ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #81 : ตอนพิเศษ3(จบตอน)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.98K
      9
      9 ส.ค. 53

    ตอนพิเศษ [ต่อ]




                 ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะก้าวเท้าเดินเข้ามาในร้าน  เสียงดนตรีก็ดังแว่วให้เข้ามาได้ยิน  บรรยากาศในวันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวัน  กลุ่มนักศึกษาหญิงชายหลายคณะที่ต้องการพักผ่อนด้วยการสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนฝูงที่ ‘ร้านเหล้าหลังมอ’ แห่งนี้   และวันนี้ก็ดูเหมือนจะคึกคักเหมือนเคย เพราะผู้คนได้หลั่งใหลเข้ามาจนเกือบจะเต็มร้านในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
       
                 เขาเดินผ่านสายตากลุ่มคนหลายโต๊ะ  แล้วมุ่งไปยังด้านข้างเวที  ก่อนที่จะยกมือไหว้ทักทายคนๆหนึ่งทันที
       

                “ เฮีย  หวัดดีครับ ”

       

                “ เออ ดีๆ ”  ชายหนุ่มเจ้าของร้านบุคลิกสุดเซอร์ไหว้รับ

                “ ทำไมวันนี้มาเร็วจังวะ ?  พึ่งสามทุ่มเอง ”



                “ ฮ่ะ ๆ ก็ออกมาก่อน  เผื่อได้ทิปเพิ่ม ”  เขาพูดเล่น



                “ เท่าที่ให้มึงอยู่ทุกวันนี่กูก็จะ ‘จนแดก’ อยู่แล้วนะ !!  ขนาดทำแค่อาทิตย์ละวัน ”



                “ โห  ล้อเล่นน่ะเฮีย ”

                “ ผมแค่อยากออกมาดื่มด่ำบรรยากาศก่อน  อยู่หอเบื่อๆน่ะ ”



                “ ไหนว่าใกล้สอบแล้วไง ”



                “ โอ๊ย  เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง  สบายมาก ”

       

                “ ให้มันแน่เถอะมึง !!  กูยังกลัวว่ามึงจะมาขอลาออกกลางคันวันไหนก็วันหนึ่ง  เรียนหมอแล้วยังเสือกมาเล่นดนตรีกลางคืนอีก  จะไปรอดสักกี่เดือนกัน ”  ฝ่ายนั้นส่ายหัว



                “  พอถึงตอนนั้นค่อยว่ากันนะเฮีย  ตอนนี้อย่าพึ่งคิด ๆ  ฮ่ะ ๆ ๆ ”
       
                “  เฮ้ย !! ไอ้ต๊ะ  ขอเบียร์ขวดดิ๊ ”  เขาหันไปบอกพนักงานเสิร์ฟที่สนิทกัน

       

                “ นั่น ! ผลาญเบียร์กูอีก !! ”  เจ้าของร้านโวย
       
       

                “ บิ๊วอารมณ์ก่อนขึ้นเวทีไง ”

       

                “ เออ  แล้วไอ้เก่งล่ะ ? ”

       

                “ ก็คงมาตอนใกล้สี่ทุ่มล่ะมั้ง ? ไอ้เก่งน่ะมันขยัน ต้องอ่านหนังสือทดแทนไว้ก่อน ”

       

                “ เออ  ถ้างั้นกูไปก่อนนะ ”

       

                “ ไปไหนอ่ะเฮีย  คนเริ่มเยอะแล้วนะ ”

       

                “ กูจะไปห้องน้ำ   กูปวดขี้ !!!  มึงไปกับกูมั้ย ??  ”

       

                “ ฮ่ะ ๆ ๆ งั้นไปเถอะครับ  ”

       

                เขาเริ่มทำงานที่ร้านเหล้าแห่งนี้ตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวเมื่อต้นปี  จนถึงตอนนี้นับรวมแล้วก็เกือบๆครึ่งปีเห็นจะได้  ไม่แปลกเลยที่เขากับอาเฮียเจ้าของร้านจะสนิทสนมกันมาก  อาจจะเป็นเพราะอีกฝ่ายก็เป็นคนหนุ่มเหมือนกันเพราะพึ่งจะเรียนจบมาหมาดๆก็ได้เงินหนึ่งก้อนจากพ่อให้มาทำธุรกิจร้านเหล้าหลังมอแห่งนี้

