สลับร่าง ซ่อนรัก - นิยาย สลับร่าง ซ่อนรัก : Dek-D.com - Writer
×

    สลับร่าง ซ่อนรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    6

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    6

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 พ.ย. 67 / 13:25 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    “เอ้า ตื่นๆ” เสียงดังลั่นไปทั่วป่า ทำให้ทุกๆคน ค่อยลืมตาอย่างช้า 

                “ได้เวลาไปหาอะไรทำกันแล้ว เร็วเข้าๆ” 

                “พรึ้บ” เสียงเปิดผ้าที่ทำเป็นที่พักชั่วคราวดังขึ้น พร้อมกับเสียงบอกผู้ที่ยังนอนหลับอยู่ในที่พักชั่วคราวกลางผ่าแห่งนี้ 

                “เฟยหลง ทำไมวันนี้ท่านยังไม่ตื่น ผิดวิสัยของท่าน”

                เสียงบ่นพึมพำของลู่เหอ พูดในขณะที่เฟยหลงยังคงนอนไม่ขยับตัว พอเห็นดังนี้ลู่เหอ จึงเอามือเขย่าตัวของเฟยหลง แต่ร่างของเฟยหลงกลับนิ่ง ตัวซีดเผือก 

                “เฟยหลง! เฟยหลง! ท่านเป็นอะไร”

                ลู่เหอเริ่มร้องเสียงหลง เพราะร่างของหัวหน้ากองโจรมีนามว่าเฟยหลงนั้นไม่ขยับแม้แต่นิด ลู่เหอค่อยๆ เอามือไปอังตรงปลายจมูกเพื่อจะได้รู้ว่าผู้เป็นหัวหน้ายังมีลมหายใจอยู่ไหม 

                แต่พอเอามือไปอังก็ต้องตกใจมากกว่าเดิม เพราะเฟยหลงนั้นไม่มีลมหายใจเสียแล้ว 

                “ท่านเฟยหลง ท่านเฟยหลง ข้าจักทำเช่นไรดี” ลู่เหยเขย่าตัวเฟยหลงอย่างแรงอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีอาการตอบกลับมาแต่อย่างใด

                “โถ..ท่านเฟยหลง ท่านสิ้นใจแล้ว” 

     

                ลู่เหอลูกน้องมือขวาของเฟยหลงที่อยู่ด้วยกันมาช้านาน ก็ได้ทำการปล่าวประกาศบอกลูกน้องทุกๆคน 

                “ท่านเฟยหลงได้สิ้นชีพแล้ว ต่อไปข้าจักเป็นคนดูแลพวกเจ้าทุกคนเอง..” 

                แต่ในระหว่างที่ลู่เหอกำลังบอกทุกคนให้เตรียมตัวฝังศพหัวน้าเฟยหลง จู่ ๆ ลมก็พัดแรง ราวกับพายุย่อมๆ พัดจนเพิงที่พักที่ทำชั่วคราวนั้นล้มไม่เป็นท่า 

                “เฮ้ยเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทุกคนหลบเร็วๆ​ ระวังต้นไม้ล้มเสียด้วย” 

     

                ทุกคนพากันวิ่งหาที่หลบ เพื่อให้รอดพ้นจากกิ่งไม้ที่หล่นลงมา รวมไปถึงเต็นท์ที่สร้างชั่วคราวก็เริ่มล้ม พังทลายลง แต่ในระหว่างที่ทุกอย่างเริ่มรุนแรงขึ้น ก็มีเสียงฟ้าผ่าดัง “เปรี้ยง!” ดังลงมากลางที่พักของเฟยหลง ทุกคนที่เห็นก็ออกอาการตกใจ ทันใดนั้นร่างของเฟยหลงก็เริ่มกลับมีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

     

                เฟยหลงค่อยๆ ลืมตาช้าๆ ท่ามกลางซากปรักหักพังของเพิงที่สร้างชั่วคราว สายตาที่พร่ามัวก็เริ่มค่อยๆ ชัดขึ้น 

    ในตอนนั้นเป็นตอนที่ทุกๆ คน ค่อยพากันรื้อซากเพื่อหาร่างของเฟยหลง

                “เร็วมาช่วยกันเอาร่างท่านเฟยออกมา” ลู่เหอสั่งลูกน้องให้ช่วยกันหาร่างเฟยหลงที่หายไปในซากปรักหักพัง

                ทันทีที่เอาร่างเฟยหลงออกมาได้ ทุกคนก็ต้องตกใจเพราะเฟยหลงนั้น ร้องไม่เป็นภาษาคน

     

                “เฮ้ย พวกท่านเป็นใคร แล้วทำอะไรกับข้า ข้าถึงมานอนอยู่ตรงนี้”

