คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #66 : Chapter 65 : พายุยักษ์
รถม้าที่จะเดินทางไปสู่คฤหาสน์ลา วาลิเอล ระยะทางอีกเพียงไม่เท่าไหร่มองเห็นยอดคฤหาสน์อยู่ลิบๆ พายุหมุนที่รุนแรงก็เข้าจู่โจมโดยไม่ใช่ฝีมือใครอื่นนอกจาก ‘พายุยักษ์’ คาริน ดัชเชสแห่งคฤหาสน์ แม่ของหลุยส์
เด็กสาวผมสีชมพูเผชิญหน้ากับอัศวินร่างบางในเครื่องแบบหัวหน้าฝูงบินกริฟฟิน เจอเข้ากับคนที่น่ากลัวที่สุดในคฤหาสน์สวมเครื่องแบบเต็มยศ ตัวของเธอสั่นไหวราวกับติดอยู่กลางพายุหิมะ
“หลุยส์ รายงานมาซิว่าลูกทำผิดอะไร”
“ข—ขัดคำสั่งของท่านพ่อค่ะ” หลุยส์หงอสนิท
“คำสั่งอะไร”
“ห—ห้ามไม่ให้ไปกาเลียค่ะ”
“รู้มั้ยว่าการกระทำของลูกทำให้ที่บ้านเป็นห่วงแค่ไหน?” คารินสะบัดคทาเบาๆ แต่สายลมที่เกิดขึ้นแรงพอจะพัดหลุยส์ลอยสูงขึ้นไปร่วมสองร้อยเมตร กระโปรงหลุดปลิวหายไปไหนก็ไม่อาจทราบได้ ร่างของเด็กสาวร่วงหล่นลงมาในลักษณะใบไม้ลอยหวิวจนกระทั่งถึงพื้น หลุยส์คุกเข่าลงเอาสองมือปิดช่องที่หน้าตักปกป้องส่วนสำคัญของชั้นในไม่ให้ออกสู่สายตาสาธารณะชน
“น—หนูขอโทษที่ขัดคำสั่ง แต่ว่าที่ทำไปก็เพื่อช่วยเหลือองค์ราชินีนะคะ!”
“จะด้วยสาเหตุอะไร ลูกก็ได้ขัดคำสั่งเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตราย และทำให้หลายคนมีความทุกข์” คารินสะบัดคทา ลมแรงพัดเข้าใส่หลุยส์ทำให้เธอหลับตาปี๋บังเศษฝุ่นที่ปลิวเข้ามา เส้นผมสีชมพูลู่ไปด้านหลังตามแรงลม
มองจากมุมมองของคนภายนอก การกระทำของคารินย่อมเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนรุนแรงและไร้เหตุผล ทว่าถ้ามองลึกเข้าไปในดวงตาใต้หมวกปีกกว้างใบนั้น จะเห็นคำพูดที่ราวกับภาวนาขออย่าให้เด็กคนนั้นทำแบบนี้อีก
หลุยส์รู้สึกเหมือนมีอะไรมาบังข้างหน้าเธอ จากนั้นลมก็หยุดลง แม่ของเธอหยุดมือเมื่อมีคนเข้ามาขวาง
“บอกชื่อมา” คารินจ้องเด็กหนุ่มผมสีเทาเขม็ง
“แฟนธอม คนส่งสารขององค์ราชินีครับ” อดีตองครักษ์เงาสำนึกรู้ดีว่าตำแหน่งของตัวเองอีกฝ่ายต่างกันเพียงใด
“องค์ราชินีมีสารอะไรส่งมาถึงข้าด้วยงั้นรึ?”
“มิเป็นเช่นนั้น ข้าเพียงแต่มาที่นี่ตามคำขอของคนคนหนึ่งเท่านั้น”
“ใคร?”
