คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : ตอนที่ 6 : กลั่นแกล้งจนได้เรื่อง {5}
มาแล้วค่าาาาา ไซนัสอักเสบก่อกวนจิตใจและร่างกายมาก
แต่ด้วยความที่กลัวคนอ่านจะรอ จึงต้องงัดถั่งงัด เอ๊ย! งัดตัวเองลุกขึ้นมาเปิดคอมอัพนิยาย
ดูสิคะดูววววววว ดูเลยว่าอินรักคนอ่านแค่ไหน *ออดอ้อนนนน*
เพราะฉะนั้นอ่านแล้ว ขอคอมเม้นให้กำลังให้อินด้วยนะค้าาาา >///////<
เมื่อกัมปนาทไม่โต้ตอบอะไร ลุยซ์ก็ยักไหล่กวนๆ แล้วเดินนำเข้าไปข้างในคอกม้าก่อน ชายหนุ่มมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง ก่อนจะสบถพึมพำกับตัวเอง เมื่อเห็นคอกม้าหมายเลขหนึ่งที่เป็นของเจ้าพายุถูกเปิดทิ้งไว้ ส่วนตัวมันนั้นกำลังเดินย่ำไปมาอยู่สุดทางที่เป็นห้องเก็บของ เมื่อมันเห็นเขาก็วิ่งเหยาะๆ ตรงเข้ามาหา ยืดคอขึ้นแล้วสูดจมูกไปในอากาศ เป็นลักษณะที่บอกว่ามันกำลังพอใจและอารมณ์ดีขึ้นมาก เมื่อได้เห็นคนที่ฝึกมันตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นแค่เพียงม้าดื้อรั้นตัวหนึ่ง
ลุยซ์ลูบหัวแล้วเรียกชื่อมันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ใช้ถ้อยคำนุ่มนวลปลอบประโลม จากนั้นก็ตะล่อมให้มันยอมเดินเข้าไปในของกั้นของตัวเอง
เจ้าพายุทำตามอย่างว่าง่าย เขาจึงมองว่ามันไม่ได้เกิดอาการตื่นตระหนกผิดปกติอะไร
แค่ดูหงุดหงิดเสียมากกว่า แต่จะเป็นเพราะอะไรนั้นคงต้องถามจากนัทชาดูอีกที
“ยัยตัวแสบหายไปไหนนะ คงแอบอู้งานแน่ๆ” ลุยซ์พึมพำและมองไปรอบๆ
“ช่วยด้วย! ช่วยฉันที!” เสียงหวานใสร้องลั่นขอความช่วยเหลือ
“นั่นเสียงน่านนี่!” กัมปนาทหันมาสบตากับลุยซ์ด้วยความตกใจระคนประหลาดใจ
“ปิดคอกพายุให้ที เดี๋ยวฉันจะไปดูเอง” แล้วชายหนุ่มก็วิ่งไปยังที่มาของเสียงทันที
เขากระชากประตูห้องเก็บของเปิดออก เห็นร่างบอบบางนั่งกอดเข่าคู้ตัวอยู่บนพื้น
แสงไฟจากภายนอกส่องผ่านเข้าไปด้านใน
ทำให้มองเห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังร้องไห้อย่างหนัก
และเนื้อตัวสั่นเทาอย่างน่าสงสาร
“คุณลุยซ์!” นัทชาไม่ทันได้คิดด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้านั่นแหละที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
ทันทีที่เห็นเขายืนอยู่ข้างหน้า เธอก็ลุกพรวดขึ้นแล้วโถมตัวเข้าไปกอดแน่น
แน่นมากจนผู้ชายตัวโตอย่างลุยซ์ยังรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก
“เฮ้ ใจเย็นๆ นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น” เขาชูมือสองข้างออกห่างตัวเธอ ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ
เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนพุ่งเข้ามากอดแนบแน่นอย่างนี้มาก่อน
แต่เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่ร้องไห้และไม่ยอมตอบคำถาม
เขาจึงลดมือลงมาแตะที่หลังอย่างลังเล
แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจวางมือลงแนบชิดแล้วลูบไล้เบาๆ เพื่อปลอบโยน
กัมปนาทตามมาเห็นภาพนั้นเข้าก็พอจะเดาออก
นัทชายังไม่มีความรู้เกี่ยวกับม้ามากนัก บางทีอาจจะเผลอทำอะไรไม่ถูกใจมันเข้า
เจ้าพายุถึงได้ดูหงุดหงิดขนาดนั้น ม้าเป็นสัตว์ที่เข้าใจยากพอสมควร
แต่ถ้าได้คุ้นเคยและเรียนรู้นิสัยใจคอของมันสักระยะหนึ่งแล้ว
ก็จะเดาออกทันทีว่าท่าทีที่มันแสดงออกนั้นหมายถึงอะไร
นัทชาไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะยินยอมตอบคำถาม
ยังคงโอบแขนรอบเอวลุยซ์แน่นไม่ยอมปล่อย
ร้องไห้อยู่ตรงอกเขาจนเสื้อเชิ้ตที่ใส่เปียกชื้นเป็นวงกว้างไปแล้ว
จนลุยซ์ต้องถลึงตาใส่กัมปนาทเพื่อขอความช่วยเหลือ อีกฝ่ายจึงขยับมาใกล้ๆ
แล้วแตะที่ไหล่ของหญิงสาว
“ไม่ต้องกลัวแล้วน่าน เจ้าพายุมันกลับเข้าคอกกั้นไปแล้ว”
น้ำเสียงอบอุ่นทำให้นัทชาคลายใจลงมาก เธอปล่อยมือออกจากเอวของลุยซ์เพื่อจะหันมาบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา
แต่จู่ๆ ความรู้สึกปวดหนึบที่ขาก็ดึงเธอให้ทรุดตัวลงโดยไม่ตั้งใจ
“ยัยกวางน้อย!” เป็นอีกครั้งที่ลุยซ์เรียกเธอแบบนี้
เขาช่วยประคองเธอไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มพับไปบนพื้น
“ขะ...ขาฉัน” เสียงที่เอ่ยบอกทั้งแผ่วเบาและแหบโหย
“ขาเหรอ...ขาเธอเป็นอะไร?” ลุยซ์ถามพร้อมๆ
กับที่ไล่สายตามองลงไป
ใบหน้าของเขาซีดเผือดเมื่อเพิ่งสังเกตเห็นว่าตรงด้านข้างของปลีน่องซ้าย มีรอยบาดค่อนข้างลึก
แต่ไม่ยาวมากนัก มีเลือดสีแดงฉานไหลออกมามากจนขากางเกงยีนเปียกชุ่มไปหมดแล้ว
“เฮ้ย! แย่แล้วลุยซ์
ฉันว่าน่านคงโดนคราดที่เก็บไว้ในห้องเก็บของบาดขาเอา” กัมปนาทอุทานลั่น
รีบดึงผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ออกมาส่งให้ แต่ลุยซ์ไวกว่ามาก เขาดึงผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตออกมา
มัดแน่นเหนือแผลจนนัทชาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
“ชู่ว! ใจเย็นๆ
ฉันจำเป็นต้องห้ามเลือดก่อนที่เธอจะซีดตายไปก่อน”
“ให้ฉันตายไปเลยก็ดีนะ คุณจะได้ไม่ต้องรำคาญฉัน
หรือคอยหาวิธีกลั่นแกล้งให้ฉันยอมออกไปจากที่นี่” นัทชามองสบกับดวงตาสีเทา
คำพูดของเธอทำเอาเขาถึงกับพูดไม่ออก
“อย่าพูดมาก” ลุยซ์ตัดบทเอาง่ายๆ
แต่หญิงสาวยังไม่ยอมละสายตาไปจากเขา หยาดน้ำตาร่วงพรูไม่ขาดสาย
“ถ้ามีที่ไป...ฉันคงไม่หน้าด้านอยู่หรอก
แต่ฉันไม่มีใครหรือที่ไหนให้ซุกหัวนอนอีกแล้ว ฉันถึงต้องทำตัวหน้าด้านหน้าทนแบบนี้
บางทีการตายอาจจะเป็นทางออกที่ฉันควรเลือกก็ได้
ฉันก็จะได้เลิกกลัวว่าพ่อจะมาลากฉันกลับไปแต่งงานกับคนทุเรศๆ แบบนั้นอีก” ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่เธอให้เหตุผลกับเขา
ทุกถ้อยคำบาดลึกลงในหัวใจของลุยซ์อย่างประหลาด
และเป็นครั้งแรกที่เขายอมเชื่อโดยสนิทใจว่านัทชาไม่ได้สร้างเรื่องโกหก
แววตาโศกเศร้าของเธอกำลังยืนยันทุกอย่างได้เป็นอย่างดี
“หยุดพูดได้แล้ว
เธอไม่ใช่คนที่จะต้องมาตายเพราะเรื่องไร้สาระหรอก ไหนๆ ก็ดื้อมาจนขนาดนี้แล้วนี่
ฉันว่าเธอเดินหน้าต่อไปเถอะ
เพราะฉันเองก็เบื่อที่จะสู้กับความหน้าด้านของเธอแล้วเหมือนกัน อยากอยู่ก็อยู่ไป
แต่อย่ามาทำให้ฉันต้องปวดหัวเด็ดขาด” สิ่งที่เอ่ยออกมาให้ความหมายในเชิงยอมแพ้
นั่นทำให้นัทชากับกัมปนาทเข้าใจได้ทันทีว่าต่อจากนี้ไป
ลุยซ์จะยอมให้หญิงสาวอยู่ที่ฟาร์มวราทิตย์ต่อโดยไม่หาทางกลั่นแกล้งอีก
“คุณ...พูดจริงเหรอคะ!” เธอถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นตกใจ
“จะให้ฉันเปลี่ยนใจไหม ถ้าไม่...ก็เงียบไปซะ
หนวกหูชะมัด!” ชายหนุ่มเอ็ดเสียงดัง
แล้วช้อนร่างที่อ่อนปวกเปียกขึ้นสู่อ้อมแขน มองสบตากับกัมปนาทแล้วแยกเขี้ยวใส่ “จะยืนยิ้มอีกนานไหมครับคุณเก่ง ช่วยไปเปิดประตูให้ผมหน่อยได้ไหมครับ คนเจ็บต้องรักษาด้วยหมอนะ
ไม่ใช่ด้วยรอยยิ้มเลื่อนลอยแบบนี้!”
