บีม เด็กหญิงผู้ไม่เคยโดดเดี่ยว - บีม เด็กหญิงผู้ไม่เคยโดดเดี่ยว นิยาย บีม เด็กหญิงผู้ไม่เคยโดดเดี่ยว : Dek-D.com - Writer

    บีม เด็กหญิงผู้ไม่เคยโดดเดี่ยว

    เรื่องสั้นจากจินตนาการ เล่าถึงเรื่องราวของเด็กหญิงวัยเพียง 8 ปี และตุ๊กตาสุดที่รักนามว่า เด็กดี ที่คอยเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เธอ เลือก ที่จะเป็น คนดี

    ผู้เข้าชมรวม

    883

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    883

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.พ. 57 / 14:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
      
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       “บีมๆ ตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองรึไง !!!” เสียงปลุกจากหญิง ผู้เป็นเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าดังขึ้น เด็กหญิงวัย 8 ขวบ เจ้าของชื่อ ‘บีม’ ตัวเล็กน่ารัก ค่อยๆลุกขึ้น เอามือข้างหนึ่งขยี้ตาอย่างงัวเงีย ส่วนมืออีกข้างยังจับ ‘เด็กดี’ ตุ๊กตากระต่ายน้อย ที่ตอนนี้ลูกกะตาหลุดไปข้างนึง ขาดรุ่งริ่ง จากสีขาวบริสุทธิ์ของผ้าที่เคยใช้เย็บตุ๊กตา ก็ได้กลายเป็นสีเหลืองมอมแมมตามกาลเวลา

      “ไปอาบน้ำ! กินข้าว! ไป!” น้องบีมรีบลุกขึ้นไป และวิ่งไปอาบน้ำทันที หลังอาบน้ำเสร็จ น้องบีมอุ้มเด็กดีเดินมาหยิบจานข้าว เพื่อนๆเด็กกำพร้าทุกคนต่างแสดงสีหน้ารังเกียจและหยิบจานข้าวหยิบจานข้าวของตนหลีกทุกโต๊ะที่น้องบีมเดินผ่าน แต่น้องบีมก็ไม่ได้รู้สึกเศร้า หรือเสียใจอะไรกับพฤติกรรมนั้น เธอเดินตรงไปหาโต๊ะที่ไม่ใครนั่ง ใช่แล้ว เธอนั่งกินข้าวคนเดียวตลอดมา น้องบีมเป็นเด็กกำพร้าที่โดนทิ้งไว้ในถังขยะ โชคดีที่มีคนมาเจอเข้า จึงพาไปไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งอันที่จริง เป็นของคนใหญ่คนโต ที่แค่คิดจะสร้างไว้เอาหน้าว่าเป็นคนใจบุญเท่านั้น แต่ก็นั่นแหล่ะ เหตุผลที่ทั้งเพื่อนๆ และคนทั่วไปต่างก็รังเกียจเธอก็คือ เธอมีดวงตา‘สีแดง’นั่นเอง ซึ่งว่ากันว่า ใครก็ตามที่มีดวงตาสีแดง อันหมายถึงความชั่วร้าย เป็นสัญลักษณ์ของหายนะและ‘ปีศาจ’!!!  เพื่อนคนเดียวที่น้องบีมมีก็คือ‘เด็กดี’ ตุ๊กตากระต่ายตัวน้อยที่อยู่ในถึงขยะพร้อมๆกับเธอ มันเหมือนเป็นผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันและผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา น้องบีมจึงพาเด็กดีไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะกิน,นอน,เล่น หรืออาบน้ำ น้องบีมและเด็กดีไม่เคยห่างกันเลย ซึ่งที่มาของชื่อ ‘เด็กดี’ นั้น น้องบีมเองก็ไม่เข้าใจหรอก ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ถ้าเล่าแล้วก็ดูจะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ ว่าน้องบีมสามารถจำเสียงของแม่ตัวเองได้! ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าทำไม แต่เสียงนั้นมักจะวนอยู่ในหัวของเธอ มีเพียงเสียงเดียวที่เธอจดจำได้ดี คือคำว่า

