กรรมไล่ล่า ตอน รักซ้อน ซ่อนปม ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น - นิยาย กรรมไล่ล่า ตอน รักซ้อน ซ่อนปม ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น : Dek-D.com - Writer
×

    กรรมไล่ล่า ตอน รักซ้อน ซ่อนปม ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น

    เรื่องราวความรักของหนุ่มสาว ที่ซับซ้อน ซ่อนปม อ่านสนุก มันส์ทุกตอน พร้อมกับผลกรรมของคนที่ประพฤติตัวไม่ดี ผลจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในรักซ้อน ซ่อนปม

    ผู้เข้าชมรวม

    18

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    18

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  25 พ.ย. 67 / 15:09 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    แซม ชายหนุ่มรูปหล่อ บ้านมีฐานะดี พ่อแม่เปิดโชว์รูมขายรถหรู แถมยังมีร้านทองย่านใจกลางกรุง แซมถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุได้แค่ 12 ขวบ ครั้นพอเรียบจบปริญญาตรี อายุได้ 22 ปี แซมก็ถูกตามตัวให้กลับมาช่วยเหลืองานที่ครอบครัว และด้วยความเป็นลูกคนเดียว จึงเป็นความหวังของพ่อและแม่

    “แซมจะกลับบ้านวันไหนล่ะลูก แม่จะได้ไปรับที่สนามบิน” แม่โทรคุยกับแซม เสียงจากคนไกลทำให้แม่คิดถึงอย่าหาที่เปรียบไม่ได้

    “ผมอยากจะขออยู่ต่ออีกสักหน่อยได้ไหมครับแม่”​ แซมยังคงไม่พร้อมที่จะกลับมาดูแลกิจการของครอบครัว และยังอยากใช้ชีวิตหลังเรียนจบ เพื่อท่องเที่ยว

    “แต่พ่อและแม่คิดถึงลูกมาก แล้วก็ยังมีกิจการที่อยากให้ลูกกลับมาช่วยอยู่นะลูก” เสียงแม่อ้อนวอนผู้เป็นลูก

    “ถ้างั้นผมขออยู่อีกสัก 1 ปีได้ไหมครับแม่ ขอผมใช้ชีวิต ตามประสาหนุ่มไฟแรง แต่ยังไม่พร้อมทำงานได้ไหมครับแม่” เสียงออดอ้อนของผู้เป็นลูก ทำให้แม่ใจอ่อนทุกที

    “อะ เอางั้นก็ได้ สัญญานะ ว่าแค่ปีเดียว” 

    “สัญญาครับแม่” 

    ทั้งคู่ตกปากรับคำกันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ และหลังจากที่แซมเรียนจบ ก็เริ่มท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้ แซมไปเที่ยวทั่วประเทศที่ตนอยู่ แล้วก็ไปยุโรป แล้วที่ยุโรปนี่เอง ที่ทำให้แซมได้พบกับมุข มุขมาเที่ยวกับบริษัททัวร์ในวันนั้น แล้วประจวบเหมาะเป็นวันที่แซมไปเที่ยวยังที่ๆนั้นพอดี

    แซมหันไปมองกรุ๊ปทัวร์ที่มาเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ส่งเสียงดังจอแจ ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง แต่ทว่าท่ามกลางความคิดของแซม ที่บ่นกับการทำเสียงดังของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ สายตาของแซมก็เห็นว่าในกลุ่มนั้นมีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งที่ยืนเหม่อลอย ไม่พูดไม่จากับใคร สายตาของเธอช่างเศร้าหมอง แต่สิ่งที่ดึงดูดให้แซมต้องจ้องมองไปที่เธอ เพราะความน่ารัก ตากลม ผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง ผมยาวสลวย นี่ทำให้เธอดูโดดเด่นกว่าใครในกลุ่ม