“ชายผู้เป็นอสูรรับใช้ของลูกสาวท่าน”
ทั้งสองจ้องกันไม่หลบตา ต่างคนต่างเห็นความเป็นนักรบในอีกฝ่าย ถ้าทั้งคู่เจอกันในสนามรบก็คงจะคุยกันได้มากกว่านี้ แต่นี่ไม่ใช่เวลาอย่างนั้น
“ในฐานะดัชเชสและเจ้าของที่ดินผืนนี้ ข้าขอสั่งให้เจ้าถอยไป”
“ขอปฏิเสธ” แฟนธอมตอบทันควัน “ข้ามิได้มาที่นี่ในฐานะคนส่งสารขององค์ราชินี แต่เป็นในฐานะผู้คุ้มกันหลุยส์ ฟรังซัวร์แทนอสูรรับใช้ที่ไม่อาจมาได้”
“เด็กที่ต้องพึ่งพาคนอื่นถึงขนาดนี้ การที่ดื้อด้านออกไปเสี่ยงอันตรายในที่ไกลหูไกลตาครอบครัวก็ถือว่าสมควรถูกลงโทษแล้ว” คารินกล่าวอย่างหนักแน่น เสียงก้องเข้าไปถึงในใจของเด็กสาวที่คุกเข่าอยู่กับพื้น
‘เอ็กซ์กำลังทุกข์ทรมานอยู่ที่ปราสาท มาช่วยเราไม่ได้ นี่ไม่ใช่เวลา...จะมาอ่อนแอนะ!’ เธอบอกตัวเองอย่างนั้นและค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
‘แค่ต้องโชว์ชั้นในตัวสองตัวจะไปอายอะไรนักหนา เอ็กซ์...รออยู่ ฉันต้องรีบกลับไป’
เด็กสาวดันคนส่งสารหนุ่มให้ถอยออกไปและเผชิญหน้ากับอดีตหัวหน้าฝูงบินแมนติคอร์ อัศวินร่างบางประหลาดใจกับความกล้าที่ไม่รู้ว่ามีในตัวลูกสาว
“ท่านแม่อยากจะลงโทษหนูซักเท่าไหร่หนูก็จะไม่ขัด แต่ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก หนูก็จะไปอีกอยู่ดี” เด็กสาวกล่าวกับแม่ที่นิ่งฟัง
“หนูมีพลัง หนูปกป้องคนอื่นได้ ถ้าคนที่หนูรักตกอยู่ในอันตรายอีก หนูจะไม่อยู่เฉยๆ แน่!”
คารินเห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้ทดสอบอะไรบางอย่าง จึงยื่นคำขาดกับลูกสาว
“พลังเหรอ? ถ้างั้นก็ลองแสดงให้แม่ดูหน่อยซิ!”
หลุยส์ดึงคทาออกมาและรวบรวมสมาธิ เธอจะพิสูจน์ตัวเองให้แม่เห็น ว่าลูกสาวคนนี้ได้เติบโตออกจากกรงทองที่แม่สร้างไว้ปกป้องเธอแล้ว เธอจะกางปีกบินออกไป
ปราสาททริสเทเนีย ทางเดิน
อัศวินหญิงถอนหายใจ ทันทีที่เธอกลับมาถึงปราสาทเมื่อค่ำวานซืน หน้าที่ก็ประดังกันเข้ามาจนไม่มีเวลาได้หยุดพัก ทั้งต้องตอบคำถามนู่นนี่นั่น เขียนรายงานนู่นนี่นั่น แล้วยังเอกสารคั่งค้างในช่วงที่เธอไม่อยู่อีก กว่าเธอจะได้ปลีกตัวออกมาก็เมื่อกี้นี้
‘ง่วง...ง่วง...ฉันอยากนอน...’ เป็นความคิดเดียวที่แล่นอยู่ในหัวเธอขณะที่ล่องลอย(?)ผ่านทางเดินที่รู้สึกว่ามันช่างยาวไกลเหลือเกิน
ผ่านมาถึงหน้าห้องห้องหนึ่ง เธอหยุด จำได้ว่าเป็นห้องที่เรปลิลอยด์หนุ่มถูกพามา เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งระหว่างความเหมาะสม ความอาย และความง่วง ซึ่ง—สำหรับคนอดนอนมาสองวันติด—ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความง่วงชนะขาดลอย
‘โซฟาก็ยังดี ขอฉันซักงีบเถอะ’ อาเนียสคิดขณะเค้นเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดหมุนลูกบิดเข้าไปด้านใน
และเจอเข้ากับห้องที่ว่างเปล่า
“หือ?” จริงๆ ก็ไม่ได้ว่างเปล่าอะไรหรอก เพียงแต่บนเตียงหลังใหญ่ไม่มีสิ่งที่ควรจะมีอยู่ คนทั้งคน
“เข้าผิดห้องเหรอ?”