      “ลูกต้องเป็น‘เด็กดี’นะ....” เสียงหวานปนเศร้าจากผู้เป็นแม่ ที่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร จะดังขึ้นมาเสมอ เวลาที่น้องบีมมองตุ๊กตาตัวนั้น อย่างน้อย มันก็ทำให้เธอคิดไปเองว่า ตนเองโชคดีที่มีแม่อยู่ข้างๆตลอดมา...

      วันหนึ่ง น้องบีมเอาจานข้าวมานั่งรับประทานตามปกติ แต่‘เวน’ เด็กหญิงผู้มีอายุมากกว่าเธอเพียง 1 ปี ที่มักจะทำตัวเป็นหัวโจก และคอยแกล้งน้องบีมอยู่เป็นประจำ คราวนี้ เวนเดินเข้ามาพร้อมกับพวกอีก 2-3 คน

      “บีม... ไปเอาน้ำให้หน่อยสิ!” เข้ามาถึงก็วางมาดออกคำสั่ง

      “แล้วทำไมพี่เวนไม่ไปเอาเองล่ะคะ” น้องบีมตอบกลับไป

      “ก็ฉันขี้เกียจอ่ะ เข้าใจป่ะ เธอน่ะเป็นคนดีไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ทำให้ฉันล่ะ”

      “เป็นคนดี...ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำตามคำสั่งใคร หรือต้องเป็นทาสของใครนี่คะ”

      “หนอย!... ฮึ! แล้วเธอจะรู้!!!” เวนแกล้งทำเป็นหยิกตัวเอง “โอ๊ย!..ช่วยด้วยๆๆ ยัยบีมมันทำร้ายฉัน...”

      “เธอจะทำอะไรน่ะ เวน” น้องบีมพยายามเข้าไปห้าม ทันทีที่พี่เลี้ยงในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเห็นเข้าพอดี และพี่เลี้ยงคนนั้นก็ดันไม่ชอบน้องบีมอยู่เป็นทุนเดิม ทีนี้เรื่องเลยใหญ่ เพื่อนๆที่ไม่กล้ายุ่งอยู่แล้ว ก็ยิ่งทั้งรังเกียจ ทั้งหวาดกลัวน้องบีมมากยิ่งขึ้น เธอจึงโดนไล่ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในที่สุด

      “ไม่เป็นไร..” น้องบีมพูดกับเด็กดี “เราจะเดินไปด้วยกัน” น้องบีมที่หน้าตามอมแมม เดินกอดเด็กดีไปตามถนน แต่แล้วก็มีชายหน้าตาแปลกๆ 2 คน ใส่ชุดสูทสีดำ แว่นสีดำ เดินมาหยุดตรงหน้าน้องบีม ชายคนหนึ่งจับน้องบีมเงยหน้าขึ้นมา น้องบีมกระพริบดวงตาสีแดงปริบๆ

      “ใช่แล้ว... คนนี้แหล่ะ” ชายคนแรกพูด

      “เจ้ารู้ได้ยังไง” ชายคนที่สองถาม

      “ข้าจำดวงตาของนางได้ ดวงตาของนางเหมือน...”

      “เหมือนใครคะ..” น้องบีมถามขึ้น

      “เหมือนราชินีปีศาจ!!!”

      “ห๊ะ!..” น้องบีมถึงกับอึ้ง

      “ไปเร็ว! เราต้องรีบพาท่านไปหาองค์หญิงแบม!” พูดจบชายแปลกหน้าทั้งสองคนก็รีบคว้าตัวน้องบีมไปทันที

       “ดะ..เดี๋ยว...” น้องบีมพูดไม่ออก ชาย 2 คนนั้นพาน้องบีมไปยังป่าทึบแห่งหนึ่ง และชาย 2 คนนั้นก็แปลงร่างเป็น‘ค้างคาว’ และพาน้องบีมบินขึ้นไป

       “จับให้แน่นๆนะองค์หญิง!!”