กัมปนาทหุบยิ้มฉับ ได้สติทันทีว่านัทชากำลังบาดเจ็บ เขาพยักหน้าเร็วๆ
แล้วรีบวิ่งนำไปที่ประตู
จัดการเปิดมันออกแล้วตรงไปเปิดประตูรถของลุยซ์เอาไว้ให้ด้วย
มองดูอีกฝ่ายพาคนตัวเล็กเข้าไปนั่งในรถ แล้วหันมาบอกกับเขาด้วยสุ้มเสียงจริงจัง
“ขับรถไปรับหมอยงยศให้ด้วยนะเก่ง
ฉันจะพายัยนี่ไปที่เรือนใหญ่”
“ทำไมไม่พาไปที่เรือนรับรองล่ะ
แพรกับนมหวินจะได้ช่วยดูแลน่านได้ไง”
“ฉันเป็นต้นเหตุ ฉันคิดว่าตัวเองควรรับผิดชอบเรื่องนี้”
ลุยซ์อธิบาย แล้วถอนหายใจยาว “จริงๆ
ก็อยากพาไปที่เรือนรับรองนั่นแหละ แต่ฉันสัญญากับพ่อไว้แล้วว่าจะไปนอนที่เรือนใหญ่
คืนนี้มีนัดเล่นหมากรุกกันด้วย” ก่อนจะเอ่ยด้วยความลำบากใจ
เพราะโดยปกติแล้วลุยซ์เป็นคนพูดคำไหนคำนั้นเสมอ
“ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณลุงหรอก
เดี๋ยวฉันจะบอกท่านให้ว่านายมีเรื่องด่วนต้องจัดการ แล้วคืนนี้ฉันจะเป็นคนเล่นหมากรุกกับคุณลุงแทนนายเอง
พาน่านไปที่เรือนรับรองเถอะ แต่สิ้นเดือนต้องเพิ่มเงินเดือนอีกสิบเปอร์เซ็นด้วยนะ
ไม่งั้นไม่ยอมเว้ย!” กัมปนาทพูดขำๆ
แล้วทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก เมื่อลุยซ์ยอมตกลงอย่างว่าง่าย
“ได้เลย สิบเปอร์เซ็นตามตกลง ฝากดูแลพ่อด้วยก็แล้วกัน
ร่างกายน่ะไม่เป็นอะไรหนักหรอก แต่จิตใจนี่สิพังยับเยินเลย” เขาฝากฝังแล้วตบไหล่กัมปนาทแรงจนแทบทรุด
จากนั้นก็รีบวิ่งอ้อมไปขึ้นรถในตำแหน่งคนขับ
สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วพานัทชามุ่งหน้าไปยังเรือนรับรองทันที
จบตอนพอดีเลยยยยย พบกันใหม่ตอนหน้านะจ้ะสาวๆ
มาดูกันว่าการแกล้งคนอื่นจนได้เรื่องเนี่ย จะทำให้พี่ลุยซ์เลิกใจร้ายได้บ้างไหม!
ปล.ช่วงนี้ตัวอินเองก็ป่วย หนุ่มแฝดเพิ่งเข้าอนุบาล 1 ก็ป่วยวนไปสารพัดโรค
นิยายเรื่องนี้แต่งไปอัพไป มีเผื่อไม่มาก แต่จะพยายามเร่งมือนะคะ
หวังว่าถ้าอัพช้าไปบ้างเป็นบางช่วง คงไม่งอนกันเน้ออออออ
เอาน่าสัญญาว่าไม่ดองแน่นอน 5555555+
ปล. ท่านใดแวะเวียนผ่านเข้ามาฝากกดแอด fav. กันด้วยน้าาาาา
ขอบคุณล่วงหน้าค่า จ๊วบบบบบบบบ <3
ขออนุญาตฝากผลงานที่วางขายล่าสุดด้วยค่า
สามารถสั่งซื้อแบบรูปเล่มได้ที่ สนพ.ดีต่อใจ
และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
https://www.facebook.com/commerce/products/2104534329662617/
และมีให้ดาวน์โหลดแบบอีบุ๊คแล้วที่เว็บ MEB ค่ะ
ความคิดเห็น