เพราะความง่วงทำให้เธอไม่ทันสังเกตบานหน้าต่างที่เปิดกว้างและผ้าม่านที่ปลิวตามแรงลมที่พัดเข้ามา ดาบเหล็กพิงอยู่ข้างผนังเงียบไม่พูดไม่จา
คฤหาสน์ลา วาลิเอล
โอเค บางทีการกางปีกบินออกไปอาจจะเกินกำลังเธอมากไปหน่อย ต่อหน้าสายลมมรณะนี้
หลุยส์ยืนตัวชา มองดูพายุหมุนลูกใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดจากปลายคทาอันกระจ้อยร่อย ถึงจะบอกว่าคนร่ายเป็นระดับสแควร์ก็เถอะ นี่มันเกินไป
“นี่น่ะเหรอ...’พายุยักษ์’...” เธอเพิ่งจะได้เห็นเป็นครั้งแรก ยามที่แม่ของเธอเอาจริง
คิดว่าแม่ไม่มีทางเอาจริงกับลูกได้? งั้นดูสภาพต้นไม้รอบๆ ที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ เหมือนกับถูกใบเลื่อยนับสิบเถือผ่านนั่นแล้วลองคิดใหม่ พายุลูกใหญ่ที่บดบังแม้กระทั่งแสงอาทิตย์
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ต่อหน้าพลังอันยิ่งใหญ่นี้ เธอคงติดอยู่ระหว่างความสิ้นหวังกับศักดิ์ศรี ยืนนิ่งทำอะไรไม่ได้จนกระทั่งถูกกลืนหายไป แต่เธอในตอนนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เธอมีพลัง พลังที่เธอสร้างด้วยตัวเอง มีความมั่นใจ ความมั่นใจที่เธอได้มาจากเขา
ไม่เกรงกลัวต่อพายุใบมีดที่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามา เธอยกคทาขึ้นระดับหน้าอกและหลับตาลงร่ายคาถา
ดัชเชสลา วาลิเอลไม่เคยได้ยินคำร่ายแบบนี้มาก่อน ทั้งความยาว ทั้งเนื้อหาที่ไม่ได้กล่าวถึงธาตุใดๆ ในสี่ธาตุ เธอรู้สึกฉงนสนเท่ห์ว่าเวทย์มนต์แบบไหนกันที่ลูกสาวของเธอจะใช้พิสูจน์ตัวเอง
หลุยส์ชูคทาขึ้นสูง ลำแสงจางๆ ส่องจากท้องฟ้าลงมาที่ใจกลางพายุอันบ้าคลั่ง
“ดิสเปล!!”