      “ว้าย!!!!!!!!!!!!!!!!!!” น้องบีมหลับตาปี๋ เกาะอย่างแน่น  2 ค้างคาวพาบินมาที่ปราสาทแห่งหนึ่ง เป็นปราสาทสีดำน่ากลัว มีเมฆหมอกหนาทึบปกคลุม เข้าไปในตัวปราสาท สองค้างคาววางน้องบีมลง และกลายร่างเป็นคนเหมือนเดิม น้องบีมยืนกอดเด็กดีไว้แน่น จ้องบัลลังก์อันใหญ่โตเบื้องหน้าตน พลันบัลลังก์นั้นก็หมุนกลับมา!

      “องค์หญิงแบมพะยะค่ะ พวกเราตามหาองค์หญิงบีมเจอแล้วพะยะค่ะ” ร่างที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้น ทำให้น้องบีมต้องอึ้งอีกครั้ง เพราะร่างนั้นช่างเหมือนเงาสะท้อนตัวของเธอเอง!

      “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน พี่สาวฝาแฝด!” เด็กร่างเล็กวัยเดียวกัน ในชุดสีดำ กระโปรงยาว ภายใต้ดวงตาสีแดง และหน้าตาที่เหมือนกับน้องบีมราวกับเป็นคนคนเดียวกัน เธอคือเจ้าหญิงปีศาจ นามว่า‘แบม’ เป็นน้องสาวฝาแฝดแท้ๆกับน้องบีม ที่ต้องรับมรดก บัลลังก์จากพ่อแม่ ราชา และราชินีปีศาจของเธอ ด้วยวัยเพียง 8 ขวบ

       “ มะ...หมายความว่า...ฉัน..เป็น”

      “ ‘ปีศาจ’… พวกเราเป็นปีศาจ”

      “แล้วทำไม...”

      “พ่อและแม่ของพวกเรา ถูกมนุษย์ฆ่าตาย แต่ก่อนตาย ท่านพ่อได้ยกบัลลังก์ให้ข้า ส่วนท่านแม่สละชีวิตเพื่อปกป้องท่านพี่ ท่านแม่ซ่อนท่านพี่ไว้ในที่ที่ไม่ใครหาเจอ...”

      “เอ่อ...”

      “ไปเถอะท่านพี่...”

      “ไปไหน? ”

      “ไปฆ่าคน , ปล้นคน , ทำลายข้าวของคน ไง”

      “ไม่นะ... ทำอย่างนั้นมันไม่ดี”

      “อะไรกันเนี่ย.. พวกเราเป็นปีศาจนะ นั่นคือหน้าที่ของปีศาจ”

      “แต่ว่า...”

      “พวกเจ้าทั้งสอง..” องค์หญิงแบมเรียกสมุนปีศาจทั้งสอง “จัดการทีสิ!”

      “ครับ..” สมุนปีศาจทั้งสองรับคำ ก่อนจะจับน้องบีมไปให้พี่เลี้ยงปีศาจ และแม่นมปีศาจ อาบน้ำ แต่งตัวให้ ใส่ชุดสีดำ กระโปรงบานๆ ตามแบบฉบับปีศาจ และมีการเขียนขอบตาให้ดำเหมือนองค์หญิงแบม

      “แต่งตัวเหมือนกันอย่างนี้ เราจะแยกยังไงล่ะ” สมุนปีศาจถาม

      “องค์หญิงแบมใส่กระโปรงยาว องค์หญิงบีมใส่กระโปรงสั้น แค่นั้นแหล่ะ” แม่นมตอบ

      “พี่สองคนจะพาฉันไปไหน?” น้องบีมวิ่งตามลูกสมุนปีศาจทั้งสอง

      “ไปทำหน้าที่ของปีศาจ!”

