ตอนที่ 12 : ตอนที่ 11
ฉันรีบสาวเท้าเร็วๆ จนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง จุดหมายปลายทางคือห้องน้ำหญิง พอเข้าไปถึงก็ปิดประตูห้องน้ำดังปัง คว้าผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ออกมาจากกระเป๋ากางเกงปิดปากตัวเอง ก่อนจะ
กรี๊ด!
ลัลลา สุขกายสบายใจหาใดเปรียบ ในที่สุดฉันก็ทำนายฆนากรอึ้งกิมกี่กับผลงานฉันจนได้!
คาดว่าตอนนี้หน้าฉันคงบานเป็นกระด้ง เรื่องสวยยังไม่สนตอนนี้ขอสะใจเอาไว้ก่อน นึกถึงเมื่อครู่แล้วยังขำไม่หาย เห็นชัดว่านายฆนากรกลืนเส้นราดหน้าแทบไม่ลงคอเลยทีเดียวตอนที่เชอร์รี่เฉลยว่าฉันไปทำอีท่าไหนถึงได้ไอเดียบรรเจิดขนาดทำให้คนขี้เก๊กเกลียดขี้หน้าเด็กเส้นอย่างนายฆนากรต้องยอมรับในฝีมือเด็กเส้นอย่างฉัน
เย้!
ฉันกระโดดหมุนตัวลอยอยู่ในห้องน้ำ แม้จะยังไม่ได้รับคำวิจารณ์ของจริงจากหัวหน้าขี้เก๊กและคำชมออกจากปาก แต่จากสีหน้าท่าทางตะลึงงันไปพักใหญ่ตอนได้รับรายงาน กำลังใจในการทำงานก็มาเกินครึ่ง แม้จะปากเสียน่าหมั่นไส้ไปหน่อยตอนใช้ถ้อยคำร้ายกาจย้อนถามว่าฉันคิดเองหรือเปล่า แต่ฉันก็ดูออกหรอกน่าว่านั่นมันเป็นการกระทำของคนที่ไม่ค่อยอยากจะยอมรับความจริงในฝีมือของคนที่ตัวเองดูถูกเอาไว้
เป็นไงล่ะ เห็นฝีมืออินรินทร์แล้วหรือยัง
ยังไงขั้นต้นสำหรับวันนี้ฉันก็ถือว่ามันผ่าน แม้จะอารมณ์เสียจนเกือบปล่อยน้ำตาเล็ดตอนที่โดนนายฆนากรแกล้งทำท่าเหมือนจะเขี่ยผลงานชิ้นโบว์แดงของฉันลงถังขยะ แต่งานนี้ก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม เพราะได้ยินคำว่า ขอโทษ หลุดออกมาจากปากของนายฆนากรจนได้
ในที่สุด นายก็ต้องยอมถอยให้ฉันก้าวหนึ่ง เห็นไหม!
