คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : บทที่ 27 อันอัน
บทที่ 27 อันอัน
เทพมังกรสาวยื่นฝ่ามือไปทาง ‘เฟย’ เทพมังกรอีกตน ก่อนจะเกิดประกายแสงสีขาวพุ่งเข้าไปห้อมล้อมเทพมังกรที่บัดนี้ร่างกายยังคงมองเห็นได้อย่างเลือนราง พลันปรากฏกำแพงแสงขึ้นทั้งสี่ด้านรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส มันปกคลุมทั้งสี่ทิศของเทพมังกรดั่งเป็นเกราะกำแพงใสที่ดูเบาบาง
“เอาล่ะ ข้าได้สร้างกำแพงป้องกันการดูดกลืนพลังวิญญาณ เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหนูเฟยดูดกลืนพลังวิญญาณจากนี้แห่งนี้จนหืดแห้งจนทำลายมิติแห่งนี้ไว้แล้ว” เทพมังกรสาวกล่าวขึ้นดูสีหน้าท่าทางดูพึงพอใจกับสิ่งที่ตนเองทำ นางตวัดสายทางมาทางจินหลงอีกครั้ง
“ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่เจ้ามนุษย์ ไข่มุกมายาพวกนี้ข้าเป็นสร้างขึ้น และข้าต้องการทรัพยากรอย่างมากในการสร้างไข่มุกมายา” พลันฝ่ามือเทพมังกรสาวปรากฏอะไรบางอย่างที่มีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมสีน้ำตาล
“สิ่งนี้เรียกว่า ‘รากหยกศิลา’ มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดหยกศิลารวมถึงไข่มุกมายา ข้าได้พบเจอมันที่บึงมรกตแห่งนี้ แท้จริงแล้วหากปล่อยมันไว้เฉยๆมันก็สามารถก่อกำเนิดเป็นหยกศิลาได้ แต่ก็แน่นอนมันต้องใช้เวลาหลายเดือนหลายปีหรืออย่างไรข้าก็มิอาจรู้ แต่ตัวข้านั้นมีวิธีที่จะย่นระยะเวลา ทำให้สิ่งนี้ก่อกำเนิดทั้ง หยกศิลา และ ไข่มุกมายาได้จำนวนมาก โดยที่มิต้องรอเวลานานขนาดนั้น ซึ่งนอกจากสิ่งที่อยู่ในมือข้า ข้ายังต้องการอย่างอื่นอีก”
“ท่านต้องการสิ่งใดหรือ”
“น้ำมรกตศักดิ์สิทธิ์!”
“!?”
“ส่วนประกอบสำคัญคือ หนึ่งรากหยกศิลา สองพลังลมปราณธาตุแสงสว่าง ซึ่งข้ามีทั้งสองอย่างแล้ว และสามน้ำมรกตศักดิ์สิทธิ์! แท้จริงแล้วน้ำมรกตศักดิ์นั้นหายากยิ่งกว่ารากหยกศิลาเสียอีก”
“แล้วข้าจะหามันได้ที่ใด”
“หึ ! มันอยู่ต่อหน้าเจ้าแล้วนั่นไง น้ำในบึงมรกตนั่นแหละ
คือน้ำมรกตศักดิ์สิทธิ์! มิเช่นนั้นตัวข้าคงมิหลบมาอยู่ ณ
ที่แห่งนี้หรอก เจ้าโง่” นางกล่าวด้วยเสียงแสดงซึ่งความหงุดหงิด
คำก็โง่สองคำก็โง่จินหลงได้แต่คิดเงียบๆ
“สิ่งที่เจ้าต้องทำคือ นำน้ำมรกตศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนั่นเข้ามาในมิติแห่งนี้ของเจ้า”
“ทั้งหมดเลยหรือ! แล้วจะให้ข้านำมันไปไว้ที่ใด บึงมรกตนั่นใหญ่โตและกินพื้นที่กว้าง ทั้งข้ายังมิรู้ว่ามันมีความลึกเท่าใด หากจะนำมันเข้ามา มิติแห่งนี้มิต้องพบเจอกับน้ำท่วมบ่าเลยหรือ”