                “ท่านเฟย ท่านเฟย ใจเย็นๆ นี่พวกข้าเอง” ลู่เหอบอกเฟยหลงพร้อมกับจับร่างของเฟยหลงไว้ให้อยู่นิ่ง

                “ข้าไม่รู้จักพวกท่าน พวกท่านเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหน”

                “พวกเรามาตั้งค่ายอยู่ตรงนี้ตามคำสั่งของท่านเฟยขอรับ”

                “เฟยไหน ข้า ข้า…” เฟยหลงพูดพร้อมกับจับหน้าตัวเอง แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่เหมือนเดิมทั้งรูปร่าง และหน้าตา 

                “น้ำ น้ำ ข้าต้องการน้ำ” เฟยหลงพูดเสียงหลง แล้วทุกคนก็กุลีกุจอ รีบหาน้ำมาให

                “ข้าขอชามสักใบ”

                “นี่ขอรับ”

                เฟยหลงค่อยๆ รินน้ำลงในชามแล้วชะโงกหน้าลงไปดู และทันทีที่เห็นก็ต้องตกใจถึงกับผงะ แล้วก็สะบัดหน้าอยู่หลายครั้ง เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

                “ท่าน ท่านเฟยหลง ท่านเป็นอะไร” ลู่เหอลูกน้องคนสนิทถามออกไปด้วยสีหน้าสงสัย

                “ข้า ข้า” 

                “ท่านฟื้นแล้ว ดีจริงเชียว ฟ้าให้ท่านกลับมา ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย” ลู่เหอบอกด้วยความดีอกดีใจ

                “ท่านเป็นใคร” เฟยหลงถามออกไปด้วยความสงสัย

                “ข้า ลู่เหอไง” 

                “ข้า ขอเวลาชั่วครู่” เฟยหลงบอกกับลู่เหอ แล้วค่อยๆ สะบัดตัว แล้วลุกขึ้น

                “เอ้า พวกเจ้า หลีกท่างให้ท่านเฟย” ทุกๆคนที่ล้อมดูอยู่ ก็ค่อยๆ เปิดทางให้เฟยหลงเดินออกไป เฟยหลงเดินตัวลอยออกไปเหมือนคนไม่ได้สติ 

                “นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ข้าเป็นใครกันแน่ แล้วที่นี่ที่ไหน” เฟยหลงพูดไปก็พลาง ก็เดินไปพลาง เดินออกมาได้สักระยะ ก็นั่งลงกับพื้น 

                “ไม่จริง ข้ามาอยู่ในร่างนี้ได้ยังไง” 

     

                เสียงลมเอื่อยกระทบกับต้นไม้และสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ไป่ชิง นั่งโล้ชิงช้าอย่างสบายใจอยู่ผู้เดียว ในใจก็พลางคิดว่า 

                “อีกไม่นานเราก็จะได้แต่งงานกับเฉินฟู่แล้ว ดีเสียจริง” 

                ฉับ ฉับ ฉับ เสียงฝีเท้าเหยียบย่ำใบไม้แห้งที่อยู่รอบดังมาแต่ไกล ไป่ชิงได้ยินก็รีบหันไปดู ก็พบกับสาวรับใช้คนสนิทที่กึ่งวิ่ง กึ่งเดินรีบมาหานาง

                “มีอะไรหรือเหมยลี่” ไป่ชิงรีบถามไปทันทีที่สาวใช้เหมยลี่เดินมาถึง

                “แย่แล้ว แม่นางไป่ชิง” 

                “ทำไม มีอะไร”

                “ท่านเฉิน ท่านเฉิน…” พูดไปพลางหอบไป

                “ทำไม อาเฉินเป็นอะไร บอกข้า บอกข้าเดี๋ยวนี้”

                “ท่านเฉินสิ้นแล้ว”

                “หา อะไรนะ” สิ้นเสียงอุทาน ไป่ชิงก็เป็นลม ล้มฟุบไป

                “ท่านหญิง ท่านหญิง ใครก็ได้ช่วยที” สาวใช้เหมยลี่ร้องเสียงหลง เรียกให้ทุกคนรีบมาช่วย

     

                ไป่ชิงถูกนำตัวมาที่ห้องนอนของนาง ไม่นานนักไป่ชิงก็ค่อยฟื้นจากการสลบ แต่ทันทีที่ฟื้นก็รีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายนั้นยังไม่พร้อมเลยทำให้ล้มฟุบลงไป

                “ท่านหญิง อย่าเพิ่งลุก” เหมยลี่บอกนายหญิงคนสนิทของตน 

                “อาเฉิน อาเฉิน” ไป่ชิงค่อยๆ เอ่ยปากเรียกคู่หมั้นหมายของตน

                “อาเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ข้าจะไปหาเค้า” 

