Splendid
สถาบันวิจัยโลกใหม่ สถานที่ที่รวบรวมเหล่าอัจฉริยะไว้มากที่สุดในโลก คอยพัฒนาวิทยาการณ์ต่างๆเพื่อโลกใหม่ โลกที่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้คงอยู่ได้ โดยไม่หายไปจากโลกใบนี้
ผู้เข้าชมรวม
97
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ค.ศ.2700
‘ อัจฉริยะ’ คำคำนี้คงทำให้ใครหลายๆคนนึกถึง สมองอันปราดเปรื่องและเฉียบแหลมของคนเหล่านั้น ที่นานนานจะมีซักคน และในโลกนี้ก็มีเพียงไม่กี่คนที่ได้ชื่อว่า ‘อัจฉริยะ’ และหนึ่งในนั้นก็คือฉันเอง ในมุมมองของฉัน‘อัจฉริยะ’ก็คือคนธรรมดาๆคนหนึ่งอาจจะบังเอิญโชคดีที่มีสมองที่พิเศษกว่าคนทั่วไป จนบางครั้งฉันเองก็อดคิดไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่ใช้คำว่า‘อัจฉริยะ’บังหน้าเพื่อหลอกใช้สมองของพวกเรา
แต่ไม่ว่ายังไง คำว่า ‘อัจฉริยะ’ ก็ทำให้ฉันสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายได้เท่าที่ต้องการ แลกกับมันสมองอันหลักแหลมและการทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อมนุษยชาติ คุณคงอยากจะรู้กันแล้วใช่ไหมว่าฉันคือใคร ค่ะ ฉันคือหัวหน้าสถาบันวิจัยโลกใหม่ สถานที่ที่รวบรวมเหล่าอัจฉริยะไว้มากที่สุดในโลก คอยพัฒนาวิทยาการณ์ต่างๆเพื่อโลกใหม่ โลกที่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้คงอยู่ได้ โดยไม่หายไปจากโลกใบนี้
12/02/2700
งานในสถาบันวิจัยเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ ต้นไม้ในโลกทยอยตายวันละหลายสิบต้นโดยไม่มีทีท่าจะลดลง อากาศในตอนนี้ก็แย่ลงเรื่อยๆตามจำนวนต้นไม้ที่ตายไป สภาพอากาศก็แปรปรวนอย่างเห็นได้ชัด เกิดพายุและคลื่นรังสีความร้อนบ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อน บางครั้งอากาศในกลางวันร้อนจัดอุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส แต่พอตกกลางคืนกลับมีพายุหิมะกระหน่ำลงมา ทำให้ทั้งคนและต้นไม้ที่ปรับตัวไม่ได้ค่อยๆล้มตายจากไป แต่คนเราก็ยังไม่ยอมลดความเห็นแก่ตัวลงและยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมต่อ และคนที่เข้าใจสถานะการณ์ของโลกที่มีอยู่น้อยนิดอย่างพวกฉันก็พยายามกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อจะรักษาโลกนี้เอาไว้ให้ได้ด้วยความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดของพวกเรา
12/28/2700
ฉันนั่งกุมขมับที่เมื่อยล้าจากความเครียดและการทำงานต่อเนื่องแบบไม่หยุดพัก หลับตาลงเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยและพักสายตาที่เมื่อยล้าจากงานตรงหน้า เควินเดินเข้ามาสะกิดไหล่ฉันเบาๆ ก่อนจะรับงานต่อจากฉันและบอกให้ฉันกลับไปพัก
