คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่หก -- เพื่อนใหม่
บทที่หก
ท้องฟ้าในยามเช้าเปลี่ยนเป็นสีเทาหม่น ฝนที่ตั้งเค้าอยู่ทั่วทำท่าเหมือนกำลังจะตกลงมาในไม่ช้า อากาศค่อนข้างเย็นสบายซะจนร่างที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ไม่อยากจะลุกขึ้นมา
ร่างเพรียวที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าผวยกำลังหลับสบาย แต่นาฬิกาเจ้ากรรมก็ดันปลุกเสียงดังตามเวลาที่มันเคยทำงานอยู่ทุกเช้า จนเขาต้องเอื้อมมือไปปิดโดยเร็ว
ไม่อยากไปเรียนเลย....
เมื่อคืนเขานอนดึกมากเพราะต้องอ่านหนังสือ แถมอากาศในตอนเช้าก็ยังมาเป็นใจ แต่ถ้าเขาไม่ไปเรียนก็คงจะรู้สึกผิด เพราะการสอบกลางภาคใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งเหลืออีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ถ้าเขายังขี้เกียจอยู่อย่างนี้ก็จะไม่เป็นผลดีเลย
เมื่อต่อสู้กับกิเลสในใจอยู่นาน ณัฐจึงตัดสินใจยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังรู้สึกงัวเงียอยู่ แล้วลุกออกจากเตียงเพื่อไปชำระร่างกาย
****************
บรรยากาศการเรียนภาคบรรยายยังเป็นไปในแบบเดิม...เสียงของอาจารย์ที่ฟังดูเหมือนพึมพำอะไรสักอย่าง อากาศภายในห้องเรียนที่ค่อนข้างเย็นสบาย บวกกับความอ่อนเพลียของร่างกายที่พักผ่อนมาน้อย ยิ่งกระตุ้นให้เขาต้องฟุบหน้า และ.....หลับในห้องเรียนอีกครั้ง...
“ ณัฐ...อ่านหนังสือหนักเหรอเมื่อคืน ? ” แพรเอ่ยถามช่วงพักกลางวันในวันนั้น
“ ก็...ประมาณนั้น ” ณัฐตอบพร้อมกับตักคำข้าวเข้าปาก
“ ขยันตั้งแต่ปีหนึ่งขนาดนี้..จะเอาเกียรตินิยมเลยเหรอเนี่ย ? ”
“ ไม่ได้ขยันสักหน่อย...แค่รู้สึกว่า ‘ควรอ่าน’ แค่นั้นเอง ”
“ ครับ...ฟังดูแล้วมันเหมือนจะกระทบผมนิดๆนะครับ ” จัมโบ้เอ่นสวนทันที เพราะเมื่อคืนเขาจำได้ว่ามันนอนตั้งแต่สามทุ่ม
แล้วทั้งสามก็หัวเราะร่วนขึ้นมาพร้อมกัน
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ว่าจัมโบ้เป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจอยู่เหมือนกัน เลคเชอร์ที่เข้ามั่งไม่เข้ามั่ง มาเรียนอีกทีก็แล็บในตอนบ่าย และไม่เคยเลยสักครั้งที่มันจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทบทวน ส่วนอ่านหนังสือสอบกลางภาคน่ะเหรอ ? มันตั้งปณิธานเป็นอย่างดีเลยว่า...
‘ ถ้าไม่ก่อนสอบหนึ่งอาทิตย์ มันไม่อ่าน! ’ เป็นปณิธานที่แน่วแน่ดีจริงๆ
“ แพรก็ว่าจะเริ่มอ่านวันนี้แหละ ”
“ งั้นตอนเย็นเราไปนั่งอ่านที่ห้องสมุดกันนะ ? ” แพรพยักหน้าเอ่ยชวนทั้งคู่
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ทั้งสามจึงมุ่งตรงมายังห้องสมุดคณะแพทย์
ภายในห้องสมุดของคณะนั้น เรียกได้ว่า มีบรรยากาศของความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง เพราะในแต่ละมุม แต่ละชั้นนั้น จะมีผู้คนกำลังนั่งอ่านหนังสือกันอย่างตั้งอกตั้งใจ สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมายหลายหมวด รวมทั้งผู้คนที่มานั่งศึกษาหาความรู้ และยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบชวนให้มีสมาธิ เป็นสถานที่สร้างความมุ่งมั่นในการอ่านหนังสือได้ดีเยี่ยม
ณัฐภัทรเลือกโต๊ะเดี่ยวริมด้านในสุด เพราะเป็นที่ที่คนไม่พลุกพล่าน จะได้ไม่มีเสียงใดมารบกวนความตั้งใจของเขา
หน้าหนังสือที่ค้างต่อจากเมื่อคืนได้ถูกเปิดขึ้น.....พร้อมกับที่เก้าอี้ของโต๊ะตัวด้านข้างได้ถูกดึงให้เลื่อนออก
หญิงสาวคนหนึ่งนั่งแทนที่โดยเร็ว และหันมายิ้มหวานให้
‘ แก้ม ’ นั่นเอง...