    แซมเหม่อมองเธออยู่นาน จนกระทั่งเธอค่อยๆเดินจากไปพร้อมกับกลุ่มท่องเที่ยวที่ส่งเสียงดัง แซมมองเธอจนลับตาไป เหมือนคนที่ไม่มีสติ จนกระทั่งแซมรู้สึกตัวอีกที เธอก็หายไปแล้ว และในวันนั้น แซมก็นั่งครุ่นคิดถึงแต่ผู้หญิงคนนี้ เพราะถึงแม้แซมจะยังเป็นโสด แต่แซมก็มีผู้หญิงมาติดพันหลายคน 

    “ตื้ด ตื้ด ตื้ด ตื้ด“ เสียงโทรศัพท์สั่น เพราะมีคนโทรหาแซม

    “ฮัลโหล” 

    “แซมอยู่ไหนคะ ทำไมลี่ไปหาที่ห้อง เค้าบอกย้ายออกไปแล้ว” เสียงปลายสาย ส่งเสียงถามแซมเชิงดุปกสงสัย

    “แซมจะกลับบ้านแล้ว”

    “แล้วนี่แซวมอยู่ไหน ทำไมกลับไปเห็นบอกลี่เลย”

    “ลี่ พเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันนะ ทำไมผมต้องรายงานลี่ด้วย”

    “แต่แซมคะ เราสองคนรู้จักกันมาหลายปีแล้ว แล้วเราก็มีอะไรกัน ไปไหนมาไหนกัน ใครๆ ก็มองว่าเราเป็นแฟนกันนนะ”

    “เราเป็นแค่เพื่อนกันนะลี่ อย่าลืมสิว่าผมบอกคุณตั้งกี่ครั้งแล้ว”

    “อะไร แซมจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้นะ”

    “ผมไม่อยากทะเลาะด้วยนะลี่ แค่นี้นะ” แซมพูดจบก็วางสายในทันที ปล่อยให้ลี่ ปลายสายนั้นยืนอ้าปากค้าง เพราะยังไม่ทันจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้

    “กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด” ลี่ร้องกรี๊ดเสียงดังอยู่คนเดียว 

    “นายจะมาทิ้งฉันไม่ได้นะ คอยดูเถอะ” ลี่เก็บความคับแค้นไว้ในใจ แล้วก็แต่งตัวสวยออกไปเที่ยว พลางคิดในใจว่า จะต้องกลับไปตามแก้แค้นแซมให้ได้ ที่มาทิ้งกันอย่างหน้าตาเฉย 

    “เฮ้อ ก็เป็นซะแบบนี้ใครจะอยากอยู่ด้วย” แซมบ่นในใจ ว่าแล้วก็พลางนึกถึงสาวน้อยน่ารักคนที่เจอวันนั้น ป่านนี้เธอจะอยู่ที่ไหน ทำไมสายตาของเธออย่างเศร้าสร้อยเสียนี่กระไร คิดไปคิดมา แซมก็เผลอหลับไป

    “มุขๆ ตื่นได้แล้ว” เสียงดังลั่นปลุกมุขที่กำลังนอนสบายอยู่บนเตียงในโรงแรมกลางกรุงปารีส 

    “หือ อะไรอ่ะอ้อน มาปลุกทำไม” พูดจบก็พลางหยิบหมอนมาอุดหู 

    “สายแล้วเนี่ย เค้านัดไว้ 9 โมง นี่มัน 8 โมงครึ่งแล้ว ตื่นๆๆ เดี๋ยวฉันรีบอาบน้ำก่อน” 

    “อือ โอยนอนต่อดีกว่า” เสียงปลุกของอ้อนนั้นดูจะไม่ได้ผล มุขยังคงนอนอยู่ที่เดิม

    หลังจากที่อ้อนอาบน้ำเสร็จก็ต้องมาลากขมุขลงจากเตียง พอทั้งคู่พร้อมก็รีบวิ่งลงไปที่ล็อบบี้ตามที่กรุ๊ปทัวร์ได้นัดแนะเอาไว้