                “ตอนนี้นายหญิงยังไม่แข็งแรง รอให้แข็งแรงค่อยไปนะเจ้าคะ” เหมยลี่บอกเจ้านายของตน

                “ไม่ ข้าจะไปหาคู่หมั้นของข้า พาข้าไปเดี๋ยวนี้” 

                “แต่…ท่านหญิง”

                “ไม่มีแต่… พาข้าไปเดี๋ยวนี้!” ไป่ชิงออกเสียงสั่งบ่าวผู้รับใช้

                “ได้ค่ะ นายหญิง” 

     

                กึบกับ กึบกับ เสียงรถม้าวิ่งอย่างเร็ว เพื่อพาคนที่นั่งอยู่ในรถม้าให้ไปถึงจุดหมายอย่างเร็วที่สุด

                “เจ้าเล่าให้ข้าฟังที ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาเฉิน” ไป่ชิงถามเหมยลี่ในระหว่างอยู่ในรถม้า

                “ข้าได้ข่าวมาว่าท่านเฉินฟู่นอนอยู่ แล้วก็สิ้นใจไปเสียดื้อ ๆ ไม่มีเค้าลางบอกเหตุอะไรเลยท่านหญิง” พอสิ้นเสียงเหมยลี่ จู่ๆ ก็เกิดพายุพัดแรง จนม้าที่นำไป่ชิงมานั้นหยุดวิ่งเสียดื้อๆ 

                “โอ๊ย นี่เกิดอะไรขึ้นนี่” เหมยลี่เอ่ยปากลอยๆ ออกไป 

                “นั่นสิ เกิดอะไรขึ้น”

                ว่าแล้วเหมยลี่ก็เปิดผ้าออกดู ก็เห็นลมพายุพัดแรง จนม้าเริ่มเตลิด 

                “ข้าว่าเราต้องหยุดพักกันก่อนนะ” เสียงคนควบม้า จือห้าวบอกกับเหมยลี่

                “ได้ๆ” เหมยลี่ตกปากรับคำ แล้วก็บอกให้นายหญิงของตนนั่งคอยในรถม้า จนกว่าลมพัดแรงนี้จะสงบ

                “มันเกิดอะไรขึ้น เหมยลี่ ข้าอยากรีบไปหาอาเฉินใจจะขาดแล้ว”

                “ใจเย็นๆก่อน นายหญิง เดี๋ยวพอลมสงบ เราค่อยไปหาท่านเฉินกัน”

                “จู่ ๆ ก็มีพายุลมแบบนี้ มันเป็นลางไม่ดีนะ เหมยลี่” เหมยลี่พยักหน้ารับ แล้วก็พลางกวาดตามองไปรอบๆ แต่ลมก็ยังพัดแรงอยู่ ทั้งหมดรอให้พายุสงบอยู่ชั่วยาม พายุก็เริ่มสงบลง

                “พวกเราเดินทางต่อได้แล้วขอรับ” จือห้าวบอกกับทั้งสองคน

                “งั้นก็รีบไปกันเลย”

                สิ้นเสียงนายหญิง จือห้าวก็รีบควบม้าเพื่อไปให้ถึงจุดหมายอย่างรวดเร็ว

     

                พอไปถึงบ้านของเฉินฟู่ ไป่ชิงก็รีบลงจากรถม้าแล้ววิ่งไปตามหาเฉินฟู่ ซึ่งนอนอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ทันทีที่ไปถึงก็เห็นพ่อและแม่ของเฉินฟู่ต่างพากันร้องห่มร้องไห้ เฉินฟู่นอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่ไหวติง

                “ข้ามาแล้ว ๆ “ ไป่ชิงรีบรุดเข้าไปหาร่างที่ไร้ลมหายใจของเฉินฟู่

                “อาเฉิน ข้ามาแล้วนะ กลับมานะ เจ้าจงฟื้นกลับมาหาข้าเถิด” ไป่ชิงพูดไปก็ร้องไห้ไป น้ำตาไหลไม่หยุด ว่าแล้วก็คว้ามือของเฉินฟู่มาไว้แนบอก แล้วน้ำตาก็ค่อยๆ ไหลลงบนตาของเฉินฟู่ที่นอนไม่ไหวติง

                

                น้ำตาของไป่ชิงค่อยๆ ไหลเข้าไปในตาของเฉินฟู่ แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าผ่าลงมายังบ้านของเฉินฟู่ ทุกๆคน พอได้ยินเสียงฟ้าผ่า ก็ร้องลั่นด้วยความตกใจ 

     

                แต่หลังจากเสียงเงียบลง เฉินฟู่กลับค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ แล้วก็หันมามองที่ไป่ชิง ผู้ซึ่งกำมือของเฉินฟู่อยู่ และร้องไห้ฟูมฟายยกใหญ่ 

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น