ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิชิตรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่ 9 : หว่านเสน่ห์ {1}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 953
      29
      23 มิ.ย. 62




              ลุยซ์มองกระจกตรงศีรษะแล้วกระตุกยิ้ม เมื่อพบว่านัทชาเผลองีบหลับไป ชายหนุ่มกำลังจะเลี้ยวรถเข้าไปทางซ้ายมือ ซึ่งขับเลยไปอีกประมาณห้ากิโลเมตรก็จะถึงที่หมาย แต่จู่ๆ กลับมีรถเก๋งคันงามแล่นพรวดออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้เขาอุทานลั่น รีบหักหลบแล้วเหยียบเบรกดังเอี๊ยด ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่ารถของอีกฝ่ายจะเฉี่ยวเข้าที่ข้างรถเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

              บ้าจริง!” ชายหนุ่มสบถลั่น

              เกิดอะไรขึ้นคะ!” นัทชาสะดุ้งตื่น และเอ่ยถามก่อนที่อาทิตย์จะทันได้ขยับปากพูด

              ก็รถบ้าคันนั้นน่ะสิ! จู่ๆ ก็ทะลึ่งพรวดสวนออกมา ขับผิดเลนมาแบบหน้าไม่อาย อุตส่าห์หลบแล้วแต่ดูเหมือนจะไม่พ้น เดี๋ยวจะลงไปด่าให้หูแตกเลย!” ลุยซ์ฉุนจัด ท่าทางเหมือนราชสีห์ที่กำลังจะกระโจนเข้าหาเหยื่อ เขาถอดเข็มขัดนิรภัยออก เอื้อมมือไปเปิดประตู

              อย่าใจร้อนละลุยซ์ พ่อขออาทิตย์แตะที่แขนลูกชาย

              ผมจะพยายามครับเขานิ่งไปเล็กน้อย ถอนหายใจแรงๆ แล้วเปิดประตูออกไป

              คู่กรณีรีบเปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทางร้อนรน นั่นทำให้ลุยซ์ได้เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง รูปร่างผิวพรรณดีและแต่งตัวเปิดเผยเสียจนน่ากลัว เธอสวมชุดเดรสสั้นรูปสีชมพู อวดเนินอกอิ่มเต็มที่เดาว่าน่าจะผ่านการศัลยกรรมมาแล้วเต็มที่ เจ้าหล่อนมีใบหน้าที่สวยเก๋ แต่เสียดายแต่งหน้าจัดมากเสียจนดูไม่สมอายุ

              “Oh! My God!” หญิงสาวอุทานด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงสมบูรณ์แบบ ถอดแว่นกันแดดสีชาออก เงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วเอ่ยต่อด้วยความเสียใจ I’m so sorry! It's my fault

              ทำไมคุณถึงขับรถแบบนี้ รู้ไหมว่าคุณต้องขับอยู่อีกเลน นี่ถ้าผมหลบไม่ทัน เราคงประสานงากันเต็มๆ ไปแล้วเขาไม่สนใจจะโต้ตอบด้วยภาษาอื่น แต่ใช้ภาษาไทยสื่อสาร มั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องเข้าใจ เพราะดูจากหน้าตาแล้วคิดว่าเธอคงไม่ใช่ชาวต่างชาติแน่ๆ

              คุณพูดภาษาไทยได้ด้วยเหรอคะเธอทำตาโต ตอนแรกคิดว่าหนุ่มหล่อตรงหน้าเป็นชาวยุโรปเสียอีก

              แน่นอน ผมเกิดและโตที่นี่เขายักไหล่และตอบด้วยท่าทีสบายๆ

              มิน่าละ พูดไทยชัดมากทีเดียว

              ว่าแต่คุณเถอะ เป็นมือใหม่หัดขับใช่ไหม ถึงได้หาเรื่องฆ่าตัวตายแบบนี้

              ไม่เชิงหัดขับหรอกค่ะ แต่จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิด ฉันไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศมานานหลายสิบปี เพิ่งกลับมาเมืองไทยได้ไม่กี่วันเอง ยังไม่คุ้นเคยการใช้ถนนในเมืองไทยเท่าไรนัก

              รู้แบบนี้แล้วคุณยังกล้าขับออกมาข้างนอกอีกเหรอเนี่ย เหลือเชื่อเลย ลุยซ์ส่ายหน้าและยกมือเท้าเอว

              ฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันยอมรับว่าฉันผิด ฉันยินดีรับผิดชอบทุกอย่างเลยคู่กรณีสาวสวยเสนออย่างจริงใจ แล้วหมุนตัวกลับไปเปิดประตูรถ หยิบกระเป๋าสะพายออกมาค้นหาบางอย่าง เมื่อพบมันแล้วก็ยื่นส่งให้กับลุยซ์

