ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิชิตรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่ 6 : กลั่นแกล้งจนได้เรื่อง {4}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      35
      3 มิ.ย. 62




                   นัทชาก้าวเข้าไปข้างในคอกม้าด้วยแข้งขาที่อ่อนแรง สูดลมหายใจลึกอย่างไม่ลำบากใจนัก เพราะภายในนี้ไม่มีกลิ่นเหม็นอบอวลอย่างที่ควรจะเป็น นั่นเกิดจากสร้างคอกม้าให้มีการระบายอากาศอย่างดีเยี่ยม และความสม่ำเสมอของการทำความสะอาด จะว่าไปก็ต้องขอบคุณน้ำส้มคั้นกับแซนวิชของแพรสุดาเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยให้ดวงตาที่พร่ามัวของเธอสว่างไสวขึ้น เธอเดินผ่านม้าตัวใหญ่สง่างามที่อยู่ในคอกกั้นของตัวเองไปจนสุดทาง พบห้องสี่เหลี่ยมที่มีไว้เพื่อเก็บหญ้า อาหารม้า อุปกรณ์ขี่ม้า รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดต่างๆ พลางนึกถึงคำพูดที่กัมปนาทอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับการทำความสะอาดคอกม้า

                   พื้นในคอกม้าจะเป็นพื้นปูนครับ เพราะมันสามารถล้างทำความสะอาดได้ดี ส่วนวัสดุปูรองก็จะใช้เป็นทราย ขี้เลื่อย แกลบ หรือซังข้าวโพดบดก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกครับ แต่ฟาร์มของเรานั้นจะเลือกใช้ซังข้าวโพดบด เพราะอะไรผมก็ไม่เคยถามลุยซ์เหมือนกัน แต่ถ้าให้เดาคงเพราะอยากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้านที่ทำไร่ข้าวโพด

                   แล้วเวลาทำความสะอาด ต้องเอาม้าออกมาก่อนใช่ไหมคะ

                   ใช่ครับ กดปุ่มเปิดประตูตรงนี้ แล้วจูงม้าออกไปผูกไว้ตรงกำแพงด้านนั้นก่อน จากนั้นก็กวาดเศษซังข้าวโพดบดออกให้สะอาด เอามันใส่ไว้ในถังล้อเลื่อนที่มีให้ เพราะเสร็จจากที่นี่เราต้องเอาไปแปรสภาพเป็นปุ๋ยต่ออีกทีครับ จากนั้นใช้สายยางแรงดันสูงฉีดล้างทำความสะอาด แล้วถูพื้นให้แห้งสนิทก่อนค่อยเอาซังข้าวโพดบดอันใหม่มาปูโรยบนพื้นไว้เหมือนเดิม

                   เท่าที่คุณเก่งบอกมันก็ฟังดูไม่ยากเท่าไรหรอก...มั้งนัทชาพึมพำกับตัวเอง กลอกตาอย่างระอา ตั้งใจจะเดินไปยังคอกกั้นหมายเลขหนึ่งเพื่อนำม้าออกมาผูกไว้ข้างนอกก่อน เธอกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากเย็น มือสั่นระริกขณะที่ยื่นนิ้วไปแตะที่ปุ่มเปิดประตู เพื่อจูงม้าตัวใหญ่สีน้ำตาลที่มีขนนุ่มสลวยให้ออกมาข้างนอก จากป้ายเล็กๆ ด้านหน้าบ่งบอกว่ามันคือม้าพันธุ์พันธุ์โธรัฟเบร็ด (Thoroughbred) เป็นเพศผู้ และมีชื่อว่า พายุ

                   เฮ้! สวัสดีพายุ เราเจอกันไปแล้วเมื่อตอนสายๆ นายคงยังจำฉันได้อยู่ใช่ไหมหญิงสาวเอ่ยเสียงดังอย่างร่าเริง เพื่อหวังจะกลบเกลื่อนความประหม่าของตัวเอง ขณะสายตาจ้องมองไปยังบานประตูที่กำลังเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ

                   ทุกอย่างคงเป็นไปด้วยดีตามที่คาดหวังเอาไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะในตอนที่ประตูเปิดออกจนสุดแล้ว ท้องฟ้าเกิดร้องคำรามกึกก้อง จนเจ้าพายุมีท่าทีแปลกไปเสียก่อน นัทชาเดาว่ามันคงเกิดความตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหัน หูของมันเอียงไปข้างหลังทั้งสองข้าง ส่งเสียงร้องพร้อมตะกุยขาหน้า หญิงสาวรีบเบี่ยงตัวหลบไปได้ทันอย่างหวุดหวิดในตอนที่มันพุ่งตัวออกมาจากคอกกั้น

                   กรี๊ด! ไอ้ม้าบ้า!” เธอก่นด่าด้วยความขุ่นเคือง หอบหายใจแรงจนทรวงอกสะท้าน มองตามไปก็พบว่าเจ้าพายุวิ่งตรงไปทางด้านหน้าของประตูใหญ่ที่ตอนนี้ปิดสนิท มันกระทืบเท้าลงบนพื้น แล้ววิ่งเหยาะๆ วนไปวนมาอย่างกระสับกระส่าย

                   ครืน!...

                   เสียงฟ้าร้องดังขึ้นอีกระลอก เจ้าพายุสะบัดหน้ามาทางที่นัทชายืนอยู่ ร้องลั่นอีกครั้งราวกับต้องการปลุกระดมม้าตัวอื่นๆ ที่ยังอยู่ในคอกกั้นของตัวเอง พ่อม้าหนุ่มเลือดร้อนตั้งท่าจะวิ่งวนตรงเข้าไปหา แต่เธอกรีดร้องดังลั่นแล้วเผ่นแนบหนีไปก่อนแล้ว เสียงฝีเท้าของม้าไล่ตามหลังมาติดๆ แต่ก่อนที่มันจะได้ผูกมิตรอย่างสนิทสนมแบบถึงเนื้อถึงตัว เธอก็วิ่งผลุบหายเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ม้า แล้วดันประตูปิดลงได้ทันเสียก่อน 

                   ช่วยด้วย! ใครก็ได้ ช่วยฉันที!” นัทชาร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องดังกระหน่ำไม่ยอมหยุด ตามด้วยฝนที่ตกหนักลงมาราวกับฟ้ารั่ว ร่างบางสั่นสะริก น้ำตาไหลไม่ขาดสายด้วยความหวาดกลัว เมื่อยังคงได้ยินเสียงกระทืบเท้าของม้าที่วนเวียนอยู่ด้านนอก

     

                   แพรสุดาช่วยประคองนมถวิลเข้ามานั่งที่โซฟาข้างในห้องโถง เพราะเห็นว่าฝนตกแรงมากและสาดซัดเข้ามาตรงลานระเบียงจนเปียกหมดแล้ว หญิงสาวเดินลงไปข้างล่าง กำลังจะบอกให้อานนท์ไปรับนัทชากลับมาที่เรือน แต่เจอกัมปนาทนำรถเข้ามาจอดแล้ววิ่งเข้ามายืนหลบฝนในเขตชายคาเข้าพอดี

                   คุณเก่งหญิงสาวร้องเรียก

                   อ้าว แพรเองเหรอเขาทักท้วงแล้วตรงเข้ามาหา

                   คุณเก่งมาทำอะไรที่นี่คะ ปกติน่าจะกลับไปที่เรือนใหญ่แล้วนี่นา

                   ผมเห็นลุยซ์กำลังใช้เวลาอยู่กับคุณลุงน่ะ ท่าทางสนุกสนานกันมากทีเดียว ผมไม่อยากรบกวนเวลาของสองพ่อลูก เลยว่าจะมาทานข้าวที่นี่แทน มีอะไรเหลือถึงผมบ้างไหมเนี่ยชายหนุ่มถามพร้อมกับยกมือขึ้นลูบท้อง

                   มีกับข้าวทำไว้รอน่านอีกเยอะแยะเลยค่ะ คุณเก่งขึ้นไปทานก่อนก็ได้นะคะ ไม่ต้องรอน่านก็ได้

                    น่านยังไม่กลับมาจากคอกม้าอีกเหรอ?ใบหน้าหล่อเหลาขาวคมเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

                    ยังเลยค่ะ น่านไม่ยอมให้พี่นนท์อยู่เป็นเพื่อน พี่นนท์เลยกลับมาก่อน นี่ผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้วก็ยังไม่โทร.มาบอกให้ไปรับเลยค่ะเธอไม่ค่อยสบายใจนัก น่านยังใหม่มากสำหรับที่นี่ โดยเฉพาะกับคอกม้า แพรกลัวเหลือเกินค่ะว่าเธอจะเป็นลมเป็นแล้งไป เพราะก่อนออกไปจากที่นี่ก็หน้าตาซีดเซียวดูเพลียๆ ตอนนี้ก็ทุ่มกว่าแล้วด้วย