       “ภารกิจแรก องค์หญิงบีมต้องทำลายข้าวของของคนอื่น เอ้า! ” สมุนปีศาจตนหนึ่งหยิบไม้หน้าสามโยนให้น้องบีม “ทำลาย โต๊ะ ตู้ ถ้วย โถ แจกันนี่”

      “แต่ที่นี่มันพิพิธภัณฑ์นะ”

      “อ๋อ..หรือองค์หญิงไม่อยากใช้ไม้หน้าสาม เอาไม้ตีกอล์ฟก็ได้นะ”

      “ไม่เอา”

      “งั้น ไม้ที, ไม้พลอง, ไม้ง่าม”  

      “ไม่เอาทั้งนั้นแหล่ะ”

      “หรือว่า... องค์หญิงอยากใช้‘พลังปีศาจ’… ได้ขอรับ” สมุนปีศาจจับตัวน้องบีมมา หันหน้าไปทางเสาไฟฟ้า

       “องค์หญิงบีมแค้นใคร องค์หญิงบีมก็คิดว่าเสานั่นเป็นคนคนนั้นเลยครับ”

      “แค้นเหรอ...ฉันไม่เคยแค้นใครหรอก”

      “ไม่มีทาง!.. นังนั่นไง ‘เวน’ที่มันทำให้องค์หญิงบีมต้องโดนไล่ออกมา”

       “...” น้องบีมมองไปที่เสาไฟฟ้า หน้านิ่ง และแล้วก็เริ่มมีพลังสีแดง ออกมาจากดวงตาของเธอ

      “ดีมาก..อีกนิดเดียว” พลังปีศาจกำลังจะพุ่งไปโดนเสา แต่กลับมอดลงซะก่อน เสานั้นจึงเป็นรอยเพียงเล็กน้อย

      “ไม่...เราต้องเป็น ‘เด็กดี’ ” น้องบีมกอดเด็กดีไว้

      “โธ่! องค์หญิงบีม” สมุนปีศาจอีกตนเริ่มติดต่อกับองค์หญิงแบมผ่านทางกระแสจิต

      “แผนหนึ่งไม่สำเร็จครับ องค์หญิงแบม เอาไงต่อครับ”

      “แผนสองต่อเลย...” องค์หญิงแบมสั่ง

      “เอาล่ะ ภารกิจที่ 2 องค์หญิงบีมต้องแกล้งใครก็ได้”

      “แกล้งเหรอ...”

      “ใช่... รอสักพัก...” มีเด็กชายตัวเล็กๆ อายุน้อยกว่าน้องบีม เดินถืออมยิ้มมา “องค์หญิงบีมต้องไปแย่งอมยิ้มนั่นมา ไป!!!” สมุนปีศาจผลักน้องบีมไปยืนตรงหน้าเด็กคนนั้น

      “คะ..คือ..น้องคะ...พะ..พี่...ขอ...” เด็กคนนั้นยังยืนดูดอมยิ้มหน้าตาเฉย

      “เข้าไปแย่งเลย องค์หญิงบีม” น้องบีมกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบอมยิ้ม

      “พี่ถือตุ๊กตาอะไรน่ะ ตลกจัง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เด็กคนนั้นหัวเราะ

      “เอ่อ...” น้องบีมเอาเด็กดีขึ้นมากอด

      “พี่อยากได้เหรอ..ลูกอมนี่!”

      “อ่า...ใช่ๆ”

      “ไปซื้อเองสิ!” เด็กคนนั้นบอกก่อนจะแลบลิ้นใส่ และวิ่งไปทันที

      “โอ๊ย!... อะไรกันเนี่ย... องค์หญิงบีมไม่มีเลือดความเป็นปีศาจอยู่เลยเรอะ!!!” สมุนปีศาจเอามือกุมขมับ

      “งั้นก็เหลือแผนเดียวแล้วว่ะ แผนสาม!” สมุนปีศาจทั้งสองก็พาน้องบีมกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกเช่นเคย แต่วันนี้พี่เลี้ยงในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่อยู่พอดี

      “กลับมาทำไม ยัยบีม!!!” เวนเข้ามาทักทาย

      “เอ่อ... ฉัน...”