              เฌอมาวีร์ วรมาศ...ชื่อนี้ไม่ใช่สิ่งที่ชายหนุ่มคุ้นเคยเลย แต่นามสกุลต่างหากที่ทำให้เขานิ่งอึ้งราวกับตกอยู่ในภวังค์ มือหนาดึงแว่นออกไปให้พ้นใบหน้า เพื่อให้สามารถจ้องมองอีกฝ่ายได้อย่างถนัดตา เฌอมาวีร์เม้มปากอย่างพอใจ เมื่อได้มองสบกับดวงตาสีเทาสวย ตอนแรกคิดว่าเขาหล่อเท่กระชากใจมากอยู่แล้ว แต่พอได้เห็นดวงตาสีสวยนั่นชัดๆ เธอพบว่าเขาช่างมีเสน่ห์เหลือร้าย

              ร้ายเสียจนเธอตัวสั่นด้วยความปรารถนา...

              ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวเป็นจังหวะอัดกระแทกอยู่ในอก ที่แท้ผู้หญิงตรงหน้าก็คือลูกสาวเพียงคนเดียวของเสี่ยหนาน วรมาศ ชายชั่วที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนสนิทของบิดา และอีกสถานะหนึ่งก็คือชู้รักของมารดาเขานั่นเอง ความโกรธเกลียดทำให้ไหล่หนาสั่นสะท้านน้อยๆ ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นอย่างประหลาด

              ทำไมคุณจ้องฉันขนาดนั้นคะ มีอะไรหรือเปล่า?เฌอมาวีร์เอ่ยถาม

              เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าเราคงเป็นเพื่อนบ้านกัน ถ้าคุณคือลูกสาวของ...เสี่ยหนานเขาสะกดกลั้นโทสะไว้ให้ลึกที่สุด ใบหน้านิ่งเฉยในทีแรก เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มดุจมิตรอย่างมีแผน ไม่คิดมาก่อนเหมือนกันว่าความบังเอิญในครั้งนี้ จะจุดประกายบางอย่างขึ้นมาในหัวของเขาได้รวดเร็วเสียเหลือเกิน

              ใช่ค่ะ เสี่ยหนานคือคุณพ่อของฉันเองเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายรู้จักมักคุ้นกับบิดา หญิงสาวก็ยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม

              ผมไม่ยักรู้ว่าเสี่ยหนานมีลูกสาวสวยมากขนาดนี้คำชมตรงไปตรงมาทำเอาเฌอมาวีร์แก้มแดงปลั่ง

              แหม ชมกันแบบนี้ก็เขินแย่เลยสิคะ

              ผมว่าคุณน่าจะคุ้นกับคำชมพวกนี้แล้วนะครับ พวกหนุ่มๆ คงพูดคำเดียวกับผมมาแล้วนับไม่ถ้วน ใช่ไหมครับคุณเฌอมาวีร์ เขาเน้นชื่อเธอด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ราวกับต้องการจดจำมันไว้ให้ขึ้นใจ ดวงตาสีเทาทอประกายบางอย่าง มันดูอันตรายแบบที่ไม่ควรเข้าใกล้ แต่เฌอมาวีร์กลับมองว่ามันช่างแสนเย้ายวนใจและน่าค้นหา

              เรียกว่าเฌอก็พอค่ะ เรียกชื่อเต็มมันยาวเกินไปเจ้าของร่างอวบอัดขยับเข้ามาใกล้ขึ้น เงยหน้าจ้องมองอย่างท้าทาย ใช้นิ้วชี้เรียวยาวจิ้มไปบนอกกว้าง แล้วไล้วนไปมา แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นสาวหัวนอกที่กล้าได้กล้าเสีย เรื่องรถ...เดี๋ยวเฌอโทร.ตามประกันก่อนนะคะ แค่นี้ก็ทำคุณเสียเวลามามากพอแล้ว

              ไม่ต้องหรอกครับ รถมีรอยไม่เยอะ ผมจัดการเองได้ลุยซ์ดึงมือเล็กออกห่างตัว คิดจะสะบัดออกไป แต่ชะงักแล้วเปลี่ยนเป็นกุมเอาไว้แทน คุณเองก็ไม่ได้ตั้งใจ แล้วเราก็คนบ้านใกล้เรือนเคียงกันด้วย เอาไว้ว่างๆ ผมจะแนะนำเรื่องการขับรถบนท้องถนนที่ปลอดภัยให้คุณฟังนะครับถ้าคุณไม่รังเกียจ

              ไม่เลยค่ะ เฌอรู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำ ว่าแต่คุณจะไม่แนะนำตัวเองหน่อยเหรอคะเจ้าหล่อนขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จงใจใช้อกอวบอิ่มบดเบียดเข้ามาแนบชิด แต่ลุยซ์ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าอภิรมย์เลยแม้แต่น้อย ถ้าไม่ใช่เพราะเขามองเห็นประโยชน์บางอย่างจากเธอ เขาคงผลักออกไปให้ห่างแล้ว

