ลำดับตอนที่ #79
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #79 : ตอนพิเศษ1
ตอนพิเศษ
... 5 เดือนก่อน...
เขาลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความเหนื่อยล้า นี่กี่โมงแล้วนะ ? มองดูนาฬิกาข้อมือตอนนี้บอกว่าเป็นเวลา 10.30 น.
เฮ้อ...นึกว่าจะตื่นไปเรียนตอนบ่ายไม่ทันซะแล้ว
ร่างสูงกวาดสายตามองห้องขนาดเล็กที่ไม่คุ้นเคยเพราะเมื่อคืนไม่ทันได้สังเกตเห็น ทั้งห้องถูกตกแต่งด้วยข้าวของน่ารักเหมาะกับเป็นห้องของผู้หญิง แต่พื้นห้องกลับมีแต่กองเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง
เขายกมือกุมขมับเพราะรู้สึกว่าเส้นเลือดกำลังเต้นตุบๆจนรู้สึกทรมาน
เฮ้อ...สงสัยเมื่อคืนคงเมามาก
‘สน’ มองจนทั่วห้องแล้วหยุดสายตาที่ร่างๆหนึ่ง หญิงสาวสวยผมสีทองที่กำลังนอนหลับสนิทแน่นิ่งอยู่ด้านข้าง อีกฝ่ายร่างกายเปลือยเปล่าเผยให้เห็นผิวขาวเนียนน่าจับต้อง
เขาถอนหายใจยาว แล้วค่อยๆลุกออกจากเตียงอย่างช้าๆเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายตื่น ก่อนที่จะหยิบกองเสื้อผ้าของตัวเองจากพื้นมาสวมใส่ให้เรียบร้อย แล้วออกจากห้องนั้นทันที
“ เป็นไงวะ ?? เมื่อคืน ” กฤต...เพื่อนสนิทถามในคาบเรียนในตอนบ่าย
“ ก็ดี ” เขาตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย
“ อะไรคือก็ดี ” ฝ่ายนั้นยิ้มมีเลศนัย
“ ก็ดี...อย่างที่มึงอยากได้ยินน่ะแหละ ”
“ กูก็ไม่น่าถาม อย่างมึงซะอย่าง ไม่น่าพลาด ฮ่ะ ๆ ”
“ ตั้งใจให้ก็เอา ไม่ให้ก็ไม่เอา...ก็แค่นั้น ”
“ โห แมนสุดๆ ” กฤตพูดประชด
“ เฮ้อ...แต่ผู้หญิงคนที่มาชอบมึง สวยจริงๆว่ะ ถ้าบอกว่าเป็นดาวคณะนี่กูก็เชื่อเลย ”
“ อืมม มึงรู้ได้ไง เค้าเป็นดาวคณะมนุษย์ ”
“ เฮ้ย !! จริงเหรอ ” เพื่อนอุทานตาโต
“ ก็เห็นเค้าบอกว่างั้น ”
“ อย่างนี้ก็ดีสิ ”
“ ทำไม ? ”
“ มึงก็คบกับเขาไปเลยสิ ก็เหมาะสมกันดีไม่ใช่เหรอ ? ”
ร่างสูงส่ายหน้า “ ไม่หรอก กูไม่ได้ชอบเขา เขาก็ไม่ได้ชอบกูหรอก ”
“ มึงรู้ได้ไง ? ”
“ กูดูออกนะว่าคนไหนชอบกูจริง คนไหนแค่อยากควงกู หรือคนไหนแค่อยากให้กูเอา ผู้หญิงก็มาแนวๆเดียวกันหมดน่ะแหละ ”
“ ผู้หญิงดีๆก็มีนะมึง อย่ามองแง่ร้ายขนาดน้านน ”
“ แต่กูยังไม่เจอนี่หว่า ? ”
“ เฮ้อ...แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟนจริงๆจังๆกับเขาสักคนล่ะเนี่ย ” เพื่อนสนิทถอนหายใจอีกรอบ
“ แบบนี้น่ะดีแล้ว ”
เขาได้แต่บอกออกไปแบบนั้น แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบชอบกล ไม่ใช่ไม่อยากมีใครสักคนหรอกนะ แต่ว่า...เขาไม่คิดว่าจะสามารถเชื่อใจใครได้...ก็เท่านั้น
คนที่รักเขาจริงๆ...ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก มีจริงๆเหรอ ?
เพราะหัวใจมันก็เรียกร้องโหยหาว่าอยากรักใครสักคนเหมือนกัน เพียงแต่ว่า...ยังไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้นได้...สักคนเดียว
******************************
“ เฮ้ยพวกเรา ไปหาอะไรกินกันเถอะ !! ” เม้งส่งเสียงชวนเพื่อนในกลุ่ม หลังจากที่ทำงานกลุ่มในเย็นวันอาทิตย์จนเสร็จ
“ งั้นไปหาอะไรกินง่ายๆดีกว่า ไม่ต้องไปไกล ”
เขาและเพื่อนจึงออกมากินแผงร้านอาหารที่เป็นแหล่งประจำของเหล่านักศึกษาในละแวกนี้ เลือกนั่งโต๊ะบริเวณกลางเพราะเป็นร้านโปรดที่พวกเรามากินอยู่บ่อยๆ
บอกเมนูให้เพื่อนเขียนลงกระดาษแล้วจึงยื่นให้เจ้าของร้านร่างท้วมรับไป ระหว่างที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนานอยู่นั้น เขาก็กวาดสายตามองทั่วร้านตามปกติ
แล้วสายตาก็ไปพบเห็นใครคนหนึ่งเข้า !!