    “มาแล้วเหรอครับ ผมกะว่าจะโทรตามอยู่พอดี” เสียงไกด์หนุ่มบอกกับทั้งคู่ ทันที่เห็นทั้งคู่วิ่งมาหา

    “ขอโทษด้วยค่ะ พอดีเมื่อคืนดึกไปหน่อย”

    “ครับ ไม่เป็นไรครับ เอาล่ะครับทุกๆ คน พร้อมแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางกันดีกว่าครับ” 

    เสียงของเดย์ไกด์หนุ่มเรียกลูกทัวร์ทุกๆคน ที่นั่งรอเพื่อเริ่มออกเดินทาง แต่ทว่าสายตาของทุกคนนั้น ออกแนวติเตียนและนินทา มุขกับอ้อนอยู่ไม่น้อย เพราะนั่งคอยอยู่นาน

    “แล้วนี่ก็คือหอไอเฟลชื่อดังนะครับ … ” เดย์อธิบายถึงประวัติของสถานที่เที่ยวยอดนิยม 

    “เอาล่ะครับ เดี๋ยวผมจะปล่อยให้ทุกๆคน ได้เดินเล่นและถ่ายรุปกันนะครับ แล้วเดี๋ยวเรากลับมาเจอกันตอน 11 โมงครึ่งนะครับ” พูดจบเดย์ก็ปล่อยลูกทัวร์ให้เดินเที่ยวเล่นตามอัธยาศัย 

    มุขกับอ้อนควงแขนกันเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูป

    “มุข แกทำหน้ามีความสุขหน่อยสิ ทำอย่างกับคนจะตาย”

    “ก็…” 

    “พี่ไมค์ เค้าไปดีและ ไปเจอคนที่เค้าชอบกว่าแก แกจะมานั่งคิดมากอยู่อีก”

    “ก็ฉันรักเค้านี่”

    “แล้วเค้ารักแกไหมล่ะ ตื่นได้แล้ว แล้วก็ทำหน้าดีๆ หน่อยจะได้ถ่ายรูปสวยๆ”

    “แกก็พูดง่ายนี่”

    “แกจะทำอะไรให้มันยากวะ แล้วยิ่งเค้าทิ้งแกไปหาผู้หญิงคนอื่น แกยิ่งต้องรักตัวเองให้มากรู้ไหม”

    ว่าแล้วอ้อนก็ลากมุขมาถ่ายรูปรอบๆ หอไอเฟล 

    “เอ้า ยิ้มหน่อยแก” มุขพยายามฉีกยิ้มในระหว่างที่อ้อนพยายามถ่ายรูปคู่แบบเซลฟี่

    แต่ไม่ทันได้สิ้นเสียงของอ้อนก็มีเสียงหนุ่มดังขึ้น

    “ให้ผมช่วยถ่ายรูปให้ไหมครับ” 

    พอสิ้นเสียง ทั้งคู่ก็หันไปมอง ก็เจอชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวสุภาพ ยืนอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่ 

    “ผมช่วยถ่ายให้นะครับ จะได้ได้รูปสวยๆ”

    พออ้อนเห็นชายหนุ่มหน้าตาดี ก็สะกิดมุข 

    “แกๆ ดูสิหน้าตาดีเชียว” ไม่ทันที่จะรอฟังว่ามุขจะพูดว่าอย่างไร อ้อนก็ถลาเข้าไปใกล้กับหนุ่มหน้าตาดีเสียแล้ว

    “ได้สิคะ นี่ค่ะมือถือ ฝากด้วยนะคะ”

    “ได้ครับ” 