                   ถ้างั้นผมจะออกไปรับเธอให้เอง แพรไม่ต้องห่วงนะกัมปนาทเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่บาง ยิ้มให้เธอแล้วหมุนตัววิ่งฝ่าฝนกลับไปขึ้นรถ แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขาเองก็มัวแต่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ ลืมนึกไปเลยว่าลุยซ์มีคำสั่งให้นัทชาไปทำความสะอาดคอกม้าต่ออีก นี่ผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง

                   เมื่อมาถึงคอกม้า กัมปนาทก็จอดรถแล้วเปิดประตูลงไปอย่างรีบร้อน เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่พบว่าลุยซ์เองก็กำลังเปิดประตูลงมาจากรถเช่นกัน คนที่มีดวงตาสีเทาเยียบเย็นมองมาโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินไปกดรหัสที่ใช้ล็อกประตูอัตโนมัติบานใหญ่ ทันทีที่มันเปิดออกเขาก็ได้ยินเสียงมาร้องและตะกุยพื้นไปมาอย่างหงุดหงิด

                   นายมาทำอะไรที่นี่ลุยซ์หันมาถามคนที่เพิ่งเดินมายืนข้างตัว

                   แพรบอกว่าน่านหายเงียบไม่ยอมติดต่อไป เธอเป็นห่วงน่ะเลยขอให้ฉันช่วยมาดูให้กัมปนาทไม่ได้บอกว่าความจริงแล้วเขาเป็นอาสาเอง เพราะเบื่อที่จะเห็นรอยยิ้มกวนประสาทของลุยซ์

                   อ้าว นายไม่เรียกยัยนั่นว่าคุณน่านแล้วเหรอกระนั้นก็ยังไม่วายโดนแขวะอีกอยู่ดี

                   แล้วนายล่ะ คิดยังไงถึงออกมาที่นี่ตอนนี้กัมปนาทถามบ้าง

                   ฉันก็มาดูคนงานคนใหม่น่ะสิว่ามาทำงานตามคำสั่งหรือเปล่า

                   ฉันว่านายทำเกินไปนะเป็นอีกครั้งที่ลุยซ์ถูกตำหนิตรงๆ

                   ฉันไม่สน แต่นายคงสนมากล่ะสิ ดูร้อนรนแทนคุณน่านของนายออกขนาดนี้

                   เมื่อกัมปนาทไม่โต้ตอบอะไร ลุยซ์ก็ยักไหล่กวนๆ แล้วเดินนำเข้าไปข้างในคอกม้าก่อน ชายหนุ่มมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง ก่อนจะสบถพึมพำกับตัวเอง เมื่อเห็นคอกม้าหมายเลขหนึ่งที่เป็นของเจ้าพายุถูกเปิดทิ้งไว้ ส่วนตัวมันนั้นกำลังเดินย่ำไปมาอยู่สุดทางที่เป็นห้องเก็บของ เมื่อมันเห็นเขาก็วิ่งเหยาะๆ ตรงเข้ามาหา ยืดคอขึ้นแล้วสูดจมูกไปในอากาศ เป็นลักษณะที่บอกว่ามันกำลังพอใจและอารมณ์ดีขึ้นมาก เมื่อได้เห็นคนที่ฝึกมันตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นแค่เพียงม้าดื้อรั้นตัวหนึ่ง








    เอาแล้วววววววว น่านซวยแล้วจ้า พี่ลุยซ์นี่ก็มัวแต่ต่อปากกับหนุ่มเก่งอยู่ได้

    ปากดีไม่พอออออ แขวะเก่งไปอี๊กกกก 555555+

    พรุ่งนี้พบกันตอนหน้าค่า ขอกำลังใจหนักๆ ด้วยเน้อ ไรต์อ่อนเพลียมากช่วงนี้ ฮ่า!

    ปล. ท่านใดแวะเวียนผ่านเข้ามาฝากกดแอด fav. กันด้วยน้าาาาา

    ขอบคุณล่วงหน้าค่า จ๊วบบบบบบบบ <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×