ไม่ทันที่จินหลงจะได้กล่าวอะไรต่อ เทพมังกรสาวทะยานไปที่กลางบึง พลันเกิดกระแสน้ำในบึงที่อยู่ตรงหน้าจินหลง ก่อนที่กระแสน้ำจะเริ่มลอยตัวขึ้นมาจากบึง สายน้ำทั้งหมดในบึงเกิดการปั่นป่วนมันค่อยๆลอยขึ้นสูงเป็นเส้นตรง ก่อนที่สายน้ำจะพุ่งออกไปรอบทิศทาง สายน้ำทั้งหมดราวกับถูกดูดออกจากบึงด้วยความเร็วมหาศาล มันพุ่งกระจายตัวออกไปราวกับเกิดฝนตกหนักในมิติแห่งนี้ สายน้ำทั้งหมดได้ไหลลงแม่น้ำและถูกผืนดินในมิติแห่งนี้ดูดซับลงไป ไม่นานน้ำทั้งหมดได้ถูกดูดออกไปจนหมด จากบึงกว้างใหญ่ที่เคยอยู่ตรงหน้าจินหลงกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่ไร้ซึ่งสายน้ำ
“ทีนี้เจ้าก็หยุดถามข้าและไปนำน้ำมรกตศักดิ์สิทธิ์เข้ามายังมิติแห่งนี้ได้แล้ว เจ้าแค่เปิดประตูเชื่อมต่อมิติแห่งนี้ ปักกระบี่ของเจ้าให้จมลงในน้ำและส่งพวกมันเข้ามา ที่เหลือข้าจะจัดการเอง” จินหลงเพียงพยักหน้าเบาๆก่อนจะกลับออกไปนอกมิติกระบี่
ริมบึงมรกต
ท่ามกลางความเงียบสงัด และกลิ่นไอที่เต็มไปความตายและคละเคล้าไปกลิ่นคาวเลือด ภาพอันหน้าสยดสยองที่ใครเห็นก็ต้องอาเจียนออกมาเมื่อพบกับศพมากมายที่ร่างกายกลายสภาพเป็นสีม่วงทั้งยังชโลมไปด้วยเลือด จินหลงกลับออกจากมิติกระบี่ของเขา เขาปักกระบี่ไม้ลงที่ริมบึงมรกตก่อนจะทำการเปิดประตูเชื่อมมิติอีกครั้ง สายน้ำสีเขียวมรกตเริ่มหมุนเป็นเกลียวคลื่นก่อนจะถูกดูดและหายเข้าไปในกระบี่มิติ เนื่องจากขนาดที่ใหญ่โตของบึงมรกตมันจึงค่อนข้างใช้เวลานานในการดูดกลืนน้ำมรกตศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดให้เข้าไปอยู่ในกระบี่ ทางด้านของเทพมังกรสาวเมื่อเห็นน้ำมรกตศักดิ์สิทธิ์ที่เริ่มไหลเข้ามาในมิติ นางจึงใช้พลังลมปราณของนางควบคุมทิศทางการไหลของสายน้ำให้มุ่งตรงไปยังบึงขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า
หยกศิลาและไข่มุกมายาที่เคยจมอยู่ใต้บึงมรกต บัดนี้จินหลงกลับได้เห็นมันอีกครั้ง เนื่องจากสายน้ำจากบึงมรกตเมื่อถูกดูดออกจนหมด กองภูเขาสมบัติตรงหน้าทำให้จินหลงตื่นเต้นอีกครั้ง ก่อนจะมีเสียงเทพมังกรสาวดังขึ้นมาผ่านกระแสจิต
“นำพวกมันทั้งหมดเข้ามาด้วย” เมื่อได้ยินดังนั้นจินหลงจึงส่งไข่มุกมายาและหยกศิลาที่กองราวกับภูเขาเข้าไปในมิติอย่างรวดเร็ว