    ชายหนุ่มคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากแซม ซึ่งแซมนั้นเดินผ่านมาพอดี แล้วก็ต้องสะดุดตากับมุข หญิงสาวที่เค้าเจอเมื่อวาน ทันทีที่เห็นแซมก็รีบเดินไปหาทั้งคู่ แล้วเสนอตัวถ่ายรูปให้ แล้วแซวมก็ถ่ายรูปให้กับทั้งคู่อย่างเต็มที่ 

    “พร้อมนะครับ 1 2 3” 

    “เอ่อ ยิ้มหน่อยครับ” แซมพยายามทำให้ทั้งคู่นั้นยิ้มเพื่อที่รูปจะได้ออกมาสวยๆ 

    “มุข แก ยิ้มหน่อยสิ” อ้อนพูดจบแล้วก็เอาแขนสะกิดมุข

    “อือ อือ” เสียงตอบรับแบบเสียไม่ได้ของมุขทำเอาอ้อนหมดอารมณ์

    พอถ่ายรูปกันได้สักพัก ทั้งคู่ก็เริ่มจะขอตัวไปเดินเล่นกัน

    “ขอบคุณมากๆนะคะ” อ้อนขอบคุณแซมที่มาช่วยถ่ายรูปให้

    “ครับ ไม่เป็นไรครับ เอ่อ แล้วนี่มาเที่ยวกันสองคนเหรอครับ” แซมถือโอกาสชวนอ้อนคุยเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับมุข

    “อ๋อ ใช่ค่ะมาเที่ยวค่ะ แต่ว่ามากับกรุ๊ฟทัวร์นะคะ นี่เค้าปล่อยให้เดินเล่นกันเองค่ะ แล้ว..เอ่อ..”

    “เรียกผมแซมก็ได้ครับ ผมมาเที่ยวคนเดียวครับ” 

    “อ๋อค่ะ เราชื่ออ้อนนะคะ แล้วนี่ก็มุขเพื่อนเรา”

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ แล้วจะอยู่ที่เมืองนี้อีกนานไหมครับ”

    “ไม่นานแล้วค่ะ มาหลายวันแล้ว พรุ่งนี้ก็กลับแล้วค่ะ”

    “ถ้างั้นผมอยากจะขอไลน์หรือว่าเบอร์ไว้เผื่อกลับไทยแล้วจะได้ติดต่อกันดีไหมครับ” แซมรีบเอิ้นเอ่ยขอเบอร์ของอ้อนไว้ อย่างน้อยๆ ก็จะได้ติดต่อมุขได้ด้วยเหมือนกัน

    “ได้สิคะ“ อ้อนรีบตอบตกลง แต่มุขนั้นกลับยืนเหม่อลอยแบบไม่สนใจต่อสิ่งรอบข้าง

    “นี่ค่ะ” หลังจากแลกกันเสร็จแล้ว ทั้งหมดก็แยกย้ายกัน โดยสายตาของแซมนั้น คอยมองมุขอยู่ไกลๆ แต่มุขก็ไม่อยากมาคุยด้วยหรือสนใจแซมเลย 

    “แก เค้าขอเบอร์ฉันด้วย หน้าตาดี ดูดี ท่าทางจะรวยด้วยนะแก” อ้อนพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง

    “อือ” 

    “เอ้า แก ไม่สนใจฉันเลย เฮ้อ” อ้อนถอนหายใจ เพราะมุขไม่ได้สนใจอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย

    “ไป กลับไปหากรุ๊ปทัวร์เรากัน”

    พูดจบอ้อนก็ลากแขนมุขเดินไปหากรุ๊ปทัวร์ตามเวลา

    หลังจากวันนั้นแซมก็ส่งข้อความหาอ้อนเป็นระยะๆ เพื่อรักษาการติดต่อเอาไว้ โดยหลังจากที่อ้อนกับมุขกลับมาจากต่างประเทศ ก็ได้แยกย้ายกันไปทำงาน ซึ่งการที่ทั้งคู่ไปเที่ยวต่างประเทศนั้น ก็เป็นเพราะว่ามุขนั้นเพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มที่ชื่อมิค