      “คราวนี้แกไม่ได้แค่อยากโดนไล่ออกไปแล้วใช่ไหม! …หึหึ..ตุ๊กตาตัวนี้ ฉันขอนะ!” เวนเข้ามาแย่งเด็กดีไป

      “ไม่ให้!!!” น้องบีมดึงเด็กดีกลับมา ทำให้เวนเสียหลักล้มลง

      “แก...ยัยบีม!!!” เวนพุ่งเข้าตบน้องบีมจนล้มลง และเพื่อนอีก 2-3 คนก็เข้ามารุม แต่น้องบีมไม่โต้ตอบ และเอาตัวเข้าบังเด็กดี

      “เอ่อ...องค์หญิงแบม จะไม่ให้เราไปช่วยองค์หญิงบีมจริงๆเหรอ...”

      “ไม่ต้อง... ปล่อยไป”

      “เราต้องเป็นคนดี... เราต้องเป็น‘เด็กดี’…” น้องบีมได้แต่ป้องกัน จนสมุนปีศาจทนไม่ไหว จึงแปลงร่างเป็นค้างคาวใส่ พวกเด็กที่เข้ามารุมและเวนจึงตกใจ รีบวิ่งหนีเข้าห้องทันที

      “องค์หญิงบีมขอรับ...” น้องบีมยังนอนนิ่ง ในมือยังกอด ‘เด็กดี’ ไว้แน่น แต่ไม่นาน แผลตามตัวของน้องบีมก็ค่อยๆหายไป น้องบีมลืมตาขึ้น สิ่งที่เห็นคือ องค์หญิงแบมอยู่ตรงหน้า

      “ทำไมพี่บีมถึงทำตัวอ่อนแอแบบนี้! ดีนะ ที่พี่บีมเป็นปีศาจ ไม่งั้นแผลคงไม่หายเร็วขนาดนี้หรอก”

      “ฉันต้องปกป้อง‘เด็กดี’ ”

      “ ‘เด็กดี’ เหรอ!!!” องค์หญิงแบมแย่งเด็กดีมาจากมือของน้องบีม “เพราะเจ้านี่ใช่ไหม! ที่ทำให้พี่บีมไม่ยอมต่อสู้”

      “เอาคืนมานะ!” น้องบีมพยายามจะแย่งคืน

      “ข้าไม่ยอมให้พี่เป็นอย่างนั้นหรอก!” องค์หญิงแบมปล่อยพลังปีศาจจากทางตาของเธอ ทำให้เด็กดีไหม้และกลายเป็นเถ้าถ่าน

      “ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” น้องบีมพยายามวิ่งมาช่วย แต่เด็กดีก็ไหม้หมดแล้ว

      “จำไว้นะ พี่เป็นปีศาจ เราเป็นปีศาจ!!! เราเป็นตัวร้าย...เป็นคนไม่ดี!!!!” องค์หญิงแบมแปลงร่างเป็นค้างคาวบินกลับปราสาททันที

      “ไม่...เราต้องเป็นคนดี... เราต้องเป็นเด็กดี...” น้องบีมยังยืนอยู่ที่เดิม ในจิตใจของเธอรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่

      “กลับปราสาทเราไหม? องค์หญิงบีม...” สมุนปีศาจตนหนึ่งเข้ามาถาม

      “........” น้องบีมมองท้องฟ้า แต่ภายในแววตาของเธอกลับไม่มีความทุกข์อยู่เลย

      องค์หญิงแบมบินกลับมาถึงปราสาท ก็กลายร่างเป็นคนแล้ววิ่งเข้าห้องนอนทันที และร้องไห้ออกมา

                      “ฮือๆๆ ท่านพ่อ... ท่านแม่... ข้าควรทำอย่างไรดี...” องค์หญิงแบมหยิบรูปพ่อกับแม่มาดู พลางปาดน้ำตาไป... แต่แล้วก็มีค้างคาวตัวหนึ่งบินเข้ามาทางหน้าต่าง และกลายร่างเป็นน้องบีม!