        
               ฝ่ายนั้นเป็นคนกระโชกโฮกฮากชอบดุชอบด่าแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร  แต่ที่จริงแล้วใจดีอย่าบอกใคร  แถมยังใจใหญ่อีกต่างหาก  ไม่อย่างนั้นจะเพิ่มทิปให้เขาเสียแทบทุกครั้งเหรอ

       
               แต่ก่อนตอนที่เขายังมีเวลาก็สามารถมาเล่นที่นี่ทุกวันได้  แต่หลังจากนั้นก็เริ่มลดลงเป็นสัปดาห์ละสามวัน  สัปดาห์ละสองวัน  จนตอนนี้เหลือแค่สัปดาห์ละหนึ่งวัน  นั่นเป็นเพราะการเรียนที่หนักมากขึ้นนั่นเอง


               เขาจะเล่นดนตรีที่นี่ทุกวันศุกร์เท่านั้น  เพราะว่าเป็นวันที่มีคนมาเยอะที่สุด  จากที่อาเฮียเป็นคนแนะนำและจัดการให้เอง  ถึงจะแกล้งพูดอ้อมค้อมแต่เขาก็รู้ว่าที่จริงแล้วฝ่ายนั้นก็เป็นห่วงเขาเหมือนกัน  ไม่อยากให้เขาเหนื่อย  แต่ก็ยังอยากมีเขาอยู่ในร้าน  เราก็เลยตกลงกันว่า...เล่นดนตรีแค่วันศุกร์วันเดียวก็เพียงพอแล้ว

       
                แต่ลึกๆแล้วเขาก็รู้ดีว่าคงทำงานที่นี่ไม่ได้นานนักหรอก  เพราะไม่ว่ายังไงวันหนึ่งก็ต้องลาออกอยู่ดี   ถ้าจะเรียนๆเล่นๆแบบนี้ต่อไปมีหวังตกแล้วตกอีกจนเรียนหมอไม่จบแน่


       


                เมื่อถึงเวลาประมาณสี่ทุ่ม  ก็ถึงคิวของพวกเขาที่จะได้เล่นดนตรีเสียที  !!
    เขากับไอ้เก่งเพื่อนสนิทเดินขึ้นเวทีอย่างมาดมั่น  วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกๆวันที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ‘เรา’ เป็นที่นิยมในหมู่หญิงสาวมากแค่ไหน   ไม่อย่างนั้นเสียงต้อนรับจะถล่มทลายขนาดนี้เหรอ

       
                บทเพลงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างไพเราะและซาบซึ้ง   ผ่านไปเพลงแล้วเพลงเล่า  ทุกคนดูอิ่มเอมกับรสดนตรีที่พวกเขาถ่ายทอดเพราะสังเกตได้จากใบหน้าและดวงตาเหล่านั้น

       
                ความสุขได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว  แล้วก็หมดเวลาสำหรับพวกเขาสองคนบนเวที  แต่ยังไม่หมดสำหรับค่ำคืนนี้...

       
                หลังจากที่เล่นดนตรีเสร็จ  เราทั้งสองคนก็เดินไปยังโต๊ะที่อยู่มุมสุดด้านข้างเวทีทันที 
       


               “ เฮ้ย !!  นึกว่าพวกมึงยังไม่มาซะอีก ”  เขาแตะมือทักทายกลุ่มเพื่อนสนิท  ที่วันนี้มากันเกือบครบกลุ่ม  จะขาดก็แต่ไอ้นนท์กับไอ้ฉัตรเท่านั้น



               “ ไม่มาได้ไง  เดี๋ยวเพื่อนกูโดนสาวๆงาบไปจะทำไง ”  ไอ้เม้งตอบกลับมา



               “ ฮ่ะ ๆ ๆ ”



               เราสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานตามปกติจนเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า...