ฉันยิ้มร่าฉลองความสุขอยู่ในห้องน้ำครู่ใหญ่จนพอใจ ก็ออกจากห้องน้ำเดินกลับห้องทำงานเพื่อเตรียมตัวรอฟังคำวิจารณ์จากหัวหน้าขี้เก๊ก ที่ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องขอฟังเป็นบุญหูให้ได้ หลังจากทึ่งเอามากๆ ตอนได้ยินคำวิจารณ์โต้ตอบกับพี่โต้วงคิลที่มาขอคำแนะนำเมื่อเช้านี้ ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครต่างพากันเรียกนายฆนากรว่าโปรดิวซ์เซอร์มือทอง เพราะความสามารถของคนๆ นี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวแม้จะได้เห็นได้ยินเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ที่ชมเนี่ย ยังไม่ได้เลิกหมั่นไส้เรื่องขี้เก๊กหรอกนะ
แต่ตอนนี้ฉันถือว่ามันเป็นเรื่องความไม่ชอบใจส่วนตัวและพยายามเหลือเกินที่จะแยกมันออกจากเรื่องงานทั้งที่ดูท่าว่ามันจะทำได้ไม่ง่ายสักเท่าไหร่ เพราะนายฆนากรเองก็ดูจะแยกไม่ออกเหมือนกันกับฉันด้วย แต่เวลานี้มันก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไรนักหนา มาไม้ไหนฉันก็รับมือได้หมดเพราะเริ่มเห็นจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามปรากฏรำไรแล้ว
หมอนั่นแพ้น้ำตา...หึหึ รับรองว่ามุขนี้ได้ใช้งานแน่ๆ
ฉะนั้นฉันจึงเดินกลับห้องทำงานด้วยความมั่นอกมั่นใจ ในขณะกำลังเดินผ่านสถานที่ทำการของสำนักข่าวประจำออฟฟิศซึ่งก็คือห้องกาแฟและห้องคุณป้าแม่บ้าน จู่ๆ ฉันก็นึกอะไรประหลาดๆ ขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง เท้าสองข้างจึงพาร่างเลี้ยวเข้าไปด้านในและตรงเข้าไปหาคุณป้าแม่บ้านที่กำลังปัดกวาดเช็ดถูอยู่พอดี
ป้าคะ หนูอินถามอะไรหน่อยค่ะ
คุณป้าแม่บ้านสายข่าวใหญ่ประจำออฟฟิศมองหน้าฉันด้วยแววตาสงสัย หากฉันก็ไม่ปล่อยให้เธอได้สงสัยนานนัก สายตาเหลือบมองซ้ายขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอื่นอยู่ ฉันจึงก้มลงไปกระซิบข้างหูคุณแม่บ้านเบาๆ ถึงจุดประสงค์ทันที
ดื่มกาแฟหน่อยนะคะ
ฉันพูดพร้อมกับวางกาแฟควันหอมกรุ่นถ้วยหนึ่งลงบนโต๊ะเบื้องหน้าของชายหนุ่มผู้ครองตำแหน่งหัวหน้าขี้เก๊ก ที่เวลานี้กำลังมองฉันสลับกับถ้วยกาแฟทำหน้าเหมือนเห็นว่าฉันยกเอาน้ำอมฤตมาให้ก็ไม่ปาน
ไข้ขึ้นหรือเปล่า
คำแรกที่หลุดออกจากปากนายฆนากรไม่ต่างจากที่ฉันคิดเอาไว้สักเท่าไหร่เลย แต่กระนั้นฉันก็อารมณ์ดีเกินกว่าจะตอกกลับด้วยถ้วยคำรุนแรง เลยตอบกลับสั้นๆ แถมเพราะเสียด้วย
