คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : ตอนที่ 8 : ก้าวไปข้างหน้า {4}
เวลาผ่านไปราวสิบนาที นัทชาก็ถูกพาตัวออกมาจากห้องทำแผล รถเข็นหยุดนิ่งที่หน้าห้องชำระเงินและรับยา มีพยาบาลคอยอยู่ข้างๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เห็นอย่างนั้นเขาจึงลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปหา อุณหภูมิในโรงพยาบาลนั้นเย็นเฉียบจับใจ เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นนัทชายกแขนขึ้นกอดตัวเอง
“เป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม” ลุยซ์โน้มตัวลงถาม
นั่นทำให้พยาบาลสาวที่ยืนอยู่เป็นเพื่อน ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
“ถ้าสามีคนไข้มาแล้ว ดิฉันขอตัวเลยนะคะ ขอให้หายไวๆ ค่ะ” เจ้าหล่อนสรุปเอาอย่างนั้น ยกมือไหว้ลาอย่างสุภาพ
แล้วหมุนตัวเดินจากไปทันที ปล่อยให้ลุยซ์ยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้นอย่างหัวเสีย
ให้ตายเถอะ...ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องถูกยัดเยียดให้กับนัทชาอยู่เรื่อยเลยจริงๆ
“คุณหมอบอกว่าแผลยังไม่แห้งดีค่ะ บวมแดงด้วยนิดหน่อย
เลยสั่งห้ามไม่ให้เดินมาก แล้วให้ทำแผลทุกวัน
ห้ามให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะถึงวันตัดไหมค่ะ” หญิงสาวอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด
“หมอจะให้มาตัดไหมได้วันไหนละ”
“อีกสิบวันค่ะ”
“อืมม์ งั้นระหว่างนี้ฉันจะพาเธอมาทำแผลที่นี่ทุกวันเอง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะคุณลุยซ์ แผลแค่นี้ทำเองที่บ้านได้ค่ะ
ฉันบอกคุณหมอไปแล้วว่าจะทำแผลเอง”
“เธอมั่นใจได้ยังไงว่าตัวเองจะทำได้ดีเท่าพยาบาล” เขายืดตัวเต็มความสูง
ยืนกอดอกมองด้วยแววตาจริงจัง
“ก็ฉันเรียบจบพยาบาลมานี่คะ ทำได้แน่นอนค่ะ” เธอมองเขาตาแป๋ว
แล้วเอ่ยยิ้มๆ
“เออว่ะ ลืมไปสนิทเลย
ฉันคิดว่าเธอเป็นแค่เด็กกะโปโลที่หนีออกจากบ้านมาเสียอีก” ชายหนุ่มกวนประสาท
และจังหวะนั้นเองที่เจ้าหน้าที่เรียกชื่อเธอผ่านไมโครโฟนเพื่อแจ้งให้ชำระเงิน
“เชิญคุณนัทชา แสนคำภา ชำระเงินที่ช่องบริการหมายเลขห้าค่ะ” สิ้นเสียงนั้น ลุยซ์ก็ช่วยเข็นรถเข็นของหญิงสาวไปข้างหน้าทันที
เขาเปิดกระเป๋าสตางค์จ่ายเงินให้เธอทั้งหมด
จากนั้นครู่เดียวก็ได้ยินเสียงประกาศเรียกให้ไปรับยาและอุปกรณ์ทำแผลที่ช่องถัดไป
“เท่าไรคะ เดี๋ยวฉันคืนเงินให้ค่ะ” นัทชาถาม พร้อมหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋าสะพาย
“ไม่ต้องหรอก ถือว่ารับผิดชอบที่มีส่วนทำให้เธอบาดเจ็บก็แล้วกัน” ลุยซ์โบกมือปฏิเสธ แล้วเข็นรถเข็นของอีกฝ่ายไปยังจุดที่บิดานั่งรออยู่
ถือเป็นครั้งแรกที่อาทิตย์ได้เห็นหน้านัทชาอย่างชัดเจน
และสรุปได้ทันทีว่าว่าที่พยาบาลตัวน้อยๆ คนนี้
มีใบหน้าที่น่ารักจิ้มลิ้มเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะลักยิ้มที่กดลงข้างแก้มทั้งสอง
ยิ่งมองก็ยิ่งดูมีเสน่ห์
ไม่แปลกหรอกที่จะได้เห็นลูกชายตัวดีเอาใจใส่ผู้หญิงมากกว่าปกติอย่างนี้
“วันนี้คนไข้คงเยอะนะครับ รอคิวนานเลย” ชายหนุ่มบ่น
แล้วนั่งลงบนโซฟาหน้าห้องตรวจ
“เชิญคุณอาทิตย์ วราทิตย์ภราดร เข้าห้องตรวจได้เลยค่ะ”