ชายร่างผอมสูงที่กำลังเดินแทรกผ่านผู้คนเข้ามา ผิวขาวใสเปล่งประกายเหมือนไม่ใช่คนแถวนี้ แต่ที่เด่นสุดคงจะเป็นใบหน้านั้นล่ะมั้ง...ที่สวยหวานราวกับไม่ใช่ผู้ชาย
ปกติเขาก็ไม่เคยคิดที่จะมองผู้ชายด้วยกันอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะเด็กหนุ่มคนนี้โดดเด่นมากล่ะมั้ง ? ไม่ใช่สนใจหรืออะไรหรอกนะ แต่คิดว่าเป็นเรื่อง ‘แปลก’ มากกว่า
ได้ยินแต่เสียงเพื่อนส่งเสียงหัวเราะอย่างเอาเป็นตาย เขาจึงหันไปพูดบ้าง
“ แม่ง ด่ากูอีกแล้ว !! ”
“ ฮ่า ๆ ก็ไปกับมึงทีไร สาวก็มองแต่มึงทู้กที ” ปอร์เช่พูด
“ มึงจะกลัวอะไร เราก็หล่อกันทั้งกลุ่ม ฮ่ะ ๆ ๆ ” เขาตอบกลับ
“ เหรอ ? กูพึ่งรู้นะเนี่ย ! ” พี่เม้งพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย เพื่อนคนอื่นๆส่งเสียงฮาขึ้นมาทันที
“ เออ มึงก็หล่อ...หล่อในแบบของมึงไง ของมึงคนเดียว คนอื่นห้ามลอกเลียนแบบ ” กฤตเสริม
“ เออ กูเข้าใจแล้ว หล่อในแบบของกูคนเดียว ”
“ ถุย !! มึงคิดได้ไงวะ สัด !! ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”
อาหารเริ่มทะยอยมาส่งถึงโต๊ะ พวกเราลงมือจัดการกับจานอาหารตรงหน้าด้วยความหิวโหยทันที แต่แล้ว...สายตาก็บังเอิญไปเห็น ‘เด็กหนุ่มคนนั้น’ อีกครั้ง ที่เขาพึ่งสังเกตว่านั่งโต๊ะตรงข้ามถัดจากเขาเพียงแค่หนึ่งโต๊ะเท่านั้นเอง
เขาแอบมองพิจารณาภายในเสี้ยววินาที...ก่อนที่จะเบือนสายตาหนีอย่างไม่ใส่ใจ แล้วทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอีกครั้ง
*******************************
...สองสัปดาห์ต่อมา...
วันหยุดที่อากาศดี...เขามักจะพากล้องถ่ายรูปตัวโปรดเดินทางไปยังสถานที่พักผ่อนจิตใจกันเพียงลำพัง ขับรถชมธรรมชาติไปเรื่อย เข้าไปในเมืองบ้าง หรือหาทำเลสวยๆนั่งเล่นดูพระอาทิตย์ตกดินภายในบริเวณของมหาวิทยาลัยก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ
ครั้งที่แล้วเขาตระเวณขับรถไปในยังสวนสาธารณะในเมือง ได้รูปถ่ายสวยๆมาเพียบ แต่วันนี้...ลองแวะไปเดินเล่นแค่สวนสาธารณะในมหาลัยดูดีกว่า เพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว ถ้าขืนขับรถเข้าไปถึงในเมือง มีหวังมืดแล้วแสงหายหมดแน่ๆ
เขาจอดรถไว้ลานจอดแล้วเดินเท้าต่ออีกสักประมาณสามนาที ก็มาถึงสวนสาธารณะยอดนิยมของเหล่านักศึกษาที่มักจะมาวิ่งออกกำลังกายหรือเดินเล่น อันที่จริงเขาไม่ค่อยชอบคนพลุกพล่านเท่าไหร่นัก เพียงแต่ว่าสถานที่แห่งนี้ก็มีบริเวณไว้สำหรับนั่งเล่นแยกไปทางวงด้านนอกเหมาะกับคนที่รักสันโดษอย่างเขาเหมือนกัน
เขามาที่นี่ประมาณสัปดาห์ละครั้งถึงสองครั้ง นั่งเล่นที่ตรงนี้เป็นประจำ เฝ้าสังเกตคนเดินผ่านไปผ่านมาจากมุมด้านนอก เพราะการนั่งที่ตรงนี้จะไม่เป็นที่สนใจจากผู้คนเท่าใดนัก เขาจึงชอบที่จะนั่งคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่ต้องมีสายตาของคนอื่นมารบกวนจิตใจ
แต่แล้ว...
ผีเสื้อตัวใหญ่...บินผ่านหน้าเขาไปแล้วไปเกาะที่พุ่มดอกไม้สีสวยพุ่มหนึ่ง เขาจับกล้องขึ้นเตรียมตัวทันทีแล้วออกเดินอย่างช้าๆ ก่อนที่จะนั่งเขย่งบนพื้นอย่างระมัดระวัง แล้วเล็งกล้องอย่างตั้งมั่น
‘ แชะ !’
ผีเสื้อบินออกไปก่อนที่เขาจะกดชัตเตอร์เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เขามองภาพในกล้องด้วยความเสียดาย ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเพื่อกวาดสายตามองหาผีเสื้อตัวนั้นที่ตอนนี้บินหายไปไหนก็ไม่รู้
ไม่เห็นผีเสื้อ...เห็นแต่ ‘เด็กหนุ่มคนหนึ่ง’ ที่นั่งอยู่ตรงนั้น บนม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าใดนัก
แต่คนๆนั้นกลับทำให้เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะฝ่ายนั้นนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับภาพวาด สายตาจับจ้องมองไปทางด้านหน้า เขาจึงรีบหันมองตามด้วยความสงสัยทันที
ก็พบว่า...ที่ตรงนั้นมีหญิงชายวัยชราอยู่สองคน ที่กำลังนั่งอยู่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามไม่ใกล้นัก คุณตาเหมือนจะกำลังยื่นบางอย่างให้คุณยายเพียงแต่เขาเห็นไม่ชัดเจนเท่าไหร่
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนม้านั่งต้องมอง...เพราะว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างนี้นี่เอง
ดูแล้วน่ารักดีจัง...หัวใจของเขารู้สึกสงบนิ่งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาหันกลับมามองเด็กหนุ่มคนดังกล่าวอีกครั้ง ก็เห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังเผยยิ้มบางอย่างที่เขาก็เข้าใจในความหมาย
ด้วยสัญชาตญาณ...เขารีบถือกล้องขึ้นมาแล้วเก็บภาพถ่ายเด็กหนุ่มคนนั้นไว้ทันที ก่อนที่จะจับภาพของสองตายายคู่นั้นอีกหลายภาพ
‘ ขออนุญาตถ่ายหน่อยนะครับ ’ เขาเอ่ยบอกทั้งสองฝ่ายในใจ โดยที่ไม่มีใครได้ยินเลยด้วยซ้ำ
ร่างสูงเก็บภาพน่าประทับไว้ได้อีกหลายภาพ เขายิ้มให้กับภาพที่สวยงามและมีค่าเหล่านั้น ก่อนที่จะหันกลับมามองเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ไม่ได้นั่งนิ่งเหมือนเดิมแล้ว แต่กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่...ดูแล้วเหมือนจะกำลังนั่งวาดรูปมากกว่าแฮะ...เพราะฝ่ายนั้นก้มๆเงยๆอยู่เป็นระยะ
ภายในเวลาไม่นาน ที่เด็กหนุ่มคนนั้น ฉีกกระดาษออกมาอย่างรวดเร็วแล้วออกวิ่งไปทางด้านหน้าทันที !!