“ วอดก้า ฉันว่าเธอสมควรจะไปพักได้แล้ว ทำงานติดต่อกันมาสามวันสามคืนแบบนี้มันไม่ดีนะ ฉันทำต่อเอง”
“ ขอทำอันนี้ให้เสร็จก่อนนะ อีกซักพักคงจะเสร็จ” ฉันต่อรอง ตาสีเทาซีดของเควินมองมาอย่างระอากับความบ้างานของฉัน เขาพยักหน้ารับ แต่ก็ไม่วายแขวะฉันกลับมา
“ ตามใจสิ ใครจะกล้าขัดคำสั่งเธอกัน เธอมันบอสใหญ่นี่” ฉันพยักหน้ารับและก้มลงสนใจแผ่นใสเล็กๆคล้ายกระจกขนาดกะทัดรัด ที่ทำค้างไว้ มันคือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของฉัน กลไกการทำงานของมันค่อนข้างซับซ้อน แหล่งกำเนิดพลังงานเป็นแบตเตอร์รี่ขนาดจิ๋วที่ใช้งานได้นานถึง7วัน ชิปสั่งการณ์มีขนาดเล็กจิ๋วแต่ทรงประสิทธิภาพ แผ่นใสนี้ใช้ป้องกันการรบกวนจากสนามพลังแม่เหล็กโลกที่กำลังแปรปรวนและป้องกันคลื่นรบกวนต่างๆ เพื่อความถูกต้องและแม่นยำในการสื่อสารและการรับข้อมูลจากแผนกข่าวกรอง พองานเสร็จฉันก็เก็บมันลงในกล่องวิทยาการณ์ต้นแบบ และเดินออกจากห้องทำงานเล็กในห้องวิจัยเจ้าหน้าที่ห้องวิจัยหันมามองฉันและก้มหัวทักทายเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป ฉันเดินไปยังจุดส่งตัว พาหนะทรงกลมที่ฉันนั่งอยู่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงพาฉันไปยังโซนคาริสมา โซนที่พักของอัจฉริยะคนสำคัญๆที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหรือหัวกะทิของแผนกต่างๆ โซนนี้เป็นโซนที่มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวที่สุด พวกเราที่อยู่ในโซนนี้รู้จักมันในอีกชื่อว่า ‘โลกส่วนตัว ’ ห้องของฉันตกแต่งแบบเรียบๆเน้นความสะดวกสบาย ฉันทิ้งตัวลงกับเตียงพอหัวถึงหมอนก็หลับอย่างเอาเป็นอาตาย
12/30/2700
ฉันหลับไปหนึ่งวันเต็มๆ เป็นการหลับที่นานสุดในรอบปีนี้ ช่างเป็นวันที่ยาวนานจริงๆ ฉันเดินออกไปรับลมที่ระเบียง ผ่อนคลายความเครียดให้สมองปรอดโปร่ง รอบๆโซนที่พักทุกโซนของสถาบันวิจัยมีต้นไม้ล้อมรอบเพื่อฟอกอากาศที่เป็นมลพิษให้กลับมาสะอาดอีกครั้ง และเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กกระจายติดตามที่ต่างๆ และเครื่องฟอกอากาศนั่นก็เป็นผลงานของฉันเอง ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่ทำรายได้ให้รัฐบาลได้มากพอตัว ก็อย่างว่า ตอนนี้คนรวยเท่านั้นที่ได้หายใจด้วยอากาศบริสุทธิ์ ถ้าไม่นับรวมพวกอัจฉริยะล่ะก็นะ
ป๊อก เสียงวัสดุบางอย่างแหวกอากาศและกระทบเข้ากับหัวของฉันอย่างจัง คนขว้างคงจะตั้งใจจะเล็งหัวฉันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมันตรงหัวฉันราวกับจับวาง ไม่ต้องเดาฉันก็รู้เลยว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของคนคนนั้นแน่