ยังไม่ทันไร เสียงเรียกของพยาบาลก็ดังขึ้นทันที
“เธอรออยู่ตรงนี้นะ ห้ามหายไปไหน ฉันขี้เกียจตามหา” เขาหันมาสั่งกับนัทชา
ก่อนจะเข็นรถของบิดาหายเข้าไปข้างในห้องตรวจ คุณหมอยงยศยิ้มทักทายและยกมือไหว้ผู้สูงวัยกว่า
รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันที่วันนี้เห็นลุยซ์พาบิดามาถึงโรงพยาบาลได้
ทั้งที่ปกติแล้ว อาทิตย์จะยอมมาแค่วันที่ระบุตามใบนัดเท่านั้น
“เป็นยังไงบ้างครับวันนี้” คุณหมอเอ่ยถาม
ทันทีที่ลุยซ์เคลื่อนรถเข็นคนป่วยเข้าไปหยุดอยู่ใกล้ๆ
“เหนื่อยครับคุณหมอ หายใจไม่เต็มอิ่มเลย แล้วก็รู้สึกแน่นหน้าอกด้วยครับ”
อาทิตย์อธิบายไปตามอาการ คุณหมอขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ ใช้เครื่องสเต็ตโทสโคป
(Stethoscope) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในการฟังเสียงจากภายในของร่างกาย
โดยส่วนมากใช้ฟังเสียงจากปอดและชีพจรการเต้นของหัวใจ
ทาบไปตามทรวงอกของคนป่วย
“อืมม์ ชีพจรเต้นเร็วผิดปกตินะครับ ความดันก็สูงนิดหน่อย
ช่วงนี้คุณอาทิตย์ได้พักผ่อนเต็มที่หรือเปล่า”
“น่าจะไม่ครับ ผมนอนไม่ค่อยหลับเลย”
“ไม่ได้ทานยาคลายเครียดที่หมอจ่ายให้เหรอครับ”
“ทานครับ แต่มันก็หลับๆ ตื่นๆ อยู่ดี”
“ถ้างั้นเดี๋ยวหมอจะเปลี่ยนยาให้ เอามิลลิกรัมที่สูงขึ้นสักเล็กน้อย
แต่คุณอาทิตย์เองก็ต้องพยายามไม่เครียดด้วยนะครับ หาอะไรที่ผ่อนคลายทำบ้าง”
หมอยงยศแนะนำด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “แล้วนี่เมื่อไรจะตัดสินใจยอมรับการผ่าตัดครับเนี่ย
หมออยากเห็นคุณอาทิตย์กลับมาแข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนจะแย่แล้วนะ” ก่อนจะหว่านล้อมส่งท้าย
“ผมเพิ่งพูดกับลุยซ์ไปเมื่อสักพักนี่เองครับว่าอยากจะผ่าแล้ว
ผมชักเบื่อเหมือนกันที่ตัวเองกลายเป็นคนไร้สมรรถภาพแบบนี้
จะลุกจะนั่งก็เหนื่อยไปหมด
ต่างจากตอนลุยงานที่ฟาร์มเมื่อก่อนอย่างลิบลับเลยทีเดียว” อาทิตย์มั่นใจว่าตัวเองทบทวนดีแล้ว
การผ่าตัดสำหรับหลายๆ คน มันคือการได้ชีวิตใหม่กลับคืนมา
ในขณะที่บางคนเปรียบเสมือนการสิ้นสุดลมหายใจ
แต่เขาก็ศึกษามาพอสมควรแล้วว่าโรคลิ้นหัวใจรั่วของตัวเองนั้น
ไม่ได้มีความเสี่ยงอะไรร้ายแรงนัก หากไม่โชคร้ายจริงๆ ก็คงได้ตื่นขึ้นมาพบหน้าลูกชายอีกครั้ง
“หมอดีใจนะครับที่คุณตัดสินใจยอมผ่าตัด
รับรองว่าทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีแน่นอนครับ คุณอาทิตย์พร้อมช่วงไหนบอกหมอได้นะ หมอให้สิทธิ์คนไข้เต็มที่สำหรับการเตรียมตัว”
“ผมอยากขอเวลาเตรียมใจเยอะหน่อยครับ บอกตามตรงเลยว่าผมค่อนข้างเป็นกังวล
ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ ผมแทบไม่เคยป่วยเข้าโรงพยาบาลเลย แต่พอเป็นขึ้นมา
ดันเจอโรคที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเสียได้” คนป่วยเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ
“ไม่เป็นไรครับ หมอเข้าใจ ถ้างั้นอีกสักสองสามเดือนดีไหมครับ
เพราะในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา คุณอาทิตย์ค่อนข้างเครียดมาก แล้วก็พักผ่อนน้อยด้วย
ผลการตรวจร่างกายยังไม่ค่อยดีนัก หมออยากให้คุณแข็งแรงขึ้นกว่านี้อีกหน่อย หลังผ่าตัดร่างกายจะได้ฟื้นตัวได้ดีครับ”
