ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #79 : ตอนพิเศษ1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.41K
      10
      8 ส.ค. 53

    ตอนพิเศษ

       




                 ... 5 เดือนก่อน...

       


                 เขาลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความเหนื่อยล้า   นี่กี่โมงแล้วนะ ?  มองดูนาฬิกาข้อมือตอนนี้บอกว่าเป็นเวลา  10.30 น.
       
                 เฮ้อ...นึกว่าจะตื่นไปเรียนตอนบ่ายไม่ทันซะแล้ว

       
                 ร่างสูงกวาดสายตามองห้องขนาดเล็กที่ไม่คุ้นเคยเพราะเมื่อคืนไม่ทันได้สังเกตเห็น  ทั้งห้องถูกตกแต่งด้วยข้าวของน่ารักเหมาะกับเป็นห้องของผู้หญิง  แต่พื้นห้องกลับมีแต่กองเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง   

                 เขายกมือกุมขมับเพราะรู้สึกว่าเส้นเลือดกำลังเต้นตุบๆจนรู้สึกทรมาน  

                 เฮ้อ...สงสัยเมื่อคืนคงเมามาก

       

                ‘สน’ มองจนทั่วห้องแล้วหยุดสายตาที่ร่างๆหนึ่ง  หญิงสาวสวยผมสีทองที่กำลังนอนหลับสนิทแน่นิ่งอยู่ด้านข้าง  อีกฝ่ายร่างกายเปลือยเปล่าเผยให้เห็นผิวขาวเนียนน่าจับต้อง

       
                 เขาถอนหายใจยาว  แล้วค่อยๆลุกออกจากเตียงอย่างช้าๆเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายตื่น  ก่อนที่จะหยิบกองเสื้อผ้าของตัวเองจากพื้นมาสวมใส่ให้เรียบร้อย  แล้วออกจากห้องนั้นทันที
       


       

                 “ เป็นไงวะ ??  เมื่อคืน ”  กฤต...เพื่อนสนิทถามในคาบเรียนในตอนบ่าย

       
                 “ ก็ดี ”  เขาตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย

       
                 “ อะไรคือก็ดี ”  ฝ่ายนั้นยิ้มมีเลศนัย

       
                 “ ก็ดี...อย่างที่มึงอยากได้ยินน่ะแหละ ”

       
                 “ กูก็ไม่น่าถาม  อย่างมึงซะอย่าง  ไม่น่าพลาด ฮ่ะ ๆ ”

       
                 “ ตั้งใจให้ก็เอา  ไม่ให้ก็ไม่เอา...ก็แค่นั้น ”

       
                 “ โห  แมนสุดๆ ”  กฤตพูดประชด
       
                 “ เฮ้อ...แต่ผู้หญิงคนที่มาชอบมึง  สวยจริงๆว่ะ  ถ้าบอกว่าเป็นดาวคณะนี่กูก็เชื่อเลย ”

       
                 “ อืมม  มึงรู้ได้ไง  เค้าเป็นดาวคณะมนุษย์ ”

       
                 “ เฮ้ย !! จริงเหรอ ”  เพื่อนอุทานตาโต

       
                 “ ก็เห็นเค้าบอกว่างั้น ”

       
                 “ อย่างนี้ก็ดีสิ ”

       
                 “ ทำไม ? ”

       
                 “ มึงก็คบกับเขาไปเลยสิ  ก็เหมาะสมกันดีไม่ใช่เหรอ ? ”


                  ร่างสูงส่ายหน้า  “ ไม่หรอก  กูไม่ได้ชอบเขา  เขาก็ไม่ได้ชอบกูหรอก ”

       
                  “ มึงรู้ได้ไง ? ”

       
                  “ กูดูออกนะว่าคนไหนชอบกูจริง  คนไหนแค่อยากควงกู  หรือคนไหนแค่อยากให้กูเอา  ผู้หญิงก็มาแนวๆเดียวกันหมดน่ะแหละ ”

       
                  “ ผู้หญิงดีๆก็มีนะมึง  อย่ามองแง่ร้ายขนาดน้านน ”