สายฟ้าแห่งความว่างเปล่าฟาดลงมายังพื้นดิน ปฐพีสั่นสะเทือนพร้อมกับที่พายุอันทรงพลังค่อยๆ สลายตัว
แสงอาทิตย์ที่ไร้สิ่งบดบังสาดส่องต้องตัวเด็กสาวผมสีชมพูที่ยืนหายใจหอบ เนื้อตัวสั่นระริก เธอทรุดลงกับพื้น เรี่ยวแรงที่เกิดขึ้นเพราะเลือดฉีดพล่านในสถานการณ์เป็นตายหมดไปพร้อมกับที่อันตรายสงบลง
เด็กหนุ่มผมเทาก้มลงประคองเด็กสาว เงยหน้าขึ้นมองอัศวินร่างบางที่ช็อกกับเหตุการณ์ที่เหนือจินตนาการ ลูกสาวคนเล็กที่ไม่เคยร่ายมนต์ได้สำเร็จให้เธอเห็นแม้แต่ครั้งเดียว หยุดเวทย์มนต์ที่เธอภาคภูมิใจได้อย่างง่ายดายราวกับของเด็กเล่น
แฟนธอมเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาว เขาเองก็เคยมีความรู้สึกแบบเดียวกันนี้ ตอนที่เขาและเหล่าจตุรเทพอันเกรียงไกรถูกโค่นลงทีละคนทีละคนโดยนักรบผู้ถูกลืมเลือนเพียงคนเดียว แต่เท่านี้สองแม่ลูกก็คงสามารถคุยกันด้วยเหตุผลในระดับที่เท่าเทียมกันได้แล้ว
ทุกอย่างดูจะจบลงด้วยดี ถ้าไม่เพราะหลุยส์เหลือบไปเห็นเงาบนพื้นเข้า และแหงนหน้ามองหาตัวต้นของเงานั้น จนกระทั่งพบร่างหนึ่งลอยอยู่บนฟ้า
“เอ็กซ์!” เธอเรียกชื่อคนคนนั้น อยากจะถามว่าเขาสบายดีแล้วเหรอถึงมาอยู่ที่นี่ ทว่ากระสุนพลาสมาเพียงนัดเดียวทำให้เธอหยุดพูด มันตรงมาที่เธอ
แฟนธอมไหวตัวทัน พาหลุยส์ออกจากวิถีกระสุนและไปที่หญิงสาวซึ่งยืนรออยู่ ผู้เป็นแม่ดึงลูกให้ไปหลบอยู่ข้างหลัง
แฟนธอมจ้องเขม็งขณะที่ร่างบนฟ้าค่อยๆ ลดระดับลงยืนกับพื้น อดีตองครักษ์เงาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อร่างนั้นเป็นนักรบในชุดเกราะสีฟ้า ดวงตาสีเขียวมรกตฉายแววอำมหิตอย่างที่ไม่ควรจะมีอยู่บนใบหน้าที่เคยอ่อนโยนนั้น
“เอ็กซ์! ทำไมล่ะ!?” หลุยส์เองก็ช็อกจนทำได้แค่ถามคำถามที่คลุมเครือ
นักรบสีฟ้าหัวเราะในลำคอ “เอ็กซ์? ใช่ ชื่อของข้าคือเอ็กซ์ และเป็นชื่อของผู้ที่จะส่งพวกเจ้าไปลงนรก”
ร่างสีฟ้าชูแขนที่เปลี่ยนเป็นอาวุธสังหารไปข้างหน้า เล็งไปที่เรปลิลอยด์เงาและมนุษย์สองคนโดยปราศจากแม้เศษเสี้ยวของความลังเล
...
ภายในร่างกายที่ถูกแย่งชิงนี้ จิตใจของเจ้าของเดิมเสมือนถูกขังอยู่ในห้องอันมืดมิดที่ไร้ทางออก และมีเพียงจอภาพกับลำโพงที่ฉายภาพและเสียงที่รับรู้ผ่านทางประสาทที่เคยเป็นของเขา
“หลุยส์! แฟนธอม!” ถึงจะเปล่งเสียงเรียกเพียงใดทั้งสองก็ไม่มีทางได้ยินตัวตนที่กำลังจะหายไปอย่างเขา
(เอ้า จนมุมแล้วนะ ร่างกายนี้เป็นของข้าไปกว่า 99% แล้ว เหลือแค่จิตใต้สำนึกแกในเศษข้อมูลเล็กกระจ้อยร่อยที่ไร้ความสำคัญ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด แต่ก่อนที่ข้าจะลบแกออกไปจากโลกใบนี้อย่างถาวร ข้าจะให้แกได้เห็นถึงความไร้พลังของตัวเอง ด้วยมนุษย์ที่แกรักมากที่สุดนี้ไง)
พร้อมๆ กับที่เสียงภายในดังก้อง ภาพตรงหน้าก็ฉายให้เห็นว่าร่างนี้กำลังขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และการตอบโต้ของอดีตองครักษ์เงา
...
