คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : กาล: กล่าวทั่วไป
๑. กาล (Tense)
คำว่า “กาล” นี้ ถ้าแปลอย่างง่ายที่สุดก็จะแปลว่า “เวลา” ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึงเวลาที่เกิดการแสดงผ่านคำกริยา ซึ่งก็คือคำที่บ่งบอกกิจกรรม (เช่น กิน เดิน นอน นั่ง) หรือ สถานะใดๆ (เป็น อยู่ คือ คิด ชอบ รัก) นั่นเอง
ในภาษาไทยเรา คำกริยาที่ใช้ในประโยคหรือวลีใดก็ตามแต่จะไม่ผันไปตามกาล นั่นก็หมายความว่า ไม่ว่าเราจะพูดว่า “ฉันกินข้าว”, “ฉันกำลังกินข้าว”, หรือ “ฉันเพิ่งจะกินข้าวเสร็จ” คำว่า “กิน” ก็ยังคงใช้รูปเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าในภาษาอังกฤษหาเป็นเช่นนั้นไม่
ในภาษาอังกฤษ ถ้าเราจะพูดว่า “ฉันกินข้าว” ในเวลาต่างๆกัน คำกริยา “กิน” (Verb to eat) ก็ต้องผันตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ I have a meal. (ฉันกินข้าว), I am having a meal. (ฉันกำลังกินข้าว), I have just had a meal. (ฉันเพิ่งจะกินข้าวเสร็จ) ฉะนั้นเมื่อมีการกระทำ(หรือบอกสถานะ)เกิดขึ้นในเวลาใดๆ ก็ย่อมต้องมีความสอดคล้องระหว่างรูปแบบของคำกริยากับช่วงเวลานั้นๆด้วย ในแง่นี้จึงเกิดเป็นรูปประโยคในกาล (Tense) ต่างๆที่เราจะต้องใช้ให้สอดคล้องกับความหมายที่เราต้องการจะสื่อความ (ระเบียบ ณ กาฬสินธุ์, ขนิษฐา อุทวนิช, และยูระ เอี่ยมชื่น, ๒๕๕๐, หน้า ๒) และรูปประโยคในกาลต่างๆนี้เองที่เราจะพูดถึงกันในตอนนี้
ในที่นี้ จะแบ่งกาลเป็น ๑๑ กาล ตามตำราของระเบียบ ณ กาฬสินธุ์, ขนิษฐา อุทวนิช, และยูระ เอี่ยมชื่น (๒๕๕๐, หน้า ๓-๒๓) ได้แก่
๑.๑ ปัจจุบันกาล: The Present Simple Tense
๑.๒ ปัจจุบันกาล: The Present Progressive Tense
๑.๓ อดีตกาลสืบเนื่องถึงปัจจุบันกาล: The Present Perfect Tense
๑.๔ อดีตกาลสืบเนื่องถึงปัจจุบันกาล: The Present Perfect Progressive Tense
๑.๕ อดีตกาล: The Past Simple Tense
๑.๖ อดีตกาล: The Past Progressive Tense
๑.๗ อดีตกาล: The Past Perfect Tense
๑.๘ อดีตกาล: The Past Perfect Progressive Tense
๑.๙ อนาคตกาล: The Future Simple Tense
๑.๑๐ อนาคตกาล: The Future Progressive Tense
๑.๑๑ อนาคตกาล: The Future Perfect Tense
อันจะพูดถึงทีละกาลโดยสรุป ดังต่อไปนี้
ความคิดเห็น