“โอ้พระเจ้า บึงมรกตแห่งนี้มันลึกเท่าใดกัน” เนื่องจากจินหลงดูดกลืนกองไข่มุกมายาและหยกศิลาเป็นเวลานานแต่กองภูเขาตรงหน้านี้ราวกับไม่ลดลงเลย มันมีมากมายมหาศาลเลยทีเดียว ไม่นานกองภูเขาสมบัติตรงหน้าก็หายไปจนหมดเกลี้ยงและแม้ว่าจะมีไข่มุกมายาที่ยังคงหลบหนีตามสัญชาตญาณ จินหลงก็สามารถตามเก็บกวาดและเก็บเข้าวงแหวนมิติของเขาเล็กน้อย และที่เหลือเขาก็จัดการส่งเข้ามิติในกระบี่ทั้งหมด แม้ว่าเทพมังกรสาวจะเห็นว่ามีส่วนหนึ่งที่จินหลงเก็บเข้าไปในวงแหวนมิติแต่นางกลับมิได้ว่ากล่าวอะไรออกมา
จินหลงหายตัวไปจากริมบึงมรกตอีกครั้งและเข้ามาในมิติกระบี่ของเขา ภาพตรงหน้าราวกับสวรรค์บนดิน มองไปรอบทิศทางปรากฏเห็นทั้งหยกศิลาและยิ่งไปกว่านั้นไข่มุกมายา ที่ล่องลอยบินว่อนไปทั่วอาณาเขตของมิติแห่งนี้ ทั้งยังบึงกว้างใหญ่ตรงหน้าที่เคยเป็นสีฟ้าสะอาดสดใส บัดนี้มันกลายเป็นสีเขียวมรกตแลดูวิจิตรสวยงามยิ่งกว่าเดิมทั้งยังสะท้อนซึ่งพลังวิญญาณเบาบางที่สามารถสัมผัสได้ ก่อนหน้านี้เขามิอาจสัมผัสได้ถึงความวิเศษของบึงมรกตเลย แต่เมื่อมันอยู่ในมิติแห่งนี้ จินหลงกลับสามารถสัมผัสถึงความวิเศษของมันได้อย่างชัดเจน แม้จะเบาบางก็สัมผัสได้ นี่สินะความวิเศษของน้ำมรกตศักดิ์สิทธิ์
“เอาล่ะ! ต่อจากนี้ข้าจะเป็นคนคอยสกัดไข่มุกมายาและส่งมันให้กับเจ้าหนูเฟยเอง เจ้ากลับออกไปได้ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ เจ้าก็ไม่ต้องเข้ามารบกวนข้าอีก”เทพมังกรสาวพูดจบนางก็กวาดเอาหยกศิลาและไข่มุกมายาบางส่วนให้จมลงไปในบึงมรกตเบื้องหน้า
“ทำไมยังไม่ออกไป!” เมื่อเห็นว่าจินหลงยืนพะว้าพะวงไม่ยอมกลับออกไปนางจึงถามด้วยเสียงเย็น
“ข้าคิดว่าเราควรจะทราบนามซึ่งกันและกันก่อน ข้าหมายถึงข้าชื่อ ซุนจินหลง แล้วท่านเทพมังกรท่านมีนามว่ากระไรหรือ” จินหลงเกาหัวเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มเก้อไปยังเทพมังกรสาว
“อันอัน” นางตอบเพียงแค่นั้นและมิหันกลับมาสนใจจินหลงอีกเลย จินหลงจึงตัดสินใจกลับออกมาจากมิติกระบี่ เขาโผล่ออกมาที่ริมบึงอีกครั้ง พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกอยากจะอาเจียน ศพพวกนี้มันช่างเป็นภาพที่…
กึกกึก
แกร๊ก
ก่อนที่ความคิดอื่นๆจะตามมาจินหลงกลับได้ยินเสียงของการขยับตัวแม้จะเบาบางแต่มันเป็นเสียงของอะไรบางอย่างกระทบกับใบไม้เป็นแน่
จินหลงกวาดสายตามองไปยังรอบบริเวณ จินหลงสังเกตเห็นใครบางคนกำลังพยายามขยับตัว
นั่นเขายังไม่สิ้นลม! เขายังมีชีวิตอยู่!
เมื่อเห็นดังนั้นจินหลงจึงหยิบผ้าคลุมสีดำทิฬขึ้นมาปกปิดใบหน้าอีกครั้ง ก่อนจะกระโดดหลบเข้าไปหลังพุ่มไม้ใหญ่ พลางส่งเสียงถามเทพมังกรสาว
“พี่หญิงอันอัน พิษม่วงมังกรของท่าน เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีคนรอดจากมัน”จินหลงส่งกระแสจิตเพื่อถามเทพมังกรสาว
“พี่หญิง!?”