“แกเป็นตัวอะไรกัน!?” คารินคำราม เวทย์พายุหมุนใบมีดของเธอ แม้จะลดขนาดลงแค่เท่าตัวคน ก็ไม่น่าจะไร้ผลโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้ง เธอลองไปหลายครั้งแล้ว แต่ร่างสีน้ำเงินกลับยืนนิ่งราวกับไม่ได้รับรู้ถึงความพยายามของเธอแม้แต่น้อย
“เอ็กซ์เป็นอะไรไป?!” หลุยส์รู้สึกหวาดกลัว เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรปลิลอยด์หนุ่ม ได้แต่ร้องเรียกจากข้างหลังแม่ของเธอกับอดีตองครักษ์เงา
“ดูเหมือนว่าร่างของมาสเตอร์เอ็กซ์จะถูกควบคุมโดยใครบางคน หรืออาจเป็นไปได้ว่าใครที่ว่านั่นยึดครองร่างของมาสเตอร์เอ็กซ์เป็นของตัวเอง” แฟนธอมให้คำอธิบายที่เข้าเค้าที่สุด
“ม—ไม่จริงใช่มั้ย...” หลุยส์กำชายเสื้อแน่น กับใครก็ได้ที่ไม่ใช่เอ็กซ์ เธอไม่อยากเป็นศัตรูกับเขา
แฟนธอมรู้ว่ายืนอยู่ตรงนี้ต่อไปก็ไม่ได้อะไรจึงตัดสินใจกลับคืนสู่สภาพเรปลิลอยด์และชิงลงมือก่อน
เรปลิลอยด์เงาสร้างร่างปลอมขึ้นสามร่าง รวมกับตัวเองเป็นสี่ ทั้งหมดบ้างพุ่งบ้างกระโดดเข้าหาร่างสีฟ้าที่เดินเข้ามา
การเคลื่อนไหวของเขานับว่ายอดเยี่ยมที่สุดหาผู้เทียบเคียงได้ยาก รวมกับร่างปลอมที่เคลื่อนไหวได้เหมือนกับตัวจริงทุกประการ เป็นไปไม่ได้ที่จะตอบโต้กลับด้วยอาวุธระยะไกลอย่างบัสเตอร์ ทว่านักรบสีฟ้ากลับแสยะยิ้มอย่างบันเทิงใจ
“กำลังอยากทดสอบความสามารถของร่างนี้อยู่พอดี ขอบคุณที่เข้ามาเป็นหนูลองยา”
เปิดใช้งานระบบวาเรียเบิ้ลเวพอน
เอมมิ่งเลเซอร์ (X - X4)
แสงเลเซอร์สีม่วงยิงออกจากปากกระบอกตรงเข้าหาร่างทั้งสี่ของเรปลิลอยด์เงาอย่างแม่นยำราวกับล็อกเป้าหมายเอาไว้ล่วงหน้า สามร่างหายไปขณะที่ร่างหนึ่งล้มลงกับพื้น ผิวที่ช่วงท้องหลอมละลายจากรังสีที่เข้มข้น
“อึก! บ้าน่ะ...” เขาไม่เคยเห็นก็อปปี้เอ็กซ์ใช้อาวุธอย่างนี้มาก่อนในช่วงเวลาที่เขารับใช้ในฐานะจตุรเทพ หมายความว่า
นี่เป็นเอ็กซ์ตัวจริงอย่างไม่ต้องสงสัย
“สุดยอดจริงๆ นี่สินะพลังของร็อคแมนเอ็กซ์ ถ้าตอนนั้นเราไม่มีเคาน์เตอร์อยู่คงแพ้ไม่เป็นท่าไปแล้ว” นักรบสีฟ้ายิ้มอย่างพอใจ