    โดยมิคกับมุขนั้นคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน จนกระทั่งเรียนจบ ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปทำงาน ซึ่งทั้งคู่ก็รักกันอย่างมาก เพราะรักกันมานาน 

    จนกระทั่งวันหนึ่งที่ทำงานของมิคก็รับนักศึกษาฝึกงานเข้ามาใหม่ มีชื่อว่าปุ้ม ปุ้มเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารัก นิสัยดีและเรียบร้อยมาก ซึ่งทำให้มิคนั้นนึกย้อนกลับไปถึงมุขสมัยยังเป็นนักเรียน เพราะมีลักษณะหน้าตาละม้ายคล้ายกัน จะต่างกันอย่างเดียวก็ตรงที่มุขก็เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ในขณะที่ปุ้มนั้นยังเด็ก 

    แล้วมิคก็พูดคุยกับปุ้มรุ่นน้องได้อย่างถูกคอ ประหนึ่งเหมือนคุยกับมุข แต่กลับใช้เวลาด้วยกันมากกว่าที่ใช้กับมุข พอนานวันเข้ามิคก็หลงรักปุ้มอย่างไม่รู้ตัวเลย จนทำให้มุขนั้นจับได้ว่าทั้งคู่นั้นแอบคบกัน เพราะความพลาดของมิค โดยวันนั้นเป็นวันที่มิคพาปุ้มมาที่คอนโดของตัวเอง โดยไม่ได้บอกมุข แล้ววันนั้นก็เป็นวันที่มุขนั้นมาหามิคที่คอนโดแบบเซอร์ไพร์ส จึงทำให้มุขเห็นว่ามิคนั้นอยู่กับปุ้มในห้องสองต่อสอง 

    “มิคทำอย่างนี้กับมุขได้ยังไง มุขไม่เคยนอกใจมิคเลยนะ ไม่ว่าจะมีใครมาจีบ” มุขพูดไปก็ร้องไห้โวยวายไป แบบที่มิคไม่เคยเห็น

    “ใจเย็นๆ นะมุข มิคกับปุ้มยังไม่ได้มีอะไรกัน”

    “ยังไม่มีอะไรกัน แต่กำลังจะมีใช่ไหม” 

    “มิค มิคขอโทษนะปุ้ม” คงไม่มีคำแก้ตัวอะไรมากไปกว่านี้ นอกจากยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองทำ

    ”แล้วมิคจะเอายังไง“ มุขถามมิคกลับไป

    ”มิค มิค” มิคกำลังสับสนนและเลือกไม่ได้ระหว่างมุขหรือปุ้ม

    “พี่หนูขอโทษ หนูไม่รู้ว่าพี่มิคเค้ามีพี่อยู่แล้ว” ปุ้มเอ่ยปากขอโทษ ทันทีที่รู้ว่ามิคมีแฟนอยู่แล้วคือมุข

    “ไม่ต้องมาขอโทษ จะไม่รู้ได้ไงว่ามิคเค้ามีแฟนแล้ว” มุขพูดไปก็พลางเอามือจับแขนปุ้ม แต่จับได้ไม่ทันไร มิคก็รีบจับแขนของมุขออกจากปุ้ม 

    “มิค” มุขตวาดใส่มิค 

    “มุขใจเย็นๆ น้องเค้าไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย” 

    “นี่มิคปกป้องมันเหรอ” 

    “มุข มิคว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วนะ” 

    “แล้วจะให้รู้เรื่อง มิคก็บอกมาสิว่าจะเอายังไง”

    “พี่คะ เดี๋ยวปุ้มไปเอง” 

    ทันทีที่ได้ยินปุ้มพูดแบบนี้ มุขก็เกิดอารมณ์ เพราะคิดว่าปุ้มกำลังจะพูดเพื่อทำให้มิคนั้นใจอ่อน พลางคิดไปว่าปุ้มแสแสร้งทำตัวเป็นนางเอก ไม่ทันที่ปุ้มจะได้ทำอะไร มุขก็ตบปุ้มเข้าที่แก้มด้านซ้ายเต็มแรง