      “พี่บีม..”

      “.......”

      “สะใจล่ะสิ เห็นข้าร้องไห้น่ะ”

      “เปล่าเลย... ฉันแค่จะมาบอกว่า พ่อกับแม่ไม่ได้ไปไหนหรอก”

      “แล้วทำไมท่านไม่มาหาพวกเราล่ะ”

      “ท่านไม่จำเป็นต้องมาหาเรานี่ เพราะท่านอยู่ในใจของเราอยู่แล้ว”

      “พี่เอาอะไรมาพูด”

      “ฉันได้ยินเสียงของแม่...”

      “เสียงแม่... จริงเหรอ”

      “ใช่.. แม่บอกว่า ให้เราเป็น‘เด็กดี’ ”

      “หึ...เด็กดีเหรอ พี่คิดจะหลอกข้าน่ะสิ”

      “แบม...” น้องบีมวางมือลงบนบ่าขององค์หญิงแบม “ฉันรู้..ว่าเธอน่ะ โดดเดี่ยวแค่ไหน...”

      “ข้าไม่มีใครเลย... ตั้งแต่ท่านพ่อจากข้าไป คำสุดท้ายที่ท่านบอก คือให้ตามหาพี่ พี่บีม... พี่บีมเคยรู้สึกแบบข้าไหม? ”

      “ไม่เคย...”

      “ไม่จริง! ข้าเฝ้าดูพี่ ผ่านทางลูกแก้วกระโกลกนั่นตลอด” องค์หญิงแบมชี้ไปที่ลูกแก้วปีศาจซึ่งมีหน้าตาคล้ายหัวกะโหลก “ข้าเห็นทุกๆอย่าง เกี่ยวกับพี่ ข้าไม่เข้าใจว่าพี่ทนอยู่ที่นั่น กับคนแบบนั้นได้ยังไง!”

      “พวกเขาน่าสงสารออก”

      “น่าสงสารเหรอ... พวกมันเลวจะตาย!!!”

      น้องบีมส่ายหัว “พวกเขาไม่มี‘เด็กดี’ ไม่มี‘แม่’… พวกเขาโชคร้ายกว่าฉันเยอะ”

      “ไม่...ข้าไม่เชื่อ!”

      “มานี่...” น้องบีมแปลงร่างเป็นค้างคาว พาองค์หญิงแบมไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

      “พี่เวนช่วยพวกเราด้วย...” เด็กคนหนึ่งร้องไห้วิ่งเข้ามากอดเวน

      “พวกปีศาจมันจะกลับมาอีกไหม...ฮือๆ หนูกลัว...” เด็กอีกคนก็วิ่งมาเช่นกัน

      “ไม่ต้องกลัว... ฉันไม่ยอมให้ปีศาจตนไหนมาทำร้ายทุกคนหรอก” เวนว่า และกอดเด็ก 2 คนนั้น “ขอร้องล่ะ บีม..เธอเป็นปีศาจ ก็ไปๆซะเถอะ อย่ามาทำลายชีวิตพวกเราเลย...”