เปล่าค่ะ
นายฆนากรทำหน้าเหมือนไม่เชื่อถือ ยกแก้วกาแฟที่กำลังส่งกลิ่นหอมกรุ่นขึ้นดมก่อนถามอีก
ดื่มได้แน่นะ
ไม่ได้ใส่น้ำยาขัดห้องน้ำไว้หรอกค่ะ
เผลอตอบกวนไปเล็กน้อย นายฆนากรจึงขมวดคิ้วสีหน้ามีอารมณ์ ฉันเลยยิ้มหวานใส่ตาเข้าให้หนึ่งทีคราวนี้นายฆนากรส่ายหัวเหมือนคนกำลังเอือมระอาก่อนจะยกกาแฟขึ้นจิบ แล้วสีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏให้เห็น
รู้ได้ยังไงว่าผมชอบรสนี้
กาแฟสองน้ำตาลช้อนครึ่ง ถามป้าแม่บ้านมาค่ะ ฉันอธิบายพร้อมบอกแหล่งที่มาเสร็จสรรพ นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งในเรื่องมากมายเมื่อครู่ที่ฉันไปถามคุณป้าแม่บ้านมานั่นแหละ เวลาผ่านไปสองวิหลังจากสิ้นคำฉัน ก็แว่วเสียงนายฆนากรหัวเราะอยู่ในลำคอให้ได้ยิน
ผมไม่น่าแปลกใจเลยนะ ลืมไปได้ยังไงว่าคุณเป็นพวกมีมนุษย์สัมพันธ์กับคนรอบข้างดีเป็นพิเศษ
ฟังยังไงก็ฟังไม่ออกว่าเป็นคำชมเลยสักนิด ชักอยากจะเปลี่ยนใจกลับไปใส่น้ำยาขัดห้องน้ำจริงๆ เสียแล้ว ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าฉันจะไม่มีคนวิจารณ์งานให้เพราะน้ำลายฟูมปากตายล่ะก็นะ
และเพราะเหตุผลที่ฉันกลัวว่างานของฉันจะไม่ถูกวิจารณ์โดยฝีปากของโปรดิวซ์เซอร์มือทอง ทำให้ฉันพอทำใจลืมๆ ประโยคกวนประสาทของนายฆนากรเมื่อสักครู่ไปได้ ก่อนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะหัวหน้า สองมือเกาะขอบโต๊ะ ขว้างยิ้มหวานใส่ตาเข้มๆ ของนายฆนากรอีกครั้ง
ขอบคุณค่ะหัวหน้า ว่าแต่ เราจะคุยเรื่องงานที่ฉันส่งไปเมื่อเช้าได้หรือยังคะ
คนกำลังจิบกาแฟวางถ้วยลงกับโต๊ะดังกึกจนกาแฟในถ้วยเกือบกระฉอก จ้องหน้าฉันด้วยสายตาที่เห็นแล้วอยากจะยกถ้วยกาแฟสาดหน้าหล่อๆ นั่นเสียจริง
แน่ใจว่าพร้อมจะฟังคำวิจารณ์
พูดมาเหมือนจะขู่ แต่ยังไงฉันก็ไม่กลัวหรอก ฉันไม่ใช่พวกอีโก้สูงยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นไม่ได้เสียหน่อย ฉะนั้นฉันจึงตอบออกไปด้วยความมั่นใจว่า
พร้อมค่ะ
จากนั้นแฟ้มรายงานของฉันเองก็ถูกเลือนมาให้เบื้องหน้า เวลานี้มันไม่ได้คงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนเมื่อเช้าอีกต่อไปแล้ว เพราะนอกเหนือจากตัวอักษรและรูปภาพประกอบที่ถูกพิมพ์โดยคอมพิวเตอร์ เวลานี้มีลายมือตวัดเรียงเป็นระเบียบสวยอยู่ตามจุดต่างๆ ปรากฏอยู่ด้วย
แน่นอนล่ะว่าจะเป็นลายมือใครไปไม่ได้นอกจาก...คุณโปรดิวซ์มือทอง ฆนากร!