               “ เอ่อ  ขอโทษนะคะ ”  เสียงสดใสดังขึ้นทางด้านหลัง  เพื่อนทุกคนในกลุ่มเงียบเสียงทันที  เขาจึงรีบหันไปมอง



               “ ครับ ”  เขามองหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังทำท่าทางเขินอาย

       

               “ คือว่า...มีเพื่อนที่โต๊ะนู้น ”  เธอชี้นิ้วไปอีกทาง
       
               “ เค้าฝากมาขอเบอร์น่ะค่ะ ”

       

               “ ฮิ้ววววววววววววว !!! ”  เสียงแซวสนั่นหวั่นไหวจากกลุ่มเพื่อน  หญิงสาวจึงยิ่งเกิดอาการเขินอย่างหนัก

       

               “ เพื่อนคนไหนเหรอครับ  สวยหรือเปล่า ? ”  ไอ้ปอร์เช่สอดเข้ามาทันที

       

               “ ชวนเพื่อนมานั่งโต๊ะนี้ด้วยกันสิครับ ”  ไอ้เก่งเสริมทัพอีกคน

       

                แต่หญิงสาวก็ยังยืนยิ้มหวานจ้องตาเขาอยู่อย่างนั้น  จนเขาต้องพูดขึ้นมาบ้าง
       
                “ คือ  ขอโทษนะครับ  ตอนนี้ผมมีเยอะจนสับรางไม่หวาดไม่ไหวแล้ว  ตอนนี้จึงปิดรับสมัครชั่วคราวน่ะครับ  ”  เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม  แต่เพื่อนในโต๊ะต่างหันมามองเขาจนตาค้าง

       

                “ งะ  งั้นเหรอคะ ”  หญิงสาวหน้าเสียลงทันที

       

                “ ครับ ”  เขายิ้มหวานให้อีกครั้ง

       

                “ ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ ”

       

                “ แต่ว่า...เพื่อนผมยังว่างหลายคนนะครับ  สนใจมั้ยครับ ? ”

       

                “ ไม่เป็นไรค่ะ ”  เธอพูดแค่นั้นแล้วจึงรีบเดินกลับโต๊ะทันที


       
                เพียงเท่านั้นแหละ  พอเขาหันกลับมาก็ถูกเพื่อนในโต๊ะโห่ใส่แล้วตามด้วยการถูกรุมสะกำด้วยฝ่ามือพิฆาตทันที
       

                “ มึงทำไมบอกออกไปแบบนั้น  คิดอะไรอยู่ !! ”

       

                “ ทำไมไม่เลี้ยงไว้ก่อน  แม่ง !! ”

       

                “ เฮ้อ...แมนโคตรๆเลยเพื่อนกู ”

       

                “ ทำไมไม่แกล้งให้เบอร์กูไป  สาดดด !! ” ประโยคสุดท้ายจากไอ้เม้ง  เพื่อนคนอื่นๆหันไปมองขวับ  แล้วเปลี่ยนไปรุมมันแทนทันที

       

                “ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”

       

                ทำไมเขาถึงบอกออกไปแบบนั้นน่ะเหรอ ?
       
                ก็เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆนี่นา
       
                อีกอย่างคือ...เขาไม่อยากจะคบกับใครแล้วตอนนี้  มันรู้สึกเบื่อๆชอบกล  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม





    *********************************
       
       


                ช่วงนี้ฝนตกลงมาแทบจะทุกวัน  อากาศเย็นชื้นแบบนี้ทำให้เขาไม่อยากจะออกไปไหนเลยจริงๆ  แต่ว่า...บังเอิญว่าช่วงนี้ก็ใกล้สอบเข้ามาทุกวันแล้วน่ะสิ

       

                “ ฮัลโหล  กฤตตอนนี้มึงอยู่ไหน ? ”  เขาโทรหาเพื่อนสนิทตอนประมาณทุ่มครึ่ง

       

                “ อยู่ห้องสมุด  มีไรเหรอ ? ”

       

                “ ขยันเชียวนะมึง  อยู่ห้องสมุดเนี่ย ”

       

                “ เออ  มีไรว่ามา ”

       