ภายในห้องมืด เอ็กซ์ยืนช็อกกับความพ่ายแพ้ของแฟนธอม ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ก็อปปี้สามารถใช้ความสามารถในร่างกายของเขาได้เต็มร้อย ได้ดีเหมือนกับเจ้าของร่าง...หรือบางทีนี่อาจไม่ใช่ร่างของเขาอีกแล้ว
(เห็นแล้วสินะ ในโลกใบนี้ไม่มีใครที่จะมาหยุดข้าได้อีกต่อไป ข้าจะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้กลายเป็นสรวงสวรรค์ของเรปลิลอยด์ ดังที่ ‘ท่านผู้นั้น’ กล่าว)
‘ ‘ท่านผู้นั้น’ เหรอ?’ เอ็กซ์สงสัยว่าก็อปปี้พูดถึงใคร แต่เสียงภายนอกก็ขัดจังหวะความคิดของเขา
...
บรรยากาศรอบตัวของนักรบสีฟ้าตลบอบอวลไปด้วยไอสังหาร หลุยส์พร่ำเสียงร้องเรียกชื่อของคนที่ไม่อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว
“เอ็กซ์! รู้สึกตัวซะทีสิ! นายจะยอมแพ้ไม่ได้นะ!” เธอเชื่อว่าเสียงของตัวเองจะส่งไปถึงเขา
“แก! คืนเอ็กซ์มาเดี๋ยวนี้นะ!” หลุยส์คำรามใส่ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใครอยู่ที่ไหนก็ตาม
แต่ร่างสีน้ำเงินก็ไม่สะทกสะท้าน ยังคงรอยยิ้มอำมหิตราวกับไม่ได้ยินคำก่นด่าสาปแช่งเลยแม้แต่น้อย
...
(เอาล่ะ ทีนี้ก็ถึงเวลาบดขยี้แกซะที 1% ที่เหลืออยู่ของแกกำลังจะหายไป ลาก่อน วีรบุรุษผู้ไร้นาม)
ภายนอกเขามองเห็นใบหน้าอันหวาดกลัวของหลุยส์ขณะที่ปากบัสเตอร์ส่องแสง
ห้องมืดที่เขาอยู่ค่อยๆ สลายไปในความว่างเปล่า พื้นที่ดูจะยืดเหยียดออกไปสุดสายตาบัดนี้สั้นลงจนเขาต้องถอยกลับไป แน่นอนว่าด้านหลังเองก็กำลังไล่เข้ามา จนในที่สุดก็เหลือแต่เพียงพื้นที่เล็กๆ ให้เขายืน ราวกับเป็นการเยาะเย้ยครั้งสุดท้ายจากก็อปปี้
(หือ? นี่มันอะไร? ข้อมูลแปลกปลอมในตัวของแกนี่?)
เอ็กซ์ไม่เข้าใจว่าก็อปปี้พูดถึงอะไร จนกระทั่งด้านหลังเขามีอะไรบางอย่างลอยขึ้นมาจากเหวไร้ก้น วัตถุทรงรีสีขาวส่องแสงอยู่ตรงหน้าของเขา เอ็กซ์จำได้ว่านี่มันคือ...
“ของขวัญ...ของขวัญจากด็อกเตอร์ไลท์...”
(ว่าไงนะ!!)