เอาล่ะ เรียงทีละหัวข้อ ผมจะบอกเป็นจุดๆ ไปเลยก็แล้วกัน
จากนั้นคำวิจารณ์มากมายก็หลุดออกจากปากคนตรงหน้า ฉันรีบเปิดไล่เรียงทีละหัวข้อ หูฟัง ตาก็อ่านคอมเม้นท์แต่ละจุดที่นายฆนากรเขียนเอาไว้ ใจก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คนที่ทำท่าเขี่ยรายงานของฉันเมื่อเช้าจะอ่านรายงานของฉันและวิจารณ์ได้ละเอียดลออถึงขนาดนี้ ทั้งหมดนั่นเพียงชั่วเวลาที่ฉันแว้บไปดีใจในห้องน้ำและชงกาแฟมาเดี๋ยวเดียวเท่านั้น
ตรงย่อหน้าสุดท้ายที่บอกเอาไว้ว่า น่าจะให้เชอร์รี่ใช้ความสามารถในการเล่นไวโอลินแทรกลงในเพลงด้วย ผมอยากให้ลองสอบถามเชอร์รี่เพิ่มเติมถึงเครื่องดนตรีประเภทอื่นด้วยว่าเล่นได้หรือเปล่า เราจะได้มีหลายทางเลือก คนฟังปัจจุบันนี้เลิกยึดติดกับหน้าตาและหันมาชื่นชอบฝีมือด้านดนตรีของนักร้องมากขึ้น ตรงนี้เราน่าจะได้ใช้ให้เป็นประโยชน์มากเลยทีเดียว
ค่ะ ฉันรีบจดรายละเอียดงานที่จะต้องทำเพิ่มต่อท้ายคอมเม้นท์ในรายงานหลังจากจดเป็นข้อที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ได้นับ เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็สุดรู้ เพิ่งจะมาชะงักเอาเมื่อเห็นถ้วยกาแฟที่ฉันชงมาให้นายฆนากรว่างเปล่าแล้วนั่นแหละ
หนูอินไปชงมาให้ใหม่นะคะ
ฉันบอกก่อนจะลุกขึ้นยกกาแฟถ้วยเดิมเตรียมไปเก็บและชงถ้วยใหม่มาให้ นายฆนากรเหลือบมองหน้าฉันด้วยสายตาแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าหรือคัดค้านอะไร ฉันจึงเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าประโยคเมื่อครู่มีความแปลกประหลาดที่ตรงไหน
ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีฉันก็กลับมาพร้อมกาแฟในมือสองถ้วย คราวนี้หัวหน้าของฉันรับไปดื่มทันทีโดยไม่ถามหาน้ำยาขัดห้องน้ำเหมือนถ้วยแรก ท่าทางจะชอบดื่มกาแฟอย่างที่คุณป้าแม่บ้านบอกเอาไว้จริงๆ ด้วยแฮะ
เอาล่ะ ว่าต่อเลยนะ
หัวหน้าคนเก่งฉันเริ่มอธิบายคำวิจารณ์ของตัวเองอีกครั้ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการทำงานอย่างจริงๆ จังๆ ร่วมกันครั้งแรกจะสนุกสนานถึงเพียงนี้ ไม่มีคำพูดกระทบกระเทียบแดกดัน ไม่มีสายตาที่คอยจ้องหาเรื่อง ออกจะเหนือความคาดหมายไปอยู่มาก บอกได้คำเดียวสั้นๆ เลยว่าเวลานี้นายฆนากรช่าง
น่ารัก...
ฉันสำลักความคิดตัวเองจนต้องยกกาแฟขึ้นจิบ แค่นายฆนากรทำดีด้วยนิดหน่อยฉันก็เผลอคิดแบบนี้ไปเสียแล้ว ฉันรีบดึงสมองทั้งหมดกลับมาจดจ่ออยู่กับงานเช่นเก่า กำชับกำชามันเอาไว้ว่าอย่าปล่อยให้ภาพลักษณ์ชั่วครู่ชั่วยามของนายฆนากรมาลดทอนความแค้นที่ผ่านๆ มาได้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แล้วตอนต่อไปมาเมื่อไหร่จ๊ะ รอติดตามอยู่
ลุ้นคู่นี้กันต่อไป ^^
คนเราบางโอกาส บางเวลาก็ทำอะไร น่ารักๆไปโดยไม่รู้ตัว
ผู้ชายน่ารัก แล้วก็มีสมอง น่าจองเอาไว้เป้นแฟน เนอะ เนอะ
นายต้นฝนเราถึงกับอี้งไปเลยทีเดียว
หึหึหึหึหึหึ 555555555555555555555
ยายหนูอิน จะชนะเขาแน่หรือ
เขาแพ้น้ำตา
แต่เธอแพ้ใจน่ะ อินรินทร์
ฮ่าๆ
แต่เรื่องงานเนี่ย แจ่มดี