“เอ่อข้าคิดชื่อของท่านนั้นไพเราะยิ่ง มันคงจะดีกว่าหากเรียกนามของท่านเช่นนี้”
“หึ! พิษม่วงมังกรของข้า มันมิได้ทำให้ตายโดยทันที แต่มันจะค่อยๆกัดกินและสร้างความเจ็บปวดให้ผู้ที่โดนพิษเจ็บปวดโดยการเข้าไปทำลายทุกส่วนรวมถึงจุดชีพจรทุกจุด และตายลงอย่างช้าๆ ที่มันยังชีวิตอยู่อาจะเป็นเพราะมันสามารถทนความเจ็บปวดและสกัดกั้นการลุกลามของพิษม่วงมังกรได้ แต่ก็เท่านั้นไม่เกินสองชั่วยามหลังจากถูกพิษ หากมิได้รับการถอดถอนพิษออก มันก็ต้องตกตายอยู่ดี” จินหลงถึงกับปาดเหงื่อ จินหลงเข้าใจว่าที่เขารอดพ้นจากพิษม่วงมังกร อาจเป็นเพราะมีจิตของอาจารย์เขาอยู่ พิษม่วงมังกรจึงมิอาจทำอันตรายต่อเขาได้
จินหลงลอบเข้าไปใกล้กับร่างที่ยังคงต่อสู้กับพิษมังกรม่วง นั่นมันผู้อาวุโสเฉิน! เมื่อสังเกตดีดีแล้วจินหลงพบว่ามิใช่แต่เพียงผู้อาวุโสเฉินแต่เพียงเท่านั้น หากแต่ยังมีผู้ฝึกยุทธ์อีกเกือบสิบคนที่ยังมิสิ้นลมหายใจ แต่พวกเขาทั้งหมดร่างกายล้วนเปลี่ยนเป็นสีม่วง ดวงตาแดงกล่ำ เหงื่อไหลท่วมร่างกาย ทั้งยังแสดงซึ่งสีหน้าของความเจ็บปวด ร่างกายเองก็กระตุกเนื่องจากพิษที่รุกคืบไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย แม้พวกเขาจะสามารถสกัดกั้นพิษบางส่วนได้ แต่ก็มิใช่ทั้งหมด พวกเขาได้แต่ฝืนทนความเจ็บปวดและมิสามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย
“พี่หญิงอันอันข้าช่วยพวกเขาได้หรือไม่” จินหลงถามขึ้นมา เมื่อเขาเห็นชัดแล้วว่าสองคนในนั้นคือ ผู้อาวุโสเฉิน และศิษย์หลักจากสำนักมังกรใต้หล้าที่ช่วยชีวิตเขาไว้ก่อนหน้านี้
ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับของเทพมังกรสาว
พลันเกิดความเงียบขึ้นมาช่วยขณะ จินหลงรู้ว่าเทพมังกรสาวนั้นเกลียดชังซึ่งมนุษย์
ถึงจะไม่ทราบเหตุผลแต่แท้จริงพวกเขาเองก็มีความผิดที่เข้ามาบุกรุกที่ของนาง
และยังหวังครอบครองสมบัติของนางอีก มันสมควรซึ่งนางจะเกิดความโกรธและต้องการสังหารพวกเขา
เทพมังกรสาวที่ทำการเชื่อมต่อจิตวิญญาณกับจินหลงนั้นสามารถล่วงรู้ความคิดขอจินหลงได้อย่างชัดเจน แท้จริงนางนั้นเกลียดชังมนุษย์ผู้มากด้วยความโลภ หลายพันปีมานี้นางพบเจอมนุษย์มามากมาย และมนุษย์พวกนั้นได้แสดงทั้งความโลภและตัณหาออกมาต่อหน้านาง ทำให้นางเกลียดชังและต้องการสังหารพวกมันทั้งหมดที่เข้ามายังที่ของนาง แต่เมื่อนางพบเจอกับจินหลง และเฟยอีกครั้งมันกลับทำให้นางหวนนึกถึงครั้นที่นางยังอยู่โลกปีศาจที่ผู้นำของนางเคยกล่าวกับนางว่า “สัตว์อสูรอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้” นั่นทำให้นางถอนหายใจออกมา
“จงใช้พลังของข้า
และทำตามสิ่งที่ข้าจะบอกต่อไปนี้” จินหลงเดินเข้าไปยังบริเวณที่ผู้อาวุโสเฉินนอนสั่นด้วยความเจ็บปวด
ก่อนจะก้มลงนั่งลงข้างๆร่างพร้อมกับยื่นฝ่ามือไปแตะที่แขนของผู้อาวุโส
เทพมังกรสาวใช้กระแสจิตบอกวิธีการโคจรพลังไปยังจุดชีพจรต่างๆตามลำดับ