                “ กูอยากขอยืมชีทรวมเล่ม phamaco น่ะ  ยืมไปถ่ายเอกสารหน่อย ”

       

                “ ได้ !!  กูเอามาด้วยพอดี  งั้นเดี๋ยวพอห้องสมุดปิด  กูจะแวะเอาไปให้มึงอยู่หอละกัน ”

       

                “ ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวกูไปเอาเองก็ได้  จะได้แวะถ่ายเอกสารให้เสร็จเลย ”

       

                “ เหรอ  ถ้างั้นก็ได้  ถ้ามึงมาถึงก็มาเอาละกัน  กูอยู่ชั้นสอง ”

       

                “ เออ  งั้นแค่นี้ล่ะ ”

       

                เขาสตาร์ทรถบึ่งไปห้องสมุดคณะภายใน 15 นาที  เพราะถ้าหากช้ากว่านี้กลัวว่าห้องสมุดอาจจะปิดไปเสียก่อน 
       
               
                และเมื่อมาถึงร่างสูงก็เลี้ยวซ้ายแล้วก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดทันที  แต่เมื่อมองขึ้นไปเขากลับพบใครคนหนึ่งที่กำลังเดินลงมา

       
                ...น้องณัฐ...นี่หว่า ?? 

                มาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดด้วยเหรอ  !!

       
                เขารู้สึกหัวใจพองโตขึ้นมาเล็กน้อย  ก่อนที่จะรีบก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว  และในจังหวะที่กำลังเดินสวนกันนั้น

       

                “ หวัดดีครับน้องณัฐ ”  เขาเอ่ยทักอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม  เพราะที่ผ่านมาฝ่ายนั้นชอบทำเป็นมองไม่เห็นเขาอยู่เรื่อย  ครั้งนี้จึงต้องลองทักทายกันสักหน่อย  ดูสิ !! จะทำหน้ายังไง ?

       

                แต่แล้วฝ่ายนั้นกลับ...ไม่มองสบตาเขาแม้แต่น้อย !!  เดินผ่านกันไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับตัวเขาเป็นอากาศธาตุเสียอย่างนั้น
       
      
                ...ฟิ้ววว...รู้สึกเหมือนลมพัดพริ้วไหวและใบไม้ที่ล่องลอยอยู่ข้างตัว 

       
                รู้สึกหน้าชาเล็กน้อย...นี่เขากำลังถูกเมินงั้นเหรอ ?!! 

                ไม่เคยมีใครทำกับเขาแบบนี้มาก่อน  เพราะที่ผ่านมาทุกคนออกจะกระดี๊กระด๊าอยากรู้จักกับเขาจนออกนอกหน้ากันทั้งนั้น

                แต่น้องคนนี้ !!
       
                เพราะไม่เคยมาก่อนเลยในชีวิต   ดังนั้น ‘การถูกเมิน’ จึงเป็นความรู้สึกแปลกใหม่อีกหนึ่งอย่างที่เขาพึ่งได้รับอีกเหมือนกัน...

       

                เขาหันกลับมา  แล้วก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดต่อ  พร้อมกับเผยยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย

       
                หึ !!  ชอบทำเป็นไม่สนใจดีนักใช่มั้ย ?
       
                จะทำให้ไม่กล้าเมินอีกต่อไปเลยคอยดู !!!   




    ******************************




                ...หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...



                “ สน  วันนี้เราไปดูหนังกันนะ ”  หญิงสาวส่งเสียงผ่านมาตามปลายสาย



                “ ขี้เกียจอ่ะก้อย ”  เขางัวเงียเพราะยังไม่ลุกจากเตียงนอน



                “ พูดอย่างนี้ได้ไง  ก็วันนี้เป็นวันเสาร์  สนไม่ได้ทำอะไรไม่ใช่เหรอ ? ”



                “ ก็เพราะมันเป็นวันว่างน่ะแหละ  ก็เลยอยากอยู่เฉยๆ ”  เขาตอบส่งๆ



                “ แต่หนังเรื่องนี้  สนเคยบ่นว่าอยากดูไม่ใช่เหรอ ? ”