ร่างสูงยืนพิงต้นไม้ ผมสีแดงตัดกับผิวขาวปลิวสยายไปตามแรงลมจากลูกแก้วสีเงินขนาดย่อมในมือ รอยยิ้มกวนๆที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อๆนั้น ไม่ดึงดูดความสนใจเท่าของที่เขาถืออยู่
“อคิน นี่ของเล่นใหม่ของนายเหรอ” ฉันถามพร้อมหยิบลูกแก้วที่เขาขว้างใส่หัวฉันขึ้นมาชู ลูกแก้วทั้งสองลูกที่เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน
“อ้อ! ใช่นี่ฉันให้เธอดูเป็นคนแรกเลยนะ วอดก้า สวยใช่ไหมล่ะ” อคินพูดพลางกวักมือเรียกฉันให้ขึ้นไปหาเขาบนต้นไม้ แต่ฉันกลับยืนนิ่ง พอเห็นฉันไม่ยอมขึ้นไป อคินก็ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
“จับลูกแก้วนั่นดีๆล่ะวอดก้า ถ้าเธอยังไม่อยากตกลงไปนะ” อคินหยิบอุปกรณ์ควบคุมและกดสั่งงาน ไม่นานลูกแก้วก็พ่นใยสีแดงบางเบาที่สานต่อกันจนกลายเป็นปีกขนากเล็ก และเคลื่อนมาติดข้อมือทั้งสองข้างของฉัน ปีกกระพือขึ้นอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะค่อยๆเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น จนสามารถทำให้เท้าฉันลอยขึ้นเหนือระเบียง แอร์บอร์ดแก้วสีแดงใสที่มาแทนปีกพาฉันขึ้นไปบนต้นไม้ และปล่อยฉันลงอย่างสวัสดิภาพ
“เจ๋งใช่ไหมล่ะ” อคินพูดพร้อมส่งยิ้มมาให้
“นายทำมันได้แล้วสินะ อคิน” หมอนั่นยิ้มรับอีกครั้ง ก่อนจะปรับสีหน้าจริงจัง อคินคว้าข้อมือฉันไว้และพาฉันกระโดดลงบนแอร์บอร์ด ทันทีที่เราสองคนทะทานขึ้นบนฟ้า สายนิรภัยจากแอร์บอร์ดก็รัดเราสองคนไว้ในทันที
“นายจะพาฉันไปดูสิ่งนั้นสินะ แผนกพัฒนาการณ์สิ่งประดิษฐ์ของนายไปถึงไหนแล้วล่ะ อคิน”
“สิ่งประดิษฐ์ที่พัฒนาจากวิทยาการณ์ต้นแบบของเธอ พัฒนาไปหลายอย่างแล้ว รวมทั้งวิทยาการณ์ นาโนพวกนั้นด้วย” ฉันยิ้มรับกับข่าวดี คงอีกไม่นานวิทยาการณ์นาโนคงจะสมบูรณ์ซะที หวังว่านะ
“ของเล่นใหม่นี่ก็ด้วยสินะ” พูดจบก็หันมองอคินด้วยแววตารู้ทัน
“มองออกสมกับเป็นเธอจริงๆ วอดก้า” อคินพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวฉันอย่างถือวิสาสะ แต่ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันสบายใจอย่างประหลาด เราสองคนร่อนมาจนถึงโดมแก้วขนาดยักษ์ ในโดมเต็มไปด้วยพันธ์ไม้นาๆชนิด เราสองคนร่อนลงจอดบนพื้นซีเมนต์หน้าโดม
‘หน่วยวิจัยพัฒนาการณ์ต้นไม้ สังกัด แผนกพัฒนาการณ์พันธ์พืช พิกัด F 1996-7 บอสตัน สหรัฐอเมริกา’
ทางเข้าโดมมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยและแน่นหนาที่สุดเท่าที่มีในตอนนี้ ฉันเดินไปยังจุดรับตัวเพื่อยืนยันตัวบุคคน ประตูทางเข้าเปิดให้ฉันกับอคินเดินเข้าไปข้างใน และปิดลงทันทีที่ขาของเราสองคนก้าวพ้นประตู
ผลงานอื่นๆ ของ Alinchar ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Alinchar
ความคิดเห็น