และส่งพลังวิญญาณแสงสว่างของนางให้กับจินหลง แสงสว่างสีขาวเริ่มเข้าปกคลุมตัวผู้อาวุโสเฉินอย่างเชื่องช้า
ก่อนจะครอบคลุมทั่วของร่าง
ไม่นานร่างกายสีม่วงของผู้อาวุโสเริ่มแปรเปลี่ยนกลับเป็นสภาพปกติโดยไล่ขึ้นจากจุดที่พิษไหลเข้าไปก่อนจะไล่ไปทั่วบริเวณร่างกาย
จนสุดท้ายมิหลงเหลือพิษม่วงมังกรปรากฏทั้งภายนอกและภายในร่างกายเลยแม้แต่น้อย
ผู้อาวุโสที่ยังคงต่อสู้กับความเจ็บปวด
เขาพยายามสกัดกั้นพิษมิให้แพร่กระจายแต่ก็พบว่าทำได้เพียงประวิงเวลาแต่เพียงเท่านั้น
ก่อนที่เขาจะเริ่มหมดหวัง
เขากลับรู้สึกได้ถึงกระแสลมปราณอันอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ารอบตัวเข้าก่อนจะกระจายไปทั่วตัว
ราวกับมันเข้าไล่สังหารพิษร้ายที่อยู่ในร่างกายของเขา ทำให้ความเจ็บปวดต่างๆเริ่มจางลง
ดวงตาที่พร่ามัวเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเขากระพริบตาเพื่อปรับสายตาและขยับกายขึ้นเขาสังเกตเห็นชายชุดดำที่ปกปิดใบหน้า
ชายคนนี้คือคนที่มีเรื่องกับพวกคนของสำนักมังกรใต้หล้านี่! แน่นอนเขาเองก็เห็นเหตุการณ์นั้น แต่เขาไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายกับคนของสำนักมังกรใต้หล้าจึงเพียงแค่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ แต่ชายคนนี้กลับยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ทั้งยังสามารถถอนพิษร้ายออกจากร่างกายของเขาได้
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ช่วยเหลือข้า
หากมีสิ่งใดสามารถตอบแทนท่านได้โปรดบอกข้าเถิด”
ผู้อาวุโสเฉินกล่าวขึ้นด้วยความซาบซึ้ง ชายตรงหน้ามิได้กล่าวอะไรขึ้นมา
แต่กลับหยิบไข่มุกมายาขึ้นมาจำนวนหนึ่งละส่งมันให้กับเขาแทน
และหันหลังก้าวเดินออกไป
จินหลงเดินมาหยุดตรงหน้าของศิษย์หลักสำนักมังกรใต้หล้าคนที่เคยช่วยเขาไว้
ชายตรงหน้าบัดนี้ยังคงกัดฟันสู้กับพิษร้าย เมื่อเห็นจินหลงเขาจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
แม้ดวงตาจะพร่ามัวแต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือชายตรงหน้ามิได้ถูกพิษและร่างกายเองก็ดูปกติ
จินหลงทำเช่นเดียวกับที่ทำกับผู้อาวุโสเฉิน เมื่อศิษย์คนนั้นกลับมาเป็นปกติ
จินหลงก็มอบไข่มุกมายาให้เช่นเดียวกัน
ผู้อาวุโสเฉินที่ขยับตัวได้ตามเข้ามาสมทบ เมื่อเขาสำรวจและพบว่านอกจากเขาแล้วทุกคนในตระกูลเฉินล้วนสิ้นลมหายใจกันหมดแล้ว เขาจึงเดินเข้ามาช่วยประคองศิษย์หลักของสำนักมังกรใต้หล้าที่ถูกช่วยชีวิตโดยชายชุดดำคนเดียวกัน
“เรามิมีสิ่งใดติดค้างกันอีก” จินหลงผู้ด้วยเสียงเรียบก่อนจะละสายตาออกจากคนทั้งสอง เดินตรงไปยังอีกคนที่อยู่ไม่ไกลและยังคงมีลมหายใจ เมื่อจินหลงเดินเข้าไปใกล้ พลันแววตาของจินหลงก็เปลี่ยนไปทันที แทนที่จินหลงจะก้มตัวลงไปเพื่อรักษาชายตรงหน้า แต่สิ่งที่จินหลงกลับทำให้ทั้งผู้อาวุโสเฉินและศิษย์หลักคนนั้นต้องตกตะลึง
ตึง!