                “ ................................... ”  เขาเถียงไม่ออก

              

                เพราะวันนี้เป็นวันหยุด  แถมหนังเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่เขาอยากดูมากอีกต่างหาก  ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธได้เลย  แต่ว่า...เขาขี้เกียจไปจริงๆนี่นา


                จะอะไรซะอีกล่ะ !! ก็ครั้งล่าสุดที่ไปดูหนังกับเธอ  เธอพยายามจะไปโรงหนังที่มีคนพลุกพล่านมากที่สุด  รอบที่มีคนมาดูเยอะมากที่สุด  พยายามที่จะควงแขนเขาตลอดเวลา  พอเจอเพื่อนก็ทักทายไปเสียหมด  แล้วยังแนะนำกับคนอื่นว่าเขาเป็น ‘แฟน’ อีกต่างหาก  ทั้งๆที่เราทั้งคู่ตกลงกันแล้วว่า...เราจะคบกันเฉยๆ...ไม่ได้ผูกพันเป็นแฟน  เพราะต่างคนต่างก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายมี ‘กิ๊ก’ เยอะไม่แพ้กัน !! 
       

                เขารู้ดีว่าก้อยก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับเขามากมายหรอก  เพราะเห็นเธอไปกับผู้ชายคนอื่นก็บ่อย  และในขณะเดียวกัน...เขายอมรับว่าก็คุยกับผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน
       

                เรารักอิสระกันเสียจนไม่มีความจำเป็นต้องเป็น ‘แฟน’


                อาจจะแปลกประหลาดไปสักหน่อย  แต่นี่คือความจริงที่เราตกลงและยอมรับกันตั้งแต่แรกแล้ว !!



                 “ งั้นเดี๋ยวตอนบ่ายโมงสนมารับก้อยนะ  ก้อยจะรอ ”  ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร  อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์เสียก่อน



                 “ เฮ้ย !! ”



                นี่มันบังคับกันนี่หว่า ??

                 เฮ้อ...ผู้หญิงนะผู้หญิง



       

                 เวลาประมาณบ่ายสองเศษ   เขาและหญิงสาวก็เดินทางมาถึงโรงหนัง  หลังจากที่ดูรอบและจัดการซื้อบัตรจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว  พวกเขาจึงแวะไปกินอาหารกันที่ร้านอาหารชั้นล่าง
       
       
                 แต่ระหว่างที่กำลังกินอาหารอยู่นั้น  อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาหรือความบังเอิญก็ไม่ทราบได้  เพราะเขาเห็น ‘น้องณัฐ’ กำลังเดินอยู่นอกร้านเต็มสองตา  แต่ที่น่าแปลกใจกว่าคือ...น้องณัฐเดินเคียงคู่มากับผู้หญิงคนหนึ่งน่ะสิ !!

       
                ผู้หญิงคนนั้น...คือรุ่นน้องที่ประกวดได้ตำแหน่งสาวสวยปีนี้นี่นา  !!
       
                ชื่ออะไรนะ...อ๋อ  น้องแก้ม
       
                มาเดินด้วยกันแบบนี้...นี่คงไม่ใช่คบกันหรอกนะ  หรือว่าจะเป็นแฟนกันแล้ว ??!!!

       
                หัวใจของเขาหล่นวูบอย่างที่ไม่ทราบสาเหตุ  อาจจะเป็นเพราะเขาก็รู้สึกสนใจน้องผู้ชายคนนี้มาตั้งแต่แรก  เพียงแต่ว่า...เขาแค่ไม่แน่ใจว่า ‘สนใจ’ ในแบบไหนเท่านั้นเอง ??

       
                เขามองคู่ทางด้านนอกที่พึ่งเดินผ่านไป  แล้วรู้สึกหงุดหงิดใจชอบกล



       

                หนังรักโรแมนติกที่แสนหวาน...ช่างไม่เข้ากับอารมณ์ขุ่นมัวของเขาตอนนี้เลย ให้ตายสิ !!
       