       
                  “ แต่กูยังไม่เจอนี่หว่า ? ”

       
                  “ เฮ้อ...แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟนจริงๆจังๆกับเขาสักคนล่ะเนี่ย ”  เพื่อนสนิทถอนหายใจอีกรอบ

       
                  “ แบบนี้น่ะดีแล้ว ”



                 เขาได้แต่บอกออกไปแบบนั้น  แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบชอบกล  ไม่ใช่ไม่อยากมีใครสักคนหรอกนะ  แต่ว่า...เขาไม่คิดว่าจะสามารถเชื่อใจใครได้...ก็เท่านั้น


                 คนที่รักเขาจริงๆ...ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก  มีจริงๆเหรอ ?

       
                 เพราะหัวใจมันก็เรียกร้องโหยหาว่าอยากรักใครสักคนเหมือนกัน  เพียงแต่ว่า...ยังไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้นได้...สักคนเดียว





    ******************************

       


                  “ เฮ้ยพวกเรา  ไปหาอะไรกินกันเถอะ !! ”  เม้งส่งเสียงชวนเพื่อนในกลุ่ม  หลังจากที่ทำงานกลุ่มในเย็นวันอาทิตย์จนเสร็จ
       
       
                  “ งั้นไปหาอะไรกินง่ายๆดีกว่า  ไม่ต้องไปไกล ”

       

                  เขาและเพื่อนจึงออกมากินแผงร้านอาหารที่เป็นแหล่งประจำของเหล่านักศึกษาในละแวกนี้  เลือกนั่งโต๊ะบริเวณกลางเพราะเป็นร้านโปรดที่พวกเรามากินอยู่บ่อยๆ
       
                  บอกเมนูให้เพื่อนเขียนลงกระดาษแล้วจึงยื่นให้เจ้าของร้านร่างท้วมรับไป  ระหว่างที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนานอยู่นั้น  เขาก็กวาดสายตามองทั่วร้านตามปกติ

       
                  แล้วสายตาก็ไปพบเห็นใครคนหนึ่งเข้า  !!

                  ชายร่างผอมสูงที่กำลังเดินแทรกผ่านผู้คนเข้ามา  ผิวขาวใสเปล่งประกายเหมือนไม่ใช่คนแถวนี้  แต่ที่เด่นสุดคงจะเป็นใบหน้านั้นล่ะมั้ง...ที่สวยหวานราวกับไม่ใช่ผู้ชาย

                  ปกติเขาก็ไม่เคยคิดที่จะมองผู้ชายด้วยกันอยู่แล้ว  แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะเด็กหนุ่มคนนี้โดดเด่นมากล่ะมั้ง ?  ไม่ใช่สนใจหรืออะไรหรอกนะ  แต่คิดว่าเป็นเรื่อง ‘แปลก’ มากกว่า



                 ได้ยินแต่เสียงเพื่อนส่งเสียงหัวเราะอย่างเอาเป็นตาย  เขาจึงหันไปพูดบ้าง

                 “ แม่ง  ด่ากูอีกแล้ว  !! ”


                 “ ฮ่า ๆ ก็ไปกับมึงทีไร สาวก็มองแต่มึงทู้กที ”  ปอร์เช่พูด


                 “ มึงจะกลัวอะไร  เราก็หล่อกันทั้งกลุ่ม  ฮ่ะ ๆ ๆ ”  เขาตอบกลับ


                 “ เหรอ ? กูพึ่งรู้นะเนี่ย ! ” พี่เม้งพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย  เพื่อนคนอื่นๆส่งเสียงฮาขึ้นมาทันที


                 “ เออ  มึงก็หล่อ...หล่อในแบบของมึงไง  ของมึงคนเดียว  คนอื่นห้ามลอกเลียนแบบ ”  กฤตเสริม


                 “ เออ กูเข้าใจแล้ว  หล่อในแบบของกูคนเดียว ” 

                 “ ถุย !! มึงคิดได้ไงวะ สัด !! ”


                 “ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”
     