“ ขอนั่งด้วยคนนะ ” เธอเอ่ยถามเสียงใส
“ อืมม...นั่งดิ ” ณัฐรีบตอบรับ
แก้ม...เป็นคนที่เขาพึ่งจะได้คุยและรู้จักกัน หลังจากที่ได้ประกวดหนุ่มหล่อ-สาวสวยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากวันนั้น แก้มก็ได้เข้ามาทักทายและพยายามพูดคุยกับเขาอยู่เป็นประจำ จนถึงขั้นที่..แพร..เคยพูดแบบพิลึกพิลั่นเอาไว้ว่า ‘แก้มมาทำตัวสนิทสนมกับณัฐจังเลยนะ’
แต่เขากลับไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร แก้มก็แค่เป็นคนอัธยาศัยดีและเข้ากับคนได้ง่าย คนเรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ
และวันนี้...ก็เป็นเหมือนเคย
“ ณัฐ มาอ่านหนังสือที่นี่เหมือนกันเหรอ ? ” แก้มเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
“ ป่าวหรอก นี่เป็นครั้งแรก ปกติจะอ่านอยู่หอน่ะ ”
“ มิน่าล่ะ..แก้มไม่เคยเห็น เพราะแก้มมานั่งอ่านที่นี่ทุกวันเลย ”
หญิงสาวเปลี่ยนเสียงเป็นแทบจะกระซิบ “ และที่นี่...ก็เป็นที่ประจำของแก้มด้วย ” แก้มชี้มาที่โต๊ะตัวที่ณัฐกำลังนั่งอยู่
“ อ้าว..เหรอ โทษที ๆ งั้นเราเปลี่ยนไปนั่งตรงนั้นก็ได้ ” ณัฐทำท่าจะลุก แต่ถูกแก้มรั้งตัวไว้เสียก่อน
“ ณัฐ...แก้มพูดเล่น ต่างหาก ” หญิงสาวกล่าวหยอกพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย
สงสัยเราทั้งคู่เสียงดัง จึงทำให้แพรและจัมโบ้ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นด้วย ต้องชะโงกหัวมาดู ไอ้จัมโบ้ทำตาโตเล็กน้อยเมื่อมองมา และชักหัวกลับอย่างรวดเร็ว
“ โทษทีนะ...งั้นณัฐอ่านต่อเถอะ ” และแก้มก็หันกลับไปหยิบหนังสือมาจากกระเป๋าของตนเช่นกัน
แต่พออ่านไปได้สักพัก หญิงสาวก็สะกิดแขนเบาๆ
“ ณัฐ...แก้มไม่เข้าใจตรงนี้อ่ะ อธิบายให้แก้มฟังหน่อยดิ ” เธอยื่นหนังสือมาพร้อมกับกระเถิบเก้าอี้เข้ามาใกล้
“ อ๋อ..ตรงนี้เหรอ ? ไม่เข้าใจยังไงอ่ะ ”
ณัฐเริ่มต้นอธิบายตามที่เขาเข้าใจให้แก้มฟัง โชคดีที่เรื่องนี้เขาพึ่งอ่านไปเมื่อวันก่อน จึงสามารถอธิบายเป็นฉากๆได้สบาย แก้มได้ฟังแล้วก็พยักหน้าตามเป็นระยะ พอฟังจบแล้วต้องทำตาโต
“ โห...ณัฐแม่นมากเลยอ่ะ ”
“ ก็เรื่องนี้เราพึ่งอ่านมา...เราก็เคยสงสัยตรงนี้เหมือนกัน ก็เลยเข้าใจว่าแก้มงงตรงไหนไง ”
“ งั้นถ้าแก้มไม่เข้าใจตรงไหน แก้มจะมาถามณัฐนะ ” เธอยิ้มหวานให้
“ ถ้าเราตอบได้นะ....”
ณัฐหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ถ้าตอบได้เขาก็จะพยายามตอบ แต่ถ้าตอบไม่ได้ก็จะพยายามหาคำตอบมาให้ เขาเป็นคนแบบนี้เสมอ...เพราะเขารู้ดีว่า การที่ได้อธิบายให้เพื่อนฟังไม่ใช่ข้อเสียเลย ตรงกันข้ามกลับมีประโยชน์มากมาย ทั้งเพื่อนได้ไขข้อสงสัย ทั้งตัวเขาเองที่จะได้ทบทวนความเข้าใจนั้นด้วย นั่นยิ่งจะทำให้สามารถจำเรื่องนั้นได้ง่ายขึ้น
และหลายชั่วโมงนั้นก็ผ่านไปด้วยการตอบข้อข้องใจของแก้ม คำถามแล้วคำถามเล่า...แก้มมีเรื่องสงสัยเยอะจริงๆ บางคำถามก็ค่อนข้างจะ...ง่ายเกินไปรึเปล่า....แต่แก้มก็ยังสงสัยได้ เพราะฉะนั้นเป้าหมายของการที่จะได้มานั่งอ่านหนังสืออย่างตั้งใจในวันนี้ เป็นอันต้องล้มเลิกไปในที่สุด
นานทีเดียว...เสียงกริ่งของห้องสมุดก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงเวลาปิดทำการ เขาและแก้ม รวมทั้งแพรกับจัมโบ้จึงเดินออกมาจากห้องสมุด ตอนนี้ผู้คนที่อยู่ในแต่ละชั้นต่างเดินทยอยออกมาจนเกือบหมด
ในขณะที่เขากับแก้มเดินลงมาจากบันได พร้อมกับที่เพื่อนทั้งสองเดินตามมาทางด้านหลัง ณัฐก็เห็นร่างหนึ่งกำลังจะก้าวขึ้นบันไดสวนทางมา
‘พี่สน’กำลังเดินขึ้นบันไดมา ในจังหวะที่ฝ่ายนั้นแหงนหน้าขึ้นมานั้น ก็ได้ประสานสายตาเข้ากับเขาอย่างจัง และร่างสูงนั้นก็ได้เผยยิ้มกว้างออกมาเป็นการทักทายด้วยท่าทีที่เป็นปกติที่สุด ณัฐไม่รู้จะทำอย่างไร จึงทำได้แต่หลบสายตาและเบือนหน้าไปทางอื่น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับรุ่นพี่ ตั้งแต่.....
ถูกผู้ชายคนนี้ ‘จูบ...เพื่อแลกกับภาพวาด’ !!
หลังจากนั้น เขาก็เจอรุ่นพี่อีกประมาณสองสามครั้ง ซึ่งแต่ละครั้ง..ฝ่ายนั้นจะพยายามทักทายเขาด้วยสีหน้าและท่าทีที่เป็นปกติ ราวกับว่าไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น
แต่สำหรับเขานั้นยังวางตัวไม่ถูก... ทุกครั้งที่ได้เห็นอีกฝ่าย เขาแทบจะพยายามเดินเลี่ยงไปทางอื่น หรือไม่ก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นตั้งแต่แรก ถ้าเป็นไปได้เขาจะพยายามไม่เดินเข้าไปในระยะที่ฝ่ายนั้นจะมองเห็นได้ ไม่ใช่ยังรู้สึกโกรธ เพียงแต่...ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเสียมากกว่า...
และครั้งนี้ก็มาเจออีกจนได้...
“ หวัดดีครับ...น้องณัฐ ” เสียงทุ้มเอ่ยทักในจังหวะที่กำลังจะเดินสวนทางกัน
ณัฐไม่ตอบอะไร ได้แต่เดินอย่างรีบเร่งผ่านไป จนเกือบจะตกบันได หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างจึงได้แต่แปลกใจในท่าที เมื่อพ้นจากประตูห้องสมุดเธอจึงเอ่ยถามทันที
“ พี่สน ทัก ณัฐไม่ใช่เหรอ ? ”
พร้อมกับที่เพื่อนทั้งสองกำลังเดินเข้ามาสมทบ เขาไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้จึงรีบตอบกลับไปว่า...