              ลุยซ์ครับ...ผมชื่อลุยซ์ เป็นเจ้าของฟาร์มวราทิตย์ที่อยู่ไม่ไกลจากฟาร์มแกะของเสี่ยหนานนัก

              ชื่อเท่จังเลยค่ะเป็นอีกครั้งที่เธอทาบมือลงบนอกเขา

              ขอบคุณครับลุยซ์ยิ้ม แล้วขยับตัวถอยห่างออกไป วันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อน พอดีมีคนติดรถมาด้วยน่ะครับ ส่วนคุณเอง ผมว่าขับรถกลับบ้านก่อนน่าจะดีกว่า ถ้าอยากออกไปไหนก็ให้คนอื่นขับรถพาไปเถอะครับ ปลอดภัยดีชายหนุ่มเตือน

              เฌอก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ ว่าแต่คุณลุยซ์แน่ใจนะคะว่าจะไม่ให้เฌอจัดการซ่อมรถให้

              แน่ใจสิครับ เรื่องเล็กน้อยเอง ผมจัดการได้สบายมาก ผมไปก่อนนะครับ เขาบอกลาพร้อมโบกมือน้อยๆ ก้าวถอยไปสองสามก้าว ขยิบตาให้เธออย่างมีความหมาย ก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่รถของตัวเองทันที หากต้องการล่อเหยื่อให้ติดกับ เขาก็ไม่ควรทำตัวเป็นฝ่ายรุกไล่มากเกินไป เล่นตัวนิดๆ หยิ่งหน่อยๆ มันเป็นการเรียกร้องความสนใจที่ดีกว่ามาก

              นั่นใครน่ะลุยซ์ ทำท่าทางเหมือนจะกลืนกินแกเข้าไปทั้งตัวอาทิตย์ถามทันทีที่ลูกชายเปิดประตูเข้ามานั่ง

              คนบ้านใกล้กันนี่เองครับพ่อ ไปอยู่เมืองนอกเมืองนามานานหลายสิบปี กลับมาเลยไม่ค่อยชินถนนหนทางลุยซ์ไม่คิดจะบอกความจริง เพราะการเอ่ยถึงสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเสี่ยหนาน มักทำให้บิดาเจ็บปวดและนึกถึงความหลังขึ้นมาเกือบทุกครั้ง เขาไม่อยากให้ท่านถูกทำร้ายจากคนเลวๆ อีก แต่มันถึงเวลาแล้วที่คนพวกนั้นต้องได้รับบทเรียนบ้าง

              สาวหัวนอกนี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่ทำท่าทางแบบนั้นชายสูงวัยบ่นแล้วส่ายหน้าอย่างระอา

              แต่เธอสวยดีนะคะนัทชาเอ่ยขึ้นมาบ้าง เพราะอยากดูท่าทีของลุยซ์

              สวยเหรอ! บ้าไปแล้ว เธอสายตาสั้นแน่ๆ

              ไม่รู้สิคะ ฉันว่าเธอสวยดี ไม่อย่างนั้นคุณลุยซ์คงไม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขนาดนั้นพูดแล้วหญิงสาวก็นึกอยากกัดลิ้นตัวเองนัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเมื่อเห็นเขาดูสนใจแม่สาวอกสะบึ้มนั่น หัวใจเธอถึงกระตุกอย่างประหลาด หากตอนแรกที่พบกัน เขายิ้มให้เธอแบบนี้บ้างก็คงดี

              บางทีสิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เป็น มันก็ความหมายบางอย่างซ่อนอยู่ ความจริงยัยนั่นก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่นักหรอก ออกจะหน้าตาดีเลยด้วยซ้ำ แต่การแต่งหน้าหนาๆ แบบนั้นมันทำให้ดูแก่เกินวัยไปมาก ฉันไม่ชอบผู้หญิงปากแดงๆ รู้สึกเหมือนจะโดนผีเขมือบอยู่ตลอดเวลา

              คำตอบนี้ทำเอาอาทิตย์หัวเราะร่วน ในขณะที่นัทชาพยายามกลั้นยิ้ม และไม่ได้เอ่ยอะไรอีก นอกจากนั่งไปเงียบๆ จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้าไปจอดที่หน้าเรือนใหญ่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นมันแบบเต็มสายตา








    พบกันพรุ่งนี้ค่าาา เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นทุกวัน

    ขอกระซิบบอกว่าห้ามพลาดนะคะะะะะะะะะ

    รับประกันความเขินและความหมั่นไส้ระดับ 10 ค่ะ 5555+

    สำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาอ่าน เพื่อความต่อเนื่องกดแอด Fav. ที่แบนเนอร์เลยจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×