                  อาหารเริ่มทะยอยมาส่งถึงโต๊ะ  พวกเราลงมือจัดการกับจานอาหารตรงหน้าด้วยความหิวโหยทันที  แต่แล้ว...สายตาก็บังเอิญไปเห็น ‘เด็กหนุ่มคนนั้น’ อีกครั้ง  ที่เขาพึ่งสังเกตว่านั่งโต๊ะตรงข้ามถัดจากเขาเพียงแค่หนึ่งโต๊ะเท่านั้นเอง

                 
                 เขาแอบมองพิจารณาภายในเสี้ยววินาที...ก่อนที่จะเบือนสายตาหนีอย่างไม่ใส่ใจ  แล้วทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอีกครั้ง 


     

    *******************************
     

       

                 ...สองสัปดาห์ต่อมา...
       
       

                 วันหยุดที่อากาศดี...เขามักจะพากล้องถ่ายรูปตัวโปรดเดินทางไปยังสถานที่พักผ่อนจิตใจกันเพียงลำพัง  ขับรถชมธรรมชาติไปเรื่อย  เข้าไปในเมืองบ้าง  หรือหาทำเลสวยๆนั่งเล่นดูพระอาทิตย์ตกดินภายในบริเวณของมหาวิทยาลัยก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ

       
                 ครั้งที่แล้วเขาตระเวณขับรถไปในยังสวนสาธารณะในเมือง  ได้รูปถ่ายสวยๆมาเพียบ  แต่วันนี้...ลองแวะไปเดินเล่นแค่สวนสาธารณะในมหาลัยดูดีกว่า  เพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว  ถ้าขืนขับรถเข้าไปถึงในเมือง  มีหวังมืดแล้วแสงหายหมดแน่ๆ

       
                 เขาจอดรถไว้ลานจอดแล้วเดินเท้าต่ออีกสักประมาณสามนาที  ก็มาถึงสวนสาธารณะยอดนิยมของเหล่านักศึกษาที่มักจะมาวิ่งออกกำลังกายหรือเดินเล่น  อันที่จริงเขาไม่ค่อยชอบคนพลุกพล่านเท่าไหร่นัก  เพียงแต่ว่าสถานที่แห่งนี้ก็มีบริเวณไว้สำหรับนั่งเล่นแยกไปทางวงด้านนอกเหมาะกับคนที่รักสันโดษอย่างเขาเหมือนกัน
       
       
                 เขามาที่นี่ประมาณสัปดาห์ละครั้งถึงสองครั้ง  นั่งเล่นที่ตรงนี้เป็นประจำ  เฝ้าสังเกตคนเดินผ่านไปผ่านมาจากมุมด้านนอก  เพราะการนั่งที่ตรงนี้จะไม่เป็นที่สนใจจากผู้คนเท่าใดนัก  เขาจึงชอบที่จะนั่งคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยเปื่อย  โดยไม่ต้องมีสายตาของคนอื่นมารบกวนจิตใจ

       
                 แต่แล้ว...
       
                 ผีเสื้อตัวใหญ่...บินผ่านหน้าเขาไปแล้วไปเกาะที่พุ่มดอกไม้สีสวยพุ่มหนึ่ง  เขาจับกล้องขึ้นเตรียมตัวทันทีแล้วออกเดินอย่างช้าๆ  ก่อนที่จะนั่งเขย่งบนพื้นอย่างระมัดระวัง  แล้วเล็งกล้องอย่างตั้งมั่น
       

                 ‘ แชะ !’

       
                 ผีเสื้อบินออกไปก่อนที่เขาจะกดชัตเตอร์เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น  เขามองภาพในกล้องด้วยความเสียดาย  ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเพื่อกวาดสายตามองหาผีเสื้อตัวนั้นที่ตอนนี้บินหายไปไหนก็ไม่รู้ 


                 ไม่เห็นผีเสื้อ...เห็นแต่ ‘เด็กหนุ่มคนหนึ่ง’ ที่นั่งอยู่ตรงนั้น  บนม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าใดนัก

                  แต่คนๆนั้นกลับทำให้เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย  เพราะฝ่ายนั้นนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับภาพวาด  สายตาจับจ้องมองไปทางด้านหน้า  เขาจึงรีบหันมองตามด้วยความสงสัยทันที