จินหลงกระทืบเท้าลงไปยังหน้าอกของชายตรงหน้า
จนจมลงไปกับพื้นอย่างรุนแรงและเกิดหลุมลึกพร้อมกับรอยแตกร้าวกระจายเป็นวงกว้าง
ชายที่นอนอยู่ถึงกับเบิกตากว้างค้างและกระอักเลือดขึ้นมา มันอ้าปากค้างราวกับจะส่งเสียงแต่มิอาจทำได้
ไม่เพียงแค่นั้นจินหลงยังกระทืบลงไปยังแขนทั้งสองข้างและขาทั้งสองข้างของชายตรงหน้า
จนมันหักและแตกละเอียด!
“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย แต่ข้าจะให้เจ้าได้ทรมานกับพิษ และตายอย่างทุกข์ทรมานที่สุด ให้สมกับสิ่งที่ตระกูลของเจ้าได้เคยทำไว้!” จินหลงกล่าวขึ้นด้วยเสียงเหี้ยม! ชายตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่นมันคือคนของตระกูลจ้าว คนที่ก่อนหน้ามีเรื่องกับผู้อาวุโสเฉินและนำพาคนของตระกูลจ้าวข่มเหงคนของตระกูลเฉิน ทั้งยังเป็นคนที่ส่งชายชุดดำมาทำร้ายพี่น้องของเขา!
เมื่อพูดจบจินหลงก็ทะยานตัวออกไปจากป่ามรกตทันที ทิ้งให้ทั้งผู้อาวุโสเฉินและศิษย์ของสำนักมังกรใต้หล้าต้องมองตาม
“ผู้อาวุโสท่านนั้นเป็นใครกัน ท่านทราบหรือไม่” ศิษย์คนนั้นหันไปถามผู้อาวุโสเฉิน
“ข้าก็มิทราบเช่นกัน”
ผู้อาวุโสเฉินตอบกลับ
ก่อนจะมองไปยังบึงมรกตที่บัดนี้ไม่มีสายน้ำหลงเหลืออยู่เลย แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นเขาก็มิอาจล่วงรู้ได้เลย
เนื่องจากตอนที่พวกเขาได้รับพิษและต่อสูกับพิษอยู่นั้นราวกับประสาททั้งห้าถูกทำลาย
เขามิสามารถรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เลย
“ข้าว่า เรารีบออกจาป่าแห่งนี้เถิด ข้าจะพาเจ้ากลับไปยังสำนักมังกรใต้หล้าเอง” ผู้อาวุโสเฉินกล่าวขึ้นทั้งยังประคองศิษย์คนนั้นให้ลุกตาม เนื่องจากศิษย์สำนักมังกรใต้หล้าคนนี้มีการบ่มเพาะที่อ่อนด้อยกว่าตน ทั้งยังดูราวกับมิอาจขยับเขยื้อนตัวได้ เขาจึงอาสาที่จะพากลับไปส่งยังสำนัก พวกเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่ป่าแห่งนี้นาน เนื่องจากอาจจะมีพวกสัตว์อสูร หรือหากสตรีคนนั้นหวนกลับมายังที่แห่งนี้ พวกเขาคงมิอาจรอดพ้นจากประตูแห่งความตายได้เช่นคราวนี้อีก
ทั้งสองคนมิอาจทำสิ่งใดได้มากกว่านี้อีกแล้ว ทั้งผู้ฝึกวรยุทธ์ทุกคนล้วนได้ตายลงรวมถึงผู้อาวุโสตระกูลจ้าวคนนั้นเองก็ได้ตายลงแล้วเช่นกัน พวกเขาจึงตัดสินใจรีบทะยานออกจากป่ามรกตแห่งนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
มุมนักเขียน : เดี๋ยวๆจริงๆแล้วตัวเอกของเราก็โหดเป็นนะคะ ฮ่าๆ และแล้ว ก็ใกล้ถึงเวลา.... เตรียมปั๊มตัง เติมทรู หึหึ!
ความคิดเห็น