เขามองตามด้วยความแปลกใจ ก็พบว่าอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปหาสองตายายคู่นั้น แล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ และในจังหวะนั้นเอง สมองของเขาก็รีบสั่งการให้เก็บภาพแห่งความประทับใจนั้นไว้ทันที !!
‘ แชะ !’ ‘แชะ !’ ‘ แชะ !’
ว้าวว...นี่อย่าบอกนะว่าวาดรูปให้สองตายายนั่น !! น่าทึ่งจังแฮะ
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร เด็กหนุ่มคนนั้นก็วิ่งกลับมา เก็บข้าวของหอบอย่างพะรุงพะรังแล้ววิ่งหนีหายไปทางด้านหลังทันที
เขามองตาม...แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
เอ๊ะ !!
ทำไม ??
...รู้สึก...คุ้นๆหน้าน้องคนนั้นจังแฮะ...เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...
********************************
ตอนเย็นก่อนเข้านอน เขาไม่ลืมที่จะเก็บภาพถ่ายเข้าเครื่องคอมพิเตอร์ทันที ระหว่างที่กำลังดูภาพย้อนหลังในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เขาก็ต้องรู้สึกแปลกใจกับภาพที่ถ่ายได้ในวันนี้...
ภาพสองตายายที่กำลังกุมมือกันไว้แน่นบนม้านั่งที่สวนสาธารณะ เขาคลี่ยิ้มบางให้กับภาพนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจนำมาตกแต่งเพิ่มเติม ด้วยการพิมพ์ประโยคไว้ด้านล่างมุมหนึ่งของภาพว่า...
‘ Real love still remain .’
นานๆครั้งจะได้เห็นอะไรที่สวยงามแบบนี้ ดีใจจังที่ถ่ายรูปเก็บไว้ได้ เขามองภาพนั้นอีกครั้ง หัวใจก็พลันรู้สึกอบอุ่นและ...เงียบเหงาในเวลาเดียวกัน
การที่คนสองคนจะรักกันไปจนตลอดชีวิต มีจริงๆใช่มั้ย ?
เฮ้อ...เขาต้องรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งเสีย เพราะไม่อยากรู้สึกวุ่นวายใจในตอนนี้
ภาพถัดมา...เป็นภาพของเด็กหนุ่มคนนั้นที่ทำให้เขาได้พบกับความประทับใจในครั้งนี้ อยากรู้จังว่าฝ่ายนั้นวาดอะไรให้กับคุณตาคุณยายกันนะ ?
แต่ว่า...น้องคนนี้น่าคุ้นๆแฮะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออก เขามองภาพนั้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง เฮ้อ...ช่างเหอะ นึกไม่ออก แต่หน้าใสๆอย่างนี้สงสัยเป็นพวกเด็กปีหนึ่งแหงๆ ต้องเรียนคณะพวกวาดรูปอะไรอย่างนี้แน่เลย
หลายวันหลังจากนั้น เขาได้แวะเวียนไปที่สวนสาธารณะแห่งนั้นบ่อยครั้งขึ้น เพราะเหตุผลอะไรเขาเองก็ไม่แน่ใจ อาจเป็นเพราะอยากจะสัมผัสความรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจแบบนั้นอีกครั้ง ได้เก็บภาพความประทับใจที่แสนสวยงาม เพียงแต่...สิ่งเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นอีกเลย
หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ไปที่สวนสาธารณะแห่งนั้นอีก เพราะว่าช่วงนี้เขาเองก็เรียนหนัก ทั้งยังต้องแบ่งเวลาให้กับการซ้อมดนตรีทุกเย็น เพื่อเป็นตัวแทนของการแสดงปีสามเตรียมขึ้นโชว์ในงาน ‘วันเฟรชชี่ไนท์’ ต้อนรับน้องปีหนึ่งที่กำลังจะจัดขึ้นในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้
...จนกระทั่งเมื่อ ‘วันเฟรชชี่ไนท์’ มาถึง...
เขาเดินเข้ามาในงานพร้อมกับมองสังเกตงานจนทั่ว งานก็ดูหรูหราดีนะเนี่ย...น้องปีสองมันจัดสวยดีแฮะ แต่ที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งเลยคือ น้องปีหนึ่งรุ่นนี้หน้าตาดีกันเยอะทั้งผู้หญิงผู้ชายเลย ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นหน้าน้องจากงานรับน้องหรือว่างานเชียร์มาแล้ว แต่วันนี้ทุกคนแต่งตัวกันอย่างเต็มที่ ก็เลยทำให้ยิ่งดูดีขึ้นมากกว่าเดิมล่ะมั้ง ?
“ อ้าว ? พี่สนครับ !! ” น้องปีสองคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา เมื่อเขาเดินไปจนถึงข้างเวที
“ วงพวกพี่ได้เล่นต่อจากวงปีห้านะครับ ”
“ แล้วนี่ปีไหนกำลังเล่นอยู่ ? ” เขาชี้นิ้วขึ้นไปบนเวที
“ ปีสองครับ แล้วปีห้าก็เล่นต่อจากวงนี้ ผมจัดเรียงตามคิวที่มาก่อนหลัง ” เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ไม่ได้ขึ้นแสดงตามชั้นปี แต่ขึ้นกับความสะดวกของแต่ละวงมากกว่า
“ อืม ได้ๆ ขอบใจมากนะบอล ” เขาตบไหล่อีกฝ่าย
“ ไม่เป็นไรครับพี่ ”
ไม่นาน...ก็ถึงคิวของวงดนตรีปีสามที่ได้ขึ้นแสดง
เขาถือกีตาร์ไฟฟ้าสีดำตัวโปรดเดินขึ้นเวทีทันที มองผ่านแสงไฟที่กำลังส่องตาแล้วโปรยยิ้มจนทั่ว เสียงกรี๊ดจากหญิงสาวถาโถมเข้ามาทุกทิศ นั่นไม่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจเลยสักนิด
ร่างสูงปรับเสียงกีตาร์ ฟังจังหวะจากมือกลอง แล้วบทเพลงแรกก็ได้เริ่มต้นขึ้น ทุกครั้งที่เล่นเขาก็จะกวาดสายตามองทางด้านล่างตามปกติ เพราะอยากเห็นว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร สนุกไปกับการแสดงของพวกเขาหรือไม่
เป็นดังคาด เพราะพวกเขาเลือกเพลงที่กำลังดังในตอนนี้มาเล่น ไม่แปลกเลยที่คนอื่นๆจะร้องตามและเต้นกันอย่างสนุกสนานเมามันส์
แต่แล้ว...
กลับมีคนอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่อีกมุมหนึ่ง จ้องมองเขาไม่วางตา !!
เอ๊ะ !!
รุ่นน้องผู้ชายคนนั้น ??
เขาพยายามมองคนๆนั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ
นั่นน้องคนที่เจอที่สวนสาธารณะนี่นา !!!!
มาทำอะไรที่นี่เนี่ย ??!!
หรือว่า...เป็นน้องปีหนึ่งคณะเรางั้นเหรอ ?!!!
ที่เขาจำหน้าน้องคนดังกล่าวได้ นั่นเป็นเพราะว่าในกล้องถ่ายรูปของเขายังมีรูปน้องคนนี้อยู่ และไม่ว่าจะเปิดดูกี่ครั้งก็ต้องเห็นทุกครั้ง เขาเองก็เคยคิดเล่นๆว่าน้องคนนี้คงจะเรียนวาดรูปหรือคณะที่เกี่ยวกับพวกศิลปะอะไรสักอย่าง แต่แล้วกลับเป็นรุ่นน้องคณะเขาเองเหรอ น่าแปลกใจจังแฮะ
พอรู้แบบนี้แล้วยิ่ง...อยากจะรู้จักจัง...
วงของพวกเขาเล่นทั้งหมดเจ็ดเพลง ซึ่งมีแต่เพลงร็อกสุดมันส์ เล่นเอาเหงื่อออกโทรมกายกันเลยทีเดียว พอลงจากเวทีเขาจึงไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาทันที
แต่แล้ว...เขากลับได้พบกับน้องคนนั้นอีกครั้ง !!
เขาแอบมองเพียงแวบหนึ่งในขณะที่ฝ่ายนั้นกำลังยืนอยู่หน้ากระจก ถ้าจะปล่อยให้เดินออกไปโดยที่ไม่ได้รู้จักกันก็จะน่าเสียดายไปหน่อย
ดังนั้นเขาจึง...
“ งานน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ? ” เขาเริ่มถามโดยที่ไม่ได้หันไปมองฝ่ายนั้นด้วยซ้ำ
“ ........................................ ”
แต่อีกฝ่ายกลับยืนเงียบอยู่อย่างนั้นและเอาแต่มองหน้าเขาแบบงงๆผ่านกระจก เมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นเงียบอยู่นาน เขาจึงหันไปถามซ้ำทันที
“ พี่ถามว่า...งานน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”
แต่แล้ว...วินาทีแรกที่เขาได้สบตากับอีกฝ่าย กลับทำให้เขารู้สึก....แปลกใจ
ทำไมตอนนั้นเขาถึงไม่สังเกตเห็น หรืออาจจะเป็นเพราะเคยเห็นอีกฝ่ายจากระยะไกลเท่านั้น จึงไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว...
อะไรกันเนี่ย !!??
ผู้ชายอะไรวะ โคตรน่ารักเลย !!!!
“ ก็...ไม่...นี่ครับ ” ฝ่ายนั้นตอบกลับมาแบบตะกุกตะกัก
เขาพยายามหลบสายตา หันไปสำรวจตัวเองในกระจกแทน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนั้น
“ แล้วทำไมตอนดูคอนเสิร์ตถึงยืนนิ่งยังกับต้นไม้ตาย พวกพี่เล่นกันไม่มันส์เหรอ ? ” พูดออกไปก็งงตัวเอง นี่เราพูดกวนน้องไปหรือเปล่าวะ ? แต่ช่างเถอะ !!
“ พี่เห็นผม...ด้วยเหรอครับ ? ”
...พี่เห็นน้องมาตั้งแต่ ‘สองอาทิตย์ก่อน’ แล้วครับ...
...แถมพี่ยังแอบถ่ายรูปน้อง(โดยไม่ได้ขออนุญาต)มาอีกด้วยครับ... เขาได้แต่แอบคิดในใจ
“ แต่ผม...ไม่ได้ยืนนิ่งเป็นต้นไม้ตายซะหน่อย... ”
...แต่ก็ยืนสงบนิ่งจนพี่สังเกตเห็นนั่นแหละครับ...
ฝ่ายนั้นยืนทำหน้าหงอย เขาพยายามมองอีกฝ่ายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าและอดไม่ได้ที่จะสังเกตใบหน้าที่สวยหวานนั้น แล้วก็ต้องรู้สึกวาบหวามในใจแปลกๆชอบกล
ผู้ชายอะไรวะ...หน้าสวยกว่าผู้หญิงอีก !!
ยิ่งดูใกล้ๆ....ยิ่งสวยแฮะ
ตาก็กลมโตสีดำ จมูกโด่งได้รูป ผิวก็ขาวเนียนละเอียดยิ่งกว่าผิวผู้หญิง
แต่ว่า...ปากเล็กอมชมพูที่เผยอน้อยๆ...นี่มันน่า...
เฮ้อ...ไม่น่าเป็นผู้ชายเลย
“ พี่ว่า...น้องเข้าไปในงานต่อเถอะ ” เขาเอ่ยบอกในที่สุด
“ เพราะน่าจะติดอันอับ ”
“ แต่เป็นอันดับของ...สาวสวยนะ ฮ่ะ ๆ ”
เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกงงๆ
ทำไมการเข้าไปทำความรู้จัก กลับกลายเป็นเหมือนการไปกวนตีนน้องยังไงไม่รู้แฮะ ??
...แต่อย่างน้อย...
...ก็ถือว่าได้ ‘เริ่ม’ ล่ะนะ...
*********************************************
...ตอนพิเศษ...ฉบับพี่สนสั้นๆเน้อ ฉลองที่นิยายเรื่องนี้ครบรอบ 1 ปี ^o^/
...อันที่จริงแต่งมาก็ 2 ปีแล้ว แต่ว่าพึ่งจะได้ลงเว็บก็ประมาณ 1 ปี...
...ขอบคุณคนอ่านทุกคน ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่นะ...
...ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันมา และขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันมาตลอด(ซึ้ง ๆ ๆ)...
*********************************************
... 5 เดือนก่อน...
เขาลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความเหนื่อยล้า นี่กี่โมงแล้วนะ ? มองดูนาฬิกาข้อมือตอนนี้บอกว่าเป็นเวลา 10.30 น.
เฮ้อ...นึกว่าจะตื่นไปเรียนตอนบ่ายไม่ทันซะแล้ว
ร่างสูงกวาดสายตามองห้องขนาดเล็กที่ไม่คุ้นเคยเพราะเมื่อคืนไม่ทันได้สังเกตเห็น ทั้งห้องถูกตกแต่งด้วยข้าวของน่ารักเหมาะกับเป็นห้องของผู้หญิง แต่พื้นห้องกลับมีแต่กองเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง
เขายกมือกุมขมับเพราะรู้สึกว่าเส้นเลือดกำลังเต้นตุบๆจนรู้สึกทรมาน
เฮ้อ...สงสัยเมื่อคืนคงเมามาก
‘สน’ มองจนทั่วห้องแล้วหยุดสายตาที่ร่างๆหนึ่ง หญิงสาวสวยผมสีทองที่กำลังนอนหลับสนิทแน่นิ่งอยู่ด้านข้าง อีกฝ่ายร่างกายเปลือยเปล่าเผยให้เห็นผิวขาวเนียนน่าจับต้อง
เขาถอนหายใจยาว แล้วค่อยๆลุกออกจากเตียงอย่างช้าๆเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายตื่น ก่อนที่จะหยิบกองเสื้อผ้าของตัวเองจากพื้นมาสวมใส่ให้เรียบร้อย แล้วออกจากห้องนั้นทันที
“ เป็นไงวะ ?? เมื่อคืน ” กฤต...เพื่อนสนิทถามในคาบเรียนในตอนบ่าย
“ ก็ดี ” เขาตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย
“ อะไรคือก็ดี ” ฝ่ายนั้นยิ้มมีเลศนัย
“ ก็ดี...อย่างที่มึงอยากได้ยินน่ะแหละ ”
“ กูก็ไม่น่าถาม อย่างมึงซะอย่าง ไม่น่าพลาด ฮ่ะ ๆ ”
“ ตั้งใจให้ก็เอา ไม่ให้ก็ไม่เอา...ก็แค่นั้น ”
“ โห แมนสุดๆ ” กฤตพูดประชด
“ เฮ้อ...แต่ผู้หญิงคนที่มาชอบมึง สวยจริงๆว่ะ ถ้าบอกว่าเป็นดาวคณะนี่กูก็เชื่อเลย ”
“ อืมม มึงรู้ได้ไง เค้าเป็นดาวคณะมนุษย์ ”
“ เฮ้ย !! จริงเหรอ ” เพื่อนอุทานตาโต
“ ก็เห็นเค้าบอกว่างั้น ”
“ อย่างนี้ก็ดีสิ ”
“ ทำไม ? ”
“ มึงก็คบกับเขาไปเลยสิ ก็เหมาะสมกันดีไม่ใช่เหรอ ? ”
ร่างสูงส่ายหน้า “ ไม่หรอก กูไม่ได้ชอบเขา เขาก็ไม่ได้ชอบกูหรอก ”
“ มึงรู้ได้ไง ? ”
“ กูดูออกนะว่าคนไหนชอบกูจริง คนไหนแค่อยากควงกู หรือคนไหนแค่อยากให้กูเอา ผู้หญิงก็มาแนวๆเดียวกันหมดน่ะแหละ ”
“ ผู้หญิงดีๆก็มีนะมึง อย่ามองแง่ร้ายขนาดน้านน ”
“ แต่กูยังไม่เจอนี่หว่า ? ”
“ เฮ้อ...แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟนจริงๆจังๆกับเขาสักคนล่ะเนี่ย ” เพื่อนสนิทถอนหายใจอีกรอบ
“ แบบนี้น่ะดีแล้ว ”
เขาได้แต่บอกออกไปแบบนั้น แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบชอบกล ไม่ใช่ไม่อยากมีใครสักคนหรอกนะ แต่ว่า...เขาไม่คิดว่าจะสามารถเชื่อใจใครได้...ก็เท่านั้น
คนที่รักเขาจริงๆ...ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก มีจริงๆเหรอ ?
เพราะหัวใจมันก็เรียกร้องโหยหาว่าอยากรักใครสักคนเหมือนกัน เพียงแต่ว่า...ยังไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้นได้...สักคนเดียว
******************************
“ เฮ้ยพวกเรา ไปหาอะไรกินกันเถอะ !! ” เม้งส่งเสียงชวนเพื่อนในกลุ่ม หลังจากที่ทำงานกลุ่มในเย็นวันอาทิตย์จนเสร็จ
“ งั้นไปหาอะไรกินง่ายๆดีกว่า ไม่ต้องไปไกล ”
เขาและเพื่อนจึงออกมากินแผงร้านอาหารที่เป็นแหล่งประจำของเหล่านักศึกษาในละแวกนี้ เลือกนั่งโต๊ะบริเวณกลางเพราะเป็นร้านโปรดที่พวกเรามากินอยู่บ่อยๆ
บอกเมนูให้เพื่อนเขียนลงกระดาษแล้วจึงยื่นให้เจ้าของร้านร่างท้วมรับไป ระหว่างที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนานอยู่นั้น เขาก็กวาดสายตามองทั่วร้านตามปกติ
แล้วสายตาก็ไปพบเห็นใครคนหนึ่งเข้า !!
