคีย...เจ้านี่มันชอบย่ำยีหัวใจของชายที่รักชอบเจ้าซะจริง จากคำพูดข้าพอรับได้ แต่จากการกระทำที่ออกมาทางวาจาครั้งนี้มันเกินอภัย แม้ว่าเจ้าจะพูดเล่นแต่ข้าไม่คิดเช่นนั้นหรอกลูเคีย... ไปละ ขอให้สนุกกับการดูตัวอาทิตย์หน้านะลูเคีย! 

     

       “เฮ้ยยยเดี๋ยว เร็นจิ!!

     

       เร็นจิใช้ก้าวพริบตาจากเธอไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ยมทูตสาวยืนหน้างอและตะคอกด่าอย่างโกรธเกรี้ยวตามหลัง

     

       “เจ้าบ้านี่ ข้าไม่ขอโทษเจ้าหรอก ไม่มีทาง อยากเข้าใจผิดอย่างนั้นก็ตามใจ ข้าไม่ง้อเจ้าหรอก!!! 






    -----------------------------------------------

    เม้นเยอะ ต่อเร็ว เม้นน้อย...ดองยาววว ลั้ลลา~~ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×