    “โอ๊ย!” เสียงปุ้มร้องด้วยความตกใจ

    “มุข ทำอะไรน่ะ” มิคพูดจบก็เอารีบเข้าไปประคองปุ้ม แล้วก็ขวางมุขเอาไว้

    “นี่มิค ปกป้องมันเหรอ” 

    “มิคว่ามุขกลับไปเถอะ” มิคพูดด้วยความเศร้าปนเสียใจ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น 

    “มิคเลือกมันใช่ไหม” มุขถามย้ำมิคอีกครั้งหนึ่ง

    “มิคไม่รู้ มุข แต่มุขไม่ควรทำรุนแรงแบบนี้กับน้องปุ้ม มิคว่ามุขไปสงบสติอารมณ์ แล้วเราค่อยมาคุยกันนะ“ 

    มุขนั้นกำลังตกอยู่ในอาการของคนที่กำลังโกรธ เลยทำอะไรลงไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว แต่ภาพที่เห็นตอนนี้คือนมิคกำลังปลอบใจปุ้ม และไม่ได้สนใจตัวเองเลย มุขปาดน้ำตาแล้วเดินออกจากห้องไป 

     

    หลังจาากวันนั้นมุขก็พยายามโทรหามิค ทั้งโทร ทั้งส่งข้อความ แต่ก็ไม่มีอะไรตอบกลับจากมิคอีกเลย แล้วนี่ยิ่งทำให้มุขนั้นเกิดความเสียใจมากกว่าเดิม มุขนั้นเลยบอกเล่าทุกอย่างให้กับอ้อน เพื่อนสนิทได้ฟัง 

    “มุข แกคบกับมิคมานานมากนะ นี่ก็น่าจะได้สิบปีแล้ว มิคก็ไม่เคยนอกใจแก ฉันว่าวันนั้นเค้าอาจจะไม่มีอะไรกันหรือเปล่า แล้วแกก็ทำเกินไปไหม” 

    “เค้าอยู่ในห้องกันสองต่อสองคนอ้อน ถ้าเป็นแก แกจะคิดยังไง”

    “ฉันว่าแกใจเย็นๆก่อน”

    “แล้วนี่ฉันโทรหามิค มิคก็ไม่รับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบเลย ฉันร้อนใจ กลัวเค้าจะเลิกกับฉัน”

    “ตอนนี้มิคเค้าคงกำลังโกรธ ฉันว่าแกใจเย็นๆ อย่าเพิ่งตามเค้าตอนนี้ ให้เวลาเค้าหน่อยดีไหม”

    “ฮือๆ ๆ ” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังมาตามสาย 

    “ใจเย็นๆ เอาอย่างนี้ไหม แกไปเที่ยวกับฉัน ผ่อนคลาย แล้วกลับมาเมืองไทยก็ค่อยว่ากันดีไหม”

    “ฮือๆๆ ” ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ นอกจากเสียงร้องไห้มาตามสาย 

    “งั้นฉันจองให้แกเลยนะ แล้วแกไปลางาน ไปยุโรปไหม อากาศดี แกจะได้ใจเย็นๆลง”

    “อือ” เสียงตอบของมุขดังเอื่อยๆ 

    “งั้นตามนี้นะ แล้วอย่าลืมนะ อย่าไปตามมิค ปล่อยเค้าไปก่อน แกยิ่งตาม เค้ายิ่งหนีแกนะ แกเชื่อฉัน“

    “ก็ได้แก ขอบใจนะ” 

    แล้วหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ลางานแล้วก็ไปเที่ยวยุโรป และทำให้ได้เจอกับแซม ชายหนุ่มรูปงามที่เมืองปารีส 


     


     

    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น