ชายร่างผอมสูงที่กำลังเดินแทรกผ่านผู้คนเข้ามา ผิวขาวใสเปล่งประกายเหมือนไม่ใช่คนแถวนี้ แต่ที่เด่นสุดคงจะเป็นใบหน้านั้นล่ะมั้ง...ที่สวยหวานราวกับไม่ใช่ผู้ชาย
ปกติเขาก็ไม่เคยคิดที่จะมองผู้ชายด้วยกันอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะเด็กหนุ่มคนนี้โดดเด่นมากล่ะมั้ง ? ไม่ใช่สนใจหรืออะไรหรอกนะ แต่คิดว่าเป็นเรื่อง ‘แปลก’ มากกว่า
ได้ยินแต่เสียงเพื่อนส่งเสียงหัวเราะอย่างเอาเป็นตาย เขาจึงหันไปพูดบ้าง
“ แม่ง ด่ากูอีกแล้ว !! ”
“ ฮ่า ๆ ก็ไปกับมึงทีไร สาวก็มองแต่มึงทู้กที ” ปอร์เช่พูด
“ มึงจะกลัวอะไร เราก็หล่อกันทั้งกลุ่ม ฮ่ะ ๆ ๆ ” เขาตอบกลับ
“ เหรอ ? กูพึ่งรู้นะเนี่ย ! ” พี่เม้งพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย เพื่อนคนอื่นๆส่งเสียงฮาขึ้นมาทันที
“ เออ มึงก็หล่อ...หล่อในแบบของมึงไง ของมึงคนเดียว คนอื่นห้ามลอกเลียนแบบ ” กฤตเสริม
“ เออ กูเข้าใจแล้ว หล่อในแบบของกูคนเดียว ”
“ ถุย !! มึงคิดได้ไงวะ สัด !! ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”
อาหารเริ่มทะยอยมาส่งถึงโต๊ะ พวกเราลงมือจัดการกับจานอาหารตรงหน้าด้วยความหิวโหยทันที แต่แล้ว...สายตาก็บังเอิญไปเห็น ‘เด็กหนุ่มคนนั้น’ อีกครั้ง ที่เขาพึ่งสังเกตว่านั่งโต๊ะตรงข้ามถัดจากเขาเพียงแค่หนึ่งโต๊ะเท่านั้นเอง
เขาแอบมองพิจารณาภายในเสี้ยววินาที...ก่อนที่จะเบือนสายตาหนีอย่างไม่ใส่ใจ แล้วทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอีกครั้ง
*******************************
...สองสัปดาห์ต่อมา...
วันหยุดที่อากาศดี...เขามักจะพากล้องถ่ายรูปตัวโปรดเดินทางไปยังสถานที่พักผ่อนจิตใจกันเพียงลำพัง ขับรถชมธรรมชาติไปเรื่อย เข้าไปในเมืองบ้าง หรือหาทำเลสวยๆนั่งเล่นดูพระอาทิตย์ตกดินภายในบริเวณของมหาวิทยาลัยก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ
ครั้งที่แล้วเขาตระเวณขับรถไปในยังสวนสาธารณะในเมือง ได้รูปถ่ายสวยๆมาเพียบ แต่วันนี้...ลองแวะไปเดินเล่นแค่สวนสาธารณะในมหาลัยดูดีกว่า เพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว ถ้าขืนขับรถเข้าไปถึงในเมือง มีหวังมืดแล้วแสงหายหมดแน่ๆ
เขาจอดรถไว้ลานจอดแล้วเดินเท้าต่ออีกสักประมาณสามนาที ก็มาถึงสวนสาธารณะยอดนิยมของเหล่านักศึกษาที่มักจะมาวิ่งออกกำลังกายหรือเดินเล่น อันที่จริงเขาไม่ค่อยชอบคนพลุกพล่านเท่าไหร่นัก เพียงแต่ว่าสถานที่แห่งนี้ก็มีบริเวณไว้สำหรับนั่งเล่นแยกไปทางวงด้านนอกเหมาะกับคนที่รักสันโดษอย่างเขาเหมือนกัน
เขามาที่นี่ประมาณสัปดาห์ละครั้งถึงสองครั้ง นั่งเล่นที่ตรงนี้เป็นประจำ เฝ้าสังเกตคนเดินผ่านไปผ่านมาจากมุมด้านนอก เพราะการนั่งที่ตรงนี้จะไม่เป็นที่สนใจจากผู้คนเท่าใดนัก เขาจึงชอบที่จะนั่งคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่ต้องมีสายตาของคนอื่นมารบกวนจิตใจ
แต่แล้ว...
ผีเสื้อตัวใหญ่...บินผ่านหน้าเขาไปแล้วไปเกาะที่พุ่มดอกไม้สีสวยพุ่มหนึ่ง เขาจับกล้องขึ้นเตรียมตัวทันทีแล้วออกเดินอย่างช้าๆ ก่อนที่จะนั่งเขย่งบนพื้นอย่างระมัดระวัง แล้วเล็งกล้องอย่างตั้งมั่น
‘ แชะ !’
ผีเสื้อบินออกไปก่อนที่เขาจะกดชัตเตอร์เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เขามองภาพในกล้องด้วยความเสียดาย ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเพื่อกวาดสายตามองหาผีเสื้อตัวนั้นที่ตอนนี้บินหายไปไหนก็ไม่รู้
ไม่เห็นผีเสื้อ...เห็นแต่ ‘เด็กหนุ่มคนหนึ่ง’ ที่นั่งอยู่ตรงนั้น บนม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าใดนัก
แต่คนๆนั้นกลับทำให้เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะฝ่ายนั้นนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับภาพวาด สายตาจับจ้องมองไปทางด้านหน้า เขาจึงรีบหันมองตามด้วยความสงสัยทันที
ก็พบว่า...ที่ตรงนั้นมีหญิงชายวัยชราอยู่สองคน ที่กำลังนั่งอยู่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามไม่ใกล้นัก คุณตาเหมือนจะกำลังยื่นบางอย่างให้คุณยายเพียงแต่เขาเห็นไม่ชัดเจนเท่าไหร่
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนม้านั่งต้องมอง...เพราะว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างนี้นี่เอง
ดูแล้วน่ารักดีจัง...หัวใจของเขารู้สึกสงบนิ่งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาหันกลับมามองเด็กหนุ่มคนดังกล่าวอีกครั้ง ก็เห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังเผยยิ้มบางอย่างที่เขาก็เข้าใจในความหมาย
ด้วยสัญชาตญาณ...เขารีบถือกล้องขึ้นมาแล้วเก็บภาพถ่ายเด็กหนุ่มคนนั้นไว้ทันที ก่อนที่จะจับภาพของสองตายายคู่นั้นอีกหลายภาพ
‘ ขออนุญาตถ่ายหน่อยนะครับ ’ เขาเอ่ยบอกทั้งสองฝ่ายในใจ โดยที่ไม่มีใครได้ยินเลยด้วยซ้ำ
ร่างสูงเก็บภาพน่าประทับไว้ได้อีกหลายภาพ เขายิ้มให้กับภาพที่สวยงามและมีค่าเหล่านั้น ก่อนที่จะหันกลับมามองเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ไม่ได้นั่งนิ่งเหมือนเดิมแล้ว แต่กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่...ดูแล้วเหมือนจะกำลังนั่งวาดรูปมากกว่าแฮะ...เพราะฝ่ายนั้นก้มๆเงยๆอยู่เป็นระยะ
ภายในเวลาไม่นาน ที่เด็กหนุ่มคนนั้น ฉีกกระดาษออกมาอย่างรวดเร็วแล้วออกวิ่งไปทางด้านหน้าทันที !!