     
                  ก็พบว่า...ที่ตรงนั้นมีหญิงชายวัยชราอยู่สองคน  ที่กำลังนั่งอยู่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามไม่ใกล้นัก  คุณตาเหมือนจะกำลังยื่นบางอย่างให้คุณยายเพียงแต่เขาเห็นไม่ชัดเจนเท่าไหร่
     

                  เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนม้านั่งต้องมอง...เพราะว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างนี้นี่เอง

       
                  ดูแล้วน่ารักดีจัง...หัวใจของเขารู้สึกสงบนิ่งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก   เขาหันกลับมามองเด็กหนุ่มคนดังกล่าวอีกครั้ง  ก็เห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังเผยยิ้มบางอย่างที่เขาก็เข้าใจในความหมาย

       
                  ด้วยสัญชาตญาณ...เขารีบถือกล้องขึ้นมาแล้วเก็บภาพถ่ายเด็กหนุ่มคนนั้นไว้ทันที  ก่อนที่จะจับภาพของสองตายายคู่นั้นอีกหลายภาพ
       

                 ‘ ขออนุญาตถ่ายหน่อยนะครับ ’   เขาเอ่ยบอกทั้งสองฝ่ายในใจ  โดยที่ไม่มีใครได้ยินเลยด้วยซ้ำ
       
       
                 ร่างสูงเก็บภาพน่าประทับไว้ได้อีกหลายภาพ  เขายิ้มให้กับภาพที่สวยงามและมีค่าเหล่านั้น  ก่อนที่จะหันกลับมามองเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ไม่ได้นั่งนิ่งเหมือนเดิมแล้ว  แต่กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอย่างเอาเป็นเอาตาย

       
                  แต่...ดูแล้วเหมือนจะกำลังนั่งวาดรูปมากกว่าแฮะ...เพราะฝ่ายนั้นก้มๆเงยๆอยู่เป็นระยะ

       
                  ภายในเวลาไม่นาน  ที่เด็กหนุ่มคนนั้น  ฉีกกระดาษออกมาอย่างรวดเร็วแล้วออกวิ่งไปทางด้านหน้าทันที !!
       
     
                  เขามองตามด้วยความแปลกใจ  ก็พบว่าอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปหาสองตายายคู่นั้น  แล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้  และในจังหวะนั้นเอง  สมองของเขาก็รีบสั่งการให้เก็บภาพแห่งความประทับใจนั้นไว้ทันที  !!
       

                  ‘ แชะ !’   ‘แชะ !’   ‘ แชะ !’

       
                  ว้าวว...นี่อย่าบอกนะว่าวาดรูปให้สองตายายนั่น !!  น่าทึ่งจังแฮะ

       
                  ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร  เด็กหนุ่มคนนั้นก็วิ่งกลับมา  เก็บข้าวของหอบอย่างพะรุงพะรังแล้ววิ่งหนีหายไปทางด้านหลังทันที 


                 เขามองตาม...แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

       

                 เอ๊ะ !!

       

                 ทำไม ??

       

                ...รู้สึก...คุ้นๆหน้าน้องคนนั้นจังแฮะ...เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...





    ******************************** 


       

                 ตอนเย็นก่อนเข้านอน  เขาไม่ลืมที่จะเก็บภาพถ่ายเข้าเครื่องคอมพิเตอร์ทันที  ระหว่างที่กำลังดูภาพย้อนหลังในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น  เขาก็ต้องรู้สึกแปลกใจกับภาพที่ถ่ายได้ในวันนี้...

       
                 ภาพสองตายายที่กำลังกุมมือกันไว้แน่นบนม้านั่งที่สวนสาธารณะ  เขาคลี่ยิ้มบางให้กับภาพนั้น  ก่อนที่จะตัดสินใจนำมาตกแต่งเพิ่มเติม  ด้วยการพิมพ์ประโยคไว้ด้านล่างมุมหนึ่งของภาพว่า...
       
                 ‘ Real love still remain .’ 