      “ขอโทษนะ...ที่ฉันไปไม่ได้” น้องบีมแปลงร่างกลับเป็นคน เด็กๆต่างก็ตกใจ “ฉันอยากให้แบม...น้องสาวของฉันได้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง”

      “….” องค์หญิงแบมยืนนิ่ง

      “ฮือๆๆ ฉันขอโทษนะ บีม...ฉันรู้ว่าเธอคือปีศาจ...” เวนร้องไห้ น้องบีมเข้าไปกอดเวน

      “ฉันไม่เคยโกรธทุกคน ฉันไม่เคยโกรธใคร เพราะฉันเชื่อแม่ของฉัน” น้องบีมยิ้มให้ เวนยิ้มตอบ องค์หญิงแบมเริ่มรู้สึกละอายใจ

      “โครม!!!” เสียงเพดาน,โต๊ะ, ตู้ และเก้าอี้พังทลายลงมา ด้วยน้ำมือของสมุนปีศาจที่เข้ามาทำลายข้าวของ

      “พวกเรามาทำตามคำสั่งขององค์หญิงแบมแล้วนะครับ!” สมุนปีศาจทำลายสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างสนุกสนาน เด็กๆตกใจวิ่งหนีกันโกลาหล

      “แบม...ทำไมน้องทำแบบนี้!” น้องบีมเขย่าตัวองค์หญิงแบม

      “...”

      “แบม...”

      “...”

      “แบม!!!” น้องบีมและเวนวิ่งไปช่วยเด็กๆทุกคนให้หนี

      “ปีศาจต้องเลว....... เลว.......จริงเหรอ?...” องค์หญิงแบมเหลือบไปเห็นเด็กคนหนึ่งกำลังจะโดนตู้ใหญ่หล่นทับ

      “กรี๊ด!!!!!!!!!”

      “ไม่จริงหรอก!” องค์หญิงแบมรีบใช้พลังปีศาจทำลายตู้ใบนั้น

      “หยุด!!!!!!!!!!!!!” องหญิงแบมสั่ง

      “ทะ...ทำไมล่ะครับ”

      “ข้า...เปลี่ยนแผนแล้ว!...”

      “เย้!!!...” เด็กๆทุกคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากระโดดโลดเต้นดีใจ

      “พี่ๆ...” เด็กตัวเล็กๆ ที่องค์หญิงแบมช่วยไว้ เข้ามาสะกิด “หนูให้!” เด็หญิงตัวน้องยื่นตุ๊กตาขาดๆของตนให้ และเด็กอีกเป็นสิบคนก็ยื่นตุ๊กตาของตนให้เช่นกัน

      “หนูรู้...ว่าพี่ก็ไม่มีใครเหมือนพวกเรา...” องค์หญิงแบมเผลอยิ้มออกมา

      “พวกเจ้าเอากลับไปเถอะ... เพราะตอนนี้ ข้ามีแล้ว” องค์หญิงแบมวิ่งเข้าไปกอดน้องบีม เอ้า!..ข้าคืนให้

      “เด็กดี!” น้องบีมรับเด็กดีมา ยิ้มแก้มปริ

      “ข้าได้ยินแล้ว... ‘เสียงของแม่’ ”

      วันต่อมา ทุกคนรวมทั้งสมุนปีศาจมาช่วยกันซ่อมแซมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขึ้นมาใหม่ และมีการพาเด็กๆ ไปเที่ยวที่ปราสาทปีศาจด้วย ปราสาทที่เคยเงียบงันก็กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กๆ

      “ข้าเข้าใจแล้ว ว่าทำไมท่านพ่อจึงอยากให้ข้ามาตามหาพี่”

      “เด็กดี... เราต้องเป็น‘เด็กดี’!!!” ทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกัน  ตุ๊กตากระต่ายหน้าตามอมแมม ที่บัดนี้ได้รับการซัก และเย็บจนดูเหมือนใหม่เช่นเคย  แม้มันจะไม่มีชีวิต ไม่ได้สวย ไม่ได้น่ารัก และยังถูกเก็บมาจากถังขยะ แต่มันก็เปลี่ยน‘ชีวิต’ของปีศาจน้อยให้กลายเป็นคนดีได้อย่างอัศจรรย์... ชื่อของมันคือ...

       

      “เด็กดี”
       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×