                ทำไมต้องมาเห็นน้องณัฐมาดูหนังกับแฟนด้วยนะ  แถมนั่งข้างหลังอีกต่างหาก  ไม่เข้าใจเลย
       
                เขานั่งทนดูอย่างสงบไปจนเกือบจะจบเรื่อง  แต่แล้วก็ทนไม่ไหวเสียก่อน
       

               “ ก้อย  เราออกไปรอข้างนอกนะ ”  เขากระซิบบอกอีกฝ่าย

       

               “ อะไรนะ ?? ”  หญิงสาวตกใจเมื่อได้ยินดังนั้น

       

               ร่างสูงไม่พูดอะไรต่อ  แต่ลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเดินออกไปทันที  ก้อยจึงต้องจำใจเดินออกมาบ้าง


              “ ก้อยไม่เข้าใจ  ทำไมสนต้องออกมาก่อนด้วย !! ”  หญิงสาวโวยวายเมื่อเดินออกมาจนพ้นส่วนของโรงหนัง
       

              “ ขอโทษนะ  แต่เราอยากกลับแล้ว ”  เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

       

              “ ว่าไงนะ ?! ”

       

              เขาจูงข้อมือหญิงสาว  แล้วออกเดินทันที  “ เดี๋ยวจะไปส่ง ”

       

              “ ทำไมอ่ะ ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ? ”
           
       

              “ ....................................... ”
       
       

               พวกเขาเดินมาจนถึงลานจอดรถ  แล้ววินาทีต่อมาเขาก็กระชากร่างหญิงสาวเข้ามาจูบทันที  เราทั้งคู่ยืนจูบกันอยู่นานอย่างไม่ต้องสนใจว่าจะมีใครมาเห็นหรือไม่  จนกระทั่งอีกฝ่ายร่างอ่อนปวกเปียกไปนั่นแหละ

       

               “ ขึ้นรถเถอะ  เดี๋ยวเราไปส่ง ”

       

               “ อือ  ก็ได้ ”

       

               เขาขับรถไปส่งหญิงสาวที่หอพัก   ขึ้นไปส่งเธอที่ห้อง  เราจูบกันอย่างดูดดื่มสักพัก  แล้วเขาก็ผละริมฝีปากออกทันที

       

               “ ก้อย ? ”

       

               “ หือ ? ”  หญิงสาวเผยรอยยิ้มบาง

       

                เขาจ้องตาเธออย่างเด็ดเดี่ยว แล้วพูดออกไปว่า...




               
                “ เราเลิกคบกันเถอะ ”

       


              
                 หญิงสาวเปลี่ยนสีหน้าทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น
       
                 “ สนพูดอะไรอ่ะ ? ”

       

                 “ เราเลิกคบกันเถอะ !! ”  เขาพูดย้ำอีกครั้งด้วยความหนักแน่น

       

                 “ ทำไมล่ะสน ? ”

       

                 “ ก็เราไม่ได้คบกันจริงจังไม่ใช่เหรอ ?  นี่ก็นานเกินไปแล้ว  ปกติเราไม่คบใครนานเท่านี้มาก่อนเลย ”

       

                 “ ถึงสนจะไม่ได้จริงจัง  แต่ก้อยจริงจังนะ ”

       

                 “ อย่าพูดเลยก้อย  ก้อยก็มีคนอื่นตั้งเยอะแยะ  จะอยากเก็บเราไว้ทำไม ”

       

                “ ที่สนพูดแบบนี้  เพราะหึงเหรอ ?  อยากให้ก้อยมีแค่สนคนเดียวใช่มั้ย ”

       

                “ ไม่ใช่อ่ะ ”  เขาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย
       
                “ เราไม่ได้รู้สึกชอบกันตั้งแต่แรก  มันก็เลยต้องเป็นแบบนี้แหละ   ที่ผ่านมาเราสนุกมาก ก็ขอบคุณละกัน   แต่ตอนนี้เรารู้สึกเบื่ออ่ะ...เบื่อมาก  อยากอยู่คนเดียว  ไม่อยากคบใครแล้ว ”

       

                “ หมายความว่าไงอ่ะ ? ระหว่างเรากำลังเป็นไปด้วยดีไม่ใช่เหรอ ? ”