“ดีครับหมอ ผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
“ถ้างั้นเดี๋ยวหมอจะแจ้งรายละเอียดเรื่องวันผ่าให้ ขอเช็กคิวก่อนสักครู่นะครับ” แล้วคุณหมอก็หันไปจดจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ รัวนิ้วมือลงบนแป้นคีย์บอร์ดพักหนึ่ง มีสีหน้าท่าทางครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะได้ข้อสรุปที่สมบูรณ์แบบ
“เอาเป็นว่าเรามีนัดผ่าตัดกันอีกสามเดือนข้างหน้านะครับ
คุณอาทิตย์มีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างเยอะทีเดียว ระหว่างนี้ต้องหมั่นออกกำลังกายแบบเบาๆ
ทานอาหารที่มีประโยชน์ แล้วที่สำคัญมากคือพยายามอย่าเครียดและพักผ่อนมากๆ นะครับ
ตรงนี้ต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจเลย” คุณหมอบอก
“ครับหมอ ตกลงตามที่หมอบอกเลยครับ” อาทิตย์ยืนยันตามนั้นโดยไม่ปราศจากความลังเล
นั่นทำให้คนเป็นลูกชายยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
เหตุผลที่อาทิตย์เปลี่ยนใจยอมรักษาตัว
ไม่ได้เกิดจากแรงกระตุ้นใดเป็นพิเศษ
แต่เป็นเพราะความเบื่อหน่ายที่ต้องทนอยู่อย่างคนป่วย
ที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาเปลี่ยนใจเอาง่ายๆ
โดยเฉพาะเมื่อเข้าใจว่าอดีตภรรยาแต่งงานใหม่ไปแล้ว
เขาจึงคิดจะก้าวต่อไปข้างหน้าบ้าง ไม่ใช่จมอยู่กับความหลังกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว
เมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อย
แล้วพบว่าไม่มีสิ่งใดนักหนาจนต้องแอดมิทในโรงพยาบาล ลุยซ์จึงพาบิดาออกจากห้องตรวจ
จัดการชำระเงินและรับยาเรียบร้อยแล้ว จึงปล่อยให้บุรุษพยาบาลรับหน้าที่จัดการรถเข็นของอาทิตย์กับนัทชา
ส่วนตัวเขารีบล่วงหน้าลงไปนำรถยนต์มารอรับถึงหน้าประตู
เมื่อช่วยให้บิดาและคนขาเจ็บขึ้นนั่งประจำบนที่ของตัวเองแล้ว
ชายหนุ่มก็กลับขึ้นไปบนรถ ขับมุ่งหน้าตรงไปยังฟาร์มวราทิตย์ทันที
วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หลังจากได้ยินว่าเสาหลักของบ้านยอมละทิ้งอดีต
แล้วก้าวต่อไปอย่างมีความหวัง แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าถ้าวันหนึ่ง
อาทิตย์รู้ความจริงเรื่องอดีตภรรยาขึ้นมา มันจะเกิดอะไรขึ้น
ช่างเถอะ...ถ้าลุยซ์ไม่พูด เรื่องอัปยศนั่นจะไม่มีทางเข้าหูบิดาเด็ดขาด
แหม่ แรกๆ นี่ชังเค้าจัง พอบทจะดีขึ้นมาก็บริการเก่งทีเดียว
มาคอยดูกันค่ะว่าพี่ลุยซ์จะทำอย่างไรกับยัยกวางน้อยของเราต่อไป
อย่างที่บอกนะคะ แต่ไหนแต่ไรมาพี่ลุยซ์ไม่ใช่คนป่าเถื่อน
แต่น่านดันโผล่มาในช่วงที่ชีวิตเจอความกดดันเรื่องแม่ แจ็คพอตเลยแตกซะงั้น 55555+
ขอขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว แต่คอยังอักเสบอยู่ ยังไออยู่
กินยาก็จะง่วงตลอด ไม่ได้ปั่นต้นฉบับให้คืบหน้าเลยยยย
แต่จะรีบปั่นรีบรีไรท์ลงให้จนครบ 70% ตามสัญญาแน่นอนค่าาา
เรื่องนี้กะว่าจะส่งสนพ. แต่ถ้าติดขัดยังไง คงขายแบบอีบุ๊ค
หยอดกระปุกรอเค้ายาวๆ ด้วยเน้อออ จ๊วบบบบบ >///<
สำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาอ่าน เพื่อความต่อเนื่องกดแอด Fav. ที่แบนเนอร์เลยจ้า
ความคิดเห็น