เขามองตามด้วยความแปลกใจ ก็พบว่าอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปหาสองตายายคู่นั้น แล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ และในจังหวะนั้นเอง สมองของเขาก็รีบสั่งการให้เก็บภาพแห่งความประทับใจนั้นไว้ทันที !!
‘ แชะ !’ ‘แชะ !’ ‘ แชะ !’
ว้าวว...นี่อย่าบอกนะว่าวาดรูปให้สองตายายนั่น !! น่าทึ่งจังแฮะ
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร เด็กหนุ่มคนนั้นก็วิ่งกลับมา เก็บข้าวของหอบอย่างพะรุงพะรังแล้ววิ่งหนีหายไปทางด้านหลังทันที
เขามองตาม...แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
เอ๊ะ !!
ทำไม ??
...รู้สึก...คุ้นๆหน้าน้องคนนั้นจังแฮะ...เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...
********************************
ตอนเย็นก่อนเข้านอน เขาไม่ลืมที่จะเก็บภาพถ่ายเข้าเครื่องคอมพิเตอร์ทันที ระหว่างที่กำลังดูภาพย้อนหลังในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เขาก็ต้องรู้สึกแปลกใจกับภาพที่ถ่ายได้ในวันนี้...
ภาพสองตายายที่กำลังกุมมือกันไว้แน่นบนม้านั่งที่สวนสาธารณะ เขาคลี่ยิ้มบางให้กับภาพนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจนำมาตกแต่งเพิ่มเติม ด้วยการพิมพ์ประโยคไว้ด้านล่างมุมหนึ่งของภาพว่า...
‘ Real love still remain .’
นานๆครั้งจะได้เห็นอะไรที่สวยงามแบบนี้ ดีใจจังที่ถ่ายรูปเก็บไว้ได้ เขามองภาพนั้นอีกครั้ง หัวใจก็พลันรู้สึกอบอุ่นและ...เงียบเหงาในเวลาเดียวกัน
การที่คนสองคนจะรักกันไปจนตลอดชีวิต มีจริงๆใช่มั้ย ?
เฮ้อ...เขาต้องรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งเสีย เพราะไม่อยากรู้สึกวุ่นวายใจในตอนนี้
ภาพถัดมา...เป็นภาพของเด็กหนุ่มคนนั้นที่ทำให้เขาได้พบกับความประทับใจในครั้งนี้ อยากรู้จังว่าฝ่ายนั้นวาดอะไรให้กับคุณตาคุณยายกันนะ ?
แต่ว่า...น้องคนนี้น่าคุ้นๆแฮะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออก เขามองภาพนั้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง เฮ้อ...ช่างเหอะ นึกไม่ออก แต่หน้าใสๆอย่างนี้สงสัยเป็นพวกเด็กปีหนึ่งแหงๆ ต้องเรียนคณะพวกวาดรูปอะไรอย่างนี้แน่เลย
หลายวันหลังจากนั้น เขาได้แวะเวียนไปที่สวนสาธารณะแห่งนั้นบ่อยครั้งขึ้น เพราะเหตุผลอะไรเขาเองก็ไม่แน่ใจ อาจเป็นเพราะอยากจะสัมผัสความรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจแบบนั้นอีกครั้ง ได้เก็บภาพความประทับใจที่แสนสวยงาม เพียงแต่...สิ่งเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นอีกเลย
หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ไปที่สวนสาธารณะแห่งนั้นอีก เพราะว่าช่วงนี้เขาเองก็เรียนหนัก ทั้งยังต้องแบ่งเวลาให้กับการซ้อมดนตรีทุกเย็น เพื่อเป็นตัวแทนของการแสดงปีสามเตรียมขึ้นโชว์ในงาน ‘วันเฟรชชี่ไนท์’ ต้อนรับน้องปีหนึ่งที่กำลังจะจัดขึ้นในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้
...จนกระทั่งเมื่อ ‘วันเฟรชชี่ไนท์’ มาถึง...
เขาเดินเข้ามาในงานพร้อมกับมองสังเกตงานจนทั่ว งานก็ดูหรูหราดีนะเนี่ย...น้องปีสองมันจัดสวยดีแฮะ แต่ที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งเลยคือ น้องปีหนึ่งรุ่นนี้หน้าตาดีกันเยอะทั้งผู้หญิงผู้ชายเลย ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นหน้าน้องจากงานรับน้องหรือว่างานเชียร์มาแล้ว แต่วันนี้ทุกคนแต่งตัวกันอย่างเต็มที่ ก็เลยทำให้ยิ่งดูดีขึ้นมากกว่าเดิมล่ะมั้ง ?
“ อ้าว ? พี่สนครับ !! ” น้องปีสองคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา เมื่อเขาเดินไปจนถึงข้างเวที
“ วงพวกพี่ได้เล่นต่อจากวงปีห้านะครับ ”
“ แล้วนี่ปีไหนกำลังเล่นอยู่ ? ” เขาชี้นิ้วขึ้นไปบนเวที
“ ปีสองครับ แล้วปีห้าก็เล่นต่อจากวงนี้ ผมจัดเรียงตามคิวที่มาก่อนหลัง ” เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ไม่ได้ขึ้นแสดงตามชั้นปี แต่ขึ้นกับความสะดวกของแต่ละวงมากกว่า
“ อืม ได้ๆ ขอบใจมากนะบอล ” เขาตบไหล่อีกฝ่าย
“ ไม่เป็นไรครับพี่ ”
ไม่นาน...ก็ถึงคิวของวงดนตรีปีสามที่ได้ขึ้นแสดง
เขาถือกีตาร์ไฟฟ้าสีดำตัวโปรดเดินขึ้นเวทีทันที มองผ่านแสงไฟที่กำลังส่องตาแล้วโปรยยิ้มจนทั่ว เสียงกรี๊ดจากหญิงสาวถาโถมเข้ามาทุกทิศ นั่นไม่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจเลยสักนิด
ร่างสูงปรับเสียงกีตาร์ ฟังจังหวะจากมือกลอง แล้วบทเพลงแรกก็ได้เริ่มต้นขึ้น ทุกครั้งที่เล่นเขาก็จะกวาดสายตามองทางด้านล่างตามปกติ เพราะอยากเห็นว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร สนุกไปกับการแสดงของพวกเขาหรือไม่
เป็นดังคาด เพราะพวกเขาเลือกเพลงที่กำลังดังในตอนนี้มาเล่น ไม่แปลกเลยที่คนอื่นๆจะร้องตามและเต้นกันอย่างสนุกสนานเมามันส์
แต่แล้ว...
กลับมีคนอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่อีกมุมหนึ่ง จ้องมองเขาไม่วางตา !!
เอ๊ะ !!
รุ่นน้องผู้ชายคนนั้น ??
เขาพยายามมองคนๆนั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ
นั่นน้องคนที่เจอที่สวนสาธารณะนี่นา !!!!
มาทำอะไรที่นี่เนี่ย ??!!
หรือว่า...เป็นน้องปีหนึ่งคณะเรางั้นเหรอ ?!!!
ที่เขาจำหน้าน้องคนดังกล่าวได้ นั่นเป็นเพราะว่าในกล้องถ่ายรูปของเขายังมีรูปน้องคนนี้อยู่ และไม่ว่าจะเปิดดูกี่ครั้งก็ต้องเห็นทุกครั้ง เขาเองก็เคยคิดเล่นๆว่าน้องคนนี้คงจะเรียนวาดรูปหรือคณะที่เกี่ยวกับพวกศิลปะอะไรสักอย่าง แต่แล้วกลับเป็นรุ่นน้องคณะเขาเองเหรอ น่าแปลกใจจังแฮะ
พอรู้แบบนี้แล้วยิ่ง...อยากจะรู้จักจัง...
วงของพวกเขาเล่นทั้งหมดเจ็ดเพลง ซึ่งมีแต่เพลงร็อกสุดมันส์ เล่นเอาเหงื่อออกโทรมกายกันเลยทีเดียว พอลงจากเวทีเขาจึงไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาทันที
แต่แล้ว...เขากลับได้พบกับน้องคนนั้นอีกครั้ง !!
เขาแอบมองเพียงแวบหนึ่งในขณะที่ฝ่ายนั้นกำลังยืนอยู่หน้ากระจก ถ้าจะปล่อยให้เดินออกไปโดยที่ไม่ได้รู้จักกันก็จะน่าเสียดายไปหน่อย
ดังนั้นเขาจึง...
“ งานน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ? ” เขาเริ่มถามโดยที่ไม่ได้หันไปมองฝ่ายนั้นด้วยซ้ำ
“ ........................................ ”
แต่อีกฝ่ายกลับยืนเงียบอยู่อย่างนั้นและเอาแต่มองหน้าเขาแบบงงๆผ่านกระจก เมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นเงียบอยู่นาน เขาจึงหันไปถามซ้ำทันที
“ พี่ถามว่า...งานน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”
แต่แล้ว...วินาทีแรกที่เขาได้สบตากับอีกฝ่าย กลับทำให้เขารู้สึก....แปลกใจ
ทำไมตอนนั้นเขาถึงไม่สังเกตเห็น หรืออาจจะเป็นเพราะเคยเห็นอีกฝ่ายจากระยะไกลเท่านั้น จึงไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว...
อะไรกันเนี่ย !!??
ผู้ชายอะไรวะ โคตรน่ารักเลย !!!!
“ ก็...ไม่...นี่ครับ ” ฝ่ายนั้นตอบกลับมาแบบตะกุกตะกัก
เขาพยายามหลบสายตา หันไปสำรวจตัวเองในกระจกแทน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนั้น
“ แล้วทำไมตอนดูคอนเสิร์ตถึงยืนนิ่งยังกับต้นไม้ตาย พวกพี่เล่นกันไม่มันส์เหรอ ? ” พูดออกไปก็งงตัวเอง นี่เราพูดกวนน้องไปหรือเปล่าวะ ? แต่ช่างเถอะ !!
“ พี่เห็นผม...ด้วยเหรอครับ ? ”
...พี่เห็นน้องมาตั้งแต่ ‘สองอาทิตย์ก่อน’ แล้วครับ...
...แถมพี่ยังแอบถ่ายรูปน้อง(โดยไม่ได้ขออนุญาต)มาอีกด้วยครับ... เขาได้แต่แอบคิดในใจ
“ แต่ผม...ไม่ได้ยืนนิ่งเป็นต้นไม้ตายซะหน่อย... ”
...แต่ก็ยืนสงบนิ่งจนพี่สังเกตเห็นนั่นแหละครับ...
ฝ่ายนั้นยืนทำหน้าหงอย เขาพยายามมองอีกฝ่ายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าและอดไม่ได้ที่จะสังเกตใบหน้าที่สวยหวานนั้น แล้วก็ต้องรู้สึกวาบหวามในใจแปลกๆชอบกล
ผู้ชายอะไรวะ...หน้าสวยกว่าผู้หญิงอีก !!
ยิ่งดูใกล้ๆ....ยิ่งสวยแฮะ
ตาก็กลมโตสีดำ จมูกโด่งได้รูป ผิวก็ขาวเนียนละเอียดยิ่งกว่าผิวผู้หญิง
แต่ว่า...ปากเล็กอมชมพูที่เผยอน้อยๆ...นี่มันน่า...
เฮ้อ...ไม่น่าเป็นผู้ชายเลย
“ พี่ว่า...น้องเข้าไปในงานต่อเถอะ ” เขาเอ่ยบอกในที่สุด
“ เพราะน่าจะติดอันอับ ”
“ แต่เป็นอันดับของ...สาวสวยนะ ฮ่ะ ๆ ”
เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกงงๆ
ทำไมการเข้าไปทำความรู้จัก กลับกลายเป็นเหมือนการไปกวนตีนน้องยังไงไม่รู้แฮะ ??
...แต่อย่างน้อย...
...ก็ถือว่าได้ ‘เริ่ม’ ล่ะนะ...
*********************************************
...ตอนพิเศษ...ฉบับพี่สนสั้นๆเน้อ ฉลองที่นิยายเรื่องนี้ครบรอบ 1 ปี ^o^/
...อันที่จริงแต่งมาก็ 2 ปีแล้ว แต่ว่าพึ่งจะได้ลงเว็บก็ประมาณ 1 ปี...
...ขอบคุณคนอ่านทุกคน ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่นะ...
...ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันมา และขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันมาตลอด(ซึ้ง ๆ ๆ)...
...ต่อไปนี้ จะพยายามแต่งตอนต่อไป มอบความสุขให้ทุกคนไปอย่างนี้เรื่อยๆ จนกว่าจะจบละกัน...
...ไม่ว่าอีกกี่ปีก็อย่าลืมพี่สนกะน้องณัฐกันนะค้าบบ ...*********************************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น