       

                “ แต่เราไม่ได้คิดแบบนั้น ”

       

                 เธอขมวดคิ้ว  “ หรือสนมีคนอื่น ” 

       

                ใจจริงอยากพูดออกไปว่า... ‘เธอก็มีเหมือนกันน่ะแหละ’  แต่ก็ต้องข่มใจไว้ก่อน

                 “ ไม่เกี่ยวหรอก  อย่าพูดวกวนถึงเรื่องอื่นเลย  แต่เราเลิกกันน่ะดีแล้ว  ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง  ก้อยก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ ? ”

       

                 “ แล้วเมื่อกี้...ทำไมถึงจูบก้อยล่ะ ?  ตอนที่อยู่ลานจอดรถก็ด้วย ”

       

                 “ เพื่อให้แน่ใจว่า ‘ไม่ได้รู้สึก’ อะไรแล้ว  ส่วนเมื่อกี้ก็...จูบลา  ล่ะมั้ง ”

       

                 หญิงสาวถอนหายใจ แล้วเบือนหน้าหนีทันที
       
                 “ เฮ้อ...ไม่อยากจะเชื่อเลย ”

       

                 “ ...................................... ”  เราทั้งสองนิ่งเงียบสักพัก  จนฝ่ายนั้นพูดออกมาก่อน

       

                 “ สนแน่ใจแล้วเหรอ ? ”

       

                “ อืมม  ”

       

                “ เฮ้อ...ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจสนเถอะ  ยังไงก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ ? ”

       

                “ ประมาณนั้นแหละ ”

       

                หญิงสาวเดินเข้ามาโอบกอดเขาทางด้านหน้าเบาๆ
       
                “ เสียดายจัง  อยากคบกับสนนานๆ ”

       

                “ ขอโทษนะ  ที่เราเป็นคนแบบนี้ ”  เขาสารภาพตามตรง

       

                 เธอยิ้ม  “ ใช่  ใจร้ายตลอดเลย ”

       

                 “ อืมม  อาจจะใช่ ”


       

               
                ระหว่างที่กำลังขับรถบนถนนใหญ่เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่สถานที่เดิม  เขาก็รู้สึกโล่งใจชอบกล   ความรู้สึกเบาหวิวในตอนนี้ช่างทำให้รู้สึกสบายใจเหลือเกิน  รู้แบบนี้บอกเลิกไปให้หมดซะตั้งแต่แรกยังจะดีกว่า


                เพราะอะไรไม่รู้ตอนนี้ถึงรู้สึกเบื่อไปหมด  แต่กลับมีเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกมีความสุข

       
                ...เวลาที่เห็นใบหน้านั้น...เวลาที่เห็นฝ่ายนั้นยิ้ม...หรือบางทีแค่นึกถึง...

       
                ที่ผ่านมาเขาอาจจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่นัก  แต่เป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่นั่นแหละที่ทำให้เขาเข้าใจหัวใจตัวเองได้ชัดเจนเสียที 

                ขอบคุณรุ่นน้องผู้หญิงคนนั้นที่เดินเคียงคู่มากับน้องณัฐ  จนทำให้เขามั่นใจในความรู้สึกตัวเอง
            

                ว่าเขาคงจะ...

                แอบชอบน้องณัฐ...เข้าแล้วจริงๆ !!
       


                เพราะถ้าไม่ชอบคงไม่รู้สึกหึงแบบนั้นหรอก  แล้วยังอาการที่มัวแต่คิดถึงหรือใจเต้นอะไรพวกนั้นอีก  เป็นความรู้สึกแรกและความรู้สึกเดียวที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตที่ผ่านมา  ไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดกับ ‘ผู้ชาย’ รุ่นน้องคนหนึ่ง   คิดๆดูแล้วก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อดีเหมือนกัน


                เขาตั้งใจขับรถวนกลับมาที่ห้างเดิม  เพื่อที่จะเข้าไปหา...ใครบางคน



                ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว

                ว่าถึงเวลาที่ควรจะ...ทำอะไรสักอย่างเสียที  !!!




    ***************************************(จบตอนพิเศษ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×