       
                 นานๆครั้งจะได้เห็นอะไรที่สวยงามแบบนี้  ดีใจจังที่ถ่ายรูปเก็บไว้ได้   เขามองภาพนั้นอีกครั้ง  หัวใจก็พลันรู้สึกอบอุ่นและ...เงียบเหงาในเวลาเดียวกัน 

                  การที่คนสองคนจะรักกันไปจนตลอดชีวิต  มีจริงๆใช่มั้ย ?  

                  เฮ้อ...เขาต้องรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งเสีย  เพราะไม่อยากรู้สึกวุ่นวายใจในตอนนี้

       

                  ภาพถัดมา...เป็นภาพของเด็กหนุ่มคนนั้นที่ทำให้เขาได้พบกับความประทับใจในครั้งนี้  อยากรู้จังว่าฝ่ายนั้นวาดอะไรให้กับคุณตาคุณยายกันนะ ?
       
                 
                  แต่ว่า...น้องคนนี้น่าคุ้นๆแฮะ  เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน  แต่นึกไม่ออก  เขามองภาพนั้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์  แล้วก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง  เฮ้อ...ช่างเหอะ  นึกไม่ออก  แต่หน้าใสๆอย่างนี้สงสัยเป็นพวกเด็กปีหนึ่งแหงๆ  ต้องเรียนคณะพวกวาดรูปอะไรอย่างนี้แน่เลย


       


                  หลายวันหลังจากนั้น  เขาได้แวะเวียนไปที่สวนสาธารณะแห่งนั้นบ่อยครั้งขึ้น  เพราะเหตุผลอะไรเขาเองก็ไม่แน่ใจ  อาจเป็นเพราะอยากจะสัมผัสความรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจแบบนั้นอีกครั้ง  ได้เก็บภาพความประทับใจที่แสนสวยงาม  เพียงแต่...สิ่งเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นอีกเลย

       
                  หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ไปที่สวนสาธารณะแห่งนั้นอีก   เพราะว่าช่วงนี้เขาเองก็เรียนหนัก  ทั้งยังต้องแบ่งเวลาให้กับการซ้อมดนตรีทุกเย็น  เพื่อเป็นตัวแทนของการแสดงปีสามเตรียมขึ้นโชว์ในงาน ‘วันเฟรชชี่ไนท์’ ต้อนรับน้องปีหนึ่งที่กำลังจะจัดขึ้นในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้
       


                  ...จนกระทั่งเมื่อ ‘วันเฟรชชี่ไนท์’ มาถึง...



                  เขาเดินเข้ามาในงานพร้อมกับมองสังเกตงานจนทั่ว  งานก็ดูหรูหราดีนะเนี่ย...น้องปีสองมันจัดสวยดีแฮะ  แต่ที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งเลยคือ   น้องปีหนึ่งรุ่นนี้หน้าตาดีกันเยอะทั้งผู้หญิงผู้ชายเลย  ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นหน้าน้องจากงานรับน้องหรือว่างานเชียร์มาแล้ว  แต่วันนี้ทุกคนแต่งตัวกันอย่างเต็มที่  ก็เลยทำให้ยิ่งดูดีขึ้นมากกว่าเดิมล่ะมั้ง ? 

       

                 “ อ้าว ? พี่สนครับ !! ”  น้องปีสองคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา เมื่อเขาเดินไปจนถึงข้างเวที
       
                 “ วงพวกพี่ได้เล่นต่อจากวงปีห้านะครับ ”

       
                 “ แล้วนี่ปีไหนกำลังเล่นอยู่ ? ”  เขาชี้นิ้วขึ้นไปบนเวที

       
                 “ ปีสองครับ  แล้วปีห้าก็เล่นต่อจากวงนี้  ผมจัดเรียงตามคิวที่มาก่อนหลัง ”  เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ไม่ได้ขึ้นแสดงตามชั้นปี  แต่ขึ้นกับความสะดวกของแต่ละวงมากกว่า

       
                 “ อืม ได้ๆ ขอบใจมากนะบอล ”  เขาตบไหล่อีกฝ่าย

       
                 “ ไม่เป็นไรครับพี่ ”