แม้จะไม่รู้ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า แต่ถ้าหากมีโอกาสแม้เพียงน้อยนิด เขาก็ยินดีที่จะคว้าไว้ มือขวายื่นออกไปสัมผัสกับวัตถุปริศนา มันเปล่งแสงสว่างจ้าจนเขาต้องหลับตา
(อะไรกัน! ข้า...กำลังถูกลบงั้นเหรอ!?)
เสียงร้องแห่งความหวาดกลัวของก็อปปี้ดังกึกก้องเมื่อรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น
“อ๊ากกกกกก~!!”
แฟนธอมคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่กับพื้น คารินยืนบังหลุยส์ ทั้งสามมองอย่างประหลาดใจ เรปลิลอยด์สีฟ้าจู่ๆ ก็ร้องขึ้นมา บัสเตอร์กลับสภาพเป็นมือและยกขึ้นกุมหัว สะบัดตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“แก! แก!! อีกนิดเดียวแท้ๆ! นี่แกจะทิ้ง...กระทั่งความเป็นตัวเองไปเชียวเหรอ!? เสียสละขนาดนี้...เพียงเพื่อมนุษย์กระจ้อยร่อย! ไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ!!~”
ร่างสีฟ้าเปล่งแสง การเคลื่อนไหวค่อยๆ สงบลง ในตอนนั้นอนุภาคเล็กๆ ที่แฟนธอมเห็นว่าเป็นข้อมูลก็ค่อยๆ ไหลออกจากร่างของเรปลิลอยด์หนุ่มพร้อมๆ กับที่ร่างนั้นเกิดความเปลี่ยนแปลง
ข้อมูลที่ไหลออกมาวนรวมตัวกันที่ภายนอก ขณะที่ร่างของนักรบสีฟ้าเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม หมวกกลมกลายเป็นเส้นผมสีน้ำเงินคราม ผิวที่เป็นยางสังเคราะห์สีดำเปลี่ยนเป็นผิวละเอียดสีเนื้อ ชุดเกราะสีน้ำเงินถูกแทนที่ด้วยเสื้อผ้าเหมือนอย่างมนุษย์
แสงดับลง ร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามล้มฟุบลงกับพื้น วัตถุปริศนาทรงหกเหลี่ยมสีฟ้าที่มีคริสตัลสีแดงอยู่ตรงกลางหล่นลงใกล้ๆ กัน
...
แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องติดกับเชิงผาของพระราชวังอัลฮัมบรา พระราชาแห่งกาเลียนั่งอยู่ที่โต๊ะหินสีขาวริมระเบียงมองแสงไฟที่สว่างไสวของบ้านเรือนใต้หน้าผา
“เกิดอะไรขึ้น?” โจเซฟถามที่ปรึกษาที่ยืนหลบอยู่ในเงา
“คนของข้าพลาดท่า แผนชิงตัวกันดาล์ฟล้มเหลวครับ” เสียงชายชรารายงานถึงความล้มเหลวด้วยอาการสงบ ปราศจากความร้อนรนหรือประหลาดใจ
“ก็ดีเหมือนกัน ไม่งั้นคงน่าเบื่อแย่”
“ข้าเองก็คิดเช่นเดียวกันกับท่าน ถ้ามันตายสบายแบบนั้นก็คงไม่สาแก่ใจข้า” ชายชราแสยะยิ้มชั่วร้ายอยู่ในความมืด
--
DX:”เอ่อ...อะไรล่ะนั่น? ไม่รู้เรื่องเลยซักกะติ๊ด?”
S:”ฉันก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรแต่แรกอยู่แล้ว”
R:”เหนือล้ำจินตนาการพวกแกไปมากเลยใช่มะล่ะ แต่นี่เป็นแผนที่ฉันวางไว้เป็นชาติแล้ว ดูจากที่ด็อกเตอร์ไลท์โผล่ตั้งแต่กลางซีซั่นสอง(ตอนไปบ้านหลุยส์)ก็จะรู้ เดี๋ยวตอนหน้าจะเฉลย เซอร์ไพรส์ เซอร์ไพรส์!”
ความคิดเห็น