“ เหรอ...พอดีเราไม่ทันได้สังเกตน่ะ ”
“ ณัฐ....เมื่อกี้เห็นพี่สนมั้ย ? ” แพร รีบเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึง
“ ไม่เห็น! ” เขาตอบทันควันแบบไม่ต้องคิด
“ ว้า...เสียดายจัง แค่คิดไว้ว่า ถ้าณัฐได้คุยกับพี่สน แพรก็อาจจะมีโอกาสได้คุยกับพี่เขาบ้าง ” หญิงสาวทำหน้าอย่างเสียดาย
เขาได้แต่แกล้งยิ้มออกไป ในใจกลับคิดว่า.. ถ้าเป็นอย่างนั้น แพรก็คงไม่มีโอกาสนั้นหรอก
ทันใดนั้นแก้มก็กล่าวเปิดประเด็นใหม่ เขาได้แต่ขอบคุณแก้มในใจที่เลิกพูดเรื่องนี้เสียที
“ ณัฐ...ไปกินข้าวกันเถอะ ” ท่าทีของเธอเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ต้องการชวนคนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
แพรที่เห็นดังนั้นก็เงียบไปเล็กน้อย และได้เอ่ยขึ้น
“ งั้น...แพรกับจัมโบ้จะกลับเลยละกันนะ ”
“ อ้าว... ทำไมไม่ไปกินด้วยกันล่ะ ” ณัฐได้แต่มองหน้าเพื่อนทั้งสองไปมา
จัมโบ้มีท่าทีลำบากใจที่สุด แต่ถูกเพื่อนร่างเล็กสะกิดเบาๆเข้าให้ จนสุดท้ายต้องตอบว่า.. “ ไม่เอาอ่ะ..อยากกลับไปนอนมากกว่า ”
“ อืม..แพรก็ต้องกลับไปกินข้าวที่บ้านเหมือนกัน ”
“ งั้นเราไปกันสองคนเถอะนะณัฐ ” แก้มเป็นคนเดียวที่ท่าทางมีความสุขที่สุด
ตอนนี้เขาก็รู้สึกหิวข้าวมากแล้วเหมือนกัน ถ้างั้นไปกินข้าวกับแก้มก่อนแล้วค่อยกลับหอก็ไม่น่าจะเป็นไร...เดี๋ยวค่อยซื้อข้าวกลับมาให้ไอ้จัมโบ้ด้วย เผื่อตื่นมามันจะรู้สึกหิว
“ อือ...ไปดิ ” เขาพยักหน้าตอบรับ
****************
“ ณัฐ ! ” หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเรียกด้วยเสียงอันดัง
เขาหลุดจากภวังค์แล้วหันหน้ามาทางต้นเสียงทันที “ มีอะไรเหรอ ? ”
“ แก้มนั่นแหละที่จะถามณัฐ....เหม่ออะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ? ” แก้มพูดพลางทำหน้างอน
“ เปล่าสักหน่อย ” ณัฐตอบพลางหลุบตาต่ำ แล้วกินข้าวต่อ
ทำไมเขาถึงต้องคิดเรื่องนี้อีกแล้วนะ เรื่องวันนั้น....ก็แค่จูบไร้ความหมายแค่ครั้งเดียวเอง เป็นผู้ชายแท้ๆ แค่นี้ไม่สึกหรออะไรสักหน่อย ทำตัวอย่างกับเป็น ‘หญิงสาววัยแรกรุ่น’ งั้นแหละ
บ้าจริงๆเลยเรา !?
“ ณัฐ...คือว่า... ” หญิงสาวทำท่าเหมือนกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง
“ หือ ? ” เขากลับมาตั้งใจฟังที่แก้มพูด
“ คือว่า...วันสอบเสร็จ ณัฐได้ไปไหนหรือเปล่า ? ”
“ ไม่รู้เหมือนกัน...คงไม่ได้ไปไหนหรอก ทำไมเหรอ ? ”
“ ก็ แก้มว่าจะชวนณัฐไปดูหนังอ่ะ ”
ที่เห็นแก้มอึกอักอยู่นานก็แค่เรื่องนี้เองหรือ...
แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกเบื่อๆเหมือนกัน...อ่านหนังสือเยอะๆเข้าก็อยากจะพักผ่อนบ้าง เพียงแต่ติดตรงที่ว่า...เป็นช่วงใกล้สอบ แต่ถ้าสอบเสร็จ...คงสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจสักที
“ เอาดิ ” ณัฐตอบตกลง
แก้มได้ยินดังนั้น ก็ทำหน้าดีใจสุดๆ
“ ชวนสองคนนั้นไปด้วยนะ ดูเยอะๆสนุกดี ” ณัฐเอ่ยต่อ
“ แต่ว่า....แก้ม อยากไปดูกับณัฐ...แค่สองคนอ่ะ ”
เขาได้แต่มองหน้าเธอแบบไม่เข้าใจ...
“ ก็แก้ม...ไม่สนิทกับเพื่อนณัฐ ” แก้มพยายามหาเหตุผลที่คิดว่าฟังเข้าท่าที่สุด
อ๋อ..เรื่องนี้เองเหรอ ?
“ แพรกับจัมโบ้น่ะนะ... เข้ากับคนง่ายจะตาย ไม่นานก็สนิทกัน เพราะสองคนนั้นน่ะ คุยเก่ง แต่....เราน่ะสิ..ที่พูดไม่ค่อยเก่ง แก้มอาจจะเบื่อเอาได้ ”
“ เวลาอยู่กับณัฐ..แก้มไม่เห็นเบื่อเลย ” หญิงสาวตอบพลางยิ้มหวาน
เขาได้แต่ยิ้มแกนๆตอบกลับไป
“ อืมม..ไปแค่สองคนก็ได้ ”
****************
ความคิดเห็น