       

                  ไม่นาน...ก็ถึงคิวของวงดนตรีปีสามที่ได้ขึ้นแสดง
       
                 
                  เขาถือกีตาร์ไฟฟ้าสีดำตัวโปรดเดินขึ้นเวทีทันที  มองผ่านแสงไฟที่กำลังส่องตาแล้วโปรยยิ้มจนทั่ว  เสียงกรี๊ดจากหญิงสาวถาโถมเข้ามาทุกทิศ  นั่นไม่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจเลยสักนิด
       
                 
                  ร่างสูงปรับเสียงกีตาร์  ฟังจังหวะจากมือกลอง  แล้วบทเพลงแรกก็ได้เริ่มต้นขึ้น  ทุกครั้งที่เล่นเขาก็จะกวาดสายตามองทางด้านล่างตามปกติ  เพราะอยากเห็นว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร  สนุกไปกับการแสดงของพวกเขาหรือไม่
       
                 
                  เป็นดังคาด  เพราะพวกเขาเลือกเพลงที่กำลังดังในตอนนี้มาเล่น  ไม่แปลกเลยที่คนอื่นๆจะร้องตามและเต้นกันอย่างสนุกสนานเมามันส์

       
                  แต่แล้ว...
       
                  กลับมีคนอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่อีกมุมหนึ่ง  จ้องมองเขาไม่วางตา !!

       

                  เอ๊ะ !!
       
                  รุ่นน้องผู้ชายคนนั้น ??

       

                  เขาพยายามมองคนๆนั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น  แล้วก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ 
       
                  นั่นน้องคนที่เจอที่สวนสาธารณะนี่นา !!!!
       
                  มาทำอะไรที่นี่เนี่ย ??!!

       

                  หรือว่า...เป็นน้องปีหนึ่งคณะเรางั้นเหรอ ?!!!

       

                 ที่เขาจำหน้าน้องคนดังกล่าวได้  นั่นเป็นเพราะว่าในกล้องถ่ายรูปของเขายังมีรูปน้องคนนี้อยู่  และไม่ว่าจะเปิดดูกี่ครั้งก็ต้องเห็นทุกครั้ง  เขาเองก็เคยคิดเล่นๆว่าน้องคนนี้คงจะเรียนวาดรูปหรือคณะที่เกี่ยวกับพวกศิลปะอะไรสักอย่าง   แต่แล้วกลับเป็นรุ่นน้องคณะเขาเองเหรอ  น่าแปลกใจจังแฮะ


                  พอรู้แบบนี้แล้วยิ่ง...อยากจะรู้จักจัง...

       

                  วงของพวกเขาเล่นทั้งหมดเจ็ดเพลง  ซึ่งมีแต่เพลงร็อกสุดมันส์  เล่นเอาเหงื่อออกโทรมกายกันเลยทีเดียว  พอลงจากเวทีเขาจึงไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาทันที

       

                  แต่แล้ว...เขากลับได้พบกับน้องคนนั้นอีกครั้ง !!
       
       

                  เขาแอบมองเพียงแวบหนึ่งในขณะที่ฝ่ายนั้นกำลังยืนอยู่หน้ากระจก   ถ้าจะปล่อยให้เดินออกไปโดยที่ไม่ได้รู้จักกันก็จะน่าเสียดายไปหน่อย
       

                  ดังนั้นเขาจึง...

       

                 “ งานน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”  เขาเริ่มถามโดยที่ไม่ได้หันไปมองฝ่ายนั้นด้วยซ้ำ

       

                 “ ........................................ ”

       

                 แต่อีกฝ่ายกลับยืนเงียบอยู่อย่างนั้นและเอาแต่มองหน้าเขาแบบงงๆผ่านกระจก  เมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นเงียบอยู่นาน  เขาจึงหันไปถามซ้ำทันที
       
       

                 “ พี่ถามว่า...งานน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”

       

                 แต่แล้ว...วินาทีแรกที่เขาได้สบตากับอีกฝ่าย  กลับทำให้เขารู้สึก....แปลกใจ
       
                 ทำไมตอนนั้นเขาถึงไม่สังเกตเห็น  หรืออาจจะเป็นเพราะเคยเห็นอีกฝ่ายจากระยะไกลเท่านั้น  จึงไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว...

       
                 อะไรกันเนี่ย !!??
       

                 ผู้ชายอะไรวะ  โคตรน่ารักเลย  !!!!
       
       

                 “ ก็...ไม่...นี่ครับ ”  ฝ่ายนั้นตอบกลับมาแบบตะกุกตะกัก

       

                 เขาพยายามหลบสายตา  หันไปสำรวจตัวเองในกระจกแทน  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนั้น



                “ แล้วทำไมตอนดูคอนเสิร์ตถึงยืนนิ่งยังกับต้นไม้ตาย  พวกพี่เล่นกันไม่มันส์เหรอ ? ”  พูดออกไปก็งงตัวเอง   นี่เราพูดกวนน้องไปหรือเปล่าวะ ?  แต่ช่างเถอะ !!



                “ พี่เห็นผม...ด้วยเหรอครับ ? ”



                ...พี่เห็นน้องมาตั้งแต่ ‘สองอาทิตย์ก่อน’ แล้วครับ...

                ...แถมพี่ยังแอบถ่ายรูปน้อง(โดยไม่ได้ขออนุญาต)มาอีกด้วยครับ...   เขาได้แต่แอบคิดในใจ



                “ แต่ผม...ไม่ได้ยืนนิ่งเป็นต้นไม้ตายซะหน่อย... ”



                ...แต่ก็ยืนสงบนิ่งจนพี่สังเกตเห็นนั่นแหละครับ...



                ฝ่ายนั้นยืนทำหน้าหงอย  เขาพยายามมองอีกฝ่ายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าและอดไม่ได้ที่จะสังเกตใบหน้าที่สวยหวานนั้น  แล้วก็ต้องรู้สึกวาบหวามในใจแปลกๆชอบกล


                ผู้ชายอะไรวะ...หน้าสวยกว่าผู้หญิงอีก !!

                ยิ่งดูใกล้ๆ....ยิ่งสวยแฮะ

                ตาก็กลมโตสีดำ   จมูกโด่งได้รูป  ผิวก็ขาวเนียนละเอียดยิ่งกว่าผิวผู้หญิง 

                แต่ว่า...ปากเล็กอมชมพูที่เผยอน้อยๆ...นี่มันน่า...


                เฮ้อ...ไม่น่าเป็นผู้ชายเลย



                “ พี่ว่า...น้องเข้าไปในงานต่อเถอะ ”  เขาเอ่ยบอกในที่สุด

                “ เพราะน่าจะติดอันอับ ”

                “ แต่เป็นอันดับของ...สาวสวยนะ ฮ่ะ ๆ ”



                เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกงงๆ


                ทำไมการเข้าไปทำความรู้จัก  กลับกลายเป็นเหมือนการไปกวนตีนน้องยังไงไม่รู้แฮะ ??


       
               ...แต่อย่างน้อย... 



               ...ก็ถือว่าได้ ‘เริ่ม’ ล่ะนะ...




    *********************************************



    ...ตอนพิเศษ...ฉบับพี่สนสั้นๆเน้อ  ฉลองที่นิยายเรื่องนี้ครบรอบ 1 ปี  ^o^/

    ...
    อันที่จริงแต่งมาก็ 2 ปีแล้ว  แต่ว่าพึ่งจะได้ลงเว็บก็ประมาณ 1 ปี...

    ...ขอบคุณคนอ่านทุกคน ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่นะ...

    ...ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันมา  และขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันมาตลอด(ซึ้ง ๆ ๆ)...

    ...ต่อไปนี้  จะพยายามแต่งตอนต่อไป มอบความสุขให้ทุกคนไปอย่างนี้เรื่อยๆ จนกว่าจะจบละกัน...

    ...ไม่ว่าอีกกี่ปีก็อย่าลืมพี่สนกะน้องณัฐกันนะค้าบบ